เรื่องราวที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยรู้

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Aunyasit, 26 สิงหาคม 2005.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. อวทม45

    อวทม45 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    330
    ค่าพลัง:
    +1,832
    กรุณาแนะนำผมด้วยครับ ตอบจดหมายด้วยก็ดีนะครับ บางทีคุณอาจจะตกใจในนิมิต ที่เกิดขึ้นก็ได้
     
  2. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    wawa ตอบ จ.ม.ให้แล้วนะ ก็เพิ่งกลับจากงานทอดผ้าป่าที่วัดป่าลาดทอง จ. อุดรธานี เพื่อสร้างหอนางไอ่คำ ก็ได้มีโอกาสไปนั่งภาวนาแผ่บารมีให้กับแม่นางไอ่คำเป็นที่เรียบร้อยดี หลวงพ่อทองแดง ท่านบอกว่า นางไอ่เดี๋ยวนี้เขาอัศจรรย์มาก ไปตามคนมาวัดฯ ไปหลายที่ในหลายจังหวัด รวมทั้งในต่างประเทศด้วย เช่น ออสเตรเลีย บรูไน สิงคโปร์ ฯลฯ เขาก็ไปเป็นคนเป็นๆนี่แหละ ไปบอกคนตามที่ต่างๆ ว่าเขาชื่อนางไอ่ แล้วบอกให้คนเขามาที่วัดป่าลาดทองน่ะ ช่วงนี้ก็เริ่มมีคนมาปฏิบัติธรรมกันมากขึ้น

    นี่แหละเป็นรูปแบบนึงของผู้ที่เข้าถึงความเป็นโลกอุดรล่ะ เขาไปได้แบบไร้ร่องรอย ไปได้ทุกหนทุกแห่งด้วยบุญญฤทธิ์จากการบำเพ็ญและทำบารมีของเขา ก็ถือว่าเป็นคนอัศจรรย์คนหนึ่งล่ะ

    เหตุการณ์เรื่องผาแดง-นางไอ่ ที่ผ่านมาร่วมหมื่นปี ก็เหมือนกับว่าเรื่องราวนั้นเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวานเพราะบุคคลในตำนานนั้นมีอยู่จริงและก็ยังคุยกันได้อยู่ แม้จะมีช่องว่างระหว่างภพภูมิ หากปฏิบัติถึง ก้จะไม่มีช่องว่างระหว่างภพภูมิสำหรับบุคคลเหล่านั้น

    การปฏิบัติสัจจะบารมีนั้น แม้กาลเวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน จะหมื่นปีแสนปี หากระลึกได้ นักปฏิบัติก็ยังต้องรักษาสัจจะนั้นอยู่ ทำให้มองเห็นว่า ในการปฏิบัติ ขันธ์ห้า ข้อ "สัญญา" นี่ก็ต้องพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน การทำปัจจุบันให้ดี จะเป็นการแก้ไขในเรื่องของระบบกรรมอดีตที่ตามส่งผลมาอย่างต่อเนื่องได้
     
  3. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    wawa ตอบ จ.ม.ให้แล้วนะ ก็เพิ่งกลับจากงานทอดผ้าป่าที่วัดป่าลาดทอง จ. อุดรธานี เพื่อสร้างหอนางไอ่คำ ก็ได้มีโอกาสไปนั่งภาวนาแผ่บารมีให้กับแม่นางไอ่คำเป็นที่เรียบร้อยดี หลวงพ่อทองแดง ท่านบอกว่า นางไอ่เดี๋ยวนี้เขาอัศจรรย์มาก ไปตามคนมาวัดฯ ไปหลายที่ในหลายจังหวัด รวมทั้งในต่างประเทศด้วย เช่น ออสเตรเลีย บรูไน สิงคโปร์ ฯลฯ เขาก็ไปเป็นคนเป็นๆนี่แหละ ไปบอกคนตามที่ต่างๆ ว่าเขาชื่อนางไอ่ แล้วบอกให้คนเขามาที่วัดป่าลาดทองน่ะ ช่วงนี้ก็เริ่มมีคนมาปฏิบัติธรรมกันมากขึ้น

    นี่แหละเป็นรูปแบบนึงของผู้ที่เข้าถึงความเป็นโลกอุดรล่ะ เขาไปได้แบบไร้ร่องรอย ไปได้ทุกหนทุกแห่งด้วยบุญญฤทธิ์จากการบำเพ็ญและทำบารมีของเขา ก็ถือว่าเป็นคนอัศจรรย์คนหนึ่งล่ะ

    เหตุการณ์เรื่องผาแดง-นางไอ่ ที่ผ่านมาร่วมหมื่นปี ก็เหมือนกับว่าเรื่องราวนั้นเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวานเพราะบุคคลในตำนานนั้นมีอยู่จริงและก็ยังคุยกันได้อยู่ แม้จะมีช่องว่างระหว่างภพภูมิ หากปฏิบัติถึง ก้จะไม่มีช่องว่างระหว่างภพภูมิสำหรับบุคคลเหล่านั้น

    การปฏิบัติสัจจะบารมีนั้น แม้กาลเวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน จะหมื่นปีแสนปี หากระลึกได้ นักปฏิบัติก็ยังต้องรักษาสัจจะนั้นอยู่ ทำให้มองเห็นว่า ในการปฏิบัติ ขันธ์ห้า ข้อ "สัญญา" นี่ก็ต้องพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน การทำปัจจุบันให้ดี จะเป็นการแก้ไขในเรื่องของระบบกรรมอดีตที่ตามส่งผลมาอย่างต่อเนื่องได้
     
  4. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    จากเรื่องที่คุณ Aunyasit อุตส่าห์สละเวลาพิมพ์มาเล่าให้อ่าน ถือเป็นเรื่องของวิทยาทานนี้ ต้องขอขอบคุณมากครับ หลายๆเรื่องได้ช่วยคลายความสงสัย เป็นคําตอบในเรื่องที่ผมสงสัยคาใจอยู่ ทําให้มีความเข้าใจในเรื่องนั้นๆมากขึ้น [b-wai] (bb-flower (verygood)

    ผมอยากรบกวนถามว่า ในโลกภายใน ที่กล่าวถึง มีเทพ พหรม เทวา ต่างๆ
    มีมนุษย์ต่างดาว อยู่ด้วยรึป่าวครับ
    คือผมสงสัยอ่ะคับ ถ้าไม่รบกวนวานตอบด้วยครับ ขอบคุณมากครับ
    ขอให้คุณ Aunyasit มีความสุขสมปรารถนา
    ถ้าผมผิดพลาดประการใด ขอโทษด้วยครับ
     
  5. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    เรื่องของมนุษย์ต่างดาวนั้น บางทีเราก็สัมผัสบ้างเป็นครั้งคราว เขาก็บอกชื่อดาวที่เขามา ว่ามาจากดาวชื่ออะไร แต่เราเองก็ไม่สามารถรู้ได้ว่า ดาวเหล่านั้นอยู่ตรงไหนในจักรวาลนี้ ก็เห็นเขาแต่งตัวคล้ายๆกับมนุษย์ต่างดาวที่ในหนังแหละ บางพวกก็มีหน้าตาดี หล่อ สวยงามกว่ามนุษย์มาก แต่คิดว่าเราเองคงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาวมากนัก

    ส่วนใหญ่ที่เราพบเจอก็มักเป็น พวกบังบด นาค ครุฑ เทวดา หรือพรหม เป็นต้น วันที่ 28 ธ.ค. นี้ ก็ต้องไปที่ ปราสาทหินต่างๆ ในเขตจังหวัดโคราช และบุรีรัมย์ ตวจไปตรวจมา พบว่าศูนย์กลางสำคัญของปราสาทหินในเขตประเทศไทยนี้ อยู่ที่ปราสาทหินพนมรุ้ง(ยังไม่รวมระบบปราสาทหินของนครวัดและนครธม) ปราสาทหินพนมรุ้งนี่เชื่อมได้ถึงสะดือทะเล ที่เป็นญาณของพระนารายณ์บรรมศิลป์เพื่อเชื่อมเข้าสู่ระบบของพญานาคเจ็ดเศียรที่หอพระจักรพรรดิ์ วัดป่าสีดาฯ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อเราไปทำศาสน์ศิลป์ที่นั่นแล้วจะมีปฏิกริยาแบบไหนในโลกนี้ คาดเดาว่าอาจจะมีความแปรปรวนเรื่องดินฟ้าอากาศ หรือ ระบบ ดิน น้ำ ลม ไฟ แบบใดแบบหนึ่ง เพราะการเคลื่อนตัวของพญานาคใหญ่ในโลกภายใน จะส่งผลต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน

    เราเองก็รอดูอยู่ว่าคราวนี้จะเกิดเหตุอะไรขึ้น ศีลธรรมภายในเขาก็บอกมาบางส่วนแล้วว่าจะมีความแปรรวนบางอย่าง แต่จะถึงขั้นภัยพิบัติหรือเปล่าเรายังไม่แน่ใจ ก็รอดูกันต่อไป คิดว่าถ้าเกิดเหตุอะไร คงจะอยู่ช่วงหลังจากปีใหม่ไปไม่นานแหละ ระบบศีลธรรมที่เป็น "ความจริง เหนือความจริง" นี่ก็ต้องรอเวลาพิสูจน์เช่นกันครับ
     
  6. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    เรียนคุณ Aunyasit

    วันนี้ผมได้รับคำเตือนจากเพื่อนๆ ในเว็บแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับสันดานช่างสงสัยของผมที่มีต่อพระสงฆ์องค์เจ้า ที่ผมได้โพสต์ถามไว้ในกระทู้แห่งนั้น โดยละเลยต่อคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) ที่ไม่ให้สนใจในจริยาของผู้อื่น และให้เพ่งโทษโจษตัวเองไว้เสมอๆ พร้อมกับแก้ไขให้พ้นจากความเลวของตัวเอง

    สิ่งนี้ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่า ผมเองได้เคยนำข้อคำตอบของคุณ Aunyasit ไปให้ท่านอื่นๆ ได้พิจารณา ซึ่งอาจทำให้มีบางท่านวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงไปบ้าง ผมจึงขอขมาโทษและขออโหสิกรรมต่อคุณ Aunyasit ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ จะได้ไม่เป็นเวรเป็นกรรมต่อกันไปในภายภาคหน้า ขออโหสิกรรมครับ.....
     
  7. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    เรียน คุณ tamsak

    ครับ ขอเจ้ากรรมนายเวร จงระงับไปและงดโทษไปซึ่งเวรภัยจากเหตุดังกล่าวครับ และขออนุโมทนาในจิตที่เป็นกุศลของคุณ tamsak ครับ

    เรื่องราวเกี่ยวกับครูบาอาจารย์รูปต่างๆ ผมไม่ได้คิดเองว่าแต่ละท่านมีภูมิธรรมเป็นอย่างไร แต่รับฟังมาจากครูบาอาจารย์อีกทีนึงครับ

    สำหรับเรื่องของศีลธรรมนั้น การปฏิบัติของแต่ละคน แต่ละคณะ ก็แตกต่างกัน ตามวาสนาบารมี สำหรับธรรมะที่เป็นแนวทางในการปฏิบัติของผมนั้นมี 5 ขั้น คือ โลกธรรม โลกียธรรม เทวดาธรรม เทพพรหมธรรม และ โลกุตรธรรม เมื่อปฏิบัติถึงขั้นสุด ก็จะเข้าถึงความเป็นโลกอุดร ครับ ซึ่งในหลายวาระ ต้องไปผ่านระบบของเทวดา หรือเทพพรหม หรือต้องผ่านภพภูมิต่างๆมาก่อน

    ถึงเวลาต้องออกเดินทางไป จ.บุรีรัมย์แล้วครับ คืนนี้ก็จะไปนั่งภาวนาในเขตปราสาทหินพนมรุ้งเพื่อรับศีลธรรมภายในบางอย่างจากปู่ฤษีนิลันทา รวมทั้งเทพธิดาผู้รักษาปราสาท และพญานาคใหญ่ เขารออยู่ที่นั่นเป็นพันๆปีแล้วครับ คิดว่าคงจะได้รู้เห็นอะไรดีๆ เพราะมีเหตุให้ต้องเดินทางไปทำศาสน์ศิลป์ตามลำพังเพียงคนเดียว(ที่มองเห็นตัว) ส่วนพวกที่มองไม่เห็นตัวนั้นไม่นับ บางครั้งการทำศาสน์ศิลป์บางอย่างนี่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาจะให้รู้เห็นได้เพียงคนเดียวเท่านั้นเพราะเป็นศาสน์เฉพาะตน

    ปีใหม่นี้ก็ขอให้ทุกท่านมีความสุข มีความเจริญในธรรมนะครับ ผมเองก็จะใช้โอกาสช่วงปีใหม่นี้ ทำศาสน์ศิลป์บวงสรวงบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมทั้งรับระบบของพระนารายณ์บรรทมศิลป์ ณ หอพระจักรพรรดิ์ ในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ ครับ
     
  8. moddang

    moddang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,460
    ค่าพลัง:
    +5,423
    อยากถามคุณ Aunyasit ครับ ว่า พระอาจารย์ วราห์ วัดโพธิ์ทอง เป็นพญาครุฑ หรือ พญานาคมาเกิด สร้างบารมีครับ แล้วทำไมครุฑ กะนาค มาอยู่ด้วยกันได้ครับ เพราะเคยได้ยินว่า ครุฑกะนาค ไม่ค่อยถูกกัน ครุฑจะจับพญานาคกิน
     
  9. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    ถึง moddang

    พระอาจารย์ วราห์ วัดโพธิ์ทอง คงเป็นเชื้อสายพญาครุฑสร้างบารมีครับ เรื่องที่พญานาคกับพญาครุฑ ไม่ถูกกันนั้น เป็นเรื่องดั้งเดิมที่มาจากความขัดแย้งของแม่พญาครุฑกับแม่ของพญานาค ที่เป็นลักษณะเมียหลวงกับเมียน้อย และพญาครุฑกับพยานาค นั้นเป็นพี่น้องกัน มีพ่อเดียวกัน แต่ขัดกันเนื่องจากแม่ขัดกันน่ะ

    ก่อนปีใหม่ ก็ได้ไปทำศาสน์ศิลป์เรียบร้อยแล้วที่ ปราสาทหินพนมรุ้ง ไปภาวนาในปราสาท ตอนตี 3 ถึง ตี 4 ที่นี่มีพลังสูงมาก มีหลายระบบอยู่ในนี้บรรยากาศก็วังเวงดี มีรุ่นน้องคนนึงไปด้วย เขาก็ได้เห็นประสบการณ์แปลกๆจากหูทิพย์ ตาทิพย์ ของเขา จากนั้นก็ไปที่ปราสาทหินพิมาย ศาลพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ญาณท่านแรงมาก โดยเฉพาะทางด้านอำนาจ

    จากนั้นก็ไปต่อที่ ปราสาทนางรำ ก็ได้ภาวนาที่นั่นพักนึง มีญาณปู่ฤาษีนิลันทา อยู่ที่นั่น ท่านก็ให้ศีลธรรมแบบนึง เกี่ยวกับการรักษาโรค ญาณท่านแจ่มใส มีพลังสูงมาก

    จากนั้นไปทำศาสน์ศิลป์บวงสรวงรับศีลธรรมต่างๆ รวมทั้งศีลธรรมของพญานาค 7 เศียร ที่วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์ รัตนโคตร ในวันที่ 30 ม.ค. ตอนบ่ายก็ไปทำศาสน์ศิลป์ต่อที่ เขตเปงจาน-นครราช ใกล้ๆกับ อำเภอปากคาด จ. หนองคาย ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ สมัยยุคสังข์ศิลป์ชัย ก็ไปภาวนาแผ่ที่ศาลเจ้าพ่อเปงจาน ซึ่งเป็นที่ฝังศพของพญายักษ์ที่ถูกศิลป์ชัยฆ่า ก็เลยได้รับรู้ถึงศีลธรรมของมนต์ปราบยักษ์สมัยโบราณ และได้ศีลธรรมเหล่านั้นวิ่งเข้ามาอยู่ในตัว ที่จริงศาลเจ้าพ่อเปงจานนี่เฮี้ยนมาก มีใบเสมาขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เคยมีช่างของกรมทางหลวง สั่งให้พนักงานขับรถดั้ม ดันใบเสมาให้ลงแม่น้ำโขง พอสั่งเสร็จคนขับรถดั้มชักตายคาพวงมาลัยทันที ส่วนคนสั่งก็พิการปากเบี้ยวทันทีเช่นกัน ต่อมาจึงมีการสร้างศาลไว้ให้

    กลางคืนก็ไปภาวนาที่พระบรมธาตุวัดป่าสีดาฯ ซึ่งเป็นสุดยอดของสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมของศีลธรรมในระบบโลก การภาวนาในครั้งนี้ได้เรียนรู้ศีลธรรมต่างๆมากมาย ก็เลยได้รู้และเข้าใจว่า ณ ศูนย์กลางโลก ศูนย์กลางศาสนา นั้นเป็นอย่างไร ซึ่งสามารถสรุปความได้ว่า เป็นศูนย์กลางพลังที่น่าอัศจรรย์มากๆ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ในภัทรกัปป์นี้จึงต้องมาผ่านการทำบารมีที่นี่ มิน่าเล่าครูบาอาจารย์ท่านจึงบอกกับเราว่า การทำบารมีนั้นให้ทำบารมีที่นี่ให้ได้ หากทำได้บุญบารมีก็ล้นโลกแล้วเพราะเป็นสถานที่เฉพาะในการทำบารมีของผู้มาทำบารมี แม้พระพุทธเจ้าท่านก็เคยมาทำบารมีที่นี่ ก็เลยต้องอนุโมทนาสาธุการกับคำสอนของครูบาอาจารย์ ผู้ที่ท่านปฏิบัติไปรู้เห็นมาก่อน

    ขากลับกรุงเทพฯก็แวะที่ วัดป่าลาดทอง สนทนาธรรมกับหลวงพ่อทองแดง เรื่องของพระธรรมและพระเวท ที่ติดตามเรามาตั้งแต่เกิด และหลวงปู่ทวด ท่านก็ติดตามสงเคราะห แนะนำการทำบารมีของเรามาตลอดเช่นกัน เสร็จแล้วก็ไปภาวนาแผ่บุญกุศลให้นางไอ่คำ และภาวนาขอพรปู่ฤาษีองค์ต่างๆบนภูเขา และไปภาวนาขอพรที่ยอดเขา ตรงพระพุทบาท 9 รอย จากการสนทนาธรรมที่วัดป่าลาดทอง ก็ได้ความรู้ว่า ต้องไปทำศาสน์ศิลป์ต่อที่ ปราสาทปรางค์กู่
    จ. ศรีสะเกษ ปราสาทเขาพระวิหาร รวมทั้ง ที่นครวัดและนครธม เพื่อจะได้จบศาสน์ศิลป์ในเขตนั้นต่อไป

    ตอนกลับมากรุงเทพฯก็สงสัยว่าที่เมืองเปงจานนั้น เราได้ศีลธรรมแบบไหนมา ใช่มนต์ปราบยักษ์จริงหรือเปล่า เมื่อขับรถผ่านอ.สีคิ้ว ก็มีศีลธรรมของยักษ์ เจ้าพ่อสีคิ้วมาทักทายโมทนา และเมื่อผ่านเขตเขาใหญ่ก็มีเจ้าพ่อเขาใหญ่ หรือพญายักษ์ ท้าววิมล ในตำนานการเกด เข้ามาทักทายโมทนาเช่นกัน ก็เลยรู้ทันทีว่าเขามาโมทนากับศีลธรรมที่ได้ติดตัวมา เพราะโดยปกติเมื่อเราผ่านเขตนี้ จะไม่มีศีลธรรมที่เป็นรูปแบบของยักษ์เข้ามาทักทายเลย

    ครั้งต่อไป ก็ไปทำศาสน์ศิลป์ที่ภาคใต้ ก็มีศีลธรรมสำคัญๆรออยู่ในหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะในเขตของ อ. ระโนด และ อ. สทิงพระ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นเขตเมืองโบราณและเป็นเขตบารมีของหลวงปู่ทวด คงจะต้องไปภาวนาที่นั่น 3-4 วัน จึงจะโปรดภพภูมิได้หมด รวมทั้งที่เมืองเก่ากรุงชิงด้วย อาจจะต้องนอนค้าง 1คืนที่นั่น

    กลับมา กทม. วันขึ้นปีใหม่ก็ไปถวายสังฆทานที่วัดหลวงปู่หลอด ครับ
     
  10. อวทม45

    อวทม45 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    330
    ค่าพลัง:
    +1,832
    ไปกราบเจ้าแม่จามเทวีมารึยังครับ เล่าให้ฟังบ้างสิครับ
     
  11. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    อ๋อ ลืมเล่าเรื่องที่ไปทำศาสน์ศิลป์ที่เขตเจ้าแม่ไทรงาม เขตอำเภอพิมาย ไปถึงศีลธรรมบอกว่าอย่าไหว้เขา ญาณเจ้าแม่ไทรงามเขารีบลงจากแท่น ลงมาที่พื้น เขากลัวเราจะไหว้ เพราะจะเป็นอันตรายต่อกายทิพย์เขา หากเราเผลอไหว้เขาจะต้องจุติ(ตายแล้วเกิดใหม่)

    ที่เขตนางจามเทวี ยังไม่มีเวลาไปทำศาสน์ศิลป์ ส่วนหนึ่งก็จะไปรับญาณธรรมอดีตของเราเองในเขตนั้นๆและก็มีญาณธรรมของปู่ฤษีองค์ต่างๆ ที่ท่านบำเพ็ญภาวนาเพื่อรักษาศาสน์ศิลป์เฉพาะด้านในเขตนั้นๆ เราก็ไปรับเอาศาสน์ศิลป์จากท่านเหล่านั้นและก็เรียนรู้เรื่องอดีตชาติของตนเอง

    ตอนนี้ก็มีศีลธรรมของนางผมหอม กับศีลธรรมที่เมืองศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ เขามาตาม เขาบอกให้รีบไปทำศาสน์ศิลป์เขา เขารอมานานแล้ว ไม่แน่ใจว่าจะต้องไปที่นี่ก่อนไป จ. ลำพูนหรือเปล่า ต้องดูเวลาว่างด้วยเพราะว่าต้องมีเวลาขับรถไปส่งระบบเขาที่วัด จ. หนองคายด้วย การที่ไปทำศาสน์ศิลป์เหล่านี้แล้วเราต้องรีบนำส่งเข้าวัด ไม่งั้นเราเองภายในจะหนัก เรื่องของภายในนั้นต้องทำให้ถูกครองเขา

    ที่ภาคใต้กะว่าจะลงไปเดือนหน้า วันก่อนก็สัมผัสญาณ หลวงพ่อปลอด วัดหัวป่า อ. ระโนด จ. สงขลา ท่านเป็นพระเกจิอีกรูปหนึ่งที่มรณภาพแล้วร่างกายไม่เน่าเปื่อย ก็คงจะไปทำศาสน์ศิลป์รับศีลธรรมท่านมาที่ จ. หนองคายด้วย ก่อนลงไปก็คงอธิษฐานกราบเรียนถามหลวงปู่ทวด ว่าเราจะต้องไปทำอะไรเพิ่มเติมที่ไหนอีกบ้าง คาดว่าไปคราวนี้จะต้องขับรถไปเองเพราะจะได้แวะพักทำศาสน์ศิลป์ตามที่ต่างๆ มีภูเขาสำคัญลูกหนึ่งที่เขตรอยต่อ จ. สุราษฎร์ธานีกับนครศรีธรรมราช ชื่อ เขาเหมน ที่นั่นมีศีลธรรมสำคัญอยู่ด้วย หากมีเวลาจะไปแผ่บุญกุศลที่นี่ด้วย รวมทั้งที่เขาอ้อและเขาพระ จ. พัทลุง มีปู่ฤษีท่านบำเพ็ญอยู่หลายพระองค์ ที่นี่ในปัจจุบัน บางครั้งพระครูโลกอุดร ท่านก็ไปโปรดคนอยู่เช่นกัน

    ตอนนี้ก็ภาวนารับญาณศีลธรรมเข้ามาเรื่อยๆ กลางคืนหลังเที่ยงคืนเราก็ทำสมาธิภาวนา หากจิตจะออกไปก็นอนตรงที่ภาวนานั่นแหละเพื่อให้จิตออกไปทำงาน เมื่อกลับเข้าร่างมาประมาณตี 3-ตี4 ก็นั่งภาวนาต่อเพื่อรับญาณศีลธรรม หรือไม่ก็สนทนากับศีลธรรมรูปแบบต่างๆที่ท่านมาให้พร หรือไม่ก็แผ่บุญกุศลให้แก่ผู้ที่ท่านมาเยี่ยมเยือน เป็นต้น ตี 5 กว่าๆ ก็นอน 7 โมงเช้าก็ตื่น ไปทำงานต่อ

    ไม่หนุกเลยนะชีวิตนักภาวนานี่ หน้าที่ก็มีมากมาย คนทำบารมีนี่หากศีลธรรมเขาให้รู้เรื่องราวต่างๆแล้ว เราไม่ทำหรือไม่แก้ไข ก็ไม่ได้ จะทำให้ผิดระบบการทำบารมีหรือทำให้การทำบารมีไม่ก้าวหน้า เท่าที่ควร
     
  12. moddang

    moddang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,460
    ค่าพลัง:
    +5,423
    อยากถามคุณ Aunyasit หน่อยสิครับ ว่า บูชาครุฑ อ วราห์ ดีอย่างไรบ้าง ผมควรบูชาอะไรดีครับ ที่ให้ผลได้จริง คือว่าผมเป็นคนค้าขายน่ะครับ เห็นร้านไหนๆก้อมีขอบบูชา ก้อเลยอยากมีบ้าง ดวงผมมันรู้สึกจะมีอุปสรรคเยอะน่ะครับ เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง ขึ้นก้อไม่สุด ลงก้อนาน ถ้า คุณเมตตาช่วยดูผมให้หน่อยสิครับ คือปฏิบัติก้อแล้ว ทำบุญ ให้ทานก้อแล้ว ชีวิตยังไม่ค่อยดีขึ้นเลย เมตตาแนะนำด้วยนะครับบบ

    สำหรับคำตอบที่คุณบอกว่า อ วราห์ เป็นเชื้อสาย พญาครุฑมาสร้างบารมี เป็นคำตอบที่ผมฝากเพื่อนไปถามอาจารย์เขาดูครับ ปรากฏว่าตอบเหมือนกันแฮะ อาจารย์ของเพื่อน คือ สาธุเจ้าต้นบุญ ติกขปัญโญ วัดพระธาตุศรีจำปา อ พังโคน จ สกลนคร ครับ อยากทราบว่า ท่านเก่งไหมครับ เคยเจอกะคุณภายในหรือเปล่า ท่านอายุแค่ 20 กว่าๆเองฮะ ผมเคยตามเพื่อนไปวัดท่าน เวลามีงาน ท่านจะออกมารับบาตร ระหว่างนั้น มีเม็ดพระธาตุใสๆ เล็กๆ หล่นมาเต็มไปหมดเลย บางทีท่านก้อปั่นๆมือ ก้อมีลูกแก้วออกมาแจกผู้คน แต่ท่านทำเหมือนทำเล่นๆ แต่ออกมาจริงแฮะ คงจะคล้ายๆ พระจี้กงหรือเปล่า ที่ขี้เล่น แต่ทำได้จริง
     
  13. คีตา

    คีตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +4,309
    สวัสดีครับ คุณAunyasit

    เห็นท่านเน้นเรื่อง ความอดทน (อดกิน อดนอน )และ วินัยในการปฏิบัติธรรม (ตื่นตรงเวลา)ผมขอรบกวนท่านช่วยอธิบายลึกเข้าไปอีกทีครับว่า มีความสำคัญมากเลยเหรอครับ...!!!
    คนรุ่นผมหลายๆคน ชอบปฏิบัติธรรมกันมาก โดยเฉพาะตัวผม แต่ วินัยในการปฏิบัติไม่มีเอาซะเลย แล้วทำไมการ อดทนความหิวถึงมีพลานิสงค์ขนาดนั้นได้ แล้วถ้าง่วงนอนจะปฏิบัติได้อย่างไร
    "กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย" เป็นสิ่งที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนมา แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมต้องทำแบบนั้น

    คำถามนี้อาจจะดูโง่ๆ แสดงถึงปัญญาอันน้อยนิดของผม แต่คำตอบของท่านอาจจะเป็นแรงเป็นพลัง จุดประกายไฟที่กำลังจะมอด แรงที่ปฎิบัติกำลังจะมอดได้ ไม่เฉพาะผมคนเดียว รวมถึงคนรุ่นใหม่ๆที่หลงลืมคำสั่งสอนของผู้รู้ แล้วคิดแต่ความสบายกายของตนด้วยครับ
     
  14. kasin84000

    kasin84000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +997
    ยิ่งไปรู้ ไปเห็น ไปสัมผัส มากเท่าไหร่
    โอกาสโดนมารหลอกยิ่งมีมากเท่านั้นครับ

    ปล. จะรู้เห็นอย่างไรมาก็ดี สำคัญที่สุด คือ
    ต้องไม่ปรามาสพระพุทธเจ้า ไม่ปรามาสพระอริยเจ้า ไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ
     
  15. PCO

    PCO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +3,626
    ขออนุญาติคุยกับคุณกสิน84000ตรงนี้บังเอิญว่าผมจะไปทำตามอย่างท่านพระเจ้าบรมสังขจักรในสมัยพระสิริศรีอาริยเมตไตรองค์ที่จะมาตรัสรู้ในอนาคตอีกประมาณไม่ถึงล้านปีมนุษย์ องค์นี้ตอนนี้ท่านอยู่ที่ดุสิตสวรรค์ท่านใช้ชื่อตอนนี้ว่าปรีชา ทรงธรรม บังเอิญชื่อของผมก็ไปตรงกับท่านอีก องค์นี้หลวงปู่ธรรมชัย ท่านปารถนาจะไปเป็นอัครสาวก เขาลือกันว่าในสมัยเป็นมนุษย์ในชาติสุดท้ายของท่าน ท่านเป็นพระ หลวงปู่ปานเรียกท่านว่าพระทองคำท่านได้ชื่อว่าเป็นนักบุญของล้านนาท่านชื่อหลวงปู่ครูบาศรีวิชัยการบำเพ็ญพระบารมีของท่านนั้นท่านหนักไปทางเมตตาเป็นบารมีนำ ซึ่งเราจะสังเกตุเห็นว่าลูกศิษย์ของท่านก็หนักไปทางเมตตาอย่างหลวงปู่คำแสนใหญ่ หลวงปู่คำแสนเล็ก หลวงปู่ชุ่ม หลวงชัยวงค์สา หลวงปู่บุญทืม หลวงปู่ธรรมชัยเป็นต้น และแต่ละท่านนั้นทรงอภิญญาสมาบัติแปดขึ้นทั้งนั้น ท่านทั้งหลายนี้อยู่ในใจอยู่ในความทรงจำของผมเสมอมาโดยเฉพาะ ท่านปรีชา ทรงธรรมที่ผมจะไปตัดหัวตัวเองถวายท่านในสมัยที่ท่านตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่าสิริศรีอาริยเมตไตรผมย่อมที่จะจดจำท่านเป็นพิเศษ
    พระสิริศรีอาริยเมตไตรตามสำนวนที่พระเดชพระคุณท่านพระราชกวีพรรณาไว้อย่างนี้ว่าพระศิริศรีอาริยเมตไตรจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธองค์เป็นพระองค์ที่ 5 ในภัทรกัปในอนาคตกาล และ เป็นพระพุทธกาลที่ 5 จึงเป็นองค์ที่ 1 ในอนาคตนั้นด้วยเหตุที่พระองค์มีพระสติปัญญา และมีพระพทัยอธิฐานมั่นคงต่อพระสัมมาสัมโพธิญาณจึงเป็นความเชื่อมั่นคงและมีความเลื่อมใส ผ่องใสเสมอไม่เสื่อมคลาย เป็นศีลบารมี เป็นขันติบารมีเป็นนิจจึงส่งให้มี-พระสิริผ่องใส ทรงบำเพ็ญศีลบารมี วิริยบารมี ทานบารมีตลอดจึงไม่มีข้าศึก และเจริญด้วยความดีเสมอจึงส่งให้เป็น-อารยัน อริย ทรงเจริญเมตตาเป็นประธานเป็นนิจ และทรงสุภาพอ่อนโยน อ่อนน้อมตลอด จึงส่งให้เป็นที่ชื่นชมยินดีปรีดามหานิยม ได้เป็นนามชื่อเรียกว่า-เมตเตยย หรือ เมตไตร จึงเป็นนามประจำว่า-สิริอริยเมตเตยย (ออกเป็น ไ-ว่าไตร บ้าง) ด้วยผลที่ตัดเศียรเกล้า และอุทิศสรีร่างเป็น-ประทีปต้นสักการะบูชาซึ่งเสกสรรให้ทรงมหปุริสลักษณะ 32 ประกอบด้วยฉัพพัณณรังสีรัศมี 6 สีสว่างออกจากพระสรีรกายงามดุจสายน้ำทองอันไหลหลั่งออกมาทุกเมื่อ ด้วยผลที่เสด็จเดิน คลาน กลิ้ง ไป และหนังเนื้อเอ็นแตกให้เลือดกระจายไปตามทางนั้นดลบันดาลให้เกิดเนื้อข้าวสาลีเกิดเองตลอดบริโภคได้ และเกิดต้นกามพฤกษ์อำนวยสิ่งประสงค์เครื่องเลื้ยงชาวโลกตลอดกาล ในกาลพระศาสนาขององค์สมเด็จพระสิริศรีอริเมตไตรสัมมาสัมพุทธองค์ ในอนาคตกาลนั้น
    พระศรีองค์อื่นผมไม่รู้ประวัติอาจจะคนละองค์กันก็ได้นะครับ เหมือนอย่างที่มีคนเคยบอกว่าหลวงพ่อฤษีลิงขาว(พระครูปลัดช่อวัดฤกษบุญมี)จะทำพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดสามชุกสุพรรณบุรีประมาณปี2529ผมก็ไปในงานนั้นด้วยเมื่อไปพบผมมีความรู้สึกเฉยๆ ต่อมาหลังจากกลับมาจากงานนั้นก็เข้าไปหาหลวงพ่อเมื่อมีโอกาศผมได้ถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงว่าใช่องค์เดียวกับที่บวชพร้อมหลวงพ่อเป็นคณะเดียวกับหลวงพ่อหรือไม่ท่านบอกว่าไม่ใช่เป็นลิงคนละฝูงกับท่าน
    อันนี้ผมก็เขียนมาตามประสาความรู้ของผมเ่ท่านั้นนะครับ 21 มกราคม 2549
     
  16. kasin84000

    kasin84000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +997
    ขอโมทนาบุญกับท่าน PCO อย่างยิ่งครับ
    ที่อธิษฐานจะไปตัดหัวตัวเองเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
    ชื่อตรงกับ ท่านปรีชาทรงธรรม อีก
    สุดยอดครับท่าน
    (verygood)
     
  17. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    คุณ moddang
    ผมไม่มีหน้าที่สงเคราะห์เรื่องทางโลกครับ หากต้องการรู้เหตุของอุปสรรคและวิธีการแก้ไข แนะนำให้ไปปรึกษาหลวงพ่อทองแดง วัดป่าลาดทอง จ. อุดรธานี ท่านบอกได้แน่นอนครับ

    คุณ คีตา
    การ "กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย" นั้น การ "กินน้อย" ทำให้ร่างกายปลอดโปร่ง จิตไม่ถูกกระทำจากการย่อยอาหาร ซึ่งทำให้ง่วงนอน ดังนั้นการกินน้อยจึงช่วยกำจัดนิวรณ์ ตัวง่วงได้
    การ "นอนน้อย" ทำให้ครองสติอยู่ได้มาก เนื่องจากการนอนหลับนั้นจะไม่มีสติครอง ยกเว้นจิตที่ฝึกดีแล้ว การทรงสติก็คือทรงความเป็นผู้ตื่นนั่นเองครับ และการนอนน้อยนั้นจะเป็นการฝืนความง่วงคือการสู้กับนิวรณ์ความง่วงโดยตรง
    การ "พูดน้อย" นั้น เป็นการฝึกสำรวมวาจา คือพูดแต่สิ่งที่ดี สิ่งที่มีประโยชน์ สิ่งที่ไม่มีปะโยชน์ก็จะไม่พูด

    ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ไปที่วัดป่าสีดาฯ วัดพระธาตุบังพวน วัดพระเจ้าองค์ตื้อ วัดอรัญบรรพต(วัดหลวงปู่เหรียญ) และวัดหินหมากเป้ง จากนั้นก็ไป จ. หนองบัวลำพู เขตภูพานทอง ไปสนทนาธรรมกับหลวงปู่ทองฤทธิ์(ภายในท่านคือหลวงปู่เณรคำ) หลวงปู่เณรคำท่านเป็นโลกอุดรรูปหนึ่ง มีหน้าที่เป็น "ครูธรรม" สำหรับท่านที่เราไปคารวะนั้น ทางฝั่งลาวรู้จักท่านในนามของ "หลวงปู่เณรคำกลาง" ท่านมีคุณสมบัติพิเศษมากมาย เช่น บอกหวยแม่นมาก ใครผิดท่านจะเกิดผลทันที ท่านรู้เรื่องราวต่างๆได้อย่างอัศจรรย์ บอกได้แม้กระทั่งชื่อคน ท่านเล่าเรื่องราวอัศจรรย์ให้ฟังมากมาย แต่จะไม่ขอเล่าในที่นี้เพราะกลัวว่าใครเผลอปรามาทท่านเข้าก็จะไม่ดี

    สนทนาธรรมกับท่านประมาณ 4 ชั่วโมง เราแทบจะไม่ได้เปิดปากเลย ถามท่านทางจิตตลอด จิตท่านไวมาก เรื่องสำคัญๆ ที่สนทนากับท่านนอกจากจะเป็นเรื่องของศีลธรรมแล้ว ก็เป็นเรื่องการล่มสลายของกรุงเทพฯ ท่านบอกว่าต่อไปกรุงเทพฯจะร้างผู้คน ไม่มีคนอยู่ ยิ่งกว่าสมัยที่เวียงจันทร์แตกเสียอีก ท่านบอกเวลามา เราก็นับถอยหลังไปเรื่อยๆ ก็ไม่แปลกใจเพราะรับรู้มานานแล้ว เอาเป็นว่าภายใน 5 ปี ใครดีจริงก็คงจะรอดแหละ
     
  18. nakoruru

    nakoruru เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2005
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +1,120
    จะมีอะไรเกิดขึ้น เหรอ ครับ พอจะบอกได้ไหม ครับ
     
  19. kasin84000

    kasin84000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +997
    อยากรู้ด้วยครับ
     
  20. moddang

    moddang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,460
    ค่าพลัง:
    +5,423
    หลวงปู่ทองฤทธิ์ หรือ หลวงปู่เณรคำ เป็นหสธรรมมิกกะ หลวงปู่ เณรหงส์ เณรแก้ว หรือเปล่าครับ ผมเคยอ่านหนังสือเจอ ไม่รู้ว่าใช่คณะเดียวกันหรือเปล่า
    ใช่หรือไม่ใช่ก้อแล้วแต่ อยากจะถามว่า หลวงปู่ทองฤทธิ์ หรือ หลวงปู่เณรคำ ท่านอยู่ วัดชื่ออะไร จังหวัดอะไรครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...