เชียงรายแชมป์โรคเครียด-ฆ่าตัวตาย จิตแพทย์แนะออกกำลังกาย-งดนินทาเพื่อนบ้านช่วยได้

เชียงรายแชมป์โรคเครียด-ฆ่าตัวตาย จิตแพทย์แนะออกกำลังกาย-งดนินทาเพื่อนบ้านช่วยได้



เชียงราย - เมื่อเร็วๆ นี้ น.พ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เป็นประธานเปิดโครงการประชุมวิชาการป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตาย ครั้งที่ 8 ที่จ.เชียงราย โดยมีนายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผวจ.เชียงราย พร้อมด้วยนายเทพนฤมิตร เมธนาวิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมการประชุม ซึ่งเชียงรายเป็นจังหวัดที่มีสถิติการฆ่าตัวตายสำเร็จติดอันดับ 3 ของประเทศ และภาคเหนือยังคงครองแชมป์ฆ่าตัวตายมากที่สุดในประเทศเช่นกัน โดยสาเหตุหลักเกิดจากปัญหาโรคติดต่อ เครียด น้อยใจคนรอบข้าง ปัญหาครอบครัว ปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาการเมือง

นางสุพิน พิมพ์เสน พยาบาลวิชาชีพ หัวหน้าโครงการป้องกันช่วยเหลือผู้มีภาวะซึมเศร้าและผู้เสี่ยงกับการฆ่าตัวตาย โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ เปิดเผยว่า สาเหตุหลักของการฆ่าตัวตาย เกิดจากปัญหาความเครียดและนำไปสู่โรคซึมเศร้า เมื่อหาทางออกไม่ได้ ก็นำไปสู่การฆ่าตัวตาย ซึ่งผู้ที่มีอาการซึมเศร้านี้ ต้องพบจิตเวช บำบัดรักษาโดยใช้บุคคลรอบข้าง รวมถึงการใช้ยา ซึ่งบุคลากรทางด้านจิตเวชในประเทศไทยมีน้อยมาก เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั่วประเทศ ดังนั้น การป้องการไม่ให้คนในชุมชนเกิดความเครียดจนนำไปสู่โรคซึมเศร้านั้น สามารถช่วยเหลือกันเองในเบื้องต้นได้ โดยการตั้งกลุ่มทำกิจกรรม เช่น ออกกำลังกาย จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ งานประเพณีตามท้องถิ่น โดยให้คนในชุมชนมีส่วนร่วม แต่ควรหลีกเลี่ยงการนินทาว่าร้ายเพื่อนบ้าน ก็จะช่วยผ่อนคลายความเครียดได้มาก นอกจากนี้ การใช้สมุนไพรพื้นบ้านหลายประเภทก็ช่วยคลายความเครียดได้เช่นกัน เช่น ตะไคร้หอม การบูร ผิวมะกรูด โดยนำมาอบตัว นวดตัว หรือต้มเพื่อสูดดมกลิ่น เป็นต้น

ด้านน.พ.อภิชัย มงคล รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า สำหรับการฝึกจิตใจตนให้เข้มแข็ง โดยใช้วิธีที่เรียกว่า "หยุดคิด" หรือการนั่งสมาธิ จะช่วยให้สมองได้พักผ่อนและช่วยลดความเครียดด้วยตัวเองดีที่สุด หากประชาชนใช้เวลาวันละไม่เกิน 30 นาที นั่งสมาธิ สงบจิตใจ หรือแม้เพียง 10 นาทีก็จะทำให้สมองปลอดโปร่ง นำไปสู่สติปัญญาที่จะไปใช้ในการแก้ปัญหาได้ ซึ่งวิธีฝึกควบคุมจิตใจนั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ไขลดความเครียดในแต่ละคน โดยเฉพาะเยาวชน นักเรียน นักศึกษาและวัยรุ่น ควรให้ความสำคัญกับการฝึกสมาธิทุกวัน ก็จะช่วยลดปัญหาความรุนแรงได้อย่างมาก นอกจากนี้ สื่อมวลชนก็ควรเสนอข่าวที่สร้างสรรค์ ข่าวที่ให้ความหวังและให้ทางเลือกที่ดี มุมมองที่ดี กับประชาชน จะช่วยทำให้สังคมเกิดปัญหาความเครียดน้อยลง


http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNeE13PT0=&day=TWpBd09DMHdOeTB4TVE9PQ==

 

อืม แปลกจริง
ชีวิตทั้งชีวิต..ทิ้งไปได้อย่างไร

 

ขอบคุณครับยังไงล่ะก็คุณสังขารฯอย่าเครียดไปอีกคนล่ะจ๊ะอิอิอิ