บาปกรรมของการเนรคุณแม่แม้แต่พระมหาโมคคัลลานะ... ยังหนีกรรมไม่พ้น

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 2 สิงหาคม 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,491
    บาปกรรมของ'การเนรคุณแม่'แม้แต่พระมหาโมคคัลลานะ... ยังหนีกรรมไม่พ้น

    [​IMG]

    "๒๒๑ คน" เป็นตัวเลขของคนแก่ทั้งหญิงและ ชายที่อยู่ในความดูแลของบ้านบางแค ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของ คนแก่ที่ถูกทอดทิ้งเท่านั้นเพราะยังมี สถานที่ดูแลคนแก่ที่ถูกทอดทิ้ง ภายใต้การดูแลของรัฐบาลอีก ๒๐ แห่ง กระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆ ซึ่งมีข้อมูลอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ
    ตัวเลขนี้ไม่เคยลดน้อยลงเลย แต่กลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    ตัวเลขดังกล่าวนี้ยังสอดคล้องกับคนแก่ที่ถูกทอดทิ้งภายใต้การดูแลขององค์กรเอกชนอีกด้วย
    "ความเจริญด้านจิตใจกับความเจริญด้านวัตถุสวนทางกัน จำนวนแม่ที่ถูกทอดทิ้งซึ่งมีแต่จะเพิ่มขึ้น เป็นเครื่องยืนยันว่า คนไทยไม่กลัวบาปกรรม ที่สำคัญคือเป็นอนันตริยกรรม" นี่คือเสียงสะท้อนของ พระครูวิสุทธิสุตคุณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กทม.
    ทั้งนี้พระครูวิสุทธิสุตคุณ ได้อธิบายถึงความหมายของ "อนันตริยกรรม" หรือ "กรรมหนักในฝ่ายบาป" ว่ามี ๕ อย่าง คือ
    ๑.มาตุฆาต ฆ่ามารดา ๒.ปิตุฆาต ฆ่าบิดา. ๓.อรหันตฆาต ฆ่าพระอรหันต์ ๔.โลหิตุปบาท ทำร้ายพระพุทธเจ้า จนถึงยังพระโลหิตให้ห้อขึ้นไป ๕.สังฆเภท ยังสงฆ์ให้แตกจากกัน
    กรรม ๕ อย่างนี้ เป็นบาปอันหนักที่สุด หมายความว่า ผู้ใดทำเข้าแล้ว แม้จะทำดีต่างๆ ก็ไม่อาจลบล้างได้ เมื่อผู้นั้นตายลงก็จะได้รับผลของกรรมนั้นทันที ไม่มีผลของกรรมอื่นมาคั่นระหว่าง เช่น พระเจ้าอชาตศัตรูปลงพระชนม์พระชนก ภายหลังทรงสำนึกผิดจึงทรงสร้างกรรมดีเป็นอันมาก สมควรจะไม่ตกนรก เพราะมีพระบาลีว่า "เย เกจิ พุทฺธํ สรณํ คตา เส น เต คมิสฺสนฺติ อปายภูมิ" หมายถึง ผลของอนันตริยกรรมพอสิ้นชีวิตก็ต้องตกนรกทันที เมื่อหมดกรรมพ้นนรกจึงจะได้รับผลของกรรมดี
    [​IMG]

    อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อถกเถียงที่ว่า การทิ้งแม่ไม่ใช่การฆ่าแม่ ดังนั้นจึงไม่ใช่อนันตริยกรรม แต่พระครูวิสุทธิสุตคุณ กลับมองว่า การทิ้งแม่ให้ใช้ชีวิตอย่างยากเข็ญไม่ต่าง จากการฆ่าแม่และเป็นฆ่าแม่ทั้งเป็นด้วย ดังนั้นลูกคนใดฆ่าแม่และผู้บังเกิดเกล้า ของตนได้ก็นับว่าเป็นคนเลวคนชั่วที่สุด เขาย่อมฆ่าและทิ้งคนอื่นได้แน่นอน"
    ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม บอกด้วยว่า ในหลักฐานพุทธประวัติซึ่งปรากฏในพระไตรปิกฎมีอยู่ ๒ เรื่องที่น่าสนใจ คือ
    เรื่องของกรรมที่พระโมคคัลลานเถระพระอัครสาวกฝ่ายขวา ทำลายมารดาบิดาของตน และ พระเจ้าอชาตศัตรูปลงพระชนม์พระชนก
    [​IMG]

    เรื่องของพระโมคคัลลานเถระพระอัครสาวกฝ่ายขวา มีใจความว่า ในอดีตกาลบุรุษคนหนึ่งในเมืองพาราณสี เชื่อคำของภรรยาที่ต้องการฆ่ามารดาบิดาของตน นำท่านทั้ง ๒ ซึ่งเป็นคนตาบอดทั้งคู่ใส่ยานพาหนะไปในป่า พอถึงกลางดงจึงกล่าวว่า พวกโจรอยู่ที่นี่ฉันจะลงไป จึงส่งเชือกให้บิดาลงไปทำอาการประดุจโจร เฆี่ยนตีบิดามารดา ท่านทั้ง ๒ จำบุตรของตนไม่ได้ จึงคร่ำครวญเพื่อให้บุตรปลอดภัยอย่างเดียวว่า พวกโจรกำลังฆ่าเราลูกเจ้าจงรีบหนีไปเสีย
    บุรุษนั้นคิดว่า มารดาบิดาถูกเราเฆี่ยนตีอยู่ยังคร่ำครวญเพื่อประโยชน์กับเราอย่างเดียว เรากำลังทำสิ่งที่ไม่สมควรแล้ว ปลอบท่านทั้ง ๒ นวดมือและเท้า พูดว่า "แม่พ่อ" โจรหนีไปแล้ว จึงนำกลับมายังบ้านเรือนของตน

    [​IMG]
    ด้วยกรรมนั้น บุรุษนั้นตกนรกหมกไหม้เป็นเวลาช้านาน ด้วยวิบากกรรม ถูกโจรทุบละเอียดแล้วถึงความตายถึง ๑๐๐ ชาติ ในชาติสุดท้าย เป็นพระมหาโมคคัลลานเถระได้รับการแต่งตั้งเป็น พระอัครสาวกฝ่ายขวา ได้รับการยกย่องจาก พระศาสดาว่าเป็นผู้มีฤทธิ์มาก ยังต้องถูกพวกโจรทุบด้วยกำลังแห่งกรรมถึงนิพพาน แม้จะเป็นพระอรหันต์ก็ยังไม่พ้นบาปกรรมที่ได้ทำไว้กับมารดาบิดา
    ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง คือ พระเจ้าอชาตศัตรูทรงทำ อนันตริยกรรม พระเจ้าอชาตศัตรู ทรงเป็นศาสนูปถัมภก ทำคุณประโยชน์ให้กับ พระพุทธศาสนาอีกมากมาย สร้างศาสนสถานไว้เป็นจำนวนมาก ให้ราชบุตรและราชธิดาอุปสมบทเป็นพระภิกษุและ ภิกษุณีในพระพุทธศาสนา แล้วส่งไปประกาศพระศาสนายังลังกาทวีป ทำให้พระพุทธศาสนาแพร่หลายไปยังลังกาทวีป สร้างสถูปเจดีย์เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาไว้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการสังคายนาครั้งที่ ๑ แต่ท่านก็ต้องรับกรรมของการฆ่าพ่อ
    [​IMG]

    ด้วยเหตุที่ว่าพระองค์ทรงหลงเชื่อพระเทวทัต จนเป็นเหตุให้พระองค์ทรงปลงพระชนม์พระบิดา ถึงแม้ภายหลังพระองค์จะทรงสำนึกผิด ทำดีแก้ตัวแต่ก็ชื่อว่าได้ทรงทำอนันตริยกรรม ถึงแม้จะทำดีแก้ตัวสักเพียงใด จะนำมาหักล้างการกระทำชั่วไม่ได้ ต่อเมื่อได้ผลรับผลกรรม คือ ผลจากการกระทำชั่วสิ้นสุดเสียก่อน จึงจะได้รับผลแห่งความดี
    "การนำดอกมะลิไปไหว้แม่ในวันแม่เป็นสิ่งที่ลูกพึงกระทำ แต่สิ่งที่ลูกพึงกระทำยิ่งกว่า คือ การเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ ให้การอุดหนุนจุนเจือท่านเมื่อยามแก่เฒ่า ลูกคนใดก็ตามที่ทิ้งแม่และพ่อ ให้อยู่ด้วยความยากลำบากยากเข็ญ ชีวิตไม่มีทางรุ่งเรือง ทั้งครอบครัวและหน้าที่การงาน และกรรมที่จะตามมา คือ เมื่อถึงคราวแก่เฒ่าก็จะถูกทอดทิ้งเช่นกัน" พระครูวิสุทธิสุตคุณ กล่าวพร้อมกับพูดไว้อย่างน่าคิดว่า
    "ทุกวันนี้คนมักแสวงหาพระเกจิอาจารย์ พระนักปฏิบัติที่มีชื่อเสียง เพื่อจะทำบุญถวายสังฆทานให้ท่าน ตามความเชื่อที่ว่าทำบุญกับพระเหล่านี้แล้วจะได้บุญมาก แท้ที่จริงแล้วบุญอันยิ่งใหญ่สามารถทำได้ทุกๆ วัน ก็คือที่บ้าน และได้ทำบุญกับพระอรหันต์ด้วยเพราะพ่อแม่คือพระอรหันต์ของลูกๆ ทุกคน"

    0 ไตรเทพ ไกรงู 0



    ที่มา : [​IMG]
     
  2. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,491
    แม่เป็นพระอรหันต์ของลูก



    พระคุณของแม่มีมากเกินคณานับ แต่ที่นี้ต้องเป็นแม่ที่มีจิตวิญญาณของแม่ที่แท้จริงโดยธรรมชาติ ดังพระพุทธพจน์ที่ว่า "พฺรหฺมาติ มาตาปิโร ปุพฺพาจริยาติ วุจฺจเร อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตานํ ปชาย อนุกมฺปกา" ซึ่งมีความหมายดังต่อไปนี้
    พฺรหฺมาติ มาตาปิโร หมายถึง พ่อแม่เป็นพระพรหมของลูก เพราะมีความรักต่อลูกตั้งแต่รู้ว่าตั้งท้อง แม้จะต้องทุกข์ยากในการดูแลครรภ์ แม่ก็ไม่เคยบ่น กลับทำด้วยความปลื้มปิติ ยิ่งเมื่อลูกคลอดออกมาแล้วนั้นความรักก็จะเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณ จะคอยกำจัดบัดเป่าความทุกข์ที่เกิดกับลูก ไม่มีวันเสื่อมคลาย โดยไม่หวังสิ่งตอบทน
    ปุพฺพาจริยาติ วุจฺจเร หมายถึง พ่อแม่เป็นบูรพาจารย์ของลูก ไม่ให้ทำความชั่ว ละเว้นความชั่ว ให้กระทำแต่คุณงามความดี ส่งเสริมให้มีความรู้ความสามารถในอาชีพต่างๆ เท่าที่ทำได้ตามสติปัญญาของท่าน
    อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตานํ หมายถึง พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก หรือ บุคคลที่ควรบูชา ด้วยคุณความดีของแม่ที่ทั้งหมดนี้ แม่จึงขึ้นชื่อว่าเป็น พระอรหันต์ของลูก ปรารถนาแต่ความเจริญและความสันติสุขของลูก เหมือนกับพระอรหันต์ที่ปรารถนาไม่ให้ใครมีความทุกข์
    ปชาย อนุกมฺปกา หมายถึง พ่อแม่เป็นผู้อุปการะเกื้อกูลลูกเสมอในทุกเรื่อง ทุกกรณี และทุกเวลา ลูกออกปากขออะไร ให้ทำอะไร แม่จะทำให้เสมอ และบางทีประวัติของเราเสีย ท่านก็จะนิ่งเสีย
    การตอบแทนพระคุณแม่ เมื่อท่านเลี้ยงดูเรา เมื่อยามเด็ก และเมื่อเราโตขึ้น เราก็ต้องเลี้ยงดูท่าน เมื่อยามแก่เฒ่า มีอะไรที่จะทำให้ท่านชื่นอกชื่นใจได้ ต้องรีบทำทันที ช่วยทำกิจของท่านให้สมความตั้งใจ สืบวงศ์ตระกูลของท่าน อย่าให้เสื่อมเสีย รวมทั้งประพฤติตนให้สมควที่จะได้รับทรัพย์มรดกของท่าน เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว พึ่งกระทำบุญ อุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน
    ลูกคนใดที่มีความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ ลูกคนนั้นย่อมมีความเจริญรุ่งเรือง ในชีวิตการงาน และครอบครัว ดังคำที่พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า ลูกที่กตัญญูต่อพ่อแม่ เมื่อมีชีวิตอยู่ในโลกก็จะพบแต่ความสันติสุข เมื่อชีวิตสิ้นสูญ ก็จะไปสู่ภพภูมิที่ดี
    แต่ถ้าลูกคนใดอกตัญญูต่อพ่อแม่ ไม่รู้คุณพ่อแม่ ไม่ว่า จะอยู่ที่ใด ก็จะหาความเจริญและสันติสุขไม่ได้ ตายไปแล้วก็จะไปเกิดตามกรรมที่ได้ทำไว้กับพ่อแม่

    พระราชญาณวิสิฐ (หลวงป๋า)

    ที่มา : [​IMG]
     
  3. pong-sit

    pong-sit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,626
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,781
    อนุโมธนาสาธุ อ่านแล้วรู้สึกกลัวบาปที่เราเคยดื้อกับแม่ ต่อไปนี้จะไม่ทำแล้วครับ
     
  4. moomzaa

    moomzaa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +19
    ขออนุโมทนาสาธุ ผมจะดูแลแม่ พ่อ ให้ดีที่สุด
     

แชร์หน้านี้

Loading...