เรื่องราวที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยรู้

แล้วก็แวะไปที่วัดพระพุทธฉายอีกครั้ง ไปครั้งนี้สังเกตเห็นว่าที่ใกล้ๆกับรอยพระพุทธฉายนั้น มีรังผึ้งอยู่รังหนึ่ง ซึ่งตัวผึ้งไปหมดแล้วเหลือแต่น้ำผึ้ง สอบถามเจ้าหน้าที่เขาบอกว่าผึ้งจะมาทำรังถวายที่พระพุทธฉายทุกปี เมื่อทำรังจนมีน้ำผึ้งเต็มที่แล้วตัวผึ้งเขาก็บินจากไป ก็ได้แต่คิดว่าแม้แต่สัตว์เดรัจฉานยังรู้และยังมามาบูชาสักการะพระพุทธฉายเพื่อบุญกุศล แต่คนจำนวนมากก็ยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับสถานที่สำคัญแห่งนี้ ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ได้เกิดมามีร่างกายสังขารเป็นมนุษย์ แต่ยังไม่รู้จักที่จะแสวงหาบุญกุศลใส่ตัว

 

พระธรรมิกราช ไม่ใข่พระศรีอย่างที่คุณ อัญฯ ปรุงขึ้นหรอกครับ พอผมรู้แค่รี้ก็รู้แล้วว่าคุณหลง แน่ ผมมาเบรกเป็นครั้งที่ ห้าแล้ว แต่เรื่องอื่นนี่ผมไม่รู้นะ

 

อย่ามาเบรกเลยครับ เดี๋ยวถูกชนตายเปล่าๆ

 

ผมมีข้อซักถาม 2 ข้อครับ

1. ที่คุณอัญญาสิทธิ์บอกว่า "การเปิดเผยเรื่องของบุคคลสำคัญโดยที่ท่านยังไม่อนุญาตให้เปิดเผยนั้น เป็นการกระทบบารมีท่าน ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายสำหรับนักปฏิบัติทุกคน" พอะขยายความได้ไหมว่า อันตรายอย่างไร จะกระทบอย่างไรบ้าง

2. การที่สังขารของพระสงฆ์ที่สังขารไม่เน่าเปื่อยนั้น จะสามารถใช้สังขารเป็นสื่อในการเชื่อมกับโลกมนุษย์ พอจะขยายความได้ไหม แล้วมีความแตกต่างจากกรณ๊ที่ไม่ได้ทิ้งสังขารไว้บนโลกมนุษย์แต่มีวัตถุธาตุ(พระเครื่อง)ที่พระสงฆ์ที่เคยปลุกเสกไว้บนโลกมนุษย์ก่อนดับขันธ์ จะมีผลเหมือนกันไหม

สำหรับเรื่องการสร้างองค์พระศรีฯ ผมอยากมีส่วนร่วมสร้างด้วย ถ้านอกจากการทำบุญด้วยเงินหรืออามิสบูชาแล้ว สามารถมีส่วนร่วมสร้างอย่างไรได้อีกบ้าง

 

คุณ sahadham

เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลสำคัญหรือผู้มีบารมีสูงๆนั้น บางครั้งท่านอธิษฐานบารมีปิดบังตัวเองไว้เพื่อเหตุผลส่วนตัวของท่าน หรือเพื่อการทำบารมีของท่านไม่ให้มีอุปสรรคมากนัก หากท่านไม่อนุญาตให้เปิดเผย แต่มีบุคคลไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์หรือฆราวาสไปเปิดเผยเรื่องราวของท่านซึ่งอาจจะส่งผลต่อการทำบารมีของบุคคลสำคัญ ผู้เปิดเผยนั้นก็จะรับวิบากกรรมใหญ่ หากผู้เปิดเผยเป็นนักปฏิบัติจะทำให้การปฏิบัติก็จะไม่ก้าวหน้า จะทำสิ่งใดก็ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรมก็จะไม่ประสบผลสำเร็จ หรือบางครั้งผู้เปิดเผยก็อาจจะถูกตัดบารมีโดยการตัดอายุสังขารหรือตายไปเลยก็ได้

สังขารของพระสงฆ์ที่สังขารไม่เน่าเปื่อยนั้น จะสามารถใช้สังขารเป็นสื่อจิตวิญญาณของท่านเหล่านั้นในการเชื่อมกับภพภูมิมนุษย์ได้ ลักษณะนี้ถือว่าท่านยังมีสังขารอย่บนโลกมนุษย์เพียงแต่ไม่สามารถใช้สังขารในการใช้ชีวิตประจำวันได้ ซึ่งมีความแตกต่างจากการที่ไม่ได้ทิ้งสังขารไว้ แม้ว่าจะมีวัตถุธาตุ(พระเครื่อง)ที่เคยปลุกเสกไว้บนโลกมนุษย์ก่อนดับขันธ์ ก็ยังไม่สามารถแทนกันได้ครับ เพราะเป็นคนละธาตุกันครับ แต่ก็มีพระสงฆ์หลายรูปเหมือนกันที่ญาณศีลธรรมส่วนหนึ่งของท่านสถิตย์อยู่ในรูปปั้นของท่าน และก็มีหลายรูปเหมือนกันที่ญาณท่านอยู่ได้ทั่วไป มีรูปท่านที่ไหนก็มีญาณศีลธรรมของท่านที่นั่น เช่น หลวงปู่ทองทิพย์ หลวงปู่ทวด พระครูเทพโลกอุดร เป็นต้น อันนี้ขึ้นอยู่กับบารมีของแต่ละพระองค์ด้วย

สำหรับเรื่องการสร้างองค์พระศรีฯ หากคุณ sahadham อยากมีส่วนร่วมสร้างในขั้นตอนต่างๆนอกเหนือจากการทำบุญด้วยเงินหรืออามิสบูชาแล้ว ก็สามารถทำได้ครับ แต่คงจะต้องรอให้กำหนดการต่างๆลงตัวก่อน แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ใครสนใจอยากร่วมบุญกุศลในขั้นตอนต่างๆ ในการหล่อหรือการสร้างก็ยินดีครับ

ช่วงนี้นอกเหนือจากการเตรียมการสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์แล้ว ก็กำลังทำมงกุฏพระเจ้าจักรพรรดิ์ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการเขียนแบบแยกส่วน(ทำแปลน)เพื่อให้ช่างหล่อแบบมงกุฏทองคำออกมาให้ตรงกับความต้องการ เสร็จแล้วก็จะประกอบเข้ากับหน้ากากทองคำซึ่งทำเสร็จไปก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นก็ต้องเตรียมเรื่องของการประดับเพชรพลอยที่มงกุฏ ซึ่งต้องคัดเพชรพลอยแท้ทุกเม็ดโดยเฉพาะเพชรเม็ดใหญ่ตรงยอดมงกุฏ ก็ต้องเตรียมจัดหาเช่นกัน

นอกจากนั้นภายในสัปดาห์นี้ก็จะให้ช่างตีทองคำหนัก 10 บาท แผ่ออกเป็น10 แผ่น หนักแผ่นละประมาณ 1 บาท เพื่อใช้เป็นเป็นปฐมฤกษ์ของชุดแผ่นทอง-เงิน-ทองแดง ที่จะให้หลวงปู่ใหญ่ท่านนำไปให้เบื้องบนท่านลงอักขระ 5 ชุด และรวมทั้งอีก 5 ชุดที่จะให้บุคคลสำคัญของประเทศท่านลงอักขระให้

ช่วงเข้าพรรษาปีที่แล้วรู้สึกว่าจะวุ่นๆกับงานบุญหลายรายการ มาช่วงเข้าพรรษาของปีนี้ยิ่งจะยุ่งหนักเข้าไปอีก แต่ก็วุ่นดี เพราะวุ่นแบบนี้ ได้บุญได้กุศล ครับ

 

ผมสงสัยที่คุณอัญญาสิทธ์บอกว่าหลวงปู่เณรคำน้อยตู่ว่าหลวงพ่อฤาษีท่านละสังขารไปก่อนเพราะเปิดเผยความลับสวรรค์มาก คุณมั่วหรือเปล่า พูดเองเออเองระวังนะครับ ท่านเป็นพระโพธิ์สัตว์บารมีมากล้นและบรรลุอรหันต์ชาตินี้ ระวังปรามาสพระรัตนตรัยนะคร้บโทษหนักขั้นอเวจีนะจะบอกให้ ถ้าหลวงปู่เณรคำน้อยท่านเห็นกายทิพย์ขององค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำจริงท่านจะตกตะลึงหงายหลังไปเลยละ ต่อไปพูดอะไรให้ระวังกว่านี้

 

คุณ อมตะ

ไปศึกษาคำว่า "เคารพยึดถือ กับเคารพนับถือ" ให้แตกฉานนะ จิตใจจะได้สว่างขึ้น และก็ฝากไปศึกษาเรื่องพระโพธิสัตว์(พุทธภูมิ)กับพระอรหันต์(สาวกภูมิ) ด้วยนะ เพราะยังเข้าใจไม่ถูก หลวงพ่อฤษีลิงดำท่านเป็นพระสาวกภูมินะ
ปฏิบัติให้เข้าใจและเข้าถึงตามคำสอนของหลวงพ่อฤษีลิงดำก่อนนะ แล้วค่อยมาถกกัน พยายามปฏิบัติตนให้เป็นอมตะอยู่ในความสว่าง อย่าให้เป็นอมตะอยู่ในความมืดนะ

 

บางท่านสอบถามมาเกี่ยวกับพุทธลักษณะของพระศรีฯที่กำลังจะสร้าง สัดส่วนทุกอย่างจะทำตามรูปพระแก้วมรกตที่เห็นในภาพครับ จะแตกต่างกันก็ตรงพระพักตร์ ที่ครูบาอาจารย์ให้ใช้ลักษณะพระพักตร์ที่ได้มาจากภาพกายทิพย์ของท่าน

 

ท่ามกลางความสงสัยอยู่มาก แต่ผมยินดี และนับถือในเรื่องที่คุณ aunyasit ได้มีโอกาส ทำบุญ สร้างพระ สร้างโบสภ์ สร้าง ฯลฯ และความรู้ การเห็นต่าง ๆ พอจะแนะนำการปฏิบัติได้หรือไม่ครับ ว่าต้องปฏิบัติอย่างไร มีการปฏิบัติอย่างไร จะมีสมาธิ จะรู้จะเห็นได้ เรื่องราว ของพระศรีฯ หลวงปู่เทพโลกอุดร นั้นลำล้ำมาก แล้วพระมหากัสสปะ ท่านเป็นอาจารย์ของ หลวงปู่เทพโลกอุดร หรือเปล่าครับ

 

เรียนคุณอัญญสิทธ์ หลวงพ่อฤาษีท่านเป็นพระโพธิ์สัตว์พอบารมีเต็ม (ขาดอีก 7 ชาติแต่ถ้าอยู่จนอายุ 60 ปี บารมีจะเต็มขั้น )ท่านก็ลาพุทธภูมิมาเป็นสาวกภูมิเพื่อเป็นกำลังของพระศาสนาให้ครบ 5000 ปี และก็บรรลุเป็นพระอรหันต์(แต่มาจากบารมีพุทธภูมิ 16 อสงไขยกำไลแสนกัป ) ผมว่าคุณนั้นแหละรู้จริงป่าว พูดมาได้อย่างไรว่าท่านมาจากสาวกภูมิ และท่านยังเขียนเล่าไว้ว่าวิมานของท่านก็เรียงอยู่ในระดับพระพุทธเจ้าด้วยแต่แสงสว่างไม่เท่าพระพุทธเจ้า ท่านมีวิมานบริวาร 37 สายแต่ละสายยาว 2 แสนโยชน์ของพระนิพพาน คุณไปอ่านมาให้ครบก่อนดีกว่า
ผมไม่รู้หรอกว่าคำว่า เคารพยึดถือ กับ เคารพนับถือ นั้นอะไรเป็นอะไรเพราะศึกษาทางโลกมาน้อย แต่ผมบอกตรงๆแบบไม่อายใครว่าสำหรับองค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำนั้นผมทั้งเคารพยึดถือและเคารพนับถือมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆคุณจะพูดจะทำอะไรที่มั่วๆๆเกี่ยวกับท่านผมต้องขอติง
สุดท้ายขออนุโมทนาบุญที่คุณไปบำเพ็ญมาตามวัดต่างๆด้วย

 

เรียนคุณอัญญาสิทธิ์...
หลวงปู่เณรคำ ใช่องค์เดียวกันที่ท่าน
อยู่ทางภาคอีสานหรือเปล่าคะ
และท่านกำลังสร้างพระแก้วมรกต..
เผอิญไม่แน่ใจว่าใช่องค์เดียวกันหรือเปล่า
(bb-flower (bb-flower (bb-flower

 

การสร้างพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ จะต้องใช้มวลสารศักดิ์สิทธิ์ หรือสิ่งของในโลกทิพย์ อะไรบ้าง อยากจะให้คุณ Aunyasit ช่วยบอกกล่าวด้วยครับ เผื่อว่าผู้ที่เฝ้ารักษา ครอบครอง จะได้นำมาร่วมบุญกุศลร่วมกันทุกภพ ทุกภูมิ ได้กราบไหว้บูชา เช่น ลูกแก้วของนาคพิภพ เป็นต้น

 

คุณอัญญาศิษย์ครับ เท่าที่อ่านเรื่องราวมา ไม่เคยเห็นเล่าเกี่ยวกับองค์พระปฐมเจดีย์ หรือเจดีเชวดากองของพม่า ที่เป็นเจดีย์ใหญ่ที่สุด คุณอัญญาสิทธิ์มีประสบการณ์ หรือเรื่องราวเกี่ยวกับเจดีย์ทั้งสองไหมครับ แล้วมีความเกี่ยวข้องกับพระศรีฯ หรือไม่ครับ

 

เรียนคุณอมตะ
เราไปปฏิบัติตามแนวทางที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านได้สอนไว้อย่างสุดยอดหาที่เปรียบมิได้แล้ว
ที่ทุกคำสั่งทุกคำสอนทั้งหมดล้วนสรุปที่การตัดกิเลสเพื่อความเป็นพระอริยเจ้า มุ่งตรงสู่พระนิพพานดีกว่าครับ
ส่วนพี่อัญญาสิทธิ์ ให้ท่านไปรับศาสตร์ศิลป์ จากศีลธรรมต่างๆ ของท่านเถิดครับ

 

คุณ nong_music

เรื่องการปฏิบัตินั้นสอนกันยากครับ เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตัว หากศรัทธาครูบาอาจารย์ท่านไหนก็ยึดเป็นแนวทางหรือเป็นต้นแบบ ตามคำสอนของท่านแล้วก็ปฏิบัติ ทาน ศีล ทำสมาธิภาวนาให้มาก แล้วจะดีเองครับ

พระมหากัสสปะ ท่านเป็นพระอรหันต์ สมัยพุทธกาล เช่นเดียวกันกับหลวงปู่เทพโลกอุดร พระมหากัสสปะท่านเข้าพระนิพพานไปแล้วครับ ส่วนพระครูเทพโลกอุดร ท่านมีหน้าที่เผยแพร่พระพุทธศาสนาในเขตสุวรรณภูมิตั้งแต่สมัยพุทธกาลจนถึงปัจจุบันครับ ทั้งสองพระองค์ท่านเป็นศิษย์พระพุทธเจ้าครับ

คุณ rosey

หลวงปู่เณรคำน้อย ที่ผมกล่าวถึง "เป็นคนละรูป" กับหลวงปู่เณรคำน้อย ที่ จ. มุกดาหาร รูปนี้ท่านกำลังสร้างพระแก้วจำลองขนาดใหญ่แต่ยังไม่เสร็จ คงจะใช้เวลาอีกนาน เพราะเมื่อท่านสร้างพระแก้วแล้วท่านต้องทำเครื่องศาสน์ศิลป์อีกมาก ซึ่งก็ไม่ใช่ของง่าย หลวงปู่เณรคำ(จ. มุกดาหาร)รูปนี้ท่านเคยได้เงินฮางทองคำ จากหนองหาน สกลนคร ท่านซื้อมาจากชาวประมงตอนกลางคืน พอวันรุ่งขึ้น หลวงปู่ทองทิพย์มาหาท่าน แล้วเจอกันครั้งแรก หลวงปู่ทองทิพย์ท่านเรียกชื่อเดิม ของหลวงปู่เณรคำน้อยโดยที่ไม่มีใครบอก และถามหาเงินฮางที่หลวงปู่เณรคำน้อยเก็บเอาไว้ หลวงปู่เณรคำน้อยท่านแปลกใจว่า หลวงปู่ทองทิพย์ท่านรู้ได้อย่างไร จึงถวายเงินฮางทองคำแก่หลวงปู่ทองทิพย์ไป หลวงปู่เณรคำ(จ. มุกดาหาร)ท่านยังไม่ใช่หลวงปู่เณรคำที่อยู่ในระบบของโลกอุดร


วันนี้ได้มีโอกาสสนทนากับหลวงปู่เณรคำน้อย ท่านบอกว่าหลวงปู่ใหญ่นำเอาเครื่องทำศาสน์ศิลป์ในการสร้างพระแก้วมรกต จากเบื้องบนมาให้แล้ว ให้ผมไปรับมารักษาไว้ ท่านบอกว่าทอง-เงิน-ทองแดง 5 ชุด ที่จะถวายให้ปู่ใหญ่นำไปลงอักขระที่เบื้องบนนั้น มีโยมอุปัฏฐากของหลวงปู่เณรคำน้อย นำมาถวายให้ปู่ใหญ่นำไปเบื้องบนแล้ว ท่านบอกว่าไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก เป็นหนึ่งในสี่ของคู่บารมีพ่อพระอินทร์ท่านลงมาทำบารมี สำหรับแก้วที่จะบรรจุในองค์พระทั้ง 5 องค์นั้น หลวงปู่ใหญ่ท่านจะนำลงมาให้ก่อนออกพรรษา

นอกจากนั้นหลวงปู่เณรคำน้อย ท่านบอกว่าอย่าเสียใจนะ ท่านขอผมอย่างหนึ่งคือท่านขอแบ่งบุญโดยจะจัดทำพระเนตรของพระทั้ง 5 องค์ ผมก็อนุโมทนายินดี ไปกับท่าน เพราะลำพังตัวเองคงจะไม่มีปัญญาที่จะหาของวิเศษมาทำพระเนตรขององค์พระได้

หลวงปู่ใหญ่ท่านฝากถามผมเรื่องกำหนดวันที่จะหล่อพระ ท่านบอกว่าจะทำให้เตรียมงานได้ง่ายเพราะรู้วันชัดเจน แต่สำหรับฤกษ์ยามนั้นหลวงปู่ใหญ่ท่านจะกำหนดมาให้เอง และสถานที่ที่จัดหล่อนั้นขอให้เป็นเขตวัดใดวัดหนึ่ง เพื่อการรองรับหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง ก็เข้าใจว่าจะมีพระสงฆ์และคนมาร่วมงานมากกว่าที่คิดไว้ หลวงปู่เณรคำน้อยท่านบอกว่าท่านรู้สึกสนุกที่ได้ทำบุญบารมีหล่อพระซึ่งจะห้อมล้อมไปด้วยเทพเทวาจำนวนมาก

ผมก็เลยถือโอกาสถามท่านเรื่องของหลวงพ่อฤษีลิงดำ เรื่องบารมีการปรารถนาและเรื่องมโนมยิทธิ ท่านก็บอกว่าหลวงพ่อฤษีลิงดำเคยปรารถนาพุทธภูมิ แต่เมื่อท่านปฏิบัติไปรู้ว่าบารมีท่านยังไม่ถึงพุทธภูมิ ท่านก็เปลี่ยนคำอธิษฐานไปเป็นพระสาวก ซึ่งต่อไปก็คืออัครสาวกเบื้องซ้ายของพระศรีฯ(ตรงกันกับที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านเคยบอกผมไว้) ผมก็เลยถามต่อว่าญาณศีลธรรมที่อยู่เบื้องหลังของหลวงพ่อฤษีลิงดำคือใคร ท่านบอกว่าคือดวงศีลธรรมของหลวงปู่เทพโลกอุดรท่านทำบารมีผ่านหลวงพ่อฤษีลิงดำ ท่านบอกว่าเรื่องปฏิปทาท่านผู้เฒ่านั้นเป็นเรื่องของหลวงปู่ใหญ่ แต่ลูกศิษย์หลวงพ่อฤษีลิงดำบางส่วนเข้าใจว่าเป็นตัวหลวงพ่อฤษีลิงดำเอง
ผมก็เลยถึงบางอ้อเรื่องที่หลวงพ่อฤษีลิงดำท่านสร้าง แหวนจักรพรรดิ์ แก้วจักรพรรดิ์ ฯลฯ ท่านบอกว่าเรื่องเหล่านี้หลวงพ่อฤษีลิงดำท่านรู้แต่ท่านบอกตรงๆไม่ได้จึงแสดงออกมาในลักษณะของสัญญลักษณ์ต่างๆ ใครมีปัญญาก็จะรู้ได้
ดังนั้นการเข้าถึงครูบาอาจารย์นั้น ควรจะเข้าให้ถึงทั้งนอกและถึงทั้งใน อย่าเข้าถึงท่านแค่อ่านตามตำราหรือบอกเล่าต่อๆกันมาอย่างเดียว แล้วตีความกันไปคนละทิศคนละทาง ควรปฏิบัติจิตไปศึกษาให้ลึกซึ้ง แล้วจะเข้าใจธรรมได้กว้างขวางขึ้น

ก็เข้าใจว่าลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤาลิงดำบางส่วนอาจจะไม่ค่อยแฮปปี้และอาจจะสับสนกับข้อความข้างต้นได้ แต่ก็อยากจะบอกว่าเรื่องของครูบาอาจารย์นั้น บางครั้งเราจะไม่เข้าใจจนกว่าเราจะปฏิบัติไปถึงระบบตรงนั้น ก็อย่างที่บอกไว้แต่ต้นว่าอีกไม่นานทุกสายธรรมจะต้องมารวมกันหมด ถึงตอนนั้นหลายๆคนก็จะถึงบางอ้อ ใครจะเชื่อแบบไหนไม่สำคัญเท่ากับว่าความจริงนั้นเป็นอย่างไร

 

คุณ ลูกหลานหลวงปู่

การสร้างพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ จะต้องใช้มวลสารศักดิ์สิทธิ์ หรือสิ่งของในโลกทิพย์ อะไรบ้างนั้น หลวงปู่ใหญ่ท่านเป็นผู้คัดเลือกให้ครับ หากท่านไหนต้องการนำสิ่งของมาบรรจุในองค์พระผมก็คงจะอนุญาตถามหลวงปู่ใหญ่ก่อนนะครับ ว่าสิ่งใดบรรจุได้ หรือไม่ได้

คุณ sahadham

เรื่องพระปฐมเจดีย์ กับเจดีย์ชเวดากองนั้นทั้ งสองที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แน่นอนครับ เข้าใจว่าพระปฐมเจดีย์ เดิมเป็นเจดีย์องค์แรกของแคว้นสุวรรณภูมิ ส่วนเจดีย์ชเวดากองนั้น ตามที่หลวงปู่เณรคำกลางท่านเล่าให้ฟัง เข้าใจว่าเป็นที่บรรจุเครื่องบริขารบางส่วนของพระเถระองค์สำคัญ ถ้าจำไม่ผิดคงจะบรรจุเครื่องบริขารของพระมหากัสปะ ที่มีผู้ขโมยมาจากประเทศอินเดียแล้วมาสร้างเจดีย์ครอบไว้ ใกล้ๆเจดีย์นั้นมีรูปปั้นของคนจีนซึ่งเป็นคนมีฤทธิ์คนหนึ่ง ซึ่งมีไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ เขาจะมาแอบนำเอาเครื่องบริขารจากข้างในเจดีย์ชเวดากองไปประเทศจีน ปรากฏว่าถูกภูมิรักษาพระเจดีย์สาปให้เป็นหินอยู่จนถึงปัจจุบันนี้แต่ปัจจุบันไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นหินนั้นไม่รู้ว่าใครนำเอาไป

อย่างไรก็ตามครูบาอาจารย์ท่านไม่เคยปรารภให้ฟังว่าทั้งสองเจดีย์นี้เกี่ยวข้องกับพระศรีฯอย่างไร เอาไว้ให้ผมมีโอกาสพบหลวงปู่เณรคำกลาง แล้วผมจะถามให้เพราะท่านมีความรอบรู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้อย่างละเอียดครับ

 

^0^

 

สวัสดีค่ะ คุณอัญญาสิทธิ์ ..
เกรงว่าจะเป็นคนละองค์กันจริง ๆ ค่ะ
เผอิญหลวงปู่เณรคำท่านไม่ได้อยู่ที่มุกดาหาร
สะดุดใจครูบาอาจาร์คือปู่ยี และหลวงปู่เณรคำ
อืม.. ขอบคุณที่คุณอัญญาสิทธิ์ช่วยไขข้อข้องใจค่ะ
และขอเป็นกำลังใจในการสืบสานงานพระพุทธศาสนาสืบต่อไป สาธุ..
(bb-flower (bb-flower (bb-flower

 

ผมเข้าใจว่าศรัทธานั้นต้องประกอบด้วยปัญญาครับ หลายๆอย่างที่หลวงพ่อฤษีลิงดำท่านบอกกล่าวนั้นเป็นปัญญาธรรมของท่าน ผู้ศึกษาธรรมนั้นต้องทำความเข้าใจในจุดนี้ด้วย โดยเฉพาะวิชามโนมยิทธินั้น เป็นวิธีการทางจิต เพื่อเป็นทางผ่านไปสู่ระดับจิตที่สูงขึ้นนะ สำหรับพระพุทธเจ้าที่หลวงพ่อฤษีลิงดำท่านกล่าวถึงนั้นคือใคร คือองค์พระพุทธเจ้าจริงๆหรือญาณศีลธรรมของพระพุทธองค์ท่านหรือญาณศีลธรรมอันเกิดจากดวงธรรมที่ท่านสงเคราะห์อยู่ภายในหรือญาณศีลธรรมของผู้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในกาลที่พระพุทธองค์ท่านเข้าพระนิพพานล่ะ ศึกษาใครศึกษาอย่างละเอียดแล้วจะเข้าใจ

และคำภาวนา "นะ มะ พะ ทะ" คืออะไร แค่ "ดิน น้ำ ไฟ ลม" หรือเปล่า หรือมีอะไรมากกว่านั้น
อย่างภาวนา คำว่า "นะ มะ พะ ทะ"หรือ "มะอะอุ อุอะมะ นะโมพุทธายะ" หรือ "มะอะอุ อุอะมะ นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ" ภาวนาแล้วจะเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ใครเป็นนักปฏิบัติตัวจริง จะเข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้ไม่ยาก

หลวงปู่ใหญ่ท่านสอนให้ผมภาวนา "นะ มะ พะ ทะ" เช่นกัน แต่ก็ไม่ให้ใช้แบบมโนมยิทธิ ท่านให้ใช้ประกอบกับบารมีตัวอื่น เพื่อให้เกิดเป็นสัมผัสที่หก คือให้เป็นบุญญฤทธิ์ที่เกิดเอง เป็นเอง แล้วจะอยู่ยั่งยืน

เรื่องดวงธรรมที่ไปสงเคราะห์ครูบาอาจารย์แต่ละท่านนั้น ต้องปฏิบัติและทำความเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง และต้องทำใจให้กว้างขวางเข้าไว้ อย่าไปคับแคบกับวิธีใดวิธีหนึ่ง บารมีของพระสงฆ์ระดับหลวงพ่อทองทิพย์ พระครูเทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด ดวงศีลธรรมของท่านมักจะไปสงเคราะห์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่เสมอ และมักอยู่เบื้องหลังของพระเกจิอาจารย์ส่วนใหญ่

หากใครคิดว่าหลวงพ่อฤษีลิงดำสุดยอดแล้ว ก็ขอให้เข้าใจว่าคุณคือสาวกของท่าน และก็ปฏิบัติไปให้ได้ตามที่ท่านสอน เรื่องธรรมมะของพระพุทธองค์นั้นไม่ใช่แค่ฟังมา หรืออ่านมานะ แต่ต้องปฏิบัติของตัวเองไปให้ถึงตามที่ท่านสอนด้วย

สำหรับพระสงฆ์อย่างหลวงปู่เณรคำน้อยนั้น ท่านมีลักษณะของมหาบุรุษบางประการติดฝ่าเท้ามาด้วย ผู้ที่ทำบารมีมามากๆ ท่านมักจะมีสิ่งเหล่านี้ติดตัวกัน ภาษาชาวบ้านเขาจะเรียกว่า "บอร์นทูบี" ซึ่งผู้ที่อยู่ในระบบของพระศรีฯจริงๆเขาจะเข้าใจกันว่าอะไรเป็นอะไร จนหลวงปู่ใหญ่ท่านเคยออกปากว่า "น้อยๆ เมื่อพ่อกลับขึ้นข้างบนแล้ว มองลงมาก็ยังไม่เห็นจะมีใครแทนพ่อได้ ก็มีแต่เจ้านี่แหละ" ผมก็เข้าใจว่าพระนักปฏิบัติระดับนี้จะไม่ตู่ใครหรือไม่มั่วนั่นเอง

ใครสงสัยเรื่องใด หากทำโทรจิตได้ก็ลองส่งจิตสนทนากับหลวงปู่เณรคำน้อยดูสิ แล้วจะได้รู้อะไรดีๆอีกมาก

ที่เล่ามานี้ก็ด้วยความเมตตาธรรมหรอกนะคุณศิษย์น้อย ต้องการให้เป็นนักปฏิบัติที่เข้มแข็งทั้งภายในและภายนอก เพราะต้องเกิดตายกันอีกมาก การที่คิดว่าจะหลุดพ้นง่ายๆนั้น ประมาทเกินไปครับ

 

199

ผมนับถือและศรัทธ่ ท่านครับ คงไม่มีปัญญาชาญ พอที่จะกล่าววิจารย์ท่านได้

ยังไงก็ศึกษารายละเอียดให้รอบครอบนะครับ