กฏแห่งกรรม จากชีวิตจริงของหลวงพ่อจรัญ (พระธรรมสิงหบูราจารย์)

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย paang, 12 กันยายน 2006.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,326
    [​IMG]

    อาตมาเคยเล่าให้โยมฟัง คนแก่จนอายุ ๘๖ ปีแล้วทอดกฐินตั้งหลายโครม ทอดผ้าป่าไปหลายร้อยโครมแล้วมานั่งรักษาอุโบสถดังที่กล่าวมาแล้วถึง ๓๐ ปีเศษ ตั้งแต่เป็นรุ่นสาว แก่แล้วก็มานั่งอีก แต่ตายไปเป็นเปรตเสียได้ ตายไปเป็นเปรตเพราะเหตุใด ทำบุญเก่ไม่น่าตายไปเป็นเปรต แต่ก็ตายเป็นเปรตด้วยอำนาจโลภะ คุณยายเป็นเศรษฐีมีลูกหลายคนและให้สมบัติแก่ลูกไปหมดแล้วทุกคน แต่อาศัยอยู่กับลูกสาวคนเล็กซึ่งมีสามีเป็นเศรษฐีมีโรงน้ำแข็ง โรงสี เป็นต้น
    ต่อมาลูกเขยเล่นการพนันจนสมบัติหมด ต้องขายร้าน ขายโรง ขายไร่ ขายนาจนสิ้นเนื้อประดาตัว กลัวเขาจะยื่นฟ้องล้มละลาย ลูกสวยจึงขอความช่วยเหลือจากคุณแม่ คุณแม่ก็ไม่มีทุนแล้ว เพราะทอดกฐินมากถึงมีก็ไม่พอใช้หนี้ จึงขึ้นไปหาลูกชายคนโตที่เชียงใหม่ขอสมบัติที่มอบให้คืน เพื่อนำมาช่วยลูกสาวคนเล็ก ลูกชายและลูกสะใภ้ก็ยินดีคืนให้ กลับมาก็มอบให้ลูกสาว ลูกสาวก็มอบให้สามี แต่สามีกลับนำไปเล่นการพนันต่อเพราะหมอดูที่วัดหนึ่งบอกว่าเล่นแล้วจะรวยมหาศาล เดือนหน้ารวยแน่ ๆ เลยหมดไม่มีเหลือ คุณยายก็เสียใจจนเป็นโรคหัวใจวายตาย ตายแล้วไม่ไปสวรรค์กลับไปทุคติ เป็นเปรต

    อาตมาไปธุระแถวบางมะยม อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ใกล้บ้านกำนันไข่ เด็กสาวอายุ ๑๖ ปี ร้องหวีดหวาดขึ้นมาว่าผีเข้า เด็กคนนี้ไม่รู้ประวัติคุณยายและไม่รู้จักอาตมาด้วย อาตมาไปดู ถามไปถามมาก็รู้ว่าคุณยายนี่เองมาบอกว่าอดหมากเหลือเกินและมาบอกความลับที่ตายไปเพราะเสียใจลูกเล่นการพนันหมด เคยถวายหมากพระเวลาทอดกฐิน ทอดผ้าป่าทุกชนิด แต่คราวนี้ไม่ได้กินหมากไปเป็นเปรตเที่ยวขอเขากินตามบ้าน บุญที่ทำนั้นจะได้ต่อภายหลัง ต้องใช้หนี้กรรมหนัก คืออำนาจโลภะนี้ก่อน นี่อาตมายืนยันเพราะไปเจอเด็กที่ผียายคนนี้ไปเข้า ถามพ่อแม่เด็กว่ารู้จักตระกูลนี้ไหม ก็ไม่รู้จัก แต่ทำไมบอกได้หมดว่าลูกชายคนโตชื่ออะไร ลูกสาวคนเล็กชื่ออะไร เด็กมันจะรู้ได้อย่างไร ขอฝากญาติโยมไปคิดโดยทั่วหน้ากัน

    อย่าลืมนะบุญกรรมจากการกระทำของคุณยายรักษาอุโบสถนี่ดิ่งเลย ทั้งวันไม่คุยกับใคร มานั่งเฝ้าศาลาพระเทศน์ก็ติดกัณฑ์เทศน์ไม่พัก แต่ไม่รู้ว่าบุญคือความสุขจากการชำระใจ คุณยายสวดมนต์ก็เก่ง แต่ไม่ปฏิบัติธรรม แล้วบุญที่ทำจะได้หรือ ตอบว่า ได้แต่บาปมาก่อน เพราะอำนาจโลภะจึงไปเป็นเปรตก่อน พอหมดเวรกรรมจากเปรตจึงจะไปสวรรค์ต่อภายหลัง

    ตอนที่คุณยายป่วยด้วยความเสียใจ อดข้าว อดปลา มาเป็นเดือนเศษ อาตมาไปเยี่ยม ๒ ครั้ง ชวนมานั่งกรรมฐาน คุณยายบอกว่านั่งไม่ได้ ไม่สบายใจเสียแล้วแก่แล้ว เมื่อก่อนนี้ตอนที่อินทรีย์ยังดีก็ไม่สนใจกรรมฐานเลย สนใจแต่ว่าใครจะมาบอกบุญไม่เคยขัดเลย ต้องทำทุกวัด จึงหาความสุขไม่ได้ ตายไปเป็นเปรต เดี๋ยวนี้ยังไม่ไปผุดไปเกิด แต่ประการใด ยังทรมานอยู่ด้วยอำนาจของโลภะ เรื่องนี้อาตมาประสบมาด้วยตนเอง


    ผลกรรมของหลวงพ่อ- เมื่อครั้งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์-คอหัก
    อาตมามีประสบการณ์เกี่ยวกับกฎแห่งกรรมที่เราจะต้องรับใช้ เมื่อเรามีจิตมีปัญญาเกิด จะรู้กฎแห่งกรรมทันทีจากการเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน เวรกรรมตามสนองอาตมา จึงรู้บุญบาป เมื่อก่อนนี้อยู่กับยาย อาตมาไม่สนใจกับพระตลอดกาล เวลาไปวัดหาบของไปทำบุญที่วัด ยายก็ต้องให้เก็บเอาก้อนดินไปด้วยใส่กระบุงไปข้างละ ๓ ก้อน ไปถึงวัดแล้วให้ไปโยนไว้ที่มันเป็นบ่อ เป็นหลุมอยู่ในวัด ยายบอกได้บุญ อาตมาบอกว่าคนอื่นเขาไม่หาบดินไปวัดกันหรอก มีบ้านเราบ้านเดียวอายเขาตาย ยายบอกว่า เราไปวัดเหยียบดินติดเท้ามานี่เป็นกรรมนะเป็นบาป ใช้หนี้สงฆ์ เป็นหนี้สงฆ์มาก เป็นบาปเป็นกรรมแต่แกก็ไม่ได้อธิบาย เขาเล่ากันมาอย่างนี้ แกก็จำมาอย่างนี้ก็ทำมาอย่างนี้ ไม่เหมือนคนเดี๋ยวนี้ว่าไม่บาป บาปได้ยังไงเหยียบแค่นิดเดียว พระก็ถมเอาเองซิ นี่คนรุ่นใหม่เข้าใจอย่างนี้ แต่คนรุ่นเก่าถือนัก เชื่อเข้าไว้ก่อนมันมีประโยชน์ มันได้กำไรชีวิต คือเชื่อกฎแห่งกรรม

    อาตมาเป็นเด็กเมื่อมาบวชใหม่ ๆ ไปบ้านญาติที่เขาเป็นนักเลง เป็นโจร เป็นเสือ เขากินเหล้ากัน พอเห็นพระมาเขาเก็บแก้วหมดเลย เอาเหล้าแอบเลย ยังกลัวบาปนะเดี๋ยวนี้ไม่ต้อง กินต่อหน้าพระเลยสบายมาก แถมงานศพเล่นไพ่หน้าศพอุทิศส่วนกุศล แล้วพระก็สวดไปไม่ได้เกรงกลัวบาปกรรมแต่ประการใด เขาว่าบาปกรรมไม่มีแน่นอน เข้าใจอย่างนี้

    สร้างกรรม-กินอาหารที่ยายถวายพระ

    ตอนอยู่ที่โรงเรียนมัธยม ยังอยู่กะยาย ยายให้เอาอาหารไปถวายพระ แล้วเราก็เอาไปทานเสียเองทั้งคาวทั้งหวาน แล้วก็กลับมาบอกยายว่าไปถวายสมภารแล้ว เดินจากบ้านไปไม่มีรถหรอก เดินไปเป็นระยะทาง ๑ กิโลเมตร อาตมาไปก็ไปเจอเพื่อนนักเรียนที่สร้างความดีมาด้วยกัน หนีโรงเรียนกันสะบัด
    เพื่อนบอกว่ายังไม่ได้กินข้าวเลย เราก็นึกเลยว่าจะเอาไปให้พระทำไม เราก็ยังไม่ได้กินเลย พรรคพวก ๔-๕ คนด้วยกัน ก็เห็นด้วย เลยตั้งวงกินกันเสียเลย เรียบร้อยล้างปิ่นโตเสร็จกลับบ้าน ยายถามไปวัดเจอสมภารไหมล่ะ บอกยายว่า ผมไม่ได้ขึ้นกุฏิหรอกให้เด็กมันถ่ายปิ่นโตให้ แล้วผมก็มา ยายบอกว่าต่อนี้ไปต้องรับพรด้วยนะ รับพรสมภารมาแล้ว ก็มาบอกยาย ยายจะได้ชื่นใจ แล้วบอกท่านด้วยว่ายายให้เอาอาหารมาถวาย

    วันหลังเอาอีกแล้ว ให้ไปอีกก็เจอเพื่อนอีก โรงเรียนปิดก็แบบเดิม กินเสร็จแล้วไปตีผึ้งต่อ ยายถามว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2006
  2. nomu

    nomu สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2006
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +22
    หาอ่านที่หนังสือ มักลีผล เว็บของหลวงพ่อก็มีให้โหลดมาอ่าน http://www.jarun.org/v5/index.html
     
  3. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ขออนุโมทนาครับ ท่านเป็นพระที่ดีมากเลยผมชอบอ่านหนังสือหลายเล่มที่เกี่ยวกับท่าน อย่างเรื่อง มักกะรีผล,สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ฯลฯ ของคุณ สุทัสสา ก็สนุกมาก น้องชายผมก็ชอบไปเข้าคอร์สปฏิบัติธรรมที่วัดท่านเป็นประจำครับ _/\_
     

แชร์หน้านี้

Loading...