ตอบคำถามเรื่องเด็กอภิญญาอายุ 13 จากกระทู้เรื่องแรงบุญแรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง

น้ำมีน้อย แล้วไงจ๊ะ
เอาถังใหญ่ ๆ แบบรูปที่คุณแน๊ตเอามาลงสิ
ที่คุณยายกรวดน้ำน่ะ สะใจดีมะล่ะ
ถังแล้วยังกรวดไม่จบ เอาตุ่มดีไม๊
แท้งค์ต่อสายยางร่ายยาวให้ครบคนก็ได้นะ 5555

( อยากเรียกป้า ก็จะตอบแบบนี้แหล่ะ เห่อ เห่อ )

55555 แหม จะอะไรนักหนา
ญาติทั้งหลายจิตเราก็รู้อยู่แล้วว่ามีใครบ้าง
ก็เอ่ยแค่ญาติพี่น้องทุกคนของข้าพเจ้า แค่นี้ก็ได้
ไม่ต้องร่ายยาวชื่อเสียงเรียงนามประวัติจนครบ
คนที่จิตเขาถูกฝึกมาระดับสูง ๆ นะ
เขานึกภาพคนที่จะอุทิศให้สมมุติมีญาติสิบคน
เขาก็นึกหน้าทุกคนปร๊าดเดียวชั่ววิก็จบแล้ว
บุญก็ได้รับแล้วครบทุกคน
เทพเทวาทุกองค์ทุกสวรรค์ชั้นฟ้า แค่นี้ก็จบ ไม่ต้องร่ายทีละชื่อ
วิญญาณที่เสวยสุขอยู่ก็ดีเสวยทุกข์อยู่ก็ดี จบ
จะอุทิศให้ใครอีกล่ะ
ไม่ต้องมานั่งเอ่ยทีละชื่อ ๆ ทีละคน แบบนั้น
แท้งค์ต่อสายยาง น้องเอ๋ย คือคำตอบสุดท้าย 55555

(เรียกแบบนี้ ลูกบ้านคุณป้าแน๊ตละป่าวล่ะเนี่ย สารภาพมาซะดี ๆ )







หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
http://palungjit.org/showthrea...129821&page=31

 

เพราะคิดว่าต้องสอบผ่านเหมือนเรียนหนังสือทีละขั้นทีละตอน
ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย หากเราเข้าใจอย่างถ่องแท้จริง ๆ

หัวข้อธรรมะล้วน ๆ ครับ
เปรียบเสมือนแสงสว่างวาบเข้ามาในจิต ...... สาธุ

 

เมื่อช่วงบ่าย ๆ มีกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง
โทรมาอนุโมทนาบุญกับศิ
ก็ถามจะอนุโมทนาบุญอะไร ยังไม่ได้ทำอะไรเลยวันนี้ (ฮา )
เขาก็ว่า ก็หนังสือคุณศิน่ะสิคะ
เปลี่ยนคนที่อ่านให้กลับใจเกิดหิริโอตัปปะอย่างกระทันหัน
หันหน้าเข้าหาทางธรรมได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
เพียงแค่อ่านจบ ถือว่าหนังสือเล่มนี้สร้างกุศลทำให้เกิดคนดีและอยากทำความดีเพิ่มขึ้นอีกแล้ว ว่าไปนั่น
เขาบอกว่าเขาไปแนะให้เพื่อนซื้อมาอ่าน
เพื่อนโทรมาเล่า พอได้ก็อ่านแล้ววางไม่ลงทั้งสามีภรรยา
อ่านจบ วันต่อมา ขับรถเข้าซอยบ้าน
เกิดเจอกลุ่มผู้นิสัยไม่ดีอันธพาลเข้า
จอดรถกีดขวางจนเข้าซอยไม่ได้
ก็เลยบอกเขาว่าให้ช่วยจอดรถอย่ากีดขวางทาง แค่เนี้ยะ
เช้ามาได้เรื่อง ป้ายทะเบียนรถของเขาหายวับไปจากรถทั้งแผ่น
(นี่แหล่ะหนา สังสารวัฏถึงได้อยู่ยงคงกะพัน
ผู้คุมเมืองนรกถึงมีงานทำกันไม่เลิกรา )
จนญาติผู้ใหญ่เกิดอารมณ์บอกจ้างนักเลงดักตีหัวยิงมันเลยดีไหม
เขาบอกว่าหากเป็นก่อนหน้าที่จะอ่านหนังสือเล่มนี้ คงได้เรื่องแล้ว
แต่พออ่านจบก่อนเหตุเกิด มันทำให้เขาเกิดความกลัวกรรมมันจะติดจรวจ
ดุจดังทุกตัวอักษรในหนังสือเล่มนี้
จึงบอกญาติไปว่า ปล่อยเขาไปเหอะ รอให้กฏแห่งกรรมชำระคนทำดีกว่า
อย่าได้สร้างกรรมผูกกันอีกเลย เดี๋ยวเป็นแบบในหนังสือ 555
จิตใจเย็นเกิดหิริโอตัปปะได้อย่างกระทันหันและรวดเร็ว เพราะหนังสือเล่มนี้
สาธุ คนเขียนก็เพิ่งทราบว่าตัวหนังสือที่เขียน
สามารถเพิ่มคนดี และคนทำความดีได้

แล้วคุณล่ะ จะมีความสุขมากแค่ไหน
หากสามารถทำให้คนที่คุณปรารถนาดี
เป็นคนดี และเป็นคนทำความดี
ให้มีเพิ่มมากขึ้นในสังคม

แบบนี้คงต้องอนุโมทนาบุญกับผู้ที่นำไปเผยแผ่ที่โทรมาบอก
มากกว่าอนุโมทนาบุญกับผู้เขียนนะคะ ถึงจะถูกต้อง
เพราะหากไม่มีคุณนำความไปบอก เขาก็ไม่รู้จักชื่อศศิริยะและไม่ได้อ่านหนังสืออยู่ดี ...
ความละอายและเกรงกลัวต่อบาปกรรม ก็ไม่เกิดขึ้น...จริงไหมเล่า


ตอน..อนุโมทนาผิดคน (ฮา )





หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
http://palungjit.org/showthrea...129821&page=31

 

;aa4 สวัสดีคับพี่ๆทุกท่าน อยากให้ผู้รู้ทุกท่านช่วยอธิบายเรื่องการนั่งสมาธิอย่างง่ายๆคับ และจิตที่ฟุ้งซ่านทำอย่างไร ถึงจะระงับได้คับ ช่วยสงเคราะห์ ด้วยคับpiggi

 

ขอ อนุโมทนาด้วยคับพี่ศศิ อย่างน้อยทำให้ผมเข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรมมากขึ้น
ลด ละการทำบาปมากขึ้น เดี๋ยวนี้ไม่กล้า ตบยุงแล้ว กลัวบาปค๊าบบบบบบ
พี่น้องงงงงงง ไม่ทราบพี่ได้เมล์ผมรึคับ พี่ศศิคนสวย

 

เห่อ เห่อ เรียกพี่ ๆ แบบนี้ค่อยน่าตอบหน่อย
(แอบนินทา ไม่เหมือนคุณลูก จ จ
แหมเรียกท่านป้า ฟังแล้วสยองหัวใจ แลดูแก๊แก่กว่าป้าเฉย ๆ อีกนะเนี่ย 555)

การนั่งสมาธิแบบง่าย ๆ ทำดังนี้
1. นั่งหลับตาเฉย ๆ ไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น
2. หรืออยากกำหนดคำอะไรก็เชิญตามสบายที่ถูกจริตตัวเอง
3. หากจิตฟุ้งซ่าน ก็พยายามดึงจิตกลับมาที่คำที่กำหนดท่อง
4. หากดึงอย่างไรก็ยังฟุ้งซ่านคิดโน่นนี่นั่นไปเรื่อยก็เปลี่ยนวิธี
5. เปลี่ยนมาลองนั่งหลับตาทำสมาธิแบบเปิดเพลงสวดมนต์เพราะ ๆ ที่ชอบฟังดู แล้วใจให้ไปอยู่ที่เสียงสวดมนต์เพราะ ๆ นั้นไปเรื่อย ๆ ทำทุกวัน จนจำมนต์นั้นได้แม่น
6. หากสองแบบที่ว่ามาซึ่งง่ายที่สุดแล้ว ยังทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องฝึกแล้วพ่อหนุ่มเอ๊ยยยย 555555


ฝึกสมาธิง่าย ๆ สไตล์...ศศิริยะ



หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
http://palungjit.org/showthrea...129821&page=31

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ thanyaka
อ้างอิง
นิพพาน คือ สภาวะความว่างเปล่าแห่งจิต หรือตอบสั้น ๆ เข้าใจง่าย ๆ แค่ ความว่างเปล่าแค่นั้นล่ะจีะ
ขอประทานโทษนะคะ คุณศศิริยะขา
ขอยกมือถามหน่อยค่ะ สงกะสัย ที่ว่าสภาวะความว่างเปล่าแห่งจิต ที่ว่านี่ คือการไม่คิดอะไรเลยในช่วงนั้น หรือ การไม่เก็บเอาอะไรมาคิด มาใส่ใจ สนใจ หรือปล่าว ขออธิบายอีกนิดเถอะคะ
เพราะ ตอนนี้ บางครั้งสมองดิฉันก็ว่างคือไม่ได้คิดอะไร มันเฉยๆ บางครั้งคิดว่าตัวเราเองเป็นอัลไซเมอร์คือปล่าว หรือมันชักจะเสื่อมนะคะ ก็เลยไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นโรคหรือว่ายังไง
</TD></TR></TBODY></TABLE>

นิพพาน คือ ความว่างเปล่า ในที่นี้หมายถึง
ความว่างเปล่าจากการยึดติดในทุกสรรพสิ่ง
ว่างเปล่าดับหมดแล้วซึ่งกิเลสทั้งหลายทั้งปวง
ตลอดไปชั่วกาลนาน ผู้ที่ฝึกจิตจนเข้าถึงสภาวะนิพพาน
ไม่จำเป็นต้องดับสิ้นชีวิตตามเข้าใจแบบผิด ๆ
ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็สามารถอยู่ในสภาวะนิพพานได้เช่นกัน
ไม่ใช่ความว่างเปล่าแค่บางชั่วขณะของสภาวะจิตนะคะ
ทำความเข้าใจให้ดี ๆ

หากสมองหรือจิตเกิดความว่างเปล่าเพียงชั่วครู่
เช่น กำลังคุยกับใครอยู่ แล้วอยู่ ๆ ข้อมูลในสมองมันว่างไปเฉย ๆ
เหมือนคนจำอะไรไม่ได้ น๊อคไปชั่วขณะ ไม่รู้จะสื่อสารข้อความอะไรกับผู้อื่น
แล้วก็วกกลับมาปรุงแต่งทางโลกเหมือนเดิมใหม่เป็นระยะ ๆ
แบบนี้ไม่ใช่สภาวะที่เข้าถึงพระนิพพานค่ะ
ลองแปลและทำความเข้าใจใหม่ดูนะคะ
การอ่านก็ดี ต้องรอบคอบในเรื่องของความเข้าใจ
และการแปลความหมาย
มิเช่นนั้น เราก็จะเดินวนไปวนมาอยู่แบบนี้อยู่ร่ำไป
ต้องใช้สติในการอ่านพินิจพิจารณาให้ดีค่ะ
เราจึงจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ อย่าอ่่านแค่ผ่าน ๆ
การตีความอาจผิดพลาด และทำให้เดินทางเบี่ยงไปได้เหมือนกัน
ต้องระวังกันสักนิดในเรื่องการตีความนะคะ


ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ รวดเร็วดีจัง

 

เมลล์อะไรจ๊ะ กองเป็นภูเขา
เขียนนามแฝงที่ใช้ในนี้มาด้วยหรือเปล่าเอ่ย
ช่วยบอกมาด้วยก็ดีนะจ๊ะ จะได้ทราบว่าของใคร
ไม่ง้านถามแบบนี้ ตอบยากทำใจลำบาก
เพราะไม่รู้เมลล์ไหนของคนถาม จริง ๆ

อ้อ...นี่แสดงว่าตะก่อนชอบตบยุงล่ะสิเนี่ย
กรรมหนอ กรรมหนอ 5555
ระวังหนา อย่าประเภทไม่ตบยุงแล้วคร๊าบบบบ
แต่กัดเมื่อไหร่เจอไบกอน (แบบป้าแน๊ต 5555)

โอ๊ะโอ เรียกพี่แบบนี้ นึกว่าจะหลงกลรึไร
55555 ยากส์ส์ส์ส์ส์ส์ส์ส์
อุเบกแล้วซึ่งคำชม อิอิ
ไม่ได้ผล ๆ





หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
http://palungjit.org/showthrea...129821&page=31

 

น้ำมีน้อย แล้วไงจ๊ะ
เอาถังใหญ่ ๆ แบบรูปที่คุณแน๊ตเอามาลงสิ
ที่คุณยายกรวดน้ำน่ะ สะใจดีมะล่ะ
ถังแล้วยังกรวดไม่จบ เอาตุ่มดีไม๊
แท้งค์ต่อสายยางร่ายยาวให้ครบคนก็ได้นะ 5555

( อยากเรียกป้า ก็จะตอบแบบนี้แหล่ะ เห่อ เห่อ )

เห่อ เห่อ เรียกพี่ ๆ แบบนี้ค่อยน่าตอบหน่อย
(แอบนินทา ไม่เหมือนคุณลูก จ จ
แหมเรียกท่านป้า ฟังแล้วสยองหัวใจ แลดูแก๊แก่กว่าป้าเฉย ๆ อีกนะเนี่ย 555)

ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

โชคดีของปอนด์นะ ที่ไม่ต้องเห็นอะไรแบบนี้ ไม่งั้นขนหัวลุกแน่เลย

 

คุณศศิเป็นผู้เขียนหนังสือ ...............เปรียบเสมือนต้นไม้
หนังสือปาฏิหาริย์ฯ ......................เปรียบเสมือนผลไม้
ผู้ที่แนะนำหนังสือ .......................เปรียบเสมือนสื่อกลาง
คนที่อ่านแล้วเกิดหิริโอตัปปะ............เปรียบเสมือนได้ลิ้มรสทิพย์ของผลไม้
สมควรได้รับอนุโมทนาทุกท่านครับ

 

เห่อ เห่อ เรียกพี่ ๆ แบบนี้ค่อยน่าตอบหน่อย
(แอบนินทา ไม่เหมือนคุณลูก จ จ
แหมเรียกท่านป้า ฟังแล้วสยองหัวใจ แลดูแก๊แก่กว่าป้าเฉย ๆ อีกนะเนี่ย 555)

การนั่งสมาธิแบบง่าย ๆ ทำดังนี้
1. นั่งหลับตาเฉย ๆ ไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น
2. หรืออยากกำหนดคำอะไรก็เชิญตามสบายที่ถูกจริตตัวเอง
3. หากจิตฟุ้งซ่าน ก็พยายามดึงจิตกลับมาที่คำที่กำหนดท่อง
4. หากดึงอย่างไรก็ยังฟุ้งซ่านคิดโน่นนี่นั่นไปเรื่อยก็เปลี่ยนวิธี
5. เปลี่ยนมาลองนั่งหลับตาทำสมาธิแบบเปิดเพลงสวดมนต์เพราะ ๆ ที่ชอบฟังดู แล้วใจให้ไปอยู่ที่เสียงสวดมนต์เพราะ ๆ นั้นไปเรื่อย ๆ ทำทุกวัน จนจำมนต์นั้นได้แม่น
6. หากสองแบบที่ว่ามาซึ่งง่ายที่สุดแล้ว ยังทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องฝึกแล้วพ่อหนุ่มเอ๊ยยยย 555555


ฝึกสมาธิง่าย ๆ สไตล์...ศศิริยะ

_heart+love_ขอขอบคุณในคำแนะนำดีๆคับ พี่ศศิจะรีบนำไปปฎิบัติคับ
ขอโทษด้วยคับ ไม่ได้ใส่เมล์ผมไว้ lotto0806@hotmail.com เมล์ผมคับ
ยังงัยช่วยตอบด้วยนะคับ;36

 

;36 สวัสดีญาติๆ ทุกท่านค่ะ โกเม้งหนูจิ๊บขอเวลาสักพักนะค่ะ ขอเวลาไปฝึกวิทยายุทธให้แก่กล้ากว่านี้ก่อน แล้วจะไปขอเค้าคืนกลับมา
มีหนึ่งเรื่องมาเล่าค่ะ...............
ช่วงนั้นเรียนอยู่ปี 2 ต้องเดินทางไปกรุงเทพฯ ไปงานแต่งงานของเพื่อนแฟน เค้าจัดที่โรงแรมแห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา พอเสร็จงานก็ดึกมากขี้เกลียดไปหาโรงแรมที่อื่นพัก เลยเช่าห้องที่นั้นนอนเวลาก็เกือบๆ ประมาณเที่ยงคืนแล้วค่ะ และห้องก็เหลือห้องดียว เหมือนจะเป็นห้องสวีท เสียค่าห้องประมาณไม่เกิน 2000 ถ้าจำไม่ผิด แต่วิวห้องสวยมากๆห้องก็ใหญ่ มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา มีระเบียงนั่งมองวิวตอนกลางคืนเพลินดี หลังจากนั้นก็อาบน้ำนอนหลับ ตกดึกก็ได้ยินเสียงลูกบิดประตูดังก๊อกแก๊งๆๆๆๆอยู่นาน เหมือนมีคนกำลังจะเปิดประตูเราก็ตกใจแต่ก็จำได้ว่าเราล็อกประตูแล้ว และลงกรอนหมดทุกตัว เข้ามาไม่ได้หรอก เสียงลูกบิดดังไม่หยุดคิดว่าโจร แต่สักพักก็เห็นเงาดำมืดวิ่งจากประตูมาผ่านปลายตีนเตียงและวิ่งออกนอกระเบียงไปคิดว่าเป็นผู้ชายเพราะเงาที่เห็น ผมไม่ยาวรูปร่างสูงใหญ่ เหมือนผู้ชาย สรุปหุ่นดี
เหมือนแบดแมนนะตอนที่ใสชุดดำๆ แต่ไม่มีปีก......จากนั้นตัวหนูจิ๊บก็หดเหลือเท่าปลากระป๋องเพราะกลัว ขนาดห้องล็อกแล้ว ยังเข้ามาได้ เก่งจังเลยนะคุณผี......
sleeping_rbrabbit_sleepy:z1 จบแล้วจ้า......

 

เอ่อ...คุณเม้งคะ
คำว่า พี่ และคำว่า ป้า คือคำเรียกนะคะ
ส่วนที่ว่าอุเบกแล้วซึ่งคำชม
เพราะคุณเอ๊าะๆ เขาเขียนชมมาว่า " พี่ศศิคนสวย "

กรุณาอ่านแลตีความภาษาไทยวันละคำให้เข้าใจให้แตกฉานนะคะ
มิเช่นนั้นก็จะโดนตีศอกกลับแบบนี้ ให้กลับไปเรียนการแปลความภาษาไทยวันละคำใหม่นะคะ อะแอ้ม !

นี่แหล่ะหนอ อ่านแบบเผลอเรอ ขาดหายซึ่งความรอบคอบ
ความเข้าใจก็ผิดความหมายไปฉะนี้แล
หานิพพานยากนะแบบนี้ ฮ่าๆๆๆๆๆ (ฮา ทีหลังดังกว่า )





หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
http://palungjit.org/showthrea...129821&page=31

 

หวัดดี ครับ
เข้าบ้านนี้ ไม่ได้เลย
ฝากบอกด้วยว่า
คิดถึงทุกคน ครับ

_heart+love__heart+love__heart+love__heart+love__heart+love_

 

หวัดดี ครับ
คิดถึงทุกคน ครับ
_heart+love__heart+love__heart+love__heart+love__heart+love_

 

เห็นป่าวไม่ธรรมดาเลยน๊ะหนูจิ๊บ
เจอเป็นปกติ ที่จริงเจอบ่อยๆน่าจะชินน๊ะได้แล้วน๊ะตัวเอง
คนเราตายไปก้กลายเป็นผีเหมือนกัน
มองๆแล้วก็เป็นธรรมดาจริงๆ
เพราะฉนั้นรีบๆเร็วๆไวๆ
ทำบุญสร้างกุศลให้มากๆเข้าไว้ตายไปแล้วจะได้ไม่ลำบาก
ได้ไปอยู่ภพภูมิที่ดีๆถึงดีมากๆๆๆ
เร่งปฏิบัติเพื่อหนีการเกิดค๊าบ

 

ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เหมือนที่ป้าแน๊ตบอกเลยค๊าบ?
แหม ก็พี่ศิสวยเป็นปกติอยู่แล้วก็เลยเฉยๆกับคำชื่นชม
แล้วก็อย่าศอกแรงน๊ะค๊าบเดี๋ยวเจ็บ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า(smile)(smile)(smile)(smile)(smile)

 

;aa31 คัยจะเรียก พี่ศศิว่า ป้า ว่ายาย ก้อช่างแต่เอ๊าะคนนี้ขอเรียกพี่ศศิว่าพี่ ละกั๋น ช่วงนี้หวัดหมูระบาดระวังกันด้วยนะจ้ะ เห็นเค้าบอกมาว่า คราวนี้ของจิงคนจะตายเป็นเรือนพัน ยังไงให้พี่ศศิยืนยันด้วยตัวเองดีกว่า ขอหลังไมค์ก้อด้ายคับ จิตใจที่ดีงามจะคงอยู่ตลอดไป;k01lotto0806@hotmail.com

 

คัดเค้าสบายดี...คิดถึงทุกคนนะเจ้าคะ
คุณศิเจ้าคะงานยุ่งมากเลย ปีนี้เลยได้ความดีความชอบกรณีพิเศษแล้วเจ้าค่ะ