-:-กลับชาติมาเกิดจริงหรือ?-:-

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 27 เมษายน 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    [​IMG]

    สำนักพิมพ์คนรู้ใจ เปิดตัวหนังสือขายดีอันหนึ่งของประเทศตุรกีเล่มล่าสุด ในชื่อภาษาไทยว่า "กลับชาติมาเกิด" จากต้นฉบับภาษาอังฤกษ " I'm 44 years olo, But my son is 53 !!"
    บันทึกจากเรื่องจริงที่ทำลายสถิติเบสท์เซลเลอร์ และกำลังแปลเป็นภาษาต่างๆ มากกว่า ๑๐ ภาษาทั่วโลก ผลงานการเขียนของ สเตลลา เทรเวช ซึ่งบินตรงจากประเทศตุรกี ในงานเปิดตัวหนังสือ พร้อมบุตรสาว มาร่วมเล่าเหตุการณ์ นางสเตลลา เอ็ม.เทรเวช เจ้าของผลงานชาวตุรกี เล่าถึงเหตุการณ์ระลึกชาติส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ว่า เหตุการณ์ประหลาดมากมายที่ก่อตัวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบที่เกลียด ถูกส่งมาให้โดยที่ไม่รู้ว่าได้มาอย่างไร อยู่หน้าบ้าน ในบ้าน หรือแม้กระทั่งคุกคามไปถึงหัวเตียง เหตุการณ์ยิ่งแย่เข้าไปอีก เมื่อข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านหายไปอย่างไร้ร่องรอย เพียงแค่หันหลังกลับ แล้วมีของชิ้นอื่นมาวางแทนที่ จนสุดท้ายเรื่องราวสาหัสถึงขั้นคุกคามบีบคอผู้คนในบ้าน
    แล้วความจริงก็ปรากฏผ่านการทำงานของร่างทรง อดีตชาติ ตนเองเคยเป็นภรรยารัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนที่มีอำนาจมาก เขารักฉันดูแลเป็นอย่างดี มีลูกด้วยกันหนึ่งคน สามีมักจะชอบมอบดอกกุหลาบสีแดงให้อยู่เสมอ
    แต่แรงรักของเขามากไปจนกลายเป็นแรงหึงหวง เขาหึงหวงทุกคนที่จ้องมอง เขาจะฆ่าคนที่จ้องมองทุกคน เริ่มกดดันจนรักกลายเป็นเกลียด
    [​IMG]

    จนวันหนึ่ง อารมณ์ปะทุ ทั้งคู่แยกทางกัน เขาพรากลูกไป ในที่สุด อดีตชาตินั้นก็มีคู่รักใหม่ซึ่งเขาก็ดีแสนดี ความรักที่ชายคนใหม่มีให้นั้นสุดแสนจะเพียบพร้อม แต่ยังเฝ้าคิดถึงลูกชายสุดที่รักอยู่ทุกขณะจิต แล้ววันหนึ่งสามีก็กลับมา พร้อมเปิดโอกาสให้พบลูกตามลำพัง และแล้วพยายามวางแผนพาลูกหนี ในขณะที่ไม่รู้ตัวว่าอดีตสามีส่งคนสะกดรอยตามมา
    ระหว่างหลบหนีกลุ่มคนที่สะกดรอยตามอยู่นั้นก็ออกมาทุบตีหมดสภาพความเป็นมนุษย์เหลืออยู่เลย แต่หูได้ยินคำพูดว่า "เราได้รับคำสั่ง เราปฏิบัติตามคำสั่ง เราต้องฆ่าคุณ"
    "ถ้าถามว่าในตุรกีมีความเชื่อเรื่องเจ้าเข้าทรงแค่ไหน ฉันก็บอกไม่ได้ เพราะบางคนก็เชื่อ บางคนก็ไม่เชื่อ แต่ถ้าถามฉันในเรื่องของการกลับชาติมาเกิด ฉันเองเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะฉันเจอมากับตัวเอง แม้ว่าวิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้ ขณะเดียวกัน ไม่ใช่ฉันคนเดียว ลูกสาวฉันก็เจอด้วยเหมือนกัน" นางสเตลลา กล่าว
    ในขณะที่ น.ส.เจสสิก้า เทรเวช บุตรสาว กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ประสบการณ์ที่ได้เจอ ไม่ได้เจอกับแม่เป็นครั้งแรก
    วันหนึ่ง จำได้ว่าวางนาฬิกา กำไล เอาไว้ในห้อง แล้วเข้าไปอาบน้ำ พออาบน้ำเสร็จออกมา เหลือแต่กำไล แต่นาฬิกาหาย หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นแล้วก็มีเรื่องเกิดขึ้นในลักษณะนี้อีกหลายครั้ง เหมือนนาฬิกาที่หายไป ประมาณ ๓-๔ เดือน แล้วอยู่ดีๆ นาฬิกาก็กลับมา แต่ไม่ใช่นาฬิกาของตัวเอง
    อ.ชนาธิป ศิริปัญญาวงศ์ ประธานชมรมนักสะกดจิตบำบัดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การกลับชาติมาเกิด ข้ามภพ คนระลึกชาติ สิ่งเหล่านี้เป็นภาวะสากล มีการวิจัยกลับมาเกิด เกิดขึ้นในทุกมุมโลก ซึ่งก็เกิดขึ้นได้กับทุกศาสนา หากเปรียบเทียบกับศาสนาพุทธก็จะมองว่าเป็นเรื่องของบุญกรรมที่การกลับชาติมาเกิดมีความเป็นไปได้ การสะกดจิตที่ผ่านมีเรื่องน่าสนใจอยู่เรื่องหนึ่ง
    โดยมีบางคนถามว่า ทำไมหลังโก่ง หมอรักษาเท่าไรก็ไม่หาย พอใช้ตัวสะกดจิตย้อนกลับไป ก็รู้ว่าเธอคนนี้เคยเป็นแม่ค้าขายปลาในตลาด มีสุนัข ๑ ตัวที่ชอบมาขโมยปลา วันดีคืนดีเธอคนนี้ก็แอบเอาไม้หน้าสามมาหวดสุนัขตัวนั้นจนหลังมันหัก ตรงนี้เป็นสิ่งที่ตอบไม่ได้ว่าใช่หรือไม่ จะว่าไปแล้วเป็นประจักษ์ของส่วนบุคคลที่ไม่ใช่ความบังเอิญ
    "การสะกดจิตของทุกคน ๑.ต้องมีสมาธิ (ขณะเข้าญาณ หรือใจจดจ่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างแรงกล้า) ๒.อยู่ในภวังค์ (จิตใจล่องลอย ควบคุมไม่ได้ชั่วขณะ) ๒. สภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น ๔.จิตใจว่างเปล่า (หยุดรู้สึก หยุดนึก หยุดคิดไปชั่ว ขณะหนึ่ง) ๕.ดีใจ ตกใจ เสียใจ ตื่นเต้นสุดขีดจนลืมตัว (อาการลืมตัวจะทำให้จิตใจว่างเปล่าไปชั่วขณะ) แล้วจะก้าวย้อนอดีตชาติได้" อ.ชนาธิป กล่าว
    นายดนัย จันทร์เจ้าฉาย บรรณาธิการ กล่าวเสริมว่า การระลึกชาติ หรือการกลับชาติมาเกิด เป็นเรื่องอจิณไตย คือเหนือความสามารถของมนุษย์ปกติที่จะหยั่งรู้ได้ แต่อาจจะมีกรณีหนึ่งในร้อย หนึ่งในพัน ที่สามารถพิสูจน์เรื่องราวที่เป็นปริศนานี้ จะด้วยเหตุบังเอิญ ด้วยความผูกพัน หรือกรรมส่งผลอย่างใดก็ตาม ความบังเอิญไม่มีในพระพุทธศาสนา ทุกอย่างมาจากเหตุและปัจจัย แต่ที่น่าสังเกตคือ ความหยั่งรู้ของพระพุทธองค์ในเรื่องการท่องเที่ยวสังสารวัฏนั้น ช่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก
    แต่นี่ไม่ใช่เป็นเพียงสาเหตุเดียวที่คนรู้ใจสำนักพิมพ์คัดสรรหนังสือยอดเยี่ยมติดอันดับเบสท์เซลเลอร์ของประเทศตุรกีมาถ่ายทอดให้ผู้อ่านคนไทยได้สดับและลงความเห็น ตามเนื้อหาที่เป็นบันทึกของผู้ระลึกชาติได้ และเรื่องจริงที่เกิดขึ้นต่อตัวผู้เขียน และไม่ใช่เป็นเพราะ บก.ผูกพันกับชาวยิว มีโอกาสใช้ชีวิตกับคนยิวอเมริกันผู้เคร่งครัดต่อศาสนาที่สืบทอดยาวนานมากว่า ๔,๐๐๐ ปี และทายทักว่า การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันที่สหรัฐเป็นเวลา ๑ ปีเต็มนั้น หาใช่เรื่องบังเอิญไม่ แต่เป็นเพราะกรรมบันดาลต่างหาก

    สังสารวัฏ

    เรื่องตายแล้วเกิด หรือตายแล้วสูญเป็นปัญหาที่ถกเถียงกันอยู่ไม่รู้จบสิ้นสำหรับผู้ที่ไม่รู้จริง แต่สำหรับผู้ที่รู้จริงแล้ว ท่านจะไม่สงสัยอะไรเลย ทั้งนี้ก็เพราะความจริงนั้น ตายแล้วต้องเกิดแน่ แต่จะไปเกิดช้าเกิดเร็ว เกิดเมื่อไรนั้น ย่อมสุดแต่ผลของกรรมที่ทำมาไว้ในสมัยเมื่อยังไม่ตายเท่านั้น
    ตามพุทธโอวาท ที่ตรัสไว้ว่า “กมฺมุมา วตฺตตี โลโก” สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ต้องยอมรับตามพระพุทธเจ้าตรัสยืนยันไว้ว่า คนเราตายแล้วต้องไปตามกรรมของตน แต่ที่ว่าไปไหนนั้น ยังให้คำตอบชี้ชัดลงไปแน่นอนไม่ได้ เพราะแล้วแต่กรรมที่ทำไว้จะเสกสรรปั้นแต่งให้เป็นไป
    พระพุทธศาสนาเชื่อถือในสังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิด และถือว่าคนเราทุกคนล้วนเกิดมาแล้วทั้งสิ้น นับชาติไม่ถ้วน และเกิดภพภูมิที่ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ตามกฎแห่งกรรมที่ทำไว้
    กรรมจะนำไปเกิดในภพภูมิใหม่ คือคนที่ทำกรรมดีไว้ ย่อมไปเกิดในภพที่ดี คนทำกรรมชั่ว ย่อมไปเกิดในภพที่ชั่ว ที่เลว กรรมที่ส่งให้เกิดนั้น เรียกว่า "ชนกกรรม"
    ชนกกรรมฝ่ายดีส่งให้เกิดในตระกูลที่ดี ตระกูลสูง มั่งคั่งด้วยทรัพย์สมบัติและบริวาร
    กรรมดี หรือกรรมชั่ว จะคอยติดตามบุคคลผู้ทำอยู่เสมอเหมือนเงาตามตัว แต่การที่คนมองไม่เห็นการตามของกรรม ก็เพราะดำเนินชีวิตอยู่ในความมืด เหมือนบุคคลไม่เห็นผู้ติดตามตน อยู่ในที่มืด พอเข้าสู่ที่สว่าง ถ้าเขาเหลียวไปมอง ย่อมเห็นได้ บุคคลที่ได้รับการอบรมจิตให้สงบ สะอาด สว่างมากเท่าใด ก็จะมองเห็นกรรมและผลของกรรมมากขึ้น
    หลักกรรมกับสังสารวัฏ หรือการเวียนว่ายตายเกิด มีความสัมพันธ์กับอย่างใกล้ชิด หลักกรรมจะดำรงอยู่ไม่ได้ หรือถ้าได้ ก็ไม่สมบูรณ์ ถ้าไม่มีเรื่องสังสารวัฏ เพราะชีวิตเดียวสั้นเกินไปไม่พอ พิสูจน์กรรมให้หมดสิ้นได้ ปัญหาที่น่าสังสัย เช่น ทำไมคนดีบางคนจึงมีความเป็นอยู่ลำบากต่ำต้อย สุขภาพไม่ดี ร่างกายอ่อนแอ ส่วนคนที่เห็นว่าชั่ว บางคนหลับมีความสุขสบาย มีร่างกายแข็งแรง
    เราไม่อาจคลายความสงสัยได้ ถ้ามองดูชีวิตกับเพียงชาติเดียว หลักกรรมและการเกิดใหม่ จะบอกเราว่า คนที่เราเห็นว่าชั่วนั้นเขาย่อมต้องเคยทำกรรมดีมาบ้างในอดีตชาติ และคนทีเราเห็นอยู่ในเวลานี้ ย่อมต้องเคยทำกรรมชั่วมาบ้างเหมือนกัน กรรมดีย่อมให้ผลดี กรรมชั่วย่อมให้ผลชั่ว ตามอิทธิพลของมัน เที่ยงตรงที่สุดไม่เลือกที่รัก ผลักที่ชัง
    พระพุทธศาสนายืนยันว่า การเวียนว่ายตายเกิดมีอยู่จริงซึ่งหลักฐานปรากฏอยู่ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาจำนวนมาก เช่น ในคัมภีร์ชาดกเปรตวัตถุ วิมานวัตถุ ฯลฯ
    สัตว์โลกที่ไปเกิดอยู่ในภูมิทั้ง ๓๑ ภูมินั้น ย่อมเกิดในกำเนิดทั้ง ๔ คือ
    ๑.ชลาพุชะ เกิดในครรภ์ ๒.อัณฑชะ เกิดในไข่ ๓.สังเสทชะ เกิดในเถ้าไคล ๔.โอปปาติกะ เกิดผุดขึ้น คำว่า “สัตว์โลก” คือผู้ยังข้องอยู่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพภูมิต่างๆ ฉะนั้น จึงหมายรวมถึงมนุษย์ เทวดา พรหม ในทุกภพภูมิและสัตว์ในอบายภูมิทั้ง ๔ มิได้หมายเฉพาะสัตว์ดิรัจฉานประเภทเดียว




    ที่มา : komchadluek.net
     

แชร์หน้านี้

Loading...