เหตุที่ทำให้ผับและสถานที่เริงรมใหญ่ๆไฟไหม้

......แล้วสถานเริงรมณ์เช่นนี้ ในที่อื่นๆ หรือ ในต่างประเทศที่เจริญแล้ว... ทำไมเขาไม่เป็นแบบนี้ล่ะ?.....(ถึงจะมีเหตุการณ์แบบนี้ ก็น้อย กว่าบ้านเรามาก)

ทั้งหมดนี้....ก็ล้วนมาจาก...การไม่มีประตูหรือช่องทางหนีไฟ หรือทางออกฉุกเฉิน ที่เพียงพอ หรือมี แต่ใช้ไม่ได้ เพราะ ใส่กุญแจไว้.....เคยซักซ้อมการอพยพ หนีไฟ และ ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน กันบ้างหรือไม่...ว่า...สามารถเอาผู้คนออกจากอาคารไปยังสถานที่ปลอดภัยได้ในเวลากี่นาที...ซึ่งแน่นอน..ไม่ควรเกิน ๕ นาที....แต่นี่..กลับเหยียบกันจนบาดเจ็บล้มตายเพราะ ประตูทางออก มันเล็กนิดเดียวและไม่เพียงพอ...บ้างก็ หลงทางและหาทางออกไม่เจอ...เพราะแม้แต่ไฟส่องสว่างฉุกเฉิน หรือไฟส่องป้ายประตู ทางออกฉุกเฉิน ก็ไม่มี.....และ..ยังอุตส่าห์..เล่นพลุดอกไม้ไฟ ในอาคารอีก...พ่อมหาจำเริญ..ช่างทำลงไปได้

.....อย่าโทษเวรกรรมเพียงอย่างเดียวเลย...ต้องโทษการกระทำของตนเองด้วย....พึงตระหนักให้จงดีว่า...ตนเอง อยู่ในสังคมแบบใหน...มีใครสักกี่คน ที่จะรอบรู้และเอาใจใส่ ในหน้าที่การงาน..เพื่อทำงานให้คุ้มเงินเดือนกันบ้าง....หากสังคมใด มีคนดีมีความสามารถจริง...บ้านเมืองและสังคมนั้น ก็จะไม่มีสภาพเช่นนี้....รับรองได้เลยว่า...

....เรื่องแบบนี้ ทำนองนี้นี้...ยังมีให้เห็นอีก...ไม่รู้จบ....สุดท้าย ก็ลงที่เวรกรรม...คิดแล้วก็น่าเบื่อ...จะป้องกันและแก้ไขได้อย่างไรล่ะ...ในเมื่อสาเหตุที่แท้จริงยังถูกละเลยเพิกเฉย..เช่นนี้

 

กรรมไครกรรมมัน แต่คงถึงเวลาแล้วที่คนทั้งหลายย่อมได้รับผลกรรมที่ตนเองได้ก่อขึ้นมา ไครกรรมหนักกว่าก็หาใช่ว่าจะต้องตายเสมอไป ไครที่ตายก็หาใช่ว่าจะทำบาปเสมอไป แต่เมื่อถึงคราวตายแล้ว ไม่ว่าจะตายเมื่อไหร่ ตายด้วยวิธีไหน ก็ตายเหมือนกัน และการตายไม่ใช่เป็นการชดใช้กรรม แต่เป็นเพียงแค่หมดเวลาที่ต้องชดใช้กรรมในภพชาตินี้เท่านั้น ยังต้องวนเวียนใช้กรรมในภพชาติอื่นอีกต่อไป หรืออาจจะกลับมาชดใช้กรรในภพนี้อีกก็อาจเป็นได้ เพราะฉะนั้น จะเหมารวมว่าคนที่ตายรวมกันคือคนทำบาปทั้งหมดไม่ได้ คนเราทำบาปทำบุญมาไม่เท่ากัน แต่เหตุที่ต้องตายนั้นเพราะจะได้ไปชดใช้กรรมอื่นๆๆได้ในภพอื่นอีกต่างหาก

 

อยากทราบว่า รูปแรกไฟไหม้ที่ไหนครับ
ดูน่ากลัวจัง

 

อ่านแล้วชวนคิดตาม

 

ดูจะปรักปรำเกินไป สงสารคนที่เสียชีวิตไปแล้วอ่ะครับ
อย่ากล่าวหาเขาเลย...
ผมก็เป็นคนไม่ชอบไปผับนะครับ แต่มันไม่ได้หนักอะไรผมเลย แผ่เมตตาจิตเถอะครับ อย่ายกมาเป็นประเด็นเลยครับ...ไม่เกี่ยวกัน

 

บทความนี้ดีจริงๆ ครับ เพิ่งเคยเข้ามาอ่านที่นี่ครั้งแรก ชอบมากครับ

 

อนุโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วยครับ

จริงครับ/ขอบคุณในข้อธรรม
เรียนเชิญทำบุญปีใหม่ครับ ธรรมเจริญ http://palungjit.org/showthread.php?t=153668<O</O
พร้อมเรียนเชิญ นำพระบรมสารีริกธาตุ- เพชรพญานาค

 

คิดเหมือนกันเลย

ตอนพม่า มันมาเผาวัดไทยในกรุงศรีอยุธยาหลายวัด

ถามหน่อยเถอะ วัดที่โดนเผา ลอกทองไป มีการค้าประเวณี/ แอบขายยาเสพติดกันแบบตามผับเหรอไง ข้อความข้างบน ไม่เป็นเหตุผลเท่าไหร่เลย

ถ้าเล่ามาว่า

เจ้าของ...........ไปทำกรรม...........

เลยต้องมาเดือดร้อน.................

ยังจะน่าเชื่อถือว่า
เพราะ สถานเริงรมย์ในประเทศไทย

บางแห่งเปิดมาเป็น 10ๆ ปี ไม่เห็นจะไหม้เลย

 

บทความดีมากๆครับ

 

เรียกว่ามีเหตุผลซะทีเดียวคงจะไม่ใช่ เอาเป็นว่ามีหลักการมากกว่า

 

สาทุ ขอให้คนดีดึงดูดคนดีตลอดไป โพสใว้ขนาดนี้แทบจะไม่อนากลุก

ออกากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เสียวจริงๆๆ แต่หน้าเชื่อถื่อดีครับ

 

ผมว่าไม่น่าใช่นะ ไฟไหม้ไม่ได้เกิดจากกรรม ผมว่าเกิดจากความประมาทมากกว่าในภาวะที่คนที่ไปเที่ยวกำลังสนุกสนานเมามายหรืคะนอง ไม่มีสติอันตรายอะไรเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น จะเหมารวมหมดว่าคนที่ตายไปทุกคนนั้นเป็นคนมีกรรมก็ดูจะง่ายไป ถ้าเป็นอย่างนั้นไฟไหม้ป่าใหญ่ๆเกิดขึ้นก็แสดงว่าพวกสัตว์ป่าเหล่านั้นมีกรรมใช่ไหม

 

ดีครับ