พลังเอกภพยูเรอัส

ตะกี้ โทร นัดกับ นายแชมป์ และ คุณกุ้งแล้ว ว่า อีกเดี๋ยว ตอน 15.00 น.
พวกเรา จะ ร่วมกัน ส่งพลังการรักษา ให้ น้อง ขิม ....พร้อมกัน
คุณขจรวรรณ ร่วมด้วยอีก คน ก็ ดี นะครับ
เพื่อนๆ คนไหน ที่ สะดวก ก็ ขอแรง ร่วมใจ กัน ส่งพลัง รักษา ขิม ตอน 15.00 น.
โดยพร้อมเพียง กัน ... นะครับ ผม

จะ ได้ ดู ผล อีกครั้ง

 

วันนี้ได้โทรศัพท์ไปคุยกับคุณรัน คุณแม่น้องขิม โดยแจ้งให้ทราบว่าพวกเราเรียนเรื่องการรักษาโรคและสามารถส่งพลังไปทำการรักษาได้เพียงรู้ชื่อ หรือมีรูป ซึ่งขณะนี้พวกเพื่อนๆได้เริ่มส่งพลังไปรักษาให้แล้ว ขอให้สังเกตุอาการของน้องขิมว่าเป็นอย่างไร แล้วอีก4-5 วันจะโทรติดตามผลการรักษา ซึ่งคุณรันได้กล่าว "ขอบพระคุณ" มาถึงเพื่อนๆทุกท่านด้วยค่ะ

 

55
พวกเรา และ เพื่อๆ ทุกคน คง ยิ้ม เหมือนผม.................... 55

 

การอบรม
พลังหินบำบัด ระดับเบื้องต้น วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00-16.00 น. ขอให้ผู้สนใจทั้งที่มีและไม่มีพื้นฐาน ขอให้ลงชื่อได้แล้วครับ (ไม่ค่อยได้เปิดสอนคอร์สนี้บ่อยๆ หลายเดือนจะสอนสักครั้ง)

1. คุณภัทรพล ......................... 1 ที่
2. คุณวันเพ็ญ ......................... 1 ที่
3. คุณโอสถ ........................... 1 ที่
4. คุณคิ้ม .............................. 2 ที่
6. คุณชัยยศ .......................... 1 ที่
7. คุณสมภพ .......................... 1 ที่
8. คุณLiquidpaper ................ 1 ที่
9. คุณ M มิว .......................... 1 ที่
10.คุณมงคล .......................... 1 ที่
11. คุณวรนุช ......................... 1 ที่
12. คุณภคปภา ....................... 1 ที่
13.<!-- google_ad_section_end -->

ปล. หากใครมีหินต้องการจะให้วิเคราะห์พลัง อย่าลืมนำติดตัวมาวันอาทิตย์ด้วย<!-- google_ad_section_end -->

 

ประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนพลังเอกภพยูเรอัส<O</O


โดย นายผดุงศักดิ์ ลิ้มไชยาวัฒน์ (kung)<O</O​

ก่อนที่ผมจะกล่าวถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนวิชาพลังเอกภพยูเรอัสนั้นอยากจะขออนุญาตเล่าถึงนับแต่วันแรกที่ได้ย่างเท้าเข้ามาภายในองค์ความรู้อันยิ่งใหญ่นี้เพื่อให้เห็นความเป็นมาแต่ต้นจนกระทั่งนับถึง ณ วันนี้
ผมแวะเวียนมาที่เว็บพลังจิตบ่อยครั้งจนกระทั่งวันหนึ่งพบกระทู้พลังเอกภพยูเรอัส ครั้งแรกก็ไม่ได้รู้สึกสะดุดอะไรมากนักสนใจอยู่แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรก็ได้แต่ตามอ่านไปเรื่อยๆ ไม่ได้สมัครเรียนรุ่นที่1 ณ ตอนนั้น ( รุ่นพี่เม้าท์คุณมี้ด ) จนกระทั่งช่วงที่อาจารย์กลับมาจากอียิปส์มีการนัดสังสรรค์กันเข้าใจว่าตอนนั้นเรียนกันระดับ 5 แล้วตอนนั้นเองผมก็เกิดแรงกระตุ้นอย่างมากมายจนต้องโพสไปสอบถามว่าขอไปร่วมฟังด้วยได้ไหมทั้งๆที่ตอนนั้นไม่รู้จักใครเลย ไปแบบดุ่มๆแบบนั้นแหละนั่นนับเป็นก้าวแรกที่ผมได้รู้จักพลังเอกภพยูเรอัสเพราะตอนที่อาจารย์ถ่ายทอดพลังให้นั้นผมเห็นตรงหน้าผากอาจารย์มีตัวอักษรวิ่งไปแบบช้าๆและตรงดวงตราแห่งแอตแลนติสปรากฏเห็นเป็นแสงสีรุ้งขึ้นพาดเหนือดวงตรานั้นซึ่งผมมาเข้าใจ (เอาเองในภายหลังว่า“ท่าน”อนุญาติให้ผมได้เห็นเพื่อกระตุ้นให้เกิดความสงสัยและอยากเรียนรู้ขึ้นมาซึ่งท่านก็ทำสำเร็จ)ผมตัดสินใจลงเรียนระดับ 1-2 ในคอร์สถัดมา นั่นคือเรื่องราวนับแต่เริ่มแรกรู้จักจนได้เข้ามาเรียนรู้และรับสัมผัสสิ่งต่างๆ<O</O

หากจะให้กล่าวถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนพลังเอกภพยูเรอัสนั้นก็คงจะไม่แตกต่างกับเพื่อนๆ ท่านอื่นๆนัก เช่น การรักษาโรค การพัฒนาจิตใจการฝึกฝนปฏิบัติขัดเกลานิสัยตัวเอง โดยจะขอชี้แจกรายละเอียดเป็นเรื่องๆดังนี้<O</O

1. ด้านการรักษาโรคเป็นที่ประจักษ์อย่างแน่ชัด ว่าพลังเอกภพยูเรอัสสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคได้แม้แต่เพียงแค่เริ่มเรียนในระดับต้นๆโดยขอยกตัวอย่างการรักษาผู้ป่วยสัก 3 ราย ทั้ง 3รายนี้ มีอาการประหลาด คืออยู่ดีๆก็หมดเรี่ยวแรงไปเลย ไม่สามารถทำงานได้ กินข้าวไม่ได้ ร่างกายผ่ายผอมหมอหาสาเหตุไม่พบ และคนไข้ใจไม่สู้ บนแต่ว่าตายแน่ลูกเดียวในใจคิดว่าเป็นพวกพลังแฝงหรือเปล่า แต่ก็ใจสู้ครับ ส่งพลังรักษาทั้ง 3 คน เพียง 3 วัน ทั้งหมดอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกลับมาเป็นปกติจนคนข้างเคียงแปลกใจนอกจากรักษาโรคที่มีอาการแปลกๆได้แล้วยังสามารถรักษาโรคที่ต้องผ่าตัดจึงจะหายได้ด้วย เช่น ข้อนิ้วล็อคมีผู้ป่วยรายหนึ่งเป็นนิ้วล็อคเคยไปฉีดยาละลายพังผืดแล้วไม่หายหมอบอกว่าต้องผ่าแล้วขูดบริเวณพังผืดออกจึงจะหายผมส่งพลังรักษาให้รายนี้ทุกวันจนอาการค่อยๆดีขึ้นใช้เวลากันเป็นเกือบเดือนจนในที่สุดไม่มีอาการปวด ขยับนิ้วได้ตามปรกติ ทำงานได้ตามปรกติแล้วผู้ป่วยดีใจมากไม่ต้องผ่าให้เจ็บ ไม่ต้องเสียตังค์แพงๆ ที่ที่สำคัญไม่ต้องเสียงหากผ่าตัดแล้วกลับมาใช้มือได้ไม่ดีเหมือนเดิมอีกเรี่องเป็นเรื่องประหลาด ผมไม่คาดคิดว่าพลังจะทำเช่นนี้ได้ด้วยนั่นคือการขยับเส้นเอ็น คนไข้รายนี้มีอาการเส้นสะบักจม ทำให้ยกแขนไม่ขึ้นและมีอาการปวดมาก เขาไม่ยอมไปหาหมอนวดเพื่อดึงเส้นขึ้นเพราะถ้าทำอย่างนั้นจะเจ็บมากเขากลับเจ็บ และกลัวหมอจับเส้นไม่ดีอาจจะมีปัญหาได้ผมก็คิดว่าอยากช่วย แค่ช่วยให้บรรเทาปวดได้ผมก็ดีใจแล้วตกลงลองรักษาโดยแตะไปตามร่องสะบักไหล่ แปลกว่ามือจะไปเองว่าควรแตะตรงไหนเพราะถ้าแตะถูกตำแหน่งปลายนิ้วจะเต้นกระตุกเป็นจับหวะแรกๆก็แค่หวังว่าช่วยบรรเทาปวด แต่คนไข้ขยันมาให้แตะทุกวันผมก็รักษาให้ทุกวันจนกระทั่งวันที่ 3 สังเกตว่าเส้นตรงที่จมนั้นขยับได้โดยขยับไปขยับมาหลังจากนั้นจึงมั่นใจคิดว่าเส้นคงจะหลุดออกมาได้รักษาอยู่อย่างนั้นประมาณ 1 เดือนวันนั้นเส้นก็ขยับไปตามปรกติแล้วก็หลุดออกจากตำแหน่งที่ติดดังตึกคนไข้ร้องเฮ..หลุดแล้ว ดีใจ ตกลงหายได้แต่ใช้เวลานานหน่อยด้านการรักษาโรคคงพอแต่เพียงนี้เพราะมีกรณีรักษามากจะเป็นการเยิ่นเย้อเกินไป

2. ด้านการเรียนรู้ผลจากการรักษาผู้ป่วยและการรักษาผู้ป่วยเป็นการบำเพ็ญบารมีจุดนี้นับเป็นคุณประโยชน์อย่างสูงยิ่งเพราะในการรักษาผู้ป่วย เราต้องทนกับสภาวะต่างๆ สมัยเมื่อยังใช้มือแตะบางครั้งผมรักษาคนติดๆกัน 5-6 คน ซึ่งเมื่อยมากรักษากันจนข้อมือและแขนปวดเมื่อยไปหมดเราต้องรับรู้ปัญหาของผู้ป่วยช่วยพูดคุยเหมือนเป็นที่ปรึกษา จนเรารู้ว่าทุกชีวิตไม่ว่าคนว่าสัตว์ ล้วนแต่อยู่ในสภาพที่เหมือนกันหมด คือ ล้วนแต่ต้อง เกิดแก่ เจ็บ ตาย ต้องเผชิญกับ ความทุกข์กาย ทุกข์ใจ ต้องทนอยู่ในสภาพที่ถูกบีบคั้นเมื่อรู้ได้ดังนี้แล้ว ก็ไม่รู้จะโกรธเกลียดกันไปอีกทำไม จะเบียดเบียนกันไปอีกทำไมฯลฯ จะว่าไปการที่เราตั้งใจรักษาคนโดยที่ไม่หวังสิ่งใดตอบแทนนั้นเป็นการบำเพ็ญบารมีในหลายๆ ด้านมาก ผมขอยก บารมี 10 ทัศ มาเป็นตัวอย่างครับ คือ<O</O

1. ทานบารมี คือ การให้ การเสียสละเราได้เสียสละเวลาส่วนตัวมาช่วยคนโดยเต็มใจ <O</O
2. ศีลบารมี คือการรักษากาย วาจา ให้เรียบร้อยมีความประพฤติดีงามถูกต้องตามศีล <O</O
3. เนกขัมบารมี คือ การออกบวชหรือการงดเว้นจากความชั่วทางกาย วาจา ใจ <O</O
4. ปัญญาบารมี คือ ความรอบรู้และเข้าใจสภาวะของสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง <O</O
5. วิริยบารมี คือ ความเพียรพยายาม <O</O
6. ขันติบารมี คือ ความอดทน สามารถใช้สติปัญญาควบคุมตนให้อยู่ในเหตุผล <O</O
7. สัจบารมี คือ การพูดจริง ทำจริงและมีความจริงใจ <O</O
8. อธิษฐานบารมี คือ ความตั้งใจมั่นการตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวและการดำเนินชีวิตตามจุดมุ่งหมายอย่างแน่วแน่<O</O
9. เมตตาบารมี คือ ความรักความปรารถนาดีต่อผู้อื่นๆ<O</O

10. อุเบกขาบารมี คือการวางใจเป็นกลางไม่เอนเอียงไปด้วยความยินดียินร้าย <O</O
ว่าไปแล้วการช่วยรักษาคนนี้เกือบเข้าข่ายทุกข้อเลยครับนี่คือการรักษาแบบต่อหน้า เรามีโอกาสได้เห็นผู้ป่วย ได้พูดคุยได้ถ่ายทอดความรู้สึกรับรู้รับทราบปัญหาของผู้ป่วย ผมจึงชอบที่จะรักษาคนแบบ เดิมๆมากกว่าการรักษาทางไกลครับ
3. ด้านการยกระดับจิตวิญญาณจากข้อที่ 2.จิตวิญญาณเราจะถูกปรับไปโดยอัตโนมัติโดยบางครั้งเราแทบไม่รู้ตัวนิสัยเสียๆ นิสัยแย่ๆจะค่อยๆน้อยลงไปโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ การรับพลังที่บริสุทธิ์ที่เป็นความรักที่แท้จริงบ่อยครั้งเข้า พลังนั้นก็เข้าไปค่อยๆ ปรับคลื่นของจิตวิญญาณเราให้มีคุณสมบัติเหมือนพลังงานนั้นๆ ดังเราจะเคยได้ยินว่า“การเข้าใกล้หรือใกล้ชิดสิ่งใดคุณสมบัติของสิ่งนั้นๆย่อมถ่ายเทเข้าหากัน”คิดง่ายๆว่าถ้าคนรอบๆตัวเรามีแต่คนดีๆ มีวิธีคิดดีๆมีมุมมองที่ดีๆ เราย่อมค่อยๆซึมซับ และกลายเป็นคนดีๆขึ้นมาได้ ตามคำพูดที่ว่าคบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล
4. ด้านอื่นๆ เช่นการเกษตรด้านนี้เป็นที่ประจักษ์จากการทดลอง และทำการบ้านส่งอาจารย์แม้ขณะนี้ยังไม่ได้ทำอะไรขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง แต่ผมก็รู้แน่ชัดแก่ใจว่าหากวันหนึ่งหากผมต้องเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตพืช เพื่อเป็นอาหารของคนผมก็สามารถผลิตอาหารที่ดีมีคุณภาพได้โดยส่งผลดีๆถึงผู้บริโภคด้วย(ส่วนด้านปศุสัตว์ขออย่าได้ยุ่งเกี่ยวเลยด้วยเถิด...สาธุ) หรือไม่แน่ผมอาจปลูกผักกินเองช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอีกทั้งได้พืชเสริมพลังกินเพิ่มสุขภาพก็ได้ครับแต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้ เพราะสถานที่ไม่อำนวยเลยนอกจากนี้ยังมีในอีกหลายเรื่องซึ่ง ครู ทั้ง 2 ท่านได้อบรมสั่งสอนเราขัดเกลาเราโดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย กราบขอบพระคุณครับ
สุดท้าย ผมขอ กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกๆพระองค์ ครูบาอาจารย์และทุกๆท่านที่มีส่วนช่วยดึงผมเข้ามาสู่เส้นทางนี้

<O</O

ด้วยจิตคารวะ
นายผดุงศักดิ์ ลิ้มไชยาวัฒน์ (กุ้ง)
3 กุมภาพันธ์ 2553<O></O>

 

กำลังเขียนให้ค่ะอาจารย์ อาทิตย์ที่ผ่านมางานวุ่นมากมายกลับมืดทุกวัน เพิ่งจะมีโอกาสได้เขียนวันนี้เอง เดี๋ยวจะทำให้เสร็จและส่งก่อนไปอุดรค่ะ

เดี๋ยวทำบุญเผื่ออาจารย์ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆนะคะ

 

อาจารย์ครับ ลงชื่อเข้าอบรม พลังหินบำบัด 1 ที่ครับ

 

ส่งการบ้านแล้วครับ

 

ในที่สุดการบ้านก็เสร็จทันก่อนออกเดินทางพอดิบพอดี

จะไปทำบุญอย่างหมดห่วงเรื่องการบ้านแย้ว..


Go Go..

 

ประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียน พลังเอกภพยูเรอัส<O</O​

นายเอกชัย ไฝสิงห์ (PIKARZO)<O</O
<O
จากการที่ผมได้มีโอกาสไปเรียนรู้วิชาพลังเอกภพยูเรอัส ตั้งแต่ระดับ1 จนถึงระดับ5 ในปัจจุบัน<O</O
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้และเกิดเป็นประโยชน์ต่อตนเอง พอจะ แยกเป็นหัวข้อได้ดังนี้ครับ<O</O
1.การรักษาโรคภัย ต้องยอมรับว่าช่วงแรกของการเรียนผมยังไม่มีโอกาสได้รักษาผู้ป่วย ด้วยความยังไม่แน่ใจ<O</O
ในสิ่งที่เรียนรู้ และข้อจำกัดที่ต้องแตะรักษา ทำให้กลัวว่าเมื่อไปรักษาผู้อื่น ถ้าเขาไม่หาย แล้วเขาจะหาว่าเราบ้า แต่ด้วยคำสอนของอาจารย์ย่อมมีทางออก ผมได้มีโอกาสรักษาผู้ป่วยรายแรกของผม ซึ่งไม่ใช้คนป่วย แต่กลับเป็นแมวครับ แมวที่มักจะมากินข้าวที่บ้านทุกวัน พอดีว่าวันนั้นผมเห็นมันเดินผิดปกติ พอสังเกตดูจึงรู้ว่า มันมีอาการเท้าบวม ผมจึงได้นึกถึงสิ่งที่เรียนมา จึงได้ส่งพลังโดยการแตะรักษาที่เท้าของแมว ทำอยู่ประมาณ 2 วัน อาการบวมก็ลดลง และพอถึงวันที่5 อาการบวมที่เท้าก็หาย และ ก็สามารถเดินได้ตามปกติ ซึ่งทำให้ผมมีความเชื่อมั่นมากขึ้น สำหรับการแตะรักษาคนป่วย ได้มีโอกาสรักษาบาดแผลที่เกิดจากน้ำร้อนลวก โดยเมื่อส่งพลังรักษา พบว่าอาการปวดแสบ และบวมลดลง เมื่อส่งรักษาอยู่ 3 วันบาดแผลก็แห้งสนิทและไม่มีอาการแสบร้อน <O</O
ต่อมาเมื่อผมได้เรียนรู้ถึงระดับ 5 ซึ่งสามารถส่งพลังรักษาได้โดยไม่ต้องใช้การแตะ ทำให้ได้มีโอกาส รักษาคุณพ่อ <O</O
ซึ่งปกติท่านไม่เชื่อเรื่องประเภทนี้อยู่แล้ว โดยอาการป่วยของท่านมีอาการอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยหลัง ก็ได้ส่งพลังรักษาโดยการส่งทางจักระ 6 และก็คอยแอบถามอาการ หลังจากส่งรักษาประมาณ 5 วัน ท่านก็มีสุขภาพดีขึ้น สดชื่นมากขึ้น รวมทั้งอาการปวดที่หลัง ก็หายไป ทำให้ผมรู้สึกอิ่มเอมใจกับสิ่งที่ได้ทำ แม้ท่านจะไม่ทราบก็ตาม และผมก็มั่นใจอย่างยิ่ง ว่าพลังเอกภพยูเรอัส สามารถช่วยรักษาโรคภัยได้ <O</O
2. สุขภาพตัวเองแข็งแรงขึ้น ผมสังเกตตัวเอง ว่าปกติ จะเป็นคนปวดหัวบ่อย และมักมีปัญหาเกี่ยวกับ<O</O
ช่องท้อง เช่น ท้องเสีย ท้องอืด บ่อย แต่ว่าตั้งแต่ผมได้มาเรียนรู้พลังเอกภพยูเรอัส อาการปวดหัวเกิดขึ้นน้อยลงมาก และ อาการที่เกิดก็ไม่เจ็บปวดมากเหมือนแต่ก่อน ทั้งนี้น่าจะมาจากการได้ทำสมาธิ ฝึกหมุนจักระ และ <O</O
การคิดปฏิบัติในการช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้น ทำให้จักระ7 มีการกระตุ้นอยู่ตลอด มีจิตใจเป็นสมาธิมากขึ้น แจ่มใสมากขึ้น และไม่เครียดกับสิ่งต่างๆ เหมือนแต่ก่อน สำหรับปัญหาช่องท้อง ที่มีอาการลดลง น่าจะเกิดจากการที่ได้ส่งพลังขับล้างสารพิษในอาหารก่อนรับประทานอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งการกระตุ้นหมุนจักระของตนเอง <O</O
3. เรียนรู้เรื่องเจ้ากรรมนายเวรจากการที่ได้ส่งพลังรักษาอาการป่วยของคนป่วย และการได้เรียนรู้จากกรณีศึกษาจากทั้งท่านอาจารย์ รวมถึงเพื่อนๆ ทำให้ทราบว่า ในกรณีที่ส่งพลังรักษาไปไม่ได้ แม้เราอยากช่วยรักษาอาการป่วยของเขาก็ตาม ส่วนหนึ่งมันเป็นผลมาจากเจ้ากรรมนายเวรของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นกรรมที่<O</O
แต่ละบุคคลได้กระทำมา ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าคนเราย่อมมีกรรมติดตัวมา เราอาจไม่ทราบว่าเราทำอะไรไว้ในอดีต ทำกรรมชั่วไว้แค่ไหน เราถึงต้องมารับผลของกรรมในรูปแบบต่างๆ แต่ในชีวิตปัจจุบันที่อยู่นี้ เราสามารถเลือกปฏิบัติแต่กรรมดี เพราะเราได้เห็นแล้วว่า เมื่อเราได้ทำกรรมชั่ว สุดท้ายเราก็ต้องรับผลของการกระทำนั้น <O</O
4. ขัดเกลาทางความคิด มีเมตตามากขึ้นประโยชน์ในข้อนี้ ผมคิดว่าเป็นประโยชน์มากที่สุดที่ผมได้รับจากการเรียน การที่ผมได้รับการถ่ายทอดความรู้ในเรื่องพลังเอกภพยูเรอัสใน แต่ละระดับที่สูงขึ้น ทำให้ผมสัมผัสได้ว่าผมมีความสามารถต่างๆมากขึ้น ซึ่งก็ทำให้รู้สึกว่าเรามีความสามารถมากกว่าคนอื่น สนุกกับเรื่องความสามารถพิเศษที่ทำได้ สัมผัสได้ ซึ่งคงจะหลงลืมไปว่าเป้าหมายแท้จริงแล้วเรามีความสามารถพิเศษนี้เพื่ออะไร ด้วยคำสอนของท่านอาจารย์ทั้งสองท่าน ที่คอยเตือนสติ ให้ผมรู้จักใช้ความสามารถนี้ในสิ่งที่ควรทำ <O</O
ผมขออนุญาต นำคำสอนบางส่วนที่อาจารย์ได้กล่าวเพื่อเตือนสติ มากล่าวในทีนี้ครับ<O</O
1. “อย่ามัวแต่แข่งกันเรื่องพลัง เราควรแข่งกันว่า ใครมีเมตตามากกว่ากัน”<O</O
2. “จะมีประโยชน์อะไรถ้าเรียนรู้ไปแล้ว ไม่นำไปใช้ ไปช่วยเหลือผู้อื่น”<O</O
3. “ เมื่ออยู่รวมกัน เรายังไม่ช่วยเหลือกันเลย แล้วเราจะไปช่วยเหลือคนอื่นได้อย่างไร”<O</O
4. “เราควรรักที่จะให้ มากกว่า รักที่จะรับ”<O</O
<O</O
โดยส่วนตัว ผมพบว่า ตัวผมเองมีสติมากขึ้น อยากช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้น เห็นเหตุการณ์อะไรเข้ามาที่ตัวเราซึ่งสามารถส่งพลังช่วยเหลือได้ จิตก็จะบอกตัวเองขึ้นมาทันที เช่น มีอยู่วันหนึ่งผมขับรถผ่านเหตุการณ์อุบัติเหตุ <O</O
รถเฉี่ยวชนกัน มีผู้บาดเจ็บอยู่ข้างถนน จิตก็สั่งทันทีว่า ให้ส่งพลังช่วยเหลือและรักษา หรือการเห็นผู้เจ็บป่วยทางโทรทัศน์ก็ดี สื่อต่างๆ หรือการบอกกล่าวก็ดี จิตจะบอกว่าเราช่วยเหลือเขาได้นะ ด้วยสิ่งทีเราเรียนรู้มา <O</O
การช่วยเหลือ ไม่มีขอบเขตจำกัดจริงๆครับ ไม่ว่าจะเป็น สัตว์ ต้นไม้ คน ทั้งรู้จักและไม่รู้จัก ชนชาติเดียวกันก็ดี ต่างชนชาติก็ดี แม้กระทั่ง ดวงจิตวิญญาณ เราก็สามารถส่งจิต ส่งพลัง ช่วยเหลือได้ และเป็นการช่วยเหลือที่ไม่ได้มีผลตอบแทนอะไร เหมือนคำที่อาจารย์กล่าวว่า การกระทำนี้ คือ “การปิดทองใต้ฐานพระ“<O></O
สำคัญอยู่ที่จิตเรา ว่าเราพร้อมช่วยเหลือเขาแค่ไหน เรามีเมตตาจริงๆหรือเปล่า <O</O
ทุกคำสอนช่วยขัดเกลาจิตผมให้ละเอียดขึ้น และมีเมตตามากขึ้นกว่า ก่อนที่จะมาเรียน เป็นอย่างมากครับ<O</O
<O
สุดท้ายนี้ผมขอ ขอบพระคุณ ท่านอาจารย์กิตติชัย และ ท่านอาจารย์จิตรา รวมทั้งครูบาอาจารย์ทุกท่าน ที่ได้นำความรู้พลังเอกภพยูเรอัสมาถ่ายทอด และทุกคำสอนที่กระตุ้นเตือนใจ ให้ผมมีโอกาสคิดดี ทำกรรมดี และขอขอบคุณ เพื่อนทุกท่านที่ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้จากการเรียนรู้ <O</O

 

เรียนอาจารย์ครับ

ส่งการบ้านแล้วครับในวันนี้ (||)(||)

ในวันทำงาน งานยุ่งมาก จนอยากหายใจทางผิวหนังแล้วครับ (ถ้าทำได้) เลยส่งให้อาจารย์ในวันสุดท้ายเลยครับ

 

ส่งการบ้านแล้วครับ ขอบคุณอาจารย์มากครับที่ได้เตือนสติ ขอบคุณครับ

 

ด้วยความเคารพนับถืออาจารย์ครับ ตั้งแต่ที่ได้เริ่มเรียนระดับที่ [FONT=&quot]1 จนถึงระดับ 5 และพยายามจะเรียนเพิ่มเติม อาจเป็นเพราะอย่างที่อาจารย์เคยบอกผมว่าสิ่งที่จะทำให้เรามาเรียนได้ หรือไม่ได้นั้น อยู่สองทางคือ “ทางโลก หรือทางธรรม” เพราะจากที่เคยได้สัมผัส ทำให้เข้าใจในสิ่งที่เผชิญ จนได้แง่คิด และรู้เท่าทันว่า ตัวเราเองนี่แหล่ะ ไม่ใช่ใครอื่น ทุกอย่างย่อมมีวิบากกรรม อยู่ที่เราเองเป็นคนตัดสินใจ ความพยายาม และตั้งใจอย่างมุ่งมั่นเท่านั้นที่จะฝ่าไปได้ ผลที่ได้รับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่าไปคาดหวังว่าต้องสำเร็จอย่างนู้นอย่างนี้ ทำให้รู้จักคำว่าประมาณตน อาจารย์ให้เขียน[/FONT]เรื่องประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนวิชานี้ในแง่ร่างกายและจิตวิญญาณ [FONT=&quot]ก่อนอื่นผมคงต้องแนะนำลักษณะนิสัยแต่เดิม เพราะจะได้เป็นข้อเปรียบเทียบก่อนได้เรียน และหลังจากที่ได้รับความรู้ และเข้าใจถึงระดับ 5 ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรครับ เดิมผมมีนิสัยช่างสังเกต ช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต และไม่มีชีวิต น่าจะครอบคลุมได้หมด แต่นิสัยดังกล่าวบางครั้งส่งทั้งผลดี และไม่ดี มาที่ผม ทำให้การช่วยเหลือในบางครั้งสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง ที่สำเร็จ คือ ใช้สมาธิ สติ และปัญญา ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างรวดเร็วในสิ่งที่ต้องเผชิญในลักษณะอุบัติเหตุบ้าง หรือต้องแก้ไข ณ ปัจจุบันทันด่วนจริงๆ สามารถทำได้ดี โดยใช้ทั้งกาย ใจ สมาธิ เช่น ช่วยคนที่เกิดอุบัติเหตุ แขนกระดูกหัก 2 ท่อน รีบทำการเข้าช่วยเหลือ ปฐมพยาบาล และส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว โดยการขับรถอย่างไร ให้เร็วและปลอดภัยกับผู้โดยสารทุกคน ซึ่งเป็นการช่วยเหลือ แบบใครก็ไม่รู้ และมีผมคนเดียวที่ทำการช่วยเหลือ ทำให้ลำบากพอสมควร แต่ผลที่ได้รับคือ ความสุขเมื่อเห็นทุกอย่างปลอดภัย และอีกหลายเดือนก็ได้พบคนที่เราได้ทำการช่วยเหลือ เค้าก็รู้สึกดีกับเรา ส่วนที่ไม่สำเร็จ คือ ได้คิดไปเองว่าเรามีประสบการณ์ที่เพียงพอแล้วที่จะทำการรักษาระยะไกล และมีจิตใจที่อยากช่วย จึงลองทำการทดลองส่งไปช่วย ที่โรงพยาบาล ผู้ป่วย ป่วยเป็นมะเร็งขึ้นสมอง เพศชาย เป็นพ่อของเพื่อน ได้เริ่มทำการรักษา ก่อนที่จะได้รู้จักถึงความรู้ที่อาจารย์ได้สอน ทำให้เกิดความประมาท ระหว่างตอนส่งได้มีบางอย่างส่งกลับมา และทำให้ตัวเองเป็นอัมพาตครึ่งซีกขวา ชา และขยับไม่สะดวก ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง จึงได้รู้ว่าเกิดสิ่งผิดปรกติ กับเราแล้ว จึงทำการตรวจสอบ ได้รับรู้ว่า เจ้ากรรมนายเวรของผู้นั้น เอาจริง ผมทำสมาธินานพอสมควร จึงหลุดจากสภาพดังกล่าวได้ และไม่รู้ว่าจะปรึกษาใครได้บ้าง แต่ก็เป็นประสบการณ์หนึ่งที่ทำให้ต้องระวังตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะทำอะไร ต่อให้เรามีจิตใจเมตตามากน้อยเพียงไร ก็ต้อง ”ไม่ประมาท” นั้นเป็นประสบการณ์จากผม ก่อนได้รับการเรียน และสอนจากอาจารย์ครับ เมื่อได้เริ่มเรียน รับรู้ และเข้าใจ ผลที่ได้รับถือว่า ได้เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองก่อน ว่าภายในตัวเราเองมีสิ่งที่ต้องพิจารณา เพื่อเพิ่มศักยภาพ และจัดระเบียบ ระบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นจักระต่างๆ การรับเข้า และส่งออก ความคิด คือ การคิดก่อนทำ การขอเจ้ากรรมนายเวร มีสติ คือรู้ว่าต้องทำอะไร ไปไหน อย่างไร มีปัญญา คือ ปัญหามีแก้อย่างไรให้ถูกต้อง และนำประสบการณ์ที่เคยได้รับรู้จากตัวเอง และผู้อื่นมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด เพื่อบรรลุผลในการช่วยเหลือ แต่ข้อดีอีกอย่างหนึ่ง ที่ได้รับ คือ การส่งแบบทีม ผมชอบมากรู้สึกมีกำลังทั้งกาย ใจ ในการส่ง รู้สึกแข็งแรงมากขึ้น เพราะการทำแบบนี้ รู้สึกได้ว่าใครเกิดอะไรขึ้นก็ยังมีสิ่งที่อยู่ข้างเรา คอยดูเรา และสามารถส่งให้แก่กันได้ด้วย ถ้าเกิดเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นที่ซับซ้อนมากกว่าที่เจอ อาจเป็นเพราะขาดประสบการณ์ จากที่กล่าวมาเป็นเพียงข้อสรุป ที่ออกมาเป็นหัวข้อ แต่ก็มีบางสิ่งที่ได้รับรู้ ทั้งเข้าใจ และยังอีกมากที่ยังไม่เข้าใจ ในบทเรียนที่เกิดขึ้นมาเอง ที่ไม่ได้อยู่ในบทเรียนก็มี สิ่งสำคัญที่ผมคิด คือ การได้แลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ได้รับรู้มา เพื่อเป็นปัญญาในการรับมือ และแก้ไข สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา คำว่า “ให้....โดยไม่มีเงื่อนไข” เป็นคำที่มากมาย จนนับไม่ได้ ทำให้ผมได้เข้าใจถึงสิ่งที่อาจารย์ได้สื่อออกมา แม้จะเป็นส่วนเล็กๆ ก็ตาม แต่ส่งผลกระทบมากมายมหาศาล คำพูดนั้นไม่เพียงแต่นำมาใช้ในชั้นเรียน แต่สามารถนำมาใช้ได้กับทุกคน สิ่งที่สำคัญ คือ ต้องนำมาใช้ให้เป็น ขอบคุณอาจารย์ทั้ง 2 ท่านเป็นอย่างสูงครับ[/FONT]
[FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot]Nutthakit<O></O>[/FONT]

 

เรื่องเล่า เช้านี้

เช้า นี้ ตื่น ขึ้นมา พร้อม กับ ข้อความหนึ่ง

ไม่ ได้ ฝันไป ......................นะ..
เป็น ข้อความ ที่ พอกำลังจะตื่นขึ้นมา ก็ ติด มาด้วย

เป็นเรื่อง
" การทำองค์กร การกุศล .... ทำให้เติบโตได้ยาก เพราะไม่มีรายได้
และยัง ต้องรับความเห็น คน หลายฝ่าย จน ทำอะไร ไม่ค่อยจะได้

ทำธุรกิจ ที่ สร้างประโยขน์ ให้ แก่สังคม ซิ
มีกำไร ทำให้ ขยายประโยชน์ และ เติบโต ได้ "

นี่แหละ การสร้าง ความดี แบบ มืออาชีพ Professional..................................... อิ อิ


เห็นที จะได้ เปิด บริษัทใหม่ รึ เปล่า นี้

บริษัท เฮง เฮง เฮง ไม่ จำกัด......................

ชื่อ นี้ ต้อง ไป จดทะเบียน ขอจองชื่อ ก่อนไหม นี่...................... 55

 

อาจารย์ขา

จ๋าส่งการบ้านแล้วนะคะ
email ไปที่ yahoo ของอ.ค่ะ ตอน 23:52 กว่าๆ ยังไม่ 60 หรอกค่ะ

แหม ก็อ.รีบตัดบทก่อนเลยว่า

..เลยไป 1 นาทีครูก็ไม่รับ.. (เลยไป 2 นาที ok ใช่ป่าวคะ)

มีใครเลย 2 นาทีมั้ยเอ่ย

จ๋าว่า ของจ๋าคนสุดท้ายแน่เลย...
มีพิมพ์ผิดบ้างนะคะ
พิมพ์ไม่เป็นค่ะ ใ ช้ เ ว ล า น า น ม า ก ก ก ก ก

 

ช่าง เจรจา ดี นัก
น่าจะ โดน ไม้เรียว สักที ..... 55

 

พรปู่ ไม่เอา ไม่เอา ...
พวกหายใจทางผิวหนังเนี่ย มันตระกูลตัวปล้องๆ/หนอนตัวกลมนา ฮา...
กลับมาเป็นพวกเดียวกันเห๊อะ

V
V
V

ใส้เดือนหายใจทางใหน [ ข้อมูล ปัญหาคาใจ]
หายใจทางทิศตะวันออกเฉียงตก ล้อเล่น ก้ทางผิวหนังไง. เลปตอน 9 มิ.ย. 2552, 13:05:44
แจ้งการละเมิด. ผิวหน้งจ้า เพราะงั้นไส้เดือนถึงตัวไม่แห้งไง ประกันได้เลย ...
surisan 9 มิ.ย. 2552, 6:01:23 7 คำตอบ มีการดู 556 ครั้ง
ทำไมไส้เดือนจึงขึ้นมาบนดินเมื่อฝนตก [ ทั่วไป]
26 มี.ค. 2009 ... เพราะไส้เดือนหายใจทางผิวหนังถ้าอยู่ในโพรงจะทำให้ขาดอากาศหายใจ จึงจำเป็นต้องขึ้น
มาเอาอ็อกซิเจนเพื่อใช้ในการหายใจ ...
wooddy 26 มี.ค. 2552, 16:56:10 8 คำตอบ มีการดู 867 ครั้ง

 

<TABLE class=tborder id=post2948833 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_2948833 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ JINTAWADEE
วันที่กำหนดทำสมาธิ คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวิธีการแก้พันธะสัญญา 14 ปี
ทำไมกระทู้นี้จึงต้องเปิดเดือน กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเดือนแห่งความรัก และวันที่ 14 กุมภาพันธ์ คือ "วันแห่งความรัก" เป็นวันที่พลังแห่งความรักถึงจุดสูงสุด เพราะวันนั้นเป็นวันที่ทั่วทั้งโลกจะอบอวนไปด้วยความรักที่ทุก ๆ คนส่งให้กัน การส่งพลังงานความรักในวันนั้นจะให้ผลสูงสุด เปรียบเสมือนคนทั้งโลกส่งความรักพร้อม ๆ กัน ส่วนเวลา จะถูกแจ้งโดย LD 411

ด้วยรัก

JP 499
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ขอทุกท่านได้โปรดร่วมใจแผ่เมตตา และเจริญเมตตาอัปมาณฌาณ เพื่อเพิ่มพลังทางด้านบวกให้เข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 22:22

ยินดีต้อนรับทุกท่านด้วยความรัก

LD411<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> <SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("2948833")</SCRIPT> </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=thead>JINTAWADEE</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ดูรายละเอียดของ</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ส่งข้อความส่วนตัวถึงคุณ JINTAWADEE</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ค้นหาโพสเพิ่มเติมของ JINTAWADEE</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>Add JINTAWADEE to Your Contacts</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>JINTAWADEE Donation Stats</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>View JINTAWADEE's Videos </TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE class=tborder id=post2950020 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> วันนี้, 11:28 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #71 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->JINTAWADEE<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2950020", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Sep 2007
ข้อความ: 761
พลังการให้คะแนน: 249


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2950020 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ข้อความจาก LD411 ถูกส่งผ่านมาเวลา 00.17 a.m.


ข้อแนะนำในการทำสมาธิ

1. ทำเดี่ยว
2. จัดเป็นกลุ่ม คือนัดหมายภายในกลุ่มของท่าน ทำพร้อมกัน ที่เดียวกันเป็นกลุ่ม

3. ทำโดยอาศัยระบบการสร้างสนามแม่เหล็ก ***โดยผู้ที่ทำเดี่ยวทุกท่าน กรุณาทำสมาธิในเวลา 22.22 น. พร้อมกัน ในขณะนั้นให้แต่ละท่านระลึกถึงความรัก ความเมตตาโดยไม่มีประมาณ นึกถึงบุญกุศลทั้งหลายที่พร้อมจะแผ่ออกไปสู่โลกและจักรวาล พร้อมกับนึกถึงชื่อของสมาชิกที่ท่านปรารถนาจะเชื่อมพลังสนามแม่เหล็กด้วยอีก 2 ท่าน (พลังงานจะถูกเชื่อมต่ออัตโนมัติตามความคิดและจินตนาการของท่าน และต้องเป็นท่านที่ทำสมาธิในเวลาเดียวกันนั้นด้วย จะต่างสถานที่ไม่สำคัญ) และทำไมต้องเป็นอีก 2 ท่าน เพราะในขณะที่พลังงานของท่านเชื่อมต่อกับบุคคลที่ท่านนึกถึงอีก 2 ท่าน จะก่อให้เกิดพลังสนามแม่เหล็กรูปปิรามิดขึ้นมา (สามเหลี่ยม) อันจะสร้างคลื่นพลังงานจำนวนมหาศาลให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะในเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่พลังงานแห่งความรัก และชัยชนะถึงจุดสูงสุด จะก่อให้เกิดพลังแห่งความรักมากมายมหาศาล และยิ่งมีคนปฏิบัติสมาธิด้วยวิธีการนี้มากขึ้นเท่าไร จะก่อให้เกิดพลังงานรูปสามเหลี่ยมปิรามิดมากมายขึ้นเท่านั้น (คือ 1 ท่านเมื่อเชื่อมพลังเข้ากับอีก 2 ท่าน จะก่อพลังรูปสามเหลี่ยมปิรามิด 1วง ถ้า 100 ท่าน คือ 100 วง หรือ 1000 ท่านก็คือ 1000 วง เช่น จินตวดีเชื่อมกับลิตเติ้ลดั๊กเชื่อมกับคุณ SU RA ก่อให้เกิดพลังงานรูปปิรามิ 1 วง คุณ SU RA เชื่อมต่อลิตเติ้ลดั๊ก เชื่อมต่อ MEAD ก่อให้เกิดอีก 1 วง ลิตเติ้ลดั๊กเชื่อมต่อจินตวดี เชื่อมต่อ ชยุต ก็ก่อให้เกิดอีก 1 วง เป็นต้น) และเมื่อเกิดพลังงานรูปปิรามิดซ้อนตัวกันหลาย ๆ วง และแต่ละวงจะสร้างพลังงานแห่งความรักและความเมตตาตามจิตปรารถนาของท่าน โดยพลังในรูปปิรามิดจะให้พลังงานมหาศาลกว่าปกติหลายเท่าตัว และยิ่งมีหลายวงมากขึ้นเท่าไรก็จะก่อตัวให้เกิดประจุไฟฟ้าบวกจำนวนมากมายมหาศาล แผ่เข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลกและจักรวาลมากขึ้นเท่านั้น


ดังนั้นช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของโลก ข้าพเจ้าขอร้องทุกท่านจากใจจริงที่ไม่ได้หวังผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น ทุก ๆ ท่านได้โปรดหยุดการแบ่งแยกสาย และกลุ่มไว้ก่อน ขณะนี้ได้เวลารวมใจของพวกเราทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียว การกระทำของทุกท่านในครั้งนี้จะเป็นการช่วยโลกให้พ้นจากหายนะได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "การส่งความรักอันปราศจากเงื่อนไข และความเมตตาอันไม่มีประมาณออกสู่ชั้นบรรยากาศ พร้อม ๆกัน และ ในเวลาเดียวกัน"


"เวลาเหมาะสม และวิธีการเหมาะสม พลังจะถูกเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ"

พวกเราจะไม่ลองช่วยกันดูหรือ<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>
​

 

คริ คริ
ไม้เรียว แปร๊บแปร๊บ แสบๆ คัน คัน
:'( :'( :'( :'(

 

เมื่อวันอาทิตย์ ได้สร้อยข้อมือ มณีใต้ดิน แบบคละ 7 สี จากยูเรอัสมา ไม่ผิดหวังเลยครับ (แต่ยังเขินๆ เพิ่งใส่สร้อยข้อมือครั้งแรก ใช้แขนเสื้อบังอยู่ 5555)