ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================

    18 มี.ค. 53


    เมื่อขุนศึก---------เจอขุนศึก-------พระองค์ดำ
    ที่ต้องจำ----------พลัดพราก-------มากสี่ร้อย
    จวบวันนี้----------ก็ได้พบ----------ที่รอคอย
    ทำให้พลอย-------ได้ดีใจ----------พบเพื่อนเกลอ

    ขุนศึกจิ๊บ----------นั้นไม่จิ๊บ---------สมรูปร่าง
    สูงตระหง่าน-------สมทหาร---------นเรศวร
    เพราะฟ้าเปิด-------ผมจึงได้---------เข้าชักชวน
    ให้เข้าร่วม---------นำประชา---------พ้นเพศภัย

    ขอส่งสารน์---------นี้ถึงท่าน----------ขุนศึกจิ๊บ
    ค่อยๆคิด-----------ตัดสินใจ----------เรื่องภัยนี้
    หากว่าท่าน---------ได้เข้าร่วม---------ก็ยินดี
    สองบารมี----------เข้าคุ้มครอง-------ผองคนดี




    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2010
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ร้อนนี้ระวัง โรคพิษสุนัขบ้า สังเวยเพิ่มอีก 2

    [​IMG]

    เมื่อวันที่ 17 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุข นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากกลุ่มโรคติดต่อจากสัตว์และคน สำนักโรคติดต่อทั่วไป ว่าเมื่อวันที่ 14 -15 มีนาคม ที่ผ่านมา มีรายงานการเสียชีวิตด้วย โรคพิษสุนัขบ้า ในเขตกรุงเทพมหานคร 2 รายติดต่อกัน รายแรกเสียชีวิตที่สถาบันบำราศนราดูร ส่วนอีกรายเสียชีวิตที่โรงพยาบาลตำรวจ จากการเสียชีวิตดังกล่าวทำให้เป็นที่กังวลว่า สถานการณ์ผู้เสียชีวิตด้วย โรคพิษสุนัขบ้า ในปีนี้อาจจะมีแนวโน้มสูงขึ้น เพราะในช่วง 2 เดือนเศษของปีนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ราย

    ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เวลาโดนสุนัขกัดไม่ได้ไปพบแพทย์ และไม่ได้สนใจกับบาดแผล ความจริงแล้วแม้บาดแผลเล็กน้อย หากมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าก็อันตรายถึงแก่ชีวิตได้

    นพ.มานิต กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ผู้สัมผัส โรคพิษสุนัขบ้า กลุ่มผู้ถูกกัดมากที่สุด คือ เด็กอายุ 1-5 ปี รองลงมาอายุ 6-10 ปี สัตว์ที่กัดส่วนใหญ่เป็นสุนัข และสุนัขที่กัดส่วนใหญ่เป็นสุนัขมีเจ้าของ ที่น่าเป็นห่วงคือ ขณะนี้ใกล้ปิดเทอม ผู้ปกครองและเด็กมีการเดินทางไปในที่ต่าง ๆ การเตือนผู้ปกครองให้บุตรหลานหลีกเลี่ยงการถูกสุนัขกัดเป็นสิ่งจำเป็น โดยลดพฤติกรรมที่ทำให้สุนัขกัด เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกสุนัขกัด คือ อย่าแหย่ อย่าเหยียบ อย่าแยก อย่าหยิบ อย่ายุ่ง รวมทั้งเมื่อถูกสุนัขกัดแล้วต้องรีบล้างแผล ใส่ยา กักหมา หาหมอ และฉีดวัคซีนจนครบจะช่วยลดอัตรการเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าได้

    ด้าน สัตวแพทย์หญิงอภิรมย์ พวงหัตถ์ หัวหน้ากลุ่มโรคติดต่อจากสัตว์และคน กรมควบคุมโรค เปิดเผยรายละเอียดผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้ารายที่ 8 และ 9 ว่า ทั้ง 2 รายเสียชีวิตติดต่อกันรายวัน โดยรายที่ 8 เป็นชาย อายุ 32 ปี ถูกแมวจรจัดในตลาดกัดที่นิ้วมือขวา เป็นแผลระหว่างนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธุ์ 2553 ขณะเข้าไปห้ามหมาไล่กัดแมว แมวจึงหันมากัดผู้เสียชีวิตรายนี้ หลังจากนั้นแมวถูกหมากัดตาย ผู้เสียชีวิตเริ่มมีอาการป่วย และเข้ารับการรักษา 13 มีนาคม 2553 โดยผู้ป่วยมีอาการกลัวน้ำ กลัวลมชัดเจน จนเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2553

    "ส่วนรายที่ 9 เป็นชาย อายุ 67 ปี เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 มีลูกสุนัขติดล้อรถจึงเข้าไปช่วยและถูกลูกสุนัขกัดเข้าที่เล็บของมือข้างซ้าย วันรุ่งขึ้นลูกสุนัขตัวนั้นตาย ภรรยาได้บอกให้ไปฉีดวัคซีน แต่ผู้ตายไม่เชื่อ ไม่ยอมไปหาหมออ้างว่าเป็นแค่ลูกหมาตัวเล็ก ๆ จึงแค่กินยาแก้ปวด โดยผู้เสียชีวิตรายนี้เริ่มมีอาการกลัวลมไม่อยากดื่มน้ำ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2553 เข้ารับการรักษาและเสียชีวิตกลางคืนในวันเดียวกัน

    ที่น่ากลัวคือ ตอนนี้เหตุเกิดในกทม.ค่อนข้างถี่ และการจัดการกับสุนัขทั้งที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ห้างสรรพสินค้าที่ กทม. เคยประกาศไว้ก็ยังไม่ได้มีการดำเนินการอย่างจริงจัง ที่สำคัญช่วงนี้อากาศร้อนจัดมาก โอกาสที่สุนัขจะมีอารมณ์ดุร้าย มีสูงมาก จึงน่าจะมีมาตรการป้องกัน หรือให้ความรู้กับประชาชนอย่างต่อเนื่องถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า แม้จะไม่ได้ถูกกัด แค่ถูกน้ำลายที่สัตว์ซึ่งมีเชื้อโรคมาเลียก็อาจทำให้ติดเชื้อได้" สพญ.อภิรมย์ กล่าว

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 99_55.jpg
      99_55.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.7 KB
      เปิดดู:
      1,212
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2010
  3. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    เดือนหน้าฝนตก รักษาสุขภาพด้วยนะทุกคน
     
  4. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม 2553 21:06:25 น.
    <STYLE>.expanded { width: 620px; z-index: 9999 }</STYLE>สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงเยรูซาเลม ประเทศอิสราเอลว่า กลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซาได้ยิงจรวดเข้าไปยังเขตอิสราเอล โดยจรวดดังกล่าวไปโดนแรงงานต่างชาติคนหนึ่งเสียชีวิต ทราบภายหลังว่าเป็นแรงงานจากประเทศไทย ยังไม่ทราบชื่อ เป็นแรงงานที่ทำงานอยู่ในฟาร์มแห่งหนึ่ง
    อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มติดอาวุธกลุ่มเล็กๆ ชื่อ อันซาร์ อัล ซันนา ได้ส่งข้อความผ่านมือถือไปยังนักข่าวหลายสำนักยอมรับว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้
    ส่งใจช่วยเขาด้วยนะ
     
  5. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    [​IMG]


    นี่ไง...ฝนลงหนัก ชำระล้างอย่างสะใจจริงๆ ที่อ.แม่ริม เชียงใหม่

    พรุ่งนี้ค่อยไปดู ว่าตกทั่วตัวเมืองหรือไม่ ฝุ่นควันจะได้ลดลงซะที

    ฟ้าผ่าไกลๆ บ้านสะเทือน

    ( ระวัง คนที่ทำอะไรไม่สมควร สิ่ง่ที่คุ้มครองบ้านเมืองท่านเห็น
    ความวิบัติจะย้อนหาตัวเอง )


    บอกแล้ว ผลบุญมีจริง เทวดาฟ้าดินมีจริง

    ขนาดกรมอุตุฯ บอกว่า พายุฤดูร้อนออกไปที่อื่นแล้ว

    และ พายุฝนที่เมื่อคืนพัดถล่ม แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ มาไม่ถึงเหนือตอนบน


    ( ฟังก่อนหน้าฝนลงชั่วโมงเดียวเอง )

    ...แล้วเป็นไงหละ....




    OO ต่อไปนี้ ขอให้ทุกท่าน ศรัทธาตั้งมั่น ในบุญกุศล

    และ พระรัตนตรัย เป็นที่พึ่ง อันประเสริฐ เทอญOO

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]



    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 มีนาคม 2010
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    หวั่นหมอกควัน! สธ.แจกหน้ากากอนามัย 1 ล้านชิ้น

    [​IMG]

    กระทรวงสาธารณสุข แจกหน้ากากอนามัย 1 ล้านชิ้น ให้ประชาชน 8 จังหวัดภาคเหนือเพิ่ม หลังพบผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจพุ่ง เตือนประชาชนควรงดออกกำลังกายกลางแจ้ง ...

    เมื่อวันที่ 18 มี.ค.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือว่า ขณะนี้หมอกควันได้กระจายไปในหลายจังหวัดในภาคเหนือ จากการที่กระทรวงสาธารณสุขไปตรวจตัวเลขความเข้มข้นหมอกควัน ซึ่งตรวจโดยกรมควบคุมมลพิษ พบว่าอัตราส่วนของฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนในอากาศต่อลูกบาศก์เมตรในปีนี้สูงเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ ไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบม.) ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะใน จ.แม่ฮ่องสอน ตรวจวัดสุดสูงถึงระดับ 518.5 มคก./ลบม.ถือว่าสูงที่สุดในรอบ 10 ปี เชียงรายสูงถึง 239 มคก./ลบม. พะเยา 218 มคก./ลบม. ลำพูน 212 มคก./ลบม. รวมทั้งเชียงใหม่และลำปางตัวเลขสูงทั้งสิ้น

    นายจุรินทร์ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ในสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือประกอบด้วย เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ แพร่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน และน่าน พบว่า มีผู้ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ หลอดลมและปอดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั้ง 8 จังหวัด แจกหน้ากากอนามัยจำนวน 1,000,000 ชิ้น ให้ประชาชนใส่ป้องกันการสูดฝุ่นเข้าปอด และแจกจ่ายคู่มือดูแลสุขภาพด้วย

    รมว.สาธารณสุข กล่าวด้วยว่า ในระยะนี้ ประชาชนควรงดออกกำลังกายกลางแจ้ง เพราะจะทำให้หายใจลำบากขึ้น และควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจากบ้านเพื่อป้องกันฝุ่นละออง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หากมีอาการผิดปกติ เช่น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เวียนศีรษะ ใจสั่น ให้ไปพบแพทย์ทันที ขณะเดียวกัน ขอให้ประชาชนงดการเผาป่าและหญ้าไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศในพื้นที่ภาคเหนือให้ลดลงมากที่สุด

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th/content/edu/71512
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    พรุ่งนี้ จะได้มองเห็นพระธาตุดอยสุเทพซะที

    ไม่ได้เห็นมาหลายวันแล้ว

    ข้อมูล การคำนวณล่วงหน้าของวิทยาการโลกปัจจุบัน ไม่อาจคำนวณแรงบุญแรงบาปเข้าไปด้วย

    หลายครั้ง เราเปลี่ยนแปลงธรรมชาติรอบข้างได้ด้วยสิ่งนี้


    .....ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในการทำดี บำเพ็ญบุญกุศล ทุกรูปแบบยิ่งๆขึ้นไป
    ทั้งทาน ศีล ภาวนา .....

    สาธุ
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กระแสเทเลือดของผู้ชุมนุมส่งผลคนแห่บริจาคโลหิต

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    สภากาชาดไทย เผยกระแสการเทเลือดทิ้งของกลุ่มเสื้อแดง ส่งผลทำให้เกิดแรงบันดาลใจต่อประชาชนจำนวนมาก หลังพบว่าเพียงไม่กี่วันจำนวนผู้บริจาคเลือดมีเพิ่มสูงขึ้นถึง 800 คนต่อวัน

    แพทย์หญิงสร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยหลังการประชุมวิชาการงานบริการโลหิตระดับชาติ ปี 2553 ที่จัดขึ้นที่โรงแรมริชมอนด์ จังหวัดนนทบุรี ว่า ขณะนี้มีประชาชนจำนวนมากโทรศัพท์ติดต่อเข้ามายังสภากาชาดไทยส่วนใหญ่พูดเป็นเรื่องเดียวกันว่า รู้สึกเสียดายกับเลือดที่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงนำไปเททิ้ง และนำไปใช้ประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้อง จึงรู้สึกเห็นคุณค่าของเลือด เลยขอแสดงความจำนงบริจาคเลือดเพื่อทดแทนเลือดที่ถูกทิ้งไป โดยหวังให้สภากาชาดนำเลือดเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ช่วยชีวิตผู้ป่วยในแต่ละวัน

    แพทย์หญิงสร้อยสอางค์ ย้ำด้วยว่าโดยปกติแล้วปีที่ผ่านมาจะมีปัญหาการขาดแคลนเลือดมาก มีประชาชนติดต่อบริจาคเลือดในแต่ละวันไม่ถึง 100 คน แต่ ณ วันนี้หลังกระแสการเทเลือดของกลุ่มเสื้อแดงเกิดขึ้น ทำให้มีประชาชนติดต่อเข้ามาบริจาคเลือดสูงถึง 800 คนต่อวัน ซึ่งถือเป็นตัวเลขของการบริจาคที่มากเป็นพิเศษ หากมีการบริจาครายวันยอดเท่านี้ สภากาชาดจะได้เลือดบริจาคถึง 45,000 ยูนิตต่อเดือน จากเดิมมีเพียง 18,000-20,000 ยูนิตเท่านั้น

    ที่สำคัญเลือดส่วนใหญ่ที่ได้รับบริจาคจะนำไปใช้ประโยชน์ช่วยชีวิตผู้ป่วยในแต่ละวัน และจะส่งต่อไปยังภูมิภาคต่างๆ ประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ โดยจะเก็บเลือดได้ไม่เกิน 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งไทยถือเป็นประเทศอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชียที่มีผู้บริจาคเลือด โดยไม่หวังผลตอบแทนเมื่อเทียบกับประเทศอื่น หรือหลายประเทศทั่วโลกที่ส่วนใหญ่จะขอซื้อเลือดด้วยเม็ดเงินหรือแลกเปลี่ยนกับสิ่งของที่มีค่า ต้องขอชื่นชมคนไทยที่มีความเอื้ออาทร และเป็นประเทศที่มีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันมาก

    สำหรับงานกาชาดที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 มีนาคมถึง 7 เมษายนนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่า หากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงยืดเยื้อ สภากาชาดต้องเลื่อนจัดงานออกไป โดยย้ำว่าทุกอย่างได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว และไม่อยากให้มีการยกเลิกงานดังกล่าว อีกทั้งผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงน่าจะเห็นใจในส่วนของการจัดงานครั้งนี้ โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายนจะเข้าสู่เทศกาลวันหยุดสงกรานต์ ซึ่งเชื่อว่าทุกคนจะต้องมีภาระหน้าที่ ที่จะกลับภูมิลำเนาของตนเอง

    นอกจากนี้สภากาชาดไทยยังได้เตือนในส่วนของสื่อมวลชน ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกเลือดกระเด็นใส่ของกลุ่มผู้ชุมนุม บางคนเข้าปาก ใบหน้า และตา ควรจะได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี. หรือการตรวจเชื้อหาเชื้อเอชไอวี. ภายในระยะเวลาอีก 20 วัน เพื่อดูว่ามีความปลอดภัยดีหรือไม่ ซึ่งหากล้างออกด้วยน้ำเปล่าทันที และทำความสะอาดร่างกาย ก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาใดๆ แต่เพื่อความสบายใจใน 20 วันนี้สามารถตรวจเชื้อด้วยดีเอ็นเอ.ได้

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com/kkn/?a=news&s=detail&news_id=17252
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 01_26.jpg
      01_26.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.8 KB
      เปิดดู:
      1,103
  9. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    ที่เชียงใหม่ ค่าฝุ่นละอองในอากาศจาก 279 ลดเหลือ 180 ในเช้านี้

    ยังมีหมอกควันอยู่


    มีข่าวว่า เป็นผลจากการทำฝนเทียมด้วย

    .ก็ดีครับ ช่วยกันทั้งคนเทวดา และ เทวดา

    ( แต่ไปออกข่าวแบบนี้ที่กทม.ไม่ได้นะครับ จะกระเทือนต่อคนที่พวกเราชาวไทยรักอีก )

    ก็ช่วยๆกัน ต่อไป จนกว่าทุกอย่างปกติ....


    ( การทำลาย ทำร้าย สิ่งดีงาม มันง่าย กว่าการแก้ไข การสร้างสรรนะครับ

    ขอให้ใจเย็นๆ คิดให้ดีๆหลายๆรอบ )

    [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 มีนาคม 2010
  10. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พายุฤดูร้อนถล่มอ่างทองบ้านพัง 15 หลัง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อเวลา 17.00 นง วันที่ 17 มี.ค. นายสมชาย อนะวัชกุล นายอำเภอเมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง

    รับแจ้งจากนายสัมพันธุ์ ทองลิ่ม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต)บ้านแห อ.เมืองอ่างทองว่า พายุฤดูร้อนพัดพาบ้านเรือนได้รับความเสียหายและได้รับความเดือดร้อนหลายครัวเรือน


    จากการลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า บ้านเรือนประชาชนในหมู่ 4-5-6 ต.บ้านแห ได้รับความเสียหายจำนวน 15 หลังคาเรือน

    ความเสียหายส่วนใหญ่เป็นหลังคาและฝาบ้านที่ถูกแรงพายุพัด ที่เสียหายมากสุดคือบ้านนางอำนวย ทองวิโรจน์ เลขที่ 41 หมู่ 5 นอกเหนือจากหลังคาและฝาบ้านเสียหายแล้ว ตัวบ้านยังทรุดเอียงทั้งหลัง


    นางอำนวย ทองวิโรจน์ อายุ 56 ปี ชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีฝนตกหนักและมีลมกรรโชกแรงมากจนบ้านสั่นไหวและได้เสียงดังผิดปกติพบว่าหลังคาปลิวจนต้องขนย้ายสิ่งของในบ้านหลบพายุฝน เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นนมาก่อน

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พบข้าราชการตำรวจพลีชีพไฟใต้แล้ว 243นาย </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    วันนี้ (18 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม ศชต. จ.ยะลา พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผบช.ศชต. เป็นประธานในการแถลงข่าวความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวน และ การช่วยเหลือเยียวยาแก่ทายาทผู้เสียชีวิต พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา กับพวกว่าในขั้นแรกเป็นการให้ความช่วยเหลือเยียวยา และ บำรุงขวัญแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ และ ทายาทของผู้เสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม

    สำหรับการสืบสวนคืบหน้าไปมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ได้ทำการตรวจพิสูจน์ของกลางที่ยึดได้ในที่เกิดเหตุ และ พยานหลักฐานทั้งหมด ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก โดยเฉพาะ อาวุธปืน AK 47 ที่คนร้ายใช้ยิงในที่เกิดเหตุ เป็นอาวุธปืนที่เคยใช้ก่อเหตุมาแล้วถึง 4 คดี การก่อเหตุ กลุ่มคนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุในถังแก๊สปิกนิก น้ำหนักประมาณ 15 - 20 กิโลกรัม ซุกซ่อนไว้ในท่อน้ำบริเวณถนน และจุดระเบิดโดยการลากสายไฟ เข้าไปในป่าสวนยางพาราประมาณ 100 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวมรวมพยานหลักฐานไว้เพื่อดำเนินการสืบสวนแล้ว

    ส่วนแนวคิดที่จะมีการสร้างอนุสาวรีย์ ให้กับ พล.ต.อ.สมเพียร เพื่อเป็นอนุสรณ์ แก่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทราบมาว่าทางสมาคมตำรวจ มีแนวความคิดในเรื่องนี้ ซึ่งตนเชื่อว่าทางสมาคมคงจะติดต่อประสานงานมามาอีกครั้งหนึ่ง แต่ในเบื้องต้นการสร้างอนุสาวรีย์ หรือ อนุสรณ์สถานต่าง ๆ ทาง ศชต. มีแนวความคิดมานานแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีรูปแบบ รวมถึงทุนในการจัดสร้าง เพราะในขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบสุขในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ตั้งแต่ปี 2547 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน เสียชีวิตไปแล้ว จำนวน 243 นาย ล่าสุดในปี 53 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต จำนวน 6 นาย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#98deff cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>♣ Lava Lake Of Erta Ale Volcano, Ethopia ♣ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#98deff cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931




    *** สัจจะ คือทางรอด ****

    ประชาชนทั้งประเทศ...
    ถือสัจจะ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
    ปล่อยคนบ้าอำนาจ....เขาโทรคุยกันเอง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    วันศุกร์ที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๓
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** จิตใจ ไม่ใช่วัตถุ ****

    เราต้องการ
    ความสงบ ความเจริญ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  13. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    สถานการณ์ปัจจุบันและปรากฏการณ์เอลนีโญ พ.ศ. 2553
    [FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]ปรากฏการณ์เอลนีโญระดับปานกลางถึงแรงได้ปรากฏขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2553 เนื่องจากอุณหภูมิผิวน้้าทะเลในบางพื้นที่ของมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรสูงกว่าค่าปกติมากกว่า 1.5 องศาเซลเซียส (รูปที่ 1) และอุณหภูมิกึ่งผิวน้้าทะเลที่อยู่ลึกลงไปถึงชั้นน้้าเทอร์โมไคลน์ (Thermocline*) บริเวณตอนกลางและทางตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกยังคงสูงกว่าปกติ โดยเฉพาะบริเวณตอนกลางสูงกว่าค่าปกติเฉลี่ยประมาณ 4 องศาเซลเซียส (รูปที่ 2 ) นอกจากนี้ยังพบว่าลมที่พัดปกคลุมเหนือน่านน้้ามหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรบริเวณตอนกลางและด้านตะวันออก ที่ระดับ 850 hPa เป็นลมตะวันตกและมีก้าลังแรงผิดปกติมาก ในขณะที่ลมชั้นบนที่ระดับ 200 hPa เป็นลมตะวันออกและมีก้าลังแรงกว่าปกติ ในขณะเดียวกันสามารถวิเคราะห์ได้เป็น anticyclonic บริเวณกึ่งศูนย์สูตรทั้งในซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ (รูปที่ 4) จากปัจจัยในความผิดปกติที่เกิดขึ้นทั้งในบรรยากาศและมหาสมุทรสนับสนุนภาวะเอลนีโญระดับปานกลางถึงแรงในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
    [/FONT]
    [/FONT]รูปที่ 1 [FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]แสดงอุณหภูมิผิวน้้าทะเลบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตร ระหว่างวันที่ 8 - 27 กุมภาพันธ์ 2553 สูงกว่าปกติมากกว่า 1.0 องศาเซลซียส
    [/FONT]
    [/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]*Thermocline [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คือ ชั้นน้้าที่อยู่ระหว่างชั้นผสมผิวหน้าน้้า ([/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]mixed layer) [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]กับชั้นน้้าลึก ([/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]deep water) [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]ที่ผิวหน้าน้้าและชั้นน้้าลึกอุณหภูมิจะเกือบคงที่ โดยผิวน้้าจะมีอุณหภูมิสูงกว่าชั้นน้้าลึก ส่วนที่เทอร์โมไคลน์อุณหภูมิของน้้าจะลดลงอย่างรวดเร็วตามความลึก
    [/FONT]
    [/FONT]<TABLE dir=ltr border=1 cellSpacing=0 cellPadding=7 width=619><TBODY><TR><TD height=197 vAlign=top colSpan=2>[FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New][/FONT][/FONT]รูปที่ 2 [FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]กลางเดือนมกราคม 2553 อุณหภูมิกึ่งผิวน้้าทะเลบริเวณด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกสูงกว่าปกติมาก
    และตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์บริเวณตอน กลางและด้านตะวันออกอุณหภูมิกึ่งผิวน้้าทะเลสูงกว่าปกติมาก และที่อยู่ลึกลงไปประมาณ 100-150 ม. อุณหภูมิสูงกว่าปกติเกินกว่า 4 องศาเซลเซียส
    [/FONT]
    [/FONT]
    </TD></TR><TR><TD height=435 vAlign=top width="50%">[FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]สีแดงและสีส้มแสดงลมตะวันตกที่ผิดปกติ
    [/FONT]
    [/FONT]สีน้้าเงินแสดงลมตะวันออกที่ผิดปกติ
    </TD><TD height=435 vAlign=top width="50%">รูปที่ 3 [FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]ภาพตัดขวางแสดงทิศทางและความเร็วลมที่ผิดปกติที่ระดับ 850 hPa พื้นที่เฉลี่ยบริเวณ 5[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New][/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]N - 5[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New][/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]S ในระยะแรก พบว่า ลมตะวันตกมีก้าลังแรงผิดปกติ และพัดปกคลุมหลายพื้นที่ในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรยกเว้นบริเวณใกล้เส้นแบ่งวัน
    เดือนพฤศจิกายน ปรากฏการณ์ MJO กลับมาปรากฏขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ท้าให้ลมตะวันออกมีก้าลังแรงกว่าปกติ ขยับจากมหาสมุทรอินเดียไปยังตอนกลางและด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกและล่าสุดเดือนกุมภาพันธ์ ลมตะวันตกก้าลังแรงมากกว่าปกติพัดปกคลุมด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก
    [/FONT]
    [/FONT]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 7050 ข่าวสดรายวัน


    "ก๊าซมีเทน" มหันตภัยใต้โลก

    หมุนก่อนโลก

    วิทยา ผาสุก wittayapasuk@hotmail.com



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]




    </TD></TR></TBODY></TABLE>"ก๊าซเรือนกระจก"มีทั้งประโยชน์และโทษกับโลกเรา

    ในทางบวก...

    ถ้าโลกไม่มีก๊าซกลุ่มนี้ก็จะไร้เกราะกำบังคอยเก็บกักความร้อน ไม่ให้กระจายออกไปสู่อวกาศ

    แต่ถ้ามีมากจนล้น มากเกินไป...

    เรื่องจะพลิกผันกลายเป็นว่า ทำให้อุณหภูมิบนพื้นโลกสะสมร้อนขึ้นตามลำดับ

    ผลพวงต่อเนื่องจากปรากฏการณ์ดังกล่าวก็เป็นที่มาของ "วิกฤตโลกร้อน" ที่ทุกประเทศกำลังเผชิญอยู่นั่นเอง!

    นอกจากนั้น เมื่อแยกย่อยลงไป ก๊าซเรือนกระจกยังแบ่งออกได้ 2 กลุ่มหลักๆ

    1. ก๊าซจากกิจกรรมของมนุษย์

    เช่น ควันพิษโรงงานอุตสาหกรรม รถยนต์ เครื่องบิน เครื่อง จักร เครื่องยนต์กลไกต่างๆ

    2. ก๊าซที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

    เช่น มีเทน (ในกลุ่มแรกก็ก่อก๊าซนี้เช่นกัน) ซึ่งล่าสุด "เจมมา เวด์แฮม" นักธรณีเคมี มหาวิทยาลัยบริสทอล ประเทศอังกฤษ ศึกษาพบว่า...

    กำลังมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!

    ตามปกติ ก๊าซมีเทนตามธรรมชาติจะถูกเก็บกักไว้ใต้พื้นโลก รวมถึงใต้พื้นน้ำแข็งขั้วโลก จึงไม่กระจายออกมาสู่ชั้นบรรยากาศ

    อย่างไรก็ตาม เจมมา เผยว่า จากการสุ่มวิเคราะห์ "ชั้นน้ำแข็ง" จากธารน้ำแข็งโลเวอร์ไรต์ ทวีปแอนตาร์กติกา (ขั้วโลกใต้) และธารน้ำแข็งรัสเซลล์ เขตกรีนแลนด์ พบว่า

    "จุลชีพ" ชื่อ "Methanogers" ซึ่งอาศัยอยู่ใต้ชั้นน้ำแข็งในทั้ง 2 พื้นที่นั้น มีคุณสมบัติแบ่งตัวเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็ว

    ประเด็นน่าวิตกอยู่ตรงที่บรรดาจุลชีพดังกล่าวจะสามารถสร้าง "มีเทน" ออกมาได้ด้วย

    ฉะนั้น ถ้าปรากฏการณ์ "โลกร้อน" ไปเร่งปฏิกิริยาทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายมากขึ้นเรื่อยๆ

    ก๊าซมีเทนจากกองทัพจุลชีพ Methanogers ก็จะหลุดรอดขึ้นไปสะสมบน "ชั้นบรรยากาศ" ซ้ำเติมมหันตภัยสภาพภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลง

    ทางบรรเทาปัญหา ก็คือ มนุษย์จะหาทางลดวงจรพ่นก๊าซเรือนกระจกได้อย่างไร เพื่อสกัดไม่ให้มีเทนจากจุลชีพเหล่านี้เล็ดรอดออกมาทำร้ายโลกยกกำลังสอง!?!

    ยังเหลือในโลก



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]




    </TD></TR></TBODY></TABLE>"กบระฆังจุดเหลือง" (Yellow-spotted Bell) ปรากฏตัวให้เห็นในฉากอีโรติกที่อุทยานแห่งชาตินิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ทั้งที่คิดว่ากบสายพันธุ์นี้สูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อ 30 ปีก่อน (ภาพ-เอพี)







    โหรคมช.ทำนายสิ้นมี.ค.สถานการณ์คลี่คลาย

    ชี้พิธีเทเลือดไม่กระทบดวงมาร์ค

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>เมื่อวันที่ 19 มี.ค. นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เจ้าสำนักสุขิโต และอดีตโหร คมช. กล่าวถึงสถานการณ์ดวงเมืองขณะนี้ ว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นขณะนี้จะยังคงมีอยู่ แต่ทุกอย่างน่าจะดีขึ้นหลังสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งจะเป็นเช่นนี้ไประยะหนึ่งแล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น หลังจากนั้นบ้านเมืองก็จะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ ตามดวงเมืองพบว่าบ้านเมืองไทยเราจะสงบเรียบร้อยหลังปี 2554 เป็นต้นไป
    เมื่อถามถึงการทำพิธีกรรมเทเลือดของคนเสื้อแดงที่หน้าทำเนียบรัฐบาลและบ้านนายกรัฐมนตรี นายวารินทร์ กล่าวว่า ตามหลักทางศาสนาไม่ถือเป็นพิธีที่กระทบต่อดวงชะตา แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ที่ได้รับผลการกระทำนั้น ทั้งนี้ พิธีกรรมที่เกิดขึ้นคงไม่ส่งผลกระทบต่อดวงเมืองหรือดวงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขณะนี้ดวงนายอภิสิทธิ์ยังคงมีฐานบุญที่อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะถึงห้วงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง
    เมื่อถามว่า การเปลี่ยนแปลงอีกครั้งจะทำให้นายอภิสิทธิ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกหรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า คงต้องดูว่าห้วงนั้นฐานบุญของนายอภิสิทธิ์เป็นเช่นไร คงต้องรอให้ใกล้ถึงเวลานั้นก่อน แต่เวลานี้ถือว่าดวงของนายอภิสิทธิ์ ยังคงเป็นดวงผู้นำประเทศอยู่
    เมื่อถามว่า ดวงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ.ยังคงเป็น ผบ.ทบ.คนต่อไปหรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า ฐานบุญของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงส่งผลให้นั่งตำแหน่ง ผบ.ทบ.แน่นอน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

    เลี้ยงให้ด้วย



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]



    </TD></TR></TBODY></TABLE>ลูกสิงโตที่เกิดมาได้เพียง 2 วันโดนจับมาอยู่กับแม่สุนัขให้เลี้ยงแทน ที่สวนสัตว์โรเยฟ รูชีย์ ในเมืองคราสโนยักส์ แคว้นไซบีเรีย ของรัสเซีย หลังจากแม่และพี่น้องอีก 3 ตัวของมันตายหมดช่วงคลอด เมื่อ 18 มี.ค.




    ประมงบ้านทุ่งประดู่ร้องขอเขื่อน พายุถล่มซัดเอาทรายชายฝั่งหาย-ลึก2ก.ม.



    ประจวบคีรีขันธ์ - นางสำเนียง ปักกิ่งเมือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) ทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงกรณีลมพายุฤดูร้อนพัดเข้าสู่ชายฝั่งทะเลทำให้เรือประมงบ้านทุ่งประดู่ได้รับความเสียหายจำนวนมากว่า สำรวจความเสียหายเบื้องต้นพบว่ามีเรือประมงได้รับความเสียหายจำนวน 18 ลำ มูลค่าความเสียหายทั้งเรือและอุปกรณ์ในการจับสัตว์น้ำรวมกันหลายล้านบาท ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในระยะ 10 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน คลื่นและน้ำทะเลซัดเอาหาดทรายชายฝั่งทอดยื่นเป็นแนวยาวลึกเข้ามาบนฝั่งกว่า 50 เมตร จนเกือบจะถึงบ้านคนเป็นแนวยาวเลียบชายฝั่งกว่า 2 กิโลเมตร ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านไม่มีที่นำเรือขึ้นหลบคลื่นลม

    นายกอบต.ทับสะแก กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาอบต.ทับสะแกออกแบบโครงการขุดลอกปากคลองทุ่งประดู่เป็นระยะทางยาวจากปากคลองถึงสะพานทุ่งประดู่ 80 เมตร ทิ้งหินขนาดใหญ่กันชายฝั่งคลองทั้ง 2 ข้าง และทิ้งหินใหญ่เปิดปากคลองลงไปในทะเลยาว 40 เมตร 2 ด้าน เพื่อป้องกันทราย เสนอโครงการต่อผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ผ่านนายอำเภอทับสะแก และผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด แต่จนกระทั่งปัจจุบันยังไม่ได้รับการสนับสนุน จนกระทั่งเกิดคลื่นลมขึ้นในครั้งนี้ทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนจำนวนมาก

    หลังเกิดเหตุลมพายุฤดูร้อนพัดเข้าสู่ชายฝั่งทะเลทำให้เรือประมงบ้านทุ่งประดู่ได้รับความเสียหาย แจ้งเหตุการณ์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสอบถามถึงความเดือดร้อนของประชาชน จึงเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาและเตรียมนำโครงการขุดลอกปากคลองทุ่งประดู่เสนอต่อผู้ว่าฯ อีกครั้ง เชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนต่อไป

    "เฮลลา"หน่วยเลขใหม่



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐคำว่า "เฮลลา" เป็นคำสแลงที่แปลว่า "มากมาย" แต่ขณะนี้กำลังจะกลายเป็นหน่วยสากลในวงการวิทยาศาสตร์ร่วมกับ "เมกะ" "กิโล" และ "กิกะ" โดยจะหมายถึงหลัก 1,000,000,000,000,000,000,000,000,000 ที่มี "ศูนย์" ทั้งหมด 27 ตัว คาดว่าระบบหน่วยระหว่างประเทศ (เอสไอ) จะยอมรับในที่สุด เนื่องจากมีนักวิทยาศาสตร์และนักศึกษาร่วมลงชื่อสนับสนุนในเฟซบุ๊กกว่า 20,000 คน

    หน่วยตัวเลขที่ใหญ่ที่สุดปัจจุบันคือ "ยอตตะ" หมายถึงหลักที่มีศูนย์ 24 ตัวต่อจาก "เซตตะ" ที่มีศูนย์ 21 ตัว มีใช้เมื่อปี 2534

    นายออสติน เซนเดก นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ผู้ริเริ่มการใช้เฮลลา กล่าวว่าเฮลลาเป็นคำที่เหมาะสมเพื่ออุทิศแด่คณะวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยดังหลายแห่งที่ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เช่น ยู.ซี.เบิร์กเลย์ ยู.ซี.เดวิส แสตนฟอร์ด ห้องทดลองลอว์เรนซ์ ลิเวอร์มอร์ และห้องทดลองแห่งชาติลอว์เรนซ์ เบิร์กเลย์

    "โทรศัพมือถือ" ผู้ช่วยหรือภัยใกล้ตัว?



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>นิตยสาร "ไทม์" สื่อทรงอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาฉบับล่าสุด เขียนบทความตั้งคำถามดังๆ ถึงความปลอดภัยจากการใช้ "โทรศัพท์มือถือ" ว่าส่งผลกระทบต่อสุขภาพมาก-น้อยขนาดไหนในห้วงเวลาเดียวกับที่ส.ส.อเมริกันกำลังผลักดันให้มีการออกกฎหมายบังคับผู้ผลิตมือถือต้องติด "ป้ายคำเตือน" ระดับการแผ่คลื่น-รังสีลงบนมือถืออย่างชัดเจน

    เนื่องจากทุกวันนี้ "มือถือ" ได้กลายเป็นเสมือนปัจจัยที่ 5 ของพลเมืองโลกไปแล้ว "ข่าวสดหลาก&หลาย" ขอนำข้อมูลของไทม์ฉบับดังกล่าวมาสรุปเรียบเรียงรายงานต่อสังคมไทย ซึ่งมีสถิติผู้ใช้มือถือหลายสิบล้านหมายเลข!

    กระแสหวาดหวั่นว่า "คลื่นและรังสี" ที่แผ่ออกจาก "โทรศัพท์มือถือ" อาจทำอันตรายต่อสมองและอวัยวะภายในศีรษะ เริ่มแผ่ขยายวงกว้างขึ้นตามลำดับ ภายหลังจากปริมาณผู้ใช้มือถือทั่วโลก พุ่งทะลุหลัก 4,000 ล้านคน

    เฉพาะในสหรัฐอเมริกา ประเมินกันว่า มีผู้ใช้มือถือ 270 ล้านคน

    ที่สำคัญ พฤติกรรมการใช้มือถือของคนทั่วโลกมีแนวโน้ม "คุยนาน" หรือ ใช้งานนานมากกว่าในอดีต

    ล่าสุด นางแอนเดรีย โบแลนด์ ส.ส.รัฐเมนของสหรัฐ กำลังต่อสู้อย่างหนัก เพื่อผลักดันให้สภาท้องถิ่น ผ่านกฎหมายกำหนดให้บรรดาผู้ผลิตมือถือต้องเขียนป้ายคำเตือนประทับลงบนเครื่องมือถือ ว่า

    "อุปกรณ์นี้แผ่นคลื่นแม่เหล็กและรังสี ซึ่งอาจก่อให้เกิดมะเร็งสมอง"

    และ "ผู้ใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ในวัยเด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรนำมือถือวางใกล้กับศีรษะและลำตัว"

    ความเคลื่อนไหวของโบแลนด์เกิดขึ้นหลังจากการรับฟังผลการทดลอง-ศึกษาจากหลายสถาบัน ซึ่งตั้งสมมติฐานว่า คลื่นมือถือส่งผลกระทบต่อเซลล์มนุษย์จริง

    สำหรับโบแลนด์เอง ทุกวันนี้ไม่นิยมใช้มือถือรุ่นใหม่ๆ ซึ่งมีกำลังรับ-ส่งสัญญาณแรงๆ เหมือนกับนักการเมืองอเมริกันส่วนใหญ่

    แต่พอใจที่จะเปิดมือถือในช่วงที่คิดว่าจะมีคนโทร.เข้ามาหา และจำเป็นต้องโทร.ออกติดต่อธุระเท่านั้น!



    ปัจจุบัน มีบางประเทศประกาศคำแนะนำด้านการใช้มือถือเพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อเท็จจริง

    อาทิ ฟินแลนด์ ชาติผู้ผลิตมือถือรายใหญ่, อิสราเอล และฝรั่งเศส
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    กำไลมือถือของอัลซุส


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    นายเกวิน นิวสัน นายกเทศมนตรีมหานครซานฟรานซิสโกของสหรัฐ กล่าวว่า เริ่มศึกษาข้อมูลการแผ่รังสีของมือถืออย่างจริงจัง เมื่อภรรยาตั้งครรภ์ลูกคนแรก

    และเป็นที่มาทำให้ตนเรียกร้องให้นักการเมืองท้องถิ่นสนับสนุนการออกกฎหมาย บังคับให้ผู้ผลิตมือถือต้องพิมพ์ข้อมูลการแผ่รังสีเอาไว้บนบรรจุภัณฑ์มือถืออย่างชัดเจน

    นอกจากนั้น ตรงจุดขายจะต้องมีป้ายแสดงรายละเอียดระดับการแผ่รังสีเอาไว้ด้วยเช่นกัน

    ข้อกังวลของทั้งโบแลนด์และนิวสัน จริงๆ แล้วถือว่าไม่ได้เข้าข่ายวิตกจริตจนเกินไป

    เพราะว่ากันตามเทคนิคนั้น มือถือทุกยี่ห้อล้วนแผ่รังสีคลื่นวิทยุ (อาร์เอฟ) ในระดับต่ำ แต่แรงกว่าคลื่นวิทยุเอฟเอ็มทั่วๆ ไป

    อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมมือถือยืนยันว่า คลื่นอาร์เอฟดังกล่าวมีความแรงแค่ 1 ใน 1,000 ล้านส่วน เมื่อเทียบกับคลื่นรังสีซึ่งกระตุ้นให้เกิดเซลล์มะเร็ง เช่น รังสีเอ็กซ์ (เอกซเรย์)

    บทสรุปของฝ่ายนี้ ก็คือ จนถึงปัจจุบันไม่เคยมีหลักฐานเชื่อมโยงจะจะว่า "มือถือก่อมะเร็ง" หรือ คลื่นมือถือจะอุ่นสมองมนุษย์ได้แต่อย่างใด!



    นักวิทยาศาสตร์บางคนเตือนว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า มือถือไม่มีส่วนทำให้เกิดมะเร็ง

    เช่น ดร.เฮนรี่ เล่ย ผู้เชี่ยวชาญวิชาประสาทวิทยา มหาวิทยาลัยวอชิงตัน สถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของสหรัฐ ชี้ให้เห็นว่า

    งานวิจัยอันตรายมือถือแยกได้เป็น 2 กลุ่ม

    กลุ่มแรก ได้รับทุนสนับสนุนจากอุตสาหกรรมือถือ ซึ่งมักระบุว่าปลอดภัย

    กับกลุ่มที่สอง ซึ่งทำงานโดยอิสระ กลุ่มนี้จะพบว่า คลื่นมือถือจะส่งผลให้กระบวนการทางชีวภาพในร่างกายมนุษย์เปลี่ยนแปลงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

    ก่อนหน้านี้ ดร.เล่ยเคยร่วมทดลองจัดสภาพแวดล้อมให้ "หนู" ได้รับรังสีคลื่นอาร์เอฟนาน 2 ชั่วโมง

    และคลื่นดังกล่าวมีระดับไม่เกินมาตรฐานความปลอดภัยที่ทางการสหรัฐกำหนดเอาไว้

    ผลพบว่า หน่วยพันธุกรรมในเซลล์สมองหนูตัวนี้ได้รับความเสียหาย



    ศ.ดาริอุซ เลสซินสกี นักวิจัยสังกัดหน่วยงานความปลอดภัยด้านรังสีและนิวเคลียร์ ประเทศฟินแลนด์ เปิดเผยว่า
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ทีมงานของตนศึกษาพบว่า คลื่นรังสีอาร์เอฟอาจเป็นสาเหตุทำให้เซลล์เกิดความตึงเครียด

    และขัดขวางกระบวนการไหลเวียนของโลหิตในสมอง

    "รังสีจากมือถืออาจทำร้ายเซลล์ทางอ้อม เนื่องจากไปขัดขวางความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองของดีเอ็นเอ

    "และเพราะหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยังไม่มีความแน่นอนเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงเร็วเกินไปที่จะบอกว่ามือถือมีความปลอดภัย" ศ.เลสซินสกี กล่าว

    ด้านนายจอห์น วอลล์ ประชาสัมพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมมือถือสากล "ซีทีไอเอ" โต้ว่า

    ถ้ารังสีคลื่นอาร์เอฟเพิ่มความเสี่ยงป่วยเป็น "มะเร็งสมอง" จริง ก็น่าจะมีข้อมูลดังกล่าวปรากฏฟันธงอยู่ในผลวิจัยมือถือ ซึ่งใช้ระยะเวลานานๆ

    แต่ที่ผ่านๆ มา ไม่เคยพบหลักฐานเหล่านี้เลย

    อีกทั้งผลศึกษาสุขภาพผู้ใช้มือถือ ระหว่างปี 2525-2538 จำนวน 421,000 คนในประเทศเดนมาร์ก เมื่อปี 2550 จัดทำโดย "สมาคมมะเร็งเดนมาร์ก" ก็ไม่พบความเชื่อมโยงเช่นเดียวกัน

    ขณะที่นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มตั้งข้อสังเกตว่า ตัวเลขชาวเดนมาร์ก 4 แสนกว่าคนนั้น ไม่ได้รวมกลุ่ม "นักธุรกิจ" ซึ่งใช้มือถือมากกว่าคนทั่วไปเข้าไปด้วย



    ดร.ไซกัล ซาเด็ตสกี นักวิจัยโรคมะเร็ง สถาบันเกิร์ตเนอร์ อิสราเอล ซึ่งเคยมีผลงานการวิจัยชี้ว่า คลื่นมือถืออาจก่อมะเร็งต่อมน้ำลาย กล่าวว่า

    มีความพยายามตั้งองค์กรกลางขึ้นมาทดสอบผลลัพธ์การใช้มือถือขึ้นมา โดยมีสมาชิก 13 ประเทศ เรียกว่า "อินเตอร์โฟน" แต่ไม่ได้ข้อสรุปเสียที

    วิธีป้องกันตัวเองดีที่สุด สำหรับคนห่วงในสุขภาพ ได้แก่

    1. ไม่ใช้มือถือโดยไม่จำเป็น

    2. ใช้วิธีเปิดลำโพง หรือ สวมชุดหูฟัง (บลูทูธช่วยลดคลื่นเช่นกัน แต่ยังได้รับผลกระทบอยู่บ้างเล็กน้อย)

    3. อย่าวางมือถือไว้ใกล้ตัว

    4. เด็กจะมีกะโหลกบางกว่าผู้ใหญ่ โอกาสที่รังสีจะแผ่สู่สมองจึงมีสูง ผู้ปกครองควรเลือกเวลาที่เหมาะสมก่อนซื้อมือถือให้บุตรหลาน

    5. ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ จำเป็นต้องซื้อให้เด็กๆ อาจแนะนำให้ใช้วิธีส่งข้อความแทนยกมือถือขึ้นมาโทร.บ่อยๆ

    ไทม์ปิดท้ายบทความชิ้นนี้ ว่า สำหรับส.ส.โบแลนด์ และ ศ.ซาเด็ตสกี ประเด็นสำคัญที่ต้องการเตือน ก็คือในเมื่อยังไม่มีหลักฐานวิทยาศาสตร์ฟันธงว่า มือถือปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่

    การวางมาตรฐานป้องกันไว้ก่อน เช่น ติดป้ายเตือนระดับรังสีเพื่อให้ผู้บริโภครับทราบจึงเป็นทางออกเบื้องต้นที่ควรกระทำ



    ข้อมูล : บทความ How Safe Is Your CellPhone?, ไทม์ 15 มี.ค. 2553



    วิวัฒนาการ"มือถือ"

    1.พ.ศ.2465 : ตำรวจนครชิคาโก สหรัฐ ทดลองใช้โทรศัพท์ที่ใช้ "คลื่นวิทยุ" ซึ่งมีความถี่สูงกว่าคลื่นเอเอ็มเพียงเล็กน้อยสื่อสารกัน

    2.ทศวรรษ 2480 : ทหารสหรัฐยังใช้วิทยุสื่อสารขนาดใหญ่สมัยเกิดสงคราม

    3.พ.ศ.2502 : เรจินัลด์ เบลวินส์ อธิบดีกรมไปรษณีย์อังกฤษ เป็นประธานพิธีเปิดให้บริการโทรศัพท์ระบบคลื่นวิทยุสำหรับรถยนต์เป็นครั้งแรก

    4. พ.ศ.2515 : หนึ่งในต้นแบบโทรศัพท์มือถือยุคแรกๆ ที่ต่อสัญญาณเข้าสู่โทรศัพท์บ้านได้ เปิดตัวในกรุงลอนดอน อังกฤษ

    5. พ.ศ.2526 : มาร์ติน คูเปอร์ ผู้พัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือ โทรศัพท์มือถือเชิงพานิชย์รุ่นแรกของโลก คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ "มือถือกระติกน้ำ"

    6.พ.ศ.2531 : มือถือกระติกน้ำได้รับความนิยมแพร่หลายตามลำดับ ในภาพนี้แฟรงก์ พิคาร์ด นักกีฬาสกีชาวฝรั่งเศส ใช้มือถือรุ่นนี้โทร.กลับบ้านหลังชนะโอลิมปิกฤดูหนาว

    7.พ.ศ.2540 : บ.ฟิลิปส์เปิดตัว "มือถืออัจฉริยะ" หรือ สมาร์ตโฟนยุคแรกๆ ตั้งชื่อว่า "เดอะซินเนอร์ยี่" ใช้เชื่อมต่ออีเมล์ อินเตอร์เน็ต และแฟ็กซ์ ได้

    8.พ.ศ.2543 : บ.พานาโซนิกเผยโฉมต้นแบบเครื่องเล่นเกมที่ผสานเข้ากับโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่มีการพัฒนาต่อเนื่อง

    9. พ.ศ.2549 : มือถือกลายเป็นอุปกรณ์พกพาประจำตัวของชาวโลก อีกทั้งยังใช้งานง่ายและมีฟังก์ชั่นเสริมมากมาย รวมถึงโหมดถ่ายภาพ

    10.พ.ศ.2550 : นอกจากมนุษย์จะใช้มือถือสื่อสารทางเสียงแล้ว การส่งข้อความเอสเอ็มเอส หรือแชทผ่านมือถือ ก็ได้รับความนิยมเฟื่องฟูเช่นกัน

    11.พ.ศ.2551 : มือถือรุ่นใหม่ๆ เดินหน้าเข้าสู่ยุค "3 จี" โดยพร้อมเพรียง ช่วยให้การเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งราคายังถูกลงตามลำดับ

    หญิงมะกันพิลึก-ขออ้วนสถิติโลก



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เดลี่เมล์รายงานเมื่อ 15 มี.ค. ว่า แม้ชาวอเมริกัน จะพยายาม รณรงค์ต่อสู้กับโรคอ้วน แต่นางดอนน่า ซิมป์สัน วัย 42 ปี ในรัฐนิวเจอร์ซี เจ้าของสถิติคุณแม่ที่อ้วนที่สุดในโลกในกินเนสส์บุ๊ก ที่น้ำหนักกว่า 241 กิโลกรัม ขณะคลอดลูก เมื่อปี 2550 ประกาศจะทำลายสถิติผู้หญิงที่อ้วนที่สุดในโลกอีกหนึ่งตำแหน่ง ด้วยน้ำหนักเป้าหมายกว่า 451 กิโลกรัม

    นางซิมป์สัน ผู้มีน้ำหนักกว่า 273 กิโลกรัม ต้องใส่ชุดขนาด XXXXXXXL ใช้สกู๊ตเตอร์เป็นพาหนะช่วยเคลื่อนที่ขณะจับจ่ายในห้างเนื่องจากเดินได้แค่ 6 เมตรก็แทบลมใส่ นางซิมป์สันยืนยันว่า ตนมีสุขภาพแข็งแรง พร้อมกับชื่นชมนายฟิลิปป์ วัย 49 ปี สามีที่คอยให้กำลังใจและสนับสนุนตนมาโดยตลอด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2010
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ดินฟ้าอากาศ อยู่ที่จิตใจมนุษย์ ****

    ถ้า มนุษย์ไม่เบียดเบียนกัน ... โลก จะปรับตัวเป็นสวรรค์
    เมื่อ มนุษย์เบียดเบียนกันมาก โกงกันมาก กินกันมาก....โลก ก็ปรับตัวเป็นนรก
    มาทำลาย เผาผลาญ มาล้างผู้เบียดเบียนสัตว์โลก...เพื่อเริ่มต้นใหม่
    สัตว์โลก...คือ มนุษย์ สัตว์ ต้นไม้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ผู้ทำได้...สมัยพุทธกาล ****

    พระพุทธเจ้า ...ไม่ใช้ วัตถุมานำชีวิต
    พระพุทธเจ้า ....จึงไม่มี พิธีกรรม
    พระพุทธเจ้า.... ไม่ใช้ ความเห็น ไม่ใช้ดวงดาวโชคชะตาราหู
    แต่ พระพุทธเจ้า.... ใช้ความจริง ใช้เหตุผล ใช้สัจจะธรรม
    พระพุทธเจ้า....จึงใช้การกระทำด้วยสัจจะ เป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. CASIO12

    CASIO12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    440
    ค่าพลัง:
    +1,133
    ในที่สุด คำทำนายต่างๆ เริ่มสอดคล้องกับการพบทางวิทยาศาสตร์มากขึ้นทุกวันๆ

    เราก็คงจะหนีความจริงไม่พ้น ไม่ว่าจะปลอบใจตัวเองอย่างไรก็ตาม
    Scientists warn on climate tipping points

    <SMALL itxtvisited="1">March 17, 2009 </SMALL><!-- Main --><!-- <div id="news-main"> --><!-- google_ad_section_start -->
    (PhysOrg.com) -- A survey of top climate scientists has revealed there is a real chance of key climate tipping points being passed with serious consequences for the planet.

    Scientists warn on climate tipping points
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** น้ำมือมนุษย์ ****

    โลก ไม่สมดุลย์
    ป่า ถูกทำลาย
    สัตว์ ไม่มีที่จะเกิด
    ดวงวิญญาณ จึงมาเกิดเป็นคน
    เป็นคนสันดานสัตว์ นิสัยโหดร้ายเหมือนสัตว์

    โลก ไม่สมบูรณ์
    เพราะ โลกขาดน้ำ
    ทุกอณูทุกธาตุ จึงขาดน้ำ
    พันธุกรรม จึงผิดเพี้ยน โรคภัยมาก
    จึงต้องนำน้ำมาเพิ่ม ให้โลกสมบูรณ์เหมือนอดีต

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2010
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** อะไร ****

    คือ ตัวที่เร่งให้กรรมปรากฏเร็วขึ้น หนักหนามากขึ้น

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    ภาพในมุมที่คุณๆ ไม่ง่ายที่จะได้เห็น
    <TABLE style="WIDTH: 100%" class=ecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxecxMsoNormalTable border=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 100%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-TOP: 0.75pt" vAlign=top width="100%">

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ไปอ่านมาจากบอร์ดหนึ่ง อ่านแล้วน้ำตาไหลเลย และรักในหลวงมากขึ้นไปอีก ชีวิตนี้ขอตายแทนพระองค์ได้เลย เพื่อนๆลองอ่านดูนะ

    สาเหตุโรคพระหทัยของในหลวง...จนเกือบพระประชวรหนัก!!
    ทุกคนคงทราบกันดีว่าในหลวงทรงมีพระอาการประชวรเรื้อรังในส่วนของพระหทัย
    หากจำกันได้
    ในหลวงเคยต้องทรงรับการผ่าตัดให&shy;่มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2538
    ครั้งนั้นพสกนิกรทั้งแผ่นดินแทบไม่เป็นอันทำอะไร
    ใครๆก็รู้ว่าโรคหัวใจไม่ใช่โรคล้อกันเล่นๆ ได้
    ทั้งสมัยนั้นการผ่าตัดหัวใจก็เสี่ยงพอดู แต่ทุกอย่างก็เป็นไปโดยเรียบร้อย
    แต่ทราบกันหรือไม่ว่าสาเหตุของโรคพระหทัยเต้นผิดปกตินี้ มาจากอะไร?
    ราวปี 2530 ในหลวงเสด็จไปเยี่ยมประชาชนที่อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
    ทรงพบว่าชาวบ้านจำนวนมากเป็นโรคคอพอก
    ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทูลว่า มีการเอาเกลือเสริมไอโอดีนมาแจกประจำ
    แต่ชาวบ้านไม่ยอมใช้ เพราะไม่รู้จักก็กลัวจะเป็นอันตราย
    ในหลวงจึงรับสั่งให้นำเกลือเสริมไอโอดีนมาแจกประชาชนด้วยพระหัตถ์
    ชาวบ้านได้รับเกลือพระราชทาน จึงยอมเชื่อว่าเกลือชนิดนี้กินได้
    จนแพร่หลายต่อๆมา ปัจจุบันไม่มีคนป่วยโรคคอพอกที่สะเมิงแล้ว
    นอกจากนี้ยังทรงเสด็จขึ้น-ลงสะเมิงอีกหลายครั้ง
    เพื่อติดตามแก้ปั&shy;หาเรื่องน้ำและถนน จนชาวบ้านทำกินกันได้เป็นปกติสุข
    มีรายได้เลี้ยงชีพได้พอเพียง หากกลับเป็นพระองค์เองที่ทรงพระประชวร!
    ในหลวงทรงได้รับเชื้อไมโครพลาสม่าจากการเสด็จไปที่สะเมิงนี้เอง
    อันเป็นสาเหตุของโรคพระหทัยเต้นผิดปกติเรื้อรังมาถึงปัจจุบัน
    แม้คณะแพทย์จะพยายามเท่าใด ก็ไม่อาจถวายการรักษาให้หายขาดได้
    ทำได้เพียงถวายพระโอสถประคองพระอาการมาตลอด
    จนกระทั่งต้องทรงรับการผ่าตัดให&shy;่เมื่อปี 2538 ดังเล่ามาแล้ว
    ในหลวงเคยมีพระราชกระแสเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า...
    '
    ฉันขึ้น-ลงสะเมิงอยู่หลายปี จนได้รับเชื้อไมโครพลาสม่า
    ซึ่งในที่สุดทำให้ฉันเป็นโรคหัวใจเต้นไม่ปกติ จนเกือบต้องเสียชีวิต'
    เป็นถ้อยรับสั่งที่แสนจะเรียบง่าย ราวกับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยธรรมดาเสียเหลือเกิน!
    อ่านแล้ว...อย่าแค่ผ่านเลยไป ช่วยกันจดกันจำเอาไว้ มีเพื่อนบอกเพื่อน
    มีครอบครัวขยายต่อให้ทราบทั่วกัน อีกหน่อยมีลูกมีหลาน อย่าลืมเล่าให้พวกเขาฟังด้วยนะ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     

แชร์หน้านี้

Loading...