ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

เล่นกันได้ แต่ขอให้อยู่ในความพอดีค่ะ เพราะว่ามีหลายคนเข้ามาอ่านกระทู้ ไม่อยากให้เกิดความรู้สึกไม่ดีต่อกันค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

การส่งข้อความ หรือ PM ครับ

ผมทำเป็นภาพทีละขั้นให้ครับ
ผมเสนอแบบวิธีที่ทำได้ทุกคนครับ วิธีอ่านบางครั้งเครื่องนั้นหรือใช้โปรแกรมดูเว็บที่ไม่รองรับการใช้งาน JavaScript มันจะใช้งานไม่ได้ครับ

1. Copy ชื่อผู้ที่เราต้องการจะส่ง PM ครับ ถ้าจำชื่อได้ก็ไม่ต้องครับ
2. เลือกเมนู แผงควบคุมส่วนตัว อยู่ด้านบนครับ (ต้อง Login เข้าระบบก่อนนะครับ จึงจะมีเมนูนี้ขึ้น)
3. เลือกเมนู ส่งข้อความใหม่ อยู่ด้านซ้ายตรงกลางหน้าเว็บครับ
4. ใส่ชื่อผู้รับข้อความ หัวข้อ และเนื้อหา และกดปุ่ม Send Message ครับ

 

เห็นวันที่โพสแล้วไม่แน่ใจว่าไปวันเดียวกันรึป่าว? เพราะผมก็ไปวัดท่าซุงมาเมื่อวันที่ 15 พย. (วันอาทิตย์) ที่ผ่านมานี้แหละครับ (แต่ไม่มีเวลามาโพสต์เพราะกลับมาก็งานรอบานเลย 555) ไปตั้งแต่วิหารแก้วเริ่มเปิดเลย ในนั้นมีตู้อะไรให้ทำบุญ หรืออะไรให้ถวายผมทำหมดทุกรายการเลย ว่างๆ จะเอารูปถ่ายมาให้ดูบ้างครับเพราะถ่ายรูปมาเยอะเหมือนกัน รู้สึกว่าวัดท่าซุงนี่สวยดีจังเลยครับ

 

โมทนาสาธุค่ะ อยากไปมากๆเลยค่ะ ยังไม่มีโอกาส ได้ไปเลย

 

เห็นเงียบๆขอเล่าเรื่องไปเที่ยววัดหน่อยนะครับ

เริ่มจากความตั้งใจว่าจะไปวัดท่าซุงให้ได้ก่อนจะบวชเดือนธันวาคมนี้ ก็เลยวางแผนว่าเอาล่ะงานการขอทิ้งงานซัก 3-4 วันเถอะอยากไปหาหลวงพ่อท่านมาก โดยกำหนดวันเป็น 14-15 พย. ที่ผ่านมานี่แหละครับ

โดยกะว่าแวะไปเรื่อยๆ โดยเริ่มที่อยุธยา วัดแรก วัดพนัญเชิงวรวิหารไปไหว้หลวงพ่อโตกัน พอเข้าไปในวัดเห็นองค์หลวงพ่อเข้า โอ้โหใหญ่อะไรขนาดนี้ สวยงามมากเลยครับ

พอดีวันที่ไปจะเห็นคนตั้งนั่งร้านไว้บังองค์พระ เราก็เอ๊ะ สงสัยมาวันที่เขาปรับปรุงพอดีเลยไม่ได้คิดอะไร แต่พอขาจะออกปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่วัดเข้ามาเอา "พระอุมาโลม" (ที่อยู่กลางหน้าผากองค์พระน่ะครับ) เขามาข้างในแล้วบอกว่าที่เอาลงมานี่เป็นรอบ 100 ปีเลยเอาทำพิธีอะไรสักอย่างเราก็เลยถือโอกาสถ่ายรูปมาเลย

พอไหว้เสร็จออกมาข้างนอกมาบูชารูปหลวงพ่อโตก็สังเกตุเห็นว่าในรูปก็ไม่มีพระอุมาโลม ก็ถือว่าโชคดีไปที่ได้มีโอกาสเห็นชัดๆ ข้างล่าง
(แต่มารู้ทีหลังว่าในวันนั้นเองช่วงเย็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชมาทำพิธีเกี่ยวกับพระอุมาโลมนี่แหละ รู้จากข่าว)

 

ยังอยู่ในวัดพนัญเชิงกันต่อนะครับ

รอบๆองค์หลวงพ่อโตก็มีพระพุทธรูปอยู่โดยรอบครับ

แถมรอบๆฝาผนังก็เป็นช่องน้อยๆ เราก็นึกว่าเป็นช่องอะไร พอสังเกตุดูปรากฏว่าเป็นพระพุทธรูปองค์น้อยๆ เต็มพรืดไปหมดเลยครับ

เอารูปถ่ายประวัติวัดมาให้อ่านด้วยครับ และ ก็ตามระเบียบทำบุญใส่ตู้บริจาค โดยมากผมไปวัดไหนก็ตามจะเน้นตู้ทำบุญไฟฟ้าเป็นหลัก(คงเพราะจบสายไฟฟ้ามาด้วยมั้งครับ เกี่ยวไหมเนี่ย55) และก็ตามด้วยชำระหนี้สงฆ์ครับ (ถ้ามี)

ส่วนในรูปจะเห็นมีรูปปั้นช้างตัวเล็กๆอยู่ เป็นช้างเสี่ยงทายน่ะครับ

โดยขั้นแรกให้อธิฐานถามเรื่องที่ต้องการทราบว่าจะสำเร็จรึไม่?
ถ้าสำเร็จให้ยกรูปปั้นช้างนี้ขึ้น โดยผู้ชายให้ยกด้วยนิ้วก้อย ผู้หญิงนิ้วนาง

โดยขั้นต่อมาให้ทำเหมือนขั้นแรกแต่เปลี่ยนเป็นถ้าสำเร็จขอให้ยกไม่ขึ้นแทน

ถ้าทำแล้วเป็นตามขั้นตอนข้างบนก็แสดงว่าสำเร็จ

555 อันนี้ผมก็อธิฐานถามแล้วทำตามก็แปลกนะครับถามครั้งแรกยกขึ้น พอถามอีกครั้งก็ยกไม่ขึ้นจริงๆ แสดงว่าสำเร็จ

แต่ของแฟนตรงข้ามกับผมแสดงว่าไม่สำเร็จ

ต้องปลอบไปว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของกำลังแขนและจิตวิทยาด้วย อันนี้เพราะผมเข้าใจว่า รอบแรกยกขึ้นเพราะกำลังแขนเรายังพอ พอรอบสองหมดแรงเลยยกไม่ขึ้น แต่ของแฟนรอบแรกยกไม่ขึ้น แขนยังไม่ใช้แรง พออีกรอบยกขึ้นแทน

 

ขอโม้ต่อนะครับ

จากนั้นก็ออกจากวัดพนัญเชิง มายังวัดใหญ่ชัยมงคล

โดยวัดนี้อยู่ใกล้ๆ กับ วัดพนัญเชิงเลยครับ โดยเป็นวัดที่มีศาสนสถานที่เก่าแก่ถือเป็นจุดท่องเที่ยวหลักเหมือนกันครับ

เข้าไปปุ๊บก็ไหว้พระนอนกันก่อนเลยครับ จากนั้นก็เดินเลยไปหน่อยจะพบโบสถ์เก่าเห็นคนไหว้พระกันเยอะมาก ด้วยอากาสที่ร้อนมากบวกกับต้องทำเวลาเลยไหว้จากข้างนอกแทน

แต่บริเวณดังกล่าวก็เป็นจุดทำบุญด้วย เลยทำบุญถวายกระเบื้องเผื่อวิมานจะขึ้นบนพระนิพพานกับเขาบ้าง 555 เห็นพี่ Me,my self บอกว่ามีไม่กี่คน และก็ตามระเบียบครับทำบุญไฟฟ้ากับน้ำด้วย

จากนั้นเดินอ้อมไปด้านหลังโบสถ์เก่าก็เป็นเจดีย์เก่าหน่อยเขาให้ขึ้นด้วย เลยขึ้นไปถ่ายรูปซะ ท่าทางวิวจะสวย

โดยรอบๆองค์เจดีย์ก็เต็มไปด้วยพระพุทธรูปครับ ชมภาพเอาล่ะกันครับ ถ่ายจากมุมบนหลังจากผมขึ้นไปบนเจดีย์นั้นแหละครับ

 

ก่อนออกจากวัดก็หาทำทานซะหน่อย หันไปเห็นขนมปังให้ปลาก็เลยซื้อมาซะ1แถว แต่พอเดินไปเห็นบริเวณที่เขาให้กันปรากฏว่าปลาน้อยครับ ขนมปังลอยเต็มเลย

แฟนเลยบอกว่าลองเอาไปโยนให้นกกินเล่นดีกว่า ตอนแรกที่ให้มีอยู่ 2-3ตัวแต่พอเริ่มให้โอ้แม่เจ้าเว้ย มากันเต็มไปหมด ขำตรงมีห่านอยู่ตัวหนึ่งมันเดินเข้ามากินด้วย แต่ระหว่างเดินมามันบ่นอะไรก็ไม่รู้ภาษาห่าน คงบอกขอกินด้วยๆ
(กลายเป็นว่ามีคนมารุมยืนดูเราให้อาหารนกแทนซะงั้น)

จากนั้นก็ออกเดินทางออกจากวัดเพื่อออกจากอยุธยาเลย จุดหมายต่อไปวัดอัมพวัน สิงห์บุรี ไปไหว้หลวงพ่อจรัญครับผม

 

จากนั้นก็มาถึงสิงห์บุรี เร็วกว่าที่คิด เพราะเมื่อก่อนนั่งรถโดยสารมารู้สึกว่ามันนานจัง แต่ขับรถมาเองถึงเร็วแฮะ

ทางเข้าวัดยังเหมือนเดิมครับ แต่ตรงบริเวณหน้าวัดเลย(ตรงด้านซ้ายมือขององค์ช้างที่ตั้งอยู่หน้าวัดน่ะครับ) มีการปรับปรุงไปเยอะมาก กลายเป็นลานเหมือนขายของฝากไปแล้วครับ เข้าไปเลยงง เพราะเป็นคนที่มาปฏิบัติกรรมฐานที่วัดนี้บ่อยๆ ตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ช่วงทำงานแล้วแทบไม่ได้มา

เข้าไปก็ตรงไปที่กุฏิท่านก่อนเลย มาถึงสักประมาณ 13.00 แต่เขาบอกว่าท่านจะลงรับแขกตอน 14.00 เลยรอซะเลยอยากทำบุญกับท่านด้วย จนท่านออกมาก็ทำบุญกับท่านสมใจอยาก

โดยระหว่างรอก็เป็นช่วงเวลาที่เขาทำกรรมฐานพอดีเลยถ่ายรูปมาชมซะด้วย รำลึกความหลังว่าเราก็เคยมาทำบ้อย~บ่อย แต่ไม่เห็นได้เรื่องซะที 55

จากนั้นตามสูตรครับหาตู้ทำบุญค่าไฟฟ้ากับทำบุญทั่วไป

 

จากนั้นอีกวันหนึ่ง ก็มาถึงจุดหมายหลักของการเดินทางมาครับ

"วัดท่าซุง" โดยเริ่มต้นก็มาที่วิหารแก้วก่อนเลยครับ อืมข้างในสวยมากเป็นแก้วระยิบระยับไปหมดเลยครับ อย่างที่บอกตอนแรกๆครับคือตั้งใจมาถวายสังฆทาน แล้วก็ทำบุญทั่วไปน่ะครับ เข้ามาที่วิหารแก้วรับรองสมใจอยากครับ เพราะมีให้ทำบุญครบทุกอย่างจริงๆ เจ้าหน้าที่ก็ใจดีด้วย

ถ้าใครคิดจะมาถวายสังฆทานไม่ต้องซื้อมาก็ได้นะครับ เพราะที่นี่มีครบเลยโดยในชุดสังฆทานที่ทางวัดเตรียมไว้ให้จะมีพระพุทธรูปให้ด้วยครับ

ผมเลยเลือกชุดที่มีผ้าไตร+พระพุทธรูปองค์ปฐมด้วย แถมด้วยชุดสังฆทานที่ซื้อมาเองอีก เยอะมากชนิดที่ว่ายกทูนหัวอธิฐานกันไม่ได้ เพราะหนักจริงๆ

แล้วก็ตามด้วยการทำบุญตามตู้ (ในความคิดผมว่าผมน่าจะใส่ทุกตู้เลยนะครับถ้าจำไม่ผิด) แถมมีให้ทำบุญถวายผ้าเพื่อถวายห่มพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมด้วย ผมก็ทำคิดซะว่านานๆ มาทีทำบุญไม่ต้องเหนียวกันล่ะงานนี้

ขำก็ตอนทำบุญถวายผ้านี่แหละครับเจ้าหน้าที่บอกว่าให้อธิฐานได้หนึ่งอย่างจะสมปรารถนา หันไปเห็นแฟนแล้วขำ ทำหน้างงเต็กอยู่แล้วหันมาถามผมว่าได้อย่างเดียวเองเหรอ? แล้วจะเลือกขออะไรดีล่ะ? 555 เลยได้แต่คิดว่าปกติเขาขอทีกี่อย่างกันหว่า? ส่วนตัวผมก็ขออย่างเดียวมานานแล้ว ขอนิพพานชาตินี้ทีเถิดครับ สาธุเบื่อเกิดแล้ว

ชมรูปภายในวิหารแก้วกันนิดหน่อยล่ะกันนะครับ ลืมบอกไปครับว่าในวิหารแก้วนี้มีสังขารขององค์หลวงพ่อที่ท่านล่ะไปแล้วแต่ไม่เน่าเปื่อยอยู่ด้วยครับ

 

จากนั้นก็ออกจากวิหารแก้ว ไม่รู้จะไปไหนต่อเลยไปถามตรงร้านขายของตรงประตูเข้า ก่อนไปถึงลานจอดรถบริเวณวิหารแก้ว เขาก็ให้แผนที่วัดมาเลย เห็นแล้วก็โอ้โห หลวงพ่อท่านบารมีสูงจริงๆ สร้างวัดได้ใหญ่ขนาดนี้

จากแผนที่เลยไปยังวิหารสมเด็จองค์ปฐม แล้วก็ตามด้วยวิหารสมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรย ไปไหว้ทั้งสองทีเลยครับ เข้าไปไม่มีคนเลยครับสงสัยว่าคนมาคงไม่ค่อยรู้ว่ามีบริเวณนี้อยู่ด้วยถ้าไม่ดูในแผนที่

โดยทั้งสองที่ที่บอกนี่ข้างในก็เป็นแก้วหมดเหมือนกันนะครับ เข้าไปแล้วไม่มีคนก็รู้สึกดีครับสงบดี

 

ตรงบริเวณระหว่างวิหารสมเด็จองค์ปฐมกับพระศรีอาริยเมตไตรย ก็จะมีพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่มากๆ อยู่ด้วยครับ

จากนั้นก็จะผ่านตรงปราสาททองคำด้วยครับแต่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างครับภายในก็ยังโล่งๆ อยู่

แล้วก็เลยออกไปทางอีกฝั่งหนึ่งของวัด (วัดมีถนนตัดผ่านน่ะครับ) เพื่อจะไปหาซื้อหนังสือหลวงพ่อติดไม้ติดมือ แต่พอดีเห็นว่ามีแพปลาเพื่อให้อาหารปลาด้วยเลยไม่พลาดที่จะทำทานด้วยหลังจากทำบุญแล้ว

ตอนแรกที่ยังไม่โยนอาหารให้ก็เห็นปลาอยู่ใต้ผิวน้ำรู้สึกว่าเยอะแหละ แต่พอโยนอาหารลงไปต้องเรียกว่ายั้วเยี้ยชวนขนลุกเพราะเยอะจัด

แล้วก็ไปจัดแจงซื้อหนังสือของท่านมาอ่านเล่น ที่จริงอยากได้ทุกเล่มเลยครับแต่ด้วยงบประมาณจำกัดเพราะดันทำบุญแบบ นอน สต๊อป ไปหน่อยเลยต้องคิดอย่างรอบคอบ

ภายในบริเวณที่จำหน่ายหนังสือและวัตถุมงคลนี่จะมีรูปปั้นเหมือนหลวงพ่อ(เหมือนมากๆๆๆๆๆ) อยู่ด้วยแต่ผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะเหนื่อย+ตอนนั้นเป็นบ้าหอบฟางไปแล้วของเต็มมือ เลยลืมถ่ายครับ

ที่จริงภายในวัดท่านมีจุดให้ไหว้พระเยอะกว่าที่เล่าอีกนะครับแต่ด้วยเวลาเลยไม่ได้ไปทุกจุดและที่สำคัญวัดกว้างมากๆ อย่าคิดจะเดินเลยครับไม่ไหวแน่ แต่ที่หน้าวัดมีรถเหมือนซาเล้งรับจ้างอยู่นะครับ ถ้าเดินทางไปเองก็ใช้บริการได้(เพราะเขาเขียนป้ายว่านำเที่ยวรอบวัด)

ต้องขอโทษทีที่ใช้พื้นที่นี้มาเล่าเรื่องส่วนตัวแต่คิดว่าอย่างน้อยก็คงทำให้เพื่อนติดตาติดใจในวัดและพระพุทธรูปทั้งหลายที่ผมได้โพสรูปแสดงไว้นะครับ

ยังไงก็ขอให้บุญกุศลทั้งหลายที่ผมได้ทำมาทั้งหมดนี้จงถึงแก่ท่านกัลยาณมิตรทุกท่านด้วยนะครับ ขอให้เจริญในธรรมถ้วนหน้ากันครับ

 

โมทนาบุญด้วยคนครับ คุณ prayut.r

สาธุ สาธุ สาธุ

ขอพรพระให้คุณ prayut.r ได้เข้าพระนิพพานในชาตินี้ตามที่ได้อธิษฐานไว้ครับ

 

สวัสดีครับน้องเบญ

เพื่อนพี่ชื่อ คุณศศิพิมล ผลประไพ ได้โอนปัจจัยร่วมบุญซื้อตู้พระไตรปิฎก และพระไตรปิฏก วัดถ้ำวัวแดง เป็นเงินจำนวน ๑,๐๐๐ บาท แล้วในวันที่ ๑๘ พย. ๒๕๕๒ เวลาในเมืองไทยครับ รบกวนตรวจสอบด้วยครับ

​

 

เอาบุญมาฝากค่ะ วันนี้ออกจากห้องช้ากว่าปกติ ระหว่างเดินไปป้ายรถเมล์ เห็น พระสงฆ์ กำลังเดินบินฑบาตร(พิมพ์ถูกป่าวหนอ) ทีแรกก็เดินผ่านไป เพราะรีบ กลัวเข้างานสาย แต่นึกไหนใจ ไหนๆก็สายแล้ว อีกนิดนึงจะเป็นไร เลยวิ่งหน้าตาตื่น นิมนต์ ท่านรอสักครู่ หน้าร้านขนมพอดีเลย พี่ที่ขายขนมกำลังถวายขนมอยู่พอดี บอกว่าหยิบเลย(ยังไม่ต้องจ่ายสตางค์)
เลยหยิบได้คุ๊กกี้ ห่อนึง อย่างฉุกละหุก สุดท้ายได้ทำบุญตอนเช้า ซึ่งไม่ค่อยได้ทำสักเท่าไหร่ ขอบุญกุศลในวันนี้สำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า และส่งผลแก่กัลยาณมิตรในบอร์ดนี้ทุกท่านด้วยเทอญ....

สาธุ...

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ ได้รับแล้วค่ะ

 

คุณ Prayut คะ.. สังเกตที่พระนอนไหมคะ บริเวณพระบาทขององค์พระนอน จะมีเหรียญบาท เหรียญห้าสิบสตางค์ หรือเหรียญต่างๆ ติดไว้ เสมือนมีแม่เหล็กยึดติดไว้ค่ะ (ไว้หารูปมาให้ดูนะคะ เครื่องนี้ไม่มีภาพ)

ครั้งแรกไม่ทราบหรอกค่ะ กราบท่านเสร็จแล้ว เห็นแม่และน้องๆ หลานๆ ยืนอยู่ แม่หยิบเหรียญออกมาให้บอกว่า อ่ะ ลองตั้งจิตอธิษฐานดู ว่าจะติดไหม

หนิงตั้งจิตอธิษฐานแล้ว นำเหรียญบาทไปติด เกือบจะถึงตรงจุดที่เล็งไว้ เหมือนมีแม่เหล็กดูดเหรียญติดกับฝ่าเท้าของพระนอนเลยค่ะ เล่นเอาคนติดตกใจเหมือนกัน

ทุกคนที่กำลังติด มีติดบ้างไม่ติดบ้าง เค้าได้ยินเสียงร้อง (เฮ๊ย..แหะๆ ไม่สุภาพค่ะ) ทุกคนหันมามองแล้วถามว่าอะไร พอบอกไปว่า เหมือนเหรียญโดนดูดเข้าไปติด หลายๆ คนบอกว่า พวกเขาพยายามกันนานอยู่นะ ติดบ้าง หล่นบ้าง