กระทู้นี้มีแต่ของดีสุดยอดหายาก

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย itt-39, 8 พฤศจิกายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. itt-39

    itt-39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +214
    เหรียญทำน้ำมนต์ รุ่นแรก ปี 2552
    พระเทพวิสุทธิมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) วัดประชาคมวนาราม(ป่ากุง) ร้อยเอ็ด


    [​IMG]
    เหรียญทำน้ำมนต์รุ่นแรก หลวงปู่ศรี มหาวีโรรุ่นแรก เนื้อสัมฤทธิ์ พิมพ์กรรมการ
    ข้างหน้าเป็นรูปพระพุทธเจ้าสมเด็จองค์ปฐม ปางสมาธิ มียันต์สิกขี อยู่ข้างซ้าย-ขวา องค์พระ

    [​IMG]
    เหรียญทำน้ำมนต์รุ่นแรก หลวงปู่ศรี มหาวีโรรุ่นแรก เนื้อทองแดง พิมพ์นะมหาเศรษฐี
    <O:p

    จัดสร้างโดย คุณ สุชาติ อมรรัตนสกุล สร้างถวายเพื่อแจกในงานวันเกิด หลวงปู่ศรี เมื่อ 3 พฤษภาคม 2552

    จำนวนสร้าง

    - พิมพ์กรรมการ ยันต์สิกขี (พระพุทธสิกขีองค์ปฐม)
    1. เนื้อทองคำ 9 เหรียญ
    2. เนื้อเงิน 100 เหรียญ
    3. เนื้อนวะ 208 เหรียญ
    4. เนื้อสัมฤทธิ์ 1,037 เหรียญ
    5. เนื้อชนวนรูปหล่อสมเด็จองค์ปฐม วัดท่าซุง 580 เหรียญ
    6. เนื้อพิเศษ 40 เหรียญ

    - พิมพ์ปางมารวิชัย ยันต์นะมหาเศรษฐี
    1. เนื้อทองคำ 19 เหรียญ
    2. เนื้อเงิน 149 เหรียญ
    3. เนื้อนวะ 203 เหรียญ
    4. เนื้อสัมฤทธิ์ 1,031 เหรียญ
    5. เนื้อทองแดง 10,422 เหรียญ
    6. เนื้อพิเศษ 35 เหรียญ
    7. เนื้อเมฆสิทธิ์ 108 เหรียญ

    <O:p
    ลักษณะ เป็นเหรียญกลม ขนาด 3.2 ซ.ม. มี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ นะมหาเศรษฐี และพิมพ์กรรมการ
    สำหรับเนื้อทองแดงจะตอกโค๊ตเดียว เนื้ออื่นตอก 2 โค๊ต สำหรับเนื้อเมฆสิทธิ์ยิงโค๊ตด้วยเลเซอร์แทน

    การอธิษฐานจิต คุณ อานุภาพ (โอ๋) บุญเกียรติ เป็นผู้ถวายหลวงปู่ปลุกเสกเมื่อ เดือน มีนาคม 2552
    โดยได้กราบหลวงปู่ศรีขอ " พลังอรหันต์...พลังเหนือโลก.." และขอบารมีหลวงปู่ศรีปลุกเสกเหรียญทำน้ำมนต์นี้ให้มีพุทธคุณครอบจักรวาลครบทุกด้าน
    ทั้งกันและแก้ได้หมดทุกอย่าง ทั้งนิวเคลียร์ รังสีต่างๆ โรคระบาด โรคภัยไข้เจ็บ
    เป็นมหาสะท้อน มหาคุ้มกันภัย มหาเมตตา มหาโชคลาภค้าขาย หนุนดวง กลับร้ายกลายเป็นดี
    อีกทั้งสามารถอธิษฐานทำน้ำมนต์ตามแหล่งน้ำต่างๆได้ โดยมีรัศมีและพุทธานุภาพครอบคลุมทั้งแหล่งน้ำ
    และ อธิษฐานทำน้ำมนต์รักษาโรคได้ตามที่อธิษฐาน ให้เห็นผลโดยฉับพลัน

    วิธีอธิษฐานทำน้ำมนต์
    1. การอาราธนาเหรียญติดตัว...ตั้งจิตให้มั่น...แล้วกล่าวว่า
    ...ข้าพเจ้า ขออาราธนาบารมีหลวงปู่ศรี มหาวีโร...
    จงปกป้องคุ้มครองให้พ้นจากภัยอันตรายทั้งปวงด้วยเทอญ...”
    2. การอาราธนาทำน้ำมนต์
    2.1 นำเหรียญมาแนบที่ข้างขวดน้ำ ..... ขวดน้ำไม่ต้องเปิดก็ได้
    2.2 แล้วกล่าวว่า
    “ ...ข้าพเจ้า ขออาราธนาบารมี หลวงปู่ศรี มหาวีโร ขอให้น้ำในขวดนี้
    จงเป็นน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยเทอญ สาธุ”
    จากนั้นทำจิตให้สงบชักครึ่งนาที ก็เป็นอันว่าสำเร็จ
    ท่านสามารถทำได้ทั้งโอ่งน้ำ ..หรือ แท้งค์น้ำได้...นำเอาเหรียญมาแนบโอ่งน้ำ ..หรือ แท้งค์น้ำ
    เปลี่ยนคำอาราธนาจากขวดน้ำที่ขีดเส้นใต้มาเป็น โอ่งน้ำ หรือ แท้งน้ำแทนก็ได้........


    จัดได้ว่าเป็นเหรียญดีเหรียญหนึ่งของท่านที่มีประสบการณ์สูงมาก มีมาแบ่งบูชาให้ 4 เหรียญครับ
    เป็นเนื้อทองแดง พิมพ์ยันต์นะมหาเศรษฐี เหรียญละ 750 บาท ( ยังไม่รวมค่าส่ง EMS 50 บาท)
    ทุกเหรียญสภาพสวย ไม่ผ่านการใช้ ผิวไฟยังอยุ่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2010
  2. mgladbach

    mgladbach เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +601
    หลวงปู่ใหญ่ท่านอาพาธมาปีกว่าแล้วครับ....... ศิษยานุศิษย์โปรดช่วยกันรักษาธาตุขององค์หลวงปู่ใหญ่ด้วย คำสั่งสอนและวิถีทางธรรมที่ท่านพานำ ควรเป็นสิ่งที่ทุกคนควรยึดถือเป็นหลักธรรมหลักใจมากกว่าสิ่งอื่นใด
     
  3. itt-39

    itt-39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +214
    เหรียญที่ 1 บูชา 750- รวมค่าส่งอีก 50 - เป็น 800-ครับ

    http://[​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2009
  4. itt-39

    itt-39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +214
    เหรียญที่ 2 บูชา 750- รวมค่าส่งอีก 50 - เป็น 800-ครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. itt-39

    itt-39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +214
    เหรียญที่ 3 บูชา 750- รวมค่าส่งอีก 50 - เป็น 800-ครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. itt-39

    itt-39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +214
    พระขรรค์เกราะแก้วกันเพชร ปี 2546
    หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร วัดนาอุดม อุบลราชธานี
    เล่มนี้พิเศษจารด้วยมือและจารเครื่องซ้ำอีกที


    [​IMG]

    [​IMG]
    มีจารที่ด้ามด้วยทั้ง 4 ทิศ

    [​IMG]
    มีการตอกโค๊ด 4 โค๊ดทั้ง 2 ด้านของพระขรรค์

    [​IMG]
    [​IMG]
    พระขรรค์เกราะแก้วกันเพชร เล่มนี้พิเศษตรงที่จารมือและจารเครื่องด้วย (ส่วนใหญ่จะพบแต่จารเครื่อง) เป็นการจารตามฤกษ์ลงด้วยพระคาถาบารมี 30 ทัศน์<O:p</O:p

    ขนาด 3/4 x 6.5 นิ้ว

    จำนวนสร้าง 108 เล่ม จารด้วยเครื่อง (จารตามฤกษ์) ด้วยพระคาถาบารมี 30 ทัศน์
    โดย อ.เกรียงศักดิ์ สุประดิษฐ์ ฆราวาสผู้สืบสานวิชาสายสำเร็จลุน
    ตอกโค๊ตทั้ง 2 ด้าน ๆ ละ 2 ตัว รวม 4 โค๊ต


    พระขรรค์นี้สร้างพร้อมกับการสร้างพระชัยเชียงรุ้ง พระชัยหลังช้าง พระชัยยอดธง
    ซึ่งตามตำรากล่าวกันว่าหากผู้ใดได้สร้างพระชัยเชียงรุ้งตามตำราโบราณไว้สักการบูชา
    ผู้นั้นจะมีชัยชนะแก่อธิราชศัตรู หมู่มาร พ้นจากภัยพิบัติทั้งปวง
    เป็นผู้ทรงอำนาจราชศักดิ์มั่งคั่งด้วยทรัพย์สินเงินทอง เกื้อหนุนวงศ์ ตระกูลให้สูงยิ่ง ๆ ขึ้นไป
    มีความร่มเย็นเป็นสุข มิได้ตกต่ำ เป็นมรดกอันล้ำค่าที่สืบทอดไปยังลูกหลานในกาลข้างหน้า
    ด้วยเหตุนี้โบราณกาลแต่เก่าก่อนเชื้อพระวงศ์ต่างๆจึงนิยมสร้างพระชัยเชียงรุ้งไว้สักการบูชาเป็นพระประจำตระกูล

    การสร้างพระขรรค์เกราะแก้วกันเพชรในครั้งนี้ พิธีกรรมค่อนข้างยุ่งยากและละเอียดมาก
    ทั้งเรื่องฤกษ์ยาม วิธีการ มวลสาร โลหะธาตุต่างๆกล่าวคือ
    จะต้องทำพิธีบวงสรวงก่อนจะทำการลงแผ่นพระยันต์
    ซึ่งจะต้องลงตลอดระยะเวลาเข้าพรรษา พร้อมสวดปลุกเสกทุกวันจนกว่าจะทำพิธีลงแผ่นยันต์เสร็จใช้เวลา 3 เดือนเต็ม
    พระมีนา เตชธัมโม ศิษย์ญาท่านสวน ฉันทโร พระภิกษุผู้ลงแผ่นพระยันต์ กล่าวว่า
    การลงอักขระจะขาดไม่ได้แม้แต่เพียงตัวเดียว
    เฉพาะแผ่นยันต์ที่ลงตามตำราครั้งนี้ มีน้ำหนักถึง 6 กก.
    จึงนับว่า พระมีนา เตชธัมโม มีความมุ่งมั่นวิริยะอุตสาหะเป็นอย่างมาก
    และตั้งใจที่จะทำเพื่อถวายญาท่านสวน ฉันทโร ซึ่งเป็นอาจารย์
    จึงมิต้องสงสัยเลยว่าทำไมตำราการสร้างพระชัยเชียงรุ้ง จึงเงียบหายไปนับร้อยปี

    นอกจากนี้ ยังนำเอาชนวนมวลสารโลหะธาตุซึ่งเป็นสายใยชนวนการสร้างพระของวัดนาอุดมทุกรุ่น มี
    - ชนวนพระกริ่งสายรกพระพุทธเจ้า พระชัยวัฒน์ พระปิดตายันต์ยุ่ง
    - ชนวนรูปเหมือน เหรียญสมเด็จแก้วมณีโชติ
    - ชนวนพระกริ่งชนะมาร ( พระอุปคุต )
    - ชนวนกริ่งพระกริ่งบัญชร (ต้นกำเนิดชนวนโลหะธาตุนี้เป็นแผ่นพระยันต์จากลายพระหัตถ์ของพระสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชกลมหาสังฆปรินายกและสมเด็จพระราชาคณะแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 9 รูป)
    - ชนวนแผ่นพระยันต์ที่ ญาท่านสวน ฉันทโร ท่านได้อธิษฐานจิตใส่ลงไปในเบ้าหลอมทุกครั้ง
    - ชนวนโลหะจากแผ่นยันต์เกจิคณาจารย์ทั่วประเทศ 421 รูป ที่ท่านพลตำรวจตรีพจนาถ หวลภาพเลขานุการสำนักงานตำรวจแห่ง ได้มอบให้มา


    ท่านราชครูศิวาจารย์ ( พราหมณ์ถาวร ภวังคนันท์ ) ประธานฝ่ายพราหมณ์
    ประกอบพิธีบวงสรวงอ่านโองการอัญเชิญเทพเทวดาทั่วสากลพิภพมารับรู้ในการสร้างพระชัยเชียงรุ้งในการสร้างพระชัยเชียงรุ้งในครั้งนี้

    ชนวนโลหะของพระขรรค์ เป็นเนื้อชนวนเดียวกับ พระชัยเชียงรุ้ง โดยทำพิธีเททองหล่อพร้อมกัน


    [​IMG]
    ตรงปลายด้ามอุดผงพิเศษ ซึ่งเล่มนี้เจ้าของได้บรรจุของเพิ่มเติมดังนี้ 1. ทรายคำ 2. ผงตะไบแร่โคตรเศรษฐี 3. ผงมหาจักรพรรดิลป.ดู่ วัดสะแก
    4. ผงแป้งเสกลป.บุดดา ถาวโร 5. แป้งเสกครุบาอิน อินโท 6. ผงแป้งเสกลพ.ดาบส สุมโน 7. ผงยาวาสนาจินดามณี

    <O:p</O:p
    มวลสารที่บรรจุในด้ามพระขรรค์
    1. ผงพุทธคุณและผงนะปัดตลอด ของลป.สวน ฉันทโร
    2. ผงแร่กลางน้ำ
    3. เกศาเพชร ของ ลป.สวน ฉันทโร (เกศาที่มีดโกนตัดไม่ขาดจนต้องทำพิธีบอกกล่าวขออนุญาตหลวงปู่)
    4. สีผึ้งนารายณ์กลืนจิต ของลป.สวน

    พิธีพุทธาภิเษกแผ่นยันต์ชนวนและเททอง
    กำหนดฤกษ์ผานาทีในการทำพิธีพุทธาภิเษกแผ่นพระยันต์และมวลสารโลหะธาตุ
    โดยเฉพาะฤกษ์ตรงกับวันเพ็ญอังคารขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 (วันลอยกระทง 19 พฤศจิกายน 2545 )
    วันนี้ถือเป็นวันครูของญาท่านสวน ท่านกล่าวว่า
    จะทำกาลอันใดถ้าตรงวันนี้แล้วจะเข้มขลังที่สุด - มันคัก มันเฮง เศกแล้วมันเต็มดี
    โดยลป.สวนเป็นประธานเททองด้วยตัวท่านเอง

    อธิษฐานจิตเดี่ยวโดย ลป.สวน ฉันทโร วัดนาอุดม อุบลราชธานี 2 วาระ คือ
    1. ตลอดไตรมาสปี 2546
    2. ปลุกเสกให้เป็นพิเศษอีกวาระหนึ่งเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2546

    พระคาถาเกราะแก้วกันเพชร
    ใช้อาราธนาพระขรรค์เกราะแก้วกันเพชรทำน้ำมนต์อาบชำระร่างกาย รักษาศีลสวดมนต์ไหว้พระเสียก่อน แล้วว่าพระคาถานี้ 3 หรือ 7 จบ

    นะโมพุทธายะ มะอะอุ สังวิธาปุกะยะปะ อาปามาจุปะ
    ทีมะสังอังขุอะสังวิสุโลปุสะภุพะ เตชะสุเนมะภูจะนาวิเว
    ทุสะมะนิ สะมะนิทุ มะนิทุสะ นิทุสะมะ
    พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ
    อิดิปิโส ภควา ธัมมัง ธัมมัง สังฆัง สังฆัง

    <O:p
    สำหรับพระขรรค์เล่มนี้ นอกจากจะได้บรรจุผงวิเศษเพิ่มแล้วยังได้นำไปเข้าพิธีและให้ครูบาอาจารย์ต่างๆ อธิษฐานจิตให้อีกหลายครั้งเช่น
    <O:p> 1. ลป.สอ วัดป่าหนองแสง ยโสธร
    <O:p> 2. ลป.สีโรจน์(เยี่ยมป วัดประดู่ทรงธรรม อยุธยา
    <O:p> 3. ลป.สวัสดิ์ วัดศาลาปูน อยุธยา
    <O:p> 4. ลพ.พูน วัดบ้านแพน อยุธยา
    <O:p> 5. ครูบาสิงโต วัดอโยธยา อยุธยา
    <O:p> 6. หลวงน้าสายหยุด วัดสะแก อยุธยา
    <O:p> 7. หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี
    <O:p> 8. หลวงปู่อุ้น วัดตาลกง เพชรบุรี
    <O:p> 9. หลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม เชียงราย
    <O:p> 10. พระอาจารย์ปรินทร์ วัดเขาแร่ สุโขทัย (ท่านเจิมแป้งเสกให้ด้วย)
    > 11. หลวงตาม้า วัดพุทธพรหมปัญโญ เชียงใหม่
    <O:p> 12. หลวงปู่พัน วัดมัชฌันติการาม (วัดน้อย) กทม
    <O:p> 14. หลวงปู่ดี วัดเทพากร กทม
    <O:p


    พระขรรค์เล่มนี้พิเศษที่
    1. มีรอยจารมือของลป.สวน ซึ่งพบน้อยมากมีไม่เกิน 5 เล่ม นอกนั้นจารด้วยเครื่องหมด
    2. จารด้วยเครื่องโดยอ.เกรียงศักดิ์ ฆราวาสเรืองวิชาสายสำเร็จลุน
    ที่ท่านเป็นผู้ทำพิธีเรียกสายฟ้าลงมาล้างมีดสายฟ้ามหาปราบไตรจักรให้กับลป.สวน
    3. ได้บรรจุมวลสารศักดิ์สิทธิ์เพิ่มเติมจากของเดิม
    4. ได้รับการอธิษฐานจิตเพิ่มจากครูบาอาจารย์ตามที่กล่าวมาแล้ว


    ให้บูชา 40,000-
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2010
  7. itt-39

    itt-39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +214
    “พระกลางลาน” พระดีที่เป็นตำนานแห่งวัดสะแก

    <O:p
    ในจำนวนวัตถุมงคลทั้งหมดของวัดสะแก ถ้าไม่มีใครรู้จักเหรียญพรหมของสายนี้แล้ว คงต้องบอกว่าเชยระเบิด
    เพราะในบรรดาเหรียญพรหมทั้งหมดนับว่าวิชาพรหมของสำนักนี้โดดเด่นที่สุด ตั้งแต่อ.เฮง ไพรวัลย์ ลป.สี จนถึงลป.ดู่
    ซึ่งเหรียญพรหมของทั้งท่านอ.เอง และลป.สี ต่างก็มีการเช่าหาในราคาที่สูงมาก จนหลายๆ คนอาจจะนึกว่าเหรียญพรหมเป็นที่สุดแห่งความขลังของสายนี้
    แต่แท้ที่จริงแล้วพรเครื่องที่หลวงปู่สีท่านให้ความสำคัญมากหาใช่เหรียญพรหมที่นิยมกันไม่
    แต่เป็นพระเครื่องรุ่นหนึ่งที่เป็นตำนานแห่งการอธิษฐานวิมานแก้วพระพุทธเจ้าครอบ ก็คือ

    <O:p</O:p
    <O:p
    "พระพุทธไตรรัตนะมหาจัตตุดมนพรัตน์ศรีสัมฤทธิ์"

    <O:p
    <O:p[​IMG]</O:p>
    <O:p</O:p

    หรือที่คนทั่วๆ ไปเรียกกันว่า “ พระกลางลาน ”
    เพราะเป็นการหล่อกันกลางลานวัดจริงๆ หล่อกันที่ลานหน้ากุฏิของลป.สี
    ซึ่งเป็นการเททองหล่อพระแบบโบราณครั้งแรกในวัดสะแก
    โดยมีคุณลุงสำเภา คมสัน (น.ต.<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</st1:personName>สำเภา คมสันต์ ยศในสมัยนั้น) เป็นผู้ดูแลการจัดสร้าง ลป.สีเป็นเจ้าพิธี
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พระรุ่นนี้สร้างขึ้นเมื่อกลางปี 2506 (ประมาณเดือนสิงหาคม)
    โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะหาทุนไปบูรณะวัดคานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นวัดแถวบ้านเกิดของลป.สีท่าน
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    จำนวนการสร้างก็ไม่มากเท่าไร ประมาณ 500 องค์ได้
    ออกให้ทำบุญในสมัยนั้นองค์ละ 200 บาท และมีใบอนุโมทนาแนบไปพร้อมกับองค์พระด้วย
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พุทธลักษณะ เป็นพิมพ์มารวิชัย แบบสุโขทัย ( คล้ายๆ พระบูชาหลวงพ่อพระสวย) หน้าตัก 1 นิ้ว
    เททองหล่อแบบโบราณ เนื้อโลหะผสม ( เนื้อหาจัดเหมือนชินราชอินโดจีน)
    วรรณะกระแสออกเหลืองอมเขียว เพราะมีการผสมทองคำ เงิน ทองเหลือง ฯลฯ ตามแต่ที่ลูกศิษย์ลูกหาที่ศรัทธาจะนำมาร่วมในพิธี
    อีกทั้งลป.สี ก็ได้จารแผ่นชนวนอักขระเลขยันต์จำนวนมากเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
    อีกทั้งยังมีตะกรุดและแผ่นยันต์เก่าของอาจารย์<st1:personName ProductID="เฮง ไพรวัลย์" w:st="on">เฮง ไพรวัลย์</st1:personName>
    พระบูชาเก่าแก่ที่แตกหักชำรุดเสียหายจำนวนมาก
    และลพ.อั้น วัดพระญาติก็ได้นำแผ่นทองชนวนและแผ่นยันต์ต่างๆ มาร่วมหลอมด้วย
    โดยในระหว่างเททองอยู่นั้น ได้มีสายสิญจน์เส้นหนึ่งห้อยตกลงมาพาดผ่านปากเบ้าพอดี แต่สายสิญจน์กลับไม่ไหม้ไฟแต่อย่างใด
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พระชุดนี้ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยสวยหรือหล่อไม่เต็ม
    พระเกศมักจะบิดเอียง เนื่องจากเป็นส่วนที่บางที่สุดขององค์พระ
    น้ำโลหะเกิดแข็งตัวก่อนส่วนที่หนา จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่พระเกศติดไม่เต็มหรือบิดเบี้ยว

    <O:p</O:p
    ในเรื่องของพิธีกรรมการสร้างนั้น
    ลป.สี ท่านเป็นประธานในการทำพิธีพุทธาภิเษกและเททองเอง
    โดยนิมนต์พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณและเป็นศิษย์ร่วมอุปัชฌาย์เดียวกับท่านคือ ลพ.กลั่น วัดพระญาติฯ มาร่วมพิธี
    อาทิ ลป.ใหญ่ วัดสะแก ลพ.อั้น วัดพระญาติฯ
    หลังจากเสร็จพิธีปลุกเสกหมู่แล้ว ลป.สี ท่านได้นำพระชุดนี้เข้าไปเก็บในกุฏิและปลุกเสกต่ออีก 1 พรรษา แล้วจึงนำออกให้บูชา
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เนื่องจากการหล่อพระครั้งนี้เป็นการหล่อพระครั้งแรกของวัดสะแก
    ลป. ดู่ พรหมปัญโญ แม้ท่านจะไม่ได้ลงไปร่วมในพิธีเททองในครั้งนี้ แต่ท่านก็ได้ตั้งจิตอธิษฐานอัญเชิญวิมานแก้วพระพุทธเจ้ามาครอบให้
    ด้วยด้วยความตั้งใจที่จะให้พระกลางลานนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เสียชื่อวัดสะแก เพราะท่านก็อาศัยอยู่ที่นี่เหมือนกัน
    ลป.ดู่ ท่านจึงได้อธิษฐานให้สายไฟที่ออกจากกุฏิท่านเป็นสายสิญจน์ (สมัยก่อนกุฏิของหลวงปู่นั้นเป็นศูนย์รวมสายไฟกระจายไปตามที่ต่างๆ)
    พอท่านนั่งภาวนา ไฟก็ดับพรึ่บทั้งวัดเลย ท่านเสกอยู่นาน 30 นาที ไฟก็ติด
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เมื่อพิธีผ่านไปวันหนึ่งหลวงปู่สีห์ท่านเดินมาที่หน้ากุฏิของหลวงปู่ดู่แล้วพูดขึ้นว่า
    " ยวง ไปถามทีว่าใครเอาอะไรไปครอบให้พระข้า " (ยวงคนนี้มีศักดิ์เป็นหลานของหลวงปู่)
    หลวงปู่ยกมือขึ้นไหว้หลวงปู่สีห์แล้วตอบว่า " หลวงพี่ครับ ผมเองเป็นคนเอาวิมานแก้วพระพุทธเจ้าไปครอบให้ "
    แล้วหลวงปู่สีก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วกลับกุฎิท่านไป
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หลวงพ่อใย วัดสะแก ท่านเคยบอกให้ลูกศิษย์ท่านคนหนึ่งว่า
    ถ้าจะเก็บพระหลวงปู่สีให้เก็บพระพิธีกลางลาน ถ้าจะเก็บพระหลวงปู่ดู่ให้เก็บเหรียญปฏิบัติธรรม
    ซึ่งทั้งนี้ท่านคงจะสัมผัสอะไรดีๆ ได้จากพระทั้ง 2 รุ่นนี้
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หลวงปู่สีเคยบอกกับคุณลุงสำเภา คมสันต์ ผู้สร้างพระกลางลานว่า
    ถ้านำไปบูชาที่บ้านรับรองไฟไม่ไหม้บ้าน
    สรุปแล้วพระรุ่นนี้มีคุณวิเศษหลายประการ
    คุณวรทรรศน์ กาญจนดุล ผู้ซึ่งเป็นเจ้าภาพและเป็นผู้ออกทุนในงานศพของหลวงปู่สีทั้งหมด
    เคยถามหลวงปู่ว่า พระกลางลานดีอย่างไร
    หลวงปู่บอกว่า ยกเว้นเทวดา มนุษย์เดินดินทำอะไรไม่ได้ (นับเป็นปริศนาที่ชวนให้คิด)
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    <O:p</O:p

    คาถาอาราธนา<O:p</O:p
    “ สตอัฏฐธัมมคาถา รตนัตตยคุณา สมตา เอเตนะ คุณเตเชนะ โสตถิเม ชยมังคลัง ”
    <O:p</O:p
    อีกบทหนึ่งที่ท่านจารไว้ที่พระบูชาท่าน คือ<O:p</O:p
    “ พุทธะ พุทธา พุทเธ พุทโธ อะระหัง พุทโธ นะ โม พุท ธา ยะ อิ ทะ คะ มะ ”


    <O:p
    ให้บูชา 32,000-


    หมายเหตุ องค์ที่จะออกให้บูชาเป็นองค์ที่หย่อนสวยหน่อย ตามรูปด้านล่างนี้ครับ รับประกันแท้แน่นอนครับ
    องค์นี้ผ่านสายตาเซียนพระสายวัดสะแกมาหลายคนแล้ว



    [​IMG]</O:p
    <O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2010
  8. เอ๋เชียงใหม่

    เอ๋เชียงใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +1,791
    แจ้งราคาบูชาเลยได้ใหมครับ
     
  9. เอ๋เชียงใหม่

    เอ๋เชียงใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +1,791
    ขอบคุณมากครับ รับทราบแล้วยังงัยจะติดต่อนะครับ
     
  10. Pig_Never_Die

    Pig_Never_Die เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +869
    เท่าไหร่ครับผม
     
  11. itt-39

    itt-39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +214
    ถุงโภคทรัพย์คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

    ถุงโภคทรัพย์ คุณแม่ได้อธิษฐานให้คณะศิษย์เพิ่อเป็นโภคทรัพย์
    ภายในถุงจะมีของบรรจุอยู่ไม่เหมือนกัน เช่น ธนบัตร เหรียญสตางค์เก่า พระพุทโธน้อย ข้าวตอกพระร่วง ศิลาน้ำ หรือปูนเสก ฯลฯ


    [​IMG]
    เพื่อประกอบบทความให้สมบูรณ์ ขออนุญาตนำภาพมาจาก
    http://www.thaprachan.com/shop_detail.asp?shop_id=1178&product_id=130289&c=1


    ถุงนี้มีหลายสี หลายขนาดตามแต่จะตัดเย็บกันมา แล้วนำมาให้คุณแม่อธิษฐานธรรมประจุให้เป็นคราวๆ ไป
    โดยยุคแรกจะเป็นถุงผ้าดิบเนื้อหยาบ ส่วนยุคหลังเนื้อผ้าจะละเอียดกว่า

    ถุงแต่ละสีคุณแม่ได้อธิษฐานให้เป็นโภคทรัพย์ทั้งหมด แต่อาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยในแต่ละสี ดังนี้

    สีเขียวเหนี่ยวทรัพย์
    สีขาว (สาวทรัพย์) เจ้าทรัพย์
    สีฟ้า (คว้าทรัพย์) ราชาโชค
    สีเหลืองเฟื่องทรัพย์
    สีดำ (อมตะ) นำทรัพย์
    สีม่วงทวงทรัพย์
    สีแดงแรงฤทธิ์
    สีชมพู (หนุงหนิง) เชิดชูทรัพย์
    สีน้ำเงิน (โชคลาภ วาสนา ก้าวหน้า ) เจริญทรัพย์


    นอกจากจะเด่นทางโภคทรัพย์ อธิษฐานให้คล่องตัวไม่มีอุปสรรคแล้ว ยังสามารถคุ้มครองป้องกันภัยได้อีกด้วย

    [​IMG]
    ภาพเปรียบเทียบระหว่างถุงยุคแรกกับยุคหลัง ใบบนเป็นยุคแรก เนื้อผ้าจะเป็นแบบผ้าด้ายดิบเนื้อหยาบ การสอยเย็บปากถุงจะเป้นการสอยมือ และไหมที่ผูกปากถุงจะเป็นด้ายสมัยก่อนที่เขาเรียกว่า...ด้ายขน ถ้าเป็นยุคหลังเนื้อผ้าจะดีกว่า งานประณีตกว่า การสอยปากถุงจะเป้นการสอยด้วยจักร และไหมที่ผูกปากถุงจะเป้นไหมญี่ปุ่น ส่วนของที่บรรจุในถุงไม่แน่นอน แล้วแต่คุณแม่จะใส่ให้แต่ที่แน่ๆ คือ ต้องมีเงินขวัญถุง นอกนั้นท่านอาจจะใส่ศิลาน้ำ ข้าวตอกพระร่วง ปูนอธิษฐาน ก้อนเทียนอธิษฐาน ฯลฯ


    มีเรื่องเล่าว่า เมื่อครั้งสงครามเกาหลี ศิษย์ที่เป็นทหารคนหนึ่งมาลาท่านไปรบ
    ท่านอธิษฐานก้อนกรวดให้สามก้อนและบรรจุถุงอธิษฐานให้ไป
    พร้อมสั่งว่าให้เก็บถุงติดตัวไว้เสมอจะป้องกันอันตรายได้
    ให้นำก้อนกรวดไปขว้างในที่ตามจุดหมายสามแห่ง

    ทหารผู้นั้นเมื่อออกรบได้ขว้างกรวดก้อนแรกไปในสนามรบ ไม่นานก็มีข้อตกลงหยุดยิง
    ต่อมาขว้างก้อนที่สองไปบนภูเขา หลังจากนั้นก็มีการสงบศึก
    ขว้างก้อนที่สามในลำธาร ต่อมาผู้นำของข้าศึกถึงแก่ความตาย

    มื่อหยุดยิงก็ได้ไปเก็บลวดหนามและเครื่องกีดขวางในสนามรบ
    ทหารไทยเข้าไปปลอดภัย เพราะเขาเก็บถุงของคุณแม่ไว้กับตัว
    ทหารชาติอื่นเข้าไปถูกระเบิดตายเป็นจำนวนมาก
    ตอนกลับเครื่องบินอื่นถูกอุปัทวเหตุ แต่ลำที่ทหารผู้นี้เหน็บถุงไปกลับมาอย่างปลอดภัย
    ทำให้เห็นถึงอิทธิฤทธิ์ของกรวดและถุงอธิษฐานอย่างน่าอัศจรรย์


    พระคาถาพระสีวลี (คาถาแม่บุญเรือน)

    พระสีวลี พระอรหันต์เจ้าที่มีบุญบารมีทางลาภสักการะมากกว่าพระอรหันต์ด้วยกันในสมัยพุทธกาล
    พระอินทร์ได้มอบพระคาถานี้กับคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ทางสมาธิเมื่อวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2500
    ท่านแม้เป็นฆราวาสแต่ก็ได้ฝึกธรรมะถึงขั้นได้อภิญญา มีฤทธิ์เดชมากมาย
    ดังมีหลักฐานให้อ่านให้ดูได้ที่ วัดอาวุธวิกสิตาราม (วัดบางพลัดนอก) ถ.จรัญสนิทวงศ์ ซอย ๗๒ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ

    นะ ชาลีติ ฉิมพา จะ มหาเถโร
    สุวรรณะ มามา โภชนะ มามา วัตถุวัตถา มามา
    พลาพลัง มามา โภคะ มามาร มหาลาโภ มามา
    สัพเพ ชะนา พหู ชะนา ภวันตุเม

    ถ้าจะให้เกิดลาภสม่ำเสมอ ให้ท่องสวดพระคาถาตามกำลังวันดังนี้

    วันอาทิตย์ สวด ๖ จบ, วันจันทร์ สวด ๑๕ จบ, วันอังคาร สวด ๘ จบ,
    วันพุธ สวด ๑๗ จบ, วันพฤหัส สวด ๑๙ จบ, วันศุกร์ สวด ๒๑ จบ และวันเสาร์ สวด ๑๐ จบ

    พระคาถาคุณแม่บุญเรือนบทนี้
    คุณป้ามานิดา สุขสถิตย์ (คู่ชีวิตคุณชินพร สุขสถิตย์ ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง)
    ซึ่งคุณแม่ของคุณป้ามานิดาเป็นศิษย์ของคุณแม่บุญเรือนมาแต่ก่อน ได้เล่าให้ฟังว่า
    พระคาถาข้างบนนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก
    คนที่ฐานะไม่ค่อยดี การเงินติดขัด
    เมื่อเอาคาถานี้ไปท่องตามกำลังวันของตนเองแล้ว
    ฐานะการเงินก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พอหยุดท่องก็เจ๊งลงคือเก่า
    ฉะนั้น จึงรีบเอาเรื่องนี้มาบอกต่อท่านทั้งหลายว่าอย่าได้ประมาทกับคาถาของคุณแม่บุญเรือนนี้เป็นอันขาด
    นอกจากนี้ คุณป้ามานิดายังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า คุณแม่บุญเรือนจะสวดคาถานี้เป็นประจำ
    บรรดาลูกศิษย์คุณแม่ได้ยินท่านสวดจนชินหู จนจำได้ขึ้นใจไปตามๆ กัน


    (จากเว็บพุทธวงศ์)

    <O:p</O:p


    เมื่อต้นปีพ.ศ. 2498 คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมได้ปรารภกับศิษยานุศิษย์ของท่านว่า
    "มีใครเป็นห่วงพระเจ้าแผ่นดินองค์น้อย(ในหลวง)บ้าง..??"

    เมื่อทุกคนกล่าวรับว่าเป็นห่วง เนื่องจากมีข่าวที่น่าเป็นกังวลมาให้ได้ยินอยู่ คุณแม่บุญเรือนก็ว่าต่อไปอีกหน่อยว่า

    " ถ้าเป็นห่วง ก็ขอให้แม่อธิษฐานช่วยพระองค์ท่านซิ "
    (ตามอริยประเพณี พระอริยะจะทำการสิ่งใดโดยปราศจากเหตุหรือไม่มีผู้อาราธนามิได้)

    เมื่อศิษย์ทุกคนกล่าวคำขอให้คุณแม่ใช้อิทธิฤทธิ์ช่วยในหลวงให้ทรงพระเจริญและแคล้วคลาดจากสรรพภยันตรายทั้งปวงแล้ว
    คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมจึงได้กำหนดที่จะไปเข้“ นิโรธสมาบัติ ” คุ้มครองถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    ที่บ้านนาซา ( เป็นเคล็ดให้เรื่องร้าย "สร่างซา" ลงไป )
    ของนางสาววาย ( เป็นเคล็ดให้เรื่องราวที่ไม่ดีมีอันต้อง “ วาย ” หายสูญไป ) วิทยานุกรณ์ ( น้องสาวพระมหารัชชมังคลาจารย์ วัดสัมพันธวงศ์ )
    ที่ปากน้ำประแสร์ จ.ระยอง เป็นเวลาถึง 1 ปีเต็ม
    โดยช่วงนั้น คุณแม่บุญเรือนได้สั่งห้ามมิให้ศิษย์คนใดเข้ามารบกวนท่านในช่วงเวลานั้นเป็นอันเด็ดขาด..!!!!

    <O:p</O:p

    ถุงชมพู...เชิดชูทรัพย์ ใบนี้เป็นของแท้ๆ สมัยคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
    ท่านอธิษฐานให้เป็นถุงโภคทรัพย์ ซึ่งสีชมพูนี้ดีทางด้านเมตตา รักใคร่ และค้าขายครับผม
    โดยคุณแม่ได้เริ่มอธิษฐานถุงโภคทรัพย์แล้วนำไปทำพิธีที่วัดพระพุทธบาท สระบุรี
    แล้วเริ่มแจกตั้งแต่ต้นปี 2498 เป็นต้นมา

    ขนาด 4 X 4.5 ซม.

    ถุงใบนี้เป็นถุงยุคแรก ที่ท่านอธิษฐานแจกบรรดาลูกศิษย์เมื่อต้นปี 2498
    เนื้อผ้าจะเป้นผ้าเนื้อหยาบกว่าถุงยุคหลัง และด้ายที่ผูกปากถุงจะเป็นด้ายเก่าสมัยก่อนที่เรียกว่า...ด้ายขน...ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่มีแล้ว
    เนื้อผ้ายังปลอมได้แต่ด้ายแบบนี้ปลอมไม่ได้ครับ ถ้าเป็นยุคหลังผ้าจะเนื้อดีและละเอียดกว่า การสอยที่ปากถุงจะเป็นงานละเอียดกว่า และไหมที่ผุกปากถุงจะเป็นไหมญี่ปุ่น

    นอกจากนี้ภายในถุงยังบรรจุเหรียญขวัญถุงที่คุณแม่อธิษฐานไว้ เป็นเหรียญสตางค์เก่าเนื้อดีบุกสมัยรัชกาลที่ 8 ไว้ด้วย


    ให้บูชา 20,000-
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PICT0001.JPG
      PICT0001.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      376
    • PICT0002.JPG
      PICT0002.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      281
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2010
  12. porch

    porch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    507
    ค่าพลัง:
    +907
    ราคาเท่าไหร่ครับ อยากจองแต่ไม่รู้แพงหรือเปล่า
     
  13. sembay

    sembay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    364
    ค่าพลัง:
    +1,871
    เท่าใดครับสนใจครับ
     
  14. Rungnirun

    Rungnirun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +535
    เปิดให้บูชาเท่าไร ก็ลงบอกไปเลยครับ ไม่ใช่ให้โทรถาม pmถาม ลีลาท่ามากบางทีมันก็น่ารำคาญนะครับ ขอประธาณโทษพูดด้วยความจริงใจ
     
  15. Reliquiae

    Reliquiae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +2,639
    ผมสนใจศิลาน้ำ ของคุณแม่บุญเรือนครับ ไม่ทราบว่า พอมีให้บูชาไหมครับ
     
  16. nu2581

    nu2581 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +4,676
    ร้อนแรงกันมากครับวันนี้
     
  17. itt-39

    itt-39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +214
    ศิลาน้ำ (ปฐวีธาตุ)

    ศิลาน้ำคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม (โชว์)


    [​IMG]

    ปฐวีธาตุหรือศิลาน้ำ (หิน หรือ กรวดใต้น้ำ) ของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
    เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ มีสรรพคุณครอบจักรวาล มีอานุภาพกันภัย รักษาโรคภัย ตลอดจนคุ้มครองรักษาผู้มีติดตัวไป
    ลูกศิษย์มักนิยมนำมาใส่ในภาชนะที่ตั้งน้ำอธิษฐานประจำวันเสาร์
    ตามประวัติคุณแม่ได้ทำพิธีเก็บศิลาน้ำ เมื่อ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2499 อธิษฐานศิลาน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อป้องกันอันตรายต่าง ๆ
    ซึ่งในวันดังกล่าวมีผู้ไปร่วมงานประมาณ 400 คน


    <O:p[​IMG]</O:p>
    <O:pองค์นี้เป็นองค์ที่เลี่ยมติดตัวอยู่ ส่วนองค์ข้างบนเป็นองค์ที่เอาไว้ใช้สำหรับตั้งน้ำอธิษฐาน
    </O:p

    เนื่องจากศิลาน้ำนี่ก็ คือ กรวด ดีๆ นี่เอง
    ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะดูว่าเป้นของท่านหรือไม่ นอกจากจะได้รับมาจากแหล่งที่มาที่ดีจริงๆ



    ใบตั้งน้ำอธิษฐานของ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
    วัดอาวุธวิกสิตาราม บางพลัด กรุงเทพ


    <O:p</O:p

    การเตรียมน้ำ ให้หาน้ำสุกหรือน้ำสะอาดที่ใช้ดื่มได้ ใส่ภาชนะที่มีฝาปิดให้เรียบร้อยมิให้ฝุ่นละอองหรือแมลงลงไปในน้ำได้ การตั้งน้ำแต่ละครั้งให้มีน้ำมากพอที่จะใช้ดื่มได้ตลอดสัปดาห์
    <O:p</O:p
    เวลาในการตั้งน้ำ ให้ตั้งวันเสาร์เวลาเช้า ตั้งแต่ ๐๘.๐๐ น. เป็นต้นไป แต่ต้องก่อนบ่ายสองโมงเย็น
    <O:p</O:p
    คำอธิษฐาน ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วอธิษฐานดังต่อไปนี้
    <O:p</O:p
    ข้าพเจ้าตั้งน้ำไว้ นางบุญเรือนเป็นผู้อธิษฐานธรรมของพระพุทธเจ้า ขอธรรมของพระพุทธเจ้าจงดลบันดาลให้น้ำนี้เป็นยาทิพย์...(นอกจากนี้พูดเอาเองตามชอบใจ)...
    <O:p</O:p
    เวลาที่ใช้ดื่มได้ ตั้งแต่ ๐๘.๐๐ น. ของวันอาทิตย์เป็นต้นไป นำน้ำนั้นมาดื่มได้เป็นน้ำอธิษฐาน ย่อมมีสรรพคุณดังคำอธิษฐานนั่นแล มีลักษณะเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์หรือเป็นยาทิพย์
    <O:p</O:p

    ของที่ให้อธิษฐานเองนอกจากน้ำ ศิษย์บางท่านได้กล่าวว่าความจริงยังมีไพลอีกอย่างหนึ่งที่ท่านอนุญาตให้ลูกหลานหรือศิษย์อธิษฐานเองได้ มีลักษณะเช่นเดียวกับการอธิษฐานน้ำ
    <O:p</O:p

    วิธีใช้ของอธิษฐานบางอย่าง ของอธิษฐานทุกชนิดย่อมใช้ประโยชน์ตามของนั้น ๆ แต่มีระเบียบในใบตั้งน้ำของคุณแม่กล่าวถึงรายการพิเศษอยู่บ้าง ขอนำมาลงไว้ ท่านกล่าวว่า ปูนต้องนำมาให้อธิษฐานให้ พริกไทยใช้รับประทานวันละเม็ด ไพลใช้รับประทานครั้งหนึ่งเท่าศีรษะมือ โขลกให้ละเอียดแล้วกรองเอาแต่น้ำ เติมน้ำอธิษฐานพอสมควร ถ้าเป็นบิดเติมน้ำปูนใส ถ้าท้องผูกเติมเกลือแล้วไม่ต้องใช้น้ำปูนให้ใช้น้ำอธิษฐานค่อนแก้วดื่มก่อนนอนจะถ่ายได้
    <O:p</O:p
    คำอธิษฐานทั่วไป ข้าพเจ้าสมมุติว่า คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นผู้อธิษฐานธรรมของพระพุทธเจ้า ขอธรรมของพระพุทธเจ้าจงดลบันดาลของเหล่านี้ให้ศักดิ์สิทธิ์เป็นยาทิพย์ ใช้รักษาโรคให้หายทุกชนิด ให้มีแนวชีวิตรุ่งโรจน์ ให้อายุยืน (ปรารถนาสิ่งใดให้อธิษฐานตามไปด้วย)

    <O:p</O:p
    ผู้เป็นลูกหลานและศิษย์ของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม หรือผู้เคารพเลื่อมใสนั้น แม้คุณแม่บุญเรือนจะวายชนม์ไปแล้ว ก็ยังคงตั้งน้ำอธิษฐานให้มีความศักดิ์สิทธิ์ใช้รับประทานได้เช่นเดิม ขอทุกท่านที่เคยทำไปแล้วก็โปรดทำต่อไป ส่วนผู้ไม่เคยทำก็ได้โปรดลองทำดูติดต่อกันไปหลาย ๆ เสาร์ แล้วท่านจะประหลาดใจในผลของน้ำอธิษฐานอย่างน่าพิศวงทีเดียว เช่น เด็กในบ้านที่เคยเจ็บป่วยก็จะหายเป็นปลิดทิ้งอย่างคาดไม่ถึง
    <O:p</O:p
    ขออำนาจของพระรัตนตรัยจงเป็นที่พึ่ง ขออัญเชิญบารมีอันสูงยิ่งของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมจงสถิตสถาพรอยู่กับท่านทั้งหลาย แม้ประสงค์สิ่งใดจงสมประสงค์ทุกประการ และถึงพร้อมด้วยธรรมสี่ประการคือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ทุกท่าน เทอญ ฯ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2009
  18. itt-39

    itt-39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +214
    แหวนพิรอดเนื้อทองมหาสัตตโลหะ

    แหวนพิรอดนอก เนื้อทองมหาสัตตโลหะ ปี 2524-26
    พระครูสิริวัฒนการ (พระอาจารย์ศรีเงิน อาภาธโร) วัดดอนศาลา พัทลุง


    เนื้อทองมหาสัตตโลหะ (ทองกายสิทธิ์) เป็นเนื้อทองที่แข็งแกร่งและต้องมีว่านตามตำราเป็นตัวประสานควรคู่กับอาคม
    เคยมีศิษย์บางคนทดลองหลอมเฉพาะเนื้อทองเพื่อจะบรรจุเป็นพิเศษสักองค์หนึ่ง ปรากฏว่า
    ไม่ยอมละลาย เนื้อสุกแดงกลิ้งไปมาได้ในลักษณะของเหลวแต่ไม่ลงเบ้า


    <O:p</O:p
    ท่านพระอาจารย์ศรีเงิน อาภาธโร วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ได้เปิดเผยแก่คณะศิษย์ที่ตั้งใจช่วยกันสร้างเมรุว่า
    วิชาสร้างเนื้อทองคำให้เป็นเนื้อกายสิทธิ์ ที่เรียกว่า เนื้อ “ ทองมหาสัตตโลหะ ” ของสำนักเขาอ้อ
    จากเนื้อทองหนัก 1 บาท จะเพิ่มเนื้อได้เป็น 10 บาท
    ซึ่งในการสร้างครั้งนี้ท่านเองก็ไม่คาดว่าจะสร้างได้สำเร็จ
    เพราะในบันทึกได้บอกใบ้เป็นปริศนาคล้ายลายแทงไม่ได้บอกไว้ตรง ๆ ผู้มีปัญญาเท่านั้นที่จะตีปริศนาได้สำเร็จ \

    <O:p</O:p
    ในตำราบอกรายละเอียด น้ำหนักโลหะแต่ละชนิด สูตรยันต์ควบคุมโลหะแต่ละอย่างไว้อย่างละเอียด
    ในการสร้างแต่ละคราวไม่ใช่ทำได้ง่าย ๆ เพราะไม่ใช่ผสมโลหะให้รวมตัวกันตามหลักวิทยาศาสตร์เท่านั้น
    แต่เป็นการสร้างเนื้อให้มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองด้วย “ ธาตุกายสิทธิ์ ”


    <O:p
    ในการสร้างเนื้อทองมหาสัตตโลหะ ในตำราบ่งบอกไว้ว่า
    เป็นวิชาเล่นแร่แปรธาตุชั้นสูงสุดของสำนักเขาอ้อ ยังไม่เคยมีการทดลองในศิษย์ชั้นหลัง
    ท้ายตำราเขียนไว้ว่า “ เราเคยทำแล้ว ทำได้ ใครไม่เชื่อ ให้ตกนรกอเวจี เกิดชาติใดอย่าได้พบพระ ”
    ไม่ใช่เพราะอะไรทุกอย่างขัดกับหลักวิทยาศาสตร์ เป็นของเชื่อยากในปัจจุบัน
    ใครเห็นตำราแล้วจะดูแคลนว่าเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระ หลอกลวง
    อาจารย์ผู้คิดตำรานี้จึงสาปแช่งเอาไว้เป็นการท้าทาย ให้พิสูจน์
    แต่ไหนแต่ไรมาตำราของสำนักเขาอ้อไม่เคยผิดพลาด


    <O:p</O:p
    พระอาจารย์ศรีเงินมอบตำราสร้างเนื้อทองมหาสัตตโลหะ ให้ศิษย์ไปศึกษา
    ก็เจอปัญหาแบบลายแทงเข้าอีก ศึกษาไม่นานก็เข้าใจ
    เมื่อท่านอาจารย์เข้าใจว่าศิษย์เข้าใจดีแล้ว พระอาจารย์ก็รับภาระที่จะควบคุมพิธีเองในครั้งนี้
    เพราะศิษย์เองก็เกรงจะผิดพลาด เพราะเป็นงานใหญ่และละเอียดมาก


    <O:p</O:p
    พระอาจารย์ศรีเงิน เห็นใจศิษย์คณะนี้ที่ตั้งใจสูงมากที่จะช่วยพัฒนาวัด
    พระอาจารย์ศรีเงินกับศิษย์ขึ้นไปยอดเขาอ้อกลางดึกสงัด เพื่อหาตัวยาชนิดหนึ่งมาเป็นส่วนผสมเนื้อ
    คือ “ รากเหล็กส่องแสงยามราตรี ” (รากหิ่งหาย) หาพบในคืนที่ 3
    “ ทองบ้านงอกได้ ” (ขมิ้น) ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่เป็นตัวยาผสมเนื้อ 2 อย่าง ในหลาย ๆ อย่างนี้เป็นลายแทงปริศนา
    พระอาจารย์ศรีเงินได้ให้สัจจะไว้กับปรมาจารย์อดีตเจ้าตำราไว้
    ท่านสร้างครั้งนี้เพียงครั้งเดียวและเป็นครั้งสุดท้ายจะไม่สร้างอีก


    <O:p</O:p
    ตำรานี้ ขยายทองได้ 10 เท่า จากเนื้อทองคำ 1 บาท เป็นทองกายสิทธิ์ 10 บาท
    ผู้ที่มีความโลภหวังจะได้ทองเพิ่มทางการค้าหากำไรแล้วจะไม่มีผลอะไรเลย
    เพราะจะหาค่าทองคำตามหลักวิทยาศาสตร์ไม่ได้
    เคยมีผู้นำไปใช้น้ำยาฆ่ายาง ใช้กรรมวิธีต่างๆ เพื่อให้ทองเปลี่ยนสี
    โดยตั้งสมมติฐานว่า สิ่งนี้ไม่ใช่ทอง เมื่อเนื้อเปลี่ยนสีไปก็เอะอะกันขึ้นมาว่า “ ไม่ใช่ทองคำ ”
    พอนำเรื่องนี้ไปกราบเรียนพระอาจารย์ศรีเงินให้ทราบ ท่านก็หัวเราะแล้วบอกว่า
    “ ตอนนี้ไม่ใช่ทองคำ แต่เป็นทองกายสิทธิ์ไปแล้ว จะนำมาพิสูจน์แบบทองคำนั้นไม่ได้
    ทำไมไม่เฉลียวใจกันบ้างว่า เราสร้างพระเนื้อทองไปแล้วเท่าใด ทองยังเหลืออีกเท่าใด ”


    <O:p</O:p
    ทองคำซื้อมาสร้างเฉพาะเนื้อทองใช้ทอง 32.5 บาท
    เหรียญหล่อพระอาจารย์ทองเฒ่าหนักบาทกว่า
    พระอาจารย์ยังกล่าวต่อไปอีกว่า
    “ ทองของอาจารย์นั้นงอกได้ ขยายตัวได้ถึง 10 เท่า คือ
    ทองคำหนัก 1 บาท ขยายได้เป็น 10 บาท
    สำหรับพระที่ใครเอาไปทำให้เปลี่ยนสีไปนั้น ให้นำไปเผาไฟให้แดงแล้วใส่ลงในน้ำเย็น พระจะกลับเป็นเนื้อทองสุกปลั่งอย่างเดิม ”
    ซึ่งศิษย์ก็ได้นำไปพิสูจน์ 2-3 ครั้ง ก็ได้ผลเช่นเดิม เลยต้องยุติและจุดธูปขอขมาท่าน


    <O:p</O:p
    วัตถุมงคลพระเครื่องชุด “ เนื้อทองมหาสัตตโลหะ พระอาจารย์ศรีเงิน อาภาธโร วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ปี 2525 ” นี้
    ผู้มีวาสนาเท่านั้นที่จะได้ครอบครอง ผู้มีวาสนาเท่านั้นที่จะมองเห็นทองคำเนื้อแท้ที่ซ่อนอยู่ภายใน
    พระชุดนี้เป็นพระชุดวิเศษสุดที่หาค่ามิได้ สร้างไว้แต่เพียงเล็กน้อย
    เพื่อตอบแทนน้ำใจศิษย์ที่ตั้งใจช่วยวัดอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยและเสียสละด้านทุนทรัพย์มากมาย


    <O:pรายการวัตถุมงคลเนื้อทองมหาสัตตโลหะที่จัดสร้างขึ้น<O:p</O:p
    1. พระกริ่งศรีเพชรรัตน์ 19 องค์<O:p</O:p
    2. พระชัยวัฒน์ศรีเพชรรัตน์<O:p</O:p
    3. พระสมเด็จนะมหามงคล พิมพ์ใหญ่ สองหน้า 19 องค์<O:p</O:p
    4. พระสมเด็จนะมหามงคล พิมพ์ใหญ่ หน้าเดียว 19 องค์<O:p</O:p
    5. พระสมเด็จนะมหามงคล พิมพ์เล็ก สองหน้า 19 องค์<O:p</O:p
    6. พระสมเด็จนะมหามงคล พิมพ์เล็ก หน้าเดียว 15 องค์<O:p</O:p
    7. เหรียญหล่อพระอาจารย์ทองเฒ่า 32 เหรียญ<O:p</O:p
    8. พระสังกัจจายน์ 19 องค์<O:p</O:p
    9. พระกลีบบัวนะมหามงคลมหาลาภ 32 องค์<O:p</O:p
    10. แหวนพิรอดหลบใน 19 วง<O:p</O:p
    11. แหวนพิรอดนอก 19 วง<O:p</O:p
    12. ประตำ 108 ลูก 10 เส้น<O:p</O:p
    13. ลูกสะกดนะมหามงคล 49 ลูก<O:p</O:p
    14. พระบูชาเนื้อทองมหาสัตตดลหะ ขนาด 1.5 นิ้ว 5 องค์<O:p</O:p
    15. ตะกรุดเกราะเพชรพระพุทธเจ้า 19 ดอก<O:p</O:p
    16. ตะกรุดฝนแสนห่าพิชิตมาร 19 ดอก<O:p</O:p
    17. ตะกรุดจตุโรบังเกิดทรัพย์มหาลาภ 32 ดอก<O:p</O:p
    18. ตะกรุดเมตตาค้าขาย 32 ดอก<O:p</O:p
    19. มีดหมอนะมหามงคล 13 เล่ม

    <O:p</O:p
    </O:p

    พุทธคุณพระเนื้อทองมหาสัตตโลหะ ครอบจักรวาล เมตตามหานิยม ป้องกันคุณไสย ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง
    ตำราบ่งบอกไว้ว่า ผู้มีบุญวาสนาเท่านั้นที่จะได้ครอบครอง
    ถึงเป็นคนถ่อยก็มีผู้ช่วยเหลือ แม้นโทษถึงประหารชีวิตก็แคล้วคลาดได้
    ผู้ใดได้ครอบครองเนื้อทองมหาสัตตโลหะจะไม่มีวันตายโหง
    จะมีแต่ความเจริญยิ่งขึ้นในลาภยศ ไม่มีอับจน จะมีทรัพย์สมบัติเพิ่มทวีขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขั้นเป็นเศรษฐี <O:p</O:p

    พุทธาภิเษก แหวนพิรอด ได้เข้าพิธีปลุกเสกครั้งแรกพร้อมพระปิดตานะมหามงคล เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2524 ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 15 ค่ำ เวลา 19.29 น. ณ อุโบสถ วัดดอนศาลา โดยพระเกจิอาจารย์สายสำนักวัดเขาอ้อ มีพระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา เป็นประธานในพิธี เสร็จพิธีแล้ว พระอาจารย์ศรีเงิน อาภาธโร ได้เก็บไว้ในกุฏิปลุกเสกเดี่ยว จนถึงวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2524 จึงได้นำไปปลุกเสกใหญ่อีกครั้งหนึ่งร่วมกับพระกริ่งนะมหามงคล

    พระเกจิอาจารย์ที่ปลุกเสก ประกอบด้วย
    1. พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา จังหวัดพัทลุง
    2. พระอาจารย์ศรีเงิน อาภาธโร วัดดอนศาลา จังหวัดพัทลุง
    3. พ่อท่านคล้อย วัดภูเขาทอง จังหวัดพัทลุง
    4. พระอาจารย์แก้ว วัดโคกโดน จังหวัดพัทลุง
    5. พ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก จังหวัดพัทลุง
    6. พระอาจารย์เล็ก วัดประดู่เรียง จังหวัดพัทลุง
    7. พระอาจารย์จับ วัดท่าลิพงศ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
    8. พระอาจารย์หนูจันทร์ วัดพัทธสีมา จังหวัดนครศรีธรรมราช
    9. พระอาจารย์ทอง พระธุดงค์มาจากจังหวัดสงขลา


    แหวนเนื้อทองมหาสัตตโลหะวงนี้ สีทองสุกปลั่ง
    เพราะการสร้างพระเนื้อทองมหาสัตตโลหะในครั้งนี้ ใช้ทองคำนน. 32.5 บาท
    เป็นการทำทองธรรมดาให้กลายเป้นทองกายสิทธิ์ เพื่อเป็นเรือนให้กายสิทธิ์อยู่
    จัดเป็นวิชาเล่นแร่แปรธาตุชั้นสูงสุดของสำนักเขาอ้อเลยทีเดียว


    วงนี้สภาพสวยสมบูรณ์ ไม่ผ่านการใช้ ยังเห็นก้านชนวนติดอยู่ 1 ใน 19 วง หายากมากๆ
    ให้บูชา 10,000-<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2009
  19. Reliquiae

    Reliquiae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +2,639
    ขอบคุณครับ ที่นำข้อมูลของศิลาน้ำมาให้อ่านครับ
     
  20. itt-39

    itt-39 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +214
    พระชัยวัฒน์ศรีเพชรรัตน์จ้าวน้ำเงิน

    พระชัยวัฒน์ศรีเพชรรัตน์ เนื้อจ้าวน้ำเงิน ปี 2525-26
    พระครูสิริวัฒนการ (พระอาจารย์ศรีเงิน อาภาธโร) วัดดอนศาลา พัทลุง<O:p</O:p

    [​IMG]


    พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ศรีเพชรรัตน์มหามงคล นับเป็น “ วัตถุมงคล” ชิ้นเอกอีกชิ้นหนึ่งของ สำนักขาอ้อ จ.พัทลุง
    ถือได้ว่าเป็นพระกริ่งรุ่น 2 ของท่าน ที่ได้จัดสร้างขึ้นโดยพิธีการอันรัดกุม และถูกต้องตามตำหรับสายเขาอ้อ


    จำนวนสร้าง<O:p</O:p
    1. พระกริ่งศรีเพชรรัตน์มหามงคล<O:p</O:p
    - เนื้อทองมหาสัตตโลหะ จำนวนสร้าง 19 องค์<O:p</O:p
    - เนื้อจ้าวน้ำเงิน ไม่เกิน 20 องค์<O:p</O:p
    - นวโลหะ จำนวนสร้าง 309 องค์ ตอกโค้ด “ นะมหามงคล ” ที่ใต้ฐานองค์พระทุกองค์<O:p</O:p
    เนื้อโลหะที่ใช้ในการสร้างเป็นชนวนโลหะที่เหลือจากการสร้างวัตถุมงคลชุดมหามงคล <O:p</O:p
    และได้ผสมแผ่นทองลงจารอักขระของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศ
    และแผ่นจารอักขระอีก 108 แผ่น แผ่นจารนะ 29 นะ ของพระอาจารย์ศรีเงิน อาภาธโร ลงไปผสมด้วย <O:p</O:p
    หมายเหตุ พระกริ่งทั้งเนื้อสัตตะโลหะ และ เนื้อเจ้าน้ำเงิน จะไม่มีการตอกโค๊ต
    จะมีบางองค์ที่ศิษย์ใกล้ชิดขอให้ท่านเมตตาจารใต้ฐานให้
    (สาเหตุที่ไม่ตอกโค๊ตเพราะกลัวว่าจะมีการนำองค์พระไปชุบ เพื่อบอกว่าเป็นเนื้อพิเศษ) <O:p</O:p
    2. พระชัยวัฒน์ศรีเพชรรัตน์มหามงคล สร้างด้วยกัน 3 เนื้อ เช่นเดียวกับพระกริ่ง
    <O:p</O:p


    พิธีสร้าง เมื่อแม่พิมพ์แกะเสร็จแล้ว ได้หล่อเบ้าพิมพ์โบราณแล้วนำเบ้าพิมพ์ไปที่วัดดอนศาลา
    ประกอบพิธีกรรมหลอมโลหะเบ้า บรรจุเม็ดกริ่ง และปลุกเสกในพิธีเดียวกัน
    โดยเริ่มปลุกเสกตั้งแต่เริ่มเททองจนบรรจุเบ้า เวลา ๐๖.๑๐ น. จนถึงเมื่อเวลา ๒๒.๓๙ น.
    ของวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๒๕ ณ. หน้ามณฑปรูปเหมือนของพระอาจารย์เอียด พระอาจารย์นำ ภายในวัดดอนศาลา
    <O:p</O:p
    การปลุกเสก มีพระอาจารย์ที่เป็นศิษย์สายเขาอ้อหลายท่านร่วมปลุกเสกพร้อมกับ พระอาจารย์ศรีเงิน


    ตามตำราเขาอ้อ จะมีธาตุกายสิทธิ์ 2 ชนิด คือทองมหาสัตตโลหะ และ เจ้าน้ำเงิน
    ซึ่งเป็นวิชาเล่นแร่แปรธาตุชั้นสูงสุดของสำนักเขาอ้อ
    เป็นการสร้างธาตุธรรมดาให้กลายเป็นธาตุกายสิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ในตัว




    จ้าวน้ำเงิน ตามตำราเขาอ้อ สร้างมาจากโลหะ 2 ชนิด ผสมกัน
    (ซึ่งโดยปกติแล้วธาตุทั้ง 2 ชนิดเมื่อรวมตัวกันจะเกิดความร้อนแล้วจะระเบิดแยกกันไม่อาจรวมตัวกันได้)
    โดยใช้ว่านเป็นตัวประสาน เรียกว่า สร้างจ้าวน้ำเงินให้เป็น “ เงินกายสิทธิ์ ” เสียขั้นหนึ่งก่อน

    <O:p</O:p
    จ้าวน้ำเงินหากไม่ผสมกับนวโลหะแล้วจะไม่ละลาย
    ถึงเผาจนสุกแดงแต่พอหยุดเผาจะแข็งตัวทันที
    ผิวที่ถูกไฟจะดำแต่พอขัดเงาก็จะแวววาวเหมือนทองคำขาวหรือชุบโครเมียม

    <O:p</O:p
    จ้าวน้ำเงิน หรือ “ เงินกายสิทธิ์ นี้ มีพุทธคุณเด่นพอๆ กันกับเนื้อ ทองมหาสัตตโลหะ ( ทองกายสิทธิ์ )
    แต่จะเป็นรองกันแค่เนื้อ ในตำราระบุไว้ว่า

    “ ผู้ใดได้ครอบครองเนื้อทองมหาสัตตโลหะและจ้าวน้ำเงิน
    จะมีความรุ่งโรจน์ในการงาน เป็นเมตตามหาเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น
    จะมีทรัพย์สมบัติเพิ่มพูนทวีจนเป็นถึงขั้นมหาเศรษฐี ”

    เนื้อจ้าวน้ำเงิน หรือ เงินกายสิทธิ์ นี้ เป็นตำราการเล่นแร่แปรธาตุชั้นสุงของสำนักเขาอ้อ
    สร้างขึ้นในคราวเดียวกันกับการสร้างวัตถุมงคลเนื้อทองมหาสัตตโลหะ
    ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้ ไม่มีใครได้สร้างอีกแล้ว

    องค์นี้เป็นพิมพ์พระชัยวัฒน์ สภาพเดิมๆ จากช่อ ยังไม่ได้ขัดแต่ง
    สภาพสวยมาก จำนวนสร้างน้อยมากหลักสิบองค์
    ยิ่งสภาพที่มีก้านช่อติดอยู่เรียกได้ว่า มีแค่หนึ่งเดียวจริงๆ
    กระแสเนื้อเงินเป็นประกายเป็นเกล็ดแวววาว

    ให้บูชา 12,000-



    <O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2010
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...