การฝึกเปิดตาที่ สาม และวิธีใช้ตาที่สาม

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 3 พฤศจิกายน 2008.

  1. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    คุณ grissana
    เข้ามาโปสยาว มาก
    แต่จุดหมายไม่แน่นอน
    เดี๋ยว เห็นผี ..เดี๋ยวกลัวผี/ เดี๋ยวอยากคุยกับผี
    ถอดจิตไปไหน..จิตลอยไป../ผีตามไป
    ....................................................
    ถามวนไปวนมา...ใครตอบไม่มีวัน ถูกใจเขาหรอก
    ..........................................................
    ถ้าเป็นมากกว่า นี้...อันตราย!!!!!!!
    ...........................................................
     
  2. ploy_manee

    ploy_manee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +1,229
    เราดูนะ น่ากลัว ตอนเดียวอ่ะ
    แพร่งที่ 1 หลาวชะโอน เป็นเรื่องกฎแห่งกรรมที่ลูกกระทำต่อบิดามารดา ฆ่าพ่อ ด่าแม่ แม้บวชเป็นเณรแล้วก็ยังไม่กลับใจ พระพยายามช่วยแล้ว สุดท้ายก็ต้องตายเป้นเปรต

    แพร่ง 2 3 4 ไม่น่ากลัว จะเป้นแนวเหลือเชื่อมากกว่า

    แพร่งสุดท้าย เค้าเรียกว่า หักมุม ไม่น่ากลัวเลย ตลกมากกว่า 555

    รวมๆ แล้ว ก็ได้อะไรเยอะ ปกติเป็นคนชอบดูหนังอยูแล้ว ชอบมากๆๆ ก็พอจะเดาทิศทางของหนังแต่ละตอนได้ ... อิอิ หากไม่อยากกลัวเวลาดูหนังผีก็นี่เลย หอแต๋วแตก จะทำให้ไม่กล้วผี จะกล้าเผชิญหน้ากะผี จะรู้วิธีสู้กะผี อย่างนังแต๋วทั้งหลายในเรื่องนี้ 555 เข้าโรง 1 ตค นี้จ้า โปรโมทให้เลย
     
  3. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    อ่านะ ได้ค่าโฆษณาเขามาปะคะ อิอิ (แหมไปว่าเขา เราเองก็ไม่ค่อยเลยเนาะ เหอๆ)

    ไม่ได้หมายความว่าน่ากลัวค่ะ แต่หมายถึงว่าใจเราจะทนได้ในสภาวะต่างๆในหนังมากแค่ไหนแค่นั้นเองค่ะ

    ปลาไปดูหนัง จ่ายไป140 ดูไปอย่างมากสุด 50-60 แค่นั้นเอง ตอนที่ผีจะออกมาหรือตอนที่เขาทำให้ตกใจปิดตาเกือบจะมิดหมด (ปิดไปห้านิ้วดูหนังจากง่ามนิ้วแทน ปิดตาจากจอแต่ไปดูเพื่อนกรี๊สแทน ฮาดี) ตั้งแต่แพร่งแรกยังแพร่งสุดท้าย

    ไอ้ที่ได้กำไรหน่อยก็คงเรื่องสุดท้ายละคะ






    แต่ว่าดีเหมือนกันนะคะที่เขาทำให้ดูเหมือนเหลือเชื่อ เพราะไม่งั้นปลาคงจะหลอนไปอีกหลายวัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2009
  4. grissana

    grissana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +60
    ขอบพระคุณ อ.ค่ะที่มาตอบ รบกวน อ.สงเคราะห์ดิฉันอีกสักครั้งนะคะ ถามครั้งนี้ก็จะถอยแล้วค่ะ

    สำหรับโพสนี้ขอคำตอบจากอาจารย์ท่านเดียวเลยนะคะ (ต้องขอโทษเพื่อนสมาชิกด้วยและขอบคุณมากค่ะ)

    อ.ค๊ะ ดิฉันขอโทษอาจารย์นะคะที่ข้อความวกวนไปมา รออาจารย์มาตอบตั้งนาน ดีใจค่ะที่ อ.มาตอบ ที่อ.โพสมา ดิฉันยินดีรับหมดค่ะ (อ.ติง ก็คือ อ.เอ็นดู ค่ะ)
    งวดนี้ถามไม่วกวนไปมาแล้วค่ะ ถามเลยน๊ะค๊ะ
    1. อาจารย์ ค๊ะ ถ้าคนนั้นตายังไม่เปิด และไม่มีของเก่าหรืออาจจะมีนิดหน่อย ทำสมาธิกรรมฐานแบบขณิกกะธรรมดา ถ้าไม่ไปกระตุ้นให้ตาที่สามเปิด มันจะมีโอกาสเปิดมั๊ยค๊ะ? เพราะิดิฉันคิดว่า ถ้าไม่มีโอกาสเปิด ดิฉันจะได้ทำสมาธิกรรมฐานแบบขณิกกะที่ดิฉันทำอยู่ไปเรื่อยๆได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวลเรื่องจะเห็นผีชัดๆในขณะปฎิบัติ และก็จะได้รบกวนถามให้น้อยลงค่ะ ก็จะได้ปฎิบัติไปตามปกติค่ะ (แต่ที่เคยเห็นผีชัีดๆเนี่ย คิดว่าน่าจะทำสมาธิผิดวิธี)

    2. แต่ถ้าทำสมาธิแบบไหนๆ ก็สามารถที่จะทำให้ตาที่สามของเราเปิดได้ ดิฉันก็จะพยายามหาหลายๆวิธีมาลองแก้ที่จะทำให้คลายจากอาการกลัวในขณะที่เห็นผีชัดๆ ถ้าทดลองหลายวิธีแล้วยังไม่หายอีก ดิฉันก็อาจจะต้องขอไปฝึกเปิดตาที่สามกับอาจารย์ให้เห็นไปเลยค่ะ เป็นทางออกสุดท้ายค่ะ (เอาไงก็เอากัน ถ้าเห็นกลางวันแบบรู้ตัวบ่อยๆจะได้ชิน ยังดีกว่าเห็นตอนไม่รู้ตัวค่ะ เพราะกลัวสติแตกเป็นบ้าก่อน ) จะได้ปฎิบัติธรรมได้ต่อเนื่องค่ะ

    รบกวนถามเท่านี้ค่ะ

    ขอบพระคุณมากๆค่ะ จะรอคำตอบต่อนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2009
  5. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    ขอแสดงความคิดเห็นนะ คุณ grissana

    ผมอ่านที่คุณโพสท์มาตลอด โดยเฉพาะคำถามข้อที่ 1 และคำถามข้อที่ 2

    ทั้ง 2 คำถาม มันไม่สัมพันธ์กันเลยครับ


    สรุปแล้วจิตระดับขณิกสมาธิ ไม่ไปกระตุ้นจักร6 ที่หน้าผาก ไม่มีของเดิม แต่อยาก

    ไปเปิดตาที่สาม อืม! ศึกษา และทำความเข้าใจในกระทู้ ที่น้องปลาแนะนำ หรือยัง


    เอาเป็นว่า จะมองผมเป็นอย่างไรก็ช่าง ไม่สนใจหรอกนะ ตามซำบาย

    รู้จักคำว่า "ฟุ้งซ่าน" หรือเปล่า


    ระหว่างรออาจารย์ ซึ่งจะตอบหรือไม่ เป็นสิทธิ์ของท่าน ไปฝึกทำจิตให้สงบ

    ถ้าทำถึงอุปจารสมาธิได้ยิ่งดี จิตจะมีความสว่าง ตัดวิกิจฉา สงสัยอ้ายโน่น

    อ้ายนี่ สร้างปัญหาให้จิต ที่แต่เดิมเป็นของใส ออกให้หมด แล้วจะเข้าใจ
     
  6. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    เจ้าลูกปลามังกร......

    บริเวณหัวจะมีจุดหนึ่ง ที่เป็นลายก้นหอย (ขวัญ) ให้เอาดินสอปลายทู่ ๆ จิ้มสักครู่

    ให้เจ็บนิด ๆ จิตจะจำได้ง่าย กำหนดไว้ตรงนี้บ่อย ๆ ลืมตาทำได้ก็ยิ่งดี กัดฟัน

    เบา ๆ เพ่งจิตให้แรง ๆ จักรที่ 7 มันจะทะลุเป็นรูนะ พลังงานข้างนอก ข้างใน

    จะไหลเข้าสะดวก จะมีอาการหลายอย่างตามมา แต่ตอนนี้ป๋าไม่บอกนะ ไปทำดู

    ก่อน เป็นช่องประตูหนึ่งนะ ที่มีความสัมพันธ์กับจักรที่ 6 หรือตาที่สาม

    ให้ทำควบคู่ไปกับสมาธิ จะได้มีกำลังหนุน ซึ่งกันและกัน


    หรือถ้าไม่อยากเกี่ยวข้องกับตาที่สาม เอาไว้ใช้ทางอื่น บำบัดอาการทางกาย

    ได้สารพัด ท่านอื่นจะนำไปฝึก ควบคู่กับการทำสมาธิ ด้วยก็ได้


    อ้อ! เวลาที่ขนลุก มันคือพลังของปิติ ขยายให้เป็นมหาปิติ สามารถบังคับไปที่ตำ

    แหน่งไหนของร่างกายก็ได้ ทำให้ร้อนให้เย็นได้ รักษาโรค ขับพลังแฝงได้

    เวลาสวดมนต์ หรือขนลุก พลังมนต์ตราไสยดำ เข้าตัวไม่ได้ ฯลฯ อีกเยอะ

    ส่งตัวปิตินี้ไปรวมที่จักร 6 ที่หน้าผาก หรือจักร 7 ก็ได้ พลังยิ่งแรง


    อีกอย่างก็คือ อย่ากลั้นน้ำตา คือถ้าอยากร้องไห้ จงร้องออกมา ดวงตาจะเย็นใส

    สะอาดหมดจรด ไม่มีสิ่งอุดตัน ไล่ตัวอะไรบางอย่างได้ ให้สังเกตุว่า หลังผ่าน

    ความทุกข์โศรกเศร้า อะไรต่อมิอะไร ก็ใสใส ขึ้นมาเป็นกอง


    (ฟุ้งซ่านประจำวัน จบแล้ว อ่ะจร้า)

    (หลานตนไหน มาว่าตรู เดี๋ยวเถอะ)
     
  7. Likely

    Likely เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    4,151
    ค่าพลัง:
    +3,821
    ตอนนี้ตาขวากระตุกมาสี่วัน--*

    งิ้ง งิ้ง T^T
     
  8. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    มังกรบูรพา...ตอบคำถาม ของคุณกฤษรา ได้ ดี ครบ ข้อความ
    ในสังคมธรรมดา เราจะเห็นผู้คน เดินไปมา
    แต่พอมีตาที่สาม เราก็จะเห็น สังคม ของ ผี และวิญญาณ
    เดินกัน พล่าน..หนาแน่น พอ ๆๆกับสังคมคน
    ................................................................
    ผู้คน ธรรมดา..ลองสังเกตุดู ว่า เวลาผ่านไป
    น้ำหนัก ของ รองเท้า เท่ากัน หรือ เปล่า
    เราเดินตัวเอียงหรือ เปล่า
    ...................................................
    แปลว่า สังคมผี และวิญญาณ ขี้เกียจเดิน
    ก็จะเกาะ รอง เท้า..อาศัยเราเป็น พาหะ..
    จะได้ ไม่ออก แรงวิญญาณ ผีผี
    ...................................................
    คำตอบของคุณ มังกรบูรพา ที่ ว่า
    จุดที่สำคัญบนหัว ที่เป็น
    ที่พวกที่เรียนพลัง..ชี้ ว่า จักระ อยู่ บนหัว กลางกระหม่อม..ผิดทั้งเพ
    ....................................................................
    ขวัญบนหัวคือทางเข้าออก ของ พลัง ของ จักระที่ 7..คือการเกิดของพลัง
    สะดือ กลางตัว คือ ทางเข้าออก ของ อาหาร..ที่เป็นจุดกำเนิด ของ ชีวิต
    ที่พอมาเกิด หมอ จะต้อง ตัดสายสะดือ เพื่อ สองชีวิต แม่กับ ลูกให้ แยก กัน
    ...................................................................................
    เวลาถอดจิตไป ไหน จะมีเส้นใยชีวิต สีเงิน เชื่อม ต่อ ที่ รู บนขวัญ
    จิตไปไกล แค่ไหน..ไม่ว่า กี่ ร้อย กี่พัน กิโล เมตร...สายจะไม่ขาด
    .........................................................................
    เวลาเราตาย..วิญญาณ จะลอย ออกทางที่รูที่ขวัญ หรือ จักระที่ 7
    .......................................................................
     
  9. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    อีกอย่างก็คือ อย่ากลั้นน้ำตา คือถ้าอยากร้องไห้ จงร้องออกมา ดวงตาจะเย็นใส

    สะอาดหมดจรด ไม่มีสิ่งอุดตัน ไล่ตัวอะไรบางอย่างได้ ให้สังเกตุว่า หลังผ่าน

    ความทุกข์โศรกเศร้า อะไรต่อมิอะไร ก็ใสใส ขึ้นมาเป็นกอง



    ขอบคุณค่ะพ่อมังกร ถึงว่าทำไมเวลาปวดหัวบ่อยๆน้ำตาไหลพรากยังกะเจอทุกหนัก ทั้งที่ไม่ได้ร้องสักแอะ

    เอาไว้จะเอาไปทำดูนะคะ
     
  10. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    ตอบคุณ Grissana

    เมื่อวานตาที่สามของผมเปิดเพราะมีการกระตุ้น (หลังจากที่ถูกปิดมานาน) ผมมีอาการดังนี้
    1.ไฮเปอร์มาก จิตเร็วจนควบคุมร่างกายไม่ได้ มือสั่น เพราะจิตเหมือนจะออกมานอกกาย เดินตามแทบไม่ทัน
    2.ผมถูกสะกดจิตจากผู้ที่มีพลังจิตสูงกว่า ทำให้มีอาการ หลงๆ ลืมๆ และความคิดแปรปรวน
    3.ผมไม่สามารถนอนหลับได้ เพราะเวลาเคลิ้มก็มีเสียงมาตะโกนแกล้งที่ข้างหู เนื่องจากผมกลัวผีมาก ผมเลยหลับตาไม่ลืมตา แต่ก็กลับถูกถ่ายทอดด้วยภาพและตัวอักษรมากมาย ผมสะดุ้งตื่นตกใจ จนหายใจแน่น อึดอัด ปวดหัวมาก ประสาทเสีย
    4.ขณะที่เกิดทุกขเวทนา ผมกำหนดลมหายใจไม่ได้เลย สวดมนต์ก็ไม่ได้ เพราะมันทุกข์มากอยู่ทุกขณะ ผมเลยต้องเอายานอนหลับมาทาน เพิ่มโดสเข้าไป เพราะผมรับไม่ไหวแล้วครับ
    ที่เล่ามา เพื่อให้คุณทราบว่า อย่าไปกระตุ้นตาที่ 3 หรือจุดจักระใดๆ เลยครับ เพราะคุณใจไม่แข็งพอ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เหมือนคุณ และทุกข์มากเมื่อตาที่สามเปิด เมื่อปีที่แล้ว ผมไม่ได้นอนเต็มตาเลยร่วม 4-5 เดือน ถูกกวนทั้งคืนครับ หนักเข้าร่างกายไม่ไหว ทรุดลง หอบกิน ไม่มีแรง มีแต่ทุกข์ครับ
     
  11. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    ถามท่านมังกรบูรพาครับ

    สวัสดีครับ ขออนุญาตฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ
    ผมดูรายการ Discovery channel หมอผีเผ่ามายัน ทำการเจาะกะโหลกศรีษะของตัวเอง บริเวณจุดจักระที่7 เพื่อสื่อสารทางโทรจิต
    กระผมลองเอาดินสอจิ้มดูแล้ว มันเจ็บๆ ตึงๆ ระบมมาก แต่กระผมไม่ทราบวิธีการย้ายพลังงานมาที่จุกจักระที่ 7 ครับ รบกวนขอความกรุณาช่วยขยายความอีกนิดนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
    *******************************
    คุณกฤษณาครับ ผมอยากให้คุณลองฟังเพลงนี่หน่อยนะครับ รบกวนนิดนึง แล้วช่วยบอกผมทีว่า คุณเข้าใจเพลงว่ายังไง ไม่ใช่คำร้องในภาษาอังกฤษนะครับ
    ลองดูนะครับ
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=fJCwOoCOCVY&NR=1&feature=fvwp]YouTube - New Age & Chill Out Music Google Space[/ame]
     
  12. ploy_manee

    ploy_manee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +1,229
    เห็นด้วยกะ อัสดง ใครว่าดีนะ มีแต่ความทุกข์ทรมาน ไม่มีวันจบ จนกว่าจะเหลือเราคนเดียว ตอนนี้ ก็พยายามปฏิเสธสิ่งที่รับรู้ จะได้เหมือนคนปกติ มันเครียดเหมือนกัน จะไปเป็นดาวเด่นมีความกล้าหาญอย่างสมัยเด็กไม่ได้ จิตตกไป เหมือนโดนสกัดดาวรุ่ง ไม่ให้เป็นดังใจต้องการ เมื่อคืนก็มีองค์มาล่ออีก เบื่อเว้ย ไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น อยากเป็นตัวเองที่สุด มีความสุขมากๆ เค้าก็ว่ากันว่า ก่อนจะสำเร็จสักอย่างมันก็ต้องเผชิญกับการทดสอบโง่ๆ แบบนี้ (ข้อทดสอบที่เป็นคำแก้ตัวขององค์ ฟังไม่ขึ้น กูไม่เชื่อ) ปัจจุบันอยู่กับตัวเอง สบายใจที่สุด แม้ว่าบางครั้งสิ่งที่เราสัมผัสก็มีดีอยู่ สุดท้าย คำตอบก็ ไม่ใช่
    เป็นคนปกติอย่างชาวบ้านเค้าอ่ะ ดีแล้ว ไหว้พระสวดมนต์ทำบุญทำทานทำใจให้สบาย แค่นี้ก็สุขแล้ว
     
  13. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    ฟังเพลงพี่อัสดงแล้วขนลุกไม่หยุดเลยค่ะเหอๆ ไม่ทราบว่าเนื้อเพลงคืออะไรเหรอคะ

    เกี่ยวกับบางอย่างที่อัศจรรย์ (มันเป็นความรู้สึก มันเป็นนามธรรม) หรือป่าวค่ะ (เออมั่วเข้าไป)
     
  14. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    แล้วลองเทียบกับเพลงนี้นะครับ

    ผมขอความกรุณาทุกท่าน รบกวนพื้นที่กระทุ้นี้หน่อยครับ ที่ผมให้ฟังเพื่อจะได้ชี้แจงรายละเอียดให้ฟังทีหลัง ตอนนี้โปรดลองเปิดเพลง เปิดใจนิดนึงนะครับ

    กราบขอบพระคุณทุกท่านครับ

    เทียบเพลงแรกกลับเพลงนี้นะครับ

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=9pSu2ip5Hu4&feature=PlayList&p=DBDAC09E42AA8F40&index=12]YouTube - The Matrix Soundtrack Neo Vs Agent Smith[/ame]
     
  15. grissana

    grissana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +60
    (cry) ดิฉันกลุ้มใจจังเลย....ไม่มีใครเข้าใจคำถามของดิฉันเลย (เพราะอยากได้คำตอบตรงนี้) (cry)

    :VO ขออธิบายใหม่นะคะ เผื่อ คุณกับสมาชิกท่านอื่น จะได้เข้าใจด้วย อ่านช้าๆนะคะ

    เจตนาของดิฉันเนี่ยหมายถึงว่า จริงๆแล้ว ดิฉันไม่ต้องการ มีหรือเปิด ตาที่สาม
    หรือมีสัมผัสอะไรๆ เลย....จริงๆค่ะ (เพราะไม่ชอบเห็นผี ไม่ชอบของน่ากลัว และระหว่างทำสมาธิ ก็กลัวเห็นผีแล้วสติแตกเป็นบ้า ทุกวันนี้เรื่องจริงผ่านจอ ยังไม่ดูเลย แล้วดิฉันจะไปเปิดทำมั๊ย....มันผิดตรรกกะ )
    แต่ดิฉันบังเอิญได้ดูข้อมูลในเว็ปนี้พอดีมันเกี่ยวกับปัญหาของดิฉันอยู่ จึงเข้ามาและรู้ว่า เปิดตาที่สามมันเกี่ยวกับสมาธิ (แต่ความเข้าใจเดิมของดิฉันเนี่ยคิดว่า เป็นเรืองของสมาธิระดับสูงนู่น...ถึงจะเปิดได้หรือเห็นอีกมิติได้) แต่พออ่านไปมา ไม่ใช่นี่หว่า ไม่ต้องสมาธิระดับสูงก็เปิดได้ เห็นได้ด้วยหรอ เป็นการใช้สมาธิระดับหนึ่งกระตุ้นไปยังแถวๆ หน้าผาก ท้ายทอย กระหม่อม หรือไม่ ก็มีของเก่ามาก่อน (ซึ่งดิฉันก็สัยสัยว่า สมาธิแบบขณิกกะมันจะเปิดได้มั๊ย ก็เลยไม่สบายใจถึงเข้ามาถามเนี่ยค่ะ ปกติจะไม่เคยโพสที่เว็ปไหนเลย มีแต่ขออ่านอย่างเดียว มีเว็ปนี้แหละที่เข้ามาถามจริงจัง 4-5 วันแล้วเนี่ย โพสแรกที่เข้ามาถามของดิฉัน ก็เพราะดิฉันมีอาการที่หน้าผากเพราะดิฉันก็เคยทำสมาธิแถวนั้นมาก่อนที่จะเข้ามาเว็ปนี้ ก็เลยต้องหยุดทำสมาธิแล้วถึงเข้ามาถามเนี่ยค่ะ)

    ดิฉันถึงถาม อ.สามตา ว่า ที่ฝึกสมาธิแบบขณิกกะเนี่ย ระหว่างฝึกถ้าเราไม่ได้ไปกระตุ้นให้มันเปิด ถ้า อ.บอกว่าโอกาสที่จะเปิดมันน้อย (ซึ่งก็รอคำตอบอยู่) ก็คือ ดิฉันจะได้ไม่ไปสร้างเหตุที่จะให้ตามันเปิด โอกาสที่ดิฉันจะเห็นผีชัดๆ มันก็น้อยลง ดิฉันจะได้สบายใจ ไม่้ต้องไปค้นหาวิธีที่จะทำให้หายกลัวในการเห็นผีในระหว่างทำสมาธิกรรมฐาน เรื่องก็จบตรงนี้ ดิฉันก็จะทำสมาธิของดิฉันไปเรื่อยๆ จะไม่มารบกวนถามที่เว็ปนี้อีกถ้าไม่จำเป็นค่ะ เพราะไม่รู้จะไปถามใครก็ต้องถามผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านค่ะ

    แต่ถ้า ทำสมาธิแบบขณิกกะที่ดิฉันทำอยู่เนี่ยขนาดไม่ไปกระตุ้นมัน ก็ยังมีโอกาสเปิดได้อีกอาจจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม โอกาสที่จะทำให้ดิฉันเห็นผีก็มีมากขึ้น ดิฉันจะปฎิบัติขั้นตอนต่อไปดังนี้....

    ขั้นแรก ดิฉันจะพยายามใช้วิธีที่เพื่อนสมาชิกทุกคนแนะนำมา เอาไปแก้อาการหายกลัวเห็นผีก่อนสักระยะเวลาหนึ่งคงจะเป็นปี ซึ่งอาจจะหายก็ได้ ทีนี้จะเห็นผีหรือไม่เห็น ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับดิฉันแล้ว ก็จบตรงนี้อีก ก็จะไม่มารบกวนถามต่อไป แต่ถ้า....ยังไม่หายอีก

    ขั้นสุดท้าย ดิฉันยอมเสี่ยงที่จะเห็นผีแล้ว คือ จะขอ อ.สามตา ช่วยสอนฝึกเปิดตาที่สามให้ ให้เห็นไปเลยค่ะ เสี่ยงเอา แลัวก็ฝึกคลายความกลัวไปด้วย ก็คือจบตรงนี้่ ต่อจากนั้นก็คงจะกลับมาขอความรู้ที่เว็ปนี้ต่อไปในกาลข้างหน้าต่อไปค่ะ (ถ้า อ.บอกว่าฝึกได้นะคะ)

    จบหมดแล้วค่ะ ไม่มีอะไรจะอธิบายแล้ว ถ้าไม่มีใครเข้าใจก็จะขอลาไปจากเว็ปนี้แล้วค่ะ จะไปแก้ปัญหาด้วยตัวเองต่อไป;k01
    (ตอนแรกก็คิดว่าระหว่างรอคำตอบอาจารย์ ก็จะเก็บวิธีที่เพื่อนสมาชิกแนะนำให้ไปทำไปพลางๆก่อน แต่พอเจอ โพสของคุณ ดิฉันเหี่ยวเลย...ก็คงต้องลาแล้วค่ะ (ตอนนี้ก็จะไม่เข้ามาโพสแล้ว แต่จะเข้ามาขอดูคำตอบ อ.สามตา อยู่เรื่อยๆนะคะ) ล้มแต่จะลุกขึ้นมาสู้ใหม่ค่ะ สู้ๆๆ

    ขอบคุณ อ.สามตา และเพื่อนสมาชิกทุกคนมากนะคะ (ต้องขอโทษด้วยที่เข้ามารบกวน)
     
  16. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    เมื่อปี 2539 หัดนั่งสมาธิที่วัดอัมพวัน เกิดนั่งได้นิ่งดีตั้งแต่แรกด้วย ก็เริ่มได้กลิ่นเหม็นเน่าขณะหลับตาบ้าง โชคดีหน่อยก็จะได้กลิ่นดอกไม้ กลิ่นธูป กลิ่นน้ำอบไทย ตอนอยู่วัดไม่กลัวผีหลอก เพราะหลวงพ่อจรัญสอนวิธีหลบหลีกทางจิตหากเจอสิ่งที่ไม่อยากเจอ

    คือเอาจิตอาราธนาหลวงพ่อจรัญท่านเข้ามาช่วย

    แต่พอกลับบ้านมาหัดนั่งนี่สิ นั่งทีไรก็ได้ยินเสียงหมาหอนทุกที จนต้องลืมตา กลัวผี เสียงมาพร้อมกลิ่นเน่า

    เคยหยุดนั่งสมาธิไปเพราะกลัวผีนี่แหละ แต่พอกลับมานั่งอีกทีมันก็พัฒนาขึ้นอยู่ๆ จิตก็เข้มแข็งขึ้น เห็นผี(เจ้ากรรมนายเวร)ในสมาธิจิตของตนเอง

    ทำไมคราวนี้ไม่กลัวไม่รู้ รู้แต่ว่าสงสารเขามาก เขาคงรอกุศลจากเรามานาน เห็นแล้วก็รู้สึกว่ารักเขาเพราะเคยรักเขาเหมือนน้องสาว (เขาเป็นสาวใช้ส่วนตัวในอดีต)

    ทางสายธาตุลองเล่าประสบการณ์ส่วนตัวให้ฟัง ไม่รู้จะช่วยอะไรได้บ้างหรือไม่ แต่มันเป็นธรรมชาติที่จิตจะเข้มแข็งขึ้นได้เองค่ะ อย่ากังวลไปเลย
     
  17. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    ต่อเลยนะครับ
    เพลงที่ 1 ความรู้สึกของคุณที่มีต่อเพลงนั้น ถูกกระตุ้นด้วยภาพในมิวสิควีดีโอ อย่างที่คุณ Baby Par บอกครับว่าขนลุก พอดีเพื่อนผมส่งเอ็มวีนี้มาให้ ตอนแรกที่ได้ยินเสียง ผมก็ขนลุก และรู้สึกเหมือนว่า จักรวาลนี้กำลังรอให้ผมค้นพบอยู่ เพียงแค่ต้องเปิดโอกาสให้กับตนเองเท่านั้น
    เพลงที่ 2 ไม่มีภาพประกอบ แต่ก็ยังคงทำให้ขนลุกซู่อยู่เหมือนกัน เมื่อใช้จินตนาการในการฟังเพลงประกอบ ก็จะรู้สึกปลุกใจและท้าทาย รวมทั้งลำพอง คะนองฤทธิ์
    เหมือนกับสภาวะที่คุณกฤษณากำลังประสบอยู่ หากคุณใช้หัวใจฟังความรู้สึก คุณย่อมสามารถเข้าถึงคลื่นเพลง หรือคลื่นพลังงานไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดก็ตาม โดยที่คุณจะเข้าใจสัญญาณคลื่นที่คุณรับได้ โดยไม่ต้องเห็นภาพประกอบ
    แต่หากเห็นภาพประกอบ แล้วคุณไม่ใช้หัวใจของคุณฟัง คุณก็จะไม่เข้าใจคลื่นพลังงานที่คุณรับได้ บางครั้งแปลเจตนาไปผิดๆ ทำให้สื่อสารกับผู้ที่ส่งคลื่นพลังงานมาไม่ได้
    ผมหวังว่า คอนเซปท์ที่ผมกล่าวยกตัวอย่างมา คุณจะเข้าใจ และระงับความฟุ้งซ่านในใจที่กำลังเกิดขึ้นได้ครับ
     
  18. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    คำว่า ฟุ้งซ่าน ในพระพุทธศาสนา ไม่ใช่คำหยาบคาย เป็นการอธิบายถึงสภาวะธรรม ฉะนั้น ขอได้โปรดเปิดใจกับคำนี้ นะครับคุณกฤษณา ในเว็บนี้ มีแต่กัลยาณมิตร ที่เขาอ่านข้อความของคุณ ทุกคนเข้าใจสิ่งที่คุณกำลังประสบอยู่เป็นอย่างดี เมื่ออ่านคำตอบของคนโน้น คนนี้เสร็จแล้ว รบกวนย้อนกลับไปอ่านที่คุณวิษณุตอบแต่แรก ข้อความที่อ.สุวิบอกว่า ตอบแบบไม่หายคัน เกาไปรอบๆ นั่นแหละครับ สุดท้าย ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  19. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ผมเข้าใจในคำถามและตำอธิบายของคุณทั้งหมด
    จะว่าปล่อยวางเป็นก็ไช่
    จะว่าปล่อยวางไม่เป็นก็ไม่เชิง

    ลองพิจรณา อุปมาอุปมัยที่ผมกล่าวนี้
    ถ้าคุณติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ และภูมิคุ้กันคุณสู้ไม่ได้ คุณจะเป็นอย่างไรบ้าง
    แน่นอน เริ่มปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดไปหมดทั้งตัวแล้วนอนซม ฯลฯ
    จะเห็นว่า ขบวนการที่เป็นดำเนินเป็นขั้นเป็นตอน
    บางท่านอาจโดดข้ามขั้นตอนบ้าง แต่อย่างไรก็ตามก็ยังอยู่ในขบวนการ

    การฝึกสมาธิก็เช่นกัน ขบวนการมันจะดำเนินไปเองเป็นขั้นเป็นตอนเช่นกัน
    เข้าสู่ขณิก อุปจาระ และฌาณระดับต่างๆ
    ไม่สามารถจะหยุดที่ระดับใดระดับหนึ่งได้ (มันเดินไปตามครรลองของมันเอง)

    ผู้เชี่ยวชาญแล้ว จึงจะสลับตำแหน่งของสมาธิได้
    คุณกล่าวว่า ขออยู่ที่ระดับ ขณิกะ ก็พอใจแล้ว แต่พอเพลินเข้ามันก็เปลี่ยนระดับเองแล้ว

    แต่ถ้าคุณบอกคุณควบคุมได้ ไม่ขึ้นไม่ลงไปกว่านี้
    อะโห้.... คุณเเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้ว
    การเดินฌาณสลับฌาณ ก็อยู่เบื้อหน้าทำได้ง่าย เพียงวางปัญญาลงไปนิดหนึ่งก็ทำได้แล้วดุจพลิกฝ่ามือ
    และคำถามทั้งหมดที่ถามมาคำตอบอยู่นใจตุณหมดแล้ว
    เพียงแต่ยังไม่มั่นใจ ต้องการยืนยันสิ่งที่ตนเข้าใจเท่านั้น(ขาดประสพการณ์)

    สรุป จงไปทำใจดำเนินการตามในข้อสุดท้านที่กำหนดหมายไว้เถิด สร้าความคุ้นเคยไว้ เป็นมิตรต่อกัน
    ความกลัวเกิดจาก"ไม่รู้" หากรู้แล้วเข้าใจแล้ว ความกลัวจะหมดไปเอง

    เพียงแต่รำลึกไว่ว่า "อัตตาหิอัตโนนาโถ"
    ตาคุณเปิดแล้ว ไม่ต้องให้ใครเปิดอีก
    เพียงเรียนรู้วิธีใช้ วิธีปิด วิธิเปิด ให้ได้ดังในนึก

    อ่านในกระทู้นี้ดีๆ (และอีก สองกระทู้ข้างๆ) มีวิธีการที่คุณต้องการซ่อนอยู่
     
  20. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    เรียนคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->grissana<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2456820", true); </SCRIPT> ไม่ต้องแก้ตัวหรอกคะ ว่าไม่อยากเปิดตา เพราะทุกคนที่เข้ามาในห้องนี้ ล้วนมีความรู้สึกอยากลอง อยากท้าทาย อยากเห็นด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าเส้นว่าจะเป็นใครก็ตาม ตัวปลาเองด้วย ดังนั้น คำว่าอยากเปิดตาที่สามมันจึงไม่จำเป็นว่าต้องอธิบายให้ใครเข้าใจ เพราะแต่ละคนก้เข้าใจตัวเองนั้นอยู่แล้ว
    ถึงแม้จะมีคนบอกว่าไม่จริงหรอก ไมได้อยากเห็น เคยเห็นแล้ว ไม่อยากจะเปิดตาด้วย แต่ส่วนลึกในใจคนๆนั้นก็ยังอยากรู้ อยากเห็นอยู่ดีนั่นแหละคะ ไม่ใช่เรื่องแปลก


    ส่วนเรื่องเห็นผีไม่เห็นนั้น อย่างที่พี่เข้าใจว่ามันอาจจะเปิด หรืออาจจะไม่เปิดก็ได้ ถ้าพี่ได้อ่านมาหลายหน้าพอแล้วพี่ก็พอจะรู้ว่า ถ้าคนทีเปิดไม่ได้จะพยายามทั้งชิวีตก็ยังไม่ได้อยู่นั่นเอง แต่ถ้าคนที่เปิดได้มันก็จะมีอาการแปลกๆหรือมีอะไรบ่งบอกให้เราทราบ อยู่นั่นเอง


    ตาที่สามที่ในกระทู้นี้พูดถึง ปลาไม่รู้ว่าปลาพูดถูกหรือป่าวนะคะ ใช้วิจรณญาณในการรับข่าวสารค่ะ ตาที่สามในกระทู้นี้ก็คือ ตาทิพ หรือทิพจักขุ ในพระพุทธศาสนานั่นเอง ไม่ต่างกันเลยค่ะ

    แต่ถ้าพี่อยากจะเป้นผีเต็มๆตาแบบนี้

    [​IMG]


    หรือแบบนี้

    [​IMG]


    ปลาเคยได้ยินพี่วิษณุคนเก่งกล่าวมาว่า คนที่จะเปิดตาที่สามได้นั้น ระดับพื้นฐานระดับจิตจะต้องถึงขั้นไม่กลัวผีแล้วละคะถึงจะเปิดได้



    ถ้าหากอาจารย์ไม่ตอบ จากประสพการณ์ที่ปลาเคยเจอมา ก็คือ คนถามน่าจะรู้คำตอบของตัวเองแล้วบ้างนั้นเองจึงไม่จำเป็นต้องตอบ เพราะปลาเป็นบ่อยค่ะ ถามมากเกิน อาจารย์ก็จะพูดเฉพาะที่จำเป็น เพราะอาจารย์เคยบอก(นานมาแล้ว)ว่าอาจารย์พิม ช้า แถมเน็ทก็ช้า
     

แชร์หน้านี้

Loading...