จับตามอง สงคราม"นิวเคลียร์" โรงงานพลังงาน "นิวเคลียร์" การรั่วไหลของกัมมันตรังสี

<table class="news2006_topic" width="595" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td width="585" height="10"><table class="news2006_topic" width="100%" border="0"><tbody><tr><td valign="bottom" align="left">ไต้หวันระบุจีนติดตั้งขีปนาวุธใหม่เล็งเป้าโจมตีไต้หวัน

</td> <td width="100" align="right">
</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td></td> </tr> <tr> <td class="news2006_graylight" height="10">โดย กรมประชาสัมพันธ์ <script language="JavaScript" src="http://news.sanook.com/global_js/global_function.js"></script><!--START-->วัน พุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 21:52 น.</td> </tr> </tbody></table> <table width="595" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td height="10">
</td> </tr> </tbody></table> <table class="news2006_black" width="595" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td rowspan="6" width="10">
</td> <td width="575"><!--img001:m:r-->- หนังสือพิมพ์ไชน่า ไทมส์ ของไต้หวันรายงานวันนี้ว่า กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนได้เคลื่อนย้ายขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ เอส300 ทำในรัสเซียออกจากฐานยิงหลายแห่งบริเวณชายฝั่งทางด้านตะวันออกเฉียงใต้เมื่อ เร็ว ๆนี้ และได้ติดตั้งขีปนาวุธรุ่นใหม่ที่มีความทันสมัยยิ่งขึ้นและเล็งเป้าไปที่ ไต้หวันแทน อย่างไรก็ตามกระทรวงกลาโหมไต้หวันปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใด ๆเกี่ยวกับรายงานข่าวนี้ ซึ่งมีขึ้นในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวันดีขึ้น และทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะเริ่มเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงในวันศุกร์นี้ หลังสั่งห้ามมานานเกือบ 60 ปี.</td></tr></tbody></table>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อิหร่านยิงทดลอง “ชาฮับ-3” ท่ามกลางกระแสตึงเครียดโครงการนุก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>9 กรกฎาคม 2551 12:35 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ขีปนาวุธชาฮับ-3 ซึ่งถูกยิงทดลองเมื่อปี 2006</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี – สถานีโทรทัศน์ อัล อะลัม ภาษาอาหรับรายงาน กองทัพปฏิวัติอิหร่านทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกล ชาฮับ 3 ซึ่งมีสมรรถนะยิงไกลเกือบถึงอิสราเอล

สถานีโทรทัศน์ดังกล่าว รายงานว่า มีการยิงทดลองขีปนาวุธ ชาฮับ 3 พร้อมหัวรบหนัก 1 ตัน ในพิสัย 2,000 กิโลเมตร รวมถึงขีปนาวุธอื่นๆ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่ความตึงเครียดเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านทวีความรุนแรง

“เป้าหมายของเกมสงครามนี้ เพื่อแสดงว่าเราพร้อมป้องกันความมั่นคงของชาติอิหร่าน” ฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองทัพอากาศของกองทัพปฏิวัติกล่าว

เขายังเสริมว่า ขีปนาวุธของอิหร่านพร้อมยิงทุกที่ทุกเมื่อ ด้วยความรวดเร็ว และแม่นยำ หากศัตรูของอิหร่านคิดจะโจมตีประเทศ

ขณะที่ สถานีโทรทัศน์เพรส-ทีวี ภาคภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นของรัฐ รายงานว่า มีขีปนาวุธทั้งหมด 9 ลูกในการยิงทดลองครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธเซลซัล พิสัยยิง 400 กิโลเมตร และฟาเตะห์ พิสัยยิงราว 170 กิโลเมตรด้วย

นอกจากนั้น เพรส-ทีวี ยังแสดงภาพการยิงขีปนาวุธชาฮับ-3 ขึ้นไปบนฟ้า ในทะเลทรายของอิหร่าน ซึ่งไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นที่ใด

ด้าน สหรัฐฯ โดยทำเนียบขาวออกมาประณามการยิงทดลองขีปนาวุธของอิหร่านแล้ว พร้อมขู่เตือนให้อิหร่านสละโครงการนุกทันที

"การพัฒนาขีปนาวุธของอิหร่านเป็นการละเมิดกฎของคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ และขัดกับข้อบังคับของโลก" กอร์ดอน จอห์นโดร โฆษทำเนียบขาวระบุ

ทั้งนี้ อิหร่านยืนยันโดยเสมอมาว่าข้อกล่าวของชาติตะวันตกที่ระบุว่าเตหะรานกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์นั้นไม่เป็นความจริง และโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมนั้นเป็นไปเพื่อสร้างพลังงานให้เพียงพออุปโภคในประเทศเท่านั้น
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

Event: Nuclear Event
Location: Japan Prefecture of Kanagawa Global Nuclear Fuel - Japan Co. Yokosuka

Situation

A small amount of uranium powder escaped from a machine at a Japanese nuclear fuel plant near Tokyo, slightly exposing a worker to radiation, the plant operator said Thursday. There was no health threat to the worker and the spill from Wednesday's incident was contained inside the plant in Yokosuka, about 30 miles southwest of Tokyo, according to Global Nuclear Fuel-Japan Co. The accident occurred when a uranium pressing unit was started up without a cap that had been removed for an inspection, the company said. It said the plant resumed operations after workers wiped up the spilled uranium on and around the equipment. The company, a joint venture among General Electric Co., Toshiba Corp. and Hitachi Ltd., produces uranium pellets for Japanese nuclear power plants. Resource-poor Japan relies on nuclear plants for a third of its energy needs and plans to raise that to nearly 40 percent by 2010.

Number of Injured persons: 1 persons

 

โสมแดงยอมปิดโรงงานนิวเคลียร์ภายในเดือนตุลาคมนี้ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">12 กรกฎาคม 2551 17:50 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> <table align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5"></td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="300"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">สถานที่ตั้งโรงงานนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือที่ยงบยอน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เอเจนซี – เกาหลีเหนือรับรองในวันนี้ (12) ว่าจะดำเนินการปิดโรงงานนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ในโต๊ะเจรจา 6 ฝ่ายที่มีเป้าหมายปลดอาวุธนิวเคลียร์เปียงยาง แลกกับความช่วยเหลือ และความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีขึ้น

แถลงการณ์ร่วม ที่ออกมาหลังสิ้นสุดการเจรจาเป็นเวลา 3 วันเผยว่า เกาหลีเหนือจะได้รับน้ำมันเชื้อเพลิง 1 ล้านตัน ในวันเดียวกับที่ให้สัญญาไว้ในข้อตกลงปลดอาวุธกับเกาหลีใต้ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น รัสเซีย และจีน

“เกาหลีเหนือจะดำเนินการเพื่อปิดโรงงานนิวเคลียร์ที่ยงบยอนให้สำเร็จภายในสิ้นเดือนตุลาคมปี 2008 นี้” แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ

อย่างไรก็ตาม ทูตจากนานาประเทศยังไม่สามารถตกลงโครงร่างเพื่อพิสูจน์รายงานเกี่ยวกับกิจกรรมนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในเดือนที่ผ่านมาได้ ทว่า ได้มอบอำนาจให้กลุ่มตัวแทนร่างพิธีสารลงรายละเอียดเกี่ยวกับโรงงานนิวเคลียร์ต่างๆ ในการเดินทางเข้าเยี่ยมชม เพื่อการตรวจสอบ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

“พิธีสารดังกล่าวมีความซับซ้อนมากๆ แต่ไม่ได้เพียงระบุว่าผู้ตรวจสอบจะมีสิทธิ์เยี่ยมชมสถานที่โรงงานนิวเคลียร์เพียงเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกถึงสิ่งที่พวกเขาสามารถทำเมื่อไปเยือนสถานที่ดังกล่าวอีกด้วย” คริสโตเฟอร์ ฮิลล์ หัวหน้าทูตสหรัฐฯ กล่าว

การเจรจา 6 ฝ่าย ที่มีเป้าหมายเพื่อชักจูงให้เกาหลีเหนือสละโครงการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน และมีขึ้นหลังจากเปียงยางแสดงรายการของกิจกรรมนิวเคลียร์ในเดือนที่ผ่านมา เป็นความคืบหน้าอีกหนึ่งก้าว ภายใต้ข้อตกลง

 

Situation Update No. 8
On 2008-08-13 at 14:21:20 [UTC]
Event: Complex Emergency
Location: Georgia South Ossetia
Situation
Russian troops and paramilitaries thrust deep into Georgia on Wednesday, rolling into the strategic city of Gori and violating the truce designed to end the six-day war that has uprooted 100,000 people and scarred the Georgian landscape. Georgian officials said Gori was looted and bombed by the Russians, who denied the claim. An AP reporter later saw dozens of tanks and military vehicles leaving the city, roaring southeast. Troops waved at journalists and one soldier shouted to a photographer: "Come with us, beauty, we're going to Tbilisi!" But the convoy turned north, left the highway about a hour's drive from the Georgian capital and started setting up camp. To the west, Abkahzian separatist forces backed by Russian military might pushed out Georgian troops and even moved into Georgian territory, defiantly planting a flag. "The border has been along this river for 1,000 years," separatist official Ruslan Kishmaria told AP on Wednesday. He said Georgia would have to accept the new border and taunted the retreating Georgian forces, saying they had received "American training in running away." The developments came less than 12 hours after Georgia's president said he accepted a cease-fire plan brokered by France that called for both sides to retreat to their original positions. Russian President Dmitry Medvedev said Tuesday that Russia was halting military action because Georgia had paid enough for its attack last Thursday on South Ossetia. Georgia's President Mikhail Saakashvili said the Western response has been inadequate. "I feel that they are partly to blame," he said. "Not only those who commit atrocities are responsible ... but so are those who fail to react."
Saakashvili gambled on a surprise attack late Thursday to regain control over South Ossetia. Instead, Georgia - a former Soviet state and current U.S. ally that wants to join NATO - suffered a punishing beating from Russian tanks and aircraft that has left the country with even less control over territory than before. About 50 Russian tanks entered Gori on Wednesday morning, according to a top Georgian official, Alexander Lomaia. The city of 50,000 sits on Georgia's only significant east-west road about 15 miles south of South Ossetia, a separatist province where much of the fighting has taken place. Russia's deputy chief of General Staff Col.-Gen. Anatoly Nogovitsyn insisted Wednesday that no tanks were in Gori. He said Russians went into the city to implement the truce with local Georgian officials but could not find any. A Russian government official who wasn't authorized to give his name said that Russian troops checked a Georgian military base near Gori and found a lot of abandoned weapons and ammunition. Russian troops moved to take the supplies to a safe place as part of effort to demilitarize the area and protect civilians. Nogovitsyn also said sporadic clashes continued in South Ossetia where Georgian snipers fired sporadically on Russian troops who returned fire. "We must respond to provocations," he said.
Number of Deads: 2000 persons

 

2008-08-13 11:34:02 - Complex Emergency - Philippines
EDIS CODE: -20080813-18043-PHL
Date & Time: 2008-08-13 11:34:02 [UTC]
Area: Philippines, Province of Cotabato, Province-wide,
!!! ALERT !!!
Description:
At least 130,000 villagers in the southern island of Mindanao have been displaced in fresh fighting as troops struggle to flush out a band of Islamic separatist rebels who illegally occupied 22 villages in the province of Cotabato after a land deal was aborted by the Supreme Court last week, officials said. Army troops, using 105mm Howitzer artillery, pounded rebel positions while at least two MG 520 attack helicopters dropped rockets in a marshland area where Moro Islamic Liberation Front (MILF) rebels have entrenched themselves, putting up a flag and rejecting repeated demands to vacate. Lieutenant General Cardoso Luna, who heads the military taskforce going after the rebels, said troops were prepared for a "drawn-out war". Luna said: "They have defied the orders to vacate, so we have decided to enforce the law and drive them out, and if they resist, to neutralise them." As of 12 August, the government reported that the rebels had begun withdrawing from some villages but still held most of them and fighting was continuing.
Trouble began last week when the Supreme Court stopped the government from signing a deal with the MILF giving them free reign over vast swathes of land in the central Philippines that they consider "ancestral domain". The deal would have given the MILF power over the economy and administration of an expanded Muslim autonomous region and paved the way for a political settlement to end the 30-year insurgency, which has seen some 12,000 MILF rebels battling government forces. The proposed deal triggered massive street protests in predominantly Christian towns in the south, forcing the Supreme Court to order an injunction until it is further examined and its merits defended in court by government peace negotiators. A band of about 1,500 renegade MILF fighters took over 22 villages in five towns in Cotabato, which would have been included in the deal. They attacked government positions and defied orders from their leaders to leave, forcing the government to launch its biggest offensive since the ceasefire accord was signed five years ago.
The National Disaster Coordinating Council (NDCC) said 130,000 people had been displaced, taking refuge in schools converted into evacuation centres. If left unchecked, relief agencies said, the problem could become a humanitarian crisis with people desperate for food and children exposed to poor sanitation. The NDCC said six soldiers had been wounded, while both sides sustained one death each as running gun battles and artillery fire continued. Some 83 houses have been destroyed or burned and rice fields abandoned. The UN World Food Programme (WFP) delivered about 200 sacks of rice to evacuation centres, but the NDCC said it was appealing for as many as 80,000 sacks. It needs tarpaulins, medical supplies, mats, sleeping bags, hygiene sets and portable toilets.
Almost all the 6,000 residents of Tacepan, one of the occupied towns, have sought shelter in a crowded school. Water supplies are low and latrines are close to overflowing. Food is scarce and the evacuees have to share space with their cattle and other farm animals. Imelda Balios, a local social welfare officer, said urgent appeals have been made to the government to send supplies to avert a bigger humanitarian crisis. "Their lives are already at a standstill. Classes have been suspended, livelihoods abandoned and their lives in danger," Balios said. "This is the first time in years we've had a big evacuation, you can see that even the farm animals have been evacuated and we don't know where to put them." Balios had taken cover in an abandoned building with dozens of others after they were caught in crossfire. "The bullets were landing near where we were hiding," she said. "It's frightening, and sooner or later the bullets will hit those trying to escape."
The evacuation centre is only about 400m away from the nearest battle-front, and occasional thuds followed by massive explosions indicate mortar fire from both sides. Officials fear evacuees could be hit. "We had to leave, we couldn't stay in our house. But I don't think it is safe where we're now staying," said Lele Unto, as she herded her five young children past a group of soldiers into the centre. "I am afraid for my children."

Damage level: Serious (Level 4)

 

Event: Terror Attack
Location: Lebanon Liban-Nord Masarif Street Tripoli
Situation
A bomb ripped through a bus carrying civilians and members of the military during Wednesday morning rush hour in the northern Lebanese city of Tripoli, killing 18 people and wounding 40, security officials said. The officials said the dead included 10 off-duty soldiers. The bomb was planted on the side of a main street and went off as the bus passed by. The streets were filled with people heading to work, which contributed to the many casualties, the officials said. The military had no immediate comment. The security officials spoke on condition of anonymity because they were not authorized to speak to the media. The blast raised suspicions that al-Qaida-inspired Islamic militants may have sought revenge on the military for its assault last year on the nearby Palestinian refugee camp of Nahr el-Bared, a one-time bastion of the Fatah Islam group. The monthslong battle killed hundreds and eventually drove out Fatah Islam. But some local media speculated Wednesday's blast may be aimed at undermining a visit later in the day by the Lebanese president to Syria to patch up stormy relations between the neighbors. Shattered glass littered Banks Street in Tripoli's center, as soldiers and policemen cordoned off the area to keep onlookers away and to investigate. The small public bus, which had been bringing passengers from the remote northernmost Akkar region, home to many military members, was riddled with shrapnel. Soldiers used sniffer dogs to search nearby parked car, as forensic experts in white uniforms, face masks and gloves sifted through the wreckage of the bus picking up evidence. Tripoli, 90 kilometers (53 miles) on the Mediterranean coast north of Beirut, is Lebanon's second-largest city with a mostly Sunni Muslim population, dominated by groups loyal to the Western-backed parliament majority.

Number of Deads: 18 persons
Number of Injured persons: 40 persons

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แฉรัสเซียส่งขีปนาวุธไปเซาท์ออสซีเชียข่มขู่จอร์เจีย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>18 สิงหาคม 2551 11:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กองทหารรัสเซียซึ่งเคลื่อนขบวนอยู่ในเมืองกอรี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี – หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ เผย รัสเซียส่งขีปนาวุธกล เอสเอส-21 และจัดเตรียมยานพาหนะให้กับแคว้นเซาท์ ออสซีเชีย ทำให้ในเมืองหลวงของจอร์เจียตกอยู่ในระยะการถูกโจมตี

หนังสือพิมพ์ดังกล่าวอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ผู้ใกล้ชิดกับหน่วยข่าวกรองว่า ฐานปล่อยขีปนาวุธถูกติดตั้งในเมืองทซฮินวาลี เมืองหลวงของแคว้นเซาท์ ออสซีเชียแล้ว ขณะที่ กองกำลังของรัสเซียเคลื่อนพลไปตามถนนจากทบิลิซีไปยังกอรี ซึ่งผ่านจุดตรวจอิโกติ ที่ห่างจากเมืองหลวงไปเพียง 30 กิโลเมตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เห็นขบวนพาหนะของรัสเซีย ซึ่งมีรถถัง 25 คัน และรถบรรทุกทหารติดอาวุธอีก 25 ลำ จอดอยู่นอกเมืองกอรี โดยได้รับการบอกกล่าวจากทหารนายหนึ่งว่า กองกำลังดังกล่าวเป็นกองกำลังสันติภาพ และจะประจำการอยู่ที่นั่นต่อไป

อย่างไรก็ตาม นิวยอร์ก ไทมส์ ยังระบุว่า ทหารหน่วยพิเศษของรัสเซียกำลังย้ายเข้าไปประจำการในภูมิภาคของเซาท์ ออสซีเชีย หรือกำลังเตรียมตัวจะย้ายไปที่นั้น จากการอ้างอิงแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ฟากตะวันตก

ยิ่งไปกว่านั้น รายงานข่าวชี้ว่า กองทัพจากหน่วยทัพอากาศที่ 76 ของรัสเซียเคลื่อนขบวนจากปสคอฟ ไปยังบีสลาน เมืองในนอ์รท ออสซีเชียด้วย รวมทั้งหน่วยทหารเพิ่มเติมอีกจำนวนมากจากทัพอากาศที่ 98 ที่ประจำการอยู่ในคอสโตรมาก็ยังเตรียมพร้อมไว้แล้ว หากมีคำสั่งแปรทัพไปยังภูมิภาคคอเคซัส

หนังสือพิมพ์ดังกล่าวเสริมว่า เครื่องบิน ซึ่งสามารถบรรทุกขีปนาวุธทางน้ำ ที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ อีกหลายลำก็ยังบินอยู่เหนือจอร์เจีย คล้ายว่าจะทำการโจมตี

อย่างไรก็ดี นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า การกระทำดังกล่าว เพนตากอนมองว่าเป็นเสมือนกล้ามเนื้อที่กำลังยืดหยุ่น ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อทำให้สมาชิกนาโตบางรายเกิดข้อกังขา เกี่ยวกับการยอมรับจอร์เจียเข้ากลุ่ม แต่ไม่ได้มองว่าเป็นสัญญาณที่รัสเซียตั้งใจจะโจมตีทบิลิซี
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไต้หวันยกเลิกติดตั้งขีปนาวุธยิงไกลถึงเซี่ยงไฮ้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 กันยายน 2551 13:36 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เอเอฟพี - รัฐบาลผู้เป็นมิตรกับจีนของไต้หวัน ตัดสินใจไม่ติดตั้งขีปนาวุธที่สามารถโจมตีได้ถึงเซียงไฮ้ อีกนัยหนึ่งของความสัมพันธ์อันกำลังอุ่นขึ้นระหว่างสองชาติ

ไต้หวันเตรียมติดตั้งขีปนาวุธนำวิถี สงเฟิง ทูอี ซึ่งมีพิสัยยิงไกล 600 กิโลเมตร สามารถโจมตีเป้าหมายตามแนวชายฝั่งตะวันออกของจีนได้ ซึ่งถ้านำเข้าประจำการบนเกาะเปิงหู และถังหยิน จะสามารถโจมตีได้ไกลถึงตอนใต้ของเกาะฮ่องกงและนครเซี่ยงไฮ้เลยทีเดียว

“กองทัพมีแผนเพิ่มเติมพิสัยการยิงเป็น 1,000 กิโลเมตร ดังนั้น มันจะสามารถใช้โจมตีเซียงไฮ้” ในกรณีที่ทำสงครามกับจีน แหล่งข่าวสายทหารระบุก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ความสัมพันธ์กับจีนพัฒนาขึ้น กระทรวงกลาโหมของไต้หวัน “ตัดสินใจล้มแนวคิด...ที่จะติดตั้งขีปนาวุธนำวิถี” หนังสือพิมพ์ ระบุ

จีน และ ไต้หวัน แยกการปกครองกันตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองในปี 1949 และจีนยังคงมองเกาะแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งในอาณาเขตที่กำลังรอรวบรวมใหม่ ซึ่งอาจใช้กำลังทหารหากจำเป็น นอกจากนี้ จีน ยังขู่ย้ำจะบุกรุกไต้หวัน หากว่าเกาะแห่งนี้ประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการ

แต่ความตึงเครียดทั่วช่องแคบไต้หวันคลี่คลายลง นับตั้งแต่ประธานาธิบดีไต้หวัน หม่า อิง-จิ่ว ได้รับเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม ในนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาความสัมพันธ์กับจีน ทั้งนี้เขาเข้ารับตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

๑. จับลมสบาย...


๒. จับภาพพระให้ใสสว่างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้... ทรงอารมณ์ใจนี้ไว้สักระยะ... พร้อมกับน้อมจิตยอมรับนับถือองค์พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุด ไม่มีที่พึ่งอื่นใดจะประเสริฐไปกว่านี้อีกแล้ว... นึกน้อมยอมรับขอให้ข้าพเจ้าเป็นสัมมาทิฐิไปทุกภพทุกชาติจนกว่าจะเข้าสู่พระนิพพาน...

เสร็จแล้วนึกให้เห็นภาพตัวเองก้มลงกราบที่พระบาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และครูบาอาจารย์ทั้งหลายพร้อมๆ กัน...


๓. กราบขอขมากรรมต่อองค์พระรัตนตรัย โดยการอธิษฐานว่า...

"- ข้าแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ หากข้าพระพุทธเจ้าได้เคยคิดประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อองค์พระรัตนตรัย อันมีองค์สมเด็จ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระธรรม องค์พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย อีกทั้งครูบาอาจารย์ทั้งหลาย พรหมเทพเทวา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
ด้วยกายกรรมก็ดี วจีกรรมก็ดี มโนกรรมก็ดี... ในชาติปัจจุบันนี้ก็ดี หรือในชาติที่เป็นอดีตก็ดี... ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี หรือทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึง
การณ์ก็ดี...
- ขอองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และทุกๆ พระองค์ ทุกๆ องค์ ทุกๆ ท่าน... ได้โปรดอดโทษทั้งหลายเหล่านั้นให้แก่ข้าพเจ้านับแต่
บัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ"

ก้มลงกราบพระบาททุกๆ พระองค์อีกครั้ง


๔. น้อมนึกถึงศีลที่ถือปฏิบัติอยู่... ไม่ว่าจะเป็นศีล ๕ หรือ ศีล ๘ ก็ตาม... โดยน้อมนึกว่า...

"ณ ขณะนี้ ศีล ๕ (๘) ของข้าพเจ้าสมบูรณ์ บริบูรณ์ดีทุกประการ... ข้าพเจ้าไม่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่ได้ลักขโมยผู้ใด ไม่ได้ผิดลูกผัว - เมียใคร ไม่ได้พูดโกหกมดเท็จใดๆ ไม่ได้เสพสุราของมึนเมา หรือเล่นการพนันแต่อย่างใด... (ไม่ได้ทานอาหารหลังเที่ยง, ไม่ได้ใช้เครื่องไล้ของหอม เว้นจากการฟ้อนรำ ดูสิ่งบันเทิงเริงรมย์ ไม่ได้ใช้เครื่องประดับตกแต่งใดๆ, ไม่ได้นอนบนที่นอนสูงใหญ่)"


๕. หลังจากนั้นให้น้อมนึก อโหสิกรรมให้แก่ผู้ที่เคยล่วงเกินเรามา

"- ข้าพเจ้าอโหสิกรรม ยกโทษให้แก่ พรหม-เทพเทวา สรรพสัตว์สิ่งมีชีวิต มนุษย์ อมนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน ภูติผีปีศาจ ดวงจิตดวงวิญญาณทั้งหลายที่เคยล่วงเกินข้าพเจ้ามาด้วยกายกรรมก็ดี วจีกรรมก็ดี มโนกรรมก็ดี... ในชาติปัจจุบันนี้ก็ดี ในชาติที่เป็นอดีตก็ดี... ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี หรือทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี...

- ข้าพเจ้าไม่ถือโทษโกรธเคืองใดๆ ทั้งสิ้น และขอให้พวกท่านทั้งหลายมีความสุขกาย สุขใจ พ้นจากความทุกข์ทั้งหลายทั้งมวล มีดวงตาเห็นธรรม เข้าถึงที่สุดแห่งธรรม และมีพระนิพพานเป็นที่สุดด้วยเทอญ"


๖. เมื่ออโหสิกรรมให้ผู้อื่นเสร็จแล้ว... ให้น้อมนึกถึงกุศลผลบุญ อีกทั้งความดีงามทั้งหลายที่เราเคยสร้างมาดีแล้วให้มารวมตัวกันที่ดวงจิตของตัวเรา (นึกให้เห็นดวงจิตของเราเองสว่างไสวแพรวพราว) พร้อมกับอธิษฐาน ขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร ดังนี้...

"- ข้าพเจ้าขอน้อมอุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้เคยกระทำมาตั้งแต่ต้นกัปต้นกัลป์ จนมาถึงปัจจุบันนี้ และที่จะทำต่อไปในอนาคต... ให้แก่ท่านเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย... ขอให้ทุกๆ ท่านมาร่วมกันอนุโมทนาและได้รับซึ่งกุศลผลบุญเหล่านี้นับแต่บัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน...

(ตอนนี้ให้นึกเห็นรัศมีความสว่างของกุศลผลบุญ ความดีงามทั้งหลายจากดวงจิตของเราแผ่ออกไปคลุมร่างของเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่รายล้อมอยู่รอบตัวเรา)

- และข้าพเจ้าขออโหสิกรรมต่อท่านเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินพวกท่านไปด้วยกายกรรมก็ดี วจีกรรมก็ดี มโนกรรมก็ดี... ในชาติปัจจุบันนี้ก็ดี หรือในชาติที่เป็นอดีตก็ดี... ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี หรือทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี...

- ขอให้พวกท่านทั้งหลายได้โปรดอโหสิกรรมทั้งหลายเหล่านั้นให้แก่ข้าพเจ้านับแต่บัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ"


๗. ท้ายที่สุดให้น้อมนึกถึงความสุข สดชื่น ความอิ่มเอม เปรมปรีด์ ความดีงามทั้งหลายที่เราเคยสร้างมาดีแล้วอีกครั้งหนึ่ง อีกทั้งกุศลผลบุญทั้งหลาย พรหมวิหารสี่ และอภัยทานที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในดวงจิตของเราให้มารวมตัวกัน (นึกให้เห็นดวงจิตของตัวเองสว่างไสวแพรวพราว) พร้อมกับอธิษฐานแผ่เมตตาอัปปมาณฌานว่า...


"- ข้าพเจ้าขอน้อมถวายส่วนกุศลผลบุญ อีกทั้งพรหมวิหารสี่ อันมี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา พร้อมอภัยทาน แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ องค์พระธรรม องค์พระอริยสงฆ์ ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆ ต่อกันมาโดยมี... องค์หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง เป็นที่สุด

อีกทั้งท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านผู้มีพระคุณทั้งหลาย บูรพกษัตริย์ไทย บรรพชนไทย นักรบไทยทุกๆ พระองค์ ทุกๆ องค์ ทุกๆ ท่าน... พรหมเทพเทวา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โดยมีท่านท้าวจตุมหาราช และท่านพญายมราชเป็นที่สุด...

- ขอทุกๆ พระองค์ ทุกๆ องค์ ทุกๆ ท่าน ได้โปรดมาร่วมกัน รับและอนุโมทนาในส่วนกุศลผลบุญทั้งหลายเหล่านี้ และขอได้โปรดมาเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลผลบุญในครั้งนี้ของข้าพเจ้าด้วยเทอญ...

(น้อมนึกให้เห็นว่าในมือเรามีดอกบัวแก้วสว่างไสวแพรวพราว ซึ่งเกิดจากกุศลผลบุญของเราเองมารวมตัวกันเป็นดอกบัวนั้น... แล้วน้อมถวายแด่ทุกๆ พระองค์ ทุกๆ องค์ ทุกๆ ท่าน)

- และข้าพเจ้าขอน้อมอุทิศส่วนกุศลผลบุญ อีกทั้งพรหมวิหารสี่ อันมี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา พร้อมอภัยทาน ให้แก่เหล่าสรรพสัตว์สิ่งมีชีวิต มนุษย์ ... คนไทยและต่างชาติที่กำลังชุมนุมประท้วง ทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ ทั่วประเทศไทย และทั่วโลก... อมนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน ภูติผีปีศาจ ดวงจิตดวงวิญญาณทั้งหลายทั่วสากลจักรวาล อนันตจักรวาลนี้... ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี... ขอให้ทุกๆ ท่านจงมาร่วมกันอนุโมทนาและได้รับซึ่งส่วนกุศลผลบุญทั้งหลายเหล่านี้เฉกเช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะพึงได้รับนับแต่บัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน... ขอให้ทุกๆ ท่านมีดวงจิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอภัยทาน เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา... มีความรัก ความปรารถนาดีต่อเพื่อนร่วมชาติ... ขอให้ทุกๆ ท่านมีดวงตาเห็นธรรม และเข้าถึงที่สุดแห่งธรรมโดยฉับพลันเทอญ"


๘. เสร็จแล้ว อธิษฐานว่า...

"ด้วยอานิสงค์ผลบุญที่ข้าพเจ้าได้จากการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนี้แล้ว... ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีองค์พระศรีรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย พรหมเทพเทวา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่เป็นสัมมาทิฐิ ...

ขอได้โปรดช่วยคุ้มครองคนไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ ณ สถานที่ใดก็ตาม... คนทุกชาติ ทุกศาสนา ที่อยู่ในประเทศไทย... องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเชื้อพระวงศ์ทุกๆพระองค์... จากสิ่งไม่ดี มิจฉาทิฐิ และดวงจิตดวงวิญญาณทั้งหลาย ภัยธรรมชาติ ภัยพิบัตินานาประการ... ตลอดทุกลมหายใจเข้า - ออก ทั้งยามหลับและตื่น ทั้งยามที่รู้สึก และไม่รู้สึกตัวก็ตาม นับแต่บัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ"


..........................

ด้วยพระบารมีแห่งองค์พระรัตนตรัย และกุศลผลบุญที่บังเกิดขึ้นนี้... ขอได้โปรดมารวมตัวกันและส่งผลให้ทุกๆ ท่านมีดวงจิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา อภัยทาน มีความสุขทั้งทางโลก ทางธรรม เป็นสัมมาทิฐิ... มีดวงตาเห็นธรรม... เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป... เข้าถึงที่สุดแห่งธรรมโดยฉับพลัน... และมีพระนิพพานเป็นหลักชัยโดยถ้วนทั่วกันด้วยเทอญ

 

<table style="margin: 0pt; padding: 0pt; width: 100%;"><tbody><tr><td style="vertical-align: top;" width="99%">

RSOE Emergency and Disaster Information Service <hr> </td> <td width="100%">
</td> </tr> </tbody></table> 2008-09-18 03:34:23 - Nuclear Event - China
Posted:2008-09-18 03:34:23 [UTC]
EDIS CODE: NC-20080918-18549-CHN
Date & Time: 2008-09-18 03:34:23 [UTC]
Area: China, Province of Jiangsu, Tianwan Nuclear Power Plant, Lianyungang

Description:

This event happened on 26.08.2008: A transformer explosion at China's biggest nuclear power plant last month caused a fire that took five hours to put out and injured at least one person. No radiation leaked after the blast on August 26 at plant No.1 of the Tianwan nuclear plant in the eastern province of Jiangsu. The explosion damaged a set of Ukrainian-made transformers and triggered an automatic safety shutdown, it quoted an official from Lianyungang, where the plant is located, as saying. Fourteen fire engines and 66 firefighters took about five hours to extinguish the fire, the newspaper said. One fireman was injured. The blast was not covered by China's heavily censored state media. Hong Kong, a former British colony which returned to China in 1997, has much greater press freedom than the mainland. The Tianwan facility is the largest cooperative project between China and Russia and is some 300km up the coast from Shanghai. It has two plants, each with an installed capacity of 1.06 gigawatts. One started operation in 2006 and the other the following year.


<small>Number of Injured persons: 1 persons
Damage level: Moderate (Level 2)</small>

 

Thai custody for 'North Korean arms' plane crew


<!-- S BO --> <!-- S IIMA --> The crew members are to be held in the Bangkok Remand Prison


<!-- E IIMA --> <!-- S SF -->A Thai court has ordered the crew of a plane suspected of carrying 30 tonnes of weapons from North Korea to be held for a further 12 days without bail.
The five men, four from Kazakhstan and one from Belarus, have been charged with illegally possessing heavy weapons and misstating details of the cargo.
They were detained on Saturday after requesting a stop in Bangkok to refuel.
US Secretary of State Hillary Clinton has hailed the affair as a model for putting UN sanctions in action.
<!-- E SF -->"We were very pleased to see the strong action taken by the Thais and it would not have been possible without strong action in the United Nations," she told reporters in Washington.
"I think there's a lesson there for people around the world to see when it comes to Iran."
As a result of their nuclear activities, both North Korea and Iran are under UN Security Council sanctions forbidding other UN member-states to import weapons from them.
Thai media have been reporting that Saturday's detention of the plane resulted from a US tip-off.
Destination unknown
When the aircraft was inspected, it was found to be carrying rocket-propelled grenades, explosives and missile components.
<!-- S IIMA --> The Il-76 was unloaded by Thai soldiers


<!-- E IIMA --> The aircraft is believed to have started its journey in Central Asia, making several stops on its way to North Korea, including a brief stop in Thailand on Friday.
But when it returned on Saturday morning to the same Bangkok airport to refuel, the plane was searched and the huge cache of weapons discovered.
The crucial question which remains unanswered is where the plane was ultimately heading, the BBC's Rachel Harvey reports from Bangkok.
Several local reports suggest that Sri Lanka may have been the next scheduled re-fuelling stop.
But beyond that, theories vary wildly from Pakistan to Yemen, our correspondent says.
'Oil-drilling equipment'
The five men say they had no idea they were carrying a cargo of arms.
"They thought it was a civilian freight flight, carrying oil-drilling pipes and other equipment for oil drilling," said defence lawyer Somsak Saithong.
"They have delivered such equipment a few times," the lawyer said, adding that three of the crew were trained pilots.
If convicted, the five face prison terms of up to 10 years.
The plane, a Soviet-designed Il-76, is registered in Georgia, Thai officials say.
The US embassy in Bangkok said it could not confirm or deny any US role in the interception of the plane.



BBC News - Thai custody for 'North Korean arms' plane crew

 

นายกฯยันดำเนินการกับเครื่องบินขนอาวุธตามข้อมติยูเอ็น

13/12/2552
<embed src="http://www.krobkruakao.com/kkncms/include/mediaplayer/mediaplayer.swf" bgcolor="ffffff" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" flashvars="file=http://www.krobkruakao.com/kkncms/uploaded/general_news/13015/v_1260686349.flv&overstretch=fit&image=http://www.krobkruakao.com/kkncms/uploaded/general_news/13015/vimg_1260686349.jpg" width="240" height="192">
นายก รัฐมนตรี ระบุสั่งดำเนินการกรณีจับกุมเครื่องบินบรรทุกขีปนาวุธร้ายแรงตามข้อมตของยู เอ็น พร้อมแจ้งประเทศ เกาหลีเหนือ เบรารุซ คาซัคสถาน และจอร์เจีย ที่มีชื่อเกี่ยวข้อง



นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจับกุมเครื่องบินบรรทุกขีปนาวุธร้ายแรงที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ว่า ทั้งหมดต้องดำเนินการข้อมติของสหประชาชาติ ซึ่งจะต้องมีการสืบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดว่า เป็นอย่างไร โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นในเร็วๆนี้



อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมต้องถูกดำเนินคดีในประเทศ เพราะความผิดเกิดขึ้นในประเทศไทย ส่วนรายละเอียดของข้อหาต้องไปถามเจ้าหน้าที่ ส่วนความผิดที่เกิดขึ้นเนื่องจากเครื่องบินดังกล่าวมีการสำแดงเท็จ แจ้งสิ่งของที่มีอยู่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และพบอาวุธหนักอยู่บนเครื่องบิน โดยได้รับรายงานว่าจะมีเครื่องบินต้องสงสัยลำดังกล่าวตั้งแต่วันศุกร์ที่ ผ่านมาแล้ว หลังจากที่ทราบเบาะแสจึงได้ทำหน้าที่ร่วมกันกับสหรัฐฯ


นายก รัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่า เครื่องบินลำดังกล่าวที่หมายต่อไป จะบินไปเติมน้ำมันที่ประเทศศรีลังกา ส่วนจะมีความเกี่ยวพันกับประเทศใดยังต้องตรวจสอบตามขั้นตอนก่อน แต่อาวุธที่สามารถจับกุมได้บางส่วนก็ต้องนำมาทำลาย ซึ่งไทยจะต้องดำเนินการตามหลักสากล และในเบื้องต้นทางการไทยจะแจ้งไปยังประเทศที่เกี่ยวข้อง คือ เกาหลีเหนือที่เป็นประเทศต้นทาง เบลารุส และคาซัคสถาน ซึ่งเป็นประเทศสัญชาติของผู้ต้องสงสัยที่มากับเครื่องบิน และประเทศจอร์เจียที่เป็นประเทศสัญชาติของเครื่องบิน ขณะนี้อาวุธที่ยึดไว้จะต้องดำเนินการตามหลักสากล เพราะถือว่าอาวุธที่ขนมาได้ละเมิดข้อกำหนดของยูเอ็น


นายกฯยันดำเนินการกับเครื่องบินขนอาวุธตามข้อมติยูเอ็น | ครอบครัวข่าว

 

รองฯสุเทพ เตรียมรายงานยูเอ็นกรณีจับเครื่องบินขนอาวุธ

13/12/2552
<embed src="http://www.krobkruakao.com/kkncms/include/mediaplayer/mediaplayer.swf" bgcolor="ffffff" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" flashvars="file=http://www.krobkruakao.com/kkncms/uploaded/general_news/13011/v_1260686425.flv&overstretch=fit&image=http://www.krobkruakao.com/kkncms/uploaded/general_news/13011/vimg_1260686425.jpg" width="240" height="192">
รอง นายกฯ ด้านความมั่นคง ยืนยัน อีก 1-2 วัน มีความชัดเจนกรณีจับกุมการขนอาวุธสงครามข้ามประเทศที่สนามบินดอนเมือง ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงในไทย และจะรายงานเรื่องทุกอย่างให้กับยูเอ็นทราบ เพื่อหาทางออกเรื่องนี้



นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยังระบุด้วยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบอย่างละเอียด และที่สำคัญต้องระวังในการพูด และการนำเสนอข่าว เพราะเป็นเรื่องของความมั่นคงระหว่างประเทศ และเป็นเรื่องของประเทศที่เป็นเจ้าของอาวุธ รวมทั้งเรื่องของเครื่องบิน และประเทศที่ขายอาวุธ ยืนยันจะทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใส



นาย สุเทพ ยืนยันด้วยว่าไทยไม่มีผลได้ผลเสียกับการขนอาวุธครั้งนี้ และไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงภายในประเทศไทย ส่วนการสอบสวนผู้ต้องหาที่จับกุมทั้ง 5 คนบนเครื่องบินที่ขนอาวุธสงครามน้ำหนักเกือบ 40 ตัน จะใช้เจ้าหน้าที่คนไทยสอบสวนทั้งหมด ยังไม่ได้ร้องขอเจ้าหน้าที่จากต่างชาติ


และเรื่องที่เกิดขึ้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังดำเนินการตามกฎหมาย และแจ้งไปยังประเทศของผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ส่วนรัฐบาลไทยจะรายงานผลการสอบสวนทั้งหมดให้กับ ยูเอ็น.หรือสหประชาชาติ ได้รับทราบ เพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยเชื่อว่าเรื่องนี้จะมีความชัดเจนใน 1-2 วันนี้ พร้อมย้ำไทยสามารถชี้แจงต่อนานาชาติถึงการขนอาวุธสงครามข้ามประเทศซึ่งเช่า เหมาลำมาได้อย่างชัดเจน



รองฯสุเทพ เตรียมรายงานยูเอ็นกรณีจับเครื่องบินขนอาวุธ | ครอบครัวข่าว

 

พรุ่งนี้ รัฐบาลแถลงผลสอบผู้ต้องหาขนอาวุธร้ายแรง

13/12/2552
ผู้ ต้องหาชาวรัสเซีย และเบลารุส ที่ถูกไทยจับข้อหาขนอาวุธสงคราม ยังคงให้การปฏิเสธมีส่วนรู้เห็นกับกระบวนการขนอาวุธครั้งนี้ พร้อมร้องขอไทยเห็นแก่สิทธิมนุษยชนดูแลเรื่องเสื้อผ้าและห้องน้ำ ขณะที่ สตช.เผยพรุ่งนี้รัฐบาลจะแถลงผลการสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างเป็นทางการ




เมื่อ ช่วงเช้าวันนี้ (13 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่จากสถานทูตคาซัคสถาน จำนวน 2 คน พร้อมด้วยล่ามสาวชาวรัสเซีย 1 คน ได้เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ที่กองบังคับการกองปราบปราม หลังเมื่อคืนนี้ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ซึ่งเป็นชาวคาซัคสถาน 4 คน และเบลารุส 1 คน ได้ถูกนำตัวมาควบคุมไว้ที่ห้องขังของตำรวจกองปราบปราม ท่ามกลางการคุมเข้มของตำรวจคอมมานโด ที่สลับเปลี่ยนเวรกันดูแลผู้ต้องหาทั้ง 5 ภายในห้องขัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนสอบปากคำก็ได้เตรียมอาหารเช้า ซึ่งประกอบด้วยไส้กรอก ไข่ดาว ขนมปัง และกาแฟ ให้กับผู้ต้องหา ทั้งหมดยังคงมีสีหน้าปกติ



ล่าสุดพลตำรวจโทพงศพัศ พงศ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาสอบถามข้อมูลความคืบหน้า และเตรียมรายงานผลการสอบปากคำครั้งนี้ให้รองนายกรัฐมนตรี สุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งล่าสุดผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ยังคงให้การปฏิเสธมีส่วนรู้เห็นกับการขนอาวุธดังกล่าว โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาการมีอาวุธสงครามไว้ครอบครอง จากการสอบปากคำซึ่งได้รวบรวมพยานหลักฐานได้ข้อมูลที่มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งวันพรุ่งนี้รัฐบาลจะแถลงผลสอบปากคำอย่างเป็นทางการ



พล ตำรวจโทพงศพัศ เปิดเผยด้วยว่า ผู้ต้องหาได้ร้องขอด้านสิทธิมนุษยชนจากไทย โดยให้ไทยดูแลเรื่องเครื่องนุ่งห่ม และห้องน้ำอย่างดี ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันวันพรุ่งนี้จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดา เป็นครั้งแรก ก่อนเวลา 10.00 นาฬิกา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตและคัดค้านการประกันตัว ส่วนจะส่งคนร้ายไปดำเนินคดีกับประเทศของตนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล



พรุ่งนี้ รัฐบาลแถลงผลสอบผู้ต้องหาขนอาวุธร้ายแรง | ครอบครัวข่าว

 

ก.ตปท.แจงการจับเครื่องบินขนอาวุธที่ดอนเมือง

13/12/2552
กระทรวง การต่างประเทศ แจงการเข้าตรวจสอบเครื่องบินที่บินออกจากเกาหลีเหนือ เป็นไปตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ว่าด้วยการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ หากไม่ทำตามอาจมีปัญหากับประชาคมโลก ซึ่งรัฐบาลไทยเตรียมแจ้งผลการปฏิบัติให้ UN ทราบภายใน 2 สัปดาห์



กระทรวง การต่างประเทศ แถลงว่า การเข้าตรวจสอบ และควบคุมเครื่องบินที่บินออกจากเกาหลีเหนือ เมื่อวานนี้นั้น หน่วยงานด้านความมั่นคงได้รับทราบข้อมูลมาก่อนล่วงหน้า และตกลงกันว่าจะให้ฝ่ายตำรวจเป็นผู้ให้ข่าว เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ



อย่าง ไรก็ตามกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่าการปฏิบัติงานครั้งนี้เป็นไปตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชา ชาติ (UNSC) ข้อที่ 1874 (2009) อ้างถึงมติข้อ 1718 (2006) ว่าด้วยเรื่องการประณามและคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ซึ่งออกมาเมื่อช่วงต้นปี หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทำการทดลองขีปนาวุธ มติข้อนี้ได้พูดถึงเรื่องการตรวจสอบอากาศยานที่ออกมาจากเกาหลีเหนือ และการส่งออกอาวุธต้องห้ามของเกาหลีเหนือ หากไทยไม่ทำตามมติของ UNSC และมีประเทศคู่กรณีที่ได้รับความเสียหายไปยื่นฟ้องต่อ UNSC จะทำให้ประเทศไทยมีปัญหากับประชาคมโลกได้ โดยบทลงโทษนั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการละเมิดมติดังกล่าว



ทั้ง นี้มติดังกล่าวได้กำหนดให้ประเทศนั้นๆ แจ้งผลการปฏิบัติให้ UNSC ทราบภายใน 49 วัน คาดว่าเมื่อการสืบสวนสอบสวนชัดเจน กระทรวงการต่างประเทศจะสามารถแจ้งรายละเอียดไปให้ UNSC ทราบได้ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้



ส่วนผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 คน ที่เป็นชาวคาซัคสถาน 4 คน และเบลารุส 1 คนนั้น ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศกำลังรอการประสานจากทางตำรวจ ว่าจะยื่นฟ้องดำเนินคดีหรือไม่ ทันทีที่มีการแจ้งเข้ามา กระทรวงการต่างประเทศก็จะแจ้งไปยังสถานทูตคาซัคสถาน และเบลารุส ประจำประเทศไทย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศต่อไป


ก.ตปท.แจงการจับเครื่องบินขนอาวุธที่ดอนเมือง | ครอบครัวข่าว

 

แก๊งขนอาวุธข้ามชาติเผยเส้นทางลำเลียงอาวุธ

13/12/2552
การ สอบสวนผู้ต้องหา 5 คน ชาวคาซัคสถาน และเบลารุส ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ผู้ต้องหาให้การถึงเส้นทางการบินไปและกลับก่อนถูกจับ แต่ยังปฏิเสธเกี่ยวข้องกับการขนอาวุธครั้งนี้



โดย ผู้ต้องหาทั้ง 5 คนได้เปิดเผยถึงเส้นทางการบินต่อพนักงานสอบสวนว่า ประเทศต้นทางมาจากยูเครน โดยแวะเติมน้ำมันถึง 3 แห่ง คือ อัลเซอร์ไบจัน ยูเออี(สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์) และกรุงเทพฯก่อนเดินทางต่อไปเกาหลีเหนือ



จาก นั้นมุ่งหน้าสู่เกาหลีเหนือ และขากลับออกจากเกาหลีเหนือมาแวะเติมน้ำมันที่กรุงเทพฯ เพื่อจะต่อไปยังประเทศศรีลังกาสิ้นสุดที่ประเทศยูเครน แต่มาถูกจับที่กรุงเทพฯก่อน ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้ง 5 คนยืนยันไม่รู้เห็นเกี่ยวกับอาวุธสงครามจำนวน 40 ตัน โดยระบุว่าเป็นเพียงผู้ทำหน้าที่ขับเครื่องบินขนส่งสินค้าเท่านั้น ก่อนจะร้องขอให้ไทยบอกขั้นตอนของกระบวนการสอบสวนทั้งหมด พร้อมขอความกรุณาให้ไทยเป็นธุระในเรื่องการขอประกันตัว โดยจะให้เจ้าหน้าที่สถานทูตของคาซัคสถานทำหน้าที่ยื่นประกันตัวผู้ต้องหา ทั้ง 5 คน



ในระหว่างการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 5 ได้รับการอำนวยความสะดวกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเป็นอย่างดี โดยจัดอาหารมื้อเช้าเป็นไส้กรอก ไข่ดาว ขนมปัง และกาแฟ ส่วนมื้อเที่ยง เป็นข้าวผัดกุ้ง ไก่ทอด และผลไม้สดทั้งสับปะรด และแตงโม ให้บริการถึงห้องสอบสวน ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ยังคงมีสีหน้านิ่งเฉย และไม่รู้สึกตื่นเต้นกับการถูกจับครั้งนี้



แก๊งขนอาวุธข้ามชาติเผยเส้นทางลำเลียงอาวุธ | ครอบครัวข่าว

 

เอ๊า...ใครมีอะไรเอามาลงก็เอามาลงไว้หน่อยจ้า