กรรมลักษณะไหนจึงเป็นเศษของกรรม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 4 กุมภาพันธ์ 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,173
    วิถีจิตเกิดขึ้นที่เป็นกุศลชวนจิตหรืออกุศลชวนจิตจะเกิดซ้ำกัน ๗ ขณะ ถ้าเป็นชวนะดวงที่ ๑ สามารถจะให้ผลได้ในปัจจุบันชาติคือชาติที่ทำกรรมนั้น ถ้าไม่ให้ผลในชาตินั้น ชวนะดวงที่ ๑ จะ
    ไม่ทำให้เกิดวิบากในชาติต่อๆไปได้เลย เพราะเหตุว่าชวนะดวงที่ ๑ มีกำลังอ่อนกว่าชวนะอื่นๆ
    เพราะฉะนั้นจึงสามารถจะให้ผลได้เฉพาะในปัจจุบันชาตินั้น เพราะฉะนั้น ชวนะดวงที่ ๑ จึงเป็น
    ทิฏฐธัมมเวทนียกรรม คือกรรมที่สามารถจะให้ผลในปัจจุบันชาติ แต่ก็ไม่มีผู้ใดสามารถจะรู้ได้
    จริงๆ ว่าขณะที่วิบากจิตนี้กำลังเกิดขึ้นเป็นผลของกรรมใด จะเป็นผลของทิฏฐธัมมเวทนียกรรม
    คือชวนจิตดวงที่ ๑ ในชาตินั้น หรือว่าจะเป็นผลของอดีตกรรมในชาติก่อน หรือว่าจะเป็นผลของ
    กรรมที่ได้กระทำมาแล้วเนิ่นนานในสังสารวัฏ เพราะเหตุว่าชวนจิตที่เป็นกุศล ๗ ขณะ หรืออกุศล
    ๗ ขณะ มีกาลที่จะให้ผลต่างกัน คือถ้าเป็นชวนจิตดวงที่ ๑ ให้ผลในปัจจุบันชาตินั้น ทำให้วิบาก
    เกิดขึ้นในปัจจุบันชาตินั้น ถ้าเป็นชวนะดวงที่ ๗ ก็ทำให้วิบากเกิดขึ้นในชาติต่อไป ถ้าเป็นชวนะ
    ดวงที่ ๒ ถึงดวงที่ ๖ ก็เป็นปัจจัยที่จะทำให้วิบากจิตเกิดในชาติหลังๆต่อไปอีกได้ ตราบใดที่ยังมี
    สังสารวัฏ เพราะฉะนั้นแต่ละกรรมที่ได้กระทำสำเร็จลง ชวนจิตเกิด ๗ ครั้ง ๗ ครั้ง กว่ากรรม
    หนึ่งๆจะสำเร็จลงไป ที่กำลังได้ยิน ซึ่งดูเสมือนว่าทั้งเห็นด้วย ทั้งได้ยินด้วย ความจริงมีภวังคจิต
    คั่น และมีมโนทวารวิถีจิตคั่น แล้วก็มีชวนะทางโสตทวารวิถีอีก ๗ ขณะ ในขณะที่ดูเหมือน
    ทุกอย่างเกิดขึ้นพร้อมกัน เพราะฉะนั้นเวลาที่เกิดความคิดหรือเจตนาที่จะทำกรรมหนึ่งกรรมใด
    เริ่มตั้งแต่คิด ชวนจิต ๗ ขณะจะเกิดกี่ครั้ง ๗ ขณะ ๗ ขณะ ๗ ขณะ กี่ครั้งกว่ากรรมหนึ่งๆจะ
    สำเร็จลง ท่านผู้ฟังคิดจะถวายทาน กี่ขณะจิตที่คิดอย่างนั้น มีการนับได้ไหม ทางตาเห็น ๗
    ขณะ ทางหู ๗ ขณะ ทางมโนทวาร ๗ ขณะ เกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็ว เพียงชวนะ ๗ ขณะ
    โดยไม่นับจิตอื่นซึ่งเกิดก่อนและเกิดหลังชวนะนั้น และกว่าจะนึกว่า ถ้าจะถวายทานจะทำอาหาร
    อะไร ชวนะอีกเท่าไร นับไม่ถ้วน เพราะฉะนั้นเมื่อกรรมให้ผล และยังให้ผลไม่หมด ก็ยังมีเศษ
    ของกรรมที่จะให้ผลต่อไปได้ คือกรรมที่ให้ผลแล้วแต่ยังให้ไม่หมด จึงชื่อว่าเศษของกรรม ถ้า
    ท่านผู้ฟังคิดที่จะถวายทาน หรือให้สิ่งหนึ่งสิ่งใด เพื่อประโยชน์สุขแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด กุศลจิต
    เกิด การให้นั้นสำเร็จหรือยัง (ตอบ สำเร็จแล้ว) เพียงคิดว่าจะให้ ยังไม่สำเร็จ แต่กุศลจิตเกิดแล้ว
    แต่กรรมยังไม่สำเร็จ และกว่ากรรมจะสำเร็จ กุศลจิตที่เป็นชวนะจะเกิดอีก ๗ ขณะ ๗ ขณะ อีกกี่
    ครั้ง ก็นับไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็แล้วแต่ว่ากรรมใดจะให้ผลหมด หรือว่ายังให้ผลไม่หมดก็เป็นเศษ
    ของกรรม ซึ่งยังสามารถให้ผลได้ ถ้าอ่านในอรรถกถา ก็จะมีเรื่องเศษของกรรมอยู่เสมอ กรรม
    นั้นให้ผลแล้ว ยังให้ไม่หมด เพราะฉะนั้นต่อมาภายหลังก็เกิดเป็นอะไรๆ หรือว่ากรรมนั้นให้ผล
    แล้วแต่ยังให้ไม่หมด เพราะฉะนั้นในชาตินั้นจึงได้รับผลของกรรมนั้น ทางตา หรือทางหู ทาง
    จมูก ทางลิ้น ทางกาย อย่างไรๆ
    เคยปวดหัวตัวร้อนนิดๆหน่อยๆ ไหมคะ ต้องเป็นผลของอกุศลกรรม เป็นเศษของกรรมได้
    ไหม เพียงนิดหน่อย หกล้มนิดหนึ่ง มีบาดแผลเล็กน้อย แต่กรรมที่ทำครบองค์ไปแล้วสามารถ
    ทำให้เกิดในอบายภูมิได้ เกิดได้นรกก็ได้ เกิดเป็นเปรตก็ได้ เป็นอสุรกายก็ได้ เป็นสัตว์เดรัจฉานก็ได้
    นั่นคืออกุศลกรรมที่สำเร็จครบองค์ให้ผล แต่ว่าการเจ็บปวดนิดหน่อย ปวดหัวตัวร้อน เจ็บป่วยเล็กน้อย ต้องเป็นผลของอกุศลเหมือนกัน จะเป็นเศษของกรรมได้ไหม ได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...