::: วรวุฒิคุณอนุสรณ์ ประวัติและวัตถุมงคลหลวงปู่ครูบาอิน อินโท ครูบาฟ้าหลั่ง :::

สวัสดีครับคุณกฤษณ์

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อน ว่าผมไม่ใช่สายตรงหลวงปู่วัดบ้านฟ่อน ข้อมูลอาจจะไม่ชัดเจน 100 เปอร์เซนต์...
แต่จากเท่าที่เห็น ทราบว่ามีการสร้าง "พระผงราหู" มาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 รุ่น
รุ่นแรกๆ สร้างประมาณปี 48-49 (นั่นคือตอนที่ผมได้มา)
โดยมีลูกศิษย์ในตัวเมืองเชียงใหม่เป็นผู้สร้างถวาย...
และถ้าผมจำไม่ผิดอีกเหมือนกัน ก็น่าจะเป็นพระอนุรักษ์ ที่วัดสันป่าข่อย

พระราหูรุ่นแรก เป็นพระผง กดพิมพ์เหมือนกัน 2 หน้า
มีทั้งแบบที่ฝังตะกรุดและแบบไม่ฝังตะกรุดครับ

ช่วงนั้นเอง ผมได้ไปกราบหลวงปู่ครูบาคำ วัดศรีดอนตัน ลำพูน เป็นครั้งสุดท้าย
ซึ่งเป็นช่วงสงกรานต์ปีนั้น ก่อนไปผมไปแวะที่วัดแม่ร่องน้อย วัดเดิมของพระอาจารย์ประดิษฐ์ อาภาธโร
ซึ่งเป็นพระที่คอยอุปัฏฐากหลวงปู่ครูบาคำ... (ตอนนี้พระอาจารย์ประดิษฐ์ ไปรักษาการเจ้าอาวาสวัดศรีดอนตันแล้ว)
และตอนนั้นเองที่ได้เห็นว่า มีพระราหูรุ่นนี้ของหลวงปู่ครูบาดวงดี อยู่ในตู้วัตถุมงคลของวัดแม่ร่องน้อยด้วย
ผมยังเคยแนะนำให้เพื่อนไปบูชากันหลายคน.. จึงทำให้จำเรื่องได้

พระราหูอีกรุ่นหนึ่งที่ผมพอจะรู้ เป็นกะลาแกะครับ
แรกเริ่มเดิมทีนั้น เข้าใจว่ามีคนเอากะลาตาเดียวมาถวายหลวงปู่ไว้ที่วัด
แต่ทางวัดยังไม่ได้ใช้ทำอะไร... จนกระทั่ง "คุณหนุ่มทิพย์" มาเจอเข้า
จึงได้ออกทุนให้ทางวัดเอาไปแกะเป็นกะลาราหู ขนาดเล็กๆ ประมาณ เซนต์กว่าๆ ถึงสองเซนต์
ได้จำนวนประมาณ 50 องค์... ทางวัดเห็นว่าน่าจะไม่พอต่อความต้องการ ก็เลยหากะลามาเพิ่มอีก จนทำได้ 300 องค์
แล้วก็เอาออกให้ลูกศิษย์ลุกหาบูชากันไปครับ

เรื่องนี้คุณหนุ่มทิพย์เคยเล่าให้ฟัง... ผิดถูกยังไง ต้องโทษคุณหนุ่มทิพย์.... อิอิ

ผมเคยได้ยินลุกศิษย์ลูกหาของหลวงปู่ครูบาดวงดี เคยเล่าให้ฟังหลายครั้งว่า
หลวงปู่ท่านได้วิชาราหูมา... ว่ากันว่าราหูของท่านขลัง...
ใครทำราหู เวลาจะปลุกเสก มักจะนึกถึงท่าน...
ครูบาอินทร์คำ วัดไชยสถาน (เจดีย์ 9 ยอด) ก็เป็นครูบาอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องราหูครับ
เหรียญพระราหู 12 นักษัตรของท่าน ก็เป็นที่รู้จักกันดี

อ้อ... อย่าลืมพระอาจารย์พรสิทธิ์ วัดสว่างอารมณ์ อ.สันป่าตอง ด้วยครับ
ท่านนี้ เครื่องรางทุกชนิดท่านทำได้ขลังครับ

ธีระยุทธ

 

อนุโมทนาบุญด้วยครับคุณบอย

 

มี 1 องค์

เคยบูชาที่ตู้วัดบ้านฟ่อนมา 1 องค์เป็นเนื้อผงสีขาวครับ โรยพลอยกิน บ่ เสี้ยงด้วย....เดาเอาคิดว่าพ่อน้อยสมเป็นคนสร้างป่าวครับ...แล้วรุ่นนี้เป็นรุ่นไหนหน๋อ...

 

อันนี้เป็นรุ่นหลังๆ นะครับคุณโหน่ง... และลุงน้อยสมเป็นคนสร้าง
เพราะรุ่นเก่าๆ ยุคก่อนๆ หากันไม่ค่อยได้แล้ว ก็เลยทำชุดนี้ออกมา
ไล่ๆ กับพระขุนแผนทาสีเงิน สีทองนั่นแหละครับ

 

ขอบคุณคุณธีระยุทธมากครับ

 

========================================================

รูปแบบ และจำนวนการสร้าง

๑. ชุดประธานอุปถัมภ์ จำนวน ๑๙ ชุด (ขณะนี้เหลือเพียง ๑ ชุดเท่านั้นครับ)

ล็อกเกตสี่เหลี่ยม ชุดคู่ ครึ่งองค์ และเต็มองค์ ขนาดประมาณ ๒.๕ x ๓.๕ เซนติเมตร ด้านหลังอุดผงมวลสาร และบรรจุมงคลวัตถุ ๙ อย่าง ตะกรุดสามกษัตริย์ (ทองคำ + เงิน + นาก), พระปรกใบมะขามรุ่นแรก, พระรอดหน้อย, หัวนะ, ประคำ, ด้ายมงคลพิธีสืบชะตาหลวง, เทียนชัย, พลอยกิ๋นบ่อเสี้ยง, เกศา, จีวร



แบบนั่งหันข้าง...



หน้าตรงครึ่งองค์

ด้านหลังในหนึ่งชุด ๒ องค์... องค์หนึ่งจะอุดด้วยพระปรกใบมะขามรุ่นแรก และอีกองคืหนึ่งจะอุดด้วยพระรอดหน้อย







๒. ชุดกรรมการ จำนวน ๑๐๘ ชุด
ล็อกเกตสี่เหลี่ยม ชุดคู่ ครึ่งองค์ และเต็มองค์ ขนาดประมาณ ๒.๕ x ๓.๕ เซนติเมตร ด้านหลังอุดผงมวลสาร และบรรจุมงคลวัตถุ ได้แก่ ตะกรุดคู่ (เงิน + ทองเหลือง), ประคำ, ด้ายมงคลพิธีสืบชะตาหลวง, พลอยกิ๋นบ่อเสี้ยง, เกศา, จีวร

หมายเหตุ: ด้านหน้าจะเหมือนกับชุดประธานอุปถัมภ์ ด้านหลังทั้งสององค์ อุดเหมือนกัน




๓. ล็อคเกตรูปไข่ ครึ่งองค์ จำนวน ๕๒๕ องค์
ล็อกเกตรูปไข่ หน้าตรงครึ่งองค์ ขนาดประมาณ ๒.๕ x ๓.๕ เซนติเมตร ด้านหลังอุดผงมวลสาร และบรรจุวัตถุมงคล ได้แก่ ตะกรุดคู่ (เงิน+ทองเหลือง), ด้ายมงคลพิธีสืบชะตาหลวง, พลอยกิ๋นบ่อเสี้ยง, เกศา, จีวร




๔. ล็อกเกตรูปไข่ เต็มองค์ จำนวน ๕๒๕ องค์
ล็อกเกตรูปไข่ รูปนั่งเต็มองค์ ขนาดประมาณ ๒.๕ x ๓.๕ เซนติเมตร ด้านหลังอุดผงมวลสาร และบรรจุวัตถุมงคล ได้แก่ ตะกรุดคู่ (เงิน+ทองเหลือง), ด้ายมงคลพิธีสืบชะตาหลวง, พลอยกิ๋นบ่อเสี้ยง, เกศา, จีวร




ทั้งแบบครึ่งองค์ และเต็มองค์ ด้านหลังอุดมงคลวัตถุเหมือนกัน




๕. ล็อกเกตเล็กรูปไข่ ครึ่งองค์ จำนวน ๒๕๐ องค์
ล็อกเกตเล็กรูปไข่ หน้าตรงครึ่งองค์ ขนาดประมาณ ๒ x ๒.๕ เซนติเมตร ด้านหลังอุดผงมวลสาร และบรรจุวัตถุมงคล ได้แก่ ตะกรุดคู่ (เงิน+ทองเหลือง), เกศา, จีวร

๖. ล็อกเกตเล็กรูปไข่ เต็มองค์ จำนวน ๒๕๐ องค์
ล็อกเกตเล็กรูปไข่ หน้าตรงครึ่งองค์ ขนาดประมาณ ๒ x ๒.๕ เซนติเมตร ด้านหลังอุดผงมวลสาร และบรรจุวัตถุมงคล ได้แก่ ตะกรุดคู่ (เงิน+ทองเหลือง), เกศา, จีวร

ล็อกเกตเล็ก... ภาพด้านหน้าเหมือนรายการที่ ๓ และ ๔ ด้านหลังอุดเหมือนกัน




หมายเหตุ: ล็อกเกตทุกองค์ฝังโค้ตรูปกระต่าย ซึ่งเป็นปีนักษัตรประจำปีเกิดของหลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท<!-- google_ad_section_end -->

 

============================

รายการวัตถุมงคล
พระครูวรวุฒิคุณ (หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท)
ณ วัดใหม่หนองหอย สมทบทุนสร้างพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท

เหรียญรุ่นลายเซนต์ “ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข เนื้อเงิน - เหรียญยืน/เหรียญรูปไข่ ๑,๕๐๐.-
เหรียญรุ่นลายเซนต์ “ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข เนื้อทองแดงรมดำ - เหรียญยืน/เหรียญรูปไข่ ๑๙๙.-
เหรียญรุ่นลายเซนต์ “ขอให้รวย ขอให้อยู่ดีมีสุข เนื้อทองแดงรมดำ - เหรียญยืน/เหรียญรูปไข่ พร้อมประคำ ๒๙๙.-
ล็อกเกตใหญ่พร้อมห่วง รุ่นลายเซนต์ (สีเขียว/ สีฟ้า/ สีส้ม) ๔๙๙.-
รูปถ่าย เคลือบกรอบวิทยาศาสตร์ รุ่นลายเซนต์ รูปนั่ง/รูปยืน ๑๙๙.-
ผ้ายันต์ อภิมหายันต์ ๑๐๘ ขนาดโปสเตอร์ รุ่นลายเซนต์ สีเหลือง/สีแดง ๒๙๙.-
ผ้ายันต์ธงแขวนรถ รุ่นลายเซนต์ ๙๙.-

พระสมเด็จ ๙๙ หลังยันต์นะ ตะกรุดเงิน ๔๙๙.-
พระสมเด็จปรกโพธิ์ หลังรูปเหมือน ติดจีวร ๙๙.-/ โรยพลอยกินบ่อเสี้ยง ๑๕๙.-
พระสมเด็จผาสุข หลังปั๊มยันต์แดง ๑๓๙.-
พระสมเด็จไจยะเบงชร พิมพ์กรอบกระจก หลังยันต์ฟ้าฟีก ๑๙๙.-
พระคงเนื้อดินเผา รุ่นแรก ๙๙.-

เหรียญรุ่น ๑๐๑ ปี ๙๙.-
เหรียญกลมเล็ก รุ่นฉลองอายุ ๙๙.-
เหรียญยืนสี่เหลี่ยม อายุ ๙๒ ปี รุ่นแรกวัดใหม่หนองหอย ๒๙๙.-
เหรียญรุ่น "ปลอดภัย” หลังยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า (เฒ่า สุพรรณ) ๒๙๙.-

ผ้ายันต์จั๊กกิ้มล้อมโลก ปี ๒๕๔๕ ฉลองอายุ ๑๐๐ ปี ๙๙.-
ผ้ายันต์กุณพระเจ้า ปี ๒๕๔๕ ฉลองอายุ ๑๐๐ ปี ๙๙.-

พระผงอังคารธาตุ (มี ๖ สี ดำ-ขาว-เขียว-เหลือง-สีไม้-ก้นครก)
พิมพ์เล็ก ๔๙.-/ พิมพ์ใหญ่ ๑๙๙.-/ ก้นครก ๒๙๙.-/ ชุดกรรมการ ๖ สี ๑,๔๙๙.-

ล็อกเกตรุ่น “มหามงคล ๑๐๘” ชุดกรรมการ ๙๙๙.-
ล็อกเกตรุ่น “มหามงคล ๑๐๘” รูปไข่ใหญ่ ครึ่งองค์/ เต็มองค์ ๒๙๙.-
ล็อกเกตรุ่น “มหามงคล ๑๐๘” รูปไข่เล็ก ครึ่งองค์/ เต็มองค์ ๑๙๙.-

รูปหล่อครูบาอิน หน้าตัก ๙ นิ้ว ที่ระลึกพระราชทานเพลิงศพ เนื้อปูน ๑,๕๐๐ (ไม่จัดส่งทางไปรษณีย์เพราะหนักมากและเกรงว่าจะแตกหักได้)

สนใจร่วมทำบุญ กรุณาติดต่อ...
พระครูสังวรยติกิจ (พระอาจารย์อินทร จิตตสังวโร) เจ้าอาวาสวัดใหม่หนองหอย
หมู่ที่ ๖ ต.สันติสุข อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๖๐ โทร. ๐๘-๑๙๙๒-๐๔๐๗ โทรสาร. ๐-๕๓๓๖-๗๙๗๑
หรือโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาทุ่งเสี้ยว (สันป่าตอง)
ชื่อบัญชี กองบุญครูบาอิน อินโท เลขที่บัญชี ๖๖๑-๒-๒-๓๐๐๔๗

(สำหรับท่านที่บูชาทางไปรษณีย์โปรดช่วยค่าจัดส่งวัตถุมงคลด้วยนะครับ)


สุโข ปุญฺญสฺสํ อุจฺจโย
การสะสมบุญนำมาซึ่งความสุข


เพื่อสมทบทุนสร้างพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ครูบาอิน อินโท ที่วัดใหม่หนองหอย ติดต่อโดยตรงที่พระอาจารย์อินทรตามเบอร์และที่อยู่ด้านบนเลยครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ถ้าคุณแมวขาวมีเวลา ผมขอรบกวนถ่ายภาพมาให้ชมด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ

 

คุณบอยครับ...

ผมเพิ่งได้คุยกับพระอาจารย์เมื่อกี้ครับ
พระอาจารย์ฝากบอกว่า ล็อกเกตเล็กที่ส่งให้ไปนั้น
.... ท่านตั้งใจให้ไปไว้บูชาครับ
และถือเป็นการขออภัยที่จัดส่งพระให้ล่าช้าด้วยครับ

ดังนั้น ไม่ต้องโอนเงินมาเพิ่มก็ได้ครับ

ธีระยุทธ

 

คิดถึงครูบาคำ สังวโว วัดศรีดอนตัน ลำพูน ไม่รู้พระราชทานเพลิงไปแล้วหรือเปล่าเห็นข่าวเงียบไปเลย หรือว่าทางวัดยังเก็บสังขารท่านไว้อยู่

 

ยังไม่มีกำหนดพระราชทานเพลิงครับ...
ตุ๊พี่อู๊ด (พระอาจารย์ประดิษฐ์) บอกว่าขอให้พร้อมกว่านี้ก่อน
ส่วนที่ดินบริเวณด้านหน้าวัด ที่จะใช้เป็นสถานที่ตั้งปราสาทก็ซื้อแล้ว
แต่คงต้องเตรียมปัจจัยอีกไม่น้อยครับกว่าจะพร้อมจัดงาน

 

ตามคำขอคับ..ผม

จัดให้ตามคำขอครับผม....แต่ฝีมือถ่ายรูปผมไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะครับพอดีโหมดถ่ายภาพระยะไกล้ไม่ค่อยดีครับเลยออกมาเบลอๆๆๆ....ราหูองค์นี้บูชาจากวัดบ้านฟ่อนประมาณปี 51 ....มั้งครับ ที่ชอบคือพลอยกิน บ่เสี้ยง(แก้วก้อทับทิมจอมทอง)เรียงกันเป็นรูปหัวใจครับ ข้างหลังเขียนว่า "ครูบาดวงดี ยติโก" กับ "วัดบ้านฟ่อน"

 

พระดูสวย..คลาสสิท..และเข้มขลังน่ะครับ...คุณแมวขาว

 

ราหูสวยครับ ขอบคุณคุณแมวขาวมากครับ

 

สวัสดีครับคุณไก่
ผมยังเป็นหนี้คุณไก่ อยู่ 5,000 บาท ต้องการใช้หนี้คุณไก่แล้วครับ
ขอเลขที่บัญชีด้วย (หายไปพร้อมกับมือถือ)
และขออภัยที่ชำระล่าช้า(มากๆๆ)

หนุ่มทิพย์
ปล.เปลี่ยนเบอร์หรือเปล่าครับ ผมติดต่อคุณไก่ไม่ได้

 

สวัสดีครับคุณโหน่ง.....

ราหูรุ่นแรก ก็พิมพ์เดียวกันนี่แหละครับ แต่เป็นสีดำ และปั๊มประกบกัน 2 หน้าเหมือนกัน
ถ้าเป็นพิเศษก็จะมีฝังตะกรุดด้วยครับ

ธีระยุทธ

 

สวัสดีครับ วันนี้มาชวนคุยครับ...

เมื่อวานนี้ช่วงบ่ายๆ หลังจากเสร็จงานแล้ว ผมไปที่วัดฟ้าหลั่ง...
ไปกราบอัฐิหลวงปู่ และนั่งคุยกับพระอาจารย์ปรีชา...
ก็ทำให้นึกถึงตำหรับตำราของหลวงปู่ ที่ผมกับพระอาจารย์ปรีชา เคยช่วยกันรวบรวม
เมื่อประมาณปีก่อน... ที่ว่ารวบรวมก็เพราะว่าตำหรับตำราของท่านกระจัดกระจาย
อยู่ตู้นู้นบ้าง ตู้นี้บ้าง ดังนั้นเมื่อปีที่แล้ว ผมกับพระอาจารย์ปรีชาจึงได้ช่วยกันค้นตู้
เอาข้าวของออกมาจัดให้เป็นระเบียบ แยกวัตถุมงคลไว้ทางหนึ่ง
ส่วนตำหรับตำราปั๊บสาก็เอามารวบรวมไว้ที่หนึ่ง เอาด้ายผูกไว้

ปีกว่าๆ ผ่านไป... ปั๊บสาก็ยังถูกผูกไว้เรียบร้อยเหมือนเดิม...




ที่เห็นนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปั๊บสา ตำราของหลวงปู่ครูบาอิน
บางส่วนท่านนำไปไว้ที่วัดทุ่งปุย เมื่อตอนที่ท่านย้ายกลับไป
บางส่วนหลานๆ ของท่านก็เก็บไปรักษาไว้ และต่อมาเอามาถวายที่วัดใหม่หนองหอย
และก็มีบางส่วนที่ลูกศิษย์ลูกหาได้ขอไป...

ผมได้ขอให้พระอาจารย์ปรีชายกออกมาให้ดู... ไม่ดูเปล่า แต่ยังถ่ายรูปมาฝากกัน
และไหนๆ ก็ยกออกมาแล้ว เลยเอามานั่งเปิดดูกันอีกรอบหนึ่ง

ผมติดใจอยู่เล่มหนึ่งครับ...
เพราะเป็นเล่มที่ลายมือมือของผู้บันทึกสวยงามมาก ภาพวาดประกอบก็ลงสีสวยงาม





เล่มนี้ บันทึกไว้หลายอย่างครับ
หลักๆ แล้วก็เป็นเรื่องการคำนวนทางโหราศาสตร์ ดูดวงชะตา ว่าตกเคราะห์ ตกกรรมอะไรหรือเปล่า
นับๆ ไปตามตาราง แล้วก็มีฝอยทายอยู่ถัดไป...
อย่างที่บอกครับ ลายมือสวย เป็นระเบียบ อ่านง่าย และมีการลงสีให้สวยงามด้วย



สิ่งสำคัญอยู่ตรงหน้าสุดท้ายครับ...

คือมีข้อความว่า....

"ข้าพเจ้าได้พยายามเขียนถวายก๊ำจูสวฺาธุท่านครูบาเจ้า พระครูวรวุฒิคุณ วัดฟ้าหลั่ง ต.ดอยหล่อ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ เดือนเกี๋ยงเหนือ ๑๑ ใต้ วันจันทร์ ปีจุลศักราชได้ ๑๓๕๐ ตัว ปีสีงูใหญ่ (ไทยเรียกว่า) ปีมังกรทอง ข้าแหล่ฯ พระครูติ๊บ ปภากโร วัดท่าวังพร้าว อ.สันป่าตองฯ"

ตรงกลางขวา มีข้อความว่า....

"ขอเป็นบุญ-กุศล แด่ตนตัวของข้าพเจ้าผู้ที่ได้ขีดเขียนถวายนี้พ่องแด่เต๊อะแลฯ

(ลายเซนต์... พระครูติ๊บ ปภากโร)

๓๑ ต.ค. ๓๑"


ดังที่ผมเลยเล่าลำดับให้ทราบมาก่อนนี้แล้วว่า หลวงปู่ครูบาอิน
ท่านมีพระอุปัชฌาญ์ คือ ครูบามหายศ วัดท่าวังพร้าว...
ซึ่งเคยสอนกรรมฐาน และวิชชาต่างๆ ให้กับหลวงปู่ครูบาอิน


เมื่อสิ้นครูบามหายศ มาจนถึงยุคของครูบาติ๊บ...
ครูบาติ๊บก็ได้มาฝากตัวเป็นลุกศิษย์ครูบาอิน และสืบทอดวิชาต่อไป
ถือเป็นสายวิชาโดยตรง จากรุ่นสู่รุ่น...
แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ครูบาติ๊บท่านละสังขารไปเสียก่อน ก่อนหน้าหลวงปู่ครูบาอินผู้เป็นอาจารย์เสียด้วยซ้ำ
หากครูบาติ๊บยังอยู่ ก็คงจะเป็นที่รู้จักเคารพนับถือมาก
เพราะตะกรุดของท่านเหนียวมาก ขนาดห้อยคอหมา แล้วยิงไม่ออกเลยทีเดียว

เดี๋ยวมาต่อครับ....

 

รออยู่นะครับ....ข้อมูลน่าสนใจมากๆ ครูบาติ๊บแห่งวัดท่าวังพร้าว นอกจากตระกรุดแล้วเห็นมีการสร้างรูปหล่อโบราณ...แต่เหมือนพี่ไก่เคยเล่าให้ผมสังเกตที่ใต้ฐานดูว่า...มีโค๊ตเป็นเลข 2 แบบล้านนา ซึ่งมีความสำคัญว่าสร้างทันครูบาติ๊บท่านเพียงรุ่นหนึ่งเท่านั้น แต่รุ่นสองผมก็บังเอิญมี 1 องค์ แต่ว่าตอนนั้นคงมีการเสกโดยพระเกจิอาจารย์แต่ไม่รู้ว่าเป็นท่านใด แน่ต้องมีหลวงปู่ครูบาอินอินโทของเราๆแน่นอนครับ......หากใครพอรู้ขอเล่าเรื่องนี้ให้อ่านหน่อยนะครับ

 

มาต่อกันเลยครับ....

หลังจากเปิดผ่านๆ ไปหลายเล่ม ก็มาเจอเล่มหนึ่ง
เก่าจนเปื่อยยุ่ยแล้ว... ตรงสันของแต่ละหน้า ถูกร้อยด้วยเชือก
เข้าใจว่า หน้ากระดาษคงจะฉีกขาดออกจากกันตามอายุ เลยต้องเอาด้ายร้อยให้ยึดติดกันไว้

เล่มนี้น่าจนใจตรงหน้านี้ครับ...



ผมได้ซูมให้ดูตรงส่วนสำคัญ

ซึ่งเป็นรูปดาบ ลงด้วยอักขระแตกต่างกัน 2 อัน
ด้านข้างมีข้อความเขียนด้วยภาษาล้านนา อ่านได้ว่า
((( ผมเขียนตามคำอ่านนะครับ... ไม่ใช่ตามวิธีการเขียน เดี๋ยวจะย้อนกลับมาอธิบาย)))

"ดาบสะหลี๋กัญไจย 2 เถี่ยนนี้ เขียนใส่ใบตาล ไว้บนหัวกีดประตูเรือน กีดผีก่กั๋วแล"



โอ้... นี่แหละที่ตามหามานาน...
เพราะหากจำได้ ผมเคยเล่าไว้ว่า ตำราดาบสะหลีกัญไจยของหลวงปู่ครูบาอินนั้น
ท่านไม่ได้ลงอักขระเลขยันต์บนใบมีด แต่ใช้การอธิษฐานจิตปลุกเสกเอา

ต่างจากตำหรับของครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง
ที่ถือกันว่า เป็น "ดาบสะหลีกัญไจย" ที่เป็นวัตถุมงคลยุคแรกๆ ของล้านนา
โดยสืบมาจากตำราที่ครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้มาจากที่ถ้ำเชียงดาว

สรุปความอีกทีนะครับ
ดาบสะหลี๋กัญไจย ครูบาอิน ไม่ลงอักขระที่ใบมีด
ดาบสะหลี๋กัญไจย ครูบาขันแก้ว ลงอักขระที่ใบมีด

แต่ที่เหมือนกันของทั้งสองครูบาก็คือ คาถาที่ใช้เสกดาบสะหลีกัญไจย
เพราะเป็นคาถาบทเดียวกัน แตกต่างกันเพียงบางคำที่ออกเสียงผิดเพี้ยนเท่านั้น

หลวงปู่ครูบาอินเคยบอกว่า ไม่ต้องลงอักขระหรอก เสกได้...
ผมก็เลยเข้าใจว่า คงไม่มียันต์ดาบสหลีกัญไจย อยู่ที่วัดฟ้าหลั่ง
แต่พอได้มาเจอวันนี้ ก็เลยต้องเปลี่ยนความคิดครับ

ผมอยากให้ลองเปรียบเทียบอักขระด้านบน กับอักขระของครูบาขันแก้ว
ไม่รู้สิครับ... ผมอาจจะอคตินิดหน่อย... แต่ผมว่ามันคล้ายๆ กันนะ



ย้อนกลับไปที่ปั๊บสา เล่มของครูบาอิน ที่มียันต์สะหลีกัญไจย
ผมดูจากลายมือ... ไม่ใช่ลายมือของหลวงปู่ครูบาอิน
และด้วยสภาพที่เก่าจนเปื่อย น่าจะเป้นปั๊บสาที่ท่านได้รับสืบทอดมาจากครูบาอาจารย์

อีกอย่างหนึ่ง สังเกตุจากวิธีการเขียนภาษาบ้านนา
ภาษาล้านนาในยุคเก่าๆ จะเขียนโดยไม่ใส่วรรณยุกต์ เวลาอ่านผู้อ่านต้องเข้าใจเอาเอง
เหมือนที่ครูบาอาจารย์เคยสอนกันว่า "7 ตั๋วเหลียว 3 ตั๋วเตียว"
หมายถึงว่า เวลาจะอ่านภาษาล้านนา ต้องดูถ้อยคำรอบข้างด้วย
จึงจะเข้าใจความหมาย...

นั่นคือภาษาล้านนายุคเก่า

ต่อมาเริ่มมีการใช้วรรณยุกต์ ไม้เอก โท เพื่อเพิ่มความเข้าใจ

จากปั๊บสาข้างบน ไม่มีการใช้วรรณยุกต์เลย เช่น

"ดาบสะหลี๋กัญไจย 2 เถี่ยนนี้" ในปั๊บเขียนว่า "ดาบสลีกญเจยยฺ 2 เถียนนี"

"เขียนใส่ใบตาล" ในปั๊บเขียนว่า "เขียนใสใบตาน" (ใบตาล ภาษาเหนือ ต้องออกเสียงว่า ใบต๋าน แต่ก็ไม่มีวรรณยุกต์)

"ผีก่กั๋วแล" ในปั๊บเขียนว่า "ผีกอกัวแล"

ปั๊บสานี้ จดจารด้วยวิธีการเขียนแบบเก่า ดังนั้นจึงน่าจะสรุปได้ว่า
น่าจะเป็นปั๊บสาเก่า ที่หลวงปู่ครูบาอินสืบมาจากครูบาอาจารย์ของท่าน
ดังนั้น นี่ก็น่าจะเป็นยันต์เก่า...

((((ผมสรุปความเห็นไว้ตรงนี้ ท่านผู้รู้ หรือผู้ที่มีความเห็นแตกต่าง
ผมยินดีน้อมรับความเห็นทุกประการครับ ))))

หมายเหตุ: เรื่องการใช้วรรณยุกต์ และไม่ใช้วรรณยุกต์ในภาษาล้านนานี่เอง
ที่ทำให้เกิดข้อถกเถียงเรื่อง "ล้านนา" กับ "ลานนา" เมื่อสิบกว่าปีก่อน
จนสุดท้าย ฝั่ง "ล้านนา" ซึ่งเขียนด้วยภาษาเหนือแบบไม่ใส่วรรณยุกต์
เป็นฝ่ายที่ได้รับการยอมรับเหตุผลมากที่สุด... เรื่องนี้สนุก ลองไปหาอ่านดู ของอาจารย์ ทิว วิชัยขัทคะ และอาจารย์ประเสริฐ ณ นคร....


ขอจบเรื่องยันต์ สะหลี๋กัญไจย ไว้แค่นี้ก่อน เดี๋ยวมาเขียนต่อครับ

 

รูปนี้แหละครับ... ลายมือหลวงปู่ครูบาอินของจริง



เป็นสมุดข่อยเล่มเล็กๆ แต่อัดแน่นด้วยบทคาถาต่างๆ
อย่างในรูปที่เห็นเป็น "โองการพยาเวสสุวัณแป๊ผี"
ภาษาล้านนา คำว่า "แป๊" ไม่ใช่แพ้นะครับ แต่หมายถึง "ชนะ"
ดังนั้นบทนี้ หมายถึง "โองการพยาเวสสุวัณชนะผี"

แล้วคำว่า "แพ้" ภาษาล้านนาใช้คำว่า "ก๊าน" ครับ

เปรียบเทียบกันดูก็คงจะสรุปได้แน่นอนว่า ลายมือที่จดจารปั๊บสาเล่มข้างบน
ไม่ใช่ลายมือหลวงปู่ครูบาอินแน่นอนครับ...

อ่อ... ในปั๊บเล่มเดียวกัน มียันต์อยู่ลูกหนึ่ง
มีคำอธิบายกำกับว่า....

"ยันต์ลูกนี้เขียนใส่น้ำมันทาสาวรักแล เชื่อแล้วนา บ่เชื่อก่อลองเต๊อะ"

อุ๊ยยยย น่าสนใจ... ว่าจะลองตามคำท้าอยู่เหมือนกันครับ

แฮะๆๆๆ