โค้งสุดท้ายของแผนการประกาศและเปิดเผยตัว อย่างเป็นทางการ ต่อชาวโลก ของมนุษย์ต่างดาว

Chayutt · 12 มกราคม 2010

<object width="425" height="349"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/VlamuxwdbwI&border=1&color1=0x6699&color2=0x54abd6&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/VlamuxwdbwI&border=1&color1=0x6699&color2=0x54abd6&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="425" height="349"></embed></object>

Chayutt · 12 มกราคม 2010

<object width="560" height="340"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/RwXkIXLlpzU&hl=en_US&fs=1&"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/RwXkIXLlpzU&hl=en_US&fs=1&" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="560" height="340"></embed></object>

chanwen · 13 มกราคม 2010

ติดตามอ่านกระทู้เรื่องความรักและแสงสว่างจามิตรต่างภพจากคุณชยุตมานานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสที่จะเข้ามาเขียนในกระทู้เลยครับ
ขอเป็นกำลังใจให้คุณชยุตนำเรื่องดีๆมาบอกเล่าอย่างนี้เรื่อยๆครับ
และก็ตั่งหน้าตั่งตารอการเปิดเผยตัวด้วยเช่นกันครับ
ผมพอจะรู้ภาษาอังกฤษอยู่บ้างน่ะครับ ยินดีเป็นลูกมือคุณชยุตในการแปลครับ

Chayutt · 13 มกราคม 2010

chanwen said: ↑

ติดตามอ่านกระทู้เรื่องความรักและแสงสว่างจามิตรต่างภพจากคุณชยุตมานานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสที่จะเข้ามาเขียนในกระทู้เลยครับ
ขอเป็นกำลังใจให้คุณชยุตนำเรื่องดีๆมาบอกเล่าอย่างนี้เรื่อยๆครับ
และก็ตั่งหน้าตั่งตารอการเปิดเผยตัวด้วยเช่นกันครับ
ผมพอจะรู้ภาษาอังกฤษอยู่บ้างน่ะครับ ยินดีเป็นลูกมือคุณชยุตในการแปลครับ
Click to expand...

ดีเลยครับ เพราะผมก็อยากได้คนช่วยเหลืออยู่เหมือนกัน
จะได้ทำงานเพื่อแสงสว่างด้วยกัน

เดี๋ยวช่วยส่ง e-mail address ให้ผมหลังไมค์นะครับ (PM)

..............................................

ลูกท่าน · 14 มกราคม 2010

Misha said: ↑

...............................

ยินดีด้วยนะคะที่คุณยกระดับจิตใจได้ แต่เราอยากบอกว่าทำไมเราถึงรู้สึกว่าทุกวันนี้เราเจอแต่คนเห็นแก่ตัว คนเอารัดเอาเปรียบคนอื่น คนเลวคนชั่วทั้งตามข่าวทีวีตามหน้าหนังสือพิมพ์ ไหนจะคนใกล้ตัวก็นิสัยไม่ดี แข่งกันอวดร่ำอวดรวย แข่งกันมีรถมีบ้านหลังใหญ่ๆ บ้าๆบอๆ เฮ้อๆๆๆ ไปที่ไหนส่วนใหญ่รู้สึกว่าเจอแต่คนไม่ดี ไม่น่าคบ ส่วนมากชอบมายืมตังขอความช่วยเหลือเวลาเดือดร้อน พอเราเดือนร้อนจะใช้มั่งก้อไม่คืนอ้างว่าไม่มีท้งที่เห็นๆอยู่ว่ามันมี แล้วคนทุกวันนี้ก้อเข่นฆ่ากันรายวัน เอาง่ายๆแค่ภาคใต้เรายังไปไม่รอด แล้วไหนจะยาเสพติดอีก ศาสนาก้อเสื่อม เพราะคนมันทำให้เสื่อม ปัญหาอื่นๆอีก ไม่อยากเชื่อเรยว่าการยกระดับจิตใจที่ว่านั่นมันได้เกิดขึ้นแล้ว -*- เรากลับรู้สึกว่าโลกเรามนุษย์เรามันกำลังเลวขึ้นๆๆทุกวันๆๆๆๆๆ จนความเลวมันกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับสมัยนี้แล้ว คนเลวทำเลวอยู่ทุกวันจากสันดานมันจะกลายเป็นคนดีได้ยังไง ไม่อยากเชื่อเรย เฮ้อๆๆๆ
Click to expand...

ตรงนี้ น่าจะพัฒนามาเองจากกรรมของแต่ละจิตนะครับ
(ทั้งกรรมดีและกรรมไม่ดี สลับกันไปต่างเวลาต่างวาระ
สะสมมาเรื่อยๆ และส่งผลต่างเวลาต่างวาระเช่นกัน)

mib8gdviNz · 15 มกราคม 2010

รอดูต่อไปครับ อิอิ

Chayutt · 16 มกราคม 2010

เอาหละครับ

หลังจากทิ้งกระทู้นี้ไปนานพอสมควรแล้ว
ตอนนี้เราก้มาต่อกันดีกว่านะครับ

..................................

Chayutt · 16 มกราคม 2010

Disclosure Endgame: Free Ebook!
(โค้งสุดท้ายก่อนการเปิดเผยตัว : หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แจกฟรี)

By: David Wilcock

ที่มา: Disclosure Endgame: Free Ebook!

Last Updated on Friday, 25 December 2009 19:31 Saturday

THE OFFICIAL THEORY IS OUT-GASSING MORE AND MORE
คำอธิบายอย่างเป็นทางการนั้น ยิ่งคิดดู ก็จะยิ่งรู้ว่า
เป็นการพูดเหลวไหลมากขึ้นและมากขึ้น

ปรากฏการณ์เกลียวหมุนวนที่ประเทศนอร์เวย์นั้น ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนอย่างกว้างขวาง
และก็ถูกพินิจพิเคราะห์กันอย่างกว้างขวาง มากกว่าปรากฏการณ์ปิรามิดเหนือพระราชวังเครมลิน

ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ามีจำนวนคนที่สามารถถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ และเห็นมากับตาตัวเองจำนวนมากกว่า
เพราะว่า ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงจุดไหนของประเทศนอร์เวย์ แทบจะพูดได้ว่า คุณก็สามารถมองเห็นปรากฏการณ์นี้ได้เหมือนกัน

และอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปรากฏการณ์นี้ดังกว่าปรากฏการณ์ปิรามิดเหนือพระราชวังเครมลินก็คือ
เพราะว่ามันเป็นอะไรที่แปลกตาจริงๆ

มันทำให้เกิดการพิจารณาใคร่ครวญว่าเกลียวหมุนวนนี้คืออะไรกันแน่ และทำให้เกิดการสืบสวนเสาะหาข้อเท็จจริง
เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง และแพร่สะพัดไปทั่วในอินเตอร์เน็ต พอๆกับที่ตัวปรากฏการณ์เอง
มันครอบคลุมท้องฟ้าเหนือประเทศนอร์เวย์อยู่

มีหลายคนที่วิจารณ์ว่า เกลียวหมุนวนเหล่านี้ ดูเหมือนว่า มันจะเกิดจากลำแสงที่ถูกยิงขึ้นมาจากจุดใดจุดหนึ่ง
บนพื้นโลกอย่างชัดเจน เหมือนกับว่า กำลังมีการฉายภาพจากเครื่องโปรเจ็กเตอร์ขึ้นไปบนท้องฟ้าอยู่อย่างนั้นแหละ
โดยใช้ลำแสงสีฟ้าอย่างที่เห็นในภาพ

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> แต่ด้วยความเคารพเถอะนะครับ ถ้าหากว่ามีจรวดถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้าจริงๆ มันก็ต้องมีร่องรอยที่ทิ้งไว้ให้ติดตามได้
จากจุดที่ถูกยิง ไปถึงจุดที่มันกำลังอยู่ เช่น ควันของมันเป็นต้น แต่ว่า ยังไงเสีย ควันของมัน
ก็จะไม่สามารถทำให้เกิดเกลียววงกลมที่สมบูรณ์แบบ ได้ขนาดนี้เป็นแน่ และอีกอย่าง ควันของจรวด
ก็จะไม่สามารถก่อให้เกิดเกลียวลำแสงสีฟ้าที่อยู่ตรงจุดศูนย์กลางพอดีแบบนี้ได้
แม้ว่าภาพที่เห็นจะเหมือนกับว่ากำลังมีการฉายภาพจากโปรเจ๊กเตอร์บางอย่างขึ้นไปบนท้องฟ้าอยู่ก็ตาม

พวกเราต่างก็รู้ว่า ภาพถ่ายที่เห็นนี้ ถ่ายที่เกาะ Tromsø และผู้ถ่ายก็หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
ดังนั้น ในภาพ คุณจึงสามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นตรงเส้นขอบฟ้าได้

หลายคนอาจจะจำเป็นต้องเชื่อว่า ปรากฏการณ์นี้เกิดจากจรวดหรือมิซายล์จริงๆ
เพราะว่าพวกเขาอยากมีความรู้สึกอบอุ่นใจที่ได้อยู่ใน “โลกแห่งความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่” ให้นานขึ้นอีกซักนิดหนึ่ง

แต่ว่าเกลียวลำแสงสีฟ้าตรงศูนย์กลางอันนั้น ก็คงอยู่ได้ในอากาศนานประมาณ 10 – 15 นาที
โดยไม่มีการค่อยๆหริบหรี่ลง หรือ ค่อยๆจางหายไปแต่ประการใด จนกระทั่งเมื่อมันได้ปรากฏสิ่งที่ดูเหมือนหลุมดำที่น่าทึ่ง
และกลมดิกขึ้นมา มันจึงค่อยหายไป (ดูภาพประกอบด้านล่าง)

นี่ไม่ได้มีอะไรพิเศษใช่ไหม๊ มันเป็นแค่เรื่องธรรมดาๆอย่างงั้นเหรอ?<o>

.....................................
</o>

Chayutt · 17 มกราคม 2010

HOW DO YOU GET SUCH STABILITY AND LACK OF 'MIXING'
BETWEEN THE TWO COLORS?
คุณจะทำให้เกิดเกลียวหมุนวนที่คงทนทั้ง 2 สีพร้อมๆกันได้อย่างไร
โดยไม่ทำให้พวกมันผสมกัน

หากว่ามันเป็นมิซายล์จริงๆ ทำไมมันถึงทำให้เกิดเกลียวหมุนวนที่กลมดิกทั้ง 2 สีพร้อมๆกันได้อย่างไร? คือสีขาวและสีฟ้า

ลืมคำอธิบายอย่างเป็นทางการ ที่บอกว่ามันต้องเป็นมิซายล์แน่ๆ อันนั้นไปได้เลย

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เกลียวลำแสงหมุนวนสีฟ้าอันนั้น ไม่เคยเปลี่ยนสีไปเลย มันยังคงเป็นสีฟ้าอยู่ตลอด
โดยไม่มีการค่อยๆจืดจางไป แต่ยังคงเป็นเกลียวลำแสงสีฟ้าแบบนั้นอยู่ตลอดอย่างสมบูรณ์แบบ
จนกระทั่งปรากฏการณ์ทั้งหมดนั้นสลายตัวไป ซึ่งมันก็สลายตัวไปพร้อมๆกันหมด

พวกเราก็อยากจะเห็นเหมือนกันหละว่า มีมิซายล์ที่ไหนที่สามารถทำให้เกิดเกลียวหมุนวนที่มีสีแตกต่างกัน
ถึง 2 สีพร้อมๆกัน แต่ไม่ผสมรวมกัน แบบนี้ได้

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style>
หากว่าปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่น่าทึ่งครั้งนี้ เป็นปรากฏการณ์ธรรมดาของมิซายล์ที่ผิดปกติจริงๆ
มันก็น่าจะมีตัวอย่างของปรากฏการณ์แบบนี้จำนวนมากมายให้เห็นบ้างสิ
(เพราะว่ารัซเซียเคยทดลองอาวุธชนิดนี้มาหลายครั้งแล้ว และก็เกิดการผิดพลาดและไม่สำเร็จมาโดยตลอด
เพราะฉะนั้น ภาพของมิซายล์ที่ผิดพลาดและไม่สำเร็จเหล่านี้ มันก็ควรมีให้เห็นอยู่มากมายเกลื่อนกลาด
เป็นของธรรมดาไปเลยสิ – Chayutt)

ซึ่งก็ไม่ขอมากหรอกนะครับ ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ขอเพียงแค่ให้มันมีตัวอย่างที่น่าทึ่งได้แค่เพียงเศษเสี้ยวหนึ่ง
ของปรากฏการณ์นี้หน่อยก็พอแล้วหละครับ และเพราะมันไม่มีนี่สิ มันก็เลยทำให้พวกคนที่ไม่เชื่อทั้งหลายผิดหวังไปตามๆกัน
และก็เลยอยากที่จะลืมมันไป โดยคิดซะว่ามันไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นกระมัง

ไม่ว่าใครจะมีข้อพิสูจน์อะไร ยังไง มากน้อยแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็ไม่อาจจะเปลี่ยนความคิดของคนที่ไม่เชื่อ
และหยิ่งจองหองทั้งหลายได้เลย พวกเขาก็ยังจะไม่เชื่ออยู่ต่อไปอย่างนั้นแหละ เพราะว่าพวกเขาถูกล้างสมองโดยสิ้นเชิงไปซะแล้ว
พวกเขาคิดว่าพวกเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ ส่วนคนอื่นๆนั้นเป็นพวกติ๊งต๊องไร้สมอง อันนี้พวกเราก็รู้
แต่ก็ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะครับ แต่ความจริงมันก็จะยังเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำหนะแหละ แล้วคุณจะได้เห็น

ใครอยากจะคิดยังไงก็คิดไป แต่ถ้าบางอย่างมันเกิดขึ้นซ้ำๆบ่อยๆเข้า คุณก็จะต้านทานมันไม่ไหวอีกต่อไป
และจำต้องเชื่อมัน ซึ่งนั่นก็คือ เชื่อว่าปรากฏการณ์ที่น่าตื่นเต้น ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในครั้งนี้
มันจะต้องเป็นอะไรที่พิเศษมากกว่า ที่จะเป็นไปตามถ้อยคำขี้โม้ที่ว่า มันเกิดจากมิซายล์ที่ผิดพลาดเท่านั้น หรือว่ามันไม่ใช่?

...............................................

Chayutt · 16 มกราคม 2010

IRREFUTABLE SCIENTIFIC PROOF IT COULD NOT BE A MISSILE
ข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันไม่ใช่มิซายล์แน่นอน

ขอบคุณงานวิจัยของผู้ที่มีความสนใจเรื่องเดียวกับเราคนหนึ่ง, Arash Amini,
ทำให้ตอนนี้เรามีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า ปรากฏการณ์เกลียวหมุนวนบนท้องฟ้า
ประเทศนอร์เวย์นั้นไม่ใช่เกิดจากมิซายล์อย่างแน่นอน

เพราะว่า ต่อให้เกลียวหมุนวนนั้น เกิดขึ้นบนท้องฟ้าแถวๆภูเขาลูกนั้น เหมือนกับที่มันดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น
เมื่อดูจากรูปข้างบนนั้นก็เถอะ แต่ถ้ามันเกิดจากควันของมิซายล์ที่ถูกยิงออกไปจริงๆ
ก็แสดงว่า มิซายล์ลูกนั้น จะต้องมีความเร็วมากเป็นสองเท่าของความเร็วสูงสุดของพายุ
เท่าที่เคยมีบันทึกไว้ในประวัติศาสตรืของมนุษยชาติหนะสิ

ซึ่งสถิติความเร็วสูงสุดตรงใจกลางของพายุทอ์นาโด เท่าที่เคยถูกบันทึกเอาไว้ก็คือ 318 ไมล์ต่อชั่วโมง<o>

........................................
</o>

Chayutt · 3 กันยายน 2014

<o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype>THE WHITE SEA IS ALMOST A THOUSAND KILOMETERS AWAY
ทะเลขาว (The White Sea) อยู่ห่างออกไปตั้งเกือบพันกิโลเมตร

จากวีดีโอของนาย Kevin (ผู้ที่พยายามจะหาหลักฐานมาแก้ต่างให้ว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าว
เกิดจากการยิงมิซายล์ที่ผิดพลาดจริงๆ - Chayutt) เขาได้ใช้ภูเขาที่เห็นในรูปเป็นจุดอ้างอิงว่า
ทะเลขาว (ตามที่รัซเซียออกมาแถลงอย่างเป็นทางการว่า เกิดจากความผิดพลาดของการยิงมิซายล์บริเวณทะเลขาว)
อยู่ในทิศทางเดียวกันกับภาพถ่ายพอดิบพอดีเลย (คือคนถ่ายภาพและวีดีโอนั้น หันหน้าไปทางทะเลขาวพอดิบพอดี
เพราะว่าถ่ายติดภูเขาที่เห็นในภาพด้วย แสดงว่าคนถ่ายต้องหันหน้าไปทางทะเลขาวหรือทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ – Chayutt)

ในเอกสาร (new paper) ของแนวร่วมของเราคนหนึ่ง คือ Amini ได้นำจุดที่รัซเซียอ้างว่า
เป็นจุดที่มีการทดลองยิงมิซายล์ ซึ่งก็คือทะเลขาว มาพล็อตดูบนแผนที่ ก็พบว่า ระยะทางที่พล็อตออกมาได้
คือประมาณ 971.26 กิโลเมตร หรือถ้าคิดอย่างผิดพลาดมากที่สุด ก็คือไม่ต่ำกว่า 600 ไมล์[FONT=&quot]<o>

........................................
</o>[/FONT]

Chayutt · 3 กันยายน 2014

MATHEMATICALLY IMPOSSIBLE FOR THE SPIRAL TO BE A MISSILE
AT EITHER OF THOSE DISTANCES
มันเป็นไปไม่ได้ทางคณิตศาสตร์ ที่ปรากฏการณ์เกลียวหมุนวนดังกล่าวจะเกิดจากมิซายล์
ไม่ว่าจะคำนวณจากระยะทางเท่าใดก็ตามแต่

(ตอนต่อไปนี้ผมจะสรุปเอาแต่เนื้อๆนะครับ เพราะขี้เกียจแปลและพิมพ์เยอะแล้ว – chayut)

จากการคำนวณของนาย Amini พบว่า ภูเขาที่เห็นในภาพ อยู่ห่างจากเกาะ Tromsø
ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ถ่ายภาพและวีดีโอใช้ถ่ายภาพ/วีดีโอ ประมาณ 9.63 กิโลเมตร หรือ 5.98 ไมล์
ซึ่งระยะทางที่ว่านี้สั้นเป็น 10 เท่าของระยะทางจากเกาะ Tromsø ถึงทะเลขาว คือ 971.26 กิโลเมตร หรือ 603.5 ไมล์

ซึ่งจากการคำนวณอัตราเร็วของการหมุนของเกลียวหมุนวนดังกล่าว โดยดูจากวีดีโอ
พบว่ามันหมุนด้วยความถี่ประมาณ 1 รอบต่อวินาที

และจากสมการหาอัตราเร็วของการหมุนของปรากฏการณ์ดังกล่าว โดยใช้สมการณ์หาอัตราเร็วที่ใช้กันอยู่ทั่วๆไป คือ

ความถี่ x ความยาวคลื่น = v (อัตราเร็ว)

โดยที่
ความถี่ในการหมุนของปรากฏการณ์ฯ (ประมาณค่าได้จากภาพวีดีโอ = 1 รอบ / วินาที)

ความยาวคลื่นของปรากฏการณ์ฯ (ใช้หลักการทางตรีโกณมิติในการคำนวณ)

V = อัตราเร็วของการหมุนของปรากฏการณ์ฯ

ในการคำนวณหาค่าความยาวคลื่นของปรากฏการณ์ฯ เขาได้ค่าออกมาสองค่า คือค่าต่ำที่สุด กับค่าสูงที่สุด
เพราะว่า เพียงแค่ดูจากภาพถ่ายหรือจากวีดีโอ ก็ไม่อาจทำให้เราไม่ได้ทราบว่าปรากฏการณ์ดังกล่าว
ที่แท้เกิดขึ้นห่างจากผู้ถ่ายภาพมากน้อยแค่ไหน

ดังนั้นเขาจึงสมมุติแบบ:

ระยะทางใกล้ที่สุด ว่าคือมันเกิดเหนือยอดเขาลูกนั้นพอดี ซึ่งจากแผนที่และจาก Google Earth
ทำให้ทราบได้ว่ามันอยู่ห่าง = 9.63 กิโลเมตร

ส่วนระยะทางที่ไกลที่สุด เขาเอาตามที่ทางรัซเซียประกาศอย่างเป็นทางการว่า มันเกิดบริเวณทะเลขาว
ซึ่งจากแผนที่และ Google Earth ก็ทำให้เราทราบอีกเช่นกันว่า มันอยู่ห่าง = 971.26 กิโลเมตร

เมื่อได้ระยะทางแล้ว เขาก็เอามาเข้าสูตรเพื่อหาค่า ความยาวคลื่น ดังกล่าว ได้ค่ามาสองค่าเหมือนกัน คือ

ค่าต่ำสุด = 318.58 เมตร
ค่าสูงสุด = 32,873 เมตร

สูตรคำนวณ และวิธีคำนวณทางตรีโกณมิติที่ว่านั้น ดูในเอกสารแนบที่เป็นไฟล์ pdf ข้างล่างนี้นะครับ
ผมไม่สะดวกที่จะพิมพ์และอธิบาย เพราะมันดูลำบากๆไงไม่รู้

จากนั้นเมื่อได้ค่าทั้งหมดแล้ว ก็เอามาเข้าสูตร

ความถี่ x ความยาวคลื่น = v (อัตราเร็ว)

ซึ่งก็จะได้ค่า v (อัตราเร็ว) ออกมา 2 ค่าเหมือนกัน คือ

ค่าต่ำสุด = 316.58 เมตร / วินาที (หรือประมาณ 710 ไมล์ / ชั่วโมง)
ค่าสูงสุด = 32,873 เมตร / วินาที (หรือประมาณ 73,488 ไมล์ / ชั่วโมง)

ซึ่งเพียงค่าความเร็วต่ำสุดที่คำนวณได้นี้ ก็เกือบเร็วเป็น 2 เท่าของความเร็วสูงสุดของใจกลางพายุทอร์นาโด
ซึ่งเป็นพายุที่มีความเร็วลมสูงแล้ว เพราะจากสถิติโลก ที่เคยบันทึกกันเอาไว้ ก็พบว่าความเร็วลมสูงสุด
ที่ใจกลางทอร์นาโดก็แค่ = 318 ไมล์ / ชั่วโมง เท่านั้นเอง

ซึ่งด้วยความเร็วขนาดนี้ มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่วัตถุอะไรจะเคลื่อนที่ได้เร็วขนาดนั้น

นอกจากนี้ จากวีดีโอที่เห็น ยังพบว่าความเร็วในการหมุนของปรากฏการณ์ดังกล่าวยังคงที่อีกด้วย
ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีวัตถุใดๆเคลื่อนที่อยู่ได้ด้วยความเร็วสม่ำเสมอในอากาศแบบนั้น โดยไม่ค่อยๆสูญเสียความเร็วไปเลย

ที่กล่าวมานี้ อย่าลืมนะครับว่าเร็วสมมุติว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดอยู่เหนือภูเขาลูกนั้นพอดี
แต่ถ้ามันเกิดขึ้นอยู่ห่างออกไปอีก ยิ่งห่างออกไปเท่าไหร่ ความเร็วที่คำนวณได้ก็ยิ่งจะมากขึ้นเรื่อยๆด้วย

เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ปรากฏการณ์นี้ จะไปเกิดขึ้นบริเวณเหนือทะเลขาวอย่างที่ทางการของรัซเซียออกมาประกาศไว้

ยิ่งไปกว่านั้นอีกก็คือ อย่างที่เรารู้กันมานานแล้วว่า วัตถุใดก็ตามที่เคลื่อนที่เร็วกว่าความเร็วเสียง
จะเกิดเสียงดังกึกก้องกังวานอย่างมากอย่างที่เรียกกันว่า Sonic Boom

ซึ่งความเร็วของเสียง = 761.2 ไมล์ / ชั่วโมง และความเร็วต่ำสุดตามที่เราคำนวณได้ก็คือ 710 ไมล์ / ชั่วโมง

ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่วัตถุใดๆที่เคลื่อนที่เร็วขนาดนั้น จะไม่ทำให้เกิดเสียงดังใดๆเลย
แต่ปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ กลับเงียบสนิท ไร้เสียงใดๆทั้งสิ้น

เพราะฉะนั้น คำกล่าวอ้างของทางการรัซเซียที่ว่า มันเกิดจากมิซายล์นั้น มันขัดแย้ง
และจำนนด้วยหลักฐานทางวิทยาศาตร์แล้วว่า “มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นมิซายล์” ตามที่กล่าวอ้าง

และก็แถมด้วยหลังจากปรากฏการณ์นี้สิ้นสุดไปแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดเลยที่พบเศษซากใดๆของมิซายล์ที่กล่าวอ้างนั้น[FONT=&quot]<o>

........................................................
</o>[/FONT]

Chayutt · 3 กันยายน 2014

หรือว่าปรากฏการณ์ดังกล่าว จะเกิดจาก HAARP <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style>(High Frequency Active Auroral Research Program)

ภาพข้างล่างนี้คือสถานที่ติดตั้งเครื่อง HAARP ที่เรียกชื่อว่า EISCAT <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style>
(European Incoherent Scatter Scientific Association) ในประเทศนอร์เวย์

ส่วนอันนี้เป็นภาพของสถานที่นั้น

Chayutt · 16 มกราคม 2010

ถ้าเป็น HAARP จริงมันจะเกิดคลื่นพลังแบบนี้ครับ

(ที่มา: Disclosure Endgame: Free Ebook! - Part 2: The Norway Spiral Explained)

ภาพแรกนี้ ถ้าดูเผินๆ ก็อาจจะมีส่วนคล้ายกับปรากฏการณ์เกลียวหมุนวน เหนือท้องฟ้าประเทศนอร์เวย์
แต่สังเกตดูให้ดีนะครับ ว่ามันหมุนไปในทิศทางที่ตรงข้ามกัน ของ HAARP นี่ มันเกิดจากการทำปฏิกิริยาระหว่างประจุ
ของอนุภาคบวก และ ลบ เพราะฉะนั้น ทิศทางการหมุนของมัน จะเป็นไปตาม "กฎมือขวา" มันจึงหมุนไปเป็นแบบอื่นไม่ได้

หรือไม่ก็แบบนี้ ขึ้นอยู่กับระดับพลังงานที่ใช้

emaN resU · 16 มกราคม 2010

ด้วยความเคารพ

มันยาวมากเลยนะฮะ
มีแต่คำถามที่ตั้งซ้อนคำถามไปเรื่อยๆ
เอาแบบว่า หมัดเด็ด ได้ใจความ ได้คำตอบของคำถามแรกๆที่ตั้งเอาไว้
ใครทำ ทำเพื่ออะไร แล้วจะมีอะไรต่อไปอีก

ผมกลัวว่าเดี๋ยวมันเกิดขึ้นอีกอันสองอัน
แล้วจะอธิบายกันไม่ทันน่ะฮะพี่

หายตัวแบบ Spiral... แว๊บบบบบ...

LadyOfLight · 16 มกราคม 2010

โอ้...ขอบคุณมากค่ะ คุณชยุต เคลียร์มากๆในแง่ของสิ่งนั้นไม่ได้เกิดจากมนุษย์และเทคโนโลยีของมนุษย์ละ *0*

ประเด็นอื่น หรือแม้ทุกประเด็นที่แตกต่าง ก็พิจารณากันไปตามภูมิรู้ ภูมิธรรมของตนกันอยู่แล้ว เฉลียว ฉลาด ปราชญ์ เปรื่อง เป็นศาสนิกชนชั้นดี เป็นนักวิทยาศาสตร์ นักจิตศาสตร์ นักพหุศาสตร์เป็นพหูสูตร กันอยู่แล้วนี่นะ คงไม่เกิดปัญหาใดๆแน่่นอน*0*

Chayutt · 17 มกราคม 2010

เอาหละ..เดี๋ยวผมขอแบ่งปันข้อมูลที่ผมรู้มาบ้างนะครับ เพื่อเสริมความเข้าใจของหลายๆท่าน รวมทั้งเจ้าของกระทู้ด้วย
ในฐานะที่ผม ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้อ่านเรื่องพวกนี้มาเยอะพอสมควร

ถ้าใครพอจะเคยได้อ่านกระทู้ที่ผมแปลและนำมาโพสต์ให้ท่านอ่านไปหลายกระทู้แล้วนี่
ก็น่าจะพอรู้ว่ามันมีข้อมูลจำนวนมากกว่า 300 หน้ากระดาษ A4 เลยทีเดียว ไม่เชื่อลอง copy ลง MS-Words ดูนะครับ

ข้อมูลทั้งหมดทั้งสิ้นที่ผมจะแชร์ให้ท่านอ่านนี้ ผมสรุปมาจากหลายๆเวปไซท์ของต่างประเทศ หลายๆประเทศ
ซึ่งมันจะจริง-ไม่จริงอย่างไร ท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่ออย่างไร อันนั้นผมก็ไม่อาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้
ท่านโตแล้ว ท่านต้องใช้วิจารณญาณเอาเองนะครับ เพราะมนุษย์เรา อยู่ใน "ดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรี"

และอีกอย่างหนึ่งคือ ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ จะออกนอกขอบเขตด้านศาสนา

เพราะฉะนั้นมันอาจจะมีทั้งเรื่องที่ตรงกันและขัดแย้งกันด้วย

เพราะฉะนั้น ท่านก็จงไตร่ตรองให้หนัก และวางใจให้พอดีๆ อย่าไปเป็นเดือดเป็นร้อนกับข้อความเหล่านี้
ขอให้ท่านคิดเสียว่า “มันเป็นเพียงข้อมูล” (information) เท่านั้น ซึ่งโดยตัวข้อมูลมันเองแล้ว

มันไม่สามารถไปทำร้ายใครให้เจ็บให้ปวดได้หรอก
นอกเสียจากว่า ตัวเราผู้รับรู้มัน จะไปผลิตอารมณ์เหล่านั้นขึ้นมาด้วยตัวเราเองล้วนๆทั้ง 100%

อะ..มาเริ่มกันเลยละกัน ผมจะลองพยายามดู ว่าจะอธิบายได้ดีแค่ไหน

 __________________

Chayutt · 17 มกราคม 2010

สรุปใจความสำคัญเรื่องมนุษย์ต่างดาว ที่มีความเกี่ยวข้องกับมนุษย์โลก

1. อันดับแรก คำว่า "มนุษย์ต่างดาว" นี่ อย่าใช้ครอบคลุมกับสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกทั้งหมดสิครับ
เพราะมันไม่ใช่แบบนั้นเลย พวกเขาส่วนใหญ่ ที่อยู่ในมิติสูงๆ คือ ตั้งแต่มิติที่ 4 ขึ้นไปแล้วนี่
ไม่ได้มีกายเนื้ออย่างเราหรอกนะครับ เพราะฉะนั้น คำว่ามนุษย์ต่างดาว จึงไม่น่าจะถูกต้อง
ท่านจะเรียกว่ามนุษย์ต่างดาวได้ ก็ต่อเมื่อ พวกเขาอยู่ในมิติที่ 3 เหมือนกับเรา

2. พวกเขาบอกว่า ร่างกายของมนุษย์เรา วิวัฒนาการมาจากสิ่งมีชีวิตที่คล้ายลิงในปัจจุบันนี้
โดยมนุษย์ต่างดาวกลุ่ม Anunnaki (อ่านว่าไงเนี่ย อนันนาคี หรือเปล่า?)

ซึ่งพวกนี้จะเป็นกลุ่มแรกๆที่เดินทางมายังโลก ได้มาช่วยพัฒนา DNA ของพวกเราให้วิวัฒน์สูงขึ้น
โดยการผสมผสาน DNA ของลิงที่ว่านั่นแหละบางสายพันธุ์ กับ DNA ของพวกเขาเอง
จากนั้นพวกเขาก็ปกครองพวกเรามาตลอด

โดยทำให้พวกเราอยู่ในความกลัว เพื่อที่พวกเขาจะได้ใช้กระแสจิตแห่งความหวาดกลัวของพวกเรา
เป็นพลังงานในการดำรงชีพของพวกเขาเอง ว่างั้นนะ

อันนี้ก็เชื่อเถอะว่า เขาก็ต้องมีเนื้อหาและรายละเอียดอยู่มากพอสมควร คนเขียนเขาถึงเขียนออกมาเช่นนี้ได้

ต่อมาก็ได้มีมนุษย์ต่างดาวอีกกลุ่มหนึ่ง มาจากกลุ่มดาวลูกไก่ ที่มาช่วยปรับปรุง DNA ของพวกเราต่ออีก
ซึ่งในระหว่างนั้น ก็มีการทำสงครามกันระหว่างมนุษย์ต่างดาวต่างกลุ่มกันนี้ด้วยนะ

และหลังจากนั้น DNA ของมนุษย์ก็ถูกมนุษย์ต่างดาวกลุ่มต่างๆอีกหลายกลุ่ม ลงมาช่วยกันปรับปรุงและพัฒนา
จนวิวัฒน์มาได้อย่างทุกวันนี้ ทิ้งห่างต้นแบบที่บรรพบุรุษดั้งเดิม คือ Anunnaki ได้สร้างไว้ไปซะไกลโขเลย..

 
ซึ่งถ้าท่านได้อ่านข้อความจากต่างดาวบ่อยๆอย่างผมนี่ ท่านก็จะคุ้นชินกับคำว่า “มนุษย์คือเมล็ดพันธุ์แห่งแสงสว่าง”
หรืออะไรทำนองนั้น เพราะ DNA ของเรามาจากดวงดาวต่างๆที่วิวัฒน์แล้วหลายๆดวงดาว

ในแต่ละช่วงของการลงมาปรับ DNA ให้กับมนุษย์เราเป็นระยะๆอยู่นั้น (แต่ละระยะอาจห่างกันเป็นหมื่นเป็นแสนปีหนะนะครับ)
พวกเขาก็จะคอยจับตาดูวิวัฒนาการของเราอยู่ไม่ห่าง แต่โดยที่พวกเราไม่รู้ตัว
และไม่เข้าไปสอดแทรกวิวัฒนาการของมนุษย์แต่อย่างใด หากไม่มีบัญชาจากรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่าง
ในมิติที่สูงสุด อะไรทำนองนั้น

ก็คงเหมือนกับการที่พวกเราคอยสังเกตดูพฤติกรรมของลูกสุนัขที่เราเลี้ยงไว้ในบ้านกระมัง
ถ้ามันอยากจะแทะกระดูก หรืออยากจะฉี่ไว้ตามเสาเพื่อประกาศอาณาเขตของมัน
หรืออยากจะเดินตามดมตูดกันเพื่อพิสูจน์กลิ่น หรือแม้แต่อยากจะกินขี้ เราก็มิอาจจะไปเปลี่ยนอะไรมันได้
เพราะนั่นมันเป็นสัญชาตญาณของมัน ใช่ไหมหละครับ

สรุปว่ารูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างหรือพวกฝ่ายดีนี่ เขาจะไม่มาแทรกแซงวิวัฒนาการของมนุษย์เด็ดขาด
เพราะนั่นเป็นการผิดกฎจักรวาล นอกเสียจากว่า

- มนุษย์เป็นผู้ร้องขอเอง
- ได้รับบัญชามาจากรูปธรรมชีวิตในมิติที่สูงสุด

และการเฝ้าสังเกตการณ์ของพวกเขานี่ ก็เลยทำให้พวกเราบางกลุ่ม เห็นพวกเขาเป็นพระเจ้าบ้าง
เป็นเทพบ้าง จนมีตำนานเรื่องพวกนี้มากมาย

แต่พวกเขาเองก็มี 2 ฝ่าย ซึ่งมาจากหลายๆดวงดาว ที่มีรูปร่างหน้าตาแตกต่างกัน

เช่น ถ้าเป้นฝ่ายมืดหรือฝ่ายมาร ก็อาจจะร้องขอการบวงสรวง หรือสิ่งตอบแทน
หรือผลประโยชน์บางอย่างจากมนุษย์ อยากให้มนุษย์เคารพนอบน้อมและบูชาตนเองอะไรแบบนั้น
อันนี้มีตำนานเล่าไว้มากมาย ไปหาอ่านเอาเองนะครับ

ส่วนฝ่ายดีหรือฝ่ายแสงสว่างนั้น เขาจะคอยลงมาสั่งสอนทางที่ดีๆให้กับมนุษย์ประพฤติปฏิบัติเสมอๆ
เป็นช่วงๆ ต่างยุค ต่างสมัยกันไป เช่น พระเยซูคริสต์ นี่ก็เป็นรูปธรรมชีวิตต่างมิติชั้นสูงรูปธรรมหนึ่ง
ที่อาสาลงมาสอนมนุษย์ อันนี้มีข้อมูลกล่าวไว้มากมาย เหมือนเดิมครับ ไปหาอ่านเอาเอง

................................

Chayutt · 17 มกราคม 2010

3. จากข้อมูลการสื่อสารของมนุษย์ต่างดาว และรูปธรรมชีวิตในมิติสูงกว่าเรา ที่ผมเคยอ่านมา เช่น

- จิตรจักรวาล สื่อสารทางโทรจิตมา ถึง อ.ปริญญา ตันสกุล
- มนุษย์ต่างดาว ที่สื่อสารทางโทรจิตมา ถึง ดร.เทพพนม เมืองแมน
- ข้อความสื่อสารทางโทรจิต ผ่านมาทางนาย Ivo A.Benda จากสาธารณรัฐเช็ก
- ข้อความสื่อสาร ทางโทรจิต ผ่านมาทางผู้ที่เป็นร่างสื่อจำนวนมากในประเทศอังกฤษ และสหรัฐอเมริกา

ส่วนใหญ่ จะออกแนวๆว่า จักรวาลทั้งหมดนี้ มันไม่ได้เกิดจากสิ่งที่ไร้จิตวิญญาณ บวกกับเหตุบังเอิญ
อย่างทฤษฎีบิกแบงค์แต่ประการใด แต่ในทางตรงกันข้าม มันเกิดมาจากการออกแบบมาอย่างชาญฉลาดด้วยซ้ำไป

ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องกล่าวถึงพระผู้สร้างด้วย และก็แน่นอน (อีกครั้งหนึ่ง) ว่ามันขัดแย้งกับทางพุทธเรา
อันนี้ผมก็รู้แล้วหละ ก็บอกแล้วไง ว่าเรากำลังออกนอกขอบเขตของศาสนาอยู่

เนื้อหาและรายละเอียดที่ทำให้มนุษย์เรา โดยเฉพาะนักวิทยาศาสตร์ระดับหัวกะทิยุคกลางและยุคใหม่หลายๆคน
เชื่อเรื่อง “การออกแบบอย่างชาญฉลาด” นี้ มีอยู่มากมายเหลือเกิน ผมจะทิ้งคีย์เวิร์ดไว้ให้ท่านไปสาวต่อเอาเองนะครับ

- Sacred geometry

- Fibonacci numbers

เป็นต้น ซึ่งเริ่มค้นหาอ่านเรื่องอะไรก่อนก็ได้ แล้วมันจะเชื่อมโยงไปถึงกันและกันอย่างมากมายใหญ่โตเลยแหละ
ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะยกเมฆมาลอยๆเลย ข้อมูลเพียบ

อ้อ..อันนี้ก็น่าจะเกี่ยวด้วยนะครับ คือ กลศาสตร์ควอนตัม โดยเฉพาะเรื่อง Entanglement
และเรื่อง Double slits experiment ที่สรุปออกมาแล้วโดยนักวิทยาศาสตร์ยุคของไอสไตน์
รวมถึงตัวไอสไตน์เองด้วย ว่า “ผู้สังเกต มีอิทธิพลต่อผลการทดลอง”

<object width="425" height="344">

<embed src="http://www.youtube.com/v/KYX4ki7y-xI&hl=en_US&fs=1&" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></object>

ซึ่งหมายความว่า กระแสความคิดและจิตของเรา มีผลต่ออนุภาคระดับควอนตัมเสมอ
แล้วมันแปลว่าอะไรรู้ไหมครับ ตามนัยยะของหนังสือชุด “โนวา อนาลัย”
(ซึ่งเป็นหนังสือชุดที่ผมอ่านแรกๆแล้วไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ ต่อพอยิ่งได้อ่านข้อความสื่อสาร
จากต่างมิติมากเข้าๆ ก็พบว่ามันสอดคล้องกับที่ อ.โนวา อนาลัย กล่าวไว้หมดเลย...น่าทึ่งมาก – อันนี้แนะนำให้ค้นดู
และหาอ่านเอาเองนะครับ มีแบบ e-book อ่านฟรีด้วย)

index

มันก็แปลว่า อนุภาคต่างๆเหล่านี้ มันคิดได้เองของมัน มันมีสติสัมปชัญญะของมัน
มันรู้ตำแหน่งและหน้าที่ของมัน มันเป็นได้ทั้งอนุภาคและคลื่น มันไม่ขึ้นอยู่กับช่องว่างและกาลเวลา
ที่เป็นเส้นตรงอย่างที่เรารู้จัก คือมันสามารถไปได้หมด

แล้วอย่าลืมนะครับว่า อนุภาคที่ว่านี่ คืออนุภาคแค่ระดับควอนตัมที่มนุษย์เราสามารถค้นพบและพิสูจน์ได้เท่านั้นเอง
แต่อนุภาคที่เล็ก-ละเอียด-และอัศจรรย์กว่านี้ ก็ยังมีอีกเยอะแยะมากมาย อย่างที่ท่าน อ.โนวา อนาลัยกล่าวไว้ว่า

“นักวิทยาศาสตร์ของเธอ จะค้นพบอนุภาคที่เล็กลงไปเรื่อยๆ จนกว่าพวกเขาจะเสียสติ”

อนุภาคมูลฐานของสรรพสิ่งที่เล็กที่สุดที่ว่านี้ มันมีอยู่ในทุกสรรพสิ่ง นั่นแปลว่าร่างกายของท่าน
และทั้งจักรวาลเต็มไปด้วยสิ่งนี้ นี่แหละคือผู้สร้างในอีกแง่มุมหนึ่ง นอกเหนือจากในแง่มุมของ
รูปธรรมชีวิตในมิติที่สูงสุดหนะนะครับ

......................................

Chayutt · 17 มกราคม 2010

4. รูปธรรมชีวิตต่างมิติ บอกว่า การลงมาเกิดในร่างมนุษย์ของพวกเราตั้งแต่ภพชาติแรกๆโน่น
เราเป็นคนเลือกลงมาเอง เพื่อมาเรียนรู้ และวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณของตัวเอง

เพราะฉะนั้น บทเรียนต่างๆ ที่จะพบจะเจอในชีวิตที่อยู่ในร่างมนุษย์นี้ เราเป็นผู้วางแผนเอาไว้เองทั้งหมด
ร่วมกันกับคนที่เกี่ยวข้องกับเราทุกคน

เพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่รูปธรรมชีวิตต่างมิติทั้งหลาย ไม่สามารถมาแทรกแซงได้
เพราะมันจะไปขัดกับบทเรียนที่ตัวเราเองได้เลือกเอาไว้แล้ว และผิดกฎจักรวาลด้วย
เขาจะช่วยได้บ้างนิดๆหน่อยๆในอันที่จะไม่ไปขัดขวางบทเรียนนั้นๆของเรา

ตรงนี้ก็อีกนั่นแหละ..ที่ขัดกับทางพุทธเรา..ผมก็จะบอกอีกนั่นแหละ...ว่าอย่าลืม...เรากำลังพูดถึงอะไรกันอยู่

เพราะฉะนั้น ผมเห็นคุณอะไรนะ (อ้อคุณ WeeWee คนขี้สงสัย) ที่โพสต์ก่อนๆหน้านี้แล้วตัดพ้อต่อว่า
ว่าหากพวกเขาจะมาช่วยจริงๆ ทำไมปล่อยให้มนุษย์ต้องทุกข์ ต้องยาก ต้องประสบชะตากรรมที่โหดร้าย ฯลฯ

ผมก็จะตอบว่า ใครจะไปรู้ ว่าชะตากรรมนั้นๆเจ้าตัวเขาเลือกมาเองหรือเปล่า เพื่อที่จะได้มีประสบการณ์นั้นๆ

แต่คุณก็อาจจะแย้งว่า ใครจะอยากมีชะตากรรมที่โหดร้ายหละ..ผมก็จะตอบว่า เท่าที่ผมได้อ่านมานะ
นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ จิตวิญญาณบางดวง ต้องการทำงานใหญ่และพิเศษถึงกับยอมทำอะไรที่คาดไม่ถึงมากมาย
เอาง่ายๆนะ พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ตามนัยของพุทธนั่นหนะ ก็พอจะเป็นตัวอย่างได้บ้าง

แต่มันก็มีประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวข้องอยู่อีก เช่น ในระดับปรมัตแล้ว กาลเวลามันไม่มีอยู่จริง
พวกเขาที่อยู่ในมิติสูงๆแล้วนี่ เขาไม่ได้ขึ้นอยู่กับกาลเวลาที่เป็นเส้นตรงอย่างที่เรารู้จักหรอกนะครับ

เพราะฉะนั้น เหตุการณ์ทุกเหตุการณ์ ที่มันยังไม่เกิดขึ้น และกำลังเกิดขึ้นอยู่ มันได้เกิดขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว
เพราะว่าอดีต ปัจจุบัน และอนาคต มันมีอยู่ เป็นอยู่ พร้อมกันหมด ที่นี่ และเดี๋ยวนี้
ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงนะ แต่แนะนำให้ไปดู Clip VDO ตอน “Flatland” ของเรื่อง “What the bleep do we know?”
(ลิงค์วีดีโอ)

<embed src="http://www.metacafe.com/fplayer/1379186/dr_quantum_flatland.swf" width="400" height="345" wmode="transparent" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" type="application/x-shockwave-flash" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="always" name="Metacafe_1379186"> </embed><br><font size = 1><a href="http://www.metacafe.com/watch/1379186/dr_quantum_flatland/">Dr Quantum - Flatland</a> - <a href="http://www.metacafe.com/">More amazing videos are a click away</a></font>

ซึ่งทุกๆเหตุการณ์ มันจะเชื่อมโยงต่อไปถึงเหตุการณ์อื่นๆเสมอ เพราะฉะนั้น เหตุอะไรที่เราเข้าใจ
และคิดว่ามันร้ายในวันนี้ แต่ท้ายที่สุด มันอาจจะส่งผลดีตามมาก็ได้ เราอาจจะยังมองไม่เห็น แต่พวกเขาเห็น

และอีกประเด็นหนึ่ง พวกเขารู้อยู่ว่าเรากับเขา ก็มาจากที่เดียวกัน อย่างที่ท่าน อ.โนวา อนาลัย กล่าวว่า

“เธอไม่ใช่มนุษย์ที่มีจิตวิญญาณ แต่เธอคือจิตวิญญาณที่มาหาประสบการณ์ในร่างมนุษย์”

เพราะฉะนั้นแล้ว การมาหาประสบการณ์ในชีวิตที่อยู่ในร่างมนุษย์นี้ สำหรับพวกเขาแล้ว
ไม่ว่าเราจะเลือกประสบการณ์ที่ดีหรือร้าย นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาจะไปตัดสินว่าถูกหรือผิด
เพราะมันก็แค่ลงมาลองหาประสบการณ์เท่านั้นเอง พวกเขามีแต่จะมาช่วยให้บทเรียนที่เราได้เลือกไว้นั้น
ให้บรรลุผลตามนั้นเท่านั้นเอง

.....................................

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

โค้งสุดท้ายของแผนการประกาศและเปิดเผยตัว อย่างเป็นทางการ ต่อชาวโลก ของมนุษย์ต่างดาว

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

chanwen Active Member

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

ลูกท่าน เป็นที่รู้จักกันดี

mib8gdviNz เป็นที่รู้จักกันดี

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

ไฟล์ที่แนบมา:

Norway spiral-2.jpg

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

ไฟล์ที่แนบมา:

tromso_whitesea.jpg

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

ไฟล์ที่แนบมา:

tromso_mountain_EISCAT.jpg

Norway_Spiral_Impossible_Ripples.pdf

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

ไฟล์ที่แนบมา:

Norway-torsion-map.jpg

EISCAT_03.jpg

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

โค้งสุดท้ายของแผนการประกาศและเปิดเผยตัว อย่างเป็นทางการ ต่อชาวโลก ของมนุษย์ต่างดาว

ไฟล์ที่แนบมา:

Norway spiral-2.jpg

ไฟล์ที่แนบมา:

tromso_whitesea.jpg

ไฟล์ที่แนบมา:

tromso_mountain_EISCAT.jpg

Norway_Spiral_Impossible_Ripples.pdf

ไฟล์ที่แนบมา:

Norway-torsion-map.jpg

EISCAT_03.jpg

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา