ผู้ผ่านยมโลก โดย ท.เลียงพิบูลย์

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 6 มกราคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    เมื่อคุณนายน้อม ได้ส่งหนังสือมาให้ข้าพเจ้าอ่านเกี่ยวกับเรื่องวิญญาณ เรื่องตายแล้ววิญญาณออกจากร่างท่องไปตามสถานที่ต่างๆ ผู้มีประสบการณ์ได้บันทึกเขียนขึ้นแล้ว เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๗ เมื่อท่านยังเป็นภิกษุนวกะ ขณะที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดราชประดิษฐ์ ท่านมีนามฉายาว่า
     
  2. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    เมื่ออาตมาเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น ทำให้ตกใจสะดุ้งนึกหวาดกลัว นึกในใจว่าคงจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับตัวเราในทางไม่ดี เวลาไม่ช้านี้ แต่ก็พยายามสะกดใจให้สงบไว้ ไม่ยอมให้เกิดความกลัวจนเสียขวัญ แล้วจะขาดสติ เมื่อคุมสติอยู่แล้วก็คอยดูเหตุการณ์ต่อไป

    บุรุษที่เป็นผู้คุมก็ยืนนิ่ง และอาตมาก็ยืนสงบนิ่งเป็นตุ๊กตาไปด้วย ในใจนั้นยังควบคุมสติ ไม่ให้ตื่นเต้นคอยดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป

    ข้างหน้าเรายืนห่างออกไป มีม่านสีดำเป็นผ้าม่านกำมะหยี่ผืนใหญ่ เหมือนฉากปิดอยู่ อาตมาคิดว่าภายในหลังม่านนั้นคงจะมีสิ่งลี้ลับซ่อนอยู่ภายใน อาตมาจ้องดูว่าต่อไปอะไรจะเกิดขึ้น ต่อมาไม่นานนัก ม่านนั้นก็รูดไปรวมอยู่ทางเดียว จึงมองเห็นภายในมีโต๊ะและเก้าอี้ ๓ ตัว ตั้งอยู่อย่างเป็นระเบียบ พิจารณาแล้วก็เหมือนบัลลังก์ผู้พิพากษาออกตัดสินความ ทางสุดของบัลลังก์อยู่ด้านหนึ่ง เป็นช่องทางเดินออกมาจากภายในตึก

    เมื่อม่านเปิดแล้วก็ปรากฏว่า มีบุรุษผู้หนึ่งเดินออกมามีแฟ้มเอกสารหนีบไว้กับตัว เมื่อเดินออกมาแล้วก็เขาไปนั่งเก้าอี้ด้วยท่าทางอันสงบ บรรยากาศภายในนั้นเงียบสงัด เขาตั้งหน้าตั้งตาเปิดแฟ้มพลิกดู ไม่ได้สนใจอะไร เหมือนไม่มีพวกเรายืน ห่างออกมาตรงหน้าไม่ไกลนัก อาตมาจับตามองดูว่าเหตุการณ์อะไรที่จะเกิดขึ้นต่อไป ต่อมาไม่นานก็มีบุรุษอีกผู้หนึ่งเดินออกมาจากข้างในมือเปล่า แล้วตรงไปนั่งเก้าอี้ตัวที่ ๓ ด้วยท่าทางอันสงบ

    ครู่หนึ่งก็มีบุรุษสูงใหญ่ท่าทางสง่าน่าเกรงขาม แต่งตัวในเครื่องแบบแปลก อาตมาไม่เคยเห็นมาก่อน จึงอธิบายไม่ถูก พอมาถึงก็นั่งลงที่เก้าอี้ตัวกลาง พอนั่งเรียบร้อยแล้ว ก็หันหน้ามาทางอาตมาว่า….....

    อาตมาเป็นคนใจบาป เมื่อเด็กอายุเท่านั้น ได้เอาก้อนอิฐขว้างลูกไก่ตาย อาตมาก็นิ่งฟังอย่างสงบ แล้วก็หวนไปนึกถึงอดีต เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก เป็นความจริงที่อาตมาเคยขว้างลูกไก่ตาย อาตมาอยากจะเรียกท่านผู้นั้นว่า “ยมบาล” แล้วยมบาลก็ลำดับเรื่องต่อไป….. ถึงเรื่องอะไรที่อาตมาทำบาปกรรมไว้ในโลกมนุษย์ ที่จำได้อาตมาก็รู้ว่าเป็นความจริง ที่จำไม่ได้อาตมาก็ว่าไม่ตรงกับความจริง

    เมื่อยมบาลหยุดพูด อาตมาจึงบอกว่า การที่เอาก้อนอิฐขว้างลูกไก่ตายนั้นเป็นความจริง นอกนั้นข้อกล่าวหาไม่เป็นความจริง ยมบาลเห็นอาตมาค้านเสียงแข็งเช่นนั้น จึงหันมาทางผู้ตรวจแฟ้มถามว่า คนที่ให้เอาตัวมานั้นชื่ออะไร อายุเท่าใด ผู้ตรวจแฟ้มดูในแฟ้มตอบว่า ๑๓ ปี ชื่อเดียวกับอาตมา ท่านยมบาลย้อนมาถามอาตมาว่า ชื่อนี้ใช่ไหมเดี๋ยวนี้อายุเท่าไร อาตมาบอกว่า ใช่ชื่อนี้อายุเวลานี้ ๑๙ ปี รู้สึกว่าเมื่อ ยมบาลได้ยินแล้วทำท่าตกใจ รีบสั่งผู้ที่คุมตัวอาตมาแต่แรกว่า ให้รีบพาอาตมาไปส่งให้เข้าร่างประเดี๋ยวจะไม่มีเวลา ทางบ้านเขาจัดการไปแล้วจะลำบาก แล้วยมบาลก็ให้โอวาทว่า…..

    ใครไปเกิดเป็นมนุษย์สร้างแต่กรรมดีเป็นกุศล เมื่อสิ้นอายุขัยแล้วมาสู่ยมโลก ไม่ช้าก็กลับไปเกิดในโลกมนุษย์ เพื่อสร้างบารมีต่อไป หากสร้างกรรมชั่ว เมื่อสิ้นชีวิตมาสู่ยมโลก ต้องใช้หนี้กรรมที่ทำบาปไว้ในโลกมนุษย์ กว่าจะได้กลับไปเกิดเป็นมนุษย์อีกนั้นแสนยากนานแสนนานกว่าจะใช้หนี้กรรมหมด ยมบาลยังได้บอกกำหนดเวลาที่อาตมาจะสิ้นอายุขัย ยมบาลบอกเสร็จแล้วก็สั่งให้ผู้คุมที่พาอาตมา มาให้รีบพาไปส่งกลับโลกมนุษย์

    ก่อนที่จะกลับ ยังมีเวลาก็ให้พาผ่านไปทางสถานที่มนุษย์ที่สร้างกรรมทำชั่ว รอคอยเวลาชดใช้กรรม บุรุษผู้คุมนั้นพาอาตมาขึ้นไปบนตึกสามชั้น รูปร่างตึกมีระเบียง คล้ายกระทรวงกลาโหมของเรา แต่มีห้องเป็นลูกกรงเหล็ก ภายในมีผู้ถูกคุมขังมากมายคงได้รับทุกข์ทรมานอย่างสาหัส อ้าปากร้องครวญครางเสียงแหบๆ

    เวลานั้นอาตมาเกิดหวาดกลัว ไม่อยากเห็นสิ่งที่ไม่น่าดู อยากจะหลับตา อาตมาไม่อยากเห็นภาพที่มนุษย์จิตxxxมโหด สร้างบาปไว้มากทุกข์ทรมาน ไม่อยากถาม อยากจะให้เขาพากลับบ้าน จึงเร่งให้พาตัวออกจาสถานที่นั้นโดยเร็ว ผู้คุมคงจะรู้ใจ จึงพาอาตมาออกมาส่งทางเก่า พอมาถึงทางแยก และทางที่ไปหาดทรายที่อาตมาอาบน้ำ บุรุษผู้คุมก็บอกว่า.....

    “ต่อจากนี้เดินไปเองเถิด ประเดี๋ยวก็ถึง”

    แต่อาตมากลัวจะหลงทาง จึงอ้อนวอนขอให้ไปส่งถึงบ้าน แต่ก็ได้รับคำปฏิเสธยืนคำว่า

    “เดินไปเถิด ไม่ต้องไปส่ง ประเดี๋ยวก็ถึงบ้านเอง”

    เป็นอันว่าอาตมาต้องเดินกลับคนเดียว แล้วรีบเดินอย่างตื่นกลัวว่า จะหลงทางกลับบ้านไม่ถูก ทั้งภาพที่ได้พบเห็นยังติดตาฝังอยู่ในความรู้สึกไม่รู้หาย มีความรู้สึกหวาดกลัวสยดสยองไม่รู้ลืม อาตมาอยากถึงบ้านเร็วๆ เดินไปเหลียวหน้าเหลียวหลังกลัวหลงทางกลับบ้านไม่ถูก บังเอิญเท้าไปสะดุดรากไม้ อาตมาก็หกล้มตีลังกา นอนหงายไม่เป็นท่า แล้วก็หมดความรู้สึกไปทันที

    พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นตัวเองมานอนบนฟูกอ ยู่ในห้องบ้านที่อาตมานอน พอรู้สึกตัวได้สติก็มองเห็นพี่สาวและชาวบ้านใกล้เคียงมานั่งอยู่ข้างที่นอน ต่างก็มีหน้าเศร้าเป็นทุกข์มีถาดบายศรีปากชาม ข้าวตอกดอกไม้บุหรี่อยู่ถาดหนึ่ง เมื่ออาตมาหันไปดูพี่สาวคนใหญ่และน้องๆ เห็นตาแดง ต่างเช็ดน้ำตาแสดงถึงการร้องไห้เป็นการใหญ่มาแล้ว เมื่ออาตมารู้สึกตัวมีสติปกติฟื้นขึ้นเป็นเวลาบ่ายมากแล้ว มีความรู้สึกกระหายน้ำมาก ลำคอแห้งผากน้ำลายไม่มีในปาก จึงร้องบอกพี่สาว ซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ ด้วยเสียงแหบๆ ขอน้ำดื่ม พี่สาวก้มหูฟังพอรู้เรื่อง ก็รีบสั่งน้องสาวให้รีบไปตักน้ำใส่ขันใบใหญ่มาให้ดื่ม

    อาตมาได้ดื่มน้ำด้วยความกระหาย แทบจะขาดใจ แล้วค่อยทำให้จิตใจชุ่มชื่นสดใสสบายขึ้น เมื่อดื่มน้ำอิ่มแล้วพอมีกำลังและมีเสียงดังขึ้นก็บอกว่า อาตมาไม่ตายแล้ว พวกพี่สาว น้องสาวและเพื่อนบ้านที่นั่งอยู่ที่นั่นต่างพากันดีใจ

    อาตมาบอกว่าหิวข้าว น้องสาวก็ไปจัดสำรับมาให้อาตมากิน อิ่มแล้วก็เล่าเรื่องเหตุการณ์ที่ไปประสบมาให้ฟัง ต่างก็มีความตื่นเต้นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับอาตมาในปรโลกด้วยความสนใจ

    นี่เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นที่พระภิกษุนวกะ วัดราชประดิษฐ์บันทึกเขียน เมื่อครั้งท่านยังเป็น กนฺตสิริ ภิกฺขุ ตายไปแล้วกลับฟื้นขึ้นครั้งแรก ยังมีการตายแล้วฟื้นขึ้นครั้งที่ ๒ ข้าพเจ้าแยกออกสองตอน เพราะต่างวาระต่างเวลากัน ทั้งบังเอิญหน้ากระดาษจำกัด หากมีเวลาพิมพ์ฉบับหน้าก็อยากจะเรียบเรียงตอนต่อไป ข้าพเจ้าได้รับความเห็นดีเห็นชอบจากท่านเจ้าของเรื่อง อนุญาตให้ข้าพเจ้าเรียบเรียงข้อความท่านผู้ผ่านยมโลกนี้คือ คุณธนศิริ ศิริสัมพันธ์ ปัจจุบันท่านอยู่บ้านสวน ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณท่านเจ้าของเรื่อง ผู้มีประสบการณ์ในเรื่องผู้ผ่านยมโลกมาในที่นี้ด้วย
    ยมทูตนำไปดูสู่ยมโลก
    จิตเศร้าโศกเหตุจากกรรมที่ทำไว้
    ได้ไปเห็นเมืองนรกตื่นตกใจ
    ทำชั่วไว้ไฟโลกันตร์นั้นเผากาย
    ขอชี้เตือนเพื่อนมนุษย์หยุดก่อเวร
    ตั้งกฎเกณฑ์การกระทำก่อนจะตาย
    สร้างกรรมดีผลดีมีมากมาย
    แม้ชีพวายสู่สวรรค์นิรันดร์กาล

    ท.เลียงพิบูลย์
     
  3. timetime

    timetime เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2005
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +3,373
    อนุโมทนา สาธุ
     
  4. rin5297

    rin5297 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +569
    คุณ VACHARA ครับมีตอนที่ 2 อีกหรือเปล่าครับ อยากอ่านต่อ
     

แชร์หน้านี้

Loading...