สรุปภัยที่เกิดจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ฝนถล่มจมน้ำ ภาคกลางวิกฤต

ลพบุรีอพยพคนหนี เขื่อนล้น-ตลิ่งทะลัก



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ท่วมน้ำตก - สภาพน้ำล้นทะลักจากน้ำตกวังตะไคร้ จ.นครนายก ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว ล่าสุดทางจังหวัดสั่งเข้มงวดเรื่องความปลอดภัย เพราะเกรงจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในวันหยุด

</TD></TR></TBODY></TABLE>ฝนถล่มจมแล้วหลายจว. ลพบุรีท่วมบ้านเรือนนับพันหลัง พืชผลทางการเกษตรเสียหายหลายหมื่นไร่ ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมจนรถผ่านไปมาไม่ได้ ส่วนกรุงเก่าหวั่นจมโบราณสถานหลายแห่ง โดยเฉพาะบริเวณวัดกุฎีดาว ขณะเดียวกันเขื่อนพระราม 6 กั้นแม่น้ำป่าสักต้องระบายน้ำลงท้ายเขื่อน ขณะที่สระบุรีริมตลิ่งแม่น้ำป่าสักพังเป็นทางยาว ที่ปราจีนบุรีฝูงวัว 15 ตัวของชาวบ้านถูกกระแสน้ำพัดหายไป ที่โคราชมีผู้สูญหายแล้ว 1 ราย

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่มีฝนตกลงมาติดต่อกันตลอดคืนที่ผ่านมาทำให้หลายพื้นที่เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน โดย อ.เมือง จ.ลพบุรี น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตหมู่ 4 ต.เขาสามยอด มีบ้านเรือนปลูกอาศัยอยู่กันกว่า 1,000 ครัวเรือน ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร นายธวัชชัย โสตเนียม นอภ.เมือง, นายธีระศักดิ์ ทรัพย์ศิริ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลพบุรี, น.ส.สายใจ เลิศวิริยะประภา นายกเทศมนตรีเมืองเขาสามยอด นำกำลังเจ้าหน้าที่ อส. และ อปพร. ออกให้ความช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของภายในบ้านขึ้นไปอยู่ในที่สูง พร้อมกันนี้ พ.ต.อ.ศุภโยชก์ ธารีไทย ผกก.สภ.เมืองลพบุรี จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรไปอำนวยความสะดวกในเรื่องของการจราจรที่ติดขัดบนถนนพหลโยธินเป็นทางยาวหลายกิโลเมตร

ส่วนที่ ต.ท่าศาลา อ.เมือง น้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตหมู่ 5, 6, 7 ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนนับพันครัวเรือน นาง นิตยา เธียรวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลท่าศาลา พร้อมคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่และกำลังทหารจาก ร.ร.สงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ นำกำลังช่วยประชาชนขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำ พร้อมนำทรายบรรจุถุงปุ๋ยไปแจกจ่ายชาวบ้าน เพื่อปิดกั้นไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมในบ้าน

ส่วนที่ ต.โคกตูม อ.เมือง น้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยส้ม ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและตลาดโคกตูม ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนกันทั่วหน้า นายอุดม อิ่มอรชร นายกเทศมนตรีตำบลโคกตูม นำกำลังเจ้าหน้าที่ อปพร.ออกช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่ โดยนอกจากบ้านเรือนประชาชนจะถูกน้ำท่วมจำนวนมากแล้ว พืชผลทางการเกษตรซึ่งชาวบ้านปลูกก็ได้รับความเสียหายหลายหมื่นไร่

สำหรับที่ อ.โคกสำโรง น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลตำบลโคกสำโรง ระดับน้ำสูง 60-80 ซ.ม. นอกจากนี้ต้นมะขามยักษ์อายุหลายร้อยปีก็โค่นลงมากีดขวางทางจราจร นายบุญเลิศ วรปัญญา นายกเทศมนตรีตำบลโคก สำโรง พร้อมคณะผู้บริหาร นำเจ้าหน้าที่ อปพร. ออกช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน นอก จากนี้ถนนหลายสายก็ถูกน้ำท่วมจนรถผ่านไปมาไม่ได้หลายสายด้วยกัน

ส่วนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมขังในเขตโบราณสถานหลายแห่ง โดยเฉพาะบริเวณวัดกุฎีดาว ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา โบราณสถานเก่าแก่ สร้างก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยา ขณะเดียวกันเขื่อนพระราม 6 ที่กั้นแม่น้ำป่าสักในเขต อ.ท่าเรือ เปิดประตูระบายน้ำลงท้ายเขื่อนครบทั้ง 6 บาน ในระดับความสูงบานชัก 2.20 เมตร ส่งผลให้ระบายน้ำลงท้ายเขื่อน 412 ลบ.ม./วินาที ถือเป็นการระบายน้ำสูงสุดในรอบปี"51 ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักท้ายเขื่อนสูงขึ้นทุกขณะ และใกล้ล้นตลิ่งในบางจุดที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ

นายสุริยะพล นุชอนงค์ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำ เขื่อนพระราม 6 กล่าวว่า หากในอีก 2-3 วันนี้ ยังมีฝนตกต่อเนื่อง ในพื้นที่ จ.สระบุรี และ จ.ลพบุรี เขื่อนต้องเร่งระบายน้ำเช่นนี้ อาจทำให้ชุมชนสองฝั่งแม่น้ำป่าสักด้านท้ายเขื่อนเขต อ.ท่าเรือ อ.นครหลวง และ อ.พระนครศรีอยุธยา รับผลกระทบจากภาวะน้ำล้นตลิ่งได้เช่นกัน

นายปรีชา กมลบุตร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้ออกประกาศเตือนชุมชนสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก ในเขต อ.ท่าเรือ, อ.นครหลวง และอ.พระนครศรีอยุธยา ให้เตรียมรับมือหากเกิดภาวะน้ำล้นตลิ่ง หากเขื่อนพระราม 6 จำเป็นต้องเร่งระบายน้ำเช่นนี้อีกหลายวัน ส่วนในแม่น้ำเจ้าพระยา ยังไม่ได้รับผลกระทบ เพราะระดับน้ำยังไม่สูงเท่าใดนัก แต่เพื่อเป็นการไม่ประมาท เพราะฝนตกหนักในเขตภาคเหนือ จึงให้อปท. และหน่วยงานระดับจังหวัดและอำเภอเฝ้าสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหนองบัว ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สระ บุรี หลังเกิดฝนตกหนักทำให้ริมตลิ่งของแม่น้ำป่าสัก หลังวัดหนองบัว หมู่ที่ 7 ต.ตลิ่งชัน พังลงมาเป็นทางยาว นายธีรภัทร วงษ์เหล็ก ผญบ. หมู่ 7 ต.ตลิ่งชัน กล่าวว่า จากเหตุดังกล่าวมีบ้านเรือนชาวบ้านเดือดร้อน 14 หลังคาเรือน ที่สำคัญคือวัดหนองบัว หากไม่รีบหาทางช่วยเหลือ เกรงว่าศาลาการเปรียญเก่าแก่โบราณสองชั้นจะพังทลาย

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ช่วงดึกที่ผ่านมามีน้ำป่าไหลมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนจำนวน 3 หมู่บ้าน อาทิ หมู่ 3 บ้านบุพราหมณ์ใน หมู่ 10 บ้านทับลานใน และหมู่ 9 บ้านกระเดียง ส่งผลทำให้พื้นที่การเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหายหลายพันไร่ และฝูงวัวจำนวน 15 ตัวของนายชิระ พันธ์สุวรรณ ถูกกระแสน้ำพัดหายไปกับน้ำ ส่วนถนนทางเข้าหมู่บ้านหลายสายถูกน้ำท่วมตัดขาดระดับน้ำสูงถึง 1 เมตร รถยนต์ไม่สามารถวิ่งเข้าออกได้

ต่อมานางพรรณี แก่นสุวรรณ ผวจ.ปราจีนบุรี พร้อมสภากาชาดไทยนำถุงยังชีพ 500 ชุด มาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมและได้รับความเดือดร้อน บริเวณศาลาประชาคมบ้านทับลานใน ส่วนทางด้านศูนย์ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เขต 3 ปราจีนบุรี นำเรือท้องแบน 4 ลำ คอยช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมแล้ว

สำหรับ จ.นครนายก ที่บริเวณเชิงสะพานอุทยานวังตะไคร้ ม.1 ต.สาริกา อ.เมือง มีน้ำป่าไหลลงมาจนล้นตลิ่งทำให้พ่อค้าและแม่ค้าที่ขายของให้กับนักท่องเที่ยวต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยสว่างอริยะธรรมนครนายก มาช่วยกันขนข้าวของหนีน้ำ ส่วนที่น้ำตกนางรอง ม.3 ต.หินตั้ง อ.เมือง น้ำป่าสีแดงขุ่นเหมือนกับสีของโคลนไหลบ่าลงมาอย่างรวดเร็วจนท่วมสะพานข้ามด้านนอกของน้ำตกนางรองที่จะข้ามไปยังอีกฟากหนึ่งจนมิด ทำให้ชาวบ้านที่อยู่อีกฟากหนึ่งรวมทั้งยานพาหนะไม่สามารถข้ามมาได้และระดับน้ำในลำน้ำก็ยังคงสูงขึ้นมาเรื่อยๆ

นายไพรัตน์ สกลพันธุ์ ผวจ.นครนายก กล่าวว่า หลังจากที่รับรายงานว่ามีน้ำป่าไหลบ่าลงมาท่วมที่บริเวณน้ำตกนางรอง จึงสั่งให้มีการเตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัย เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวในวันหยุด จากนั้นก็สั่งการให้นางกิจสุดา จันทรสนธิ นอภ.เมือง และนางจรัส ใยเยื่อ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครนายก ลงพื้นที่ไปตรวจสอบว่ามีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างไรบ้าง และปริมาณน้ำป่าที่ไหลหลากลงมานั้นมากน้อยขนาดไหนและจะเกิดอันตรายกับชาวบ้านหรือไม่ และให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำคอยระวังน้ำท่วมอย่างฉับพลันด้วย

ส่วนที่อบต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นคร ราชสีมา เจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันบรรจุทรายใส่ถุงนำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมอย่างหนักใน 3 หมู่บ้าน คือบ้านหนองบัวศาลา หมู่ที่ 2, 8 และ 10 เพราะมีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องพากันขนสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมกับนำถุงทรายมากั้นน้ำไม่ให้เข้าบ้าน ท่ามกลางฝนที่ตกลงมา ทุกวัน

นายจำเริญ เปล้ากระโทก นายกอบต.หนอง บัวศาลา กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดที่ ต.หนองบัวศาลา ประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่าร้อยหลังคาเรือน ทั้งนี้ทางอบต.หนองบัวศาลา ทำได้เพียงแจกจ่ายถุงทรายและถุงยังชีพให้กับประชาชนเพื่อบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น

ขณะที่ นายสุธี มากบุญ ผวจ.นครราชสีมา พร้อมป้องกันภัยจังหวัดออกตรวจสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่โดยถนนมิตรภาพ สายใหม่ บริเวณ ทางเลี่ยงเมืองปากช่อง ก.ม.17-18 บ้านบ่อทอง ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง ระดับน้ำยังทรงตัวสูงกว่า 50 ซ.ม. รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงระดมกำลังอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยให้เบี่ยงไปใช้เส้นทางถนนมิตรภาพสายเก่า ผ่านเข้าตัวเมืองปากช่อง และไปออกสะพานต่างระดับเขาใหญ่ เพื่อเข้าสู่กรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นทางภาคกลาง

ล่าสุดมีรายงานผู้สูญหายจากปัญหาน้ำท่วมแล้ว 1 ราย คือ นายวินัย มีสุข อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโครงการบ้านจัดสรร ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ถูกน้ำพัดหายไปบริเวณฝายน้ำล้น ขณะเดินทางมาทำงาน

ส่วนในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เกิดน้ำป่าจากลำห้วยผาลาดไหลเข้าท่วมพื้นที่ ต.แม่กุ ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายนับ 100 หลังคาเรือน และยังทำให้กำแพงโรงเรียนและกำแพงวัดบ้านผาลาดถูกกระแสน้ำพัดขาด และเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหายหลายร้อยไร่

ขณะเดียวกันนายวิม อินทราแสง ปลัดฝ่ายป้องกัน อ.แม่สอด นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนรวมทั้งตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 อ.แม่สอด เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านอย่างรีบด่วนแล้ว นอกจากนี้ยังนำถุงยังชีพเข้าไปแจกให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจำนวน 40 ชุด เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกในเบื้องต้น

เมื่อเวลา 17.30 น. วันเดียวกัน กรมอุตุนิยม วิทยา ประกาศเตือนภัยว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง จะเคลื่อนตัวตามแนวร่องความกดอากาศต่ำเข้าสู่ประเทศพม่าอย่างช้าๆ และ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ เช่นบริเวณ จ.ตาก พิจิตร สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา สระบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา กรุงเทพมหานคร นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรีและตราด

ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย

http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09DMHdPUzB4TXc9PQ==

 

ฮือฮา!เนปาลร่ำลืออาเพท อุบัติ หลังเกิดเหตุต้นไม้หลายพันต้น ล้มครืนพร้อม ๆ กัน ทั้งที่ไม่พายุ เชื่อเรื่องเป็นอัปมงคล จวกหน่วยงานป่าไม้ไม่เร่งพิสูจน์เป็นฝีมือของอำนาจเหนือธรรมชาติหรือไม่

สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ว่า เกิดเหตุต้นไม้เกือบ 3 พันต้นในเขตบันเก้ ในป่าชุมชุมแห่งหนึ่ง ทางภาคตะวันออกของประเทศ ล้มครืนอย่างรวดเร็ว เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 10 นาที ทั้งที่ไม่มีลมหรือพายุเกิดขึ้นเลย ทำให้ชาวบ้านร่ำลือเกี่ยวกับทฤษฎีเรื่องอำนาจเหนือธรรมชาติ

โดยบอก ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องอัปมงคล และกำลังวิตกว่าเหตุร้ายกำลังเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่ผู้จำนวนมากยังแห่เดินทางมาชมยังสถานที่ดังกล่าว โดยหลายคนเสนอมุมมองที่แตกต่าง จำนวนมากมองว่าเป็นเรื่องของน้ำมือของอำนาจเหนือธรรมชาติ

อย่างไรก็ ตาม ภายหลังเกิดเหตุ ชาวบ้านยังได้แจ้งเรื่องไปยังสำนักงานเขตป่าไม้เกี่ยวกับเหตุการณ์ปริศนาที่ เกิดขึ้น พร้อมทั้งโจมตีว่า หน่วยงานไม่พยายายามที่จะค้นหาข้อเท็จจริงว่า มันเกิดอะไรขึ้นแน่ แต่เจ้าหน้าที่หน่วยงานนี้บอกว่า พวกเขาจะเดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุในเร็ว ๆ นี้ เพื่อค้นหาต้นตอสาเหตุของต้นไม้หลายพันต้นล้มครืนต่อไป






ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก
โดย: pOtAtoCheEsecAke
ตั้งเมื่อ: <acronym title="1 ชั่วโมง 33 นาทีที่ผ่านมา">10:15 น. 14 Sep 2008</acronym>

 

โบอิ้งบึ้ม!ดิ่ง88ศพ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
เขตมรณะ- หน่วยดับเพลิงและทีมสอบสวนรัสเซีย ตรวจสอบจุดเครื่องบินโบอิ้ง 737 สายการบินแอโรฟลอต ตกใกล้รางรถไฟในเมืองเปียร์ม แถบเทือกเขายูราล เมื่อ 14 ก.ย. ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้งลำ 88 ศพ

</TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 14 ก.ย. เกิดเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737 สายการบินแอโรฟลอตของรัสเซีย ดิ่งพสุธา บริเวณชานเมืองเปียร์ม แถบเทือกเขายูราล ใจกลางประเทศรัสเซีย เป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้งลำ 88 ศพ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เห็นเพลิงไหม้เครื่องบินบนฟ้า เหมือนดาวหาง ก่อนดิ่งกระแทกพื้นแหลกเป็นชิ้นๆ เศษเหล็กจากเครื่องกระแทกรางรถไฟทรานส์-ไซบีเรียจนขยายออก ส่วนเสื้อผ้าและข้าวของต่างๆ กระเด็นไปไกลกว่านั้น

ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ผู้นำรัสเซีย ส่งสารแสดงความเสียใจกับญาติเหยื่อและประกาศให้วันที่ 15 ก.ย.เป็นวันไว้ทุกข์ในเมืองเปียร์ม

สายการบินแอโรฟลอตแจ้งว่า เครื่องบินลำมรณะนี้บรรทุกผู้โดยสารต่างชาติอย่างน้อย 21 ราย และมีผู้โดยสารเป็นเด็ก 7 ราย นอกจากนี้พบว่ามีบุคคลสำคัญอยู่บนเครื่องด้วย คือนายพลเกนนาดี ทรอสเชฟ อดีตผู้บัญชาการรัสเซียในสงครามปราบกบฏที่แคว้นเชชเนีย และเป็นที่ปรึกษาของนายวลาดิเมียร์ ปูติน สมัยเป็นประธานาธิบดี

จากการสอบสวน เครื่องเดินทางจากกรุงมอสโก และสัญญาณหายไปหลังช่วง 05.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะเหินอยู่เหนือพื้นดิน 1,100 เมตร ก่อนตกลงในจุดที่ห่างจากเขตที่อยู่อาศัยเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ไม่เช่นนั้นจะมีคนเสียชีวิตมากกว่านี้

ส่วนแหล่งข่าวในทีมสอบสวนกล่าวว่า เครื่องยนต์ขัดข้องอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟลุกไหม้เครื่องบินกลางอากาศก่อนดิ่งลงพื้น

http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd05nPT0=&day=TWpBd09DMHdPUzB4TlE9PQ==

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไอค์อ่อนกำลังลงหลังถล่มเทกซัสจนมีผู้เสียชีวิต 4 ราย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 กันยายน 2551 15:44 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=335 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=335> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพความเสียหายจากอิทธิพลของไอค์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ซีเอ็นเอ็น - ทีมช่วยเหลือในกัลเวสตัน เทกซัส กำลังตรวจบ้านแต่ละหลังเมื่อวันเสาร์ (13) เพื่อตรวจสอบราษฎรราว 20,000 คน ที่ไม่ยอมอพยพหนีเฮอริเคนไอค์ ที่อ่อนกำลังลงสู่พายุดีเปรสชันแล้ว ขณะเคลื่อนสู่พื้นที่ฝั่งตะวันตกของรัฐอาร์คันซอ ในวันนี้ (14) แต่นักพยากรณ์เตือนว่ามันอาจทำให้ฝนตกหนักในหลายรัฐแถบมิดเวสต์

หน่วยกู้ภัยไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยที่การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่เป็นไปอย่างยากลำบากจากกระแสน้ำที่ไหลบ่าและซากปรักหักพัง

ทางการของ กัลเวสตัน มีคำสั่งอพยพราษฎรออกจากเกาะ แต่เจ้าหน้าที่เมืองสตีฟ เลบลอนซ์ เปิดเผยว่า มีถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด 57,523 ราย เลือกที่จะอยู่ในบ้านพักของตนเอง

เลบลอนซ์ บอกว่า เกาะแห่งนี้อาจยังต้องปิดต่อไประหว่างที่เจ้าหน้าที่ประเมินความเสียหาย อาทิ เส้นทางข้ามซึ่งอยู่ในท่าทางไม่ดีนักอันเนื่องมาจากถนนพังและดินถล่มลงมาทับ

 

น้ำป่าทะลัก!ท่วมปราจีนฯกว่า600ครอบครัว

<TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>วันนี้ (14 ก.ย.)นายรังสรรค์ บุตรเนียร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า น้ำป่าที่ไหลหลากมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งท่วมพื้นที่ ต.บุพราหมณ์ ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ก่อนหน้านี้ ได้ลดระดับมาตามแควหนุมานไหลรวมกับแควพระปรง ที่ต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี เทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี โดยน้ำบางส่วนได้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนชุมชนตลาดเก่า ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำตั้งติดริมต้นแม่น้ำปราจีนบุรี กว่า 600 ครอบครัว เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กม.เศษ โดยในขณะนี้วัดระดับน้ำท่วมถนนสูง 45 เซนติเมตร
นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกบินทร์ เผยว่าการช่วยเหลือในเบื้องต้นได้จัดเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยช่วยขนสิ่งของเครื่องใช้ ของประชาชนไม่ให้เสียหาย พร้อมกับจัดเรือท้องแบน จำนวน 3 ลำบริการให้ประชาชนสัญจรไปมาสะดวก โดยประชาชนในชุมชนตลาดเก่าต่างเตรียมพร้อมล่วงหน้าในการขนของไว้ที่สูงหรือเรือพายของแต่ละบ้าน เนื่องจากเป็นชุมชนที่ติดต้นแม่น้ำปราจีนบุรีที่น้ำท่วมทุกปี.
</TD></TR></TBODY></TABLE>

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=176726&NewsType=1&Template=1

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>พายุเฮอริเคน"ไอค์"ทำแท่นขุดเจาะน้ำมันเสียหาย 10 แห่ง
</TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1>พายุเฮอริเคน"ไอค์"ทำแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเสียหายประมาณ 10 แห่ง อาจทำให้น้ำมันในสหรัฐฯแพงขึ้น


(16ก.ย.) เอลีน แอลเจลิโค โฆษกหญิงของสำนักงานจัดการแร่ธาตุสหรัฐฯ หรือ MMS เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า จากผลการสำรวจคร่าวๆ ทางอากาศ คาดว่า เฮอริเคน"ไอค์" ที่เข้าถล่มแถบศูนย์กลางการขุดเจาะน้ำมันแถบอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯเมื่อเช้าวันเสาร์ แม้จะสร้างความเสียหายน้อยกว่าที่คาด แต่ก็ได้สร้างความเสียหายให้กับแท่นขุดเจาะน้ำมันประมาณ 10 แห่งจากทั้งหมด 3,800 แห่งในอ่าวเม็กซิโก และท่อส่งน้ำมันบางส่วน
แม้ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่จะยังไม่ทราบจำนวนแน่นอนของแท่นขุดเจาะที่เสียหาย แต่ก็วิตกว่าพายุอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมัน อันจะทำให้ราคาน้ำมันตามปั้มพ์ต่างๆทั่วสหรัฐฯมีราคาแพงขึ้น เหมือนกับช่วงที่เฮอริเคน"แคทรีน่า" เข้าถล่มเมื่อปี 2548 สร้างความเสียหาย
ให้แท่นขุดเจาะน้ำมัน 44 แห่งขณะที่เฮอริเคน"ริต้า"ที่เข้าถล่มรัฐแถบอ่าวเม็กซิโกในปลายปีเดียวกัน สร้างความเสียหายให้แท่นขุดเจาะน้ำมัน 64 แห่ง การที่โรงกลั่นน้ำมันปิดทำการจาก"ไอค์" อาจทำให้ปริมาณน้ำมันคาดแคลนเป็นช่วงๆในสองสามสัปดาห์ข้างหน้า แต่นัก
วิเคราะห์เชื่อว่า จะเป็นปรากฎการณ์เพียงชั่วคราว เพราะบรรดานักค้าหมดความกระหายในน้ำมันและแก๊สธรรมชาติราคาแพงแล้ว มีรายงานว่า ราคาน้ำมันที่ขายตามปั้มพ์น้ำมันในหลายส่วนของสหรัฐฯ มีราคาสูงขึ้นเป็นแกลลอนละ 5 ดอลลาร์ หรือ 170 บาท หรือลิตรละ 1.3 ยูโร หรือ 62 บาทแล้ว โดยในบางรัฐ เช่นรัฐเทนเนสซี่นั้น ราคาน้ำมันที่ขายตามปั้มพ์น้ำมันที่อยู่ใกล้เคียงกันชนิดเดินถึงได้ แตกต่างกันตั้งแต่ 3.50 - 5 .19 ดอลลาร์ หรือระหว่าง119-176 บาท/แกลลอน ขณะมีรายงานว่า ปัจจุบันราคาน้ำมันเฉลี่ยแพงกว่า 4 ดอลลาร์ หรือ 136 บาท/แกลลอนในรัฐลินอยส์ ,อินเดียน่า,มิชิแกน,เซาท์ คาโรไลน่า,ฮาวาย และอลาสก้า

</TD></TR></TBODY></TABLE>
http://www.komchadluek.net/2008/09/15/x_main_a001_221029.php?news_id=221029

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>สหรัฐประกาศเทกซัส-หลุยเซียนาเป็นเขตภัยพิบัติ
</TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1>หลังถูกพายุเฮอริเคนไอค์พัดถล่มยับเยิน บ้านเรือนชายฝั่งจมน้ำ 2 เมตรกว่า เรือยอชท์ถูกพัดมากองบนถนน ทางการเร่งช่วยชีวิต บุชเตรียมบินด่วนเยี่ยมผู้ประสบภัยอังคารนี้ ส่วนราคาน้ำมันคาดไม่กระทบมาก เพราะพายุพัดเฉียดโรงกลั่นน้ำมัน ส่วนเอเชียยังไม่พ้นทุกข์ ซินลากอจ่อซัดถล่มจีน อพยพนับแสน




ประธานาธิบดีจอร์จดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (14 ก.ย.) ให้รัฐเทกซัส และรัฐหลุยเซียนา เป็นเขตภัยพิบัติ หลังจากพายุเฮอริเคนไอค์พัดกระหน่ำทำให้บ้านเรือนถูกน้ำท่วม และไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง นอกเหนือจากทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน ในทั้งสองรัฐ และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เตรียมลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยอังคารนี้ ขณะที่พายุไอค์ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและมุ่งหน้าต่อไปยังรัฐอาร์คันซอแล้ว
นายบุชกล่าวว่าเฮอริเคนไอค์ทำให้เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ หลังจากเข้าถล่มภาคตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐเทกซัส และตะวันตกของรัฐหลุยเซียนา ซึ่งคำประกาศนี้ช่วยให้รัฐบาลสามารถเข้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยพิบัติได้อย่างเต็มที่ โดยพายุทำให้บ้านเรือนและอาคารรัฐบาลหลายพันหลังถูกน้ำท่วม ถนนขาดหลายสาย คาดว่าประชาชนราว 2.6 ล้านคน ไม่มีไฟฟ้าใช้ และเกิดไฟไหม้หลายจุด หลายเมืองริมอ่าวเม็กซิโกน้ำท่วมและเสียหายหนัก กระจกอาคารระฟ้าแตกกระจาย คนหลายล้านไม่มีไฟฟ้าใช้ บ้านเรือนหลายพันตามแนวชายฝั่งจมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งบางแห่งสูง 2.4 เมตร เรือยอชท์ขึ้นมากองอยู่บนถนน บ้านเรือนและอาคารต่างๆ พังทลาย รถยนต์จำนวนมากลอยอยู่ในน้ำ
ด้านนายเดวิดพอลลิสัน หัวหน้าสำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินกลาง (ฟีมา) ของสหรัฐ กล่าวว่า เฮอริเคนไอค์สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในรัฐเทกซัสและรัฐหลุยเซียนา อย่างไรก็ดี ขอให้ประชาชนที่อยากกลับบ้านอดทนรอจนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ส่วนนายไมเคิล เชอร์ทอฟฟ์ รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิเผยว่า จนถึงขณะนี้ช่วยชีวิตประชาชนได้แล้ว 940 คน แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต
นายพอลลิสันกล่าวด้วยว่าแม้พายุจะอ่อนกำลังลงแล้ว แต่ก็ยังเป็นอันตราย ทำให้เกิดลมแรง และฝนตกหนักเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีโอกาสเกิดพายุหมุนทอร์นาโดกับฟ้าผ่า จึงขอให้ประชาชนอดทน หลบอยู่แต่ในบ้านเรือน จนกว่าเหตุการณ์จะสงบ นอกจากนี้มีรายงานว่า พายุขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลม 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมฝนตกหนักและคลื่นขนาดใหญ่ แต่เจ้าหน้าที่ยังดีใจที่คลื่นสูงเพียง 4 เมตร ต่ำกว่าคาดการณ์ไว้ 6-7.5 เมตร
แม้จะมีคนจำนวนมากอพยพหนีจากชายฝั่งแต่คาดว่ายังมีมากกว่า 1.4 แสนคน เมินเฉยต่อคำสั่งบังคับให้อพยพ ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งออกให้ความช่วยเหลือ พร้อมตรวจสอบความเสียหายจากพายุ ซึ่งก่อนหน้านี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 80 คน แถบแคริบเบียน ขณะยามฝั่งสามารถช่วยเหลือผู้คนออกมาจากเกาะกัลเวสตัน ที่ถูกเฮอริเคนพัดถล่มเต็มๆ ออกมาได้แล้ว 23 คน ส่วนใหญ่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ผู้รอดชีวิตจากพายุบางคนกล่าวว่า มหัศจรรย์มากที่รอดชีวิตมาได้ และคราวหน้าจะเชื่อคำสั่งของทางการในการอพยพ จะไม่ดึงดันอยู่อีกต่อไป เพราะคราวหน้าอาจไม่โชคดีเช่นนี้
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า สนามกีฬาเดอะ เทกซานส์ รีไรแอนท์ ในนครฮุสตัน รัฐเทกซัส ได้รับความเสียหายหนักจากพายุ ทำให้ต้องเลื่อนการแข่งขันเอ็นเอฟแอลระหว่างทีมอเมริกันฟุตบอลบัลติมอร์ เรเวนส์ กับทีมฮุสตัน เทกซานส์ในวันอาทิตย์นี้ ไปเป็นวันที่ 9 พฤศจิกายน
แม้ศูนย์กลางของเฮอริเคนไอค์จะไม่ได้เข้าใจกลางนครฮุสตันรวมทั้งพื้นที่ที่มีโรงกลั่นแก๊สและน้ำมันตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก คาดว่าราคาน้ำมันทั่วสหรัฐจะพุ่งสูงขึ้น โดยราคาน้ำมันแถบรัฐชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกอยู่ที่แกลลอนละ 4.85 ดอลลาร์ หรือประมาณ 164 บาท เพราะผลกระทบจากพายุไอค์ต่อพื้นที่แถบนั้น ซึ่งกลั่นน้ำมันหนึ่งในห้าของสหรัฐ แม้พายุไม่สร้างความเสียหายให้โรงกลั่นน้ำมัน แต่ก็อาจต้องปิดทำการนานหลายวัน เพราะไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้
ในส่วนของความวิตกเรื่องราคาน้ำมันที่พายุไอค์จะสร้างผลกระทบจากการเข้าพัดถล่มเมืองฮุสตันซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงกลั่นน้ำมันและก๊าซธรรมชาติหลายแห่งนั้น ล่าสุดความกังวลนี้ได้คลี่คลายลงแล้ว โดยบริษัทประเมินความเสี่ยงเอเกอแคทในสหรัฐคาดว่า เฮอริเคนไอค์จะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในสหรัฐมากนัก แม้จะมีรายงานข่าวเผยว่า เฮอริเคนส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกปรับตัวสูงขึ้น และโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งต้องปิดทำการอีกหลายวัน เนื่องจากไฟฟ้าดับก็ตาม ส่วนมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่าง 8,000-1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.72-6.12 แสนล้านบาท)
ส่วนในเอเชียหลายประเทศยังคงเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นซินลากอ ที่เพิ่งพัดถล่มไต้หวันด้วยความเร็วลม 173 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดฝนตกหนัก ลมแรง การสัญจรหยุดชะงัก สายการบินหลายแห่งต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีไฟฟ้าและโทรศัพท์ขัดข้อง ต้นไม้โค่นล้ม และทำให้มีผู้บาดเจ็บแล้ว 6 คน สูญหายอีก 2 คน
ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า เจ้าหน้าที่ในมณฑลฝูเจี้ยนและมณฑลเจ้อเจียง ยังคงเร่งอพยพประชาชนราว 1.7 แสนคน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่ำไปยังสถานที่ปลอดภัย โดยกรมอุตุนิยมวิทยาของจีนออกประกาศเตือนภัยสีเหลือง ซึ่งเป็นการเตือนภัยระดับ 2 พร้อมคาดการณ์ว่าแรงลมจากพายุซินลากอจะใกล้เคียงกับพายุเฮอริเคน และอาจทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนกลางของจีน


</TD></TR></TBODY></TABLE>
http://www.komchadluek.net/2008/09/15/x_main_a001_221015.php?news_id=221015

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ประมวลภาพหายนะจากเฮอริเคน

 

ขอบคุณนะคะ สำหรับข้อมูลต่าง ๆ ที่ทุกท่านนำมาแจ้งให้ทราบ

เปิดโลกอย่างมากเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

สัญญาณเตือนล่วงหน้าของพิบัติภัย แกนโลกพลิกเปลี่ยน(Pole Shift)ทุก ๑๐,๐๐๐ ปี
มีสัญญาณให้สังเกตเห็นล่วงหน้าประมาณ ๒-๓ สัปดาห์ <O</O
เบื้องต้นผู้คนทั่วไปสังเกตุเห็นความผิดปกติได้ทั้ง ๓ ระนาบ คือท้องฟ้า พื้นแผ่นดิน และทะเลมหาสมุทร
<O</O
ให้สังเกตเห็นสิ่งที่ผิดปกติที่มนุษย์ในรุ่นยุคปัจจุบันไม่เคยเห็นมาก่อน
เมื่อสนามแม่เหล็กโลกเริ่มเปลี่ยนแปลงผันผวน แรงโน้มถ่วง ลาวา การเคลื่อนตัวของเปลือกโลกก็ผันผวนผิดปกติ

<O</O
ท้องฟ้า<O</O
๑.ฟ้าจะคำรามติดต่อกันนานแทบทั้งวัน เพราะการปลดปล่อยประจุไฟฟ้าสถิตย์ในชั้นบรรยากาศที่สะสมมาเนื่องจากสนามแม่เหล็กโลกผันผวนหนัก<O</O
๒.กลางวันมืดหลายวัน เพราะมีแสงน้อย มีเมฆสีเทาเข้มปกคลุมบังดวงอาทิตย์เป็นเวลานานติดต่อกันหลายวัน<O</O
๓. เมื่อเข้าถึงเวลากลางคืน ๒ ทุ่ม ถึง ๓ ทุ่ม บางวันก็ยังไม่มืด ยังสว่างเหมือนเวลา๔-๕ โมงเย็นปกติ<O</O
๔.มองเห็นสิ่งแปลกปลอมบนท้องฟ้า จำพวกวัตถุบินได้ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

<O</O
<O</O
พื้นแผ่นดิน <O</O
๕.มีสัตว์บางชนิดที่อาศัยใต้ดินลึก ที่มนุษย์ไม่เคยเห็นมาก่อนขึ้นมาให้เห็น รูปร่างหน้าตาสัตว์เหล่านี้ไม่มีในพจนานุกรมสัตว์โลกที่เคยอ่านกัน เพราะไอกำมะถัน ไอร้อนจากก๊าซใต้เปลือกโลกดันตัวขึ้นมา บ้างก็สัตว์บางตัวก็มีชีวิตได้ไม่นาน บ้างก็ขึ้นมาตาย<O</O
๖.มีแผ่นดินไหวเป็นระลอกใหญ่ ต่อเนื่องกันทุกมุมโลก

<O</O
<O</O
ทะเลมหาสมุทร<O</O
๗.มีสัตว์บางชนิดที่อาศัยใต้ทะเลมหาสมุทรในระดับที่ลึกมาก ที่มนุษย์ไม่เคยเห็นมาก่อนขึ้นมาให้เห็น รูปร่างหน้าตาสัตว์เหล่านี้ไม่มีในพจนานุกรมสัตว์โลกที่เคยอ่านกัน เพราะไอกำมะถัน ไอร้อนจากก๊าซใต้เปลือกโลกดันตัวขึ้นมา บ้างก็สัตว์บางตัวก็มีชีวิตได้ไม่นาน บ้างก็ขึ้นมาตาย <O</O
๘.มีแผ่นดินไหวใต้ทะเลระดับที่รุนแรงจนมีซึนามิหลายประเทศในเวลาที่ใกล้เคียงกันหลายจุดในโลก
<O</O
แต่อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เหล่านี้ที่จะเกิดขึ้นอาจจะยังนานอีกหลายปีหรือระยะเวลาอันใกล้ที่จะถึง ทุกอย่างในโลกล้วนมีความผันแปรไม่มีอะไรเที่ยงแท้ ผู้มีปัญญาควรไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ควรศึกษาธรรมะ รักษาศีล ทำทาน มอบความรักเมตตาอารีย์เพื่อนมนุษย์ หมั่นละลดอัตตาตัวตน ดูแลรักษาธรรมชาติให้ดี เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นดังกล่าวมนุษย์ยุคเราอาจได้เห็น และอยู่ในช่วงเวลาที่จะข้ามผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ ด้วยกัน




<O</O
เหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอนาคตโดยลำดับ<O</O
<O</O
-สงครามสู้รบกลางเมืองปะทะกันทางอุดมการณ์ทางการเมืองไทย ๒๕๕๑<O</O
-สงครามระหว่างประเทศมหาอำนาจแถบเอเชีย ที่ปะทุจากประเทศเล็ก<O</O
และ/หรือ อุบัติเหตุความผิดพลาดจากการทดลองทางเทคโนโลยีชั้นสูงที่ควบคุมปฏิกิริยาการแตกตัวไม่ได้แถบยุโรป<O</O
-แกนโลกพลิกเปลี่ยน Pole Shift
<O</O
.............

<O</O
แกนโลกพลิกเปลี่ยนPole Shift <O</O
โลกมนุษย์คล้ายผลส้มกลมๆ ห่อหุ้มด้วยชั้นบรรยากาศ ที่มองไปแล้วขอบฟ้าห่างเท่ากันรอบทิศ
<O</O
<O</O
เมื่อจังหวะพลิกเปลี่ยนเป็นเวลากลางวันในเอเซีย
จะรู้สึกพื้นที่ยืนอยู่เอียงไปราวๆ 10-15 องศา ท้องฟ้าด้านนึงจะกว้าง อีกด้านตรงข้ามจะแคบ จะสังเกตเห็นได้ชัด

แล้วพลิกเอียงกลับไประดับเดิม

<O</O
ถัดจากนั้นไม่ถึง 5 นาที แผ่นดินไหวรุนแรงระดับความรุนแรงสูงสุดนี้ไม่เคยมีมาก่อนศูนย์กลางของแผ่นดินไหว ไม่ได้อยู่แถบเอเชีย

<O</O
........จังหวะการพลิกเอียงครั้งแรกทำให้สร้างแรงน้ำในมหาสมุทรไหลทะลักคืนสู่แผ่นผืนทวีปที่มีระดับความสูงมากกว่าตึก 10 ชั้นแถบพื้นที่ใกล้ทะเล แล้วลดหลั่นไปตามระยะทางหลายสิบกิโลเมตร แต่เนื่องจากแผ่นดินไหวตามมา จึงทำให้คนตกใจลงมาจากตึกสูงทำให้เจอกับคลื่นที่ไหลทะลักเข้ามา
........เขื่อนเก็บน้ำบางแห่งก็แตกมีน้ำทะลักท่วมเข้ามาเสริม

<O</O
........คนที่รอดจะต้องข้ามผ่านความมืดอีกหลายวัน พร้อมกับความหิว ความตื่นตระหนก ความหวาดระแวง ความกลัว ความเสียใจเสียขวัญ ตาเปล่าสามารถเห็นวิญญาณและสัตว์ร้ายโลกวิญญาณได้บางขณะ บางคนต้องเสียสติจากความสูญเสียความพลัดพรากจากคนที่รัก และความตื่นกลัว... คนที่ครองสติได้ดีคอยดูแลและปลอบประโลมทุกข์โศกให้แก่คนรอบข้างส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพวกที่มีอินทรีย์แก่กล้าผ่านการเพาะบ่มประสบการณ์ธรรมะมามากแล้ว

<O</O
........เกือบสัปดาห์ผ่านไป ชีวิตใหม่จึงเริ่มต้นพร้อมแสงสว่าง อากาศบรรยากาศใหม่พร้อมการเปลี่ยนแปลงเชิงชีวภาพของร่างกายคนและสัตว์ให้อายุยืนยาวกว่ายุคก่อนหน้า ลมหายใจใหม่ ความหวังใหม่ บางเกาะทวีปเล็กที่ผุดขึ้นมาจากแผ่นน้ำใกล้ๆกลางอ่าวไทย....

<O</O
........เนื้อหาดังกล่าวมาจากผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์ในอดีต ที่มีการเปลี่ยนผ่านในรอบอดีตมาครั้งสองครั้ง เป็นความรู้เพื่อบรรเทาความสูญเสียและให้พลังในการล่วงรู้เพื่อข้ามผ่านเหตุการณ์อนาคตอย่างมีสติ แต่ปัจจุบันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นมีเพียงในกายและจิตของผู้อ่านเท่านั้นจึงควรฝึกฝนสังเกตตัวนี้ไปก่อน<O</O


ภาพจารึกภัยพิบัติของชนชาวมายา และเรื่องราวต่างๆหาได้จากตำนานของบรรพชนคนโบราณบันทึกไว้ใน เรือโนอาร์(ไบเบิ้ล), ตำนานการหนีน้ำของกิลกาเมซ(เมโส-โปเตเมีย), พระมนู(อินเดีย), ตำนานบันทึกของทวีปมู-รีมูเลีย

อ้างอิง: http://www.triplusgroup.com/content/pole_shift.pdf

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แผ่นดินไหวอิเหนาร้ายแรงไม่เท่าที่คาด-ตึกสูงมาเลย์อพยพคนหนีแรงสะเทือน</TD><TD vAlign=baseline align=right width=85></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>13 กันยายน 2550 15:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เอเอฟพี – รองประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย เผยว่า ความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงถึง 8.4 ริกเตอร์ ซึ่งถล่มเกาะสุมาตราค่ำวานนี้ (12) ไม่ร้ายแรงอย่างที่เกรงกลัวกันในตอนแรก ขณะที่อาคารสูงในมาเลเซียหลายแห่งต้องอพยพคนออก เนื่องจากแรงสะเทือนของอาฟเตอร์ช็อกจากแดนอิเหนา

“เมื่อวานนี้ เราคาดว่าจะได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง แต่จากรายงานที่ได้รับเช้านี้ (13) เรารู้สึกขอบคุณที่ความเสียหายไม่ใหญ่โตอย่างที่คิดไว้” จูซัฟ คัลลา รองประธานาธิบดีแถลงข่าวสรุป รายงานโดยเว็บข่าวออนไลน์โอเคโซน

คัลลา เผยว่า ชาวอิเหนาเตรียมตัวรับมือหลังการเตือนภัยแผ่นดินไหว และสึนามิดีกว่าที่ผ่านมา แต่การฝึกซ้อม และการเตรียมพร้อมของกองกำลังช่วยเหลือยังเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้มั่นใจว่าผลกระทบจากหายนภัยใดๆ อยู่ในวงจำกัด

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า แรงสั่นสะเทือนไม่รุนแรงในตอนแรก ทำให้ผู้คนหนีออกมาจากอาคาร ซึ่งพังทลายลงมาภายหลังทันท่วงที ขณะที่ ทางการรายงานว่า มีบ้านเรือนอย่างน้อย 200 หลัง ที่ส่วนใหญ่อยู่บนเกาะสุมาตราพังเสียหาย

ยิ่งไปกว่านั้น แรงสั่นสะเทือนจากเหตุแผ่นดินไหวไม่ได้ส่งผลกระทบเฉพาะแค่ในอินโดนีเซียเท่านั้น แต่แรงสะเทือนที่วัดความรุนแรงได้ถึง 7.8 ริกเตอร์ในมาเลเซีย ยังทำให้อาคารสูงหลายแห่งต้องอพยพทั้งผู้อยู่อาศัย และคนทำงานออกจากตึกดังกล่าวด้วย ตามรายงานของสำนักข่าวเบอร์นามา

อย่างไรก็ดี แรงเขย่าของแผ่นดินไหวไม่ได้รู้สึกถึงตึกแฝดเปโตรนาส ตึกที่สูงที่สุดในมาเลเซีย และเคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกด้วย ซึ่งไม่มีรายงานความเสียหายของโครงสร้างตึกดังกล่าว โฆษกหน่วยป้องกันพลเรือนของมาเลเซีย ระบุ โดยเสริมว่า ผู้คนที่หนีออกมาจากอาคารกลับไปใช้ชีวิตตามปกติแล้ว หลังเกิดเหตุ 45 นาที

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>