ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ถึงคุณcookieberry
สวดคาถาเงินล้านให้ขลังต้องตั้งจิตทำสมาธิให้นิ่งมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ช้า-ช้า-ช้าทีละคำๆๆ ยิ่งสมาธิดียิ่งเห็นผลเร็ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกรรมเก่าของตนเองด้วยว่าหนักแค่ไหน ต้องท่องเรื่อยๆจนกว่าผลบุญจะรวมตัวและส่งผล ศีล5 อย่าขาดเด็ดขาด ยิ่งช่วงดวงตกยิ่งต้องทำให้ได้ สวดทุกวันทั้งวันๆ อีกอย่างนะครับอย่าใจร้อนอย่าร้อนใจ คนดวงตกจะร้อนใจทุกคนเหมือนลิงแก้แหยิ่งร้อนใจยิ่งแก้ก็ยิ่งติดหนักมากขึ้น ต้องทำใจยอมรับผลกรรมนั้นเราทำตัวเองทั้งนั้นไม่มีใครทำเราหรอก โวยวายไปก็ไม่มีใครช่วยได้ ต้องช่วยตัวเอง ตั้งสติใหม่ครับ ที่พูดมาผมโดนมาหมดแล้วครับ เอาใจช่วยนะครับ ยากครับแตคุณcookieberry ทำได้แน่ แล้วเมื่อผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้จะเหมือนการเกิดใหม่ครับ และดีกว่าเก่าด้วย รับรอง

 

พี่ Me myself - ชั่วโมงนี้..งานเข้า!! ฮ่าๆๆ

ขอบอกว่าใจจริงแล้วอยากพบพี่มากๆ รวมถึงท่านอื่นๆในที่นี้ด้วย
คิดเอาเองอีกแล้วว่า หากได้พบพูดคุยกับผู้ที่ปฏิบัติได้ผลจริงๆตัวจริง
ถือเป็นวาสนาอย่างมาก

อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าหากไปทำกิจกรรมด้วยกันจริงๆ
ส่วนตัวหนูเอง ต้องเกิดวิจิกิจฉาขึ้นอีกมากมายแน่ๆ เรื่องลังเลสงสัย พี่ me myself คงเข้าใจนะคะ อิๆ
ถ้าจิตเริ่มลังเลสงสัยมากเข้า ความฟุ้งซ่านจะตามมาติดๆ กลัวว่าจะตั้งอารมณ์ยากเย็นยิ่งขึ้น

สรุปว่า เอาไว้ถ้าการปฏิบัติของหนูก้าวหน้า มีดวงตาเห็นธรรมเมื่อไหร่
คงได้มีโอกาสพบหน้ากัลยาณมิตรทั้งหลายค่ะ

 

ขอทักทายสวัสดีคุณ cookieberry ด้วยคนค่ะ

กลับไปอ่านข้อความของคุณมา อยากขอเรียนว่า เป็นกำลังใจให้นะคะ

คุณพ่อคุณแม่ของคุณ cookieberry ท่านได้สิ้นบุญไปแล้ว ดิฉันรู้สึกเห็นใจคุณมากค่ะ

ในอีกแง่หนึ่ง ขอเรียนว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่มีบุญวาสนาสูง ไม่ใช่เพราะความสามารถพิเศษนะคะ
แต่เป็นเพราะผู้ที่คอยรักษาคุณอยู่ทั้งหลาย เป็นผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐอย่างยิ่ง

คุณเคยได้เห็นมาบ้างไหมล่ะคะ คนส่วนมากมีพ่อมีแม่พร้อมด้วยญาติสนิทมิตรสหาย
แต่บางคน ยังคงเต็มไปด้วยมิจฉาทิฏฐิทั้งใจ
บางคนจนกระทั่งแก่เฒ่าจวนจะสิ้นอายุ ยังมีพฤติกรรมเต็มไปด้วยมิจฉาทิฏฐิ
เรียกว่า ผู้คนมากมายที่ห้อมล้อม ไม่ได้ช่วยให้จิตมีสติได้บ้างเลยแม้แต่ขณะเดียว

มิจฉาทิฏฐินี่ ท่าจะร้ายน่าดูนะคะ
ส่วนตัวดิฉันเชื่อว่า ถ้าจิตมีแต่มิจฉาทิฏฐิซะแล้ว ย่อมมีแต่เสื่อม ยากที่จะยกจิตให้สูงขึ้น

ส่วนคุณ cookieberry ถึงแม้จะอยู่ตัวคนเดียว
แต่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาชี้แนะ ดิฉันว่า ดีกว่าพวกมิจฉาทิฏฐิอย่างเทียบกันไม่ได้เลยค่ะ

------------------------------------------------------

ดิฉันมีญาติใกล้ตัวหลายท่าน ท่านเหล่านั้น มีมิจฉาทิฏฐิในการดำรงชีวิตอย่างชัดเจน
ไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายอะไร แต่เป็นชีวิตประจำวันจิปาถะนี้แหละ

ไม่รู้ว่าท่านอื่นเป็นเหมือนกันหรือเปล่า
แต่ดิฉัน พอเห็นญาติพูด คิด เป็นมิจฉาทิฏฐิทีไร รู้สึกใจแป้วเลย เพราะสงสารพวกเขาอย่างมาก
เช่นว่า โอ้ อะไรทำให้หลงคิด หลงทำผิดเพี้ยนแบบนั้นไปได้หนอ สงสาร

ไม่รู้ว่า ถ้าเราแผ่เมตตาเจาะจงให้พวกเขาเป็นประจำ จะช่วยให้ดีขึ้นได้ไหมหนอ

 

ดิฉันเองนี่ ขอติเตียนตัวเองเลยว่า เมื่อก่อนเลวเป็นที่สุด จริงๆค่ะ
เมื่อไม่พึงพอใจบิดามารดา ก็นึกตำหนิท่านในใจต่างๆนานา คิดไม่ดีกับท่าน
จนเดี๋ยวนี้คิดได้ บอกตรงๆรู้สึกเสียใจมาก
ยังดีที่กลับใจได้นะคะ (ไม่รู้นรกถามหาไปกี่ขุมแล้วเนี่ย)

ยังคิดว่า ประเพณีรดน้ำดำหัวนี่ เป็นกุศโลบายที่ประเสริฐที่สุด
เพราะเป็นโอกาสเหมาะๆ ที่เราจะได้กราบเท้าพ่อแม่นะคะ
ในชีวิตประจำวัน จะให้จู่ๆมากราบก็..ดูจะเคอะเขินไปหน่อย
คนเรา... กราบท่านตอนยังมีชีวิต ดีกว่าจะไปกราบร่างท่านค่ะ

 

อยากขอสนทนาเรื่องพระจุฬามณี

คือ ดิฉันเองน่ะ ยังปฏิบัติไปไม่ถึงไหนหรอกนะคะ ก็หัดตั้งอารมณ์ไปเรื่อย

แต่ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง ตั้งอารมณ์อธิษฐานอยากเห็นพระจุฬามณีบ้าง ก็กำหนดไปเรื่อยๆ

และแล้ว แว้บ เห็นเจดีย์องค์ใหญ่ รูปร่างเหมือนพระปฐมเจดีย์ เป็นสีทอง ท้องฟ้าด้านหลังเป็นสีดำ
คือ ดิฉันไม่รู้หรอกนะคะว่านั่นคืออะไร จริงไม่จริงอย่างไร อธิบายก็ไม่ได้ด้วยค่ะ
ตอนนั้นในใจคิดว่า ฮ่วย ทำไมเหมือนพระปฐมเจดีย์เลยหล่ะ เราต้องอุปทานไปเองแน่ๆ อืม...

เมื่อกี้ไปย้อนอ่าน เห็นบางท่านเล่าว่าพระจุฬามณีเป็นเจดีย์องค์ใหญ่ บ้างก็เห็นเป็นสีทอง
เอ.... หรือว่า ที่ดิฉันเห็น ก็อาจจะเข้าเค้าบ้างเหมือนกัน......

ดิฉันไม่ขอสรุปนะคะ ไว้จิตสะอาดพอเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ

แต่ตอนนี้ นึกอยากจะลางานเพื่อปลีกวิเวกมากๆ ศีลห้าจะได้ไม่ขาดค่ะ
ข้อ มุสา นี้ ขาดทุกวันเลย จิตยังเผลออยู่มาก และกิเลสยังหนาอยู่จึงพูดไม่จริงเล็กๆน้อยๆ
ไม่ดีเลยอ่ะ

 

สวัสดีค่ะ มาอ่านเลยเกิดสงสัย พอจะเล่าให้ฟังหน่อยได้มั๊ยค่ะ ถึงวิธีการ
ว่าทำไมเค้าต้องจับวิญญาณใส่ในวัตถุที่เป็นองค์พระ
เค้าต้องใช้องค์พระเป็นสื่อในการไล่วิญญาณด้วยเหรอค่ะ

แล้วป้าคนนั้นหมายความว่า ที่จริงแล้ว ป้าซึ่งคนเดิมเค้าได้ตายไปแล้ว
แต่หมายถึงมีวิญญาณอื่นมาใช้ร่างเค้าต่อ
แทนวิญญาณป้าคนเดิมเหรอค่ะ

พอดีวันนี้นึกสงสัยถึงเรื่องการสลับวิญญาณพอดี ประมาณว่าวิญญาณหนึ่งที่ไม่มีร่างสามารถมาสวมใช้ร่างที่คนเพิ่งตายไป เพื่อมาเป็นคนได้อีกครั้งรึป่าว (แบบที่ไม่ใช่ผีสิงหน่ะค่ะ)

ไม่รู้นู๋เขียนถามรู้เรื่องมั๊ยเนี่ยะ

 

ขอบคุณมากครับคุณ กระติ๊บ

จะขอลองไปใช้บ้างน่ะครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ลักษณะที่เค้าเรียกว่า ปอบ หรือเปล่าครับ

แถวบ้านผมก็มีครับ แต่เค้าจะเรียกว่า ผีปู่ย่า แบบเข้ามากินคนที่กำลังใกล้ตาย หรือป่วยหนัก ๆ

เมื่อก่อนผมนึกว่าจะมีแค่ทางภาคอีสาน แต่เท่าที่คุย ๆ กับพวกผู้ใหญ่

เค้าว่ามีทุกที่

 

สวัสดีครับ คุณฝน (ขออนุญาตเรียกชื่อนี้น่ะครับ) กัลยาณมิตร และ ท่านผู้เจริญ ทุกท่าน

ได้อ่านข้อความของคุณฝนข้างล่าง เกี่ยวกับ บารมี 10 ก็พยายามนึกว่ามีอะไรบ้าง เพราะจำได้ไม่หมด (จริงๆ คือจำไม่ได้) เลยลองหาข้อมูลมาครับ


(ที่มา:

 

พูดถึงคาถาเงินล้าน เรื่องเล่ายาวค่ะ

ย้อนตอนยังเป็นเด็กวัยรุ่นเพิ่งได้ใบขับขี่ เเม่ซื้อรถให้ขับเเต่เเม่กำชับว่าให้สวดคาถาเงินล้านก่อนออกรถทุกวัน ให้ท่องวันละ 9 จบ โหยใครจะไปสวดได้ เอาวันละรอบก็พอ วันไหนสวดนะคะวันนั้นรถจะไม่มีรอยกลับบ้าน ถ้าวันไหนไม่สวดวันนั้นรถจะมีอันเป็นไป รอยขูดขีดกับที่จอดรถตามห้างเนี่ยเพื่อนกันเลยค่ะ ยังดีที่ไม่เคยชนกับใครเคยเเต่กับที่จอดรถค่ะ

มีอยู่ครั้งหนึ่งจำได้ว่า ตอนประมาณสี่ทุ่มค่ะ ขับรถกลับบ้านอยู่บนทางด่วนพระราม 4 เกือบจะถึงดินเเดงเเล้วค่ะ จำได้ว่าขับผ่านห้องอาหารของโรงเเรมหนึ่งค่ะ อยู่ตรงหัวโค้ง (คือชั้นอาหารอยู่ระดับเดียวกับทางด่วนค่ะ จำชื่อโรงเเรมไม่ได้เเล้ว) ขับมาถึงตรงนั้น หลับค่ะ หลับทั้งๆที่มือยังคาพวงมาลัยอยู่เลยค่ะ รู้สึกเหมือนถูกสะกิดให้ตื่น ทั้งๆที่ตัวเองนั่งอยู่คนเดียวค่ะ ถึงได้รู้จักว่า หลับในเป็นยังไง หลังจากนั้นขี้เกียจยังไงก็สวดค่ะ

เวลาผ่านมาจนเเม่เสียค่ะ ครูสอนมโนยิทธิสอนให้ท่องคาถาเงินล้านในการภาวนาเเบบสุขวิปัสโก เพราะว่าตัวเองถูกห้ามฝึกวิชาทางสายอภิญญาค่ะ

เราก็ใช้มโนยิทธิเเละก็ภาวนาไปเรื่อยๆจับภาพสมเด็จองค์ปฐมค่ะ ทำเเบบนี้ประมาณ 3 ครั้ง พอใกล้จะสัปหงกจะครบสามสิบรอบ จะเห็นสมเด็จองค์ปฐมจากองค์ทองเป็นองค์เเก้วค่ะ ใหญ่บ้างเล็กบ้าง เเสงเเพรวพราวเลยค่ะ เห็นซักสองครั้งค่ะ เวลาภาวนา ครั้งที่สาม สวดเสร็จท่านสั่งห้ามสวดอีกค่ะ ท่านบอกว่าไม่ต้องสวดเเล้ว ที่เห็นนั้นมันเป็นกสิณ ของเก่ามันโผล่ออก ตอนนั้นเรายังโง่หนักหนา กสิณคืออะไรก็ไม่รู้ ท่านบอกให้สวดบูชาพระรัตนไตรเเทน เราเลยเลิกสวดคาถาเงินล้านค่ะ เพราะตอนนั้นนั่งสมาธิเเบบอานาปานุสสติไม่เป็นค่ะ นั่งสมาธิทีไรโผล่ไปเจอสมเด็จองค์ปฐมทุกครั้ง เพิ่งมานั่งเป็นตอนที่พระอาจารย์ตามจิตไปดึงเราออกมาจากมโนยิทธิบังคับให้จิตอยู่กับกายค่ะถึงได้นั่งเป็น

ช่วงที่กลับมาจากบวชชีพราหมณ์ค่ะ เราไม่ได้กลับบ้านพี่สาว เราไปค้างบ้านครูสอนมโนยิทธิเพื่อเตรียมไปวัดพระอาจารย์ต่ะ ตอนนั้นมีเงินติดตัวมาจากวัดท่าซุงประมาณสามร้อยบาท อยู่ระหว่างคอยพี่สาวโอนเงินมาให้ ช่วงนั้นใช้เงินไปเรื่อยๆวันละประมาณ 60-70 บาทต่อวัน ใช้ไปได้สามสี่วัน เพิ่งจะมาสังเกตเห็นว่า ทำไมเงินเราไม่เคยยุบเลยหว่า เลยเพ่งจ้องการใช้เงิน 555 เพ่งจนหมดของเเท้เลยค่ะ

วันกลับจากวัดพระอาจารย์ ท่านมาส่งที่พระธาตุนาดูน ที่ขอนเเก่น ก่อนกลับท่านพาเวียนเทียนเดินรอบพระธาตุสามรอบ เราเจอกล่องบริจาคเงินที่วางไว้ข้างๆองค์พระธาตุค่ะ ตอนนั้นเหลือเงินติดตัวอยู่ร้อยเดียว คิดว่าทำให้หมดไปเลย เดี๋ยวพี่ก็มารับกลับบ้านเเล้ว พอกลับมาถึงบ้านพี่ เปิดกระเป๋าสตางค์เจอเงินสองร้อยบาทค่ะ งงเลย เงินมาจากไหน เก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางค่ะ เเต่เงินนี้ไม่ได้ใช้นะคะ เพราะตอนหลังโดนเเม่บ้านขโมยเงินค่ะ กี่บาทก็ขโมย เงินทำสังฆทานให้ป้าก็โดนขโมย ของเเม่เราเองก็โดนขโมย เเปลกเเต่จริงโดนขโมยเงินกันทั้งบ้านพี่สาวเรายังไม่ไล่เเม่บ้านคนนี้ออกเลยค่ะ เราไม่เอาความ คิดว่าเราเคยเอาของเค้ามาก่อน คิดว่าพี่สาวเรายังไม่หมดกรรมกับเเม่บ้านคนนี้ เค้าเลยใช้กรรมปล่อยให้เเม่บ้านขโมยต่อไป

หลังจากนั้นเปิดเน็ทเจอว่าหลวงปู่ฤาษีท่านพิมพ์หนังสือ คาถาปัจเจกพุทธเจ้าออกมา คิดอยู่หลายวันเหมือนกันว่าอยากอ่านหนังสือเล่มนั้น วันหนึ่งเปิดค้นหาหนังสือหลวงปู่ที่ขนมาจากบ้านเเม่มาอ่าน ปรากฏว่าที่ค้นๆนั้นเจอหนังสือปัจเจกพุทธเจ้า ยังงงๆอยู่เลยว่าตัวเองหยิบหนังสือเล่มนี้มาจากบ้านเเม่ตั้งเเต่เมื่อไหร่
อ่านเเล้วค้นพบว่า ถ้าจะใช้คาถาให้ได้ผลที่สุดต้อง ใช้คาถานี้เเทนคำภาวนา พุทโธในการนั่งสมาธิ จะสำเร็จผลที่สุดเมื่อได้ ฌานสี่ เหมือนกับเจ้าของร้านขายยาลูกศิษย์หลวงปู่ปาน

ลูกศิษย์ของหลวงปู่ปานเขียนไว้ว่า เค้าทำ ทาน ศีล ภาวนาทุกวันไม่ได้ขาดเลยค่ะ ตอนเช้าถ้าว่างก็จะสวดมนต์ก่อนไปทำงาน เย็นกลับมาหลังกินข้าวเสร็จก็เข้าห้องพระ สวดมนต์ภาวนาไม่ได้ขาด ภาวนาคาถาไปเรื่อยๆ จนจิตเงียบสงบเป็นฌาน 4 หลังจากนั้นเริ่มเห็นผลของคาถาค่ะ รับยามาครบ พอนับจะขายปรากฏว่า ยาเกินมาค่ะ หลายๆครั้งเบิกเงินมาก็ไม่ได้นับเก็บเข้าตู้เซฟที่บ้านก่อน เเล้วก็ภาวนาคาถาไปเรื่อยๆ ตื่นเช้ามา เอาเงินออกจากเซฟมานับ เงินเกินเป็นหมื่นๆเลย โทรไปถามที่ธนาคารๆก็ยืนยันว่าให้ครบตามจำนวน มีบางครั้งที่สองผัวเมียคู่นี้ทะเลาะกัน เพราะเงินเกินค่ะ หาว่าอีกฝ่ายเเอบจิ๊กเงินเก็บไว้เอง ทะเลาะกันเสร็จเพิ่งมานึกออกว่าหลวงปู่ปานท่านสั่งไว้ว่าถ้ารู้ว่าเงินเกิน ให้เงียบไว้อย่าบอกใคร เดี๋ยวคาถาจะเสื่อมใช้ไม่ได้ผล อีกอย่างสวดคาถานี้ห้ามหวังผลว่าสวดเมื่อไหร่เเล้วเงินจะมาจะเพิ่มขึ้น เพราะถือว่าเป็นกิเลสค่ะ

หนังสือเล่มนี้ยังเขียนต่อไปอีกว่า ทุกๆครั้งที่หลวงปู่ปานท่านจะก่อสร้างอะไรก็เเล้วเเต่ที่วัด ท่านจะเรียกลูกศิษย์คนนี้ให้นำเงิน สองหมื่นบาทมาที่วัดเเล้วท่านเก็บไว้กับท่านไม่กี่วัน ท่านก็คืนเงินนี้ไป สร้างนู่นสร้างนี่เสร็จเเล้วเงินสองหมื่นบาทยังไม่ยุบเลยค่ะ

เราเองก็อ่านเกิดศรัทธาอย่างเเรงกล้า แต่ว่าศรัทธาเเค่ไหนก็ขี้เกียจสวดค่ะ เลยซื้อหนังสือเล่มนี้จำนวน 300 เล่มถวายพระอาจารย์ให้นำไปเเจกญาติโยมเเทน เผื่อคนไหนเค้าขยันทำได้ผลจะได้นำเงินมาถวายพระอาจารย์บ้าง

เเต่ว่าญาติๆเราสวดก็เห็นผลนะคะ โดยเฉพาะอาเรา ตั้งมั่นค่ะ สวดมนต์ ภาวนา ระลึกถึงบุญคุณ สมเด็จองค์ปฐมกับพระอาจารย์ทุกวันเลยค่ะ อาเราเปิดร้านขายอาหารค่ะ วันไหนคนน้อย อาเราโวยวายเรียกหาสมเด็จองค์ปฐมกับพระอาจารย์มาช่วยขายค่ะ ขายหมดทุกวันค่ะ ตอนนี้มีเงินทำบุญกับพระอาจารย์เหลือเฟือเลยค่ะ

เมื่ออาทิตย์ที่เเล้วพระอาจารย์ท่านเเวะลงมากรุงเทพ ญาติๆเรามีโอกาสได้กราบท่าน ท่านยังมอบพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐมให้ตั้ง 3 องค์ เราเองยังงงเลย ว่าให้อีกทำไมในเมื่ออาเราก็มีเเล้ว เราขึ้นไปถามสมเด็จท่านค่ะ ท่านบอกว่าอาเราจิตมุ่งมั่นในการปฏิบัติสูงมากดีกว่าเราเยอะ ท่านบอกที่ให้พระธาตุของท่านไปเพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติค่ะ อาเรานั่งมโนยิทธิไม่ถึงเหมือนกันนะคะ อาเราเรียกให้สมเด็จองค์ปฐมให้ช่วยในเรื่องต่างๆผ่านทางจิตเเละคำพูดค่ะ การที่ท่านให้พระอาจารย์นำพระบรมสารีริกธาตุมามอบให้ก็เหมือนเป็นการบอกทางอ้อมว่า การปฏิบัติดีปฏิบัติชอบสวดมนต์ นั่งสมาธิ นึกถึงท่าน ท่านรู้ท่านเห็น เเละท่านก็เป็นกำลังใจให้

เรื่องของเรื่องเริ่มจากที่อาเราใช้ให้เราไปถามสมเด็จองค์ปฐมว่า ทำยังไงการทำมาค้าขายเค้าถึงจะคล่องตัวเนื่องจากช่วงนั้นม็อบเสื้อเเดงเสื้อเหลืองปิดถนนหน้าบ้านอาเราเเถวนางเลิ้งค่ะ ท่านเเนะนำว่า ให้เลิกเล่นการพนัน อาเราเล่นม้าค่ะอยู่เเถวนั้นพรรคพวกเล่นกันหมด เลิกเหล้า เลิกเล่นหวย เงินก็จะมีเอง

เราเองก็ยังคิดเลยว่าเป็นคำเเนะนำที่ธรรมดามาก เเต่เมื่อนำมาปฏิบัติอย่างจริงๆจังๆ ผลที่ได้ไม่ธรรมดาเลยค่ะ ทุกวันนี้อาเรายังพูดอยู่เลยว่า ใครเค้าขายของไม่ออก อาเราขายหมดทุกวัน มีเงินมีทองไว้ทำบุญ เราคิดว่าเป็นเพราะว่าอาเราปฏิบัติอย่างจริงจัง สมเด็จองค์ปฐมกับพระอาจารย์เราถึงช่วย ในการปฏิบัติใจเรายังไม่หนักเเน่นเท่าอาเราเลยค่ะ สมเด็จท่านดุเรามาเหมือนกัน

เรื่องที่เล่ามาทั้งหมดก็เป็นกำลังใจให้กับคนที่สวดคาถาเงินล้านนะคะ เเล้วก็เป็นกำลังใจให้กับคนที่นั่งมโนยิทธิยังไม่ถึง ขอให้พิจารณาเรื่องในการปฏิบัติของอาเราด้วยนะคะ ตอนนี้อาเราเรียกว่าอู้ฟู่เเล้วค่ะ เเต่การปฏิบัติยังคงเป็นไปอย่างเคร่งครัดเหมือนเดิม

เราขอโมทนากับผู้ที่ปฏิบัติดีทุกท่านด้วยนะคะ

ขอบคุณที่อ่านค่ะ

 

ขอบคุณมากนะคะสำหรับกำลังใจที่มีให้กัน

อันนี้จริงค่ะ ถ้าไม่ได้สมเด็จองค์ปฐมเอาไว้ก็เเย่กว่านี้ค่ะ เราเข้ากับญาติพี่น้องไม่ได้เพราะเราทำอะไรก็ไม่เป็น ทำอะไรก็จะดูน่ารำคาญ ขวางหูขวางตาไปหมด โดนว่าโดนนินทาก็เยอะ สมเด็จองค์ปฐมท่านเอาเรามาดูเเลเพราะตอนนี้เราไม่มีใครเเล้ว เดี๋ยวเดินทางผิดหลงไปไหนก็ไม่รู้ หลังจากนั้นก็ได้เจอพระอาจารย์ค่ะ สมเด็จท่านบอกว่าเป็นพี่น้องที่ตามติดกันมาในอดีตชาติ ท่านเลยโยนเราให้พระอาจารย์ท่านดูเเล หลังจากที่พระอาจารย์ท่านเอาเรามาดูเเล ญาติๆเราเหมือนจะเริ่มรู้ค่ะ วิจารณ์เราน้อยลงเพราะเกรงใจพระอาจารย์

ทุกวันนี้พระอาจารย์ท่านดูเเลเราค่ะ ท่านอนุญาตให้เรากลับมาเเคนาดาต่อเราเลยได้กลับ ท่านรับปากว่าท่านจะช่วยให้เราอยู่รอด เเค่นี้เราก็พอใจเเล้วค่ะ ตอนนี้ติดอยู่เรื่องงานเรื่องเดียวค่ะ คิดไว้ว่าที่สุดเเล้วพระอาจารย์ท่านจะไม่ปล่อยให้เราอดตาย จนต้องกลับบ้านเเน่นอน เป็นกำลังใจเดียวที่เหลืออยู่ค่ะ

 

ตอนที่ไปปฏิบัติมโนยิทธิที่วัดท่าซุงนะคะ หลวงปู่ฤาษีท่านสอนว่า อย่าสงสัยในผลการปฏิบัติ จะเห็นอะไร รูปร่างหน้าตาเเบบไหน ไม่มีกำหนดตายตัวค่ะ ขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ของจิต คนหนึ่งอาจเห็นเป็นเเก้ว คนหนึ่งอาจเห็นเป็นสีทองหรือสีเเดง รวมความเเล้วไม่ผิดค่ะ เเต่จะผิดก็ต่อเมื่อไม่เชื่อผลของการปฏิบัติ ถ้าคิดว่าตัวเองเห็นเป็นอุปาทาน นั้นคือ ติดนิวรณ์ข้อที่ 5 เเล้วค่ะ สงสัยในผลการปฏิบัติ ซึ่งวิชานี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ตัวนี้เป็นตัวสำคัญที่จะทำให้มโนยิทธิไม่ก้าวหน้าค่ะ

อย่าเพิ่งท้อเเท้นะคะ เราเองเคยเป็นเเบบนี้มาก่อนค่ะ ฝึกจิตให้เข้มเเข็งเเน่วเเน่เข้าไว้นะคะ จิตเเรกเห็นอะไรเป็นอย่างไร พูดออกมาเลยค่ะไม่ผิดเเน่นอน เพราะการใช้มโนยิทธิได้จิตต้องบริสุทธิ์เเล้วในระดับหนึ่งค่ะ

เป็นกำลังใจให้ในการปฏิบัตินะคะ

 

โมทนาบุญ กับคุณฝนด้วยครับ ทั้งเรื่อง คาถาเงินล้าน และ ข้อธรรมะอื่นๆ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ สมเด็จองค์ปฐมท่านเคยสอนไว้ว่า กำลังใจนั้นสำคัญที่สุด คนเราสามารถทำอะไรได้หลายๆอย่าง เพราะกำลังใจค่ะ

ฝนเองถ้าไม่ได้กำลังใจจากสมเด็จองค์ปฐมกับพระอาจารย์ก็คงอยู่ไม่รอดหรอกค่ะ เพราะทั้งชีวิตสนิทอยู่เเค่พ่อเเละเเม่ มีพี่สาวเค้าก็มีครอบครัวเเล้วจะช่วยเหลืออะไรมากก็ไม่ได้ ถึงต้องกลับมาที่เเคนาดาค่ะ

 

คิดว่าตอนนี้ท่าทางแฟนคลับกำลังรอคุณพี่ Me,myself กันอย่างใจจดใจจ่อเหมือนผมใช่ไหมครับ

 

อายุยืนจริงๆ โพสต์เสร็จก็มาเลย เย้

 

โห..เล่นมุขนี้เลยเหรอ ก๊ากกกกกก

เดี๋ยวขอตัวไปทานข้าวก่อนค่ะ แล้วค่อยมาปั่นทีเดียว

 

อ้าว
รอมาตั้งแต่เช้าตรู่แล้วครับพี่ หายใจเป็นคุณพี่แล้วนะ

 

ขอโมทนาสาธุอย่างยิ่งค่ะ

 

เป็นอีกหนึ่งเสียงว่าคอยอยู่เหมือนกันค้าบบบบบ:z11