"สถานที่ที่วิญญาณต้องรอคอย"

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 3 กุมภาพันธ์ 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,173
    เขียนขึ้นจากประสบการณ์ของ อ.กอบเกียรติ คุ่ยสมใจ

    ขณะเป็นพระภิกษุสามเณรและเหตุการณ์ในปัจจุบัน

    ซึ่งขณะนี้ได้ลาสิกขามานานนับสิบปีแล้ว





    การจำพรรษาที่น้ำตกแม่ตื๊ด อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๒ คือเป็นการจำพรรษาซ้ำกันในการตั้งสัจจาธิษฐาน ไว้ว่าจะไม่จำพรรษาซ้ำจังหวัด แต่การจำพรรษาครั้งนี้มีพระภิกษุร่วมจำพรรษาด้วย ๔ รูป และมีอุบาสิกาจากจังหวัดจันทบุรีมาจำพรรษาด้วยอีก ๕ ท่าน



    อุบาสิกาทุกท่านล้วนมีอายุมากและมีครอบครัวแล้วทั้งนั้น แต่ได้เลื่อมใสและมาปฏิบัติด้วยในพรรษา ซึ่งได้จัดทำกุฏิมุงแฝกไว้คนละฝั่งของแม่น้ำ พรรษานี้เป็นปีแรกที่ไม่มีโยมพ่อมาจำพรรษาด้วย เพราะท่านเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อต้นปีนี่เอง ครั้งนี้เรามีความตั้งใจว่า ท่านเสียชีวิตแล้วอยากรู้ว่าท่านไปอยู่ยังที่ใดกันแน่



    แม้จะสามารถใช้กสิณอาโลกสิณได้ก็ตาม แต่การทำเช่นนั้นถ้าเราฟุ้งซ่านอยู่ย่อมสามารถสร้างภาพปลอมขึ้นมาได้เสมอ จึงไม่แน่เสมอไปว่าเป็นของจริงยกเว้นว่าเป็นอรหันต์แล้ว ได้ตั้งสัจจาธิษฐานว่า ถ้าแม้นเรามีคุณธรรมจริงและอาจเป็นประโยชน์ต่อศาสนาในอนาคต



    "ขอให้เรามีโอกาสได้ไปพบโยมพ่อได้ด้วยกายนี้ ไม่ใช่การนั่งเห็น" ตั้งแต่อธิษฐานแล้ว ก็เริ่มทำความเพียรทันทีโดยการกำหนดอิริยาบถของกายทุกขณะ ทั้ง หยุดอยู่ ก้าวเดิน เอี้ยวตัว นั่งเฉย โดยกำหนดซ้อนลงไปว่ามีร่างโครงกระดูกซ้อนอยู่ ใช้การสร้างภาพว่าเรามีโครงกระดูกซ้อนอยู่



    เมื่อตั้งสติได้ว่ารู้ก่อนเคลื่อนไหว และรู้สติสัมปชัญญะ เป็นไปในกายอย่างละเอียดแม้กระทั่งเคี้ยวอาหาร กลืน เข้าสู่ลำคอลงสู่กระเพาะอาหาร พอตอนนั่งกัมมัฏฐานใช้กำหนดรู้ทำความรู้สึกที่ระหว่างคิ้ว ตามแบบการสอนที่ อ.ยุทธพงศ์ แสงอรุณโกศล เคยสอนไว้ตั้งแต่ตอนเป็นนักเรียน และไปปฏิบัติด้วยที่สำนักแห่งหนึ่งแถวบางแค



    ครั้งนี้รื้อฟื้นขึ้นมาทำสลับกับการกำหนดอานาปานสติ ทำเท่าไหร่ ให้รู้สึกเวียนหัว แถมตาเขที่เคยเป็นจนต้องเลิกทำไปเมื่อ ๑๐ ปีก่อน เริ่มกลับมาเป็นอีกแล้ว รู้สึกว่าอับจนปัญญาอยู่ หาทางออกต่อการถอดกายทิพย์ไม่ได้เสียเลย เป็นที่น่าอัศจรรย์เสียเหลือเกิน พอถึงกลางพรรษานั่นเอง มีโยมจากกระทรวงศึกษาธิการส่งตัวแทนมาเยี่ยม บังเอิญโยมที่มาเยี่ยมได้รับการฝากหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...