คนชอบตกปลา

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 20 กุมภาพันธ์ 2006.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="9" width="100%"><tbody><tr><td class="fontHeaderBlack" align="center">คนชอบตกปลา</td> </tr> <tr> <td align="center"> </td> </tr> <tr> <td> [​IMG] นายหลินเจี่ยชุนเป็นข้าราชการ ยามว่างชอบตกปลาเล่น ถือเป็นการออกกำลังกาย ทุกวันหยุดจะต้องเหมาเรือออกทะเลเป็นการพักผ่อนจิตใจแต่ละครั้งจะมีผู้ร่วมท่องเรือประมาณ80-90 คน คนที่ไปทัศนาจรบนเรือส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำมีประมาณ 30 กว่าคน ทุกวันหยุดจะต้องเตรียมเหล้านอกอย่างดีและกับแกล้มแสนอร่อย พอตอนเช้าก็ออกเรือผู้คนในเรือจะนั่งจิบเหล้าและนั่งตกปลาไปด้วย พอตกปลามาได้ก็จะนำมาปิ้งกินกันสด ๆ รสชาติแสนโอชา ประมาณบ่าย 3 โมง ต่างคนต่างกลับมาจากตกปลา ปลาที่ตกมาได้ส่วนหนึ่งก็ให้กุ๊กปรุงอาหารแล้วกินด้วยกันอย่างอร่อย บางกลุ่มเล่นไพ่ไปกินไป บางกลุ่มก็เล่นโบวลิ่งส่งเสียงเฮฮาจนดึกดื่นค่อนคืน บางครั้งถึงสว่าง ดู ๆชีวิตของพวกเขาก็มีความสุขจริง
    กลุ่มท่องเรือและจับปลาดำเนินอย่างนี้ไปหลายปีมีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย นายหลินก็เป็นสมาชิกของชมรมนี้มีคนเคยหัวเราะนายหลินว่าเห็นชมรมนี้เหมือนครอบครัว ปลาที่ตกได้เหมือนเป็นภรรยา นายหลินไม่สนใจ ต่อมาคนในชมรมนี้ก็ลดน้อยหายไปเหลือประมาณ 30 กว่าคน ในจำนวน 30 กว่าคนนี้ก็เร่งเร้าจะออกทะเล แต่รวบรวมยังไงก็ไม่ถึง 50 คนคนในชมรมรู้สึกอารมณ์ไม่ดี เพราะไม่สามารถสนุกสนานเหมือนเช่นก่อน ชมรมนี้มีทีท่าว่าจะสลายลง อยู่ๆ ก็มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น 2 เรื่อง นายหลินไม่เชื่อเรืองกฏแห่งกรรม นายหลินไม่เคยแต่งงานและไม่เชื่อว่าวิญญาณผีมีจริง ตลอดชีวิตไม่เคยเชื่อเรื่องวงเวียนกรรม ระยะหลังนี้ไม่เคยเอ่ยเรื่องออกทะเลและตกปลาอีกเลย
    สาเหตุมีอยู่ว่า เรื่องที่ 1 เหตุเกิดกับสมาชิกคนหนึ่งคือนายปันวันนั้นเป็นวันอาทิตย์ นายปันไม่ได้ออกทะเลไปตกปลานายปันกับภรรยาไปอวยพรวันเกิดให้กับแม่ยาย แม่ยายเป็นคนมีชื่อเสียงในตำบลนั้น วันนั้นเป็นวันเกิดจึงได้เลี้ยงอาหารชาวบ้านแบบนั้น ชาวบ้านแถบนั้นได้มาช่วยกันทำอาหาร ก็มีหมูเห็ด เป็ด และไก่ กินตลอดทั้งวัน มีขนมจีนน้ำยาเลี้ยงนายปันชอบกินของที่อยู่ในกระเพาะของปลามากที่สุดเช่น ตับ ไต หัวใจ ต่างๆ นายปันคีบกับข้าวมากินเองโดยคีบเครื่องในปลามากินอย่างเอร็ดอร่อยไม่ได้สนใจว่ามีอะไรติดค้างอยู่หรือเปล่าแล้วก็กลืนลงไป พอกลืนไปได้แค่ครึ่งคอก็เหมือนกับมีอะไรติดอยู่ที่ลำคอ จึงใช้นิ้วล้วงเข้าไปในคอแต่ล้วงยังไงก็ล้วงไม่ออก ตอนนี้ทรมานที่สุดเพราะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกจนกระทั่งหายใจก็ลำบากร้องให้คนช่วยก็ไม่มีแรงพอเห็นเหตุการณ์ผิดปกติเลยให้น้องเมียช่วยพยุง แต่นายปันมีอาการตาเหลือกคอตก หายใจช้าลง ทุกคนช่วยกันพยุงกันขึ้นรถแล้วส่งไปที่อนามัยของตำบลนั้นแต่พอไปถึงอนามัย เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ทำงานในวันนั้น เลยส่งนายปันไปที่โรงพยาบาลยังไม่ถึงโรงพยาบาลนายปันก็ขาดใจตายไปเสียแล้ว ถึงแม้นายปันจะตายไป หมอก็ต้องผ่าตัดพิสูจน์ ผลผ่าตัดปรากฏว่ามีตะขอติดอยู่ที่เครื่องในของปลา เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ ขณะที่ตะขอคิดตรงลำคอทุกคนช่วยกันใช้นิ้วควักยังไงก็ควักไม่ออก เพราะว่าตะขอติดคอนายปันอย่างแน่นทุกคนที่เห็นเหตุการณ์อย่างนี้รู้ได้ทันทีว่าอดีตนายปันชอบตกปลา สมัยที่มีชีวิตอยู่ความสุขของนายปันก็คือการตกปลาบางครั้งคนอื่นตกไม่ได้ซักตัว แต่นายปันมีพรสวรรค์เขาสามารถตกปลาได้ ก่อนตายนายปันได้ตาเหลือกอ้าปากกว้างตะขอติดอยู่ในลำคอ ทุกคนเห็นภาพดังนั้นขนลุกซู่ รู้ว่ากฏแห่งกรรมตามสนองจริงเหมือนเงาตามตัว เรื่องราวไม่ได้จบแค่นี้หลังจากที่นายปันตายไปแล้วกรมตำรวจยังจะต้องตรวจสอบศพอีกว่าสาเหตุการตายคืออะไร ทางตำรวจจึงไม่ให้นำศพกลับไปยังส่งเจ้าหน้าที่มาสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นว่ามีการฆาตกรรมหรือเปล่า ปรากฏว่ากับข้าวจานนั้นนายปันเป็นผู้ช่วยภรรยาปรุง แม้แต่ภรรยาของนายปันยังไม่รู้ว่า เพราะเหตุใดจึงมีตะขออยู่ในเครื่องในปลา เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบสืบสวนว่าภรรยากับนายปันโกรธเคืองกันหรือเปล่า หรือเป็นเพราะว่าภรรยาคิดจะฆ่านายปัน แต่เจ้าหน้าที่ก็จนปัญญา เพราะภรรยาของนายปันได้ร้องไห้เสียใจที่นายปันตายจากไปเหมือนใจจะขาด
    รายที่ 2 คือ นายหยังปี่อี้ เป็นคนตกปลามือเอกเหมือนกัน ก่อนเคยลงแข่งขันตกปลาเขาได้รางวัลชนะเลิศ 2 ปีซ้อนเมื่อไม่นานมานี้นายหยังซื้อมอเตอร์ไซด์มาคันหนึ่ง ทุกเย็นจะต้องพาคนรักซ้อนมอเตอร์ไชด์ไปกินลม มีอยู่คืนหนึ่งประมาณ 5ทุ่ม หลังวัดกำลังจัดงานศพของนายปัน อันที่จริงบนถนนสายนี้นายหยังช่ำชองมากแม้แต่จะหลับตาก็ ยังขับได้แต่ก็เป็นเรื่องแปลกประหลาด คือนายหยังขับรถผ่านมาเห็นทางข้างหน้ามีแม่น้ำใหญ่ เพื่อต้องการที่จะหลบพ้นแม่น้ำ นายหยังขับมอเตอร์ไซด์ด้วยความเร็ว 100 ก.ม.ต่อ ช.ม. จู่ ๆ ก็เบรคกระทันหัน มอเตอร์ไซด์เสียหลักพุงชนเสาไฟฟ้าดังโครม กว่าจะรู้สึกตัวอีกครั้งนายหยังก็นอนอยู่ที่โรงพยาบาลซะแล้ว
    นายหยังขับรถด้วยความเร็วแล้วพุ่งชนเสาไฟฟ้า เป็นอุบัติเหตุไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ส่งที่แปลกก็คือร่างกายมีอาการสาหัส หมอรักษาให้หายได้แต่ปากกับลิ้นอาการสาหัสเพราะฟันร่วงหมดทั้งปากไม่สามารถกินอะไรได้ ตลอดเดือนที่ผ่านมาได้แต่กินอาหารเหลวที่มีประโยชน์ แล้วกรอกเข้าไปในปาก สิ่งที่แปลกที่สุดก็คือลิ้นกับปาก หมอเย็บแล้ว 7 ครั้งก็ไม่สามารถรักษาได้ ทุกครั้งหลังจากหมอเย็บแล้ว เห็นว่าจวนหายจะตัดไหมทิ้ง วันรุ่งขึ้นปากและลิ้นจะเน่าและบวมหมอไม่สามารถรักษาได้ขณะหมอใช้ไหมอย่างดีที่ละลายได้ พอพ้นไป 7 วัน เมื่อไหมละลาย แล้วปากกับลิ้นก็เน่าขึ้นมาอีก หมอพยายามรักษาถึง 10 ครั้งแต่ก็รักษาไม่หาย หลายเดือนผ่านมา นายหยังรู้สึกทรมานและเจ็บปวดมาก นายหยังหมดอาลัยตายอย่างในชีวิตมีปากอยู่ 1 ปากแต่ก็เน่า เปรียบไปแล้วเหมือนกับปากที่ถูกตะขอเกี่ยวแล้วปากมันก็แหว่ง มีอยู่วันหนึ่งแฟนของนายหยังพูดว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...