นิทานพื้นบ้าน เรื่อง พระราชาโปรดเรื่องโกหก

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย kanokkan_b, 25 กรกฎาคม 2006.

  1. kanokkan_b

    kanokkan_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +199
    <TABLE style="WIDTH: 423px; HEIGHT: 126px" width=423 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=style8 width=100> </TD><TD class=style8 vAlign=bottom>
    เรื่อง พระราชาโปรดเรื่องโกหก <HR SIZE=1>​
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=4 width="70%" align=center bgColor=#dddddd border=0><TBODY><TR bgColor=#eeeeee><TD class=style8 width=70>เรื่องจาก </TD><TD class=style8>: นิทานพื้นบ้าน ชุดที่ ๒ ชุด "คติสอนใจ" สำหรับเด็กและเยาวชน</TD></TR><TR bgColor=#eeeeee><TD class=style8 width=70>โดย </TD><TD class=style8>: รศ. วิเชียร เกษประทุม</TD></TR><TR bgColor=#eeeeee><TD class=style8 width=70>วันที่ online</TD><TD class=style8>: ๒๒ พ.ย. ๒๕๔๘</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width="70%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ระราชาพระองค์หนึ่ง โปรดฟังเรื่องโกหกมาก จึงให้เสนาไปป่าวประกาศว่า
    "ท่านพ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย ท่านผู้ใดสามารถเล่าเรื่องโกหกให้เป็นที่ถูกพระทัยของพระราชาได้ ผู้นั้นจะได้ครองราชสมบัติของพระองค์ทั้งหมด"
    ประชาราษฎรทั้งหลาย เมื่อได้ฟังเสนามาป่าวประกาศเช่นนั้น ต่างก็มีความประสงค์จะเล่าเรื่องโกหกให้พระราชฟังเป็นจำนวนมาก
    ชายคนแรกเริ่มเล่าว่า "พ่อของข้าพพระพุทธเจ้า มีคทาอยู่อันหนึ่ง คทานี้ยาวมากเวลาจะต้อนแกะก็ไม่ต้องยุ่งยาก และไม่ต้องเดินตามแกะด้วย เพียงแต่ยื่นไม้คทานี้ออกไปก็สามารถเลี้ยงแกะได้อย่างสบาย เวลากลางคืน ก็ใช้ไม้คทาอันนี้ เขี่ยดวงอาทิตย์ทั้งหลายให้มาร่วมกันส่องแสงที่แกะนอนอยู่ได้"
    พระราชาฟังชายเลี้ยงแกะเล่าเรื่องไม้คทาก็ไม่พอพระทัย จึงตรัสขึ้นมา
    "ในสมัยก่อน ไม้คทายาวๆ อย่างนี้ใครก็ทำได้ทั้งนั้น เจ้านี่เล่าเรื่องไร้สาระ เสนานำชายเลี้ยงแกะคนนี้ไปเฆี่ยน"

    ต่อมาก็ถึงเวลาชายคนที่สองจะต้องเล่าบ้าง เขาได้เริ่มเรื่องว่า "ปู่ของพระพุทธเจ้าเป็นเจ้าสัว มีกล้องยายาวมาก เวลาจะจุดต้องจุดที่ดวงตะวัน พระพุทธเจ้าข้า"
    พระราชาได้ฟังดังนั้นก็ตรัสว่า "กล้องยาของข้าก็จุดกับแสงพระอาทิตย์เหมือนกัน เจ้าโกหกไม่เข้าท่า เสนานำตัวไปเฆี่ยน"
    ครั้นถึงลำดับของชายคนที่สามต้องเล่าบ้าง เขาก็เริ่มเรื่องเล่าว่า "เมื่อคืนนี้ ฟ้าถูกลมพายุพัดจนต้องแตกแยกออกจากัน เกิดเป็นไฟคุขึ้นต้องใช้เข็มเย็บไว้ให้ติดกัน"
    พระราชาได้จึงตรัสว่า "ฟ้าแยกอย่างนี้ข้าเคยเห็นบ่อยๆ เหมือนรอยหวาย เสนานำตัวชายคนนี้ไปโบย"
    ชายคนที่สี่เล่าว่า "วัวของข้าพระพุทธเจ้าปากกว้างมาก กินหญ้าได้ทั้งรถ"
    ชายคนที่ห้าเล่าว่า "ขณะที่ข้าพระพุทธเจ้าตุ๋นเป็ดอยู่ เป็ดก็บินหนีไปทั้งที่ยังร้อนๆ อยู่"
    ชายคนที่หกเล่าว่า "ข้าพระพุทธเจ้าเป็นคนพเนจร ได้ขี่อูฐเร่ร่อนไปในทะเลทราย เหงื่อไหลออกมายาวราวกับสายน้ำ ทำให้เย็นชื่นใจ"
    พระราชาทรงฟังนิทานที่ทุกคนเล่าก็ไม่พอพระทัย ตรัสสั่งให้นำตัวไปโบยหมดทุกคน จนคนอาสาเล่านิทานคนอื่นๆ ต่างหนีกันไปหมด
    ยังมีชายหนุ่มคนหนึ่ง เดินจูงลาเข้ามาในวัง พระราชาทรงเห็นเข้าก็แปลกพระทัยมาก เพราะบนหลังลามีลังใบใหญ่ซ้อนกันอยู่หลายใบ
    พระราชาจึงตรัสถามชายหนุ่มไปว่า "นี่พ่อหนุ่ม เจ้าจูงลาเข้ามาทำไมในพระราชวังนี้"
    ชายหนุ่มตอบว่า "พระองค์ช่างลืมหลงเรื่องความหลัง พระองค์ได้ทรงขโมยทองของข้าพระพุทธเจ้ามาหลายลัง ข้าพเจ้าตามหาพระองค์มาเกือบปีแล้ว ก็มาพบที่นี่แหละ พระพุทธเจ้าข้า"
    "โกหก เจ้าพูดเรื่องสกปรกน่าบัดสี" พระราชาตรัสด้วยความโกรธ
    "พระองค์ท่านทรงเชื่อว่าข้าพระพุทธเจ้าพูดโกหก ฉะนั้น ขอจงทรงยกพระราชสมบัติให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าด้วยเถิด พระพุทธเจ้าข้า"
    "เออข้านึกได้แล้วว่า ข้าขโมยทองเจ้ามาหลายสิบลังดังที่เจ้าพูด" พระราชาทรงแสร้งทำเป็นยอมรับ เป็นการยอมแพ้
    "เมื่อพระองค์ท่านทรงยอมรับ ก็ขอจงทรงคืนทองทั้งหมดให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าเถิด ข้าพระพุทธเจ้าจะได้รีบกลับไป พระพุทธเจ้าข้า"
    พระราชาแสนอดสูพระทัย เพราะเสียรู้แก่ชายหนุ่มเสียแล้ว ไม่รู้จะทำประการใดจึงตรัสสั่งเสนาว่า "พวกเจ้าจงไปเอาทองใส่ลังให้เต็มทุกลัง แล้วมอบให้แก่ชายหนุ่มคนนี้โดยเร็วที่สุด"
    ชายหนุ่มได้ทองบรรทุกหลังลาไปเป็นจำนวนมากเพราะความเฉลียวฉลาดของตนเองแท้
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=Wga_Details cellSpacing=0 cellPadding=0 width="70%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width=7 height=21>[​IMG]</TD><TD class=WgaTitle align=middle>[​IMG]</TD><TD class=WgaTitle>ข้อคิด</TD><TD width=7 height=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=WgaIconCell vAlign=bottom bgColor=#fcf4b5>[​IMG]</TD><TD class=WgaIconCell width=20></TD><TD class=WgaGradient bgColor=#fcf4b5 rowSpan=2><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>๑. การเป็นคนเจ้าเล่ห์หลอกลวง ถ้าหากมีคนเขารู้ทันเล่ห์กลลวงนั้นก็ย้อนมาทำร้ายตนเองได้เสมอ
    ๒. คนเฉลียวฉลาด ย่อมทำอะไรด้วยปัญญา สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้
    ๓. การคบกับคนพาล นำมาซึ่งความเดือดร้อน ดังคำกล่าวที่ว่า "คบคนพาล พาลพาไปหาผิด"
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=bottom bgColor=#ebcf70>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...