เรื่องราวที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยรู้

ครับ ขอขอบคุณมากครับ และขอให้ทุกๆท่านมีกำลังใจในการปฏิบัติ _/\_

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ขอพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ขอพระธรรมเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ขอพระสงฆ์เป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า

ในยามที่ท้อแท้ หมดหวัง หมดกำลังใจ เรายังมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
เป็นที่พึ่ง ขอให้ทุกท่านจงบำเพ็ญบารมีต่อไปจนยิ่งยวดเทอญ

 

ผมคิดอยู่ว่ามันก็น่าแปลกที่ทฤษฎีที่ผมคิดเกี่ยวกับระบบมโนมยิทธิ (เขียนถูกหรือเปล่า) และสิ่งที่หลวงพ่อฤาษีท่านประสบนั้นบังเอิญดันตรงกับ Aunyasit พอดีทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้มีญาณรู้เห็นอะไร. และทฤษฎีอื่นๆเกี่ยวกับจิตและโลกวิญญาณก็เช่นกันคือเท่าที่ได้อ่านจากกระทู้นี้ก็บังเอิญไปตรงกับที่ผมคิดอยู่มากเหมือนกัน. สมมติว่า (อย่าถือโทษผมนะ) ถ้าคุณ Aunyasit ไม่ได้มั่วจริงแล้วสิ่งที่ท่านรู้มานั้นเป็นเรื่องจริงตามบุญบารมีก็แสดงว่าผมมาได้ถูกทางแล้ว. แต่ถ้าไม่ใช่ผมก็แห้วไป (ก็ไปตามรู้ผู้รู้อีกหลายๆท่านแล้วมาเปรียบเทียบว่าทำไม, ตรงกับที่เราคิดหรือไม่อย่างไรคล้ายๆกับหลักวิทยาศาสตร์). โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยจะเชื่อใครง่ายๆสักเท่าไหร่ (แต่ในพระไตรปิฎกผมเชื่อนะ).

บางที่ท่านอาจจะเป็นคนๆหนึ่งที่สามารถให้ความรู้กับผมเกี่ยวกับเรื่องต่างๆเหล่านี้ได้. อยากจะคุยมากกว่านี้แต่เห็นท่านก็คงไม่ว่างคุยแน่เห็นว่ามีกิจที่ต้องทำทางโลกวิญญาณเยอะ (ถ้าผมคงไม่เดี้ยงเสียก่อน).

ป.ล.1: ช่วย PM มาหน่อยได้ไหมครับกับสิ่งที่คุณรู้เกี่ยบกับหลวงพ่อฤาษีน่ะครับ. เห็นคุณ post ในข้อความข้างบนแบบกั๊กๆเหมือนกับว่าเกรงว่าจะทำให้ลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤาษีเสียใจมากไปหรือทำให้เกิดการขัดแย้งขึ้นนะครับ. บางทีอาจจะตรงกับที่ผมคิดไว้อีกก็ได้ครับ... อยากรู้ๆๆ.

ป.ล.2: หลวงตาจรัญท่านได้มีหน้าที่อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ครับ?

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 291394" vAlign=top><TD class=alt1 align=middle width=125>ศิษย์หลวงพ่อ</TD><TD class=alt2>ขอโทษอีกทีครับคุณAunyasit ครับคุณอย่าพยายามสร้างความสับสนให้กับนักปฏิบัติใหม่ๆเลยครับ หรือนำเรื่องราวที่คุณไม่รู้จริงเกี่ยวกับหลวงพ่อฤาษีมีแสดงความคิดเห็นหรือบอกเล่าเลยครับเพราะว่ามันไม่เกิดประโยชน์ใดๆเลย ประโยชน์ที่จะได้รับจากการปฏิบัติจริงๆ คือพยายามทางตามรอยครูบาอาจารย์ทั้งหลายอย่างมั่นคง เพื่อหลุดพ้นในวัฏฏะนี้อย่างแท้จริงจะมีประโยชน์มากกว่ามาทำเป็นคนปั่นป่วนพระศาสนานะครับ ขอบคุณครับ</TD></TR></TBODY></TABLE>
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับข้อความของคุณศิษย์หลวงพ่อ
<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 291706" vAlign=top><TD class=alt1 align=middle width=125>wawa</TD><TD class=alt2>ประเภทคุณ อัญนี่หลงอย่างหนัก ไม่รู้เท่าทันใจตนเอง ใครพูดหรือเจอเรื่องที่ขัดมักจะมีอุบายทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นหรือไม่ก็แก้ตัวในใจตนเอง(เช่น เฮ้อ คนไม่รู้เรื่อง ทั้ง ๆที่ตัวคุณแหละไม่รู้) ให้ตนมีความเชื่อว่ากำลังทำศาส ศิลหรืออะไรอยู่เสมอ ลองไปหาครูบาอาจารย์ที่ขัดกับท่านเคยมีบ้างไหมครับ ท่านเล่าว่าอย่างไรบ้างลองเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฟังหน่อยสิไม่เห็นเคยเล่า เช่นหลวงปู่ หรือ หลวงตา สายปฏิบัติต่าง ๆ ดูสิท่านจะว่าอย่างไร ผมล่ะจะได้เข้าใจ หรือกรรมมันไม่หมด ก็หลงอย่างนี้ต่อไปนะ อิๆ (จะเข้าหาพระจริง ๆในยุคนี้มันเลยหลอกเราตลอดเลยใจนะใจ)</TD></TR><TR><TD class=thead colSpan=2>เมื่อวานนี้ 12:08 PM</TD></TR></TBODY></TABLE>
และเห็นด้วยกับคุณ wawa นะครับ
ก็ขอร้องคุณAunyasitว่าอย่านำเรื่องราวของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านมาเล่าเลยมันจะทำให้คนรุ่นหลังที่ไม่ทันท่านเขาสับสน คุณจะเขียนอะไรก็เขียนไปเถอะ แต่อย่าโยงเรื่องเหล่านั้นมาถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อเลยผมดูมานานคุณไม่รู้จักหลวงพ่อแน่เพราะแต่ละอย่างที่อ้างมาแต่ละคำพูดพวกเราไม่เคยได้ยินได้ฟังมาเลยจากหลวงพ่อถ้าเรื่องราวมันมีเค้าความจริงบ้างอย่าลืมว่าศิษย์ของหลวงพ่อนั้นมีเกือบล้านคน ในตอนนี้ผมเข้าใจมีเกินล้านคนไปแล้ว ทรงคุณธรรมกันทุกระดับตั้งแต่ที่เรียกพระโยคาวจร บางท่านได้ไตรสรณาคมน์ขึ้นไปจนถึงระดับพระอรหัตผลที่ทรงปฏิสัมภิทาญาณก็ไม่น้อย ที่ปรารถนาพุทธภูมิก็มาก เรื่องราวของพวกเราคณะลูกหลานหลวงพ่อนั้นเราก็ไม่อยากเล่าให้ใครเขาฟัง ไม่ใช่ว่าหวงตำรา หวงครูบาอาจารย์แต่เรื่องราวคณะของเราบางอย่างมันเหลือเชื่อเกินไปสำหรับคนนอกคำว่าคนนอกผมหมายถึงคนที่ไม่ได้เลื่อมใสสัทธาในท่านและก็ไม่ได้ประพฤติปฏิบัติตามหลักสูตรของพระพุทธศาสนา ที่มีอยู่สี่หลักสูตร คือสุขวิปัสโก เตวิชโช ฉะละภิญโญ ปฏิสัมภิทัปปัสโต ผู้ใดทำตามหลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่งตามที่ตัวเองชอบตัวเองถนัดหรือเรียกว่าวิสัยของตัวเองแล้วมันก็หมดสงสัย เรื่องความรู้ที่เรียกว่าพิเศษหลวงพ่อสอนทุกคนเหมือนกันหมดไม่มีปิดบังส่วนใดส่วนหนึ่งแต่อย่างใด ผมเองนี่ปรารถนาพระโพธิญาณในแบบวิริยาธิกะพิเศษศึกษาเรื่องราวของเหล่าพระโพธิสัตว์อยู่ตลอดก็พอจะมีความเข้าใจถึงการบำเพ็ญเพียรของท่านเหล่านั้นพอสมควรผมจะถือว่าตำราเล่มของคุณกับตำราของพวกเรามันคนละเล่มกันคนละครูบาอาจารย์กันผมไม่ได้ปรามาสว่าตำราความรู้ของคุณไม่ถูกเอาเป็นว่าของคุณก็ปฏิบัติไปตามทางคุณ ของเราๆก็ไปตามทางของเราในหมู่คณะของพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านบอกว่าพวกเราเป็นเผ่าอภิญญาส่วนใหญ่แล้วปรารถนาพระโพธิญาณวิริยาธิกะกันทั้งนั้นแล้วตอนนี้ส่วนมากก็ลาพระโพธิญาณตามหลวงพ่อกันเกือบหมดฉะนั้นความรู้ใดๆที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาพวกเรามีความเข้าใจ เพราะถ้าไม่เข้าใจก็คงไปที่ต่างๆกันไม่ถูกเช่นเทวสภาหรือแม้กระทั่งพระนิพพาน พอเถอะคุณจะเขียนอะไรก็ว่าไปตามเรื่องตามราวแต่กับเรื่องราวของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานวัดท่าซุงนั้นผมไม่มีวันเชื่อว่าคุณจะรู้ดีไปกว่าผม ผมก็คิดว่าผมก็พอตัวไม่งั้นคงไม่ประกาศต่อสาธารณะชนว่าปรารถนาพระโพธิญาณวิริยาธิกะและเมื่อสำรวจทุนของตัวเองวัดกำลังใจของตัวเองแล้วถึงได้ประกาศความปรารถนาพิเศษเข้าไปอีก อันนี้ผมคงไม่ต้องอ้างสรรพคุณ
และที่คุณอ้างว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อจะไปเป็นอัครสาวกขององค์สมเด็จพระสิริศรีอาริยเมตไตรนั้นเสียใจครับหลวงพ่อลาพระโพธิญาณสำเร็จพระอรหัตผลตั้งแต่ประมาณปี2507ก็มีแต่หลวงปู่ธรรมชัยวัดทุ่งหลวงที่ผมรู้ว่าท่านจะไปเป็นอัครสาวกขององค์สมเด็จพระสิริศรีอาริยเมตไตรท่านก็เอาเถอะถือว่าตำรามันคนละเล่มกัน ในวันหน้าผมก็หวังว่าเราคงจะไม่มีเวรภัยต่อกันนะครับ
6 สิงหาคม 2549

 

คุณ PCO

ไม่ต้องกังวลหรอกครับ ตอนนี้ผมน่ะบารมียังน้อยๆ คงไม่มีเวรภัยต่อใครได้หรอกครับ แต่หลังจากผมดำเนินการสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์เสร็จแล้ว ผมจะเอาอภิญญาที่เคยบำเพ็ญมาในชาติต่างๆลงมาหน้าที่ต่อไป ถึงตอนนั้นไม่แน่ผมอาจจะเป็นเวรภัยต่อบางคนได้เหมือนกันครับ ว่าแต่คุณ PCO เป็นเหล่าวิริยาธิกะ ทำไมไม่รู้จักวิริยาธิกะ 80 อสงไขยเต็มแบบหลวงปู่ทองทิพย์ละครับ ปกติถ้าเป็นเหล่าเดียวกันนี่ท่านจะพบเจอกันและหลวงปู่ทองทิพย์ท่านก็ไม่เคยประกาศให้ใครรู้ว่าท่านเป็นวิยาธิกะโดยไม่จำเป็นเสียด้วยสิ ยกเว้นผู้ใกล้ชิดเพียงไม่กี่คน คุณ PCO ประกาศตัวตูมๆแบบนี้ไม่กลัวเทวดาเขาจะมาทดสอบขอหู ขอตา ขอฯลฯเป็นทานน่ะ หากว่าไม่มีใครมาทดสอบบารมีก็มีได้หลายนัยยะ ถ้าคุณ PCO เป็นประเภทวิริยาธิกะตัวจริง ผมจะขอบ้างละนะ จะให้ได้หรือเปล่าล่ะ???

หากว่าพระอรหันต์ที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤษีลิงดำมีอยู่จริง รบกวนคุณ PCOแนะนำด้วยนะ เผื่อผู้สนใจท่านอื่นๆ รวมทั้งผมด้วยจะได้ไปกราบเอาบุญบ้าง บอกชื่อท่าน บอกสถานที่มาก็ได้ครับ ผมก็จะกราบเรียนถามหลวงปู่ใหญ่ด้วยว่าใช่หรือไม่ใช่ ถ้าปฏิสัมภิทาญาณนี่ก็ระดับพระครูเทพโลกอุดรแล้วนะครับ เดินไปเดินมาในนภากาศได้สบาย คนไม่มีบารมีมาจริงๆก็จะไม่สามารถมองเห็นท่านด้วยตาเนื้อได้ ว่าแต่ว่าคุณ PCO รู้ได้อย่างไรว่าท่านเป็นพระอรหันต์ครับ

คุณ BiMode

หลวงพ่อดำที่เป็นครูบาอาจารย์เร้นลับของหลวงพ่อจรัญ คือพระครูเทพโลกอุดรครับ หลวงพ่อจรัญท่านก็มีหน้าที่ของท่านเช่นกันครับ ผมเคยแวะไปสนทนาธรรมกับท่าน อยู่เป็นเวลานานพอสมควร ท่านก็รู้อะไรดีๆเยอะครับ

ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลวงพ่อฤษีลิงดำ ผมจะ PM ให้นะครับ แต่คงจะใช้เวลาหน่อยนึง บางเรื่องจะขอคำยืนยันกับครูบาอาจารย์อีกครั้ง แล้วจะสรุปย่อๆให้ตั้งแต่ยุครามเกียรติ์ เป็นต้นมาครับ เท่าที่ทราบท่านก็เป็นคนมีบุญฤทธิ์มากพอสมควร


ช่วงนี้ก็มีคิวต้องไปหลายที่ในภาคเหนือ ต้องไปทำศาสน์ศิลป์ในภาคเหนือ ทีแรกตั้งใจว่าจะไปแค่ 3 ที่คือวัดนางจามเทวี วัดพระเจ้าทองทิพย์และวัดถ้ำเชียงดาวที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านได้ไปพัฒนาในยุคแรกๆ ก็เคยเห็นภาพที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านถ่ายภาพคู่กับตุ๊เจ้าเสือดาว หลวงปู่ทองทิพย์ท่านเคยเล่าว่าท่านให้ตุ๊เจ้าเสือดาวมานั่งใกล้ๆ ทีแรกตุ๊เจ้าเสือดาวท่านไม่กล้าเข้ามานั่ง แต่สุดท้ายท่านก็เข้ามากราบและนั่งใกล้ๆถ่ายรูปกัน ผมก็เก็บภาพนี้ไว้เป็นที่ระลึกเช่นกัน
อย่างไรก็ตามหลวงปู่เณรคำกลางท่านแนะนำให้ไปอธิษฐานจิตเพิ่มเติมในหลายที่ เช่นที่ วัดถ้ำผาจม กราบหลวงพ่อวิชัย เขมิโย ซึ่งหลวงปู่เณรคำกลางมักจะให้ลูกศิษย์ของท่านส่วนใหญ่ไปปฏิบัติธรรมที่นี่ และให้ไปกราบหลวงพ่อทองทิพย์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่ด้วย

ไปวัดถ้ำบำเพ็ญบุญ ไปกราบอาจารย์ถวิล ท่านบอกว่าให้ไปดูว่าต้นไม้ที่หลวงปู่(เณรคำกลาง)ปลูกไว้รอบๆวัดนั้นโตแล้วยัง เพราะหลวงปู่ท่านเคยพัฒนาวัดนี้มาก่อน และให้บอกหลวงพ่อถวิลว่าหลวงปู่ให้แวะมาหาและฝากคิดถึงท่านด้วย รวมทั้งให้ไปกราบหลวงพ่อขาว(พระพุทธรูป)ในวัด หลวงปู่เณรคำกลางท่านเคยอธิษฐานจิตสรงน้ำท่าน ท่านออกมาเป็นตัวคนผ้าขาว คิ้วขาว หนวดยาว ผมยาวสีขาว เกล้าผม ใส่ลูกประคำ ท่านออกมาให้หลวงปู่เณรคำกลางสรงน้ำ หลวงปู่เณรคำกลางท่านบอกว่าหลวงพ่อขาวออกมาเป็นผ้าขาวผู้ชาย 2 คน ผู้หญิง 1 คน

ไปวัดวัดอุดมวารี ไปกราบหลวงพ่อคูณ ติกขวีโร

จากนั้นท่านย้ำให้ไปอธิษฐานขอดูเตียงโยก(ตะแคร่) ที่นั่งปฏิบัติธรรมของหลวงปู่เทพโลกอุดร ที่ทุ่งสามหมื่น ใกล้ๆสามเหลี่ยมทองคำ ท่านบอกว่าเตียงไม้นี้มีอยู่มาเป็นพันปีแล้ว ท่านไปดูทีไรมันก็ยังคงสภาพอยู่อย่างนั้น

วันก่อนสนทนากับหลวงปู่เณรคำน้อย ท่านบอกว่าที่ถ้าเชียงดาวน่ะเกี่ยวกับโยมมากนะ ถ้าไม่ติดว่าเข้าพรรษาท่านก็อยากจะไปที่ถ้ำเชียงดาวด้วยเช่นกัน ท่านบอกว่าเมื่อเสร็จภาระกิจทางภาคอีสานแล้วต่อไปท่านจะไปบำเพ็ญต่อทางภาคเหนือ ท่านบอกว่าหลังจากท่านจบสัจจะอธิษฐาน 16 ปี ในอีก 2 ปีข้างหน้า อาจจะหาท่านไม่เจอแล้ว ไม่แน่ว่าท่านอาจจะเข้าถ้ำบำเพ็ญแบบหลวงปู่คำคะนิง หรือไม่ก็ไปบำเพ็ญต่อที่เมืองพญานาค

สำหรับเครื่องทำศาสน์ศิลป์ในการสร้างพระเจ้า 5 พระองค์นั้นหลวงปู่ใหญ่ท่านนำลงมาให้เรียบร้อยแล้ว ผมก็รับเอามาเตรียมการต่อ เห็นแล้วก็อึ้งเช่นกันเพราะ ต้องใช้ของมีค่าจำนวนมาก แต่ท่านบอกไม่ต้องกังวล เดี๋ยวจะมีคนมาทำให้ ท่านฝากเราดูแค่เรื่องผู้เข้าร่วมพิธีขณะพระสวด กับผ้าห่มขององค์พระ ปางฤดูหนาวและปางฤดูฝน ทั้ง 5 องค์ แล้วท่านก็เอาพระเนตรขององค์พระมาให้ดูแล้วบอกว่าดมกลิ่นดูสิ กลิ่นของหลวงปู่เทพโลกอุดรท่านเป็นแบบนี้ ซึ่งก็เป็นกลิ่นที่เราคุ้นเคย ที่สัมผัสอยู่บ่อยครั้งในขณะทำสมาธิหรือในบางวาระที่ครูบาอาจารย์ท่านแวะมาเยี่ยมลูกหลาน จากนั้นท่านก็ให้ด้ายเสก 1 ชิ้นที่หลวงปู่เทพโลกอุดรท่านนำลงมาให้จากเบื้องบน ท่านบอกว่าอธิษฐานได้ลองอธิษฐานจิตดู สำหรับการเตรียมอาสนะของพระสงฆ์ที่จะสวดในพิธีขณะหล่อพระ ท่านบอกว่าให้เว้นว่างไว้ 1 ที่สำหรับหลวงปู่ใหญ่ ท่านบอกว่าไม่แน่นะในงานหล่อพระอาจจะได้เห็นกายเนื้อของหลวงปู่ใหญ่ก็ได้ ท่านบอกว่าถ้าอยากรู้ว่าใครเป็นใครก็ให้ใช้สัมผัสที่หก แล้วจะรู้เองว่าเป็นใคร ก็ถามท่านว่าแล้วพระสงฆ์รูปอื่นๆจะนิมนต์ใครได้อีกบ้าง ท่านบอกว่าเมื่อถึงเวลาพระสงฆ์ที่เราจะนิมนต์นั้น ถ้าบารมีไม่ถึงที่จะเข้าร่วมพิธี เบื้องบนเขาจะให้ละสังขารไปก่อนเลย

 

คูรบาลุนเคยบอกศิษย์ว่า จะไปตามนัดกับหลวงปู่ใหญ่ในที่ต่างๆ เช่น วัดหลวงปู่ทองทิพย์ วัดแถวอำเภอด่านซ้าย ผมจะพบกับศิษฐ์ในสายหลวงป่ใหญ่เป็นประจำล่าสุด คือหลวงตายีวัดดงตาก้อนทองคุณอันยาสิทมีอะไรจะให้ช่วยอะไรยินดี มาก

 

ขอร้องกันอีกครั้งเถอะนะครับคุณ Aunyasit ครับ การที่คุณจะพยายามยกย่องครูบาอาจารย์ของคุณเอง คุณจะพูดจะแสดงความเคารพนับถือจะยกย่องจะศรัทธายังไงก็ได้นะครับเพราะนั่นคือครูบาอาจารย์ของคุณ แต่การที่คุณจะพยายามนำอาจารย์ของสายอื่นๆ (ที่ไม่ใช่สายการปฏิบัติของคุณ ) มาเปรียบเทียบมาบิดเบือนหรือสร้างอุปาทานในใจของคุณเองและถ่ายทอดมายังสาธารณะชนให้สาธารณะรับทราบหรือคล้อยตามเห็นดีเห็นงามไปกับคุณนี้ มันเพื่อประโยชน์และเพื่อจุดประสงค์ใดๆ มันเป็นการสมควรกับการกระทำอย่างนี้แล้วหรือ ? ก่อนที่คุณจะพาดพิงกล่าวว่าหรือปรามาสใดๆเกี่ยวกับพระอริยเจ้าองค์ใดก็ตาม ในนักปฏิบัติธรรมกันจริงๆมันสมควรทำหรือ ? การไม่รู้จริงหรือเห็นจริงแล้วมาแสดงออกตามทัศนะคติของตัวเอง ในหลักธรรมเค้าเรียกว่าอะไรครับ ? ถ้าคุณเป็นนักปฏิบัติจริงควรจะทราบอยู่ และอีกอย่างคุณก็ไม่ใช่สัพพัญญูวิสัยไม่ใช่พระอรหันต์ ไม่ใช่พระอริยะ เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณพยายามมาบอกว่าคุณสามารถติดต่อกับโลกทิพย์ได้ ติดต่อกับอาจารย์กายทิพย์ได้ ได้มีการพูดคุยสนทนาธรรมกันได้แล้วใครมันจะไปรู้ครับคุณ ? คุณสามารถพูดจากล่าวหาโจมตีใครก็ได้ถ้ามันไม่ถูกใจคุณ ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่างที่กล่าวมาครับ ความใสสว่างแจ่มใสของสมาธิจิตพระพุทธเจ้าเหมือนกับแสงตอนพระอาทิตย์เที่ยงวัน พระปัจเจกพุทธเจ้าเหมือนกับแสงพระจันทร์ในคืนเดือนหงาย พระอรหันต์สาวกเหมือนกับแสงเทียนไข และคุณคิดว่าคุณเป็นใครครับคุณ Aunyasit ? ถ้าคุณอยากรู้ว่าครูบาอาจารย์ท่านไหนเป็นของจริงหรือภูมิธรรมต่างๆของท่านเป็นยังไง บารมีของท่านนั้นๆถึงขั้นไหน มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าตัวคุณเองไม่เคยศึกษาค้นคว้าประวัติของท่านนั้นเลย และอีกอย่างสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็ไม่ทำให้ใครหลุดพ้นในวัฏฏะนี้ฉะนั้นคุณจะมานั่งว่านั่งปรามาสอยู่ทำไม ? มันมีแต่โทษทั้งนั้น อย่างที่หลวงพ่อฤาษีท่านกล่าวไว้เสมอๆว่า "นัตถิโลเก อนินทิโต" คนที่ไม่ถูกนินทาเลยไม่มีในโลก สมัยที่หลวงพ่อยังทรงสังขารอยู่ท่านก็โดนคนหรือพระนินทาปรามาสท่านอยู่เสมอๆ มันก็ไม่แปลกอะไร ขนาดท่านละสังขารไปแล้วท่านก็ยังโดนคนอย่างคุณอีก ฉะนั้นก็สุดแล้วแต่คุณนะครับว่าจะเลิกหรือจะต่อเพื่อความสะใจของคุณก็ไม่ว่ากันนะครับ เพราะว่าผมและคณะลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤาษีคงจะไม่ถือโทษโกรธอะไรคุณหรอกนะครับ และพร้อมจะให้อภัยคุณตลอดถ้าคุณคิดที่จะกลับตัวและปรับทัศนะคติซะใหม่นะครับ เพราะว่านักปฏิบัติธรรมเหมือนกันเค้าก็จะยินดีถ้าผู้นั้นเจริญในธรรมสูงขึ้น แต่ถ้าผู้นั้นหลงผิดเค้าก็จะช่วยกันประคับประครองช่วยเหลือ แต่ถ้าเกินเยียวยาก็เชิญตามสบายเพราะว่าไม่มีใครอยากยุ่งด้วย ขอบคุณครับ

 

ขอมีส่วนร่วมในบุญนี้ด้วยคน จะใช้งานอะไรผมก็บอกได้ครับ ยินดีำทำเต็มที่ จะให้ไปที่ไหนบอกมาได้เลย

 

คุณ ronny

อนุโมทนาในกุศลจิตครับ คาดว่าในการสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ครั้งนี้จะสามารถรวบรวมสายธรรมของหลวงปู่ใหญ่และพระครูเทพโลกอุดรได้ทั้งหมด เพื่อให้สามารถสั่งสมกองบุญบารมีไปปฏิบัติกันต่อเมื่อหลวงปู่ใหญ่ท่านลงมาทำหน้าที่บนโลกเต็มตัวในอนาคตอันใกล้นี้

ถ้ามาสายหลวงปู่ใหญ่ สายหลวงปู่ยี สายวัดวิปัสสนาจังหวัดเลย ก็ยินดีมากครับ เมื่อถึงเวลาแล้วผมจะบอกนะครับว่าจะต้องร่วมกันทำอะไรบ้าง ฐานบุญบารมีหลายๆอย่างคณะของผมทำไว้ให้ค่อนข้างเยอะแล้วครับ ท่านไหนที่มีเนื้อนาบุญอยู่ในสายธรรมนี้ก็มาต่อยอดกันเอาเองครับ

ส่วนหนึ่งครูบาอาจารย์ท่านก็ให้ผมคัดคน เทพเทวาเองท่านก็คัดของท่านเช่นกัน หลวงปู่ทองทิพย์ท่านเคยบอกน้องคนหนึ่งในคณะว่า จะทำอะไรก็รีบทำนะ เดี๋ยวต่อไปเทพเทวาเขาจะลงมาทำ ตอนนี้เทพเทวาเขาก็ลงมาแล้วจริงๆ บางอย่างเป็นงานที่ร่วมกันทำหลายๆภพภูมิ โดยมีหลวงปู่ใหญ่กับพระครูเทพโลกอุดรท่านเป็นผู้ประสานให้ ผมก็เป็นแค่ผู้ประสานงานในภพภูมิมนุษย์เท่านั้นเองครับ ก็คล้ายๆกับตอนที่สร้างพระธาตุพนมนั่นแหละเมื่อคณะของพระยาทั้งห้าท่านทำไว้ส่วนหนึ่ง คณะของพ่อพระอินทร์ท่านก็ลงมาทำต่อ มาในยุคปัจจุบันนี้ก็ทำนองเดียวกันครับ

ในสมัยที่สร้างพระธาตุพนมนั้นมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกของพระยาที่ร่วมกันสร้างพระธาตุพนม หายสาปสูญไปในช่วงเวลาที่สร้างพระธาตุพนม แล้วช่างก็ได้วาดรูปเอาไว้ที่ด้านในของพระธาตุพนม เด็กคนที่ว่านั้นปัจจุบันก็คือหลวงปู่เณรคำน้อยนั่นเองครับ วันก่อนท่านชวนผมว่าถ้าว่างแล้วท่านจะพาไปหาดูรูปวาดอันนั้น ว่ายังอยู่หรือไม่ เพราะมีการบูรณะพระธาตุพนมหลายครั้งและท่านจะพาไปดูโครงสร้างของตระกูลเราว่ามีใครบ้าง และท่านบอกว่าในโครงสร้างด้านบนสุดของตระกูลคือพระครูเทพโลกอุดร ซึ่งหลวงปู่เณรคำน้อยท่านมักจะเรียกท่านว่าหลวงตา ส่วนหลวงปู่ใหญ่ หลวงปู่เณรคำน้อยมักจะเรียกท่านว่าพ่อ และหลวงปู่เณรคำน้อยเป็นหลานคนเดียวของหลวงตา

สิ่งที่เล่ามานี่อาจจะเป็นเรื่องเพ้อฝันสำหรับหลายๆคน แต่สำหรับผมแล้วเป็นเรื่องที่ทำให้ตัวเองจะต้องเหนื่อยกับการทำบารมีต่อไปอีกประมาณ 20 ปีเพื่อให้เรื่องเพ้อฝันที่ตามมาหลอกหลอนเหล่านี้ผ่านไป

 

คุณ loveg

อนุโมทนาในกุศลจิตครับ เมื่อถึงเวลาแล้วจะเชิญมาร่วมงานกันครับ

 

คุณ PCO

ปฏิบัติของตัวเองให้แจ้งแล้ววันนึงจะเข้าใจ ผมชอบคนอย่างคุณนะ เพราะนักปฏิบัติที่ดีนั้นต้องมีความห้าวหาญระดับนึงถึงจะดี

หากคุณปฏิบัติจิตไปถึงการวางเจตนาแห่งจิตแล้วคุณจะเข้าใจอะไรมากกว่านี้ หัดวางซะบ้างนะ แตะปุ๊บวางปั๊บน่ะ ฝึกไว้นะ ทางพระนิพพานนั้นครูบาอาจารย์ท่านบอกเอาไว้ว่า "วางและว่างเสมอๆๆๆ"

และผมก็ยืนยันด้วยว่าหลวงพ่อฤษีลิงดำ ไม่ใช่สายธรรมอื่นแต่อย่างใด ปฏิบัติไปเถิด วันนึงคุณอาจจะเข้าใจ ที่ผมไปทำศาสน์ศิลป์ให้ท่านนั้นก็เนื่องด้วยว่าสนทนากับท่านทางจิตแล้วท่านบอกว่าท่านรออยู่ ผมไปทำนี่ไม่ใช่เพราะความอยากที่จะไปหรอกนะ มันเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ คนเราต่างกาลเวลา ต่างหน้าที่กันน่ะ

 

[FONT=DSU_MonTaNa]ชะตาฟ้าลิขิต[/FONT]<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>​

“[FONT=DSU_MonTaNa]ครึ่งทาง[/FONT]”[FONT=DSU_MonTaNa]<o></o>[/FONT]​

[FONT=DSU_MonTaNa]ยามสิบหกครึ่งสามสิบสอง ถึงครรลองกึ่งพุทธกาล ธรรมเที่ยงหมอกบดบัง จำมีผู้สืบทอดต่อไป[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]โลกนี้แสนน่าอนาทร คำสอนท่านกลับสูญหาย ต่างหลงต่างงมงาย ทำจนตายบ่ได้ธรรม[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]โลกุตตระมาปรากฏ พระไตรปิฎกมาสอนธรรม หาผู้อ้างอิงธรรม เป็นหลักฐานสู่จักรวาล[/FONT]<o></o>​

“[FONT=DSU_MonTaNa]การมา[/FONT]”<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]ปรากฏเป็นหญิงจน แสนรันทดหมดไทยมา ต้อนรับสิ่งล้ำค่า เมี้ยนดั่งว่าขี้ริ้วห่อทอง[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]ผู้รู้ละถิ่นฐาน ละสังขารสู่เมืองทอง เกิดเป็นหลาน ชายเนื้อน้อง สอนธรรมเที่ยงแต่นั้นมา[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]ภาระพระไตรปิฎก อุ้มชูรกหลานน้อยมา เจริญจันทร์สุดเลิศหล้า หมั่นพิจารณาสัจจะธรรม<o></o>[/FONT]​

“[FONT=DSU_MonTaNa]การไป[/FONT]”[FONT=DSU_MonTaNa]<o></o>[/FONT]​

[FONT=DSU_MonTaNa]โอ้ชะตาฟ้าลิขิต จุดวิกฤติที่ผู้นำ หากเชื่อสัจจะธรรม นำชนก้าวเหนือโลกา[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]เวรหนอกรรมคนไทย ไร้น้ำใจไร้ปัญญา ของดีมิรู้ค่า ไสส่งไพรไกลธุดงค์[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]การกระทำผองชาวไทย ค้าขายพระหน้าตาเฉย ศาสดาท่านกล่าวเคย เลยทำลายศาสนาตน <o></o>[/FONT]​

[FONT=DSU_MonTaNa]เวลาผ่านเลยล่วง ชนทั้งปวงติดบ่วงมาร หามีชั้นผู้นำชน สนใจสิ่งเที่ยงแท้เอย[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]แม่พระธรณีชวนหญิง หาคนใดสนใจท่าน ถึงกาลที่ควรกลับ ละสังขารจากหลายชาย[/FONT]<o></o>​

“[FONT=DSU_MonTaNa]บ้านเมือง[/FONT]”<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]รวยล้ำค้ำเหลิงอำนาจ ดูดทรัพย์ราษฎร์ท้องแผ่นดิน กอบโกยขูดหมดสิ้น ผลักหนี้สินท่วมประชา[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]หลากหลายในสังคม บ่ชื่นชมเหนือหัวข้า ขัดแย้งรุนแรงกล้า ก้าวร้าวทั่วมั่วลายงา[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]เหล่าทหารเสียหน้าก่อการ ทรยศสัตย์ปฏิญาณให้ไว้ บ้านเมืองลุกโหมเป็นไฟ จากคิดใหญ่พวกอยากนำ[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]สุดสับสนสุดอลม่าน [/FONT] [FONT=DSU_MonTaNa]วิ่งหนีพาลหลบเลี่ยงภัย วงศาไม่อาจไป จำกล้ำกลืนแต่น้ำตา[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]ปากดีประสงค์ร้าย ทำลายขาดราชพลัง ทุกข์ตรมสุดสิ้นหวัง เหมือนเปรียบดังเทพนิยาย[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]เกิดสู้อย่างไร้สมอง ทหารแลมองอ่อนกำลัง ข้างบ้านวาจาดัง ทลายรั้วทวงที่ดิน[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]ขวานทองดั่งมะพร้าว ชนกลุ่มพาลแบ่งแยกกิน ด้ามขวานสูญเสียสิ้น จากนั้นกินรอบทิศทาง[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]คนนำคือคนร้าย แอบทำลายเมืองโสภา มหันต์ภัยไสสู่ฟ้า ข้ามแพงมาลงกลางใจ[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]เมืองอมรหลอมละลาย สมดั่งใจท่านประธาน ลวงคนทั่วแดนหล้า ให้หลงตามความคิดตน[/FONT]<o></o>​

“[FONT=DSU_MonTaNa]คำเตือน[/FONT]”<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]เคยนิมิตนั่งเรือน้อย ใบผุคล้อยลอยกลางทะเล จิตใจแสนว้าเหว่[/FONT] [FONT=DSU_MonTaNa]แลเห็นฝั่งคงรอดตาย<o></o>[/FONT]​

[FONT=DSU_MonTaNa]ผู้เจริญทำได้นัก บอกเตือนทักอย่าเข้าฝั่ง กล่าวขึ้นถึงสามครั้ง ยังดื้อมั่นในใจตน[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]พาเรือน้อยเทียบขึ้นฝั่ง ไม่นานนักพักบ่คลาย บ่หายเหนื่อยทันไร อินทรีย์ไกลโฉบจับลับตา[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]ชะตาฟ้ากำหนด เดินทางคดรอดเลี้ยวยาก [/FONT] [FONT=DSU_MonTaNa]ประชาหลงมนต์ยักษ์ น้อยคนนักรู้แจ้งธรรม<o></o>[/FONT]​

“[FONT=DSU_MonTaNa]โลก[/FONT]”[FONT=DSU_MonTaNa]<o></o>[/FONT]​

[FONT=DSU_MonTaNa]ดินฟ้าเป็นพยาน ศาสดากล่าวขานไว้ ครบห้าพันปีไซร้ จึงสิ้นสุดพุทธกาล[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]แม่พระปฐพีผืนดิน ทำลายสิ้นแหล่งเคยพาล เปลือกโลกขยับพล่าน จมบาดาลเกินคำทำนาย[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]แม่พระดูแลน้ำ ร่วมสมเข้าพระแม่ลม ก่อคลื่นกวาดถลาโถม พัดใส่เจ้ามิรู้กรรม[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]มนุษย์คิดครองโลก โศกมหันต์วิ่งหนีกรรม กว่ารู้สัจจะธรรม กรรมเกลื่อนกลบภพทรพี[/FONT]<o></o>​

<o> </o>​

<o> </o>​

“[FONT=DSU_MonTaNa]แก้หนึ่งเดียว[/FONT]”[FONT=DSU_MonTaNa]<o></o>[/FONT]​

[FONT=DSU_MonTaNa]อาทิตย์เริ่มปรากฏ สุดรันทดคนไร้ธรรม ความดีผู้เคยทำ มีผลนำสิ่งตอบแทน[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]เหล่าประธานบ่ดีสิ้นท่า ไร้ใบหน้าไร้ดินถม ประชาด่าระงม เยี่ยงซากถมข้างหนทาง[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]ทางแก้คือธรรมะ พึ่งโลกุตตระและสัจจะธรรม เมืองชาติจักพ้นกรรม จากไททำเมื่อวันวาน[/FONT]<o></o>​

“[FONT=DSU_MonTaNa]ฟ้าใหม่[/FONT]”<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]เหมือนกบในถ้ำมืด เห็นแสงนวลคิดจันทรา หลงไหว้หลายเพลา กว่าจะรู้รูกระบอกแสงลอดกะลา[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]หลุดสู่โลกความจริง สลัดทิ้งสิ่งสั่งสม มองเห็นกลดธุดงค์ ทำได้จริงดั่งวาจา<o></o>[/FONT]​

[FONT=DSU_MonTaNa]ผู้นำคือความเที่ยง พาก้าวเลี่ยงสิ่งเคยพาล ก้าวทั่วถิ่นแดนราช ก้าวพ้นผ่านพันธะกรรม[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]สัจจะ ตัวกระทำปรากฏ แสงจันทร์จรดปวงดวงประชา คิดดั่งเดิมเจริญแจ่มหล้า น้อมรับพาสู่บัลลังก์[/FONT]<o></o>​

“[FONT=DSU_MonTaNa]พยายาม[/FONT]”[FONT=DSU_MonTaNa]<o></o>[/FONT]​

[FONT=DSU_MonTaNa]หนุมานก่อกำเนิด เกิดจากลมลูกพระพาย ปฏิญาณว่าจงรัก จะพิทักษ์กษัตรา[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]พระพายเคยสอนข้า เจ้าจงรักชายนามใน หลวงมีพระคุณยิ่ง มอบทุกสิ่งจริงเป็นตน[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]หนึ่งสลึงมีคุณค่า ที่บนลานใบหน้าคน เจ้าจงเดินตามตน คอยขจัดหนามแผ่นดิน[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]รู้เห็นความย่อยยับ จักคืบคลานสู่มหินทรา เห็นกาลไม่คอยท่า คิดแก้กรรมในบัดดล[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]อนาคตเหนือความเชื่อ ดุลดั่งเกลือลิ้มรสหวาน บอกคนเมื่อวันวาน กลับหัวเราะเยาะความจริง[/FONT]<o></o>​

[FONT=DSU_MonTaNa]ร่างเล็กแสนลำบาก ยากฝ่าถึงพระยายาม สักวันคงได้ตาม ถามหาถึงหนุมาน[/FONT]<o></o>​

<o> </o>​

______________________________<o></o>​

 

เรียน คุณ Aunyasit

ผมว่าคุณกล่าวตู่ไปหน่อยเรื่องหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ทำบารมีไม่ถึงพุทธภูมิ เลยเป็นแค่สาวกภูมิแล้วไปเกิดเป็นอัครสาวกของท่านพระศรีฯ ตอนนี้ท่านเข้าสู่พระนิพพานไปแล้วครับ ท่านไม่มาเกิดแล้วครับ
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หรือพระราชพรหมญาณ ท่านเป็นพุทธภูมิที่บารมีเต็มแล้ว 16 อสงไขยกับเศษแสนกัปล์ และท่านได้ลาพุทธภูมิเป็นสาวกภูมิเข้าสู่นิพพานแล้ว
ผมอยากให้คุณลองตรวจสอบญาณทัศนะตัวเองนะครับ ญาณระดับปุถุชนย่อมมีผิดพลาดได้นะครับ

 

โลกนี้ยังมีอะไรที่เราไม่รู้เยอะมาก ดูทุกอย่างมันเกี่ยวพันกันไปหมด เหมือนกองด้าย
ซักวันเราก็คงสาวมันจนถึงจุดปลายได้แน่ๆ

 

แก่แล้วก็อย่าประมาทนะครับคุณ อัญ วัยเกือบห้าสิบแล้ว เพี้ยนตอนแก่มันแก้ยาก

 

มองอะไร มองและรับ แต่สิ่งดีๆ กันครับ กระทู้นี้ ผมอ่านยังไม่จบ แต่ต้องการจะอ่านต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้รู้สึก ยังไง รู้สึกอ่านแล้วเกิดปัญญาต่อเนื่องดี

หลวงพ่อของพวกเราท่าน สอนว่าอย่างไร ครับ หลวงพ่อฤาษี ท่านบอกให้ รับสิ่งที่ดีๆ ด้านไม่ดีอย่าไปรับ

หลวงพ่อฤาษีท่านมีครูบาอาจารย์หลายท่าน เป็นเรื่องดี

ท่านเคยสอนว่าอะไร พระพุทธเจ้าก็เคยตรัส ถึงเรื่องความเชื่อ เราจะเชื่อได้ก็ต่อเมื่อ เรา รับมาปฏิบัติตาม ถ้าบังเกิดผล ถึงจะเชื่อ เรื่องของคนอื่น ถ้าเรา ไม่สูงกว่าเค้า หรือไม่เท่ากัน เราไม่สามารถทราบได้เลยว่าจริง หรือ เท็จ หน้าแรกสุด คุณ เจ้าของกระทูก็บอกไว้แล้ว ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจ อ่านแล้ว อารมณ์ไม่ดี ก็ขอให้ วางตัวเป็น กลาง วางเฉยเสีย

หลวงพ่อและพระพุทธเจ้ายังสอนเรื่องความโกรธ และใช้ คำพูดเฉือดเฉือนกันว่า ไม่ให้โกรธ โต้ตอบกันไปมา

พระพุทธเจ้า และ หลวงพ่อ ให้ใช้ธรรมปัญญาตัดสินปัญหา ไม่ใช่ ใช้ความรู้สึก อารมณ์ส่วนตัว ความอคติ

เพราะ ฉะนั้น มองอะไร มองให้มันเป็นประโยชน์แก่ตัวเอง แล้วจะเข้าใจ ว่าทุกอย่าง แปลงเป็นธรรม สอน และขัดเกลา ตัวเองได้หมด (f)







คุณ Aunyasit ครับ ถ้ามีอะไร ก็ ชี้แนะผมเพิ่มเติมได้นะครับ

มีเรื่องนึงอยากถาม ครับ ผม ในพระพุทธเจ้า 5 พระองค์นี้ พระโกนาคมพระพุทธเจ้า ผมรู้สึก ผูกพันธ์กับท่าน เหมือนตอนที่ ได้ ณาน แรกๆ จะ จับภาพท่านได้ เองและ ชัด เห็น พระกร ของท่าน ที่ทำเป็น รุปดอกบัวรึป่าว ไม่แน่ใจ

และ เรื่อง พระโพธิสัตว์ อวโฬกิเตศวล ครับ ผมก็ รับความรู้สึกผูกพันธุ์กับท่านได้ชัดเจน

ถ้า บารมี ผมสูงกว่านี้ต่อไปในอนาคตผมจะทราบ ได้ใช่มั้ยครับว่าอะไรเป็นอะไร

คำถามที่ 2 ครับ ผมจะลาสาวกภูมิ หรือ ลาพุทธภูมิ ดีครับ ( ลาอันนี้ แล้วปรารถนา ตั้งใจ บำเพ็ญบารมี อีก ภูมิ แทน )

ส่วนเรื่อง พระศรี ผมไม่มีความรู้สึกผูกพันธุ์ กับท่านเลย

หมายเหตุ ช่วยตรวจสอบด้วย ธรรมสูง ให้ด้วยนะครับ รบกวน แล้ว ครับ

 

ถึงคุณ Aunyasit
อุปาทานของคุณมันกินเลยหัวแล้วนะครับ กระทู้ของคุณที่มีการกล่าวปรามาส พระอริยะเจ้า น่าจะถูกลบไปได้หมดแล้วนะครับ ผมเห็นคุณเข้ามาโพสปรามาสข้ามปี ข้ามชาติอยู่ได้ครับ ไม่ละอายบ้างหรือครับ

 

คุณ วิปจิตัญญู

หากบารมีสูงขึ้น สมาธิจิตดีขึ้น เมื่อจิตรวม ก็จะพัฒนาเป็นสัมผัสที่หก แล้วจะทราบได้เองว่าอะไรเป็นอะไรครับ ครูบาอาจารย์จำนวนมากก็ใช้สัมผัสที่หกเช่นกันครับ ภาพต่างๆที่ปรากฏนั้น ยังไม่แน่นอนเท่ากับสัมผัสที่หกเพราะเป็นการสัมผัสกระแสศีลธรรมต่างๆ จิตรู้จะเกิดเองเป็นเอง เมื่อละวางได้มากขึ้นก็จะชัดเจนมากขึ้น ไม่ต้องตั้งท่าอะไร ทุกกริยาอาการจะสามารถรับรู้สภาวะธรรมรอบตัวได้อย่างแม่นยำในสภาวะที่ลืมตาหรือในสภาวะที่เป็นปัจจุบัน ปฏิบัติสั่งสมบารมีไปเรื่อยๆนะครับ แล้วมันจะเกิดขึ้นเอง ใช้การทำทาน ศีล ภาวนา เป็นพื้นฐานครับ

การลาหรือไม่ลาพุทธภูมินั้น ไม่ควรจะเป็นเรื่องที่ต้องกังวลในขณะนี้ครับปฏิบัติไปจนรู้เรื่องของตัวเองให้มากๆก่อนแล้วค่อยมาพิจารณา ไปศึกษาบารมีเดิมๆที่ตัวเองเคยสั่งสมมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน แล้วค่อยไปต่อยอดตรงนั้นครับ ปฏิบัติให้รู้ว่าตัวเองเคยทำดีอะไรมาบ้างและทำไม่ดีอะไรมาบ้าง ให้รู้การปรารถนาเดิมของตัวเองก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะทำบารมีต่อแบบไหน เรื่องบารมีนี่เราจะใช้ความรู้สึก ความนึก ความคิด ไม่ค่อยได้ครับ ต้องลงทุนลงแรงปฏิบัติอย่างจริงจังแล้วจะเข้าใจในเรื่องบารมีได้ดีเมื่ออินทรีย์แก่กล้าขึ้น

การจะเกี่ยวข้องกับพระศรีฯหรือไม่นั้น บางครั้งหากปฏิบัติไปเรื่อยๆแล้วความรู้สึกจะเปลี่ยนไปเองครับ แล้วจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ ก่อนเข้าสมาธิภาวนาเมื่ออธิษฐานก็ควรปรากฏชื่อของพระศรีฯอยู่ในคำอธิษฐานด้วย ยุคปัจจุบันหากไม่ให้เกียรติพระศรีฯแล้วการปฏิบัติจะเป็นไปได้ยากครับเพราะท่านเป็นตัวแทนของพระพุทธองค์ในการดำรงรักษาไว้ซึ่งศีลธรรมต่างๆในพุทธศาสนา นั่นเอง

ขอให้เจริญในธรรมและก็ยินดีด้วยครับที่สามารถเข้าถึงคำสอนของหลวงพ่อฤษีลิงดำได้เป็นอย่างดี ต่างจากบุคคลผู้น่าสงสารอีกหลายๆคนที่เป็นได้แค่มดแดงที่แฝงมะม่วงเท่านั้นครับ

 

ขอโทษครับ เวลาคุณ aunyasit หรือคนที่ฝึกไปอย่างนี้ เขาเห็นตรงกันไหมครับ กรุณาอย่าตำหนิผมที่ถามอย่างนี้ เพราะคนจำนวนมากที่ไม่เชื่อในตัวคุณ เขาจะว่าคุณเห็นไปเองคนเดียว เหมือนใช้คำที่ไม่สุภาพหรือตรง คือ เหมือน จิตหลอกตนเอง คุณได้สอบทาน แน่ใจว่าทุกคนทีไป เห็นตรงกัน และเป็นทีมเดียวกันเห็นเหมือนกันในเวลาเดียวกันหรือไม่ คำถามนี้ ผมก็เคยได้ยิน ศิษย์หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ มาแล้ว เวลาเขาว่า เขาได้ไป กราบ พระเจดีย์จุฬามณี บนดาวดึงส์?

แต่สิ่งที่ผมปฎิบัติและพอจะทราบแนวทางบ้างคือ

มื่อเราเห็นพระพุทธเจ้า เห็นหลวงพ่อวัดปากน้ำ เห็นผู้มีคุณ หรือเห็นใครก็แล้วแต่ในรู้ในญาณทัสสนะ อย่าเพิ่งเชื่อ ให้อาราธนากายธรรมพระอรหัตต์ของเรา ยิงเข้าไปที่ปากช่องจมูกของกายที่เห็นหญิงซ้าย ชายขวา เข้าไปทั้ง 7 ฐาน ไปอยู่ฐานที่ 7 ของกายที่เราเห็น อาราธนาดวงธรรมของเราให้เป็นเซฟ มรรค แก็ส กรด ไอ อัศนีย์ธาตุ กินละลายไปให้ทั่ว ดวงเหล่านั้นเขารู้หน้าที่เขาจะทำงานตามที่เราสั่ง เราก็สั่งอีกว่า ย่อย แยก ระเบิด ผ่า ดับ ละลาย ถ้าเป็นตัวจริงก็ขอให้ไม่ละลายถ้าตัวปลอมก็ให้ละลายไปสิ้น... เสร็จแล้วลำดับไปทุกกายของเขา ทำอย่างนี้ไปทุกกาย(18 กายหลักของเขา) ถ้าเป็นมารจำแลงแปลงกายมาหลอกเรา เราลำดับไปแค่ กาย สองกาย จะเจอกายมารอยู่ข้างใน เป็นกายดำซ้อนอยู่ในนั้น จากนั้นกายทีเขาจำแลงมาจะหายไปเลย นี่เป็นวิธีการตรวจสอบเบื้องต้น วิธีหนึ่ง ยังมีอีกหลายวิธีตามแต่สถานการณ์


เราจะเชื่ออะไรง่ายๆ ไม่ได้ เพราะภาคมารเขาหลอกเรามาตลอด เชื่อไม่ได้เลย จะเห็นได้ว่า กว่าจะรู้เห็นอะไรได้สักอย่างดูว่าไม่ง่ายเลย ส่วนที่ใดที่สอนให้เห็นแล้วให้เชื่อว่าเห็นจริง ให้จิตนำไปก่อน อย่างนี้เสร็จหมด ที่เห็นนะเห็นจริง แต่สิ่งที่เห็นนะไม่จริง คำนี้ใช่ได้อยู่ แต่บางเรื่องเขาก็ไม่ขวาง เห็นได้จริงเพราะไม่ทำให้ภาคมารเขาเสียปกครอง เขาก็ยอมให้เห็น ฉะนั้นการเห็นโดยไม่ผ่านการตรวจสอบเข้าไปถึงธาตุธรรมต่างๆ ว่าใครส่งวิชชามาให้เห็น มีทั้งเห็นได้จริง กับเขาหลอกก็มี แต่เรื่องของพระพุทธเจ้านี้ ถ้าจะเห็นได้จริงและถูกต้อง ต้องเข้ากลางของกลางเท่านั้น ... เชื่อไม่เชื่อแล้วแต่ท่านจะพิจารณาเอาเองนะครับ

ผมเป็นเด็กใหม่ภูมิรู้ภูมิธรรมยังน้อย ขอคำชี้แนะด้วยครับคุณ aunyasit
อนุโมทนาบุญครับ

tbdorakiez072
เราเกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี
เป้าหมาย = ที่สุดแห่งธรรม
ที่พักระหว่างทาง= ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์
หยุด เป็นตัวสำเร็จ

 

1. ก่อนอื่นผมต้องขออภัยหากข้อความใดของผมกระทบใจของผู้ที่อ่านเจอ เพราะไม่รู้ว่าผู้อ่านมีภูมิธรรมขั้นไหน เป็นพระอริยะเจ้าหรือไม่ ผมเป็นผู้หนึ่งที่นับถือหลวงพ่อวัดท่าซุง ได้พบหลวงพ่อก่อนมรณภาพประมาณ1ปี ทุกวันนี้ยังไปวัดท่าซุงเป็นประจำทุกเดือน ผมว่าผมยังไม่ได้มีความดีพอเป็นลูกหลานของหลวงพ่อเลย ศีลยังขาดๆ เกินๆ ตามวิสัยคนที่ยักษ์ 3 ตัวติดมาทุกชาติ ที่เขียนข้อความนี้อาจเป็นยักษ์ตัวใดตัวหนึ่งทำให้เขียนก็ได้ ทุกครั้งที่เข้าweb,กระทู้ต่างๆที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาทุกท่านเคยคิดไหมว่ากำลังทนุบำรุงพระพุทธศาสนาหรือ ทำลายกันแน่น ? เคยคิดไม่ว่าเรากำลังทำร้ายทำลายครูบาอาจารย์ของเรา?ปรามาสพระรัตนตรัยอยู่ ? ทำลายความดีของตัวเอง ? อาจจะดูเป็นความคิดที่ประหลาดนะ เอาลองมาใช้ปัญญาคิดกันนะ - กำลังทนุบำรุงพระพุทธศาสนาหรือ ทำลายกันแน่น เราคิดไหมว่าข้อความที่เราพิมพ์นั้นที่เกี่ยวกับพระธรรมหรือคำสั่งสอน ของครูบาอาจารย์จะไม่บิดเบือน เปลี่ยนแปลง ถูกแก้ ในโลกยุค IT ไม่ว่า ภาพ เสียง ตัวหนังสือ สามารถแก้ไขโดยผู้ความรู้ทาง IT ไม่ยาก หรือผู้ที่พิมพ์ข้อนั้นมีความรู้ทางธรรมชัดเจน ใสสะอาดเพียงใด ถูกต้องหรือไม่ หรือเขียนด้วยอุปาทาน โทสะ โมหะ โลภะ เราท่านก็ไม่รู้ได้ ขนาดเห็นหน้าคาดตายังโดนหลอกเลย หากท่านมีหนังสือของหลวงพ่อในสมัยที่ท่านยังอยู่เคยสังเกตไหมว่า จะมีข้อความเตือนเกี่ยวกับการคัดลอกบทความหรีอข้อมูลต่างในหนังสือจะตอ้งขออณุญาติก่อน ประมาณนี้ เพราะท่านป้องกันไว้ ลองคิดดูนะ หากผู้ที่ตัองการศึกษาพระพุทธศาสนามาพบข้อมูลที่บิดเบือน เราท่านไม่พาเขาลงเหวหรือ ตกลงเราได้กำไรหรือขาดทุน เรื่องครูบาอาจารย์นั้น เรามานั่งบอกเล่ากัน ต่อความยาว สาวใส้มาดูกัน ต่อว่ากัน เราท่านได้อะไรกัน มีแต่ไปปลุก ยักษ์ 3ตัวตื่น สิ่งใดที่เราว่าดีก็เก็บไว้ หากไม่ถูกใจเราก็วางไว้ ไม่ได้กำไรกว่าหรือ ลองคิดดูนะ ลูกทำไปชั่วเขาด่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนนะ แล้วลูกศิษย์เขาไม่ว่าครุบาอาจารย์หรือ หรือว่าครูบาอาจารย์ที่กล่าวกันเป็นพระอริยะเจ้าจริง เราไปกล่าวว่าหรือปรามาสเข้าไม่พากันลงเหวหรือ แต่หากไม่ไช่พระอริยะเจ้าถามว่าเราได้อะไร ภูมิธรรมเราสูงขึ้นหรือไม่ ผมว่าเราแพ้ยักษ์อีกตามเคย หากเป็นลูกหลานของหลวงพ่อ คงจำข้อความคำสอนวันสุดท้ายของหลวงพ่อได้นะ .....รักษาความดีดั่งเกลือรักษาความเค็ม..... ผมว่าคำว่าความดี ที่ท่านให้รักษานั้น ก็คือความดีที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนซึ่งละเอียดจนทุกขณะจิต สุดท้ายผม คำว่า อุเบกขา น่าคิดนะ หากข้าพเจ้าได้ล่วงเกินพระรัตนตรัย ด้วย กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ขอได้อดโทษแก่ข้าพเจ้าตราบเข้าสู่พระนิพานด้วยเถิด <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>​