เรื่องราวที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยรู้

คุณ khomeraya

เท่าที่ทราบจากครูบาอาจารย์ หลวงพ่อฤษีลิงเล็กตอนนี้ท่านอยู่ในป่า ส่วนหลวงพ่อษีลิงขาวนั้นอยู่ที่วัดหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี ท่านเปลี่ยนชื่อ และเป็นหลวงตาแก่ๆอยู่ที่วัดนั้นครับ แต่ผมไม่ขอเปิดเผยแล้วกันครับ เนื่องจากการที่ท่านปิดบังตัวท่านนั้น ท่านอาจจะมีเหตุผลส่วนตัวของท่าน จึงไม่ควรเปิดเผยเรื่องราวของท่าน ผมเองก็ยังไม่มีเวลาไปกราบคารวะท่าน

สำหรับท่านที่ต้องการทราบความคืบหน้า การสร้างเจดีย์พระศรีจักรพรรดิ์ ขณะนี้งานเสร็จไปแล้วประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็นการเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆและทาสีส่วนที่เหลือครับ

 

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ ผมก็อธิษฐานว่าถ้าผมมีวาสนาหรือมีความผูกพันกับหลวงพ่อฤาษีลิงเล็กและหลวงพ่อฤาษีลิงขาว ก็ขอให้ในชาตินี้ได้พบ รู้ว่าเป็นหลวงพ่อฤาษีลิงเล็กและหลวงพ่อฤาษีลิงขาว ได้สนทนาธรรม และถ้าจะให้ดียิ่งๆขี้น ก็ขอให้ได้ปฏิบัติธรรม ส่วนจะพบท่านได้หรือไม่ ก็แล้วแต่วาสนาจริงๆ

พระเจดีย์ศรีจักรพรรดิ์นั้นนับว่าสวยงามมาก ดูแปลกตาดี ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน คิดว่าองค์ประกอบแต่ละส่วนต้องมีความสัมพันธ์กัน แต่ด้อยปัญญาไม่ทราบว่าจะเกี่ยวพันกันอย่างไร อันนี้ผมจนใจจริงๆครับ

 

ขอคุณ คุณอัญญาสิทธิมากครับ ศพหลวงพ่อแก้วอยู่ในโลงแก้วที่วัดช้างเผือกครับ

 

ยิ่งอ่านสิ่งที่คุณพลังธรรมโพสต์ ดิฉันยิ่งหงุดหงิดค่ะ เพราะมีความรู้สึกว่าคุณคล้ายกับพวกนักวิทยาศาสตร์ที่พยายามจะบัญญัติศัพท์ใหม่ทางวิทยาศาสตร์ให้ตรงกับคำในศาสนาให้ได้ ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่คความหมายเดียวกับที่คุณใช้เลย มีหลายประเด็นมากๆในโพสต์ของคุณที่ ดิฉันอ่านแล้ว ขอบอกเลยว่าพรุนค่ะ จะยกตัวอย่างมาแค่บางประเด็นนะคะ

1. นิพพานเป็นแค่ความรู้ด้านจริยศาสตร์เหรอคะ? แล้วจริยศาสตร์แปลว่าอะไรคะ ในความหมายของคุณ?( เพราะความจริงคุณให้คำนิยามผิดตั้งแต่เริ่มต้นเลย)

2. อะไรคะที่พระพุทธเจ้าอธิบายเรื่องนิพพานเป็นมุมเล็กๆ (84000พระธรรมขันธ์ ในพระไตรปิฎก เล็กมั้ยคะ? ส่วนที่คุณว่าอธิบายเฉพาะบุคคลน่ะ เป็นตัวอย่างของการปรับจริต ตัวอย่างการปรับทิฏฐินะคะ)

3. เพิ่งรู้ว่าวิธีการไม่ใช่สิ่งสำคัญในการไปสู่ความสำเร็จ (ถ้าคุณรู้ว่าหลักการลอยตัวของเรือ ทำได้ยังไง แต่คุณสร้างเรือไม่เป็น ขับเรือไม่เป็น จะไปได้มั้ยคะ?)

4. เพิ่งทราบอีกแหละว่าศรัทธาไม่สำคัญ ทั้งที่ๆศรัทธาเป็นตัวนำ
ในหลักธรรมมะมากมาย(ศรัทธากับปัญญาต้องใช้ด้วยกัน มีอยู่คู่กันเสมอ)
ก่อนอื่นเลยที่คุณจะต้องรู้คือพระพุทธเจ้าสอนให้มีศรัทธาต่อ(ความเชื่อ) ในกรรม ผลของกรรม สัตว์มีกรรมเป็นของตัว และปัญญาของพระพุทธเจ้า
คุณทราบบ้างมั้ยคะ? แล้วเชื่อรึป่าว? แล้วก่อนอื่นที่คุณจะเดินทางสายกลางแต่คุณไม่รู้ว่าทางไหนคือสายกลาง คุณจะเดินถูกเหรอ?
แล้วถ้าศรัทธาไม่สำคัญ จะมีการบำเพ็ญบารมีแบบศรัทธาธิกะของพระพุทธเจ้ามั้ยคะ?

5. คุณอธิบายเรื่องขันธ์ 5 ได้กำกวมดีมาก และแปลกดีคล้ายนักวิทยาศาสตร์ ขอถามหน่อยนะคะ ว่าถ้าสมองคือวิญญาณ งั้นเวลาที่คนเราสมองตายนอนบนเตียงแบบเจ้าชายนิทรา ทั้งๆที่ยังมีชีวิต ยังหาย ธาตุทั้ง 4ในตัวยังทำงาน คุณคิดว่า คนนั้นเป็นตัวอะไรคะ ถ้าไม่มีวิญญาณ?

6. ที่คุณใช้คำว่า ไม่น่าเชื่อว่าถูกทอดทิ้ง ให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กราบไหว้พึ่งพิง มันหมายความว่าไงคะ ทะแม่งๆจริงๆ

สรุป ถ้าดิฉันคงต้องอธิบายยาวสุดๆ เพราะสิ่งที่คุณโพสต์ไว้มัน มีข้อบกพร่องหลายอย่าง ซึ่งดิฉันขี้เกียจพิมพ์ไปมากมาย(จึงแค่ท้วงติง) แต่ถ้าคุณต้องการความกระจ่าง ดิฉันยินดีอธิบายให้ ค่ะ freshy_honey@hotmail.com (ถ้าเจอใน MSN จะให้เบอร์ไว้โทรมาถามค่ะ ขี้เกียจพิมพ์)
ดิฉันไม่ได้บรรลุธรรมค่ะ แค่เรียนด้านศาสนาโดยตรงในมหาวิทยาลัยสงฆ์ ที่พิมพ์ตำราให้ท่านทั้งหลายได้ศึกษามากมาย รวมไปถึงพระไตรปิฎก ส่วนครูบาอาจารย์ที่ท่านรู้จักก็เป็นทั้งอาจารย์ และรุ่นพี่ดิฉันเอง ผลการเรียนก็รักษาระดับไม่เคยเป็นที่สอง (พอจะทำให้ความเข้าใจกับคุณพลังธรรม หรือบางท่านที่มีข้อสงสัยได้บ้าง)

 

มีหลายท่านส่งข้อความมาว่าอยากจะฟังเสียงเทศนาธรรมของหลวงปู่ทองทิพย์ ผมได้ปรึกษากับคณะลูกศิษย์ท่านแล้ว ได้ความว่าจะทำเวปไซด์ ขึ้นมาเวปนึง แล้วจะนำเอาคำสอนและภาพกิจกรรมต่างๆของหลวงปู่ทองทิพย์มาลงไว้ให้ครับ ประมาณ 1-2 เดือนคาดว่าจะ ออนไลน์ได้ครับ

 

โมทนาครับ
ระวังจะกราบผิดองค์นะครับ
หลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก และ หลวงพ่อฤาษีลิงขาว เพื่อนของหลวงพ่อวัดท่าซุงจริงๆ
หลวงปู่ปานท่านสั่งให้อยู่ในป่าตลอดชีวิต ห้ามมาอยู่ในบ้านในเมือง
มาโปรดญาติโยมในเมืองได้เป็นครั้งคราว
เท่าที่ทราบจากท่านผู้มีพระคุณ ตอนนี้หลวงพ่อทั้ง 2 องค์ ท่านนิพพานแล้วครับ

 

โมทนายิ่งครับ พี่อัญญาสิทธิ์
ขอคำสอนที่หลวงปู่ท่านสอนพระกรรมฐาน สมถะ - วิปัสสนา เป็นหลักใหญ่นะครับ
ขอบพระคุณมากครับ

 

ขอบคุณครับที่หวังดี เอาเป็นว่าถ้าไม่ใช่หลวงพ่อฤาษีลิงเล็กและหลวงพ่อฤาษีลิงขาว แต่เป็นพระสุปฏิปันโน ก็เคารพนับถือหมดครับ

 

โมทนาบุญทุกอย่างกับคุณอัญญาสิทธิ์ สาธุ สาธุๆ

 

คุณอัญญาสิทธิ์ครับ

มีเรื่องนึงที่ผมไม่เข้าใจนะ แต่ด้วยความอยากรู้นะครับ เกี่ยวกับเรื่องอสัญญีพรหม หรืออรูปพรหมอื่นๆ ถ้าทราบช่วยตอบด้วยนะครับ

1. สมัยพุทธกาล มีเรื่องที่กล่าวพระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า ไม่สามารถโปรดอาจารย์ดาบสของท่านทั้งสองคนได้สำเร็จอรุปพรหมขั้นสูงสุด และเสียชีวิตก่อนที่พระพุทธองค์จะตรัสรู้ ทำให้พระองค์ไม่สามารถไปโปรดได้ เนื่องจากเป็นอรูปพรหมไปแล้ว พระศรีฯ ท่านมีการกล่าวถึงหรือเล่าเกี่ยวกับอรูปพรหมเหล่านี้บ้างไหมครับ หรือการสร้างบารมีของท่านแล้วไปเป็นอรูปพรหม

2. กรณีที่ศิษย์ที่สร้างบารมีมาในสายพระศรีฯ ท่านเกิดไปเป็นอรูปพรหมอย่างนี้แล้ว เมื่อพระศรีฯ ท่านบรรลุพระโพธิญาณสำเร้จเป็นพระพุทธเจ้า ท่านจะตามไปสอนศิษย์เหล่านี้ไหม หรือปล่อยครับ

3. พระโพธิสัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์แล้ว มีโอกาสไปเป็นอรูปพรหมอีกไหม
4. คุณอัญญาสิทธิ์เคยได้รับศาสน์ศิลป์ จากอรูปพรหมไหม

 

อีกเรื่องที่อาจจะนอกเรื่องพระศรีฯ แต่เกี่ยวกับเรื่องท้าวเวสสุวรรณนะครับ

หลายคนกล่าวว่า การมีรูปปั้นหรือรูปบูชา ท่านท้าวเวสสุวรรณที่โต๊ะหมู่บูชาพระ หรือในบ้าน จะไม่ดี ในบ้านะจเกิดร้อนใจทะเลาะเบาะแว้ง เพราะท่านท้าวจัดในกลุ่มยักษ์ คุณอัญญาสิทธิ์มีความเห็นเรื่องนี้อย่างไรบ้าง

อีกเรื่อง การจัดโต๊ะหมู่บูชา ควรจัดลำดับ สูงต่ำ ลำดับอย่างไรครับจึงจะถูกต้อง มีหลวงปู่ทวด พระแก้วมรกต พระพุทธชินราช ท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อสุโขทัย หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ กรมหลวงชุมพร ร5 พระพิฆเณศ หลวงปู่โตพรหมรังสี ขอคำแนะนำด้วยครับ

 

หวัดดีครับ คุณ sahadham

ขอตอบคำถามดังนี้ครับ

1. เรื่องอรูปพรหมครูบาอาจารย์ท่านเคยกล่าวไว้แต่เพียงว่า หากปฏิบัติแล้ววางจิตไม่ถูก อาจจะพลาดไปเกิดเป็นอรูปพรหม ก็จะทำให้การทำบารมีล่าช้า เนื่องจากต้องอยู่เป็นอรูปพรหมอยู่เป็นเวลานานมาก

2. กรณีศิษย์ที่สร้างบารมีมาในสายพระศรีฯ หากไปเกิดเป็นอรูป เมื่อพระศรีฯ ท่านบรรลุโพธิญาณสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า เข้าใจว่าท่านจะไม่ตามไปสอนศิษย์เหล่านั้น เพราะตามประเพณีพุทธภูมิ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์จะไปเทศน์โปรดพุทธมารดาที่ชั้นดาวดึงส์เท่านั้น ส่วนสวรรค์หรือพรหมชั้นอื่นๆท่านจะไม่ไปโปรด

3.พระโพธิสัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์แล้ว เข้าใจว่าท่านจะไม่ไปเป็นอรูปพรหม เพราะจิตที่ปรารถนาในการทำบารมีนั้น ท่านจะทรงจิตไว้ที่สวรรค์และมนุษย์ เป็นหลัก เพื่อการหมุนเวียนมาทำบารมีได้ไวขึ้น

4. ผมไม่เคยได้รับศาสน์ศิลป์จากอรูปพรหม ปฏิบัติถึงแค่ท้าวมหาพรหมธรรมธาดา ซึ่งเป็นรูปพรหมเท่านั้นครับ

สำหรับท่านท้าวเวสสุวรรณนั้น ท่านอยู่ในขั้นของ "พระโสดาบัน" เป็นหัวหน้าในบรรดาจตุโลกบาลทั้งสี่ ซึ่งเป็นทหารของพระอินทร์ ก็ถือได้ว่าท่านเป็นพระรูปหนึ่งเช่นกัน ดังนั้นการที่จะนำมาไว้ในห้องพระหรือในบ้าน จึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพียงแต่วางตำแหน่งท่านให้อยู่ในที่อันควรเท่านั้นเอง

หากว่านำรูปของท้าวเวสสุวรรณ ท่านมาไว้ที่บ้านหรือห้องพระแล้วเกิดความเดือดร้อนนั้น ก็อาจจะมีสาเหตุได้หลายอย่าง เช่น ญาณที่สถิตอยู่ในรูปท้าวเวสสุวรรณนั้นอาจจะเป็นยักษ์มิจฉาทิฐิตนใดตนหนึ่งเข้าไปสิง หรืออาจจะมีสาเหตุจากการทำศาสน์ศิลป์ไม่ถูก หรือก็อาจจะเกิดจากอุปาทานของผู้ที่นำไปบูชาเองที่บังเอิญที่วาระนั้นเขาต้องเสวยกรรมบางอย่างของเขาเอง หรืออาจจะเกิดจากบรรพบุรุษของบ้านที่นำไปบูชาที่อยู่ในรูปของภพภูมิเขากลัว ก็เป็นได้ จึงบันดาลเหตุต่างๆนาๆแก่คนที่อาศัยอยู่ในบ้านเพื่อเป็นการบอกกล่าว และ ฯลฯ

สำหรับการจัดห้องพระ หรือโต๊ะหมู่ สำหรับพระพุทธรูปและรูปของพระเกจิอาจารย์ควรวางลำดับจากบนมาล่างดังนี้ครับ

พระแก้วมรกตจำลอง ไว้บนสุด ตามด้วย พระพุทธชินราชกับหลวงพ่อสุโขทัย (วางระดับเดียวกันได้) หลวงปู่ทวด หลวงปู่โตพรหมรังสี หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ ท้าวเวสสุวรรณ

สำหรับ พระพิฆเณศ ควรแยกวางต่างหาก

รัชการที่ 5 กับ กรมหลวงชุมพร วางรวมกันแต่ควรแยกหิ้งออกมาจากพระและพระพิฆเณศ

นอกจากนั้น ควรมีเครื่องขันธ์ 5 ฉัตร พุ่ม ดอกบัวเงิน ดอกบัวทอง เป็นเครื่องรับด้วย จึงจะเป็นมงคล รวมทั้งการบูชาด้วยน้ำ ขนม ผลไม้ เครื่องหอม ก็จำเป็นเช่นกัน และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือการสวดมนต์ ปฏิบัติสมาธิ ภาวนา ในห้องพระ เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ศาสน์ศิลป์เหล่านี้ก็มีความจำเป็น หากต้องการที่จะให้พระพุทธรูปในห้องพระมีความศักดิ์สิทธิ์ ครับ

 

เรียนคุณอัญญาสิทธิ์ ทางไปวัดลำบากไหม ผมอยู่กรุงเทพฯครับ แนวการปฏิบัติเป็นอย่างไรครับจะได้มาเสริมกับที่ปฏิบัติอยู่ จะได้ทำบุญได้ถูกที่ /ถูกกาล /ถูกบุคลคล จะได้เพิ่มบารมี ขอความเมตตา จะได้เป็นวิทยาทานครับ

 

หลังจากไปสำรวจพระที่โต๊ะหมู่มาใหม่ พบว่ามีเพิ่มเติมอีกหลายองค์ครับ เลยอยากให้คุญอัญญาสิทธิ์เรียงลำดับให้ใหม่

จากเดิมที่คุญอัญญาสิทธิ์บอกไว้

"พระแก้วมรกตจำลอง ไว้บนสุด ตามด้วย พระพุทธชินราชกับหลวงพ่อสุโขทัย (วางระดับเดียวกันได้) หลวงปู่ทวด หลวงปู่โตพรหมรังสี หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ ท้าวเวสสุวรรณ

สำหรับ พระพิฆเณศ ควรแยกวางต่างหาก

รัชการที่ 5 กับ กรมหลวงชุมพร วางรวมกันแต่ควรแยกหิ้งออกมาจากพระและพระพิฆเณศ "

ที่มีเพิ่มเติมคือ หลวงพ่อปานวัดบางนมโค หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อเนื่อง หลวงพ่อแพ (วัดพิกุลทอง) เจ้าแม่กวนอิม หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน

สำหรับหลวงปู่ทวดผมมี 2 รูปครับมาจาก 2 แห่ง แห่งแรกมาจากวัดอ้อน้อย อีกองค์มาจากประจวบที่มีการสร้างองค์หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่เมื่อไม่นานนี้ (กรณีมีสองแบบนี้ควรทำอย่างไร ญาณจะเหมือนกันไหม)

คุณอัญญาสิทธิ์ช่วยแนะนำวิธีจัดวางที่ถูกต้องด้วยครับ

กรณีที่มีพระมาก โต๊ะหมู่เดียวไม่พอไว้ เราสามารถจัดเป็น 2-3 โต๊ะ ได้ไหม จะผิดหลักวิธีการหรือไม่

แล้วการจัดโต๊ะหมู่พระในห้องนอน สามารถทำได้ไหม (กรณีบ้านที่มีพื้นที่จำกัด)

<!-- / message -->

 

อีกเรื่องนึงที่อดถามไม่ได้ เรื่องภูเขาควาย เห็นว่าเป็นดินแดนที่ไปได้ยาก อยากทราบว่า พระศรีฯ ท่านเคยบอกไหมว่า สำหรับคนที่ต้องการจะไป (แบบทุ่มสุดตัวโดยไม่คิดชีวิตแล้วนั้น) สามารถทำได้อย่างไร มีวิธีการไปอย่างไร

ป.ล. เมื่อสัปดาห์ก่อนได้มีโอกาสไปจังหวัดอุดร และข้ามไปฟากลาว และได้ไปไหว้ศาลหลักเมืองอุดร หลังจากไหว้ สัการะแล้ว เพื่อนบอกให้ลองเสี่ยเซียมซี พอดีนึกถึงภูเขาควายที่อ่านในกระทู้นี้ที่คุณอัญญาสิทธิ์เล่า เลยอธิษฐานถามถึงสิ่งศักดิ์ประจำที่แห่งนั้นว่าจะได้มีโอกาสไปไหม แต่อ่านผลทำนายแล้วไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ถาม มีเพียงประโยคแรกประโยคเดียวที่อาจจะเกี่ยวคือ "เหมือนจันทร์ดับแต่กลับสว่างแสง" คุณอัญญาสิทธิ์คิดว่า สิ่งศักสิทธิ์อย่างศาลหลักเมืองที่นั่นเป็นอย่างไร

 

คุณ sahadham

หากจัดวาง หิ้งพระใหม่ ควรจะจัดวางดังนี้ครับ

"พระแก้วมรกตจำลอง ไว้บนสุด ตามด้วย พระพุทธชินราชกับหลวงพ่อสุโขทัยและ หลวงพ่อโสธร(วางระดับเดียวกันได้) หลวงปู่ทวด หลวงปู่โตพรหมรังสี หลวงพ่อปานวัดบางนมโค หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ หลวงพ่อเงินวัดบางคลานท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อเนื่อง หลวงพ่อแพ

สำหรับหลวงปู่ทวด จะสร้างจากที่ไหนก็ตามก็วางในระดับเดียวกันได้

สำหรับ พระพิฆเณศ ควรแยกวางต่างหาก

เจ้าแม่กวนอิม ควรแยกวางต่างหาก

รัชการที่ 5 กับ กรมหลวงชุมพร วางรวมกันแต่ควรแยกหิ้งออกมาจากพระและพระพิฆเณศ "

กรณีที่มีพระมาก โต๊ะหมู่เดียวไม่พอไว้ เราสามารถจัดเป็น 2-3 โต๊ะ ได้

หากมีสถานที่จำกัด หากจะวางโต๊ะหมู่พระในห้องนอนนั้น ถ้าจะทำก็ให้มีสิ่งกั้นระหว่างโต๊ะหมู่พระกับที่นอน เช่น มีผ้าม่านกั้น หรือมีฉากกั้นก็จะดีครับ ทั้งนี้ต้องดูทิศทางด้วย หลักที่ผมใช้ หิ้งพระหรือโต๊ะหมู่จะหันไปทางทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศตะวันออกเฉียงเหนือเท่านั้น

การที่จะไปที่ภูเขาควายนั้น เป็นไปได้ด้วยการประพฤติปฏิบัติเท่านั้นครับ หากปฏิบัติถึงก็ไปได้ครับ หากถอดจิตหรือถอดกายทิพย์ได้ก็ไปได้ หรือหากมีสมาบัติไปได้ทั้งกายเนื้อก็ย่อมดีกว่าครับ สำหรับผู้ที่ปฏิบัติอยู่ในสายพระครูเทพโลกอุดรเมื่อถึงกาลเวลาก็ได้ไปครับ แม้ไม่อยากไปก็ต้องไปเพราะต้องไปเรียนรู้ศีลธรรมที่นั่น หากอยากไปก็ต้องขยันสั่งสมบารมี ปฏิบัติทาน ศีล ภาวนา ให้เข้มข้น ชาตินี้ยังไปไม่ได้ ภพชาติต่อๆไปก็อาจจะไปได้ ครับ

 

คุณ เสขะ

ทางไปวัดไม่ลำบากครับ เป็นถนนดำแทบทั้งหมด ทางเข้าวัดมีส่วนที่เป็นถนนหินลูกรังอยู่ประมาณ 400 เมตร

สำหรับแนวทางการปฏิบัตินั้นบางส่วนก็อย่างที่ผมเล่ามาในกระทู้นี้แหละครับ สรุปก็คือ ทำสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น อยากได้หรืออยากเป็นแบบไหน ก็ปฏิบัติเอาเองครับ

 

เมื่อช่วงเข้าพรรษาที่ผ่านมาก็ได้มีโอกกาสแวะไปสักการะครูบาอาจารย์หลายรูป เริ่มต้นจังหวัดสิงห์บุรีที่วัดกลางชูศรีเจริญ ไปทำศาสน์ศิลป์ให้หลวงปู่บุดดา ถาวโร ญาณศีลธรรมท่านยังหนาแน่นอยู่ ณ ที่สังขารท่านอยู่ จากนั้นไปทำบุญที่วัดหลวงเตี่ย ถวายเทียนพรรษา หลอดไฟ อาสนะและสังฆทาน ได้สนทนาธรรมกับท่านเล็กน้อย

เสร็จแล้วไปกราบหลวงพ่อราม ที่วัดวังเงิน อ. คีรีมาศ จ. สุโขทัย ได้ถวายเทียนพรรษาและสิ่งอื่นๆ

วันถัดมา ไปสักการะ รูปจำลองหลวงพ่อยี วัดดงตาก้อนทอง และสักการะสังขารท่านที่บ้านโยมอุปัฏฐาก ที่ จ. พิษณุโลก ญาณศีลธรรมท่านศักดิ์สิทธิ์มาก จากนั้นก็ไปกราบหลวงปู่เณรคำกลาง ที่ จ.หนองบัวลำพู ได้ถวายเทียนพรรษาและสิ่งอื่นๆ รวมทั้งสนทนาธรรมกับท่านอยู่ประมาณ 1 ชม.และตอนดึกของคืนเดียวกัน ได้ไปสนทนาธรรมกับ หลวงปู่เณรคำน้อย ที่ จ. หนองคาย ไปถึงประมาณเที่ยงคืน สนทนาธรรมกับท่านอยู่ประมาณ 3 ชม. ก็กลับถึงที่พักตอนตี 4

วันถัดมาก็ไปทำบุญที่วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร ตอนบ่ายก็ไปทำบุญถวายเทียนพรรษาและสิ่งอื่นๆ รวมทั้งสนทนาธรรมกับหลวงปู่เณรคำน้อยอีกครั้ง ประมาณ 3 ชม. ตอนเย็นก็ได้ไปทำบุญถวายเทียนพรรษาและสิ่งอื่นๆและสนทนาธรรมกับหลวงพ่อทองแดงประมาณ 2-3 ชม.

สำหรับเนื้อหาในการสนทนาธรรมนั้น หลวงปู่เณรคำกลางท่านปรารถเรื่องของการสร้างม้าแก้วมณีกาบ(ม้าบิน)เพื่อไปไว้ที่พระธาตุของวัดป่าสีดาฯ และท่านย้ำว่าอย่าลืมไปทำศาสน์ศิลป์ให้กับหลวงพ่อทบ วัดชนแดน ด้วย

สำหรับกับหลวงปู่เณรคำน้อยนั้นสนทนากันหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของเทพเทวา พ่อพระอินทร์และพวกพญานาคที่มานิมนต์ท่านไปจำพรรษาที่เมืองพญานาคและที่สำคัญมากๆก็เรื่องการสร้างพระแก้วมรกตจำลอง หน้าตัก 3.80 เมตรและหน้าตัก 3.50 เมตรอีก 4 องค์ ที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านมอบหน้าที่ให้ผมทำ หลวงปู่เณรคำน้อยท่านบอกผมว่าให้เร่งสร้างได้แล้ว อย่าชักช้าเพราะถึงกาลเวลาแล้ว มิฉะนั้นโลกและประเทศจะปั่นป่วนเร็ว หากสร้างเสร็จแล้วจะช่วยประเทศชาติได้มาก ท่านบอกว่าทำได้สำเร็จ ไม่ต้องกังวล ท่านบอกว่าครั้งแรกท่านก็สงสัยเช่นกันว่าลูกศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์มีมากมาย ทั้งพระสงฆ์และฆราวาสทำไมหลวงปู่ทองทิพย์ท่านจึงไม่ปรารถกับใครในการสร้างพระแก้วมรกตจำลองขนาดใหญ่ แต่เมื่อท่านศึกษาดู ท่านเข้าใจแล้วว่าเป็นเรื่องของบารมี

รวมทั้งท่านเล่าเรื่องที่ท่านปฏิบัติไปถึงชั้นดาวดึงส์ของพ่อพระอินทร์ แล้วท่านบอกว่าจะลงมาหา มีวันนึงพ่อพระอินทร์ก็ลงมาหาหลวงปู่เณรคำน้อย ท่านลงมาเป็นคนนุ่งขาวห่มขาว หลวงปู่เณรคำน้อยก็มองเห็นภายในท่าน จึงลุกไปกราบท่าน พ่อพระอินทร์ท่านว่า พ่อลงมาในรูปอย่างนี้ลูกก็รู้อีก หลวงปู่เณรคำน้อยท่านก็บอกว่า ก็ต้องรู้สิพ่อ จากนั้นพ่อพระอินทร์ก็ให้พรท่าน ผมเองก็ลืมบอกหลวงปู่เณรคำน้อยว่าผมก็ได้พรพ่อพระอินทร์มาหลายอย่างเช่นกัน บอกท่านแต่เพียงว่าแม่สุจิตราท่านแอบส่งกระแสมาให้กำลังใจในการทำบารมีอยู่บ่อยครั้ง คิดว่าหลวงปู่เณรคำน้อยท่านคงรู้แล้วเรื่องพ่อพระอินทร์ท่านให้พรผม แต่เนื่องจากมีบุคคลที่ 3 นั่งอยู่ด้วยจึงไม่ได้คุยกับท่านเรื่องนี้

จากนั้นก็สนทนากับท่านเรื่องของการทำเครื่องขันธ์ 5 ท่านบอกว่าที่ถวายมาน่ะ ของขาด 2 อย่างนะท่านบอกว่าขาดหมากพลู กับ ยานพาหนะ ท่านบอกว่านี่มีแต่ใบเบิกทางนะ ผมก็เรียนท่านว่า ดึกแล้วหามาไม่ได้ ท่านก็เลยแนะนำเรื่องของยานพาหนะ ทีแรกท่านก็บอกว่าเรื่องยานพาหนะให้ไปเรียนเอาเองนะ ท่านยังไม่บอก จนท่านสงสารเมื่อไหร่ท่านจะบอกให้ ผมก็บอกว่า อาจารย์ผมมีแค่จักรกับม้าแก้วมณีกาบ ท่านก็หัวเราะแล้วว่า ถ้าโยมไม่กั๊กอาตมาก็จะบอกให้
ท่านถามว่าม้ามันเร็วนะ ถ้าไม่เป็นนี่ขึ้นขี่ไม่ได้ ผมก็บอกว่าผมใช้วิธีขึ้นขี่จักรก่อนแล้วก็ไปเทียบหลังม้าแล้วกระโดดขึ้นม้า ท่านก็ยิ้มๆ ท่านก็เล่าเรื่องที่ท่านอธิษฐานเอาญาณม้ามาใส่ในรถ ก่อนออกเดินทางท่านก็บอกคนขับรถว่าเดี๋ยววันนี้ไม่ต้องตกใจนะ จะมีสิ่งมาล้อเล่น เมื่อออกเดินทางไปได้ช่วงนึง รถก็ลอยหมุนอยู่กับที่ตั้งหลายตลบ คนชับรถของท่านกลัวมาก

นอกจากนั้นท่านก็เล่าเรื่องที่ก่อนหน้านี้ พญานาค 3 ตนแปลงเป็นผู้หญิงสาว 3 คนขึ้นมานิมนต์ท่านให้ไปจำพรรษาที่เมืองพญานาค หลวงปู่เทพโลกอุดร เคยถามท่านว่าทำไมไม่ไปจำพรรษาเมืองพญานาค ท่านก็บอกว่าท่านว่าไม่อยากไปรับใช้พวกนาคมัน อยู่เมืองมนุษย์ดีกว่า แล้วท่านก็ถามหลวงปู่ใหญ่ว่า ถ้าไปน่ะจะไปแบบไหน หลวงปู่ใหญ่ท่านบอกว่า ก็ไปทั้งตัวแบบนี้แหละ ไปได้

จากนั้นท่านก็เล่าเรื่องของสหธรรมิกท่าน ว่าสมัยก่อนเป็นเณร มีกงจักรในฝ่ามือ สามารถชี้มือไปในอากาศ ให้ฝนตก หรือไม่ตกตรงไหนก็ได้ แต่ตอนนี้เป็นฆราวาสอยู่ เมื่อถึงกาลเวลาในเร็วๆนี้ ก็จะกลับมาบวชอีก อีกคนนึงเกิดมามีพระขรรค์เล็กๆ ติดมาด้วยยาวประมาณ 1 คืบ เวลาจะอธิษฐานใช้พระขรรค์ต้องแต่งขันธ์ห้าก่อน ไม่งั้นดึงพระขรรค์ไม่ออก คนนี้ท่านไม่บอกว่าเป็นพระหรือฆราวาส จากนั้นท่านก็ให้ดูฝ่าเท้าท่าน(ของดเว้นเรื่องนี้ก็แล้วกันครับ ไม่ควรเล่า) เมื่อได้ดูฝ่าเท้าท่าน รวมทั้งข้อมูลเรื่องของผู้ที่มีสัญญลักษณ์พิเศษต่างๆ ก็เข้าใจได้ทันทีว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคสามร่มโพธิ์ศรี อย่างแน่แท้ เพราะสัญญลักษณ์ของบุคคลที่ปรากฏนั้น คือ แขนสั้นยาว -ฝ่าเท้าตีนแดง-พระยาลิ้นกาฬ ยุคนี้คนมีฤทธิ์มาเกิดกันมาก อีกหน่อยก็ลองฤทธิ์กันจนพ่อพระอินทร์ต้องลงมาห้าม

รวมทั้งท่านบอกว่าตอนนี้หลวงปู่ทองทิพย์ท่านอยู่คู่กับบุคคลสำคัญของประเทศ บรรดาทวยเทพเทพาช่วยกับพยุงบุคคลสำคัญไว้ หากบุคคลสำคัญไม่อยู่ อย่างน้อยๆ ตั้งแต่พรหมชั้นที่ 10 จะลงมาจะแสดงฤทธิ์ ท่านบอกว่า นาค ครุฑ เทวดาต่างๆ จะแสดงฤทธิ์กัน ท่านบอกว่าน่าสงสารมนุษย์ คนที่ไม่ทำสมาธิภาวนาจะไม่ค่อยรอด แล้วก็ย้ำให้ผมรีบสร้างพระแก้วมรกตจำลองให้เสร็จ ท่านบอกว่าจะช่วยได้มาก สำหรับเรื่องที่สนทนากับหลวงปู่เณรคำน้อยยังมีรายละเอียดอีกมาก จะค่อยๆนำมาเล่าก็แล้วกัน

สำหรับหลวงพ่อทองแดง ท่านก็พูดถึงหลวงปู่ทองทิพย์ว่า หลวงพ่อทองทิพย์เป็นพระพุทธรูป แล้วท่านก็เล่าเพิ่มเติมว่าในสมัย ที่มีการสร้างพระธาตุพนม มีพระอรหันต์ 5 รูป ได้เดินทางมาเพื่อจะอธิษฐานตัวเองเป็นพระพุทธรูป บรรจุไว้ที่พระธาตุพนม ขณะเดินทางนั้นได้ทราบข่าวว่าพระธาตุพนมเสร็จแล้ว พระอรหันต์ทั้ง 5 รูปนั้นได้เข้าถ้ำอธิษฐานตัวเองเป็นพระพุทธรูป พระอรหันต์ทั้ง 5 องค์นั้นชื่อ หลวงพ่อทองแดง หลวงพ่อแสนทะเล หลวงพ่อทองดำ หลวงพ่อสุโขทัย และหลวงพ่ออู่ทอง โดยในการอธิษฐานว่าเมื่อครบกึ่งพุทธกาลแล้วพระอรหันต์ทั้ง 5 จะจุติมาเผยแพร่ศาสนา และผมเองก็ได้สัมผัสกับหลวงพ่อทองแดงที่เป็นพระพุทธรูปมาแล้วเช่นกัน หลวงพ่อทองแดงบอกว่า หลวงพ่อทองทิพย์ได้ทำนายหลวงพ่อทองแดงไว้ว่าจะต้องทำหน้าที่อย่างนั้น อย่างนี้ ตอนนี้ก็เริ่มทำหน้าที่แล้ว ท่านบอกว่าต่อๆไปจะต้องทำหน้าที่หนักกว่านี้มาก

เช้ามืดของคืนวันอาสาฬหบูชา ก็ได้ไปภาวนาที่พระธาตุวัดป่าสีดาฯ ได้อธิษฐานขอพรเทพเทวา เพื่อดำเนินการสร้างพระแก้วมรกตจำลอง ตามบัญชาของครูบาอาจารย์ ก็มีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ก็ได้อธิษฐานให้เทพเทวาผู้ทำหน้าที่ไปตามผู้ที่สั่งสมบารมีตามๆกันมาที่เป็นเชื้อหน่อของพระศรีฯและเหล่าสาวก โดยรู้หรือไม่รู้ก็ตาม ก็ขอให้เขาเหล่านั้นได้มาร่วมสร้างกุศลเพื่อสั่งสมบารมีไปในอนาคตข้างหน้าหรือไปในยุคศาสนาของพระศรีฯต่อไป

ช่วงนี้ก็เริ่มหาโรงหล่อและรวบรวมปัจจัยเพื่อดำเนินการสร้าง ออกพรรรษาแล้วก็จะเริ่มดำเนินการสร้าง

 

เรียนคุณอัญญาสิทธิ์ ขอถวายปัจจัยสมทบด้วยได้ไหมคะ ต้องทำอย่างไรบ้าง

 

ขอบคุณครับคุณอัญญาสิทธิ์ครับ เวปไซร์ของหลวงปู่เสร็จเร็วๆนะครับจะได้ไปศึกษาและนำมาปฏิบัติครับ สำหรับการสร้างองค์พระแก้วมรกตนั้นผมยินดีมากๆครับขอเป็นหนึ่งในการสะสมบารมีด้วยครับ ได้โรงหล่อแล้วหรือจะดำเนินการอย่างไรช่วยบอกด้วยครับ โมทนาสาธุครับ