อำนาจพลังจิต ของ อ.พิศ เงาเกาะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 27 กรกฎาคม 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD>

    โดย สายทิพย์

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ตอนที่ 1

    [​IMG]


    คำว่า "เพราะทุกข์จึงเห็นธรรม" ดูจะเป็นหนทางเริ่มต้นชีวิตใหม่ของชายคนหนึ่งที่มีชีวิตในอดีตจมอยู่กับกองทุกข์ และบาปเวร มองหาแสงสว่างนำทางไม่พบเพราะกรรมมาบังตาให้ให้มืดบอด ไม่เข้าใจศีล ทาน ภาวนา ไม่เคยเข้าวัด ทำบุญ ฟังเทศน์ นั่งสมาธิ มั่วสุมอยู่กับอบายมุข ดื่มเหล้า เข้าบาร์ ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต จนสุดท้ายเมื่อถึงทางตันต้องการหนทางดับทุกข์เพราะเวลานั้นเขาแทบจะประคองชีวิตให้ดำเนินไปไม่ไหวแล้วท่านผู้นี้จึงได้พบ "พระสุปฏิปันโน" รูปหนึ่งช่วยชี้นำทางสว่างให้จน "ดวงตาเริ่มเห็นธรรม"
    นี่คือเสี้ยวหนึ่งของชีวิต อ.พิศ เงาเกาะ นักพลังจิตผู้มีชื่อในการใช้อำนาจพลังจิตของท่านบำบัดโรคร้าย อ.พิศ เป็นชาวจังหวัดนครราชสีมา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชาการเกษตร จากประเทศฟิลิปปินส์ อดีตเคยรับราชการเป็นอาจารย์โรงเรียนเกษตรกรรม จ.นครราชสีมา เคยได้รับหน้าที่ให้เป็นหัวหน้าวิชาสัตวบาล จิตใจจึงหมกมุ่นอยู่กับสัตว์ทุกลมหายใจ เวลานั้นสัตว์จะเกิด จะตาย หรือจะถูกฆ่าต้องผ่านความเห็นชอบของ อ.พิศ ก่อน ท่านจึงเปรียบตัวเองว่า เหมือนยมบาลสัตว์ตัวจริง อ.พิศ บอกกับเราว่า
    "ผมนี้บาปหนามาก ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมาทุกรูปแบบ เมื่อถึงคราวทุกข์ จึงทุกข์ขนาดหนัก เงินจะซื้อนมให้ลูกกินยังไม่มีเลย รถก็ไม่มีใช้บ้านก็ไม่มีอยู่ ทุกข์มากเพราะเราทำบาปมาทุกรูปแบบ โดยไม่รู้เรื่อง"
    ความทุกข์ของ อ.พิศ เงาเกาะดังที่บอกว่า "เพราะทุกข์จึงเห็นธรรม" ช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้ท่านตัดสินใจเข้าวัด หลังเกิดมรสุมชีวิตลูกใหญ่ ทั้งเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรง หลายครั้งติดๆกัน ทั้งขาดทุนจากการลงทุนธุรกิจ เสียเงินทองและหมดกำลังใจ ท้อแท้ สิ้นหวัง จึงหันหน้าเข้าวัดเพื่อเป็นที่พึ่งสุดท้ายเพราะไม่มีที่พึ่งอื่นอีกแล้ว
    หลวงพ่อพุธ ฐานิโย เจ้าอาวาสวัดป่าสาละวัน จ.นครราชสีมา คือพระสุปฏิปันโนที่ช่วยชี้นำทาง สว่างให้ อ.พิศ หันเหชีวิตมาในทางธรรม โดยให้มุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรม อาศัยหลักการภาวนาตามสายของ พระอาจารย์เสาร์ กันตะสีโล พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์สิงห์ ขันตยา ขโม เมื่อปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง ผลของการปฏิบัติทำให้เกิดเป็น "พลังจิต" ในสมาธิ รู้และเห็นอะไรที่ "เหนือธรรมชาติ" มากมาย และยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถนำ "พลังสมาธิ" มาใช้บำบัดทุกข์ผู้อื่นได้อีก
    อ.พิศ อธิบายให้ฟังว่า การปฏิบัติสมาธิภาวนา เมื่อจิตนิ่งสงบ จิตจะสว่างเกิดนิมิตหรือภาพในจิต ซึ่งภาพที่เกิดในจิตจะต่างกับภาพที่เห็นทาง "ตาเนื้อ" คือ สามารถที่จะมองเห็นได้รอบทิศทาง ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ดังเรื่องราวที่เป็นประสบการณ์ทางจิตของ อ.พิศ ซึ่งเขียนไว้ในหนังสือ "ธรรมมะ ในจิต" ซึ่งผู้เขียนขออนุญาตนำมาเผยแพร่เป็นธรรมทาน หลายเรื่องราว ดังเช่นเรื่อง
    ราชรถมาเกย
    ผมได้พบในนิมิตสมาธิคำว่า "ราชรถมาเกย" เมื่อจิตมีความตั้งมั่นแห่งจิต กระแสจิตส่งออกนอกกาย ไปสัมผัสกับคลื่นกระแสจิตที่อยู่ในบรรยากาศ จิตจะสร้างภาพนิมิตเป็นท้องฟ้าสีครามสดใส สว่าง เห็นภาพวงล้อเริ่มหมุนจากระยะไกล หมุนเข้ามาใกล้ทุกขณะจิตเมื่อภาพปรากฏชัด เป็นราชรถทองคำ มีลายกนกสวยงาม มีธงสามเหลี่ยมสีแดง แต่ไม่มีคนนั่งมาด้วย และไม่มีม้าลากจูง ประเดี๋ยวเดียวเห็นภาพผมขึ้นไปนั่งบนรถคันนั้น แล้วราชรถก็เคลื่อนที่ลอยออกไป ผ่านไปในเมืองนรกบ้าง เมืองสวรรค์บ้าง เมืองยักษ์บ้าง เทวโลกบ้าง พอนานเข้าจิตก็พอทราบว่านี่แหละที่พูดกันว่า "ราชรถมาเกย" สำหรับราชรถนี้จะพบในนิมิตจำนวนมากมองเห็นเทพนั่งราชรถมากมาย เทพแต่ละองค์เขาไม่ได้สนใจหรือไต่ถามทุกข์ สุขอะไรกันเห็นแต่เขาเหาะผ่านไปมาอย่างนั้น น่าแปลกเมื่อนั่งบนราชรถแล้วเพียงแต่คิดว่าจะไปไหนราชรถก็ลอยไปที่นั่นอย่างรวดเร็ว คือภาพในจิตที่เรียกว่า "มโนภาพ" นั่นเอง
    จากภาพในสมาธินิมิตก็มาถึงเรื่อง "การเกิดของมนุษย์" อ.พิศ เล่าว่า การที่เราจะมาเกิดเป็นลูกของใคร จิตวิญญาณนั้นต้องได้รับอฯยาตให้ลงมาเกิดจึงจะมาเกิดได้และมีการมีบุตรของมนุษย์ บางคนก็มีง่าย บางคนก็ยาก ซึ่งก็มีสามีภรรยาหลายคู่ที่แต่งงานแล้วไม่มีบุตร ทั้งทีแพทย์ตรวจร่างกายแล้ว ทั้งคู่แข็งแรง ปกติ ก็ได้ไปขอคำแนะนำจาก อ.พิศ บางคนท่านพิจารณาในสมาธิพบว่า ไม่มีดวงวิญญาณใดลงมาเกิดกับท้องนี้จึงไม่มีบุตร และเมื่ออธิฐานจิตถามว่า มีดวงวิญญาณใดจะขอลงมาเกิดบ้าง ถ้าหากมีก็จะเห็นในสมาธิว่า มีเด็กชายหรือเด็กหญิง ขอลงมาเกิดและก็จะมาเกิดภาพนิมิตนั้นจริงๆดังเรื่อง
    เทพธิดามาเกิดเป็นเด็กหญิง
    ผมได้พบเทพธิดาลงมาเกิดเป็นเด็กหญิงรายนี้เป็นรายแรก หญิงผู้เป็นแม่ถามผมว่าเหตุใดจึงไม่มีบุตร เมื่อพิจารณาในสมาธิพบว่ามีเทพธิดาองค์น้อยๆลงมานั่งข้างคุณแม่และบอกว่า จะขอมาเกิดเป็นบุตรสาว ของคุณแม่คนนี้ ผมถามว่าเหตุใดจึงไม่ขอเกิดเป็นชายเทพธิดาตอบว่า เพราะเทพบุตรไม่ว่าง เมื่อคลอดออกมาเป็นเด็กหญิงจึงเรียกว่ารู้ก่อนเกิด
    ตายแล้วกลับมาเกิดเป็นเด็กชาย
    เด็กชายคนนี้เป็นรายแรกที่ผมได้ติดตามและเขียนเรื่องการตายของเขาไว้ในหนังสือเรื่องกรรม คือ เด็กชายปกรณ์ ซึ่งตกน้ำตาย พ่อแม่ของเขาเศร้าโศรกมาก เก็บศพไว้ก่อนตามประเพณี และได้ถามผมว่า ดวงวิญญาณของเด็กชายปกรณ์ไปอยู่ที่ใด ผมพบนิมิตสมาธิว่า ดวงวิญญาณนั้นได้ติดตามพระธุดงค์ไป จะกลับมาเกิดอีกครั้งเมื่อมดลูกของแม่ของเขาทำงานได้ตามปกติ (ก่อนหน้านี้มดลูกของแม่อักเสบ) ผมจึงขอให้คุณพ่อและคุณแม่ปฏิบัติธรรม ตั้งอยู่ในทาน ศีล ภาวนา เสมอ เวลาผ่านไป 8 เดือน ดวงวิญญาณก็กลับมาเกิดกับแม่คนเดิมอีกพบในนิมิตสมาธิว่า ดวงวิญญาณมารอเกิดแล้ว และตั้งท้องในเดือนนั้นจริง พ่อฝันว่าได้นำพระพุทธรูปคืนมาจากวัด แม่ฝันว่าเด็กชายปกรณ์เดินเข้ามาหาในบ้าน ทั้งคู่ปฏิบัติธรรมโดยสม่ำเสมอ เมื่อท้องได้ 8 เดือน ได้ไปทำอัลตราซาวด์ พบว่าเป็นเด็กชาย เมื่อคลอดก็เป็นเด็กชายและมีติ่งที่ใบหูข้างเดียวกันกับเด็กชายปกรณ์ มาเกิดครั้งนี้ร่างเก่ายังอยู่ในที่เก็บศพของวัดใน จ.นครราชสีมา เมื่อเด็กชายปกรณ์เกิดใหม่ได้ขวบเศษแล้ว พ่อแม่ของเขาจึงจัดการฌาปนกิจร่างเดิม เช่นนี้จึงปรากฏชัดเจนว่ารู้ก่อนเกิด ตายแล้วเกิดแน่นอนซากศพจึงเปรียบได้เหมือน "บ้านของจิต" เท่านั้น
    เด็กชายปกรณ์ขณะเริ่มพูดพี่เลี้ยงบอกว่าจำความในอดีตของตนได้บางเรื่องเช่นขณะเล่นเพลิน ๆ อยู่ก็พูดว่า พี่ ๆ ไปบ่อน้ำด้วยกันไหม และเรียกชื่อเพื่อนนักเรียนที่เคยเรียนชั้นเดียวกัน เรียกชื่อโรงเรียนที่เคยเรียนก่อนตายได้ชัดเจน ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยได้บอกเล่าสิ่งเหล่านั้นให้ฟังเลย จึงเป็นการยืนยันได้ตามธรรมะว่า คนตายแล้วต้องเกิด
    หมาจะเกิดชิงหมาเกิด
    จะได้ยินคนเฒ่าคนแก่พูดกันความเข้าใจตื้น ๆ จะเข้าใจว่าเป็นคำด่าที่หยาบคายที่แท้จริงคำพูดนี้หมายถึงธรรมะที่เกี่ยวกับการเกิดของคนและสัตว์ "หลวงปู่ขาว อนาลโย" วัดถ้ำกลองเพล จ.อุดรธานีได้เคยเทศนาธรรมะเกี่ยวกับจิตวิญญาณที่ลงมาเกิดไว้ว่า เราจะไปเกิดที่ไหนมันยากแล้ว บุญบ่อถึงเขาเราต้องทำเอา เกิดเป็นมนุษย์เป็นสัตว์อันสูงสุดก็เป็นบุญหนหลังติดตามตนให้มาเกิดเป็นผู้บริบูรณ์ สมบูรณ์
    "ผมได้พบนิมิตสมาธิเกี่ยวกับการมาเกิดของคนเช่นนี้ ครั้งหนึ่งขณะสมาธิภาวนาอยู่มีนิมิตว่าลานโดยรอบพระอุโบสถนั้น มีดวงวิญญาณคน และสัตว์นั่งอยู่เป็นแถว แต่วิญญาณของคนเห็นได้ชัดเจนมาก จิตนั้นเห็นดวงวิญญาณของเด็กคนหนึ่ง รีบลุกออกจากกลางแถวบอกว่าได้โอกาสมาเกิดเป็นคนแล้ว ส่วนดวงวิญญาณทุกดวงนั้น ยังคงนั่งรอการมาเกิดอยู่แต่ด้วยบุญกุศลที่สะสมอยู่ในจิตแต่ละดวงนั้นต่งกัน ดวงวิญญาณที่มีบุญมากกว่าจึงมีโอกาสมาเกิดได้ก่อน การมาเกิดเป็นมนุษย์นั้นยากมาก มนุษย์มีกายและจิตที่สามารถศึกษาธรรมะได้ มนุษย์จึงมีโอกาสที่จะไปนรก สวรรค์ เทวโลก พรหมโลก และพระนิพพานได้ การเกิดของสัตว์มาเป็นคนนั้น จะเกิดก็ยังเกิดไม่ได้ เพราะบุญหนหลังของคนมีมากกว่าสัตว์ คนจึงเกิดก่อนสัตว์ เหมือนกับ "หมาจะเกิดชิงหมาเกิด" ซึ่งหมายถึงบุญกรรมของสัตว์โลกนำให้มาเกิดนั่นเอง"
    ฉบับหน้าจะเล่าถึงหนทางดับทุกข์ โรคภัย ปัญหาครอบครัวต่าง ๆ ที่เป็นทุกข์ ในการครองเรือนอันเป็นวิบากกรรม ซึ่ง อ.พิศ จะให้แนวทางแก้ไข นำไปปฏิบัติจนประสบความสำเร็จ [​IMG]

    ที่มา : นิตยสารหญิงไทย
    ฉบับที่ 696 ปีที่ 30 ปักษ์แรก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2006
  2. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>อำนาจพลังจิต ของ อ.พิศ เงาเกาะ (ตอนจบ)</TD></TR><TR><TD>

    โดย สายทิพย์



    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    [​IMG]




    ฉบับที่แล้วได้นำเรื่องราวอันเกิดจากอำนาจพลังจิตของ อ.พิศ เงาเกาะ มาเสนอโดยได้เล่าถึงภาพเหตุการณ์ใน "สมาธินิมิต" จากหลายเหตุแห่งทุกข์ที่อาจารย์เคยช่วยเหลือผู้คนไว้ ซึ่งก็ยังมีอีกหลายสาเหตุทุกข์อันเป็น "วิบากกรรม" โดยเฉพาะทุกข์ของโรคภัยไข้เจ็บร้ายแรง และทุกข์แห่งการครองเรือนคือปัญหาในครอบครัวที่เป็นปัญหาใหญ่ของมนุษย์ทุกวันนี้

    เรื่องราวแห่ง "ทุกข์" ทั้งหลายอ.พิศได้บันทึกไว้ในหนังสือ "ธรรมะในจิต" และ "อำนาจพลังจิต" ซึ่งได้พิมพ์เผยแพร่เป็นธรรมทาน ผู้เขียนจึงได้ขออนุญาตนำเรื่องราวบางเรื่องมาลงให้อ่านกัน เพื่อให้ได้รู้ว่าคนเราเมื่อเกิดทุกข์ก็ย่อมมีเหตุ และหนทางดับทุกข์ "พลังอำนาจจิต" ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้รู้เหตุและหนทางดับทุกข์ได้ ดังเรื่องราวต่อไปนี้

    โรคแพ้แสงอาทิตย์
    ญาติของผู้ป่วยโรคแพ้แสงพระอาทิตย์รายนี้ได้เล่าว่าญาติของตนเป็นชายสูงอายุป่วยเป็นโรคแพ้แสงอาทิตย์ เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นร่างกายจะอ่อนเพลีย หมดแรง เดินไปไหนไม่ได้ มีอาการป่วยเช่นนี้มานานแล้ว ได้ไปพบแพทย์หลายครั้งและโรงพยาบาลหลายแห่ง แพทย์ไม่ทราบสาเหตุของโรค ไม่สามารถทำการรักษาได้ จึงขอคำแนะนำว่าควรจะแก้ไขอย่างไร
    ผู้เขียนได้พิจารณาในสมาธิขอพิจารณาความทุกข์ สาเหตุแห่งทุกข์ วิธีการดับทุกข์ และความดับทุกข์ของชายผู้นี้ แล้วจึงหยุดความคิดเช่นนั้น นิมิตจะเปลี่ยนไปให้เห็นชายผู้นี้ยืนถือปืนสั้นอยู่และยิงทุกคนที่ขวางหน้า จิตเกิดภูมิรู้ขึ้นมาว่า ผิดศีลข้อปาณาติปาตา มีเจตนาฆ่าคนมามากมาย และมีคำถามขึ้นมาในจิตนั้นว่า มีหนทางดับทุกข์ได้หรือไม่ จิตมีคำตอบว่าเป็นกรรมหนัก ไม่มีหนทางดับทุกข์ หลังจากคลายสมาธิได้ถามญาติที่มาขอความช่วยเหลือก็ยอมรับว่าเป็นความจริง ต่อมาไม่นานผู้ป่วยก็ตายไป

    มะเร็งเต้านม
    ผู้ป่วยรายนี้บอกผู้เขียนว่าป่วยเป็นโรคเนื้องอกที่เต้านมข้างขวา เมื่อ 26 ส.ค.2528 แพทย์ได้ผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออก หลังจากนั้น 2 สัปดาห์มีอาการป่วยขึ้นมาอีก ต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นครั้งที่ 2 ต่อมาประมาณ 1 ปี ก้อนเนื้อเกิดขึ้นที่เต้านมข้างขวาอีก 2 ก้อน ต้องรับการผ่าตัดเป็นครั้งที่ 3 และขณะที่เล่าอยู่นั้นบอกว่าได้เกิดก้อนเนื้อขึ้นที่เต้านมข้างซ้ายอีก
    อาการของโรคนี้รู้สึกอ่อนเพลียมาก มีอาการหอบที่เต้านมพบก้อนเนื้อแข็งๆมีอาการปวดแสบปวดร้อน ประมาณ 5 ทุ่มจะมีไข้สูง ต้องกินยาแก้ไขทุกคืน ต่อมา 4 โมงเช้าจะมีอาการปวดแสบปวดร้อนที่เต้านมมาก เวลาพูดจะรู้สึกเหนื่อย ไปพบแพทย์เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2530 แพทย์ให้ผ่าตัดเต้านมออกทั้ง 2 ข้าง
    เมื่อพิจารณาในสมาธิ ภาพนิมิตจะปรากฏขึ้นเป็นภาพเต้านมที่อักเสบ ผิวหนังเต้านมจะค่อยๆแยกออกเปิดให้เห็นเนื้อเยื่อภายใน จนถึงกลุ่มของเนื้อเยื่อที่ผิดปกติ โดยจะเริ่มอักเสบที่จุดเล็ก ๆ คือที่นิวเคลียสของเซลล์ที่ถูกทำลาย เนื้อเยื่อส่วนนี้จะค่อยๆขยายตัวไปยังเนื้อเยื่อรอบๆทำให้เป็นก้อนโต ภายในก้อนเนื้อจะขยายเป็นโพรง และมีตัวแมลงคล้ายตัวบุ้งขนโผล่หน้าออกมา ลำตัวปกคลุมด้วยขนยาว มีสีต่างๆสวยงาม ตัวแมลงนี้จะแสดงให้ดูว่าผู้ป่วยจะมีอาการอย่างไร เช่น อาการคน ตัวแมลงจะหมุนตัวไปมาอาการเจ็บ ปวด ร้อน แสบ แมลงตัวนี้จะเดินขยุ้มเท้าไปเรื่อยๆนี่คือรู้ความทุกข์ เมื่อกำหนดจิตแผ่เมตตาไปยังจิตผู้ป่วยและแมลงตัวนั้น นิมิตจะเห็นตัวเชื้อโรคหลุดลอยออกไป ก้อนเนื้อที่เป็นก้อนโตจะยุบตัวลงเป็นปกติ นี้คือวิธีการดับทุกข์
    หลังจากการรับอำนาจพลังจิตเช่นนั้น ผู้ป่วยบอกว่าอาการปวดแสบ ปวดร้อนลดลง อาการอ่อนเพลียหายไป อาการที่เต้านมรู้สึกนิ่มและเบา วันที่ 2 ธ.ค.2530 ไปพบแพทย์ นายแพทย์ตรวจแล้วบอกว่า ก้อนเนื้อที่เต้านมฝ่อหมดแล้ว ไม่ต้องทำการผ่าตัดคือเข้าถึงความดับทุกข์
    นอกจากทุกข์ในโรคภัยต่างๆซึ่งมากมายสารพัดโรคที่อ.พิศเคยช่วยบำบัดก็ยังมีทุกข์ในครอบครัว หรือปัญหาในการครองเรือน การประกอบอาชีพต่าง ๆ ซึ่งทังนี้เกิดจากวิบากกรรม ทำให้เกิด "ตำหนิแห่งกรรม" หรือ "ไฝ" ตามตำแหน่งสำคัญของร่างกาย แม้จะลบออกกรรมนั้นก็ยังไม่ลบล้าง อย่างเช่นเรื่องนี้

    มีหนี้สินมากกว่า 80 ล้านบาท
    ผู้รับเหมาก่อสร้างรายหนึ่งบอกผู้เขียนว่าทุกข์ใจมาก มีหนี้สินมากว่า 80 ล้านบาท รับเหมาก่อสร้างโครงการใหญ่ๆมากกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป เมื่อจบโครงการเงินก็หมด หนี้ยังคงเดิม เป็นเช่นนี้มาร่วม 15 ปี ขอคำแนะนำว่าควรจะแก้ไขการดำเนินชีวิตอย่างไร จึงจะพ้นจากภาระหนี้สินเช่นนี้ได้
    เมื่อพิจารณาสาเหตุแห่งทุกข์ในสมาธิ พบนิมิตสมาธิที่เป็นผลกรรมจากอดีต กำลังส่งผลในปัจจุบันอย่างรุนแรง คือมีไฝที่อวัยวะเพศทั้งสามีและภรรยา พลังงานจากไฝนั้นของภรรยาส่งผลแรนงกว่าของสามี คือพลังงานที่ส่งออกมาจากเม็ดไฝเป็นเปลวไฟลุกท่วมช่องคลอดส่งออกมาไหม้ทรัพย์สิน
    นิมิตเปลี่ยนไปเป็นผลของวิบากกรรมในชาตินี้ คือมีทรัพย์ของแผ่นดินไว้ในครอบครองในนิมิตนั้น เห็นองค์เทวดาแปลงร่างเป็นงูใหญ่มาเฝ้าทรัพย์นั้น และนิมิตได้เปลี่ยนไปอีก เห็นสามีของหญิงคนนี้ขโมยตัดไม้ทำลายป่าของแผ่นดินมากมาย หลังจากคลายสมาธิแล้วได้ถามทั้งสามีภรรยาว่าเป็นความจริงตามนิมิตสมาธิหรือไม่ ทั้งสามีภรรยาตอบว่า ทั้งสองคนมีไฝที่อวัยวะเพศจริง
    เรื่องทรัพย์ของแผ่นดินคุณพ่อได้ร่วมกับนายอำเภอไปขโมยขุดเอามาไว้ในบ้านจากเหตุการณ์นั้นเป็นต้นมา คุณพ่อได้ล้มป่วยเป็นอัมพาตถึง 10 ปีจึงตายไป และเห็นงูใหญ่เลื้อยอยู่ในห้องทำงาน 2 ครั้ง เมื่อเปิดประตูเข้าไปค้นหาก็ไม่พบงูใหญ่นั้นเลย ส่วนเรื่องการตัดไม้ทำลายป่านั้น ยอมรับว่าสามีได้ทำกิจการค้าไม้ ทำกิจการโรงเลื่อยไม้ เมื่อขออนุญาตตัดไม้แล้ว ได้ทำการตัดไม้ทั้งที่ได้รับอนุญาตและขโมยตัดไม้อีกมากมาย จากสาเหตุแห่งทุกข์เช่นนี้อำนาจองวิบากกรรมทั้งอดีตและปัจจุบันนั้นส่งผลให้กิจการค้าล้มเหลวตลอดมา
    การพิจารณาวิธีการดับทุกข์ได้แนะนำให้ทำบุญกุศลด้วยการกราบพระ สวดมนต์ ปฏิบัติสมาธิภาวนา ทำบุญกับพระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบเป็นที่ตั้งภรรยาพอใจในคำแนะนำนั้น และได้ปฏิบัติตาม เช่น กราบนิมนต์พระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบไปเทศนาโปรดที่บ้านตักบาตรถวายผ้าไตรจีวร ดอกไม้ ธูปเทียน แผ่เมตตาจิตในบุญกุศลนั้นให้ตนเอง ครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ เจ้ากรรมและนายเวร ทั้งในอดีตและในปัจจุบัน ได้กระทำเช่นนี้เสมอ แต่สามีไม่เกิดปีติในบุญกุศลนั้น ๆ เพียงเข้าร่วมพิธีด้วยเท่านั้น ผลบุญที่เกิดขึ้นย่อมไม่ชนะ บาปอกุศลที่ได้กระทำไว้มากมาย เหตุการณ์เช่นนี้เข้าไม่ถึงความดับทุกข์ได้
    การบำบัดโรคของ อ.พิศ เงาเกาะ อาจารย์จะไม่เรียกค่ายกครูใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้อาจารย์ยังจะแนะนำธรรมะให้ปฏิบัติด้วย และสุดท้าย อ.พิศ เงาเกาะ ได้ฝากข้อคิดไปถึงผู้หญิงไทยทุกคนว่า
    "ศาสนาพุทธเป็นศาสนาเดียวที่สามารถบรรลุมรรคผลนิพพาน เราจงเป็นคนที่มีคุณภาพเถิด ทุกวันนี้ประเทศชาติเราสร้างแต่วัตถุ เราไม่สร้างคน ผู้หญิงไทย ผู้ชายไทย ที่เป็นแม่และพ่อควรมีคุณภาพ บ้านเมืองเราจะรุ่งเรือง ผู้หญิงสาวๆต้องคุ้มครองตัวเองได้ เพื่อให้ลูกเกิดมาเป็นคนดี ประสบความสำเร็จในการครองเรือน ครอบครัวมีความสุข"


    ที่มา : นิตยสารหญิงไทย.
    ฉบับที่ 697 ปีที่ 30 ปักษ์หลัง


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2006
  3. kittiwat_j

    kittiwat_j Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +27
    ขอบคุณสำหรับความรู้ดีนะครับ อนุโมทนากับอาจารย์ด้วยนะครับ
     
  4. benyapa

    benyapa ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,088
    ค่าพลัง:
    +5,431
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">เคยโทรไปปรึกษาปัญหาธรรมกับอาจารย์พิศ ด้วยค่ะ ท่านให้ข้อคิด แนวทางแก้ไขและความเมตตามาตลอดเลยค่ะ สาธุ
    บุญรักษาค่ะ
    เบญญาภา
    </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    ดีเลยจ๊ะ..จริงๆในบทความนี้มีเบอร์โทรอาจารย์ด้วยอ่ะจ๊ะ..แต่ตาไม่แน่ใจในความปัจจุบัน..เลยไม่ได้ใส่ลงไปจ๊ะ
     
  6. benyapa

    benyapa ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,088
    ค่าพลัง:
    +5,431
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">อ๋อ ค่ะ ท่านจะอยู่ที่นครราชสีมา บางครั้งก้อมาที่บ้านที่ปทุมธานีค่ะ </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    เคยอ่านหนังสือ ของอาจารย์พิศ เงาเกาะ 2-3 เล่ม นานแล้วครับ
    รู้สึกศรัทธา ในการปฏิบัติ และการช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้มีความทุกข์
    ของท่านอาจารย์
    ขอบคุณน้องตา ที่นำเรื่องของอาจารย์ มาเผยแพร่ ให้ได้รับทราบกัน
    อย่างกว้างขวาง ขออนุโมทนาครับ
     
  8. rin5297

    rin5297 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +569
    คุณ benyapa ครับ ผมอยากทราบเบอร์ของอ.พิศบ้างน่ะครับเพราะถ้าได้แวะไปโคราชจะไปหาท่านบ้าง
     

แชร์หน้านี้

Loading...