อานิสงส์การแผ่เมตตา

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 9 มกราคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,173
    <TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    [​IMG]



    ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงตรัสปรารภเมตตาสูตรว่า


    "ภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ของการแผ่เมตตามี ๑๑ ประการ คือ

    ๑. หลับเป็นสุข
    ๒. ตื่นเป็นสุข
    ๓. ไม่ฝันร้าย
    ๔. เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย
    ๕. เป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลาย
    ๖. เทวดาย่อมรักษา
    ๗. ไฟ ยาพิษ ศัสตรา ไม่ล่วงเกิน
    ๘. จิตได้สมาธิเร็ว
    ๙. สีหน้าผ่องใส
    ๑๐. ไม่หลงตาย
    ๑๑. เมื่อยังไม่บรรลุ ธรรม ย่อมเข้าถึงพรหมโลกชั้นสูง

    ภิกษุทั้งหลาย พึงเจริญเมตตาไปในสัตว์ทุกชนิดโดยเจาะจงและไม่เจาะจง พึงเจริญ กรุณา มุทิตา อุเบกขา แม้ไม่ได้มรรคผลก็ยังเข้าถึงพรหมโลกได้" แล้วได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วพระโพธิสัตว์เกิดเป็นฤาษีชื่ออรกะ บำเพ็ญเพียรอยู่ป่าหิมพานต์ ได้เป็นอาจารย์สอนหมู่ฤาษี พร่ำสอนอานิสงส์เมตตาว่า "ธรรมดาพรรพชิตควรเจริญเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เพราะเมื่อจิตถึงความแน่วแน่แล้ว ย่อมบังเกิดในพรหมโลกได้" แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า

    "ผู้ใดอนุเคราะห์สัตว์โลกทั้งมวล ด้วยเมตตาจิตอันหาประมาณมิได้ ทั้งเบื้องบน เบื้องต่ำและเบื้องล่าง โดยประการทั้งปวง จิตเกื้อกูล หาประมาณมิได้ เป็นจิตบริบูรณ์อันผู้นั้นอบรมมาดีแล้ว กรรมใดที่เขาทำแล้วพอประมาณ กรรมนั้นจะไม่เหลืออยู่ในจิตของเขานั้น"

    เมื่อกล่าวคาถาจบ ได้พาหมู่ฤาษีบำเพ็ญเพียรไม่เสื่อมจากฌาน ได้ไปบังเกิดในพรหมโลก ไม่ได้กลับมาเกิดในโลกมนุษย์อีก เป็นเวลา ๗ สังวัฏฏกัป



    </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]




    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE height=45 cellSpacing=1 cellPadding=5 width=500 align=center border=1><TBODY><TR vAlign=top bgColor=#eeeeee><TD width=130>นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : </TD><TD>อานิสงส์ของการเจริญภาวนามี อยู่ ๑๑ ประการ นักปฏิบัติธรรมพึงมีความขยันมั่นเพียรเทอญ</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. ball

    ball เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +1,094
    โมทนาสาธุคับ แล้วถ้าก่อนนอนสวดมนต์บทเมตายะ ภิกขะเว.......
    แล้วเเผ่เมตาดีไมคับ
     
  3. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    จะให้ดีให้สวดมนต์บท "เมตตาเจโตวิมุติ" หรือเมตตาใหญ่ด้วย จะดียิ่งขึ้น ท่านที่ภาวนาจะไปไหนขึ้นรถ ลงเรือ ขี่เรือบิน ก็จะไม่มีผู้ใดจ้องทำร้าย ไม่มีศัตรู Nirvana สวดมากว่า 2 ปี แล้ว มั่นใจว่าดีจริง
    อย่างไรก็ดี ขออนุโมทนากับคุณ Vachara ด้วยครับ
     
  4. kiwibird

    kiwibird เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +288
    อนุโมทนา สาธุด้วยครับ
     
  5. ren

    ren เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2005
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +2,646
    อนุโมธนาค่ะ
    renก็เจริญพรมวิหาร 4 อยู่เป็นนิจ
    รู้สึกว่าจิตใจอิ่มเอมมีความสุขมากค่ะ
     
  6. ไห่เฉากุหลาบไฟ

    ไห่เฉากุหลาบไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +2,177
    ถ้าจะให้ดีต้องแผ่เมตตาผสมฌาณสมาบัติ
     
  7. Nukool

    Nukool เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +1,073
    ขออนุโมทนาครับ
     
  8. UFO99

    UFO99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2005
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +983
    สาธุ อนุโมทนาบุญด้วย คับ
     
  9. แคท

    แคท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +1,666
    ขออนุโมทนา
     
  10. บ.ใบไม้

    บ.ใบไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +325
    ขออนุโมทนาด้วยครับ ผมมีข้อสงสัยเรื่องการแผ่เมตตาคือ ถ้าเราสวดยอดพระกัณต์ไตรปิฎก แล้ว เราสวดบทอื่นๆ เช่น พาหุง และชินบัญชรแล้ว จึงค่อยสวดบทแผ่เมตตาท้ายสุด หรือว่าหลังจากสวดยอดพระกัณต์ฯแล้ว จึงสวดบทแผ่เมตตาบทเฉพาะของยอดพระกัณต์ก่อน แล้วจึงค่อยสวดพาหุง และชินบัญชร แล้วต่อยสวดบทแผ่เมตตาทั่วไป ขอผู้รู้โปรดตอบด้วยครับ
     
  11. Forest_Sa

    Forest_Sa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +1,444
    สาธุ ครับ ผมแผ่เมตตาก่อนนอนครับ
    ___________________________
    ยามเย็นเมฆลอยคล้อยเคลื่อน

    ตะวันเดือนเลื่อนลอยคล้อยต่ำ

    หลบลับขอบฟ้าเวลาล่วงเลย

    เหตุเพราะโลกหมุนไม่หยุดนิ่งเฉย

    อันวันเวลาย่อมผ่านพ้นไป

    ลอยไปลอยไปไม่กลับย้อนมา
    เวลา เวลา ไม่เคยคอยใคร

    เวลา เวลา ไม่เคยคอยใคร

    หวนคิดสักนิดถึงขีวิตคน

    สำรวจตัวตนบนวันเวลา

    บกพร่องภาระเวลาล่วงเลย

    โธ่เอ๋ย โธ่เอ๋ย อยู่เฉยทำไม
     
  12. tookta_ku

    tookta_ku สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +7
    อนุโมทนาค่ะ
    พยายามแผ่เมตตาตลอด
    เวลาโกรธ เวลาท้อ เวลาเศร้าเสียใจ
    หรือเวลาไหนๆที่นึกขึ้นได้
    จะก่อนนอน หรือตื่นนอน
    เพราะสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือแผ่เมตตา
    เวลาที่แผ่เมตตา จะทำจิตว่าง
    และแผ่เมตตาไปด้วยจิตค่ะ

    สาธุ
     
  13. Tom_cool9

    Tom_cool9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +202
    ขออนุโมทนาด้วยคนครับ
     
  14. manghek

    manghek Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +65
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  15. GAN9

    GAN9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +1,248
    โมทนาด้วยคนครับ
     
  16. linkinbow

    linkinbow Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +33
    พระบรมสาริกธาตุ
    เรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน มากราบไหว้พระบรมสาริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา โดยองค์โสม ฯ ณ วิทยาลัยเทคนิคดอนเมืองตั้งเเต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 28 มกราคม 49 นี้ เเละในวันพฤหัส ศุกร์ เสาร์ ที่12-14 นี้จะมีการสวดกันณ์ 13 กันณ์พระเวชสันดร 13 กันณ์ โดยเกจิจารย์หลายที่ พร้อมพิธีเสริมต่อดวงชาตา ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น มีตู้บริจาคเเล้วเเต่ตามศรัทธา จบ
    ขออนุโมทนา
     
  17. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วพระโพธิสัตว์เกิดเป็นฤาษีชื่ออรกะ บำเพ็ญเพียรอยู่ป่าหิมพานต์ ได้เป็นอาจารย์สอนหมู่ฤาษี พร่ำสอนอานิสงส์เมตตาว่า "ธรรมดาพรรพชิตควรเจริญเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เพราะเมื่อจิตถึงความแน่วแน่แล้ว ย่อมบังเกิดในพรหมโลกได้" แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า

    "ผู้ใดอนุเคราะห์สัตว์โลกทั้งมวล ด้วยเมตตาจิตอันหาประมาณมิได้ ทั้งเบื้องบน เบื้องต่ำและเบื้องล่าง โดยประการทั้งปวง จิตเกื้อกูล หาประมาณมิได้ เป็นจิตบริบูรณ์อันผู้นั้นอบรมมาดีแล้ว กรรมใดที่เขาทำแล้วพอประมาณ กรรมนั้นจะไม่เหลืออยู่ในจิตของเขานั้น"

    เมื่อกล่าวคาถาจบ ได้พาหมู่ฤาษีบำเพ็ญเพียรไม่เสื่อมจากฌาน ได้ไปบังเกิดในพรหมโลก ไม่ได้กลับมาเกิดในโลกมนุษย์อีก เป็นเวลา ๗ สังวัฏฏกัป

    ................................................................................

    แผ่ .... อย่างไรครับ ที่จะได้ถึงชั้นพรหม....

    น่าที่จะมีคำอธิบาย ถึงวิธีการปฏิบัติ ....
    สำหรับผู้มาใหม่....
    ผู้เพิ่งเข้ามาถึง....

    จะได้เข้าใจ ได้ดียิ่งขึ้น....

    ใช่ไหม ครับ....
     
  18. นักบุญ

    นักบุญ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +66
    ขออนุโมทนาสาธุด้วย
     
  19. a5g1

    a5g1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +384
    โมทนาสาธุครับ สวดมนต์ก่อนแล้วแผ่เมตตาตามจะดีมากๆๆเลยครับ สาธุๆๆๆๆๆ
     
  20. cacalot

    cacalot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2006
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +130
    อนุโมทนา สาธู
     

แชร์หน้านี้

Loading...