ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 25 มกราคม 2008.

  1. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ตอบคุณ โกศิลป์ ภิรมย์ไทย

    ตามโรงพยาบาล และสถานีอานามัย ทั่วประเทศในปัจจุบัน เริ่มมีการนำเอาแพทย์แผนไทย เข้าไปร่วมดูแลคนไข้
    แต่หยูกยาที่ใช้ยังเป็นสมุนไพรเดี่ยวเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งรักษาโรคอะไรไม่ได้มากนัก
    ยาไทยที่จะรักษาโรคได้ ต้องเป็นยาตำรับ มีอย่างน้อย ๒-๓ ตัวขึ้นไป จึงจะรักษาโรคได้ดี

    คนไข้รายที่ ๑.
    ให้ใช้สมุนไพรเดี่ยว หลายตัวกินร่วมกันดังนี้
    ขมิ้นขัน ๒-๓ แคปซูล
    บอรเพ็ด ๑ แคปซูล
    ดีปลี ๑ แคปซูล(หรือพริกไทยดำ ๑ แคปซูล-อย่างใดอย่างหนึ่ง)

    กินร่วม ในมื้อเดียวกัน(ให้มันเข้าไปผสมกันในท้อง) วันละ ๒-๓ ครั้ง ก่อนอาหาร เช้า กลางวัน เย็น

    ในคนไข้รายที่ ๒
    สมุนไพรเดี่ยวคงช่วยอะไรไม่ได้
    ยาตำรับที่ควรใช้มี
    ยาธรณีสันฑฆาต (ยาถ่าย)
    ยาพรหมพักตร์(แก้โรคอุจาระพิการ)

    ยาประกอบเองง่ายๆมี
    ยาดำ
    มหาหิงค์
    มะขามเปียก
    เกลือทะเล/เกลือสินเธาว์
    เอาใส่ครกตำให้เข้ากัน เก็บในตู้เย็น (หรือปั้นก้อนขนาดเมล็ดในมะยม-ตากให้แห้ง)
    กินครั้งละ ๕-๑๕ เม็ด(เมล็ดในมะยม) แล้วแต่ธาตุหนักเบา

    ยาง่ายๆที่ควรกินคู่ไปด้วยคือ ขิปปะกะโอสถ แก้อาการลมเสียดแทงในท้อง เป็นเถาดาน/เป็นลูกเป็นก้อนในท้อง(ต้องแน่ใจว่าไม่ใช่มะเร็ง)
    รากสะค้าน
    เปลือกต้นมะขามป้อม
    ขิงแห้ง
    เกลือสินเธาว์
    ตากแห้ง ตำเป็นผง ชงน้ำร้อน / หรือน้ำขิง / หรือน้ำชงดอกกานพลู ครั้งละ ๑ ช้อนชา กินวันละ ๒ ครั้ง เช้า เย็น ก่อนอาหาร

    ในคนไข้รายที่ ๓
    สมุนไพรเดี่ยว ที่พอมั่นใจ ว่าพอช่วยยับยั้งได้คือ กระดูกอ่อนปลาฉลาม
    อย่างไรก็ดีควรกินประกอบกันหลายตัว
    กระดูกอ่อนปลาฉลาม
    อัลฟาฟ่า (หรือ ยากระชายทองนพคุณ ของหมอสุวิ)
    ตรีผลา
    ทั้งสามตัวประกอบกัน จะช่วยยืดอายุอาการโรคได้ระดับหนึ่งได้
    ที่เคยเห็น และติดตามผล บางท่าน ก้อนมะเร็ง/ก้อนเนื้องอก ยุบแห้งหายไปเลย
    จะเริ่มเห็นผลชัดเจนใน ๒-๓ อาทิตย์
    แต่ไม่เห็นผลยืนยัน การตรวจโรค ของแพทย์แผนปัจจุบัน

    ยาชุดนี้คนไข้ต้องลงทุนเดือนละ ๓,๕๐๐-๔,๐๐๐ ต่อเดือน เป็นเวลา ๒-๓ เดือนติดต่อกัน
    หลังจากนั้นก็หยุดกิน ในบางท่านก็กินต่อ อาทิตย์เว้นอาทิตย์ เดือนเว้นเดือน เพื่อความมั่นใจ

    อย่างไรก็ดี กฏแห่งกรรม ย่อมเป็นกฏแห่งกรรม
    หากเจ้ากรรมนายเวรยอมรามือ จะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ ชีวิตนี้ก็ยังมีหวัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2009
  2. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    มีพูดถึงยาดี สองตัวคือ ธรณีสัณฑฆาต และ ยาพรหมพักตร์ จึงบอกสูตรยาไว้

    ๑.ยาพรพักตร์
    แก้อุจจาระธาตุพิการ แก้ท้องเสีย ปวดมวลในท้อง ขับลม
    ๑. โกฐทั้งห้า อย่างละ ๑ ส่วน (มี ห้าตัว)
    ๒. เทียนทั้งห้า อย่างละ ๑ ส่วน(มีห้าตัว)
    ๓. ตรีผลา อย่างละ ๒ ส่วน (มี ๓ ตัว)
    ๔. ตรีกฏุก อย่างละ ๒ ส่วน (มี ๓ ตัว)
    ๕. เปราะหอม ละ ๒ ส่วน
    ๖. ผลเอ็น ละ ๒ ส่วน
    ๗. ผลจันทร์ ละ ๔ ส่วน
    ๘. การบูร ละ ๔ ส่วน
    ๙. ขิง ละ ๔ ส่วน
    ๑๐ ยาดำ ละ ๔ ส่วน

    ตัวยาทั้งสิบตากแห้งบดผง ละลายน้ำเปลือกมะรุมต้มเป็นระสาย ครั้งละ ๑ ช้อนชา
    กินวันละ ๓ ครั้ง ก่อนอาหาร เช้า กลางวัน เย็น
    (ถ้ายังถ่ายน้อย ให้กินดีเกลือฝรั่งเพิ่ม ๑ ช้อนชาระลายน้ำ ดื่มตาม/ถ้าถ่ายมากให้ลดยาลง)
     
  3. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ๒.ยาธรณีสัณฑฆาต
    สรรพคุณ ถ่ายพิษอุจาระธาตุ พิษลม พิษเสมหะ พิษไข้
    ชะเองเทศ โกฐเขมา สะค้าน ดีปลี ว่านน้ำ เจตมูลเพลิง ผักแพรวแดง หนักสิ่งละ ๒ ส่วน
    โกฐกระดูก เปลือกสุมลแว้ง หัวกลอย หัวกระดาษแดง หัวกระดาษขาว หัวดองดึง กัญชาจีน หนักสิ่งละ ๑ ส่วน
    ดอกจันทร์ เทียนดำ เทียนขาว อบเชยเทศ หัวบุก หัวรอ หัวอุตพิต โหราเท้าสุนัข ลูกจันทร์ กานพลู หนักสิ่งละ ๑ ส่วน
    ช้าพลู ขิงแห้ง อย่างละ ๓ ส่วน
    สมอไทย มะขามป้อม การบูร อย่างละ ๖ ส่วน
    มหาหิงคุ์ ๘ ส่วน
    โฏฐน้ำเต้า ๑๐ ส่วน
    รงทอง ๑๒ ส่วน
    ตากแห้ง บดผง ละลายน้ำสุข น้ำผึ้ง รับประทาน
     
  4. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    <TABLE id=post2085755 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->suwi<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2085755", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jun 2007
    อายุ: 58
    ข้อความ: 970
    <IF condition="">
    </IF>Groans: 1
    Groaned at 3 Times in 3 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 55
    ได้รับอนุโมทนา 10,899 ครั้ง ใน 974 โพส
    พลังการให้คะแนน: 296 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2085755 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ runandyaow [​IMG]
    เหมื่อนท้องจะอืด จุกเสียดนะครับ กันยาก็ไม่หาย ทำไงดีครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    มาผิดกระทู้เป่าเนี่ย

    กิน ขมิ้นชัน ๒ ส่วน บอรเพ็ด ๑ ส่วน เกลือทะเล ๑ ส่วน ดีปลี ๑ ส่วน
    ตากแห้งบดผง ผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอนกินก็หายครับ
    หรือเอาที่เขาทำขายก็ได้
    ขมิ้นชัน ๒ แคปซูล
    บอรเพ็ด ๑ แคปซูล
    ดีปลี ๑ แคปซูล
    เกลือทะเล ๑ หยิบมือ(ประมาณ ๑ แคปซูลนะ) ละลายน้ำแล้วกินตามกันเข้าไป
    (ถ้าเลือกใช้เกลือตังผู้ได้ จะดีมาก ใช้ประมาณ ๑ เม็ด)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ท่านที่๑.
    ให้กินสมุนไพรสกัดสัก เพื่อบำรุงและปรับระบบเลือดให้หมุนเวียนดี
    ๑. แปะก้วยสกัด
    ๒. เห็ดหลินจือสกัด
    ๓. แลคซิติน
    ๔. น้ำมันปลา

    และให้กินยา ปรับธาตุ และแก้ภูมิแพ้
    ๕. ผลาธิกะ
    ๖. ยาแก้ภูมแพ้เบอร์ 2


    ท่านที่ ๒ ผู้หญิงที่เป็นผื่นที่ขา
    ๑. ยาปลูกเตโช ๑ ห่อ
    ๒. ยากระชายทอง ๑ ห่อ
    ๓. ยาแก้แพ้เบอร์ 2 จำนวน ๒ ห่อ
    หมายเหตุ
    ยาในข้อ ๑ อาจถูกเปลี่ยนเป็นผลาธิกะ ถ้ามีความดันสูง
    แต่ถ้ามีอาการหนาวมือเท้า/เป็นเหน็บ หรือตะคิว บ่อยๆ เวลานอนในห้อง แอร์ หรือหนาวสั่นในอกเวลากะทบลมเย็น ให้ใช้ยาปลูกเตโช

    ท่านที่ ๓. ผูหญิง อ่อนเพลีย
    ๑. ยาปลูกเตโช
    ๒. ยาอายุวัฒนะพระนารายณ์ทรงจักร์
     
  6. n00m

    n00m เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +1,279
    สวัสดีครับ อ.สุวินันท์ ที่เคารพ


    มีคนไข้มาให้ อ. ช่วย ครับ (เพื่อนผม)

    เรื่องมีอยู่ว่า เค้า ป่วย มาตั้งแต่เด็ก สมัยเรียน ป.1 ฉี่เป็นเลือด จึงต้องไปหาหมอ

    หมอก็ให้พักที่ รพ. 1 อาทิตย์ ให้ นอนอยู่ แผนก ไต ก็พักรักษาตัวจน อาการดีขึ้น ฉี่ ไม่เป็นเลือด

    ก็ได้กลับบ้านมา มีโอกาสได้ตรวจอีกครั้ง เมื่อ ปี 2545 ได้ไปตรวจ สุขภาพประจำปี ตอนนั้น ก็ อายุ ราว ๆ 22 ปี

    ผลออกมามีความผิดปกติ ก็คือ ความดันโลหิต สูง มีเม็ดเลือดแดง กับ ไข่ขาว ใน ปัสสาวะ หมอได้ทำการ

    วินิจฉัยว่าเป็น โรคไต ปัจจุบันได้รับการรักษา โดนการกินยา คุมความดัน กับ ยาลดไขมัน ผลเลือดยังอยู่ในภาวะปกติ

    ตลอดมานี้ทานยาเป็นประจำทุกวัน ตอนนี้ เพื่อนผม อายุ 31 ไปแล้ว

    จากที่ได้คุยกันมาทางหมอบอกว่า โรคไต เป็นโรคที่ รักษาไม่หาย

    เพื่อนผมคนนี้ จากการคบหากันมา เป็นคนดี ไม่น่าเจอเหตุการณ์ แบบนี้เลยครับ ช่วยด้วยครับ ขอบคุณครับ

    ปล. อยากรู้ว่าเกิดจาก กรรมที่ไปทำอะไรมา แล้วมีแนวทางแก้ไขยังไง ครับ (ปล.นี้ ผมอยากรู้เองนะ)
     
  7. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543


    ปัญหานี้ ถ้าถามก่อนหน้านี้สักอาทิตย์
    สุวิคงใบ้กิน ไม่อาจตอบได้
    แต่ เรื่องบังเอิญ คงไม่มีในโลก คงมีแต่เรื่องกรรมจัดสรร

    สุวิรู้ว่ายาที่ทำขึ้น ไม่มีขนานใดขนานหนึ่งสามารถรักษาโรคไตพิการ(ไตเสื่อมสภาพ)ได้โดยตรง
    แต่มีผู้มาให้รักษา เรื่องไตพิการอยู่รายหนึ่ง เป็นสัตรี สภาพไตเหลือเพียง 60% ข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งเหลือไม่ถึง 10% แต่ยังไม่ต้องฟอกเลือด
    สภาพระวังการกินอยู่ ประวิงเวลารอวันเข้าฟอกไตให้นานที่สุด

    สุวิ จึงได้ทดสอบยาที่มีอยุ่ดู พบว่า มีหลายขนาน ช่วยกระตุ้นการทำงานของไตได้อย่างช้าๆ (แต่ค่อนข้างช้ามาก)

    แต่สุวิทดสอบแล้วทดสอบอีกหลายครั้ง ทดลองจัดยาให้กินเท่าที่มี(ผลาธิกะ+ ปลูกเตโช + กระชายทอง + ผลาธิคุณ)
    เวลาผ่านไปเดือนกว่า สุภาพโดยรวมดีขึ้น ไตฟื้นตัวขึ้น ประมาณข้างละ 10% โดยประมาณ
    มันช้าเกิน ไม่ทันกิน - ยาที่ดี ถูกโรค สภาพร่างกายควรฟื้นตัวไม่น้อยกว่า 50% ใน ๑ เดือน

    กำลังคิดผสมยาตัวใหม่เพื่อโรคนี้โดยเฉพาะ
    ให้พอดีมีเพื่อนตามมาหาที่บ้าน ๓ ท่าน แต่ละท่านล้วนสุดยอด ไม่น้อยหน้า อ.สามตาเลย
    มาถึง ก็ถามหายารักษาไต และยารักษาเนื้องอก(ริดสะดวงภายใน-และอาจแปรเป็นมะเร็งได้)
    จึงว่ากำลังคิดทำอยู่ ยังไม่สำเร็จ อยากได้ต้องมาช่วยกันผสม และทดสอบกัน

    ทดลองกันอยู่ครึ่งค่อนวัน
    ตกลงไม่ต้องผสมยาใหม่ ใช้ยาที่มีอยู่แล้ว จัดการกินใหม่ จัดปริมาณการกินใหม่ จะสามารถ ฟื้นสภาพ ไตได้เร็วน่าพอใจ
    และได้ยาใหม่อีก ๑ ตัว ตั้งชื่อว่าทองนพคุณ

    ๑. ยาพระนารายณ์ทรงจักร์ ๒ เม็ด
    ๒. ยาปลูกเตโช ๑ เม็ด
    ๓. ยากระชายทอง ๑ เม็ด
    ๔. ยาผลาธิกะ ๑ เม็ด
    ๕. ยาทองนพคุณ ๑ เม็ด
    ๖. ทำบุณ ค่าน้ำ ถังน้ำ น้ำดื่ม น้ำกิน น้ำใช้ อำนวยความสะดวกเกี่ยวกับเรื่องน้ำ และ อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร โรคไตโดยเฉพาะ ทำบ่อยๆ ในช่วงที่รักษาตัวอยู่

    ยาทั้งหมด กินวันละ ๒ ครั้ง เช้า เย็น ก่อนอาหาร
    การฟื้นสภาพ เร็วพอควร เป็นที่น่าพอใจ

    ส่วนยารักษาเนื้องอก ตัวยาหลักคือ
    กระดูกอ่อนปลาฉลาม(สมุนไพรสกัด)
    กระชายทองนพคุณ

    กินวัยละ ๒ ครั้ง เช้า เย็น
    เห็นผลการยุบแห้งของเนื้องอกที่กำลังอักเสพอยู่ใน ๑-๒ อาทิตย์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2009
  8. n00m

    n00m เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +1,279
    ขอบคุณ อาจารย์ สุวินันท์ มากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2009
  9. nataphat

    nataphat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +246
    คือผมเคยมีอาการปอดรั่วแต่ตอนนี้รักษาให้หายรั่วแล้วหลังจากหายรั่วผมรู้สึกว่าระบบทางเดินหายใจไม่ค่อยปกติเท่าเดิมคือเมื่อมีอาการเป็นหวัดหรือเป็นภูมิแพ้น้ำมูกไหลขึ้นมาจะมีอาการเจ็บปอดบริเวณที่รั่วแต่ผมออกกำลังกายได้ตามปกติไม่มีปัญหาแต่มีปัญหาเวลาไม่สบายและผมชอบเป็นหวัดบ่อยๆ พอตกเย็นประมาณ 1 ทุมมันก็เริ่มหายใจไม่สะดวก อ่อนเพียรเล็กน้อย ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร ผมอายุ17 เองน่ะ

    ขอบคุณครับ
     
  10. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ยาที่จะช่วยคุณได้ดีที่สุดคือ สมุนไพรสกัด

    ๑. เห็ดหลินจือสกัด กาโน่ (เป็นยาหลัก)
    ๒. กระชายทอง+ทองนพคุณ = กระชายทองนพคุณ(ยาหลักตัวที่ ๒)
    ๓. ยาปลูกเตโช (ยาช่วย)
    ๔. ยาแก้แพ้เบอร์ ๒.(ยาช่วย)

    อ้อ ..อย่าลืมทำบุญ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ค่ายา อุทิศให้ เหตุแห่งความเจ็บป่วยที่กำลังเป็นอยู่ ให้ทำบ่อยๆ ตลอดเวลาที่รักษาตัวอยู่
    ไปที่ ร.พ. สงฆ์ นะ ง่ายดี ม้วนเดียวจบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2009
  11. n00m

    n00m เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +1,279
    สวัสดีรับ อาจารย์ สุวินันท์

    เหงื่อออก ตามมือ ตามเท้า ครับ แบบสามารถ หยดได้ทั้งที่

    ไม่ได้เล่นกีฬา หรือ ออกกำลังกาย อาการนี้ แก้ไข ด้วยตนเองได้ไหมครับ

    ฝึก เกศา โลมา ฯลฯ นั่งได้พักเดียว เกิดกลัวขึ้นมา เหงื่อออก ตามที่บอกครับ

    ส่วนอื่นก็ออก แต่น้อยกว่า มือ เท้า วิตกกังวน กลัว แผ่เมตตาเสร็จ ออกสมาธิ เลยครับ

    ปล. ที่ผมนั่งเห็น ผมคิดไปเอง จริงแล้วคงไม่มี แต่ก็เกิดกลัวครับ ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2009
  12. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    กลัวอะไรหรือ..
    ความจริงแล้ว สิ่งที่เห็น ก็ทำใจว่า สักแต่ว่าเห็น มันก็เป็นเช่นนั้นเอง
    ใจเราไม่ข้องเกี่ยวด้วย สิ่งที่เห็นนั้น ก็ดูไป เหมือนดูหนังดูละคร
    ไม่นำเอามา วิตกวิจารณ์ต่อ

    ผู้ดูหนังดูละคร เช่นคุณเจ๋ว นั่งดูละครทีวีดังอยู่ เมื่อดูแล้วก็อิน ไปกับบทบาทตัวละคร
    บางครั้งก็เข้าไปเล่นด้วย "มึงเอ้ยถ้าเป็นกูละก็กูไม่ยอมให้แม่ผัวข่มเหงได้ กูจะต้องตอบโต้อย่างนี้ๆ"ว่าแล้วก็ออกท่าออกทาง ฯลฯ

    สิ่งที่เห็นในสมาธิก็เช่นกัน มันมีไว้ให้ดูให้ศึกษา มิใช่ให้เข้าไปแสดงด้วย
    วางใจให้ถูก
     
  13. korpsit

    korpsit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +50
    รบกวนอาจารย์ครับ

    พอดีตัวผมเป็นลมชักมา 8-9 ปี ต้องทานยากันชักตลอดไม่ทราบว่าควรจะทำอย่างไรบ้างครับ
    ขอบคุณครับ
     
  14. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    มียาหอมอยู่ตัวหนึ่งชื่อยาหอม บาดทะจิต
    เป็นยาหอมแก้อาการอันเกิดจาก ความสัมพันระหว่างสมองและระบบประสาทที่ควบคุมร่างกายแปรปรวน
    ลองเซร์ท หาดู (ถ้าหาไม่ได้ ให้ใช้ยาหอมอินทร์จักรแทน)

    ในกระทู้ที่ผมเขียนไว้นี้ก็เคยให้สูตรยาไว้(นึกไม่ออก ไม่รู้อยู่ตรงใหน)

    การรักษา
    ๑.ยาหอมบาดทจิตร ๑ ช้อนชา+น้ำอุ่น วันละ ๓-๔ ครั้ง (ยาหลัก)
    ๒.ยาอายุวัฒนะพระนารายณ์ ๑-๒ เม็ด วันละ ๒ ครั้ง (ยาช่วย)
    ๓.ยาปลูกเตโช ๑ เม็ด วันละ ๒ ครั้ง (ยาช่วย)
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  15. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    e-mail จาก คุณ โกศิลป์ ภิรมย์ไทย ถึง suwi
    11 พ.ค. 52


    ขอบคุณครับอาจารย์ ตอนขึ้นไปเรียนจะหาโอกาสขึ้นไปเยี่ยมอาจารย์ ชื่อคลีนิคอะไรครับอาจารย์ ไม่ทราบว่ารับเป็นอาจารย์สอนด้วยรึป่าว จะได้แนะนำอาจารย์ของวิทยาลัยเชิญอาจารย์มาสอนบ้าง วันนี้ขอเรียนถามอาจารย์หน่อยมีคนไข้มาปรึกษา 3 ราย ดังนี้
    1.ผู้ป่วยหญิงอายุ 28 ปี เศษทำงานเป็นธุรการของบริษัทใน กทม. ไปตรวจแพทย์แผนปัจจุบันพบช๊อคโกแลตซีสต์ที่มดลูก การรักษาที่ได้คือนัดฉึดยาคุมกำเนิดทุกเดือนได้ 3 เดือน ปัญหาที่พบคือผู้ป่วยเกิดฝ้าที่โหนกแก้มทั้งสอง มาขอคำปรึกษา อาจารย์ช่วยแนะนำขั้นตอนการรักษาด้วยครับ
    2.ผู้ป่วยทำงานที่เดียวกันรายที่ 1 อายุ 37 ปีเศษ มีอาการท้องผูกบ่อย ปัจจุบันตรวจพบริดสีดวงทวารเป็นเดือยโผล่ออกมา แพทย์แผนปัจจุบันให้ยามาเหน็บก็พอทุเลา มาที่สถานีอนามัยผมแนะนำใช้เพชรสังฆาตไป ขอคำแนะนำอาจารย์ด้วยครับ
    3.สามีภรรยาอายุ 30 และ 32 ปี อยากมีบุตรมากแต่งงานมา 2 ปีแล้ว ไปตรวจแพทย์ปัจจุบันอาการปกติ แนะนำทำกิ๊ฟ ผู้ป่วยไม่เงินครับ ผมควรจะแนะนำอะไรดี ขอคำแนะนำอาจารย์อีกครั้งครับ
    ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ล่วงหน้าครับ
     
  16. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ตอบ คุณ โกศิลป์ ภิรมย์ไทย

    ประจำอยู่ที คลีนิค การแพทย์แผนไทย นีโอไลฟ์

    เคสที่ ๑.
    ผู้ป่วยหญิงอายุ 28 ปี เศษทำงานเป็นธุรการของบริษัทใน กทม. ไปตรวจแพทย์แผนปัจจุบันพบช๊อคโกแลตซีสต์ที่มดลูก
    การรักษาที่ได้คือนัดฉึดยาคุมกำเนิดทุกเดือนได้ 3 เดือน ปัญหาที่พบคือผู้ป่วยเกิดฝ้าที่โหนกแก้มทั้งสอง
    มาขอคำปรึกษา อาจารย์ช่วยแนะนำขั้นตอนการรักษาด้วยครับ

    ตอบ
    ซีสต์ชนิดต่างๆ และช๊อกโกแลตซิสต์ ในระบบสืบพันธ์ของสัตรีเพศ ไม่ว่าจะเป็นที่มดลูก ปีกมดลูด ฯ
    ล้วนเกิดจากเศษเหลือ คั่งค้างของโลหิตประจำเดือนที่ถูกขับออกไม่หมดในแต่ละรอบเดือน
    ปกติ ในกายมนุษย์เราจะมีระบบขจัดของเสียที่คั่งค้างอยู่ แต่การขจัดของเสียนี้ ในแต่ละคนไม่เท่ากัน บ้างมากบ้างน้อย

    ผู้ที่ขจัดออกได้เร็ว ก็ไม่มีปัญหา
    ผู้ขจัดได้ช้า เศษเหลือของโลหิตระดู ก็จะคั่งค้างสะสมมากขึ้น มากขึ้นในแต่ละเดือน
    ร่างกาย ไม่ยอมรับของเสียเหล่านี้ ด้วยระคายเคืองกับของเสียที่คั่งค้าง
    จึงสร้างพังพืดมาหุ้มรัดไว้ ทำให้เป็นซิสต์ และค่อยๆโตขึ้นในแต่ละรอบเดือน
    ถ้าเป็นเลือดที่ค้าง สีก็จะเข้ม เรียกว่าช๊อกโกแลตซีส

    การฉีดยาของแพพทย์แผนปัจจุบัน ก็เพื่อระงับการเกิดระดู ทำให้ไม่มีโลหิตระดูมาคั่งค้างเพิ่มขึ้นอีก
    และร่างกายก็ค่อยๆขจัด ซีต์ที่ตั้งเป็นลูกเป็นก้อนออกไปเองอย่างอัตโนมัติ ช้าๆ
    ก็ทำให้หายได้เช่นกัน แต่ไม่ทุกคน(ทำไมเป็นเช่นนั้น ????)

    การรักษาในแนวคิดของแพทย์แผนไทย

    ด้วยความรู้เรื่องพลังชีวิตที่ต้องเข้ามาหล่อเลี้ยงทุกอวัยวะ
    และความรู้ในเรื่อง การผดุงครรภ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพทย์แผนไทย
    ทำให้รู้ว่า

    สัตรีที่มีปัญหา เรื่องโลหิตระดูในทุกรอบเดือน ล้วนเกิดจาก การบิดตัวของมดลูก และปีกมดลูก
    ทำให้พลังชีวิตที่มาหล่อเลี้ยงระบบนี้มีไม่พอ(การขจัดของเสียจะลดลง)
    ครั้งถึงเวลามีรอบเดือน การขับถ่ายของเสีย ก็จะไม่สะดวกติดขัด ตกค้างอยู่
    ทำให้เจ็บปวด ทำให้เป็นลิ่มเป็นก้อน เน่าเหม็น และของเสียตกค้างอยู่
    ครั้นนานไปก็จะคุมกันเข้าจับเป็นลิ่มเป็นก้อนแห้งกรังจับแนบชิดอยู่ที่กระดูกสันหลัง

    การแก้ไขควรทำเป็นะบบ
    ๑.ตรวจสอบ การบิดตัวของปีกมดลูกและตัวมดลูก และใช้ความรู้ในเรื่องนวด ครรภ์รักษา จัดมดลูกและปีกมดลูกให้เข้าที่เข้าทาง
    ***เพื่อให้พลังชีวิตเข้าหล่อเลี้ยงระบบนี้ให้พอ การขับถ่ายของเสียก็จะสะดวก ไม่คั่งค้าง ระบบก็จะสะอาด
    ** ระบบการขจัดของเสียออกจากร่างกายก็จะค่อยๆทำลายขจัดสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกาย
    ซีสต์ที่เป็นอยู่ก็จะค่อยๆยุบแห้งไป

    ๒.การให้ยาเพื่อเร่งการขับถ่ายของเสีย และบำรุงไฟธาตุและโลหิต
    ยาที่ใช้มี
    ๒.๑ ยาปลูกไฟธาตุ สัตรีที่มีปัญหาเรื่องระดูโลหิต ๘๐-๙๐% ล้วนมีปัญหาไฟธาตพิการทั้งสิ้น
    ๒.๒ ยาขับระดูโลหิต(ยาประจุโลหิต) เช่น พรมหมภักดิ์ (ขับโลหิตรดูสัตรี) ประสะไพล
    ๒.๓ ยาบำรุงโลหิต

    เทคนิคการใช้ยาดังกล่าว และตำราส่วนประกอบยา อยู่ในเรื่อง คัมภีร์มหาโชติรัต เขียนไว้แล้ว อยู่หน้าแรก ให้ย้อนไปอ่านดู
    อย่าลืม อ่านเรื่องมานโลหิตด้วย เขียนไว้ให้อ่านแล้ว อยู่ใกล้ๆกัน

    ยาทั้งสามตัวหมอสุวิรวมสูตรอยู่ใน
    ยาปลูกเตโช และ ยาไพลทอง
    ใครสนใจอุดหนุนหมอ ก็เชิญติดต่อได้

    หมายเหตุ
    ยาที่ชื่อ พรหมภักตร์ เป็นยาแก้อุจาระพิการ
    ยาที่ชื่อ พรหมภักดิ์ เป็นยาขับ(ประจุ)โลหิตสัตรี

    ยาสองตัวนี้แม้ชื่อจะออกเสียงเหมือนกัน แต่สะกดไม่เหมือนกัน
     
  17. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เคสที่ ๒.
    ผู้ป่วยทำงานที่เดียวกันรายที่ 1 อายุ 37 ปีเศษ มีอาการท้องผูกบ่อย
    ปัจจุบันตรวจพบริดสีดวงทวารเป็นเดือยโผล่ออกมา แพทย์แผนปัจจุบันให้ยามาเหน็บก็พอทุเลา
    มาที่สถานีอนามัยผมแนะนำใช้เพชรสังฆาตไป ขอคำแนะนำอาจารย์ด้วยครับ

    ตอบ
    ริดสะดวง โบราณเรียกอย่างนี้-หมายถึงเนืองอก ที่ตั้งขึ้นเป็นลิ่ม เป็นก้อน ในทุกอวัยวะในร่างกาย
    ลิ่มก้อนดังกล่าว เมื่อตั้งขึ้นแล้วก็เจริญขึ้นอาจแปรไปได้ต่างๆนาๆ เช่นเป็นฝี เป็นหนอง เป็นตุ่มเป็นก้อน และท้ายสุดคือมะเร็ง

    ริดสีดวงทวาร ยาที่ดีคือเพชรสังฆาต มีวิธีกิจเฉพาะตัว กินแบบมั่วๆ ปากจะเจ่อ ปวม ศึกษาวิธีกินด้วย เขียนไว้ให้แล้ว เปิดย้อนกลับไปดู

    ส่วนริดสีดวงภายใน(เนื้องอกต่างๆ) จากประสพการณ์ ยาเดียวที่ดีที่สุดคือกระดูกอ่อนปลาฉลาม
     
  18. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เคสที่ ๓.
    สามีภรรยาอายุ 30 และ 32 ปี อยากมีบุตรมากแต่งงานมา 2 ปีแล้ว
    ไปตรวจแพทย์ปัจจุบันอาการปกติ แนะนำทำกิ๊ฟ
    ผู้ป่วยไม่เงินครับ ผมควรจะแนะนำอะไรดี ขอคำแนะนำอาจารย์อีกครั้งครับ

    ตอบ
    เรื่องเช่นเดียวกันนี้เคยแนะนำไว้แล้ว จึงขอยกมาให้ดูอีกครั้ง

    <TABLE id=post1952960 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>[​IMG] 10-03-2009, 09:22 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#647 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->suwi<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1952960", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jun 2007
    อายุ: 58
    ข้อความ: 984
    <IF condition="">
    </IF>Groans: 1
    Groaned at 3 Times in 3 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 55
    ได้รับอนุโมทนา 11,083 ครั้ง ใน 990 โพส
    พลังการให้คะแนน: 297 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_1952960 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->ความจริงแล้ว หมอสุวิ นอกจากจะเรียนเวชกรรม(การรักษาโรค)แล้ว
    ยังได้เรียน วิชาเภสัชกรรม(การปรุงยา)และผดุงครรภ์(การดูแลรักษาครรภ์ให้เป็นไปตามครรลอง และดูแลแม่ก่อนและหลังคลอด)
    เรียนจากกระทรวงสาธารณะสุขนะ

    แต่ไม่ได้เรียนวิธีการสร้างเด็กหรือนำเด็กเข้าจุติเลย จึงหมดปัญญาตอบคำถามคุณได้

    การเรียนรู้ของหมอสุวิแตกต่างจากผู้เรียนหมอไทยทั่วไปตรงที่เวลาค่อนรุ่ง ตี ๓ ตี ๔ มีครูอาจารย์มาติวพิเศษให้ส่วนตัว ไม่เรียนก็ไม่ได้(ชอบด้วย-ถูกบังคับด้วย)
    แต่ท่านก็ไม่สอนวิธีสร้างเด็ก
    แต่กลับสอนถึงวิธีที่เด็กจะลงเกิดได้ สอนวิธีจัดที่เตรียมทางให้เด็กอยู่และเติบโตได้สบาย จนออกมาดูโลก

    โดยปกติมารดาที่จะให้กำเนิดทารกได้ ต้องมีร่างกายพร้อม มีสะเบียงตุนไว้ระดับหนึ่ง มีพลังชีวิตเหลือมากพอ แบ่งมาหล่อเลี้ยงอีกชีวิตหนึ่งได้

    ท่านได้แสดงให้ดูว่าหากพลังชีวิตมีไม่พอ ชีวิตที่มาฝังตัวจะมีลักษณะเช่นใด
    ชีวิตใหม่ที่มีทุนเดิมอยู่ ช่วงแรกทำท่าเติบโตดี แต่ยิ่งโตยิ่งใช้พลังชีวิตหล่อเลี้ยงมากขึ้น
    แต่พลังชีวิตมีจำกัด ชีวิตใหม่จึงชะงัก การพัฒนาการต่างๆจะเริ่มหยุด และท้ายสุด แคระแกรน แห้งฝ่อไป(อย่างกะผลไม้อ่อน เหี่ยวแห้งคาต้นเลยวุ้ย)
    และเกิดการแท้ง

    และท่านได้แสดงให้ดูถึงเหตุแห่งพลังชีวิตที่มาหล่อเลี้ยงไม่พอว่ามีอะไรบ้าง

    ๑. การบิดตัว ตะแคงตัวของตัวมดลูก
    หากมดลูกบิดตัว ไม่อยู่ในที่ที่ควรอยู่ จะทำให้มดลูกควำ ตะแคง หงาย ฯลฯ
    ซึ่งจะทำให้ก้านหรือท่อนำไข่ที่ต่อจากปีกมดลูกถูกบิดไปด้วย
    เลือดลม(เลือดและปราณ-พลังชีวิต)ที่มาเลี้ยงมดลูกจะบิดตัวตามไปด้วย ทำให้ท่อที่นำเลือดลมมาหล่อเลี้ยง ติดขัด มีพลังชีวิตมาหล่อเลี้ยงไม่พอ
    สัตรีพวกนี้ ขณะไม่ได้ตั้งครรภ์ ก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับ รอบเดือนเป็นประจำ เช่นดำคล้ำ คล้ายเลือดเน่า ปวดเสียว ปวดหน่วง ฯลฯ
    การแก้ไข ให้ใช้พลังและวิชานวดครรภ์รักษา จัดมดลูกและปีกมดลูกให้เข้าที

    ๒. เนื่องจากธาตในกายแห่งสัตรีผู้ก้าวสู่ความเป็นมารดาแปรปรวน
    ปกติพลังชีวิตในกายมนุษย์ จะประกอบด้วย ปิตะ วาตะ และเสมหะธาตุ
    เรารวมเรียกว่าตรีธาตุ เป็นธาตุพลังงานให้ความร้อน (ปิตะ) หล่อเลี้ยงระบายความร้อนเย็น(เสหะ) และเกิดความเคลื่อนไหว(วาตะ)
    (ต่อ)...


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE id=post1953252 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->suwi<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1953252", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jun 2007
    อายุ: 58
    ข้อความ: 984
    <IF condition="">
    </IF>Groans: 1
    Groaned at 3 Times in 3 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 55
    ได้รับอนุโมทนา 11,083 ครั้ง ใน 990 โพส
    พลังการให้คะแนน: 297 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_1953252 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->๒. เนื่องจากธาตในกายแห่งสัตรีผู้ก้าวสู่ความเป็นมารดาแปรปรวน

    ปกติพลังชีวิตในกายมนุษย์ จะประกอบด้วย ปิตะ วาตะ และเสมหะธาตุ
    เรารวมเรียกว่าตรีธาตุ เป็นธาตุพลังงานให้ความร้อน (ปิตะ) ระบบระบายความร้อนเย็น(เสหะ) และเกิดความเคลื่อนไหว(วาตะ)
    พลังชีวิตทั้งสามตัวจะต้องสมดุลย์ สุขภาพจึงจะดีไม่มีโรคภัยใดมาเบียดเบียนได้

    แต่ผู้ที่เกิดมาในโลกนี้ ล้วนถูกฤดูกาลควบคุมในกาลปติสนธิและกาลกำเนิด
    ก่อให้มีธาตุเจ้าเรือนผิดแตกต่างกัน
    ชีวิตประจำวัน อาหารการกิน สถานที่อยู่ ฤดูกาลที่หมุนเวียนผัยแปร ทำให้เกิดธาตุจรเข้าเกี่ยวเนื่อง
    ทำให้ธาตุในตัว เสียสมดุลย์ไป ไม่มากก็น้อย เป็นเช่นนี้ทุกคน

    ในสัตรีมีมีธาตไฟหย่อน(น้อยเกิน) พิการ หรือกำเริบ ล้วนมีปัญหากระทบเข้าสู่ระบบปติสนธิของทารกในกายทั้งสิ้น
    ทำให้ทารกมีธาตุเจ้าเรือน ถูกชักนำจากธาตของมารดาอีกส่วนหนึ่ง
    พลังชีวิตของมารดาจะเป็นพลังเลี้ยงชีวิตใหม่ที่ถือปติสนธิขึ้น
    ถ้าพลังชีวิตรวมไม่พอ ชีวิตใหม่นั้นก็จะค่อยๆแห้งฝ่อไป
    หรือมีพอ แต่ มีตัวใดตัวหนึ่ง หรือหลายๆตัวเกิดกำเริบ หย่อน หรือพิการไป
    ชีวิตใหม่ก็จะผันแปรไปตามความผิดปกติแห่งพลังชีวิตของมารดา

    โดยปกติในมนุษย์ ธาตไฟ ซึ่งประกอบอยู่ในปิตะ เป็นพลังเลี้ยงชีวิตที่สำคัญ ในการดำรงค์ชีวิต
    ธาตุพลังอีกสองธาตุจะเป็นตัวประกอบสนับสนุนหรือถ่วงดุลย์ธาตุไฟ
    ดังนั้นถ้าธาตุไฟเพียงตัวเดียวผิดปกติไป ย่อมกระทบไปหมดทุกตัว

    ในสัตรีที่มีอาการไฟธาตุหย่อนจะไม่สามารถเลี้ยงทารกในครรภ์ให้เติบโตได้

    การแก้ไข ให้ปรับไฟธาตุในตัวแห่งสัตรีที่จะก้าวสู่ความเป็นมารดาให้ใกล้เคียงสมดุลย์ที่สุด
    อาจใช้วิธีการถ่ายพลังให้(แต่ต้องทำบ่อยๆ-ถ้าร่างกายเขาสร้างเองไม่ค่อยเป็น ผู้ถ่ายพลังก็แย่-ต้องถ่ายพลังให้บ่อยๆ)
    ใช้ยาปลูกไฟธาตให้กินเป็นประจำ ในปริมาณที่พอเหมาะ(ถ้าไฟธาตุเกิน ก็จะแท้งอีก)

    จากประสพการณ์ที่เป็นหมอมา เคยเจอเคสเช่นนี้อยู่หลายราย
    บ้างเป็นมดลูกไม่อยู่ในอู่ อันเกิดจากอุติเหตุการเล่นกีฬาแต่เด็ก
    บ้างเกิดจากคลอดบุตรแล้วเชิงกรานเคลื่อนดึงมดลูกให้อยู่ผิดที่
    บ้างไฟธาตพิการ บ้างหย่อน(ยังไม่เจอพวกไฟกำเริบ)

    มีอยู่เคสหนึ่งเป็นทั้งสองกรณีคือไฟธาตุหย่อนและมดลูกเคลื่อน
    ตั้งครรภ์เองยาก เคยตั้งครรภ์เองสองสามครั้งแล้วแต่แท้งหมด
    บ้างอยู่ได้ไม่ถึงเดือน ที่นานสุด(หมอปัจจุบันฉีดยากินยาช่วยเต็มที่) ก็อยู่ได้เกือบสองเดือน แต่สุดท้ายก็แท้ง
    ทำทั้งกิฟ ทำทุกวิถีทาง จนอายุล่วงเลยมา สามสิบกว่า(ใกล้สี่สิบ)

    หลังจากมาให้รักษาอาการปวดสะโพกและเข่าตรวจแล้วพบว่ามีมดลูกเคลื่อนด้วย
    จึงพูดคุยกันรู้สิ่งที่ต้องการแล้ว
    จึงใช้วิชานวดครรภ์รักษาจัดมดลูกให้เข้าที่
    และจัดยาปลุกเตโช+ยาหอมบำรุงหัวใจให้กินเป็นประจำ
    ไม่นานก็ตั้งครรภ์ได้และอยูจนถึงทุกวันนี้ (จะคลอดปกติในเร็วๆนี้)
    ส่วนมารดาก็หน้าใสปิ้ง(เป็นเพราะยาปลูกเตโชบรุงโลหิตด้วย)


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. bonzai

    bonzai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +180
    อาจารย์สุวิครับ คลีนิคฯ นีโอไลฟ์ อยู่ที่ไหนครับ ขอทราบวันเวลาทำการที่อาจารย์ประจำอยู่ครับ
     
  20. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    คลีนิคแพทย์แผนไทย นีโอไลฟ์ เป็นของบริษัท นีโอไลฟ์อินเตอรเนชั่นแนล จำกัด
    บริษัทนี้ ทำการค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และยาที่นำเข้าจากจีน
    ลักษณะการขายเป็นแบบขายตรง

    บริษัทนี้เปิด คลีนิคแพทย์แผนไทยเพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ
    และได้เปิดคลีนิค ทั่วประเทศ ในจังหวัดใหญ่ๆประมาณ ๑๗-๑๘ คลีนิคแล้ว และมีแนวโน้มเปิดขึ้นอีกหลายที่
    ทุกที่ มีหมอที่มีใบรับรองการประกอบโรคศิลป อยู่ประจำ

    สุวิ ประจำคลีนิค ที่จังหวัด พิษณุโลก ทุกวันเสาร์
    และ ประจำคลีนิคที่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ทุกวันอาทิตย์
     

แชร์หน้านี้

Loading...