ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ขอบคุณมากครับอาจารย์
แล้วผมจะให้ภรรยาติดต่ออาจารย์ไปนะครับ

 

เรียนถามอาจารย์ผมมีอาการมีเสียงในหู เสียงดังวิ้ง ๆ ตลอดเวลาแต่หูไม่อื้อ จะเป้นอันตรายมั้ยครับ เป็นมาประมาณ 2 เดือนแล้ว

 

สวัสดีค่ะอาจารย์สุวิ ได้เข้ามาพบกระทู้นี้โดยบังเอิญ ติดตามอ่านจนตาลายเลยค่ะ กระทู้เยอะมากๆ และรู้สึกยินดีกับคนไทยในนี้ทุกคนที่มีอาจารย์เป็นที่พึ่งค่ะ ขออนุโมทนาบุญให้กับอาจารย์และครอบครัวด้วยค่ะ

มีคำถามรบกวนอาจารย์ค่ะ ดิฉันมักจะมีความดันเลือดต่ำ และมีเลือดเป็นธาลัสซีเมีย ชนิดพาหะด้วยค่ะ ฉะนั้นเวลาที่เลือดจางจะรู้สึกเหนื่อยมากค่ะ ขณะนี้พยายามที่จะมีบุตรคนที่2 แต่ยังไม่สำเร็จ พยายามมาเกือบ 1 ปีแล้ว ไม่ทราบว่าด้วยเหตุที่มีความดันเลือดต่ำอยู่บ่อยๆนี้ ส่งผลกับการที่พยายามจะมีบุตรด้วยรึเปล่าคะ ดิฉันอยู่ต่างประเทศค่ะ หากจะหาสมุนไพรไทยทาน ก็คงจะหาลำบาก ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรดีค่ะ รบกวนอาจารย์ช่วยวิเคราะห์ให้ด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

เสียงดังในหู เกิดจากเลือดหนืดข้นไหลเวียนไม่สะดวก
เคยให้ยาแก้ไว้แล้ว และเคยบอกสาเหตุไว้

<TABLE class=tborder id=post947017 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">29-01-2008, 06:59 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#15 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>suwi<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_947017", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Jun 2007
อายุ: 58
ข้อความ: 868
<IF condition="">
</IF>พลังการให้คะแนน: 283






</TD><TD class=alt1 id=td_post_947017 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ปัจจุบัน โรคที่น่ากลัวและเป็นกันมาก คือโรคของหลอดเลือดและการไหลเวียนของเลือด
เมื่อเป็นแล้วจะทำให้ หลอดเลือดแข็งตัว ขาดความยืดหยุ่น
และเป็นต้นเหตุของโรคภัยมากมาย เช่น
เส้นเลือดสมองอุดตัน ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต เบาะๆก็อันไซเมอร์
ความดันโลหิตสูง ก็เป็นโรคอันเกิดจากระบบ ไหลเวียนช้าลง อันเกิดจากหลอดโลหิตฝอยในอวัยวะสำคัญหดตัวตีบเล็กลง
โรคหัวใจ


สมุนไพรที่ใช้ในครัวหลายอย่าง นำมาปรุงแต่งให้เป็น จะช่วยแก้ไขอาการที่กล่าวได้ระดับหนึ่ง

สูตรที่ ๑.
ใบบัวบก ๒ ส่วน
กระชาย(เฉพาะราก) ๒ ส่วน
พริกไทยขาว ๑ ส่วน

วิธีทำกิน
๑. ตากแห้ง บดเป็นผง ผสมน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเม็ดในพุทราไทยกินครั้งละ ๒-๔ เม็ด วันละ ๑-๒ ครั้ง ก่อนอาหารเช้า และก่อนนอน
๒. นำมาปั่น คั้นน้ำกิน(สูตรนี้ ต้องลดพริกไทยลงครึ่งหนึ่ง) ทำกิยบ่อยๆ วันละ ๑-๒ครั้งๆละ ๑ แก้ว (อาจเจือน้ำผึ้ง + มะนาวสัก ๑ ซีก เพื่อเพิ่มรสชาด และเป็นกระสายยา)

สรรพคุณ
บำรุงสมอง บำรุงร่างกาย
ทำให้โลหิตหมุนเวียนในเส้นเลือดฝอยได้ดี
ผลพลอยได้ เสริมสมรรถภาพ ให้ผู้อ่อนแอ
กินได้ทั้ง หญิง ชาย

สูตรที่ ๒.
กระเทียมโทน(ชนิดเปลือกสีมวง) 2 ขีด(ปลอกปลือกแล้ว)
ขิงแก่ 1 ขีด(ปลอกเปลือกแล้ว)
พริกไทยขาว 1/2 ขีด
มะนาวลูกย่อมๆ 5-10 ลูก คั้นเอาแต่น้ำ

วิธีทำกิน
กระเทียม ขิงแก่ พริกไทย และน้ำมะนาว นำลงเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด
แล้วนำเก็บในโถแก้ว(ขวดแก้ว) มีฝาปิด เก็บในตู้เย็น

วิธีกิน
ดอกคำฝอย ๑ หยิบมือ ชงน้ำร้อน ๑ ถ้วยกาแฟ กรองเอาแต่น้ำ
นำเอากระเทียมฯ ที่ปั่นไว้ ๑-๒ ช้อนชา ใส่ลงในน้ำดอกคำฝอย
อาจเติมน้ำผึ้งเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาดและเป็นกระสายยา
กินวันละ ๑-๒ ครั้งเช้าเย็น(หรือก่อนนอน)

สรรพคุณ
ลดอาการเส้นเลือดฝอยตีบตันได้ระดับหนึ่ง
ทำให้โลหิตหมุนเวียนดี

กินร่วมกัยสูตรที่ ๑ จะได้ผลเร็วขึ้น




</TD></TR></TBODY></TABLE>


ปัจจุบันเทคโนโลยี่ดีขึ้น สมุนไพรหลายๆตัวถูกนำไปสกัด และอบแห้งเป็นผง ใส่แคปซูลขาย
แต่ราคาค่อนข้างแพงมาก แต่ก็ใช้ได้ผลดี ไม่ต้องกินสมุนไพรปริมาณมาก

โรคเสียงจิ้ดๆในหูจึงแก้ง่ายด้วยสมุนไพรสกัดดังนี้

๑ ใบแปะก้วยสกัด
๒ เห็ดหลินจือสกัด
๓ น้ำมันพืชสกัด พวกแลกซิติน
๔. ยากระชายทองที่ หมอสุวิทำขึ้น

กินยาสี่ตัวนี้ เพียงไม่กี่วันอาการก็ดีขึ้น กินติดต่อสักเดือนก็หายขาด
ยาสามตัวข้างบนหาได้จากท้องตลาดทั่วไป
กระชายทองสั่งซื้อได้จากหมอสุวิ

หรือจะให้จัดให้ทั้งหมด พร้อมวิธีกิน ก็ได้<!-- / message --><!-- edit note -->

 

คุณคงมีอาการของไฟธาตุพิการร่วมด้วยแน่นอน
เช่น เย็นปลายมือปลายเท้า หรือขัดเจ็บข้อมือข้อเท้า ฯลฯ

ถ้าอยู่เมืองไทย จะแนะนำให้กินยาปลูกเตโช + ยาหอมเทพจิตร(หรือยาหอมสว่างอารมณ์) +กินยาอายุวัฒนะสูตรพิเศษ (ยาอายุวัฒนะนารายณ์ทรงจักร)
(ยานารายทรงจักร เป็นยาช่วย ยาหลักยังคงเป็น ยาปลูกเตโช + ยาหอม)
เดือนที่ ๒ ลดปริมาณยาลง และกินติดต่อกันสักสอง-สามเดือน

อยู่ต่างประเทศ ลองหาสมุนไพรสกัดมาทานดู
๑. อัลฟาฟ่า
๒. ใบแปะก้วยสกัด
๓. เห็ดหลินจือสกัด
๔. พิมโรสออย /หรือ เกรฟซีดออย

ต้องทานทั้งสี่ตัวใน ๑ วัน(สลับเวลาทาน) อาจช่วยให้อาการคุณดีขึ้น
และคงต้องทานอาหารเผ็ดร้อนเพื่อเพิ่มธาตุไฟช่วยด้วย เช่น
พริกไทย แคปซูล

 

ขอบคุณมากค่ะอาจารย์สุวิ จะลองหาสมุนไพรทั้ง 4 ชนิดมาทานดูค่ะ แต่ว่าดิฉันไม่มีอาการเย็นปลายมือปลายเท้า หรือขัดเจ็บข้อมือข้อเท้าค่ะ แต่มักจะปวดหัว มึนหัวนะคะ

ขออนุโมทนาคุ่ะอาจารย์

 

ที่คุณมีอาการมึนหัวปวดหัว จะมาจากเลือดหนืดข้น(ไฟธาตุบางตัวเกิน-อาการตรงข้ามกับไฟธาตุพิการ)
สมุนไพรสกัดทั้งสีตัว ช่วยคุณได้แน่นอน
สมุนไพรสกัด ใบแปะก้วย และเห็ดหลินจือ ต้องกินพร้อมกัน

ส่วนอาหารเผ็ดร้อนที่แนะนำให้กินมากๆ ให้ระงับ (ให้ทานตามปกติ)

 

ขอบคุณอาจารย์มากครับที่ให้การชี้แนะ รบกวนถามอีกนิดหนึ่งคือมีอาการคันที่หูชั้นนอกทั้งสองข้างและหูลอกด้วยครับ และฝ่ามือกับเท้าจะอุ่นหรือร้อนตลอดเวลา จะมีอันตรายมั้ย
ธรรมรักษาอาจารย์ครับ
กมล

 

คุณมีอาการของธาตุในกายไม่สมดุล และมีอาการไฟธาตุกำเริบ ไม่อาจกินยาปลูกเตโชได้
ให้กิน ยาปรับตรีธาตุแทน(ยาผลาธิกะ)
ยาที่ต้องใช้มี

๑.ยากระชายทอง
๒.ยาผลาธิกะ
และสมุนไพรสกัด สามชนิด ตามที่บอกไว้ จะช่วยคุณได้ทั้งหมด

หมายเหตุ
ผลาธิกะ ใช้จตุผลาธิกะแทน ส่วนประกอบตัวยาบอกไว้แล้ว
กระชายทอง คือยาบำรุงสมอง บอกสูตรยาไว้แล้วเช่นกัน

หากขึ้เกียจไปสั่งทำ ก็สั่งสำเร็จรูปแบบใส่แคปซูล ที่หมอสุวิทำไว้ก็ได้

 

ขอบคุณมากค่ะอาจารย์ เดี๋ยวจะต้องรีบหาสมุนไพรที่อาจารย์แนะนำมาทานเป็นการด่วน

ขออนุโมทนาบุญค่ะ

 

แอบอ่านกระทู้นี้มานานแล้วค่ะ แต่อ่านไม่หมดสักที
อาจารย์คะ หนูอยากเห็นยาสิวหาย กะยาหุ่นเพรียวที่อาจานโพส แล้วประทับใจมากเลยค่ะ 55
แต่ไม่มีปัญญาทำเอง สามารถซื้อจากอาจารย์ได้ไหมคะ

อีกเรื่องค่ะ แม่หนูปวดแขน ปวดหลัง ปวดคอ ปวดนู่นปวดนี่ทุกอย่าง แบบเรื้องรัง ไม่หายสักที แบบนี้รักษายังไงหรอคะ
ขอบคุณค่ะ

 

รบกวนอาจารย์อีกครั้งค่ะ ตอนนี้อายุใก้ลจะ 40 แล้ว กำลังพยายามที่จะตั้งครรภ์บุตรคนที่ 2 ค่ะ อยากได้บุตรชาย ไม่ทราบว่าจะต้องทานอาหารประเภทไหน หรือปฏิบัติตนอย่างไรให้ตั้งครรภ์ได้บุตรชายคะ ขออนุโมทนาบุญค่ะ

 

โรคนี้ตัวกลมๆกำลังเป็นค่ะ ยาของอาจารย์กำลังมา ขอบคุณค่ะอาจารย์ที่เป็นธุระจัดการให้
รู้ัตัวว่าผิดปกติ ตอนที่มีจดหมายจากสภากาชาด บอกปฏิเษธ ว่า เลือดข้นน่าจะเกิดจากการไขมัน
ส่วนหมอแผนปัจจุบัน ไม่ได้ให้ความสำคัญเลย ทั้งที่เป็นสาเหตุแรกๆ ที่ไปมีผลต่อโรคน่ากลัวๆ
อย่าง อัมพฤกษ์ อัลไซเมอร์ ไมเกรน หมอเขานิยมเรียนและ รักษาโรคปลายๆแบบนี้แทน เสียดายจัง

 

อ.ครับอยากถามอาการหน่อยครับ เพื่อนผมเวลากำมือหรือเขียนหนังสือนานๆมือนิ้วจะชาแล้วแข็ง นะครับ จะหายาอะไรมาทานครับเป็นเพราะอะไร อ.ช่วยบอกด้วยครับ ขอบคุณมากผมยังทานยาอ.อยู่ดีขึ้นมากครับ

 

อยากเรียนถาม อ.สุวิ ว่า โรคกรดไหลย้อน ที่ว่ากินยาปลูกเตโช+ขมิ้นชัน มีใครเคยทานแล้วหายจากอาการนี้ รายงานผลมาบ้างมั๊ยคะ และยาปลูกเตโช คนเป็นความดันสูงทานได้หรือเปล่า
สมาชิกใหม่ค่ะ ช่วยแนะนำด้วย

 

พวกนี้เกิดจากเลือดไปเลี้ยงที่อวัยวะส่วนปลายไม่พอ
พอออกแรงจับปากกาเขียนหนังสือ หรือหยิบจับอะไรนานๆ เลือดต้องมาหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อที่ปลายนิ้ว
เลือดใหม่มาเลือดเก่าก็ไหลกลับ
บางทีเลือดเหนียวหนืดเกินไป การไหลเวียนที่ปลายมือปลายเท้าก็ชะงักงัน
ทำไห้เลือดไหม่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อไม่พอ
กล้าเนื้อชุดนั้นก็จะชาแข็ง ในบางคนจะเป็นตะคิวด้วย

ยาแก้ง่ายๆ ก็คือยาบำรุงสมองที่สุวิเคยให้ไว้ + ยาฟอกโลหิต ไห้ไว้แล้วเช่นกัน

ถ้าขี้เกียจค้นหา และเสียเวลาทำกินเอง ก็สั่งยาสำเร็จใส่แคปซูลจากหมอสุวิไปใช้แทนได้นะ

 

เมื่อปีที่แล้วที่หมอสุวิยังไม่ได้ทำยาขาย ได้บอกสูตรนี้ไว้
ยาปลูกไฟธาตุ + ขมิ้นชัน + ยาหอม ห้าเจดีย์(หรือยาหอมซามิ้น) สามารถบ้นเทาอาการของโรคกรดไหลย้อนได้
มีผู้ไปทำกิน ได้ผลหลายราย(รายงานมาในเวป และทางโทรศัพท์)

ต่อมามีผู้เข้ามาปรึกษามากขึ้น ผู้คนไม่อยากทำยาเองด้วยยุ่งยากหลายเรื่องเลยให้สุวิทำยาขึ้นเพื่อให้คนไข้ง่ายขึ้นในการหายา

แต่ยาไทยที่จัดไว้แต่แรกเป็นยาเฉพาะคน ทำขายทั่วไปไม่ได้
จึงต้องปรับสูตรให้ทุกคนกินได้ ต้องมียาตรง(โรค) ยาแก้(อาการข้างเคียง)
ยาช่วย(ช่วยเร่งฤทธิ์ยาให้เร็วขึ้น) ยาตาม(แก้โรคที่เกิดตามมา หลังจากโรคหลักหาย)

ขมิ้นชันก็เช่นกัน สุวิได้ปรับสูตรยาหลัก มีขมิ้นชัน ยาตาม มีบอรเพ็ด ฯลฯ
แล้วตั้งชื้อว่า "ขมิ้นทอง" เพื่อแก้อาการโรคกระเพาะ และกรดไหลย้อน
ยาปลูกเตโช ก็ปรับมาจากยาปลูกไฟธาตุ
นอกจากปลูกไฟธาตุแล้ว ยังสามารถปรับ ธาตุลม ธาตุน้ำได้ และยังบำรุงโลหิตด้วย

อาการกรดไหลย้อน จะกระทบถึงหัวใจ ปอด ด้วย
การรักษาจึงต้องมียาหอมบำรุงหัวใจด้วย

สูตรเต็มของยาแก้กรดไหลย้อน จึงประกอบด้วย
ยาปลูกเตโช + ขมิ้นทอง + ยาหอมเทพจิตร(หรือยาหอมสว่างอารมณ์)

มีผู้กินยาชุดนี้แล้วอาการจะดีขึ้นใน ๓-๗ วัน และกินติดต่อกันไปประมาณ ๒-๓ เดือน จึงหายขาด

เอ้ามีใครที่ยังเล่นเวปอยู่ ได้กินยาชุดนี้แล้ว มีอาการดีขึ้นอย่างไรเล่ามาให้เพื่อนๆฟังด้วย

ส่วนเรื่องความดันสูงสามารถกินยาปลูกเตโชได้หรือไม่
ถ้าความดันค่อนข้างสูง(ยังสูงไม่มาก ประมาณ ๑๕๐/๙๐) ยังคงกินได้
แต่สูงกว่านี้ (๑๖๐/๙๕) ไม่แนะนำให้กิน

มียาปรับธาตุอีกตัวเหมาะกับคนความดัยสูงชื่อยา ปรับตรีธาต(ยาผลาธิกะ) ผู้มีความดันสูงกินได้
จัดยาให้เหมาะ + ยาผลาธิกะ ก็จะสามารถ แก้อาการความดันสูงได้ระดับหนึ่งอย่างช้าๆ (ผลาธิกะ+กระชายทอง)

 

ได้ทำขึ้นเป็ยยาแคปซูลแล้ว

ยาแก้สิว ตั้งชื่อว่า "ยาแก้แพ้เบอร์ ๒"

ยาหุ่นเพียว กินยา สองตัว คือ ยาผลาธิกะ + ยากระชายทอง
สองตัวกินรวมกันแก้ อาการเลือดหนืดได้ระดับหนึ่ง กินนานๆลดความดันสูงได้อย่างช้าๆ
และลดโคเลสเตอร์ลอนได้ระดับหนึ่ง และช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหาร (ทำให้หุ่นเพียว)

ส่วนเรื่องคุณแม่หนู
แนะนำว่าหายาดองเหล้าแก้อาการปวดเมื่อยให้แกรับประทานก่อนนอนสักวันละ ๑-๒ ช้อนโต๊ะ อาการแกจะดีขึ้น
(ถ้าความดันสูงห้ามกินนะจะ)

 

แหะๆ....
เรื่องนี้ ......งงงง.ง เค้าไม่มีปัญญาแนะนำฮะ

 

ความจริงแล้ว หมอสุวิ นอกจากจะเรียนเวชกรรม(การรักษาโรค)แล้ว
ยังได้เรียน วิชาเภสัชกรรม(การปรุงยา)และผดุงครรภ์(การดูแลรักษาครรภ์ให้เป็นไปตามครรลอง และดูแลแม่ก่อนและหลังคลอด)
เรียนจากกระทรวงสาธารณะสุขนะ

แต่ไม่ได้เรียนวิธีการสร้างเด็กหรือนำเด็กเข้าจุติเลย จึงหมดปัญญาตอบคำถามคุณได้

การเรียนรู้ของหมอสุวิแตกต่างจากผู้เรียนหมอไทยทั่วไปตรงที่เวลาค่อนรุ่ง ตี ๓ ตี ๔ มีครูอาจารย์มาติวพิเศษให้ส่วนตัว ไม่เรียนก็ไม่ได้(ชอบด้วย-ถูกบังคับด้วย)
แต่ท่านก็ไม่สอนวิธีสร้างเด็ก
แต่กลับสอนถึงวิธีที่เด็กจะลงเกิดได้ สอนวิธีจัดที่เตรียมทางให้เด็กอยู่และเติบโตได้สบาย จนออกมาดูโลก

โดยปกติมารดาที่จะให้กำเนิดทารกได้ ต้องมีร่างกายพร้อม มีสะเบียงตุนไว้ระดับหนึ่ง มีพลังชีวิตเหลือมากพอ แบ่งมาหล่อเลี้ยงอีกชีวิตหนึ่งได้

ท่านได้แสดงให้ดูว่าหากพลังชีวิตมีไม่พอ ชีวิตที่มาฝังตัวจะมีลักษณะเช่นใด
ชีวิตใหม่ที่มีทุนเดิมอยู่ ช่วงแรกทำท่าเติบโตดี แต่ยิ่งโตยิ่งใช้พลังชีวิตหล่อเลี้ยงมากขึ้น
แต่พลังชีวิตมีจำกัด ชีวิตใหม่จึงชะงัก การพัฒนาการต่างๆจะเริ่มหยุด และท้ายสุด แคระแกรน แห้งฝ่อไป(อย่างกะผลไม้อ่อน เหี่ยวแห้งคาต้นเลยวุ้ย)
และเกิดการแท้ง

และท่านได้แสดงให้ดูถึงเหตุแห่งพลังชีวิตที่มาหล่อเลี้ยงไม่พอว่ามีอะไรบ้าง

๑. การบิดตัว ตะแคงตัวของตัวมดลูก
หากมดลูกบิดตัว ไม่อยู่ในที่ที่ควรอยู่ จะทำให้มดลูกควำ ตะแคง หงาย ฯลฯ
ซึ่งจะทำให้ก้านหรือท่อนำไข่ที่ต่อจากปีกมดลูกถูกบิดไปด้วย
เลือดลม(เลือดและปราณ-พลังชีวิต)ที่มาเลี้ยงมดลูกจะบิดตัวตามไปด้วย ทำให้ท่อที่นำเลือดลมมาหล่อเลี้ยง ติดขัด มีพลังชีวิตมาหล่อเลี้ยงไม่พอ
สัตรีพวกนี้ ขณะไม่ได้ตั้งครรภ์ ก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับ รอบเดือนเป็นประจำ เช่นดำคล้ำ คล้ายเลือดเน่า ปวดเสียว ปวดหน่วง ฯลฯ
การแก้ไข ให้ใช้พลังและวิชานวดครรภ์รักษา จัดมดลูกและปีกมดลูกให้เข้าที

๒. เนื่องจากธาตในกายแห่งสัตรีผู้ก้าวสู่ความเป็นมารดาแปรปรวน
ปกติพลังชีวิตในกายมนุษย์ จะประกอบด้วย ปิตะ วาตะ และเสมหะธาตุ
เรารวมเรียกว่าตรีธาตุ เป็นธาตุพลังงานให้ความร้อน (ปิตะ) หล่อเลี้ยงระบายความร้อนเย็น(เสหะ) และเกิดความเคลื่อนไหว(วาตะ)
(ต่อ)...