ประวัติ และการดูเสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย นิลศิลป์, 11 กรกฎาคม 2008.

  1. นิลศิลป์

    นิลศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,665
    สุดยอดครับ สุดยอด ขอบคุณคุณแอนตี้ คุณโตด้วยครับ เดี๋ยวมาคุยกันครับ

    เสือหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน นี่ถ้าจะศึกษาจริงๆ ไม่ยากครับ แต่จะเจอเสือตัวจริง ถึงยุคยากมากครับ แต่โอกาสมีเสมอ เพราะถ้าตาเราถึงพอมีโอกาส

    ช่วงนี้มีหนังสือเครื่องรางของตี๋เหล้า ท่าพระจันทร์ออกมา มีเสือ และเครื่องรางอื่น เพรียบ ที่ท่าพระจันทร์ ร้ายข้างเจ๊ติ๋ม เขารับจองเล่มละ 1,800 บาท ราคาปกแพงกว่านี้ ออกราวเดือน พ.ค.52 พอดีไปเดินหาซื้อหนังสือ เสือหลวงพ่อปาน โดยคุณคเณศ์พร เล่มละ 140 บาท เลยเห็นหนังสือเล่มนี้น่าสนใจมาก สายตรงเครื่องรางเชิญครับมีหลากหลายมากครับ เล่มของตี๋เหล้านี้ เขาว่าของจริงทั้งเล่ม
     
  2. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,205
    คุณนิลศิลป์ ที่บ้านมีเสือหลายตัวกลัวเสือกัดมั้ยครับ ถ้ากลัวก็แบ่งมาที่บ้านผมซักตัวนึงก็ได้นะครับ ผมไม่กลัวครับ (เสือหลวงพ่อปาน)
     
  3. นิลศิลป์

    นิลศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,665
    พี่กำธร ครับสบายดีนะครับพี่ครับ เร็วๆนี้ผมคงจะได้ไปกราบหลวงปู่ม่วงอีกครับพี่ครับ อยากไปกราบหลวงพ่ออุทัย วัดเกาะตาพุต ด้วย แต่ท่านติดกิจนิมนต์ตลอดครับ ต้องโทรไปวัดก่อน

    เสือหลวงพ่อปาน ผมมี 2 ตัว ครับ ปลายเขี้ยว กับโคนเขี้ยว หลวงปู่ปาน วัดคลองด่านท่านเมตตามาอยู่กับคนเลวๆอย่างผมครับ พระคุณของท่านสูงสุดหาประมาณมิได้แล้วครับ พยายามสวดมนต์ไหว้ระลึกถึงท่านตลอดครับ เสือก็อารธนาขึ้นคอทุกวัน แปลก !เวลาอาราธนาเสือขนพองสยองเกล้าดีครับ ผมมี 2 คาถา ที่ใช้อาราธนา

    ยังไงจะนึกถึงพี่กำธรด้วยครับ...ให้พี่ได้เสือเร็วๆ เสือหน้าแมว
     
  4. แอนตี้ ญ สวมเขา

    แอนตี้ ญ สวมเขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    337
    ค่าพลัง:
    +292
    .
    .

    หนังสือคุณตี๋เหล้า ผมจองไปแล้วครับ 1 เล่ม อิอิ เคยมีหนังสือสุดยอดเครื่องรางของอ.สมชาย บุญอาษา พวกยืมแล้วทำหาย ซื้อมา 850 บาท ตอนนี้ซื้อใหม่ราคาตลาด 4000 บาท T__T

    เสือนับเป็นเครื่องรางชิ้นท้ายๆที่ผมคิดเล่นเลยนะครับพี่นิลศิลป์ ด้วยราคา ด้วยการเล่นหาที่ยัดศิษย์เป็นอาจารย์กันซะมาก

    ขอบอกว่าพี่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมต้องหามาใช้ แม้จะเป็นสายลูกศิษย์ก้อพอใจแล้วอ่าครับอิอิ

    .
    .
     
  5. นิลศิลป์

    นิลศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,665
    ครับคุณแอนตี้ ขอบคุณครับ ผมจะไปจองเหมือนกัน เห็นว่า คุณตี๋เหล้า เขาการันตีว่า เล่มนี้ของเขาดูง่ายทุกๆชิ้น การันตีว่าใช่ทุกองค์


    ข้อมูล เขาบอกว่าจากหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ผมไม่การันตีนะครับว่ามาจากหนังสือพิมพ์นี้ หรือเปล่า แต่ผมว่าดีครับ เขาอธิบายวิธีสังเกตุเขี้ยวสัตว์ประเภทต่างๆในอีกแนว หนึ่งครับ ขอให้อ่านทุกตัวอักษร จะได้ความรู้ดีมาก

    บทความอ้างอิง…เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ที่ศึกษาข้อมูลประเภทเครื่องราง โดยเฉพาะเสือ

    เขี้ยว งา กะลา เขา เป็นคำพูดที่พูดกันมานมนาน ซึ่งหมายถึง วัตถุที่นำมาสร้างเครื่องรางของขลัง นั่นเอง เครื่องรางที่ สร้างจากเขี้ยวสัตว์นั้น ส่วนใหญ่จะเน้น เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมี และ เขี้ยวหมูป่า เป็นหลัก ที่สร้างจาก งา คงเป็นแค่ งาช้าง เท่านั้น

    ส่วนเครื่องรางของขลังที่ทำจาก กะลามะพร้าว ส่วนใหญ่จะใช้ กะลามะพร้าวที่มีตาเดียว แต่ถ้าเจอกะลามะพร้าวที่มีห้าตา สิบตา ก็ยิ่งดี ถือว่าเป็นของหายาก

    สำหรับ เขาสัตว์ จะเน้นไปทาง เขาวัวกระทิง เขาควาย และ เขากวาง เป็นหลัก

    วัตถุที่นำมาสร้างเครื่องรางของขลังเหล่านี้ เชื่อกันว่า มีความขลังในตัวอยู่แล้ว ยิ่งนำมาทำพิธีปลุกเสกด้วย ยิ่งเพิ่มความขลังเป็นทวีคูณขึ้นหลายเท่า

    เขี้ยว นับว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ที่ได้รับความนิยมสูงสุดชนิดหนึ่ง เกจิอาจารย์บางท่านนำเขี้ยวมา แกะสร้างเครื่องรางของขลัง จนได้รับความนิยมให้นั่งอยู่แถวหน้า ประเภทเครื่องรางยอดนิยม เช่น เสือของหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน หรือ เสือ อาจารย์เฮง วัดเขาดิน เป็นต้น

    เขี้ยวสัตว์ที่นิยมนำมาสร้างเครื่องรางของขลัง มีอยู่ ๓ ชนิด คือ เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมี และเขี้ยวหมูป่า ซึ่งมีผู้ซักถามและถกเถียงกันอยู่บ่อยๆ คือ เขี้ยวสัตว์แต่ละชนิด มีความแตกต่างกันอย่างไร

    วันนี้เรามาทำความเข้าใจกัน ผู้เขียนเองยอมรับว่าไม่ได้เก่งกาจ อะไรมากเรื่องเครื่องรางของขลัง แต่เป็นผู้ชื่นชอบวัตถุมงคลประเภทเครื่องรางเอามากๆ คนหนึ่งเลยทีเดียว ชอบค้นคว้า ค้นตำราต่างๆ ถามผู้รู้ ผู้ชำนาญ เคยซื้อผิด ซื้อถูก ทุกอย่างผู้เขียนถือว่าเป็นครูเท่านั้น เมื่อได้ความรู้อะไรมา ที่เห็นว่าสำคัญและถูกต้องก็จะถ่ายทอดกันต่อๆ ไป จะได้ไม่สูญหายไปจากวงการ

    เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมี และ เขี้ยวหมูป่า ถ้าเป็นอาจารย์เดียวกันสร้าง เขี้ยวเสือจะได้รับ ความนิยมมาเป็นอันดับหนึ่ง รองมาก็คือ เขี้ยวหมี และ เขี้ยวหมู เป็นอันดับท้าย ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะความเชื่อว่า เสือเป็นสัตว์มหาอำนาจ เป็นเจ้าป่า หายาก และฆ่าก็ยาก หมียังพอเห็นมากกว่า ส่วนหมูป่านั้นมีจำนวนมากมาย แต่ถ้าเป็นหมูป่าเขี้ยวตัน หรือเขี้ยวยาวใหญ่ ก็ถือว่าหาชมได้ยากเช่นกัน ดังคำโบราณที่กล่าวว่า ถ้าจะเล่นเขี้ยวหมูต้องเล่นเขี้ยวตัน จะเล่นเขี้ยวเสือต้องเล่นเขี้ยวโปร่ง (โปร่งฟ้า)

    ก่อนจะแยกแต่ละประเภทของเขี้ยวนั้น อยากพูดถึงลักษณะของการนำเขี้ยวมาแกะ ว่ามีลักษณะใดบ้าง คือมีทั้งที่แกะเต็มเขี้ยว ครึ่งเขี้ยว หรือ นำเอาเขี้ยวมาผ่าเป็นซีก แกะเป็นชิ้นเล็กๆ ก็มี

    เต็มเขี้ยว หมายถึง เขี้ยวที่ถูกถอดรากออกจากเหงือกทั้งอัน ซึ่งยังมีปลายเขี้ยวแหลม ยาวอยู่ เช่น เสือ หลวงพ่อนก วัดสังกะสี

    ครึ่งเขี้ยว หมายถึง เขี้ยวที่ถูกถอดรากออกจากเหงือกทั้งอัน แล้วนำมาตัดแบ่งครึ่ง ส่วนใหญ่นิยมเอาครึ่งแถบที่เป็นรากเขี้ยวมาแกะ เช่น เสือ หลวงพ่อปาน คลองด่าน ที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไป

    เขี้ยวซีก หมายถึง การเอาเขี้ยวเต็มมาผ่าแบ่งเป็นชิ้นๆ แล้วนำมาแกะเป็นวัตถุมงคลอีกทีหนึ่ง เช่น เสือเขี้ยวซีก หลวงพ่อปาน คลองด่าน หรือ เสือ อาจารย์เฮง วัดเขาดิน

    การแกะวัตถุมงคลจากเขี้ยวซีกชิ้นเล็กๆ นั้น บางท่านอาจเข้าใจผิดว่าแกะมาจากปลายเขี้ยว ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก เพราะปลายเขี้ยวมีลักษณะ แข็ง และ กรอบ ถ้าโดนแกะก็จะปริแตกไม่เป็นรูปทรง

    ความจริงแล้ว เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมี และเขี้ยวหมูป่า มีลักษณะที่แยกออกจากกันได้ชัดเจน ผู้เขียนจะอธิบายไปทีละขั้น จะได้เข้าใจง่าย ไม่สับสน โดยดูรูปภาพประกอบ จะเห็นได้ชัดเจน

    เขี้ยวเสือ มีทั้งขนาดเล็ก และใหญ่ ขึ้นอยู่กับชนิด และขนาดของตัวเสือ เขี้ยวจะยาว เรียว ปลายแหลมคม โค้งพอประมาณ ดูจากปลายเขี้ยวจะเห็นเหลี่ยม เป็นร่องเล็กๆ อยู่สี่มุม วิ่งเป็นแนวร่องเข้ามายังตัวเขี้ยวชัดเจน เราเรียกกันว่า ร่องเส้นเลือด และถ้านำเขี้ยวเสือมาตัดแบ่งครึ่ง เราจะเห็นรูตรงกลาง เป็นรูกลวงโปร่ง ไปสุดโคนเขี้ยว ซึ่งจะมีลักษณะกลม หรือกลมรีเล็กน้อย กว้างประมาณ ๒๐-๓๐ % ของพื้นที่หน้าเขี้ยวที่เราตัดครึ่ง และจะมีคลื่นรัศมีวิ่งรอบปากรูเขี้ยว ซึ่งมองเห็นได้ชัดเจน

    เขาใช้นิ้วดีดตรงปลายเขี้ยว ถ้าดีดแล้วตัน ผ่าน ส่วนตรงโคนเขี้ยว ดีดแล้วโปร่ง ผ่าน … สุดท้ายใช้ไฟแช็คจุด ดมกลิ่น…ผ่าน… เสือฮับ…

    เขี้ยวหมี มีขนาดเล็กและใหญ่เช่นกัน เขี้ยวหมีเมื่อดูภายนอกลักษณะทั่วไปคล้ายเขี้ยวเสือมาก คือมีความเรียว โค้งยาว ปลายแหลมคม สิ่งที่แตกต่างจากเขี้ยวเสือนั้น คือปลายเขี้ยวหมี ก็มีร่องเลือดเหมือนกัน แต่เป็นแบบ เส้นเลือดสีน้ำตาลแดงวิ่งรอบเป็นวงเดือน จากปลายเขี้ยวเข้ามาด้านใน เป็นสิบๆ รอบ ซึ่งเรามองด้วยตาเปล่าได้ชัดเจน และเมื่อเรานำเขี้ยวมาตัดผ่าแบ่งครึ่ง จะพบรูกลวงโปร่งเช่นเดียวกับเขี้ยวเสือ แต่ รูของเขี้ยวหมีจะกว้างกว่ารูของเขี้ยวเสือ มาก บางเขี้ยวเจอรูกว้าง ๗๐-๘๐% ของหน้าเขี้ยวเลยทีเดียว

    เขี้ยวหมูป่า มีลักษณะแตกต่างจากเขี้ยวเสือและเขี้ยวหมี ซึ่งเห็นได้ชัดเจนมาก คือ เขี้ยวหมูป่า มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ มีลักษณะแบน เป็นเหลี่ยม โค้ง ยาว ปลายแหลม รูกลวง บางเขี้ยวยาวมากๆ จนเกือบจะเป็นครึ่งวงกลมเลยก็มี ส่วนใหญ่จะเป็นเขี้ยวกลวงเกือบทั้งนั้น จะหาเขี้ยวแบบตันยากมาก

    สรุปได้ว่า เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมี และเขี้ยวหมูป่า มีลักษณะที่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาแล้วก็สามารถแยกออกจากกันได้อย่างชัดเจน ถ้าท่านผู้อ่านมีโอกาสได้เครื่องรางของขลังประเภทเขี้ยวเหล่านี้ ก็ควรใช้ดุลพินิจพิจารณา ข้อมูลของผู้เขียนอาจจะช่วยท่านได้บ้างไม่มากก็น้อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2009
  6. นิลศิลป์

    นิลศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,665
    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    ภาพบางภาพนำมาจากเว็ป wikipedia .org

    ที่ผมนำภาพเสือมาให้ชมนี้ มิได้เจตนาส่งเสริมให้ไปฆ่าชีวิตมันนะครับ เพราะไม่ถูกต้องโดยสิ้นเชิง อีกอย่างปัจจุบัน เสือเป็นสัตว์สงวน ฉะนั้นใครมีสัตว์เหล่านี้ไว้เลี้ยงดูต้องขออนุญาติอย่างถูกต้องครับ จะเห็นได้ว่าเสือนั้นรวมสุดยอดแห่งความสุดยอดไว้ในตัวครับ เช่น ความน่ารัก ความน่ากลัว ความน่าเกรงขาม ความมีเสน่ห์ ความสวย ความมีตบะ ความมีอำนาจ โอย เยอะแยะคร้าบบบ จาระไนไม่หมดเลย โบราณคณาจารย์ท่านถึงได้นำเขี้ยวเสือมาสร้างเสือขึ้นมาไงครับ

    แต่เจตนาให้ดูเขี้ยวเสือเป็น ผมเองตอนหัดดูใหม่ๆอยากเป็นก็ไปหาหนังสือเสือที่มีรูปเสือแบบเป็นๆ นี่ละครับมาเปิดดู และหัดสังเกตุจดจำลักษณะเขี้ยวไว้ เมื่อไปพบลักษณะที่ไม่ใช่จะสะดุดทันที หัดสังเกตุสังกาครับ เขี้ยวเสือต้องมีดโครงสร้างของเขี้ยวแบบเจ้าเสือตัวเป็นๆนี่ละคร้าบบพี่น้องคร้าบบ... แล้วเราค่อยเสาะแสวงหาเอาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2009
  7. นิลศิลป์

    นิลศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,665
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    เปรียบเทียบโครงสร้างจากด้านข้าง เสือตัวกลางของผมเอง ส่วนตัวบน และตัวล่างนำมาจากเว็ปอื่น ตามที่กล่าวถึงในหน้า 5 ที่ผ่านมา สังเกตุรอยจารของเสือตัวบนกับของผม จะจารลักษณะคล้ายๆกันทีเดียว รวมทั้งขาหน้าก็ลงอุข้างละ 1 ตัว เช่นเดียวกัน แต่สีเขี้ยวขึ้นอยู่กับการผ่านการใช้มา หรือไม่ ใช้มากจะฉ่ำมาก ใช้น้อยจะมีสีขาวอมเหลืองในบางส่วน

    ศิลป์แบบนี้ละครับ เขาเรียกศิลป์มาตรฐานของช่างแถบวัดบางเหี้ย งานแกะเสือ เป็น HAND MADE ครับจะแตกต่างกันในทุกๆตัว แต่จะไม่ทิ้งลักษณะศิลป์ของกลุ่มเดียวกัน

    1. ตา จะแกะแบบอยู่บริเวณใกล้หน้าผาก ลักษณะคล้ายเสือแหงนหน้า มองขึ้นด้านบน แกะเป็นรูปกลมๆ แล้วมีจุดตรงกลาง เขาเรียกกันว่า ตาลูกเต๋า ไงคร้าบบพี่น้อง
    2. หู คล้ายๆแบบหูหนู เซียนบนพันธ์ทิพย์งามวงศ์วาน เขาบอกว่าหูเสือหลวงพ่อปานนี้ ถ้าแกะเป็นหูแล้วหูจะมีลักษณะบางๆ
    3. ท้อง หลายตัวจะแกะแบบมีพุงยุ้ยพองาม คล้ายเสืออุดมสมบูรณ์ บางตัวก็ไม่มีพุง
    4. ขาหน้า ช่างจะแกะขาใหญ่ วางชิดกัน และปลายเล็กจิกลงพื้น
    5. ขาหลัง ลักษณะเหมือนชันเข่า ปลายเล็บจิกลงพื้นเช่นกัน
    6. หาง มีทั้งแกะวนรอบฐาน และบางครั้งแกะวนขึ้นหลังคล้ายตัวอุณาโลมก็มี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2009
  8. นิลศิลป์

    นิลศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,665
    โมทนาทุกๆท่านครับ เสือจริงน่าเกรงขามจริงๆนะครับ ใครมีข้อมูลเพิ่มเชิญครับ

    เสือคุณตอเต่า ทั้งพิมพ์ และความเก่าของเนื้อ ผมว่ายังไม่ถึงนะครับ ด้วยความเคารพนะครับ ถ้าถามว่า แล้วใครสร้าง จะตอบยากต้องเห็นองค์จริงครับ รูปยังไม่ค่อยชัดครับ มองไม่เห็นรอยลานรอบรูเขี้ยว แต่เขี้ยวเสือแบบไม่มีรอยลานก็มีเช่นกัน ค้องดูศิลป์อื่นประกอบด้วย เบื้องต้นต้องดูก่อนว่าใช่เขี้ยวเสือไหมนะครับ แล้วค่อยดูขั้นต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2009
  9. ตอเต่าหลังตุง

    ตอเต่าหลังตุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +239
    ขอบพระคุณพี่ๆทุกท่านมากครับ ได้ความรู้ขึ้นมาอีกโขเลยคร้าบ
     
  10. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,205
    ครับผมสบายดีครับ ดีใจด้วยนะครับที่มีเสือของหลวงพ่อปานครับ ยินดีด้วยใจจริงครับ ส่วนตัวผมแล้วเสือหลวงพ่อปานเป็นสิ่งที่ไกลเกินสำหรับข้าราชการชั้นผู้น้อยอย่างผม ซึ่งรายได้มีน้อย จึงไม่ค่อยอยากหวังครับ ถ้าเป็นไปได้ ได้ของลูกศิษย์ท่านคือหลวงพ่อนก วัดสังกะสี และหลวงพ่อสาย วัดบางเหี้ย (ตอนนี้กำลังฝันอยู่ครับ) ก็ถือว่าเป็นวาสนาแล้วครับ ขอแสดงความยินดีกับคุณนิลศิลป์ อีกครั้งนะครับ และขอขอบคุณบทความดี ๆ ที่นำมาสร้างสรรค์ในเว็ป นี้ ทุก ๆ ท่านนะครับ
     
  11. นิลศิลป์

    นิลศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,665
    อย่างว่าคร้าบบบตัวผมเองก็งูๆปลาๆไปตามเรื่องครับ พี่กำธรครับ ผมเคยนำเสือตัวโคนเขี้ยวของผมไปถามเซียนที่เคยเปิดแผงอยู่ที่ท่าพระจันทร์ ปัจจุบันเขาเปิดตู้อยู่แถวพลับพลาชัย เพราะถือคติว่า พระห้ามเล่นคนเดียว และถ้าพระแท้ ดู 100 คน ต้องว่าแท้ 100 คน ผมถามเขาว่า พี่มีเขี้ยวเสือไหม เขาบอกว่าเคยมี เขาชอบเล่นเครื่องรางเหมือนกัน และเคยได้เสือมาเหมือนกัน ผมบอกว่าผมแขวนอยู่ตัวช่วยดูให้หน่อยครับ ดูแล้ว เขาบอกว่าเสือตัวนี้แท้ ล้าน % ผมบอกว่าจะแกะกรอบให้ดูรอยจารก้นเอาไหม เขาบอกไม่ต้อง โอ้โห เซียนจริง ผมเลยถามว่าดูยังไงว่าตัวของผม แท้ เขาบอกว่า...

    1. ดูที่พิมพ์ก่อนเป็นอันดับแรก ตัวนี้พิมพ์ถูก
    2. ดูความเก่า ผมถามว่า เนื้อตรงไหนเก่าหรือพี่ เขาบอกให้ดูเนื้อที่บิ่นออกไปบริเวณใกล้ฐาน รวมทั้งความเก่าในร่องฐาน ว่าแล้วส่งเสือให้ผมส่อง
    3. เขาบอกดูที่รอยจาร บอกว่าหลวงพ่อปานลายมือท่านจะไม่สวย แต่มีเอกลักษณ์ของท่าน องค์นี้จารลึกเป็นธรรมชาติ แต่เขาบอกว่า เสียอยู่อย่าง กรอบไม่สวย จริงครับ ผมใส่กรอบสแตนเลสธรรมดา นำมาแขวนเพื่อให้ไอเหงื่อเข้าไปบ้าง และเดิมเขาเลี่ยมพลาสติกกันน้ำมา ผมแกะออก เนื้อเสือตัวนี้จึงออกขาว อมเหลือง เขาบอกอีกว่า เสือมีปลอมมากจริงอยู่ แต่ถ้าเราเป็น มันมีทางจบแน่ ในคราวเดียวกันนี้ผมเลยเช่าตะกรุดโทนของหลวงพ่อจง วัดน่าต่าง มาจากพี่เขา 1 ดอก

    อันนี้มิได้จะคุยอะไรอะครับ แต่เล่าสู่กันฟัง บางครั้งถ้ามีโอกาสเจอเซียนต้องรีบถาม ไม่อาย แต่ผมเองกลัวตาตนเองจะแชแหม นะครับทั้งๆที่รู้ว่าทราบเรื่องของเสือมาพอควร แต่ยังคิดว่าตัวเองโง่มากมากมากๆๆ อยู่ดีอะคร้าบบบ...พี่น้องhello8
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 เมษายน 2009
  12. ตอเต่าหลังตุง

    ตอเต่าหลังตุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +239
    เสือหลวงพ่อนก

    เค้าบอกว่าเป็นเสือของหลวงพ่อนก แบบนี้ใช่ลายมือหลวงพ่อมั้ยครับ ตัวผมเองยังไม่ชำนาญกำลังศึกษาอยู่ครับ รบกวนพี่นิลศิลป์ พี่เชียร พี่แอนตี้
    พี่จินและกูรูทุกท่านหน่อยครับ ดูจากเขี้นวที่มีรอยแตกราน แบบนี้คือถึงยุคใช่ไหมครับ ขอความรู้น้องหน่อยครับ^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. นิลศิลป์

    นิลศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,665
    ฉ่ำดี เดี๋ยวเข้ามาคุย ขอดูละเอียดละเอียดก่อน
     
  14. ขอบพระคุณ

    ขอบพระคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +362
    คุณตอเต่าหลังตุง เสือใต้กระเช้ามองเห็นรูไหมครับ หรือเลี่ยมปิด
    ถ้าเห็นก็ถ่ายมาดูด้วยก็ดีครับ ถ่ายหน้าตรง และหลายมุมยิ่งดีใหญ่
    ส่วนตัวนี้จารตัวเลข จารตัวเลขส่วนใหญจะตีเป็นของหลวงปู่ปาน ส่วนลายมือนั้นคงต้องให้หลายๆท่านช่วยดูละครับ
     
  15. แอนตี้ ญ สวมเขา

    แอนตี้ ญ สวมเขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    337
    ค่าพลัง:
    +292
    ส่วนตัวผมตีเป็น ล.พ.สาย ครับ

    การวางอักขระ และเลขยันต์ที่ลงจารตำแหน่งใกล้เคียงกันเลยที่เดียว

    เสือล.พ.สาย ส่วนมากทำจากกระดูก ที่แกะจากเขี้ยวก้อมีแต่น้อยมาก
    เขี้ยวเสือตัด ล.พ.นก ปัจจุบันไม่น่ามีแล้วนะครับ เพราะเค้าตีไปเป็นหลวงพ่อปานหมดแล้ว

    เสือล.พ.นก น่าจะเริ่มทำจริงๆหลังปี 2453 เป็นแบบเต็มเขี้ยวเพื่อให้แตกต่างไม่ทับรอยเท้าอาจารย์แบบนี้แยกได้ง่ายชัดเจน ก่อนหน้านี้อาจมีลงจารและปลุกแทนล.พ.ปาน ไปก้อคงจะหลายตัว ด้วยอายุความเก่ายุคเดียวกัน แล้วยิ่งเป็นเขี้ยวเสือตัดด้วยแล้วจึงกลายเป็นหลวงพ่อปานไปโดยปริยาย

    ส่วนเสือหลวงพ่อสายคาดว่าน่าจะสร้างช่วง ร.7 ประมาณปีพ.ศ.2470 เป็นต้นมาคาดคะเนจากการสร้างพระเครื่องของท่านที่ทำไว้ในปี พ.ศ.2483 เครื่องรางคงออกก่อนอยู่หลายปี มีชื่อเสียงแล้วจึงสร้างพระ

    ดูความฉ่ำ ถามว่าจบมั้ย ผมจะเล่าให้ฟังเรื่องหนึ่ง มีเซียนไม่ขอเอ่ยนามอยู่แถบนครสวรรค์ไปจ้างให้ทหารเกณฑ์ห้อยสิงค์งาแกะใหม่ คล้องวิ่งฝึกซ้อมองค์ละ 100 บาท

    พอฉ่ำได้ที่ เอาเข้ามากรุงเทพท่าพระจันทร์ เซียนสายตรงลงท้ายว่า ตาคลี ขอดูและขอเช่าทันที 3 หมื่น ดังนั้นความเก่าดูที่ความฉ่ำจบไม่ลงนะครับ ควรดูหลายๆอย่างประกอบกัน


    เรื่องแบบนี้ ยังสร้างปัญหาไปถึงคนชอบมีดหมอพ่อเดิมด้วย

    โดยเฉพาะลายนาคเกี้ยวคนพื้นที่นครสวรรค์แทบไม่นิยม มานิยมในกรุงเทพแทนเพราะทุกวันนี้ มีดหมอล.พ.กันยุคต้น เค้าตีขายเป็นหลวงพ่อเดิมหมดแล้วเช่นกัน

    ลูกศิษย์ขายเป็นอาจารย์ ซึ่งถ้าไม่คิดไรมากก้อใช้แทนกันได้ เล่ากันว่ายุคต้นหลวงพ่อกัน มี ล.พ.เดิม ปลุกเสกให้ด้วย ก้อว่ากันไปครับ จะผิดก้อแค่ราคาเท่านั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 เมษายน 2009
  16. ตอเต่าหลังตุง

    ตอเต่าหลังตุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +239
    ขอบคุณพี่ๆทุกท่านครับ
     
  17. นิลศิลป์

    นิลศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,665
    อืม...อยากดูด้านฐานจังเลย ดูตัวจาร ดูยันต์กอหญ้า แต่ความรู้สึกนะครับ น่าจะยังไม่ถึงหลวงพ่อปาน เนื้อยังไม่ลึก ความเก่าคร่ำตามซอกยังไม่ค่อยปรากฎ ตัวนี้ไม่หลวงพ่อสาย ก็หลวงพ่อนก เสือตัวนี้จารตัวเลข ยังไงก็ยังอยากดูด้านฐานอยู่ดีครับผม...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 เมษายน 2009
  18. Jin

    Jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,996
    ค่าพลัง:
    +3,342
    ผมชอบเสือลิ้นกระดกครับ สวยดี
    ได้มาเเพงไหมครับพี่
     
  19. ตอเต่าหลังตุง

    ตอเต่าหลังตุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +239
    กำลังจะไปเอาครับคือเจ้าของเค้าตีเป็นหลวงพ่อนกแต่ผมไม่แน่ใจ ราคาที่คุยกันไว้คือ 6500 บาทครับ พี่แอนตี้ถ้าเป็นหลวงพ่อสายนี่ราคาจะประมาณไหนครับ
     
  20. แอนตี้ ญ สวมเขา

    แอนตี้ ญ สวมเขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    337
    ค่าพลัง:
    +292
    .
    .

    ตัวที่ผมได้มาก้อราคานี้ครับ แต่เป็นกระดูก

    ชิ้นนี้เขี้ยวก้อถือว่าได้ราคาที่ถูก เพราะราคาตลาดตกหมื่นนิดๆครับผม

    .
    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...