รวบรวมข้อมูลเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติ

<TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%" cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 0.75pt" vAlign=top width="100%">
สำหรับท่านที่ต้องการดาวน์โหลดหนังสือสวดมนต์ ทำกรรมฐาน ตามแบบหลวงพ่อจรัญ สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ห้องสมุดดิจิตอล <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<o></o>
เว็บไซต์พระธรรมสิงหบุราจารย์ http://www.jarun.org/v6/th/digitallibraly-book.html <o></o>

 

แนะนำหนังสือครับ

SAS Survival Guide ครับ

ผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่ดีมากๆ ถึงจะเป็นภาษาอังกฤษก็เถอะ ผมก็แปลได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่มันก็มีภาพประกอบชัดเจน ดีครับ

หนังสือการเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆเล่มนี้ ได้สอนการเอาตัวรอดต่างๆ ที่มาจาก ทหาร หน่วย SAS (Special Air Service) ของกองทัพอังกฤษครับ

ราคา 270 บาท แต่คุ้มมาก ครอบคลุม จริงๆ ซื้อได้ที่ ร้าน Kinokuniya ที่สยามพาราก้อน อยู่แถวๆ หมวดสิ่งแวดล้อม ภาวะโลกร้อน ครับ

ขอยกตัวอย่าง เนื้อหาบางส่วนครับ เช่น

- การจัดเตรียมอุปกรณ์ survival
- การเอาตัวรอดในสภาวะต่างๆ เช่น ในเรื่องของอากาศ หรือ พื้นที่ในแต่ละแหล่ง
- เกี่ยวกับอาหาร การหาอาหาร ที่มาจากพืช หรือสัตว์
- การทำที่พักอาศัย หรือ การตั้งแคมป์ การจุดไฟ การทำอาหาร
- การตัดสินใจในสภาวะฉุกเฉิน
- การเอาตัวรอดในทะเล
- การช่วยเหลือ และขอความช่วยเหลือ สัญญาณต่างๆ เช่น สัญญาณมือ สัญญาณไฟ SOS
- การปฐมพยาบาล สุขภาพอนามัยต่างๆ
- ภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก

 

มีผ้าห่มฉุกเฉิน หรือ ผ้าห่มอลูมิเนียม ขายอยู่ที่ร้านไดโซะ สาขาฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เห็นมีอยู่ 8 ผืน แถวๆ หมวด สุขภาพอนามัย ครับ

​

 

การเลือกซื้ออุปกรณ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่จำเป็นจริงๆ และต้องคำนึงถึงคุณภาพมากๆ

ผมเป็นคนหนึ่งที่จะซื้อของที่มีคุณภาพ มีไว้แล้วอุ่นใจ ไม่เกิดเสียกลางคันขึ้นมา แต่ก็ต้องดูแลรักษาเป็นด้วย

มีเรื่องมาเล่านิดหน่อยครับ

พ่อและแม่ ของผมจะไปเที่ยวญี่ปุ่นประมาณ 10 วัน

ผมคิดว่าการเดินทางที่จำเป็นที่สุดคือ "ไฟฉาย"

ผมทราบว่า พ่อ กับ แม่ ซื้อไฟฉายจีน ที่ขายตามคลองถม มาใช้ ราคาไม่ถึง "ร้อยบาท"

พอดีผม มีไฟฉาย ยี่ห้อ Fenix รุ่น LD10 ประจำการไว้ 1 กระบอก ราคา 1,800 บาท เรียกได้ว่า คุณภาพดี เล็ก เบา ทน

วันหนึ่ง ผมก็คุย พ่อกับแม่ เรื่องไฟฉาย ถามท่านว่า "มีไฟฉายหรือยัง" ท่านก็บอกว่า "มีแล้ว" พร้อมเอามาโชว์อีกด้วย

แม่ผมก็เอาไฟฉายมาให้ดู เปิดให้ดูอีกต่างหาก ปรากฏว่า ติดๆ ดับๆ บางทีเปิดไม่ติด ซึ่งการใช้งานต้อง กดสวิตหนักๆ ถึงจะติด

ผมก็เลยเอาไฟฉายผมให้ไป แลกกับของแม่ แล้วพ่อผมก็ถามว่า "ราคาเท่าไหร่" ผมบอก "800 บาท" พ่อบ่นพึมพำนิดหน่อย ผมกำลังคิดว่าถ้าบอกซื้อ 1,800 คงจะโดนด่าแน่นอน (แต่ยอมถูกบ่น เพื่อความสบายใจ)

ผมก็บอกว่า "ซื้อแล้วใช้นาน ไม่ต้องซื้อบ่อยๆ แล้วสบายใจด้วย"

ผมก็เอาไฟฉายของแม่มาใช้ ทุกวันนี้ บางครั้ง ก็ติดๆ ดับๆ บางครั้งก็ไม่ติด บางครั้งก็ต้องเอาไปกระแทกสักหน่อยถึงติด

นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งว่า บางครั้งทำไมต้องเลือกซื้อของดีๆ (บ้าง) เพราะมันจำเป็นและอุ่นใจครับ

​

ปล. หากท่านสนใจที่จะซื้อ ไฟฉาย Fenix รุ่น LD10 (ใช้ถ่าน AA 1 ก้อน) นะครับ อดใจรออีกนิด รอรุ่นใหม่ ปี 2010 ดีกว่า เห็นว่าจะมี option ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา (เพราะผมก็รออยู่)

 

พูดถึงไฟฉาย ไฟฉายที่ผมพกในกระเป๋าเล็กใช้ตัวนี้ครับ

iTP A3 EOS เล็กและสว่างดี เป็นไฟฉายฉุกเฉินได้ ที่สำคัญคือใช้ถ่าน AAA หนึ่ง ก้อน ซึ่งเป็นถ่านขนาดเดียวกันกับชุดอุปกรณ์ที่เตรียมไว้ ทำให้สะดวกในการสำรองถ่าน
(จากเวบ trekkingthai )




ในกระเป๋าเล็กจะมีติดคุ๊กกี้ซองเล็กไว้เก็บได้ไม่นานเหมือนกัน ทานซะก่อน

 

ของผมไฟฉาย POLICE สีเงิน ถ่าน 3 A (จีนแดง) คลองถม ใช้มานานตกบ่อย อึดทนทานลุยมาหลายทริป ตอนแรกคิดใช้ได้ไม่นานก็คงพัง แต่นี่เป็นปีแล้ว ไปซื้อแถวคลองถม บางครั้งฟลุ๊คได้ของดี ก่อนหน้านี้พังไป 2 -3 กระบอก

 

ที่ผมพกตัวนี้ครับ

ขออนุญาตลอกการบ้านจากเวบเพื่อนบ้านที่ทำรีวิวไว้ครับ

น้าตาประมาณนี้


เสปคของมัันก็..ขอดูโพยก่อนนะครับ อืมม..โอเค
- หลอด CREE 7090 XR-E P4
- เลนส์ Sapphire Crystal
- ใช้ถ่าน AA (..ไม่ใช่ Double A นะครับ นั่นมันกระดาษ..)
- ให้แสงสูงสุด 150 Lumens ถ้าใส่ถ่าน 14500 (Lithium ที่ขนาดเท่ากับถ่าน AA ปกติ)
- โคมผิวไม่เรียบ (..ผิวส้ม..)
- ผิวกระบอกเคลือบแข็ง HA III ประมาณว่าเอามีดกรีดไม่เป็นรอย
- สวิตช์กดท้าย


โหมดการเล่นเริ่มจาก..เปิดครั้งแรกจะเป็นโหมดปกติก่อนครับ
พอกดเบาๆ ตรงท้ายจะเปลี่ยนเป็นเบาสุด แล้วก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามนี้ครับ
ปกติ -> เบาสุด -> แรงสุด -> แสงกลางๆ -> สโตบ (..กะพริบ..) -> สแตนด์บาย

สามารถเข้าโหมดพิเศษที่ไล่แสงสว่างได้...ดังนี้ครับ
แสง100% -> สโตบเร็ว (..กะพริบ..) -> 5 -> 10 -> 20 -> 30 -> 40
-> 50 -> 60 -> 70 -> 80 -> 90 -> สโตบช้า (..กะพริบ..)
-> SOS แรง -> SOS เบา -> สแตนด์บาย -> 100% วนไปเรื่อยๆ ครับ

สิ่งที่แถมมาก็จะมี โอริง สวิตช์สำรองสีแดง เหลือง ดำ ส้ม
ผมใช้สีส้มครับ (..ทำไมไม่มีสีน้ำเงินฟะ ..)
สายคล้อง ซองใส่ และคู่มือการใช้

ข้อดี
ตามประสาคนไม่เคยมีไฟฉายดีๆ และต้องการซื้อไฟฉายแบบครั้งเดียวจบ ถ่านหาง่ายใช้
ผลการเล่นเป็นที่น่าภูมิใจครับ เล่นมันทุกวันเลย พกพาง่าย สว่างมองเห็นอะไรชัดเจน

ข้อเสีย
- ด้ามจับไม่ค่อยถนัดนัก ต้งสร้างความเคยชิน
- ผิวที่เขาบอกว่าแข็งๆ มีดกรีดไม่เข้าน่ะ จริงครับ แต่ถ้าตกพื้นก็อีกเรืื่องนึง...

- ตอนนี้ผมเปิดไฟได้แต่โหมดปกติ โหมดพิเศษเข้าไม่ได้ซักที
ใช้มาแรกๆ ทำได้ แต่ตอนนี้ไม่แล้วครับ ใครทราบบอกด้วยครับ
- สายคล้องไม่ทนเลยครับ ขาดแล้ว ตอนนี้ก็เอาเชือกคล้องไว้กันหลุดเฉยๆ ถักสวยๆ ไม่เป็น

ข้อสังเกต
- เวลาถ่านใกล้หมด เวลาเปิดใช้ มันจะดื้อๆ หน่อยครับ คือมีอาการไฟตก ไฟกะพริบ
- ในอนาคตจะมีตัวเสริม ให้ใส่ถ่าน AA ได้อีกเป็น 2 ก้อน ผมจะรอครับ

ประมาณนี้ละครับไฟฉาย Dexlight รุ่น X1 ท่านใดมีข้อมูลเสริมอีกเชิญเลยครับ

 

จุ่นน้ำ เอามีดกรีด เอารถทับ ไม่เป็นไร



<!-- PICTURE GALLERY --> <table id="_ctl0_content_listGallery" cepostllpadding="3" style="width: 100%; border-collapse: collapse;" border="0" cellspacing="0"><tbody><tr> <td> </td><td> </td> </tr><tr> <td> </td><td> </td> </tr><tr> <td> </td><td> </td> </tr><tr> <td> </td><td> </td> </tr><tr> <td> </td><td> </td> </tr><tr> <td> </td><td> </td> </tr><tr> <td> </td><td> </td> </tr><tr> <td> </td><td> </td> </tr><tr> <td> </td><td> </td> </tr><tr> <td> </td><td> </td> </tr><tr> <td> </td><td> </td> </tr><tr> <td> </td><td> </td> </tr><tr> <td> </td><td> </td> </tr><tr> <td> </td><td> </td> </tr><tr> <td> </td><td> </td> </tr><tr> <td> </td><td> </td> </tr><tr> <td> </td><td> </td> </tr><tr> <td> </td><td>
</td></tr></tbody></table>

 

มีโอกาสได้ไปดูหนังสือ SAS survival handbook ที่สยามพารากอน แวะบูท karana เห็นมี
หลอดกรองน้ำฉุกเฉิน lifestraw ขายด้วยครับ เคยเห็นว่าคุณก้องลงไปแล้ว ขอลงซ้ำอีกที
เผื่อมีคนยังไม่ทราบ เมื่อก่อนเห็นมีกระทู้ถามหากันฝากซื้อจากต่างประเทศ
สามารถกรองน้ำสะอาดได้ตามเสปค 700 ลิตร ราคา 790 บาท




อีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจ คือ หลอดพลาสกติกแข็งกันน้ำแบบตกไม่แตก เห็นในต่างประเทศตัวคล้ายๆกัน
ทดสอบให้รถเหยียบผ่านด้วย มีแบบทึบกับใส ขนาด สั้น,กลาง,ยาว ราคาเท่ากัน 120 บาท แต่ไม่ทราบจะเป็นรอยง่ายไหม
ถ้าใครคิดว่าใช้ประโยชน์ได้ก็น่าสนใจ

 

เห็นที่ร้าน คาราน่า อยู่เหมือนกันครับ แต่ไม่ได้ไปเอาซะที

 

search ไปเจอข้อมูลดี ๆ เลยเอามาลงให้ดูเล่นๆ เผื่อได้ไอเดีย ปิ๊งๆ หวังว่าคงไม่ซ้ำนะครับ

10 Innovative Camping Products

1. The Bikamper:

A revolutionary idea for mountain bikers who want to cut the stress of weekend missions in the wilds, Topeak’s Bikamper is a cyclist’s take on the caravan. Made of light waterproof nylon, the tent uses the bike frame and front wheel as tent pegs, which makes for lighter work.
With two ventilation windows that double as a skylight for staring at the stars at night and a waterproof fly, the design is both functional and aesthetic. A solo traveler’s dream, despite the question which no-one has answered. What happens to the tent when you want to go for a cycle?
[ via: Topeak ]

​

2. SELK’BAG:

The astronauts were onto something when they invented puffy suits to keep the extra-terrestrial elements at bay.While Selk’bag doesn’t come with oxygen and technological bleepers, it does provide all-in-one comfort and a warm solution to braving the elements when Nature calls at night.
Padded and shaped to the human form, this tent-cum-body bag can withstand negative temperatures and has layered inserts which act as a mattress on hard ground. Ties and adjustment belts allow for free movement and protection from the elements at the same time.
[ via: musuchouse ]

​

3. Cocoon:

Modeled on a bird’s nest, this top-of-the-range cross between a tent and sleeping bag is an ingenious invention for those who love the outdoors but don’t like the bugs that crawl on the ground.
Hung from a tree or any other tall structure that crops up in the wild, the cocoon provides comfort and pleasure in the open air at the same time.
[ via: Dre Wapenaar ]

​

4. Solar Powered Tent:

Designer camping for campers who like their creature comforts, this trendy camping tent comes with solar panel and integrated, interior LED lights. Charged by a solar panel placed on top of the tent, the tent offers 2-4 hours of light for every 4-6 hours of direct light entering through the PVC window at the top of the fly.
The solar panels can also be used to charge batteries independently, but there’s room for improvement in the tent material which is petroleum-based. [ via: Canadian Tire ]

​

5. Mountain Hardware Stronghold Camping Tent:

Geared for intrepid high-adventure travelers, this igloo-shaped is made of tough stuff. Made for Arctic and Himalaya expeditions, the tent is a mountain luxury and comes with two doors,a roof vent for stargazing, and five windows for cross ventilation and outdoor views.
Available in a light and extra-layered version, the tent has enough room for 10 people, who might have to take turns carrying the 50-pound pack.
[ via: EverestGear ]

​

6. Symbium3 Quechua backpack:

Not unlike the shell of a snail, this mega Symbium3 Quechua backpack with aluminium support can carry everything but the kitchen sink and not put stress on your back.
Fitted with an AirCool ventilation system on the back, the backpack gives plenty of freedom to move and breathe. A height-adjustable back section and elastic components enhance flexibility and create heaps of space to carry water, food, camera, clothes and hiking gear. [ via: Decathlon ]

​

7. Respite:

A cross between a hammock and a tent, this innovative invention is the most laidback camping solution. A hammock by day, the Respite doubles up as a tent at night.
All you have to do is pull down four zippers and it metamorphises into a tent on the ground. Perfect stargazing if you get claustrophoic at night.
[ via: thisnext ]

​

8. Pocket shower:

No need to worry about scouting campsites for hot showers with this nifty little invention. Powered by solar heat, all you are required to do is fill the black bag, which folds up into a pocket-sized bag, with upto10 litres of water, hang from a tree and turn the tap on. The black material absorbs sunlight andgives you more than enough water for a hot shower.
[ via: Sea To Summit ]

​

9. Coleman Rendezvous Stove:

An upmarket take on the rustic gas burner, the Coleman Rendezvous two-burner stove is a boon for budding Floyds who like experimental cooking in the wilds.
The ultimate mod con for the city dweller who likes quality time in the outdoors, this sophisticated cooking device could have you throwing dinner parties in the campsite. [ via: Coleman ]

​

10. DirecTV’s SatGo:

There’s nothing quite like getting away from technological interference to really soothe the nerves, but softcore travelers tend to like a small does of outside news, or soapies, very now and then. While cable TV is not an option once you’re out of suburbia, satellite TV is, and DirecTV’s SatGo is all the rage.
Not only does it fold into a neat little suitcase which packs into your car easily, but its surface is easy to clean and doubles up as a tray or working surface in emergency situations. [ via: directv ]

​

 

ตอนนี้มีแท่งเรืองแสง ยี่ห้อ Snap Light (Made in USA) ขายอยู่ที่ร้าน Kitcamp

หมดอายุ 2013-2014 เห็นมีอยู่หลายแท่งครับ

ราคา 80 บาทเท่านั้นเอง ราคานี้ถือว่าถูกมาก สำหรับของทำจาก USA ครับ

เห็นมีสีขาว น้ำเงิน แดง ส้ม

รีบหน่อย ก่อนหมดครับ

 

มาเยี่ยม
ร้านค้าพระเครื่อง ออนไลน์ - พุทธาคุณคุ้มเกล้า - 1
<o> </o>
ร้านค้าพระเครื่อง ออนไลน์ - พระเครื่องมณีเลิศ - 1

 

<TABLE style="BORDER-RIGHT: 2px double; PADDING-RIGHT: 5px; BORDER-TOP: 2px double; PADDING-LEFT: 5px; FONT-SIZE: 10pt; PADDING-BOTTOM: 5px; BORDER-LEFT: 2px double; PADDING-TOP: 5px; BORDER-BOTTOM: 2px double; FONT-FAMILY: MS Sans Serif" height=987 cellSpacing=5 cellPadding=5 width=700 border=0><TBODY><TR><TD height=846>ภูมิความรู้ที่โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเองเคยแนะนำไว้ตั้งแต่ปี 2525 (ปัจจุบันคือมูลนิธิสุขภาพไทย) เรื่องการรักษาแผลเรื้อรังแผลมีหนอง ด้วยการ ใช้น้ำเชื่อม
น้ำเชื่อมรักษาแผลไม่ใช่แค่ความเชื่อ แต่ระดับอาจารย์หมอเกษียร ภังคานนท์ สมัยอยู่โรงพยาบาลศิริราช และครูพยาบาลคุณวรนุช เกียรติพงษ์ภาวร ได้ทำ การทดลองไว้เมื่อ 20 ปีก่อน ซึ่งได้ผลสรุปชัดเจนว่า น้ำเชื่อมใช้รักษาแผลเรื้อรัง แผลมีหนองได้ชะงัดนัก
อาจจะคุยได้ด้วยว่าดีกว่ายาอื่นๆ ในท้องตลาดด้วยซ้ำ หรือจะเรียกว่ายาแห่งอุดมคติของสามัญชนเลยก็ได้ เพราะ
น้ำเชื่อมสามารถจัดการเชื้อโรคได้เรียบวุธ
เรียกเนื้อได้เร็ว ทำให้แผลหายเร็ว
ไม่ระคายเคืองแผล ไม่มีพิษ
ทาแล้วเย็นสบาย (หายาทาแผลแบบนี้ได้ยาก) เวลาเปลี่ยนยาก็ง่าย
ราคาถูก ทำเองได้
ความรู้ที่ทดลองในโรงเรียนแพทย์เช่น ศิริราชนี้ ยังแพร่กระจายไปสู่หมอที่อยู่ตามหัวเมือง ที่มีความสนอกสนใจในภูมิความรู้สมุนไพรและการเรียนรู้เพื่อ การพึ่งตนเอง เช่น สมัยที่ นายแพทย์ธารา อ่อนชมจันทร์ ยังมีชีวิตอยู่และเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลป่าแดด จ.เชียงราย ท่านก็ใช้น้ำเชื่อมรักษาแผลให้คนไข้ในโรง พยาบาลเป็นประจำ
เจ้าหน้าที่ในมูลนิธิฯ เองก็เคยใช้กับตนเองหรือคนในครอบครัว เช่น ภรรยาของเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งหกล้ม สันหน้าแข้งไปชนแง่งหินเข้าจังเบ้อเร่อเป็น แผลลึกอยู่เหมือนกัน เธอเชื่อมั่นในผ้ายาปิดแผลยี่ห้อหนึ่งซึ่งถือว่าดีที่สุด ดังที่สุด หมอนิยมใช้กันมากที่สุด และก็แพงที่สุดด้วยแต่อย่าให้เอ่ยชื่อเลยเธอรักษาแผลอย่าง ละเอียดปราณีต ผ้าก๊อซต้องใช้ชนิดที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว และระวังไม่ให้แผลถูกน้ำเลย
เวลาผ่านไป 3 วัน เธอก็เอาแผลมาอวดผมว่าเห็นไหมแผลมันดีขึ้น ผมเห็นแล้วก็นิ่งเฉยเสีย ไม่อยากพูดให้เธอเสียกำลังใจ เพราะแผลมันยุบบวมลงจากเดิม เท่านั้น แต่ก็ยังบวมอยู่ เวลาผ่านไป 7 วัน เธอก็ท้อใจเพราะแผลยังมีหนอง มีน้ำเหลืองไหล ขอบแผลยังมีน้ำเหลืองบวมแดง ไม่มีทีท่าหายเลย ทั้งๆ ที่ประคบประหงม ตลอดเวลา
ผมเห็นได้ทีก็เลยเริ่มเกลี้ยกล่อม โดยตอนแรกต้องแสดงภูมิรู้ก่อนว่า แผลที่สันหน้าแข้งนี้มันหายยาก เพราะมีเลือดไปเลี้ยงน้อยเนื่องจากบริเวณนั้นมีเนื้อน้อย มีแต่หนังหุ้มกระดูก การที่ผ้ายาปิดแผลยี่ห้อดังของเธอนั้นใช้ไม่ได้ผล ก็เพราะแผลเธอนั้นลึกอยู่ไม่เบา ตัวยาในผ้ายามันเข้าไม่ถึง จัดการเชื้อโรคไม่ได้ มันจึงมีหนอง มีน้ำเหลืองไหล ต้องเอาหนองออกให้หมดก่อน และไม่มีอะไรที่จะเอาหนองออกได้ดีกว่าน้ำเชื่อม ในที่สุดเธอก็ยอม ไม่ใช่เพราะเชื่อผมหรอก แต่เป็นเพราะไม่มีทาง เลือกอย่างอื่นแล้ว
ผมจัดการทำน้ำเชื่อมรักษาแผลให้ เริ่มรักษาตอนเที่ยง ตกดึกแผลแห้งแล้วไม่มีน้ำเหลืองแล้วมีหนองอยู่นิดหน่อย ตกบ่ายของวันรุ่งขึ้นหนองไม่มีแล้ว วันรุ่ง ขึ้นอีกวันแผลก็แห้งสนิทตกสะเก็ดไม่ต้องกลัวติดเชื้อแล้วแผลถูกน้ำได้สบายมากใช้เวลาแค่ 2วันครึ่งเองแผลก็อยู่ในระยะที่ปลอดภัยไร้กังวล ภรรยาผมรู้สึกอัศจรรย์ มาก ไม่เคยคิดเลยว่าน้ำเชื่อมจะดีอย่างนี้ ที่แล้วๆ มาเธอเห็นว่าผมโม้เกินไป อันที่จริงก็น่าเชื่อยากอยู่เหมือนกัน เพราะเป็นเรื่องแปลกใหม่ ซ้ำยังไม่มีการโฆษณา
ส่วนวิธีการทำน้ำเชื่อมนั้นก็ไม่ยากเพียงแต่ตวงน้ำตาล 5 ส่วนกับน้ำ 2 ส่วนเต็มไม่ขาดไม่เกินเช่นกัน สัดส่วนนี้พอดีเป๊ะ ผสมกันแล้วเอาไปตั้งไฟ ระวังอย่าใช้ไฟแรงไปจะทำให้น้ำตาลไหม้ เมื่อยาเดือดแล้วหรี่ไฟลง ให้ยาเดือดอ่อนๆ 1-2 นาทีก็ยกลง จะได้น้ำเชื่อมเข้มข้นเก็บไว้รักษาแผลได้ น้ำยานี้เก็บได้นานโดยไม่ขึ้นรา
เรื่องน้ำเชื่อมรักษาแผลนี้ พวกเราจะรู้ไม่ได้เลยถ้าอาจารย์ประเวศ วะสี ไม่เฉลียวใจก่อนว่าในเมื่อน้ำผึ้งใช้รักษาแผลได้ น้ำเชื่อมก็น่าจะรักษาได้ และพอทดลองดูก็พบสิ่งที่เฉลียวใจนี้เป็นจริงเหตุการณ์ทำนองนี้นานๆ จะมีสักครั้ง ยิ่งการค้นพบว่าสมุนไพรง่ายๆ นี้ ใช้ได้ผลดีกว่ายาฝรั่งราคาแพงก็ยิ่งยากจะเกิดขึ้น ความรู้เรื่องน้ำเชื่อมรักษาแผลที่มีค่านี้ จึงควรเผยแพร่บอกกันต่อๆ ไป ส่งเสริมให้มีการใช้อย่างจริงจัง ท่านใดมีเคล็ดลับหรือเทคนิคในการใช้น้ำเชื่อมรักษาแผลที่ดีกว่านี้ว่านกรุณาสละเวลาเขียนบอกเป็นวิทยาทานด้วย เพื่อที่มูลนิธิสุขภาพไทยจะได้เผยแพร่ให้รู้ทั่วกัน
</TD></TR><TR><TD align=middle bgColor=#ffcc66>แหล่งข้อมูล : มูลนิธิสุขภาพไทย</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ณ ก็เคยอ่านเรื่องน้ำเชื่อมรักษาแผลเรื้อรังได้
จากหนังสือหมอชาวบ้าน มาราวเกือบ 10 ปีแล้วค่ะ
และที่เด็ดสุดคือ แม้น้ำเชื่อมจะหวานมาก
แต่เมื่อนำมาใส่แผล ไม่มีคุณมดตามมากวนค่ะ
รับรองว่าไม่ต้องวิ่งหนีมด

 

จากการทดลองใช้ "ลูกเกด" เป็นอาหารฉุกเฉิน ตามความเห็นของคุณคณานันท์

ผมคิดว่า ดีมากๆ เลยครับ ตอนนี้ ผมก็เปลี่ยนเป็นลูกเกด ไว้พกพาแล้วครับ

นอกจากมันให้พลังงาน (คาร์โบไฮเดรตสูง) แล้ว มันยังช่วยให้ ไม่ให้เรากระหายน้ำ ครับ กินแล้วชุ่มคอ ดีครับ

และมันเก็บไว้ได้นาน กว่าช๊อกโกแล็ต ครับ

 

ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น

ขอโทษนะคะ คือว่าคุณ kananun หนูขอเข้ากลุ่มด้วยได้มั้ยคะ คือหนูอยากเข้ากลุ่มด้วย แล้วไม่ทราบว่าพี่มีที่หลบภัยที่ไหนบ้างคะ พอที่จะให้หนูหลบภัยด้วยได้มั้ยคะ

 

สนุกแน่ละทีนี้ หึหึ

 

เป็นไปได้ที่คนใส่ใจเรื่องภัยพิบัติมากขึ้น....

วันนี้ไปเดินคลองถม เดินหาพลุฉุกเฉิน ที่ผมเคยแจ้งข่าว ไปครับ

ตอนนี้ ร่อยหรอมาก เห็นบอกว่า จะไม่มีเข้ามาอีก และล๊อตที่หมดอายุ 2011 ก็หาแทบไม่ได้ ผมก็ยืนค้นอยู่ตั้งนาน กว่าจะได้ ของปี 2011 มา 1 อัน กับ ของ 2010 สิ้นปี มา 2 อัน กะว่าจะลองหาที่อื่นๆ ดูบ้างครับ เผื่อจะมี ถ้าทราบ จะมาแจ้งข่าวอีกที

นอกจากนี้ DVD เรื่อง The Day after tomorrow เผอิญไปเดินหาในเซ็นทรัลลาดพร้าว แทบหมดเกลี้ยง หลายร้าน(เฉพาะราคาถูก) แบบกล่องเหล็กแพงไปหน่อย แต่มีน้อย ครับ

เข้าไปร้านหนึ่ง เจอคนๆหนึ่ง หาเรื่องนี้เหมือนกัน พนักงานก็บอกว่าหมด แถมเค้ายังหาอย่างเรื่อง Deep impact กับ Armargeddon เสียอีก แสดงว่า คนน่าจะใส่ใจมากขึ้นจริงๆ ครับ

จริงๆ อย่างหนึ่งเรื่อง The Day after Tomorrow ผมจะซื้อหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้ซื้อสักที กลัวเสียดายตังค์ เจอคราวนี้เหลือน้อย ก็เลยรีบซื้อเลย กลัวหมด หาไม่ได้

ผมกำลังบอกว่า บางทีตอนนี้ กำลังเจอของดีๆ น่าจะซื้อเก็บไว้ หลายๆอย่าง ผมเคยเจอบ่อยๆ แต่ไม่ได้ซื้อเก็บไว้ พอมันไม่มี และต้องการ มันก็หาไม่ได้จริงๆ ครับ

 

หนังแนวนี้ผมก็พยายามเก็บในฮาร์ดดิสส์เอาไว้ดูเผื่อเป็นไอเดียให้เราได้ใช้ในยามเกิดเหตุการณ์นั้นบ้างครับ

อย่างเรื่องเดอะเดย์อาฟเตอร์ ดูเมื่อ 5 ปีก่อน เห็นฉากหิมะตกในอินเดีย แล้วไปหัวเราะเขา
ว่าหนังมันโม้ไปหน่อย

แต่กลายเป็นว่า ปีสองปีมานี้ มันเกิดแล้วจริงๆ

หิมะตกในอินเดีย หิมะตกในเคนยาแอฟริกา

และภูมิอากาศแปรปรวนสุดๆ อากาศหนาว ลบสี่สิบองศาในหลายประเทศ

ดังนั้น อาจต้องทบทวนอุปกรณ์และเช็คคลังแสงกันด้วยครับว่าเอาอยู่ไหม

หรือจะประยุกต์อะไรให้เกิดประโยชน์ได้ในยาม เกิดภัยพิบัติที่ไม่อาจคาดเดาได้