การเพ่งจิต

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Wat Pa Gothenburg, 9 ธันวาคม 2008.

  1. Wat Pa Gothenburg

    Wat Pa Gothenburg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    920
    ค่าพลัง:
    +260

    การเพ่งจิต แบ่งออกเป็น 2 อย่าง คือ
    การเพ่งจิตเพื่อให้จิตรวมตัว และการเพ่งจิตเพื่อดูการเกิดดับของจิต

    1 . การเพ่งจิตเพื่อให้จิตรวมตัว
    การเพ่งจิตเพื่อให้จิตรวมตัวนั้น คือการบังคับจิตให้อยู่กับกายมีจิตเป็นของตน ไม่ฟุ้งซานนึกคิดปรุงแต่งทำให้จิตล่องลอยออกนอกตัว เป็นการสูญเสียพลังงาน หรือ ถ้าหากจิตมีอาการเกิดดับมากเกินไป จนทำให้เหนื่อย เพราะจิตที่เกิดดับนั้น สูญเสียพลังงาน ผู้ปฏิบัติก็สามารถใช้วิธีการเพ่งจิต เพื่อให้จิตเป็นของตนรวมตัวเป็นเอก พ้นจากอาการเกิดดับได้

    วิธีการเพ่งจิตให้รวมตัว

    ผู้ปฏิบัตินั่งตั้งกายให้ตรง ตั้งสติไว้ที่ตา แล้วเพ่งมองให้นิ่งอยู่ที่ทรวงอกกลางกายใต้ลิ้นปี่ จิตก็จะรวมตัวเป็นดวงเดียว ในตอนแรกขณะที่เพ่งจิต ถ้าหากจิตไม่รวมตัวเป็นเอกเป็นดวงเดียวแต่มีอาการเกิดดับเกิดขึ้นที่จิต หรือเกิดอาการหายใจเป็นคลื่นๆ เกิดขึ้น ให้ผู้ปฎิบัติหายใจในอกให้เต็ม จนกระทั้งอกอิ่ม แล้วตั้งสติเพ่งมองดูจิตให้นิ่งอยู่ที่ทรวงอกกลางกายใต้ลิ้นปี่อาการเกิดดับของจิต และอาการหายใจเป็นคลื่นก็จะหายไปเพราะที่ทรวงอกของเรานั้น เป็นที่ตั้งของจิต เมื่อเราหายใจอัดอากาศเข้าในอกจนอิ่ม ก็จะทำให้เกิดความรู้สึกตัวอยู่บริเวรทรวงอก เมื่อตั้งสติเพ่งอยู่ที่ทรวงอก จึงทำให้จิตรวมตัวเป็นเอกอย่างรวดเร็ว ทำให้อาการเกิดดับของจิตและอาการหายใจเป็นคลื่นหายไปเอง เมื่อเพ่งจิตจนกระทั่งจิตตั้งมั่นอยู่ในกายแล้ว ให้ปล่อยกระจิตนั้นไหลเวียนไปในกาย เมื่อกระแสจิตไหลเวียนไปในกายจนเต็มกาย ในกายก็จะเกิดปีติสุข สงบเย็น เพราะกายกับจิตเป็นอันเดียวกัน เรื่องโลกหรือความคิดต่างๆ ก็จะดับหมดสิ้นไปจากจิต เพราะจิตมีธรรม คือปีติเป็นเครื่องเกาะอาศัยนั่นเอง หรืด ถ้าหากผู้ปฏิบัติไม่ต้องการปล่อยกระแสจิตให้ไหลเวียนอยู่ในกาย ก็สามารถบังคับจิตได้แล้วนั่นเอง เมื่อจะนำไปตั้งไว้ที่ใดจิตก็จะอยู่ที่นั้น

    2. การเพ่งจิตเพื่อดูการเกิดดับของจิต

    การเพ่งจิตเพื่อดูการเกิดดับของจิตนั้น ให้ตั้งสติและอุเบกขาไว้ที่ตา แล้วเพ่งมองที่ทรวงอก โดยใช้ปัญญาพิจารณาจิตในขณะนั้น ก็จะเห็นความไม่เที่ยงของสังขารธรรมทั้งปวง เมื่อเกิดปัญญปัญญา เห็นความไม่เที่ยงของสังขารธรรมทั้งปวง จิตก็จะทำงานเกิดดับคล้ายกับเราเพ่งดูที่หลอดไฟ เห็นไส้ในหลอดไฟทำงานเกิดดับ เป็นพลังงานแสงสว่างและความร้อน เมื่อเราเพ่งมองดูจิต ก็จะเห็นจิตเกิดดับ เป็นพลังงาน เป็นการดับแบบนิโรธ คือ การดับที่ไม่มีกิเลส

    หมายเหตุ
    การเพ่งจิตให้รวมตัวนั้น ถ้าผู้ปฏิบัติ ไม่ชำนาญในการเพ่งก็ควรสูดลมหายใจอัดอากาศเข้าให้เต็มอกเสียก่อน จะทำให้การปฏิบัติได้ผลเร็ว การเพ่งจิตต่างจากการรักษาจิตไว้ที่ใจคือ การรักษาจิตไว้ที่ใจนั้น มีสติเป็นเครื่องรักษาจิต โดยทำความรู้สึกที่จิต แต่การเพ่งจิตนั้นเป็นการบังคับจิต กดจิตให้นิ่งอยู่ที่ทรวงอก ผู้ที่ปฏิบัติจนสมารถจับจิตได้แล้ว จึงจะสามารถปฏิบัติได้เร็วและได้ผลดี
    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
     
  2. Rojana_3

    Rojana_3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +128
    อาการที่สวดมนต์และเสียงไม่ดังแต่เสียงออกมาจากลำคอติดต่อกันไปได้เรื่อยๆโดยไม่รู้สึกถึงลมหายใจออกและดูเหมือนลมหายใจจะลึกลงไปได้เรื่อยๆนั้นหมายถึงอะไรคะ
     
  3. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,605
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,017
    ครับ การนั่งสมาธิเป็นเรื่องที่ดีครับ ทําให้จิตเราสงบเเละรวมตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
     

แชร์หน้านี้

Loading...