ใครก็ได้ช่วยชั้นที แต่ละครั้งที่เป็นมันช่างทรมานนัก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย porn, 10 มิถุนายน 2009.

  1. porn

    porn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +78
    ชั้นคิดว่าใครบางคนที่นี่อาจช่วยชั้นได้.....ทุกครั้งที่เป็นมันทรมานเหลือเกิน ทุกข์ที่เกิดจากสภาวะจิตอย่างหนึ่ง บางคนเรียกมันว่า "จิตตก"
    มันเป็นความลึกลับที่เกิดขึ้นในชีวิตของชั้น วันนี้นับย้อนกลับไปเป็นเวลาห้าปีมาแล้วซินะ วันนั้นชั้นจำไม่ได้หรอกว่ามันเป็นวันอะไร รู้แต่ว่ากลางดึกคืนหนึ่ง อยู่ๆชั้นสะดุ้งตื่นขึ้นมาเฉยๆ มองไปที่นาฬิกาพบว่ามันเป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี ห้องทั้งห้องดูเวิ้งวาง บรรยากาศวังเวงจนความรู้สึกหดหู่เข้ามาจู่โจมเข้ามาในจิตใจของชั้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ชั้นขยับตัวไปจนชิดมุมห้องด้านหนึ่งนั่งกอดเข่าของตัวเองไว้ จู่ๆก็อยากร้องไห้ขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ (มันก็ไม่มีสาเหตุตั้งแต่สะดุ้งตื่นแล้ว) ชั้นร้องไห้สะอึกสะอื่นอยู่คนเดียวภายในห้องเช่าเล็กๆ รู้สึกหวาดกลัวความมืดขึ้นมาเฉยๆ ชั้นไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นและชั้นกำลังหวาดกลัวอะไรอยู่

    อาจเป็นเพราะเงาแห่งเจ้ากรรมนายเวรได้พาดผ่านเข้ามาในชะตาชีวิตของชั้นก็เป็นได้ วันรุ่งขึ้นใครคนหนึ่งโทรศัพท์มาบอกลาชั้น และนั่นทำให้ชั้นเข้าใจว่าความทุกข์กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอาจเป็นการบอกเหตุ!!

    จากวันนั้นเรื่องราวความทุกข์ต่างๆ ก็เริ่มถาโถมเข้ามา แรงขึ้น และแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ชั้นยังมีที่พึง คือ พระรัตนไตร

    ความทุกข์ที่สุดแสนจะทรมานจิตใจเหมือนตกอยู่ในนรก ทั้งๆ ที่ร่างกายของชั้นยังคงแข็งแรงดี นี่กระมังที่เขาเรียกว่า ตายทั้งเป็น

    สองปีเต็มกับความอดทนอดกลั้น ชั้นผ่านมันมาได้เพราะ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และสิ่งศักดิ์ทั้งหลาย ชั้นเชื่ออย่างนั้น เพราะสิ่งที่ได้รับหลังจากที่ต้องทนทุกข์มานาน มันมากกว่าที่ชั้นเคยหวังมากมายนัก

    แต่ชั้นเข็ดขยาดกับความทุกข์ ชั้นรู้สึกเบื่อหน่ายกับความสุขที่เกิดขึ้นเป็นพักๆ แล้วจางหาย......

    ทุกวันนี้ชั้นน่าจะได้ใช้คำว่า "สบายดี" ตามอัตภาพ แต่มันก็ไม่!?!!?

    ชั้นกลับมีอาการแปลกประหลาดลึกลับเกิดขึ้นกับชั้นตลอดมา มันมีอาการคล้ายกับเกิดรางสังหรณ์ แต่มันไม่ใช่ เพราะทุกครั้งที่ชั้นต้องทุกข์ทรมานคิดว่ามันคือรางสังหรณ์ ชั้นหวาดกลัว ใจคอสั่นหวั่นไหว วิตกไปต่างๆ นานา หาสาเหตุไม่เคยพบ คิดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นไหมหนอ แต่แล้วมันก็ไม่ได้มีอะไร สักพักจู่ๆ ชั้นก็เกิดความสบายใจขึ้น แล้วใช้ชีวิตตามปกติ และวันดีคืนดี ชั้นก็ไปเกิดอาการประหลาดนั้นอีก ห้าปีแล้ว ชั้นไปทำกรรมอะไรไว้ มีสักคนหนึ่งไหมที่สามารถทำให้ชั้นรู้สึกกระจ่างได้

    มันคือเรื่องจริง และชั้นยังคงหวังว่าจะพบกับความกระจ่างใจเสียที
     
  2. porn

    porn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +78
    สวัสดีค่ะ คุณพายะทะเลทราย

    ก็พอเข้าใจนะคะ ใช่ว่าจะไม่เคยมีใครให้คำตอบ และไม่เคยมีใครชี้นำ
    บุญก็ทำบ่อยๆ ค่ะถ้ามีโอกาส สมาธิก็ฝึกอยู่ได้พอประมาณค่ะ ไม่เห็นได้ผลซะที
     
  3. porn

    porn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +78
    ยินดีทดลองค่ะ ถ้ากำลังสติปัญญาพอจะไปตามทางแก้ของคุณได้

    แต่บางทีคนเราก็ไม่มีปัญญามากพอที่จะแก้โจทย์บางโจทย์ได้ ทั้งๆ ที่รู้วิธีแก้ค่ะอันนี้ต้องขอออกตัวไว้ก่อน
     
  4. porn

    porn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +78
    ยินดีทดลองค่ะ ถ้ากำลังสติปัญญาพอจะไปตามทางแก้ของคุณได้

    แต่บางทีคนเราก็ไม่มีปัญญามากพอที่จะแก้โจทย์บางโจทย์ได้ ทั้งๆ ที่รู้วิธีแก้ค่ะอันนี้ต้องขอออกตัวไว้ก่อน
     
  5. porn

    porn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +78
    รู้ มันไม่ใช่คิดว่ารู้ไม่ใช่หรือค่ะ (ล้อเล่นน่า)

    ที่พูดเพราะกลัวคนพยายามจะช่วยเสียกำลังใจไปก่อนน่ะคะ เพราะทำมาหลายวิธีแล้วมันไม่ได้ผล บอกมาเถอะค่ะ ถ้าซ้ำวิธีก็จะบอกว่าซ้ำค่ะ

    อยากบอกตรงๆ ว่าเรามันโง่ บางทีคนสอนๆ ไปก็ทำไม่ได้อยู่ดี อยากให้คนสอนทำใจไว้ก่อนตากหากละคะ
     
  6. tenis

    tenis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    343
    ค่าพลัง:
    +1,228
    ลองไปตรวจแผนกจิตเวชดูหน่อยไหมคะ
    มีน้องที่รู้จักสองคน
    คนแรก เป็นอาการสารในสมองบางอย่างขาดหายไป กินยาแล้วดีขึ้น
    ทำนองโรคซึมเศร้า (แต่มันหลายแบบ)
    คนที่สอง ตอนแรกไปหาหมอจิตเวชอยู่สามปี (โดยประมาณ )
    เป็นรุนแรงมากเหมือนกัน บางทีก็กรี๊ด บางทีก็นั่งร้องไห้ทั้งวัน

    ต่อมาพออาการดีขึ้น มีโอกาสไปหาหมอจีน หัวเฉียว ก็ปรับยาเป็นระยะ ๆ
    จากเดิมจ่ายค่าหมอฝรั่งเดือนละ เกือบ 2 หมื่น ของหมอจีน เดือนละ 2 พัน
    ต่อมาหลังสุด ใช้วิธีทำบุญ ทำกิจกรรมที่ชอบผ่อนคลายคู่ไปด้วย

    ลองดูนะคะ
     
  7. apisitTre

    apisitTre Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +60
    จิตเป็นใหญ่ทุกอย่างอยู่ที่จิต จิตคิดว่าตก ก็ตก จิตคิดว่าตื่นสดใส มันก็สดใส เลิกจับว่ามันตก ถ้ามันตกก็แอบดูมันว่าตกแล้วเราเป็นอย่างไร จิตมันเป็นอย่างไร แต่อย่าผสมโรงไปกับมัน เฝ้าดูมัน
    จิตเสพความคิดเป็นอารมณ์ ย้ายจิตไปไว้ที่ฐานใหม่ เช่นลมหายใจตัดความคิดต่างๆนานๆ ออก อารมณ์ไม่เกิด แรกจะรู้สึกอยากและอึดอัด เพราะเราคิดมันตลอดตั้งแต่จำความได้ จิตและความคิดจึงเกี่ยวกันแน่นเสมือนเป็นสิ่งเดียวกัน เมื่อเริ่มชำนาญความคิดจะน้อยลง จิตย้ายมาอยู่ที่ฐานใหม่แล้ว อารมณ์ต่างจะมาทำร้ายเราก็น้อยลงไปด้วย
    เจ้ากรรมนายเวรก็เป็นเรื่องของเขาถึงวาระเขาก็มาของเขาเป็นปกติ เพราะเราเคยล่วงเกินเขามามันเป็นธรรมดาทุกคนก็ต้องพบเจอไม่มีใครหลบได้หรือหนีพ้นมันได้ สิ่งที่เราควรเข้าใจคือเราขออโหสิกับทุกกรรมที่เคยทำต่อเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย เขาจะอโหสิให้เราหรือไม่ ไม่ต้องไปสนแต่เราอโหสิให้เขาเหล่านั้นแล้ว แล้วให้ทำบุญกุศลอุทิศให้เขาสมำเสมอ แล้วกล่าวอโหสิกรรมอย่าได้ขาด แล้ววันใดวันหนึ่งเขาจะเข้าใจแล้วอโหสิกรรมให้เราเช่นกัน เราเคยโกรธใครใหม แล้วนานใหมกว่าเราจะหายโกรธแล้วยกโทษให้ มีบางรายเราอาจไม่เคยคิดยกโทษให้เลยก็ได้ เจ้ากรรมนายเวรก็เช่นกันแต่ละผู้แต่ละคนมีความแค้นฝังใจไม่เท่ากัน หากเราโกรธใครจนไม่ให้อภัย เมื่อเราตายไป ก็ไปเป็นเจ้ากรรมนายเวรเขาเช่นกัน สิ่งสำคัญที่สุดในช่วงเวลาที่เรายังมีชีวิตอยู่จงให้อภัยกันและกล่าวอโหสิกรรมต่อกันดีกว่าเพื่อตัดรอนภพชาติ ที่จะต้องมาตามเอาคืนกันอยู่รำไปไม่จบสิ้น ดั่งที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้กล่าวไว้ในเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฎ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2009
  8. porn

    porn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +78
    สวัสดีค่ะ คุณ tenis , คุณ tro

    คุณ tenis คะเราอยากไปหาหมอตามที่คุณแนะนำเหมือนกัน แต่ค่าปรึกษามันไม่น้อยเลยเน้อ จน(จริงๆ)ใจค่ะ
     
  9. konngaam

    konngaam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2008
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +369
    ในเมื่อไม่สามารถแก้ด้วยตัวเองแล้ว
    น่าจะลองไปปรึกษา กับจิตแพทย์ดูก่อนนะครับ
    บางครั้งด้านจิตใจ วิทยาศาสตร์ ก็สามารถช่วยได้
    ขอคำปรึกษา แรกๆก็ไม่น่าจะแพงมากนะครับ
     
  10. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    ลองไปเที่ยวทะเล ลมเย็น หาดทรายอุ่นๆนะ นอนให้คลื่นซัดตัวโยกไปมา
    เอามือจับน้ำแล้วก็เอามาเลีย ว่ามันเค็ม

    แล้วก็กินไข่ปลาหมึกปิง น้ำจิ้มเปรี้ยวหวานเผ็ด

    ใช้เทคนิคสร้างมโนภาพแบบพวกสะกดจิตก็ดี แต่ได้ไปทะเลจริงๆก็ดีมากเลย ฮี่ ฮี่

    ไปสักสัตหีบก็พอ น้ำใสนะ ตามโขดหินมีปลาด้วยน๊าก้าบ
     
  11. porn

    porn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +78
    ต้องขอโทษคุณ พายุทะเลทราย ด้วยนะคะหากคำพูดบางคำทำให้คิดเช่นนั้น คือว่า เราเป็นคนพูดไม่เก่งค่ะ (ออกจะกลัวๆ คำพูดของตัวเองจริงๆ ด้วยแหละ) ปกติก็ไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว -_-'

    สวัสดีค่ะ คุณ apisitTre
    คำแนะนำของคุณเคยมีคนบอกเราแล้ว แต่ทำได้เฉพาะตอนที่ไม่มีอาการป่วย(ขอบอกว่าป่วยก็แล้วกันนะคะ) พอมันเกิดอาการป่วยขึ้นมามันก็กระเจิดกระเจิง รึอาจเป็นเพราะตัวเองเป็นจนจับจดฝึกทำไปแต่ไม่ชำนาญก็เป็นได้ค่ะ (กำลังใจน้อยทำอะไรไม่ค่อยสำเร็จเค้าเรียกว่าไม่มีบารมีใช่รึเปล่าค่ะ Y_Y)

    สวัสดีค่ะ คุณkonngaam
    ตอนนี้เกิดกล้าๆ กลัวๆ ขึ้นมาเหมือนกันนะคะ หมอจะจับฉีดยาแล้วกลายเป็นคนบ้าแทนที่จะเป็นโรคจิตน้อยๆ อย่างปัจจุบันมั้ยคะ -_-' วิตกจริตอีกอย่างนึงแล้ว
     
  12. porn

    porn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +78
    สวัสดีค่ะ คุณ Bull psi

    เป็นวิธีที่ลองทำเสมอตอนเกิดอาการค่ะ แต่ไม่ได้ไปเที่ยวนะ เหมือนการมานั่งคุย และได้รับความเมตตา ความรู้สึกดีๆ จากทุกคนในตอนนี้ก็ช่วยให้ดีขึ้นมากเชียวค่ะ (แต่ไม่รู้ว่ากลับบ้านไปแล้วมันยังจะกำเริบขึ้นมาอีกมั้ยนะซิ)
     
  13. konngaam

    konngaam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2008
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +369
    ผมว่าจิตแพทย์หน้าที่ของเขาคล้ายๆกับที่ระบายนะครับ
    คุณจะสามารถพูดอะไรหลายๆอย่างได้ที่นั่น
    ผมเชื่อว่า หมอจะช่วยให้คุณสบายใจขึ้นได้แน่นอนครับ
    ปัจจุบันนี้การไปหาจิตแพทย์ก็เป็นเรื่องปกติไปแล้ว ด้วยสภาวะทางสังคม
    ยังไงก็รวบรวมความกล้าไปพบจะดีกว่า ถ้าวันนี้คุณยังคิดว่าวันอื่นค่อยไป
    ในวันหน้าจะทำให้การไปพบจิตแพทย์นั้นยากขึ้น
     
  14. apisitTre

    apisitTre Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +60
    จงเข้มแข็งนะ อย่าแพ้พ่ายต่ออารมณ์
     
  15. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    งั้นลองสมถะกรรมฐาน นั่งภาวนาเข้าพุท ออกโธ อารมณ์ไว้เพียงลมหายใจเข้าออก
    อย่างอื่นละหมด ไม่สนใจ

    เมื่อลมหายใจจับไม่เจอ เอาความทุกข์ที่ว่านั่นมาพิจารณาหาต้นเหตุผล
    หรือที่เรียกว่าปฎิจจสมุปบาท

    แล้วก็พบว่ามันเป็นทุกข์จริงๆแฮะ
    มันไม่เที่ยงเลยหนอ
    แล้วมันก็ อนัตตา ว่างเปล่าไม่มีไรเลย จะทุกข์ไปไมนี่

    หรือทำอะไรเพื่อคนอื่นเช่นช่วยคนตาบอดข้ามถนน
    หรือช่วยคนที่เค้าต้องการความช่วยเหลือ
    เป็นตัวตั้งตัวตีในการชวนคนอื่นทำบุญ แล้วจารับรู้ได้ด้วยหัวจาย
    กุ๊งกิ๊ง กุ๊งกิ๊ง วิ๊ง วิ๊ง ซาบซ่า
     
  16. konngaam

    konngaam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2008
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +369
    ผมคิดว่าถ้าได้พูดคุยกับใครซักคนที่สามารถรับรู้เรื่องที่คุณพูดด้วย ก็ช่วยได้นะ
     
  17. v.mut

    v.mut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2006
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +274
    อึม ภูมิจิตใช่ได้ หากรู้จักพัฒนา รักษาจิตให้อยู่ในครรลองที่ ถูกที่ควรแล้วจะ พัฒนาไปได้

    สิ่งที่ประสบนั้น มันก็อาจดูพิสดาร แต่แท้จริงแล้วไซร์ มีมากมายเกินกว่าจะกล่าว หากรุ้จักวางจิตวางใจให้ เป็นธรรมดา ก็จะรู้และ พัฒนาตนให้ยิ่งๆ ขึ้นไปอีก สิ่งที่ไม่ธรรมดา มัน ก็ธรรมดา สิ่งที่ยิ่งแล้ว ก็ยังมีที่ยิ่งกว่า

    ความสันโดษ เป็นสิ่งดี แต่ผู้คนนั้น กลับมิได้มองหาความสันโดษ แต่กลับทุกข์ทรมานเมื่อยามต้องตกอยุ่ภายใต้สภาวะแห่งความ สันโดษ สันโดษ ย่อมประกอบด้วย ความสงัด
    เงียบ ซึ่งมักจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นที่นิยมชมชอบของ คนสมัยนี้ เอาเสียเลย

    โลกุตระธรรมนั้น เป็นไปเพื่อความ สงบ สงัด วิเวก สันโดษ สิ่งใดก็ตามมิได้เพื่อความเป็นไปในสิ่งนี้ ก็ย่อมไกลห่าง หนทางแห่งความ พ้นไป ความสับสนของบุคคลบ้างประเภทโดยเฉพาะยุคนี้ บางที่ มันก็งง กับตัวเอง สภาพสังคมที่อาศัยอยู่ ก็อีกอย่าง แต่สภาพจิตเดิมแท้ใต้สำนึกเรา ก็อีกอย่าง ความไม่แจ้งใจก็สามารถนำพาความสับสนแก่ตนได้

    จิตใจที่ ตั่งมั่น มีกำลัง มิถูกนิวรณ์ธรรม ครอบงำ หรือแม้นครอบงำ ก็มินาน ย่อมมีคุณภาพ
    อวิชา ถ้าภาษาทั่วไป คือ ความไม่รุ้ มืดบอดในสิ่งใด ก็มีอวิชชาในสิ่งนั้น เมื่อมืดบอดในสิ่งใด เมื่อความคลุมเคลื่อในสิ่งในปรากฏ ความมิแจ้งแก่ใจ ก็ย่อมมีเป็นธรรมดา สิ่งตามมา คือ ความลังเล และ ความ หวาดหวั่นอยุ่ภายใน ความมิรู้ก็ย่อมมักขยายตัวออกไปตามลำดับ ด้วย สังขารแห่งการ ปรุงแต่ง ซึ่ง ก็ประกอบด้วย อวิชชา อีกนั้นแหละ มันจึง วกวนเวียน เปรียบประดุจ ยืนอยุ่ท่ามกลางหมอกควัน ที่ไร้ทิศไร้ทางที่จะไป

    ความตั่งมั่น ศรัทธา ในสิ่งที่ถูกควร จะน้อมนำไปในทางที่ถูกที่ควร

    ขึ้น อยุ่ วาสนา วิบาก

    อย่างไรก็ตามที่ เจตจำนงค์ภายในพึงค้นหาให้เจอ เมื่อเจอ ความ อดทน อดกลั่น และ ความ วิริยะ ดำเนินไปตามปรารถนา ก็ย่อมจะสำเร็จสักวัน
     
  18. murano

    murano Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +57
    หมายถึง วิตกจริต ?
    วิธีครอบจักรวาลเห็นจะเป็น ฝึกกสินโดยใช้การมองพระพุทธรูป เขาเรียก พุทธานุสติ ใช่ป่ะ ลองดูจิ
     
  19. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    อานาปานนุสติ มีผลต่อต้าน อาการวิตกกังวล โดยเฉพาะ
    ทันทีที่ทรงฌานในอานาปานนุสติ ได้จริงๆ(ไม่ใช่จินตนาการว่าทรงได้) แม้แค่ ฌาน1
    อาการวิตกกังวลใดๆทั้งปวงในจักรวาล จะไม่มีมทางมารบกวนคนทรงฌานท่านนั้นได้
    ...ยืนยัน ...ฟันธง

    ...จริง ที่ฌานโลกีย์ ระงับอาการได้แค่เพียงชั่วคราว
    แต่... ถ้า... ยังดูหนังฟังเพลง...ได้
    อยากมีผัวมีเมีย...ได้
    กินชากาแฟ...ได้ บางท่านสูบบุหรี่ดื่มสุรา..ได้
    จะเดือดร้อนอะไร กะแค่หัดทรงฌานให้ชำนาญ
    จะไม่ยอมทำ เพราะเหตุที่ว่ามันเป็นแค่หินทับหญ้า ฟังไม่ขึ้น

    ถ้ายิ่งมีความรู้เรื่องจิตวิญญาณมาก
    แล้วกลายเป็นคนวิตกกังวล พิกลพิการ ทั้งๆที่แขนขาก็มีไม่ได้ง่วยเปลี้ยเสียขา
    กลัวโน่น กลัวนี่ ปฏิบัติกิจวัตรตามปรกติที่หน้าที่ของตนพึงกระทำไม่ได้
    ลูกเด็กเล็กแดงตาสีตาสาไม่ต้องอกสั่นขวัญแขวนกันหมทดเหรอ

    ตำรวจ ทหาร ที่เค้าอุทิศชีวิตระแวดระวังภัยให้
    ไม่ต้องสูญเสียไปเปล่าๆเปลืองๆเหรอ

    ถ้ามีอาการวิตกกังวลเกิดขึ้นแบบไม่เข้าท่า
    ประ๖ุหน้าต่างก็ปิดแล้วมิดชิด
    บางที่อยู่ในความคุ้มครองของคนที่ก็น่าจะเป็นที่ไว้ใจได้
    ยังมีอาการประสาทแดกจนได้
    เสียโอกาสในชีวิตไปเปล่าๆปลี้ๆ

    ถึง อานาปานนุสติ จะไม่ใช่คำตอบของทุกๆเรือง ทุกๆปัญหา

    แต่ยืนยันว่า วิตกกังวล
    อานาปานนุสติ จนทรงฌานได้อย่างน้อยปฐมฌาน แก้ได้แน่นอน

    อย่าพยายามสนใจว่าอะไรคือฌาน
    เพราะถ้าไปสนใจ ไปตามทวนมัน มันหนีหายไปหมดแหละ
    มันทรงได้มันทรงเอง ไม่ต้องไปยุ่ง
    มีหน้าที่ทำอานาปานนุสติเท่านั้น ฌานเป็นแค่ของแถมมันมาเอง ห้ามไปกะเกณฑ์
     
  20. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ท่านที่ยังอยู่ในขอบข่ายของฌานโลกีย์
    ก็คือคนอย่างเราๆท่านๆนี้แหละที่ไปทรงฌานเข้า

    ฌานโลกีย์มีลักษณะเสื่อมไปเองในที่สุด
    โดยเฉพาะตอนร่างกาย ป่วยไข้ ไม่สบาย
    เหนื่อย หรือเพลียมากๆ หิวมากๆ
    ถ้าอาการทางกายหนักแค่พอประมาน
    ฌานที่เคยทรงได้ ทั้งนานและละเอียด มีคุณภาพแค่ไหน ก็ออกทะเล

    ส่วนที่ครูบาอาจารย์ท่านเล่าว่า ฌานของพระอริยะเจ้า ของท่านจะไม่เสื่อม
    ก็ไม่ทราบว่าอะไรคือฌานของพระอริยะเจ้า
    เพราะไม่ใช่พระอริยะเจ้า และ "เสื่อม"

    ดังนั้นหากได้ยินคนห้าม ไม่่ให้ทรงฌาน ในอานาปานนุสติ
    ด้วยเหตุผลว่า จะทำให้ไม่สามารถวิปัสนาได้ "ฟังไม่ขึ้น"

    เดี๋ยวมันก็เสื่อม ก็เอาความเสื่อมมันวิปัสสนา สิ

    อย่าให้พวกเต็มเปี่ยมไปด้วยความง่าว ออกมาเพ่นพ่านนักเลย
    แก้อะไรให้ก็ไม่มีวันหาย

    ไม่เกี่ยวกับศาสนา ไม่เกี่ยวกับเชื้อชาติ ไม่เกี่ยวกับสถาบัน ไม่เกี่ยวกับภูมิประเทศ
    คนจ๊าดง่าวพวกนี้ เปลี่ยนวันเวลา เปลี่ยนศาสนา กี่กัปล์กี่กัลป์ก็เหมือนเดิม
    อุดมไปด้วย...หวึ่ยยยย

    คุณดูผมเป็นตัวอย่างก็ได้
    วันเวลาช่วยอะไรได้มะ ถาวรและเหนียวแน่นมาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...