ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    โห...นี่ใช่เลยน้องฝน ไม่ว่าจะองค์ไหนๆ ท่านก็สอนแต่ว่าให้อยู่กับปัจจุบัน ถ้าน้องฝนย้อนไปดูที่พี่เขียนนะ หรือถ้าจำได้อ่ะ ท่านไม่ให้คาดการณ์ล่วงหน้า บอกมาคล้ายที่สมเด็จท่านบอกน้องฝนเดี๊ยะเลย แต่เราอ่ะมันก็คนธรรมดาๆเนอะ ยังต้องอยู่บนโลกเน่าๆใบนี้ ซึ่งเราก็ต้องเตรียมวางแผนอะไรล่วงหน้าใช่มะ เพราะถ้าถึงเวลาไม่ได้เตรียมไว้ก็แย่

    แต่ในทางกลับกัน มันก็ทำให้เราคิดฟุ้งซ่านได้จริงๆ แล้วเรื่องอนาคตมันเปลี่ยนได้ค่ะ ท่านว่า แต่อดีตอ่ะเปลี่ยนไม่ได้แล้ว ให้เราทำปัจจุบันให้ดีที่สุดแล้วอนาคตมันจะดีเอง

    สรุปแล้ว บางเรื่องท่านก็ไม่ยอมบอกเหมือนกันเลย อิอิ
     
  2. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    ฝนไปอ่านมาเเล้วในที่สุดก็ได้เจอทางไปพระนิพพานเเบบคนขึ้เกียจๆ

    จะเป็นฌานขั้นไหนก็ตาม ขณะที่หลับอยู่กี่ชั่วโมงก็ตาม ท่านถือว่า ทรงฌานตลอดเวลา ถ้าตายเวลานั้นจะเป็นพรหมทันทีเป็นอย่างน้อย ถ้าบังเอิญก่อนจะตายก่อนจะหลับเรานึกถึงพระนิพพาน ภาวนาด้วย นึกถึงพระนิพพานไว้ก่อนด้วย แล้วก็หลับจิตเป็นฌานก็หลับ เขาถือว่าจิตทรงในด้านของนิพพานเรียกว่า อุปสมานุสสติกรรมฐาน ถ้าตายเวลาหลับจะไปนิพพานทันที

    ถ้าฝนทำได้ฝนก็ไปพระนิพพานได้ เพราะว่าจิตฝนทรงพระนิพพานเป็นอารมณ์ มันก็จะเป็นอีกวิธีนึงที่จำทำให้เกินนิพพิทาญาณได้ พระนิพพานเเบบขี้เกียจดีค่ะชอบ
     
  3. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    เเย่เนาะคะ ชีวิตออกเเบบไม่ได้
     
  4. konkangwad

    konkangwad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +5,910
    การรอคอยเป็นเครื่องมือวัดความอดทนของคนเราถ้าเราทนมันได้พอผ่านตรงจุดนี้ไปแล้วเราลองหันกลับมามองตัวเองตอนนั้นเราก็จะรู้ว่าเราก็ยอดคนเหมือนกัน ขอเป็นหนึ่งแรงใจให้เพื่อนๆสมาชิกที่กำลังรอกำลังลุ้นในทุกๆเรื่องครับผม
     
  5. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    1. การที่เราทำให้พ่อแม่ร้องไห้น้ำตาตกถือว่าบาปค่ะ เพราะพ่อแม่เปรียบเสมือนพระอรหันต์องค์แรกของลูกค่ะ ทางแก้คือให้ขอขมากับพ่อแม่ค่ะ โดยการเอาพวงมาลัยไปกราบท่านขออโหสิกรรมในสิ่งที่ล่วงเกินกับพ่อแม่ไว้ค่ะ ให้ท่านอโหสิกรรมให้เรา
    2. อย่างนี้ต้องแยกเป็นสองประเด็นค่ะ ประเด็นแรกทำให้พ่อแม่เสียใจก็เป็นกรรมที่ก่อขึ้นใหม่ในชาตินี้ค่ะ ประเด็นที่สองเป็นกรรมของทุกคนที่เกี่ยวเนื่องกันมาแต่อดีตค่ะ เพราะบุคคลที่จะมาเกิดเป็นพ่อแม่ลูกนั้นต้องเป็นคนที่มีบุญมาเสมอกันหรือทำกรรมด้วยกันมาค่ะ
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------
    โปรดใช้ปัญญาพิจารณาด้วยค่ะ
     
  6. konkangwad

    konkangwad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +5,910
    ใชแล้วครับออกแบบไม่ได้แต่เรากำกับให้มันเดินไปในทางที่เราต้องการได้อย่าเครียดนะครับ
     
  7. วิณวิญ

    วิณวิญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +2,089
    ขอบคุณคุณฝนมากๆเลยนะคะที่ตอบข้อข้องใจและคำอนุโมทนาจากเพื่อนๆคนอื่นๆด้วยค่ะ ค่อยรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาหน่อย
    ต้องขอโทษด้วยที่เข้ามาขอบคุณช้า ที่เห็นว่าออนไลน์อยู่นั้นจริงๆแล้วแค่ยังไม่ได้sign out ตั้งแต่เมื่อคืนนะคะ เปิดเวปค้างทิ้งไว้กันลืมหน้าที่อ่านค้างอยู่ค่ะ แล้วตอนนี้ก็อยู่ต่างประเทศด้วยเลยเพิ่งจะตื่นนะคะ นี่ก็รีบตรงดิ่งมาเปิดดูก่อนเลย
    งั้นเดี๋ยวขอเวลาไปปฎิบัติภารกิจคุณแม่ก่อนนะคะ แล้วจะรีบกลับมาอ่านให้ทันเพื่อนๆ เวลาคุยกันจะได้เก็ทตามไปด้วย
     
  8. Sailomsuksikee

    Sailomsuksikee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +573

    ขอบคุณนะครับ สำหรับคำตอบ คราวนี้เป็นคำถามของผมครับ ครั้งก่อนเป็นคำถามของเพือนๆ ครับ

    ๑. ปกติเวลากลับจากจ่ายตลอด ผมชอบถวายผลไม้และขนมที่หิ้งพระ แล้วก็อธิฐานว่า ขอถวายให้แก่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดานางฟ้า ปู่ญ่าตายายและพระภูิมิเจ้าที่ ผมทำแบบนี้ บุญสักนิดมันจะเกิดบ้างหรือเปล่า ครับ หรือไม่เกิดบุญเลย เพราะไม่ได้ทำทาน เพียงแต่เอาของถวายหิ้งพระแบบ ถวายศาลพระภูิมิเท่านั้น ถ้าไม่ได้บุญอะไรเลยผมก็จะเิลิกทำเพราะแฟนผมเป็นคริส จะได้มองผมอีกแบบปกติบ้าง

    สายลม
     
  9. Pikzy

    Pikzy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +619
    ขอแจมนิดนึงครับ

    ถวายผลไม้แก่พระภูมิเจ้าที่ หรือเทวดานางฟ้านี่

    เป็นการบูชาครับ เหมือนการบูชา พระด้วย ดอกไม้ธูปเทียน

    ส่วนอยากได้บุญเยอะ ๆ มีวิธีนี้ครับ

    บุญกิริยาวัตถุ 3

    1.การให้ทาน 2.การถือศีล 3.การภาวนา (การปฏิบัติ)

    พระอาจารย์เล็กเคย เทศน์เรื่องบุญไว้นะครับ เปรียบเทียบดังนี้ ดังนี้

    การให้ทาน ได้บุญ 100 ส่วน

    การถือศีล ได้บุญ 10000 ส่วน

    การภาวนา ได้บุญ 1000000 ส่วน

    การให้ทานนั้นถ้าจะนับว่าได้บุญจริง ๆ ก็อยู่ที่เจตนา สิ่งที่ให้ และผู้รับครับ

    ที่ว่าบุญมากจริงๆ คือ สังฆทาน ครับ


    แต่อย่าลืมครับ ทุกลมหายใจเราสามารถ สร้างบุญได้

    ทรงอารมณ์เป็นปกติ รู้อยู่ รู้อารมณ์ รู้จิต ทำทั้งวัน ถ้าเผลอปุ๊บ มันก็จะกลับมาทรงได้ตามเดิม

    นี่ถือว่าเป็นผู้ทรง ฌาน แท้จริงครับ สู้ ๆ
     
  10. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เหมือนอย่างที่คุณ Pikzy บอกค่ะ เป็นการบูชา บุญก็มีอยู่แต่มันน้อยมากๆๆๆ แล้วทุกคนที่คุณเอ่ยมาไม่มีใครได้รับเลยค่ะ ถ้าอยากให้เขาได้จริงๆ คุณต้องเอาของนี้ไปใส่บาตรค่ะ แล้วอุทิศให้พวกเขาค่ะ เขาถึงจะได้แล้วคุณเองก็จะได้บุญด้วยเหมือนกัน

    ปล.แหม..ชอบคำนี้ของคุณจังเลย "กลับจากจ่ายตลอด" ว่างๆมาจ่ายตลอดแถวบ้านดิฉันบ้างนะคะ เผื่อเงินมันจะปลิวมาหา ฮาฮา
     
  11. Sailomsuksikee

    Sailomsuksikee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +573
    ...........................................................................................

    โทษทีครับผมชอบพิมพ์ผิดๆ ถูกๆ ครับ จ่ายตลาดครับ ไม่จ่ายตลอดแล้ว

    ปกติผมก็ทำทาน และ รักษาศิลห้าครบครับ และภาวนาเป็นปกติครับ แต่ทานนี้อาจจะน้อยบ้าง เพราะส่วนมากก็ให้ทานเป็นเงินกับพวกขอเงินบ้างตามถนน หรือทานอย่างอื่นที่เป็นที่ไม่ใช่เงินแล้วแต่กรณีหรือแล้วแต่คนครับ ส่วนทานที่จะนำไปถวายพระนั้นผมไม่ค่อยได้ไปทำเท่าไหร่ เพราะวัด ไทยที่เมลเบอร์น อยู่ไกลบ้าน เคยไปสองครั้งครับทีวัด แต่ไม่เจอพระท่านทั้งสองวันเลย วัดนี้มีพระองค์เดียวครับ ท่านเป็นพระลูกศิษหลวงปู่เทศ ที่ วัดหินหมากเป้งครับ เป็นพระชาวอังกฤษ พูดไทยได้ แต่มาจำำพรรษาที่เมลเบอร์น วัดออกจะไกลจากตัวเมืองสักนิด ส่วนวัดไทยอีกหลายที่ ตามความรู้สึกผมไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ครับ เพราะชอบพระทางปฏิบัติกรรมฐานมากกว่าพระบรรยาย ส่วนทำสังฆทานนี้ผมก็ทำเป็นปกติทุกปีที่กลับไทยครับ ผมทำสังฆทานหลายวัด และซื้อผ้าไตรถวายกับพระสงฆ์ด้วยครับ

    เพิ่มเติมอีกนิดครับ ผมสวดมนต์เป็นปกติครับ

    ของที่ผมได้บูชาพระ ด้วยผลไม้ และขนมนี้แม้จะน้อยมากๆๆ ผมว่างั้นผมก็คงทำต่อไปละครับ ยังงัยๆๆ มันก็มีคำ่ว่าบุญ แต่น้อยๆๆมากอยู่


    สายลม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2009
  12. ~อมริศา~

    ~อมริศา~ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +2,335
    อ่านเจอข้อความแบบนี้ทีไร น้ำตาตกในทุกทีเลยค่ะ
    ไหนๆก็ไหนๆแล้ว วันนี้ขอเปิดปมตัวเองซะที
    เพราะถ้าเป็นอย่างที่คุณMe บอกจริงๆ เราคงต้องร่ำลาเพื่อนๆไว้เลยล่ะ
    เพราะเราคงต้องลงนรกแน่นอน คงไม่ได้ไปที่ที่ตั้งใจหวังไว้แน่

    ยอมรับว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้นในชีวิต เกินครึ่งเป็นความทุกข์ที่เกิดจากบุพการี
    ที่หันหน้าเข้าพระธรรมได้ทุกวันนี้ เพราะหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้
    เพราะไม่ว่าจะอ่านหนังสือธรรมะเล่มไหน จะฟังคำสอนจากหลวงพ่อองค์ใด
    ผู้เป็นลูกต้องเป็นฝ่ายผิดอย่างเดียว เพราะทำให่พ่อแม่ร้องไห้ก็ไม่ได้
    ทำให้พ่อแม่เสียใจก็ไม่ได้ ทำให้พ่อแม่ทุกข์ใจก็ไม่ได้ พ่อแม่ทำเราได้ฝ่ายเดียวใช่มั๊ยคะ?

    อยากรู้ว่าถ้าใครเจออย่างเราจะทำอย่างไร
    เราเกิดมาไม่เคยพบหน้าพ่อเลย ส่วนแม่ก็รู้ว่าเป็นแม่เมื่อเราโตแล้ว
    ทั้งที่อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ เหมือนนิยายมั๊ยคะ
    แต่แปลกนะ เราก็รักแม่มาก ทั้งที่เรารู้สึกว่า แม่ไม่สนใจเราเลย
    ยายเป็นคนเลี้ยงเราและน้องๆ พออายุ11ปีถึงได้พบหน้าพ่อ

    พ่อกับแม่กลับมาอยู่ด้วยกันใหม่ ชีวิตช่วงนั้นเราเหมือนอยู่ในนรกเลย
    พ่อเป็นคนใจคอโหดร้ายมาก ฆ่าสัตว์สารพัดชนิดเอามาเป็นอาหาร
    ทั้งที่หน้าที่การงานดี อยู่ในรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง มีเงินเดือนก็มากอยู่
    แต่เราไม่เคยได้กินขนมนมเนยจากพ่อ พ่อมีข้าวให้กินอย่างเดียว
    พ่อบอกแค่นี้ก็ดีมากแล้ว(พิมพ์ไปน้ำตาร่วงไป)

    แค่นั้นยังไม่พอ ภาพที่เราเห็นประจำคือพ่อทำร้ายแม่
    พ่อจะกินเหล้าทุกวัน พอได้ที่สักพักก็เริ่มไล่ด่าเรียงตัวเลย
    โดยที่พวกเราก็ไม่รู้ว่าเราทำผิดอะไร ก็ได้แต่นั่งตัวแข็งกันทั้งแม่ทั้งลูก
    ยอมรับว่าเรารักและสงสารแม่มากๆ และก็รักและคิดถึงยายเราสุดๆ
    พ่อเราเห็นใครใส่บาตร พ่อก็จะด่าพระว่า
    "แม่ง..ไม่ทำมาหากิน ได้แต่เดินขอทานเค้า"

    กว่าจะข้ามผ่านคืนวันวันอันโหดร้ายมาได้ แต่ก็ยังมีเจ็บกว่านั้นอีก
    เราโชคดีมากๆที่มีสามีที่รักและดูแลเราดีมากๆๆๆๆจนทุกวันนี้
    ตั้งแต่ออกเรือนมาเรามีแต่ความสุขที่ไม่เคยพบในชีวิตมาก่อน
    แต่กรรมยังไม่หมด เล่าแล้วก็ต้องเล่าให้หมดเปลือก เป็นไงเป็นกัน
    ยังไงก็ต้องลงนรกอยู่แล้วนี่ จะได้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนอื่นๆ

    เวลาผ่านไปพ่อเราเริ่มเย็นลง ดีขึ้นในหลายๆด้าน
    เราก็มีความสุขนะได้เปิดใจคุยกับพ่อทุกอย่าง
    สำหรับเรากับพ่อ เรียกว่าได้เคลียร์กันพอสมควรแล้ว
    แต่กรรมที่ว่าได้ย้ายมาที่แม่เราแทน บางอย่างเล่ายากมากๆ

    ระหว่างที่อยู่กับพ่อ แม่เราไม่เคยซื่อสัตย์กับพ่อเลย
    แต่พ่อเราไม่รู้ แม่ให้เราปิดบัง และใช้บ้านเราเป็นที่นัดพบ
    เราขมขื่นมากๆ น้องๆเราก็เป็นสาวแล้วก็สวยด้วย
    แม่ก็ชักนำผู้ชายมีเงินมาให้หลายครั้งหลายหน
    จนมีอยูครั้งหนึ่ง แม่กับน้องต้องแย่งผู้ชายคนเดียวกัน ทุเรศมั๊ย!

    แม่เราสอนให้พวกเราโกหก แม่เราบังคับให้พวกเราแต่งตัวสวยๆ
    ไปกินข้าวกับผู้ชาย แต่เรารอดมาได้เพราะเรามีครอบครัวแล้ว
    น้องบางคนไม่กล้าขัดก็ต้องทำตามใจแม่ สารพัดที่แม่จะทำ
    บางครั้งเราไม่ไหวเราพูดออกไป ก็ทะเลาะกันใหญ่โต
    เชื่อมั๊ย ลูกๆทั้งสี่คนของแม่ล้วนเคยคิดฆ่าตัวตายเพราะพฤติกรรมของแม่
    เวลาพวกเราพี่น้องมาพบเจอคุยกัน
    ทุกคนล้วนจะต้องได้รับคำนินทาด่าว่าจากแม่อย่างเจ็บปวดถึงอีกคนเสมอ
    เราพยายามหนีห่างจากแม่ เพราะเรากลัว
    ทุกครั้งที่แม่มาจะมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจมาทุกครั้ง

    จนเมื่อครั้งล่าสุดเมื่อเดีอนที่แล้ว ตอนแรกมาก็พูดคุยกันดี
    หลานๆ(ลูกเรา)ก็อยู่ นั่งคุยกันไปไม่มีอะไร(แต่เราระแวง)
    พอสักพักเราไม่เห็นด้วยกับคำพูดของแม่เรื่องการทำแท้ง(น้องๆเราทำ)
    เรายืนยันว่าบาปมากๆแต่แม่เราไม่ยอมรับ เข้าข้างน้องๆ
    ลูกชายเราก็ช่วยอธิบายแต่แม่เราไม่ฟัง ด่ากราดไปหมด เสียงดังมาก

    เราขอร้องให้แม่เราหยุด แล้วพูดกันดีๆใช้เหตุผลมาคุยกัน
    แต่แม่เราตอนนั้นเหมือนผีเข้า เค้าไม่ฟังเราเลย
    หนำซ้ำออกไปยืนด่าหน้าบ้านให้ชาวบ้านได้ยิน
    ชี้หน้าด่าหลานจนหลานร้องไห้กันหมด
    ลูกชายเราทนไม่ไหวเลยบอกให้ยายออกไปจากบ้านเราซะ
    ยายมาทีไร เอาความทุกข์มาให้ทุกที หยุดทำร้ายแม่(หมายถึงเรา)ซะที
    ลูกๆเราเจอเหตุการร์อย่างนี้ประจำนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

    เราอดทนมาตลอดชีวิตทุกๆเรื่องโดยไม่มีคำตอบ
    เราขมขื่นและทรมานกับหลายๆเหตุการณ์โดยที่ไม่มีทางออก
    ใครช่วยบอกเราทีได้มั๊ยว่าทุกครั้งที่เราขัดใจแม่
    ทุกครั้งที่เราทำให้แม่ผิดหวังกับสิ่งที่แม่เราอยากให้ทำ
    เราเป็นคนเลวมากใช่มั๊ย!

    ถ้างั้นเราคงต้องลาเพื่อนๆกัลยาณมิตรทางธรรมทั้งหลายไว้เลย
    เส้นทางบนเรือน้อยลำนี้เราคงต้องลงแล้ว
    เราทะเลาะกับแม่มานับครั้งไม่ถ้วน บาปหนาขนาดนี้
    จะเป็นเพื่อนกับพวกคุณได้ยังไง?








     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2015
  13. Sailomsuksikee

    Sailomsuksikee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +573
    .........................................................................................

    ตอนผมอ่าน เชื่อไหมครับ ผมอ่านแบบนึกภาพตามและก็อ่านแบบทำนองน้ำเสียงร้องให้ไปด้วย คืออินกับอารมณ์

    คุณครับเห็นใจเหมือนกันครับ แต่มันต้องลาจากกันเลยหรือครับ ต้องมีทางออกที่ดีๆ ให้กับคุณบ้างล่ะครับ เีดียวพี่ Me, Myself กับคุณฝน ต้องมีทางออกดีๆ มาแนำำนำคุณบ้างละครับ รออ่านคำแนะนำจากท่านทั่งสองนะครับ

    เอาใจช่วยครับผม ลงเรือน้อยลำเดียวกันแล้วนี่ครับ เป็นกำลังใจให้ครับ

    สายลม
     
  14. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ใจเย็นๆนะคะคุณอมริศา เรื่องของเวรกรรมมันเป็นอะไรที่ซับซ้อนมากๆเลย บางทีเมื่ออดีตคุณอาจจะเคยเกิดเป็นแม่ของแม่คุณแล้วคุณทำอย่างนี้มาก็ได้ (สมมุติให้ฟังนะคะ) มาตอนนี้กรรมมันก็เลยให้ผล เพราะพระศาสดากล่าวว่าบุคคลที่พบเจอกันไม่ว่าในลักษณะไหน ก็แสดงว่าต้องมีกรรมเกี่ยวเนื่องกันมาก่อน ไม่ว่าจะกรรมดีหรือกรรมชั่วก็เหอะ ถ้าไม่มีกรรมเกี่ยวเนื่องกันก็จะไม่มีทางพบเจอกันได้เด็ดขาด

    กรรมจะหยุดอยู่ตรงไหน นั่นต่างหากละคะที่เราควรคิดถึง พระพุทธองค์กล่าวว่าถ้าผูกใจเจ็บอาฆาตแค้นกันไปเรื่อยๆ กรรมมันก็ต่อเนื่องกันไปทุกชาติๆแหละค่ะ ท่านถึงกล่าวไว้ว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ซึ่งเราก็ยังต้องรับผลกรรมในอดีตใช่ไหมคะ บางทีมันก็ทำใจยาก เข้าใจค่ะ

    ในกรณีของคุณมันก็ลำบากเหตุเพราะว่าแม่ของคุณไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย ดิฉันถามพระศาสดามาให้นะคะว่าจะทำอย่างไร ท่านว่าอย่างนี้ค่ะ

    ให้สวดมนต์ นั่งสมาธิ แล้วก็ขออโหสิกรรมกับแม่ของคุณพร้อมทั้งแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลให้แม่คุณบ่อยๆค่ะ อธิฐานขอให้แม่คุณเป็นคนดีได้เห็นถึงบาปบุญคุณโทษค่ะ ท่านว่ามันต้องใช้เวลานะคะ คิดว่าคุณก็คงไม่ท้อซะก่อน ส่วนเรื่องทะเลาะกันก็ให้พยายามหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด ท่านบอกว่าอย่าเอาจิตไปจับกับเรื่องที่เป็นอกุศลค่ะ ให้นึกถึงเรื่องที่เป็นกุศลให้มากๆ

    คุณอมริศาคะ ยังไงเราก็ไม่ทิ้งกันนะคะ บางคนเขาทำกรรมชั่วมากกว่าคุณเขายังไปนิพพานได้เลย อย่าคิดมากนะคะ ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ค่ะ ถ้าเราไม่วิ่งหนีปัญหานะคะ

    ปล.ชีวิตครอบครัวดิฉันก็น้ำเน่าพอๆกับคุณแหละ อย่าไปคิดมากค่ะ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
     
  15. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    ignorrถึงพี่อ้อ

    เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับหลายๆท่านไม่เฉพาะแต่คุณอ้อเพียงคนเดียวหรอกครับ
    การเกิดเรื่องแบบนี้เราเป็นลูกซึ่งเป็นผู้อาศัยบุญคุณพ่อแม่เกิดมาก็ต้องเคารพพ่อแม่และไม่ตำหนิพ่อแม่ครับ ไม่งั้นกรรมเราจะหนัก
    เรื่องนี้หากจะแก้ให้แก้ที่ใจครับ
    ใจเราไม่เป็นสุขใช่ไหมเพราะว่าเราโดนด่าโดนว่า
    แล้วถ้าเราโดนด่าโดนว่าอย่างไรแล้วเราก็ไม่ทุกข์ละมันก็แก้ได้ใช่ไหม
    อย่างที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำว่าไว้ว่าพระอรหันต์อยู่ที่ไหนก็สงบไม่ว่าอยู่ป่าอยู่บ้านหรือที่เสียงดัง เพราะว่าใจท่านสงบแล้ว
    อย่างพวกเราทั้งหลายยังไม่ถึงอรหันต์คงมีอารมณ์ความขุ่นมัวเข้ามากระทบเป็นธรรมดาครับ

    หากเราจะแก้ความคิดของการขุ่นมัวต้องแก้ที่เราครับ
    เราไม่โกรธเสียอย่างก็ไม่มีใครให้เราโกรธเราได้หรอกครับ
    กรรมทั้งหลายให้โทษตัวเราไว้เสมอ
    เราเป็นต้นเหตุแห่งกรรมนั้นเพราะว่าเราเองก็อาจจะทำเขามาก่อนแบบนั้นเสมอ

    เคยฟังประวัติสมเด็จโต พรหมรังสีไหมครับ
    มีครั้งหนึ่งท่านตัดสินพระลูกวัดต่อยกัน(เล่าย่อๆ)
    คนที่ถูกต่อยมาฟ้องว่าผมถูกต่อยท่านจะตัดสินอย่างไร
    ท่านก็บอกว่า ทำกับเขาก่อนก็ย่อมถูกต่อยตอบ
    พระรูปนั้นก็โมโหว่าเขาไม่ได้เริ่มต่อยก่อนเลยไปฟ้องสมเด็จวรรณรัตน์
    สมเด็จวรรณรัตน์ก็ถามสมเด็จโตว่าท่านตัดสินแบบนี้ได้อย่างไร
    สมเด็จโตก็บอกว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกว่าเหตุที่ถูกทำเพราะทำเขามาก่อน หากไม่เคยทำเขามาก่อนเมื่ออดีตชาติก็ไม่มีทางจะถูกกระทำคืน

    สมเด็จวรรณรัตน์ก็ถามว่า แล้วท่านจะตัดสินให้ใครผิด
    สมเด็จโตก็ตอบว่า ผมผิดเองที่สั่งสอนพระลูกวัดไม่ดี ผมขอรับผิดเพียงผู้เดียว

    นี่แหล่ะพี่อ้อ อย่ามัวเพ่งโทษพ่อแม่อยู่เลยเราเองต่างหากที่ผิด หากเราไม่เคยทำกับท่านมาในอดีตชาติมีหรือท่านจะทำกับเราแบบนี้ได้

    ignorr
     
  16. classic songs

    classic songs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +896
    พี่อมริศาคะ หนูขออนุญาตสนทนาในเรื่องที่เกี่ยวกับพี่นะคะ หนูขอเป็นกำลังใจให้พี่ค่ะ

    หนูคิดเอาเองถึงคำว่า ทุกขัง ตราบใดที่สัตว์โลกยังไม่เป็นอรหันต์ สัตว์นั้นย่อมมีทุกข์ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งค่ะพี่

    คุณพี่อาจจะไม่สมหวัง มีความรู้สึกขาดความอบอุ่นจากคุณพ่อคุณแม่ ส่วนคนอื่น เค้าก็ทุกข์ในเรื่องอื่นๆของเค้า
    อย่าว่าแต่พ่อแม่พี่ซึ่งค่อนข้างแข็งกร้าวเลยนะคะ พ่อแม่หนูขนาดท่านทำให้หนูเจ็บช้ำน้ำใจน้อยครั้งมาก
    ในอดีตบางครั้งหนูไม่พอใจ หนูยังนึกติเตียนท่านในใจแรงๆเลย มีไปเม้ากับเพื่อนด้วย นี่แน่ะ เลวซะไม่มีค่ะพี่
    แต่ตอนนี้หนูสำนึกได้แล้ว

    ซึ่ง พี่ไม่ผิดเลยค่ะที่จะนึกโกรธ ไม่พอใจ เสียใจ ถ้าหนูเป็นพี่ก็คงเป็นเช่นกัน

    หนูขออนุญาตสนทนากับพี่ในแง่ต่างๆเหล่านี้นะคะ

    1. พี่มีความช้ำใจ อาจจะโกรธพ่อแม่ด้วย ก็เป็นธรรมดาค่ะ
    สมุทัยแห่งทุกข์นี้ ก็น่าจะเป็น พฤติกรรมของพ่อแม่ และความยึดเหนี่ยวแห่งจิตของเราด้วย เพราะเรามีปมขาดความอบอุ่น

    สมุทัย ด้านพ่อแม่นั้นแก้ได้ แต่ยากกว่า ส่วนสมุทัยด้านจิตเราเองนั้น ทำได้ง่ายกว่าค่ะ ค่อยๆปลง ค่อยๆละเถิดนะคะ

    พระอาจารย์หลายท่านสอนให้พิจารณาทุกสิ่งว่าเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และสอนให้พิจาณาอีกหลายอย่าง
    คุณพี่ ลองศึกษาวิธีพิจารณาปลงใจดูนะคะ
     
  17. classic songs

    classic songs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +896
    2. หลวงพ่อจรัญ วันอัมพวัน ท่านเคยกล่าวไว้ว่า
    การทำให้พ่อแม่เกิดสัมมาทิฏฐิ ทำให้พ่อแม่ขาดจากมิจฉาทิฏฐิ เป็นการตอบแทนคุณอันประเสริฐที่สุดค่ะ

    เมื่อคุณพี่มีจิตใจที่แจ่มใสขึ้นแล้ว ค่อยๆลองหาหนทางช่วยพ่อแม่พี่ดูสิคะ
    อาจจะสำเร็จหรือไม่ นั่นไม่สำคัญ สำคัญที่พี่ได้แสดงกตัญญูกตเวทีแล้ว ได้พยายามแล้วค่ะ

    การแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลที่พี่ Me myself ท่านแนะนำไว้ น่าจะเป็นอีกทางหนึ่งที่สำคัญ

    3. ความสิ้นสุดในกุศลธรรม

    เคยอ่านมาว่า สัมมาทิฏฐิคือการเห็นถูกต้องว่ากรรมใดเป็นกุศล / อกุศล

    หนูเองไม่ใช่ผู้แตกฉานอะไร แต่ที่พี่กลัวจะทำให้พ่อแม่เสียใจนั้น
    หนูขออนุญาตเรียนว่า ให้ตัดสินสิ้นสุดในกุศลธรรมบท 10 เลย ดีมั้ยคะพี่
    เมื่อใดที่ปฏิบัติได้ตามนี้แล้ว ย่อมถือเป็นกุศล เป็นที่สุด

    แน่นอนค่ะพี่ มันทำไม่ง่ายหรอก จะพูดความจริงตลอดต้องมีวิธีแยบคายตั้งเยอะ
    แต่ก็สามารถเป็น guide line ให้เราได้อย่างดีนะคะพี่

    ก.การกระทำทางกาย 3
    1.ละการฆ่า การเบียดเบียน มีเมตตากรุณาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
    2.ละการลักทรัพย์ เคารพกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของผู้อื่น
    3.ละการประพฤติผิดในกาม ไม่ล่วงละเมิดประเพณีทางเพศ
    ข.การกระทำทางวาจา 4
    4.ละการพูดเท็จ ไม่ยอมกล่าวเท็จเพราะเหตุตนเอง ผู้อื่น หรือเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ใดๆ
    5.ละการพูดคำส่อเสียด ช่วยสมานคนที่ แตกร้าวกัน ส่งเสริมคนที่สมัครสมานกัน ชอบกล่าวถ้อยคำที่สร้างสามัคคี
    6.ละคำหยาบ พูดแต่คำสุภาพ อ่อนหวาน
    7.ละการพูดเพ้อเจ้อ พูดแต่คำจริง มีเหตุผล มีสารประโยชน์ ถูกกาลเทศะ
    ค.การกระทำทางใจ 3
    8.ไม่เพ่งเล็งอยากได้ของผู้อื่น
    9.ไม่มีจิตคิดร้าย คิดปรารถนาแต่ว่าขอให้ สัตว์ทั้งหลายไม่มีเวร ไม่เบียดเบียน ไม่มีทุกข์ ครองตนอยู่เป็นสุขเถิด
    10.มีความเห็นชอบ เช่นว่า ทานมีผล ผลวิบากของกรรมดีกรรมชั่วมี เป็นต้น


    ======= ขอให้พี่มีจิตใจผ่องใสขึ้น มีสติปัญญารู้พร้อมในธรรมทั้งหลายนะคะ สู้ๆค่ะ ======
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2009
  18. naruphos

    naruphos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +1,737
    สู้ต่อไปครับพี่อมริศา มีพี่ๆในห้องนี้คอยให้คำปรึกษาอยู่ครับ
     
  19. โครตภู

    โครตภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +3,631
    มีอะไรก็ระบายมาทางนี้ให้หมดได้เลยครับ ผมคิดว่าพวกเราทุกคนในกระทู้นี้ ยินดีและพร้อมเสมอที่จะพูดคุยกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน หาทางช่วยเหลือซึ่งกันและกันครับ ท่านอื่นมีอะไรก็เล่าสู่กันฟังได้ครับ เพราะเรามีกรรมเกี่ยวเนื่อง ผูกพันกันมาแต่อดีตชาติ และที่สำคัญเรามีจุดหมายปลายทางเดียวกันครับ ฉุดกันไปดึงกันไปไม่ช้าก็ถึงแล้วครับ...เอกันตบรมสุข

    คิดซะว่าใช้เวรใช้กรรมกันเป็นชาติสุดท้าย !!!

    ...เอกันตบรมสุข...
     
  20. naruphos

    naruphos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +1,737
    ตัดโฆษณานิดครับ

    วันนี้ใครดูเรื่องจริงผ่านจอบ้างครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...