ห้องแมวยิ้ม สัพเพ เหระ อะไรก็เอามาลงกระทู้นี้ได้ครับ

ขอบคุณคุณจิตยิ้มครับ

มันเป็นอยางนี้นี่เอง

ทีนี้ผมก็ขอสงสัยอีกสักเรืองครับ

เชื้อไฟกิเลสที่ว่า หมดได้ด้วยอะไร
แรงสมาธิ
หรือว่า พอเข้าใจอะไรได้บางอย่างจึงละเชื้อไฟนั้นได้ แล้วก็หมดเชื้อไป
หรือใช้แคาอำนาจจิตล้วน ๆ
หรือว่า เข้าใจอะไรบางอย่างได้แล้ว จึงใช้แรงใจ(อำนาจจิต)ช่วยในการดับไฟนั้น
หรือเป็นได้ทุกกรณีครรับ

 

ถ้าจะตอบแบบหมดกิเลสแบบพระอรหันต์ คือแบบหมดไฟสิ้นเชื้อ จิตยิ้มตอบไม่ได้หรอกค่ะ

ตอนแรกก็จะนำประสบการณ์ของตนเองที่พบเจอกับกิเลสมาเล่าให้ฟัง แต่ก็เปลี่ยนใจไม่เอาดีกว่า เพราะสิ่งที่เห็นมันก็ยังมีเชื้ออยู่ ติด ๆ ดับ ๆ ตราบใดที่ปัญญามันใหญ่กว่ากิเลส ก็รู้เท่าทันไม่ส่งผลต่อการกระทบ หากเมื่อใดที่มันขาดตัวรู้ โดยเฉพาะทิฐิที่เห็นต่อสิ่งที่กระทบ..ถ้าทิฐิผิด อะไรก็เอาไม่อยู่ค่ะ

ตัวรู้จะเห็นทั้งสิ่งที่ถูกต้อง และไม่ถูกต้อง เห็นทั้งสองฝ่ายขึ้นอยู่กับ...ทิฐิ..เป็นตัวนำทาง

ขณะที่มันหลงผิด มันก็ทำทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผิด แสดงว่าหลงไป มีตัวรู้ว่าหลง แต่ขาดการรู้ตัวด้วยสัมปชัญญะ เมื่อกลับมารู้ตัว หรือ พิจารณาจึงเห็นความเป็นไปของความหลง และทิฐิที่เห็นเป็นอย่างไร

ลองพิจารณาสิ่งนี้นี้ดูค่ะ

จิต คือ แก่นแท้ บริสุทธิ์
วิญญาณ เป็นดวงตาที่สาม ของจิต
ภวังค์จิต/ จิตใต้สำนึก /เป็นตัวเคลื่อน / ตัวกรรม ตัวการกระทำ ที่เราเคยอาจรู้จักกันในนามจิตใต้สำนึก คือ พลังงาน/แรงดึงดูดของกรรม หรือ ตัวกระทำ

พระอรหันต์ มีสภาวะรู้อยู่ เห็นอยู่ โดยปกติ

เมื่อจิต หรือ ญาณปัญญา เป็นหนึ่งเดียวกับวิญญาณ จะรู้อยู่เห็นอยู่ของ กิเลสในภวังค์จิต หรือ ตัวกระทำ หรือ จิตสำนึก

ตัวกรรม/ตัวกระทำ/ภวังคจืต/อนุสัย มีกำลังไหลไปตามอำนาจกรรม หรือ แรงกระทบ เกิดผลวิบาก หรือ ผลลัพธ์ หรือ ตัวกระทำขึ้น หากขาดสภาวะรู้อยู่ เห็นอยู่ จะไหลไปตามอำนาจแรงกรรมเดิม หรือ การเข้าไปหาตัวกระทำ หลงเป็นไปโดยไม่รู้ว่ามันไม่ใช่ตัวเราของเรา เป็นผลวิบากที่ต้องเกิดเมื่อกระทบ เมื่อหยุดไม่ได้ หรือเมื่อเข้าไปหาแล้ว ย่อมเป็นสิ่งเดียวกันอย่างแยกไม่ได้ คือ ตัวเราของเรา

เมื่อมรรคเกิดสมังคีกัน วิญญาณเป็นหนึ่งดียวกันกับจิต ตัวกรรมก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป

เมื่อคำถามที่ว่า เชื้อกิเลสหมดด้วยอ่ะไร จึงจุดไม่ติดอีก คือ /แรงสมาธิ/เข้าใจ/อำนาจจิตล้วน ๆ/เข้าใจอะไรบางอย่างจึงใช้แรงอำนาจจิตดับไฟ

ถ้าคำสอนของพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับการหมดกิเลสของพระอรหันต์ มีคำว่า อาสวะขยญาณ/ญาณทัศนะ/จิตหลุดพ้น

คำเหล่านี้น่าจะขึ้นอยู่กับ อำนาจของจิต ที่เป็นหนึ่งเดียวกัน(จิต+วิญญาณ) จึงเกิดมรรคสมังคี หรือ องค์มรรค คือญาณทัศนะ และด้วยแรงของสมาธิจึงเกิดอาสวะขยญาณ จิตก็หลุดพ้น วิญญาณดับ ไฟก็ไม่ติดขึ้นมาอีกค่ะ

 

การเข้าถึงสภาวะนิพพาน เป็น อารมณ์การเข้าของ หน่อเนื้อพุทธะภูมิเก่า จะเข้าได้แค่ ชั้น อนาคามีผล แค่นั้น ซึ่งเป็น ภูมิชั้นที่ยังไม่หมดกิเลสโดยสิ้นเชิง จะไม่เหมือนกับ พระอรหันต์ ที่เข้า แดนนิพพาน ได้จริงๆ ซึ่งเป็น ภูมิของชั้นอรหันต์ ที่หมดความยึดมั่นถือมั่นแล้ว

จะเรียกว่าเป็น ปาฏิหาริย์ของ พระพุทธเจ้า ทุกพระองค์ ที่จะทิ้ง พลังงาน เหล่านี้เอาไว้เพื่อ ช่วยเหล่าหน่อเนื้อพุทธางกูร ให้สามารถ เข้าสู่แดนพระนิพพานได้ ด้วยตนเอง หลังจากนั้น จึงจะนำ ความรู้ที่ได้สัมผัสเอง ไปสอนผู้อื่น ให้ตรงทางที่สุด

ซึ่งจะเรียกว่า เป็น พลังงานที่เหลืออยู่ ใน ชนิดของพลังจักรวาล ก็ได้เหมือนกัน

 

หวัดดีทุกท่าน หายไปนาน เข้ามาทักทายครับ ช่วงนี้ไปเล่นเฟสบุ๊ค

 

สวัสดีครับท่าน

กระทู้ก็เงียบนานเหมือนกันครับ
คงเป็นเพราะต่างคนต่างได้ตกผลึกอะไรสักอย่างแหละครับ หรือไม่ก็อาจจะแยกย้ายกัน รอเวลา เวลาหนึ่ง อาจจะมีโอกาสแวะเวียนมาพบกันใหม่

 

ถ้ามนุษย์ต่างดาวมีจริง ขอยูเอฟโอสำหรับทำน้ำฝนกับปลูกต้นไม้ให้ผมสักลำ 5555 จะตระเวนปลูกต้นไม้ทั่วโลก

 

ช่วงนี้รอดูผลของคำทำนายหลวงพี่ปลายท่านอยู่ครับ
แม่นมั่งไม่แม่นมั่งทั้งการเมืองและภัยภิบัติ

แต่ก็นับว่าเปอร์เซ็นถูกค่อนข้างสูงทีเดียว ประมาณห้าสิบเปอร์เซ็นหรือมากกว่า

อีกท่านก็อ.โอเล่

หาดูคำทำนายได้ในยูทูป

ถ้าท่านซาตานกับท่านเทวดา วสิแวะเวียนมา

ผมต้องขออภัยที่ช่วงนี้ผมไม่ได้ปฏิบัตินะครับ
เพราะผมไม่อยากเอาสภาวะจิตใจบ้าๆบอๆของผมไปปฏิบัติธรรม

 

อุ้ยตาย ยังอยู่จ้ะ !!!

 

อะไรใหม่ๆ จริงๆ มันก็เรื่องเดิมๆ ทั้งนั้นล่ะ

 

บางเรื่องรู้ไป ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา

บางเรื่องรู้ไว้ก็เงียบเงียบดีกว่า

บางเรื่องถึงรู้แล้วก็แก้ไขอะไรไม่ได้

บางเรื่องรู้ว่าเป็นฝีมือของใครใครชั่วใครเลว

แต่เราก็ไม่สามารถทำแต่เราก็ไม่สามารถทำให้มันยุติธรรมได้เลย

 

จริงครับ

สวัสดีคุณเพลงครับ ขอบคุณที่ แวะเวียนเข้ามานะครับ สบายดีนะครับ

ส่วนผม ช่วงนี้เริ่มเข้าใจอะไรได้เยอะขึ้นและปล่อยวางอะไร ๆ ได้เยอะขึ้น สภาพจิตใจก็ น่าจะดีขึ้นเล็กน้อยล่ะมั้งครับ

ช่วงนี้นอกจากจะเพิ่งเรียนระดับ ปวส จบแล้ว ก็ยังตระเวนอบรมหาความรู้โน่นนี่นั่นมาครับ ล่าสุด ก็ไป อบรม เกษตรกรรมธรรมชาติที่มาบเอื้องมา

ในนั้นน่าจะเจอคนมีของด้านธรรมอยู่อย่างน้อย 2 ท่าน

เป็นวิทยากรณ์ท่านหนึ่ง ชอบมองผมยิ้ม ๆ
อีกคนหนึ่งเป็นผู้เข้าอบรม เป็นคุณยาย ท่านบอกว่า ตัวตนข้างในผมดูน่ารักดี ??? ผมก็ได้รับความเมตตา ได้รับคำชี้แนะมาบ้าง และน่าจะมีการได้ทำอะไรให้ผมโดยที่ผมไม่รู้อีกนึดหน่อย

ผมคงต้องทำสิ่งดี ๆ มากกว่านี้เพื่อตอบแทนความเมตตาของพวกท่านซะแล้วล่ะครับ รวมถึง เพื่อน ๆ สมาชิกในกระทู้ด้วย

สู้เว้ยเฮ้ย!

วิกฤตโลกเดือดน่าจะมาในไม่ช้าไม่นานนี้ มาน่ะมาแล้วแต่มาหนัก ๆ นี่ไม่รู้เมื่อไร 0 ปี 20 ปีก็ว่าไป
แต่ผมก็หมดความตื่นเต้นไปแล้วแหละ
มาก็มา เราคงต้องเตรียมรับมือไว้ก่อนล่ะมั้ง อยากพูดว่าต้องเตรียม แต่ คงจะ เตรียมได้แต่วิธีคิด เพราะจิตยังไม่ไปไหน ส่วนอาหาร ยังไม่มีงบจะเตรียม



20/02/2567 : แก้ไขเอา จะได้ไม่เป็นการดันกระทู้ อยากเป็นพระจักรพรรดิ์อีกแล้วสิ
ช่วงนี้เจอมรสุมรุมเร้า เอาจริง ๆ อยากรู้กรรมในชาติอดีตของตัวเองจัง จะได้ทำใจยอมรับสิ่งที่เจอได้บ้าง จะว่าไปโลกนี้มันก็น่าเบื่อจริง ๆ ล่ะเนาะ คลื่นสุขทุกมากระทบ เราก็เป็นไปตามคลื่น
กระทบ รู้ แล้ว วาง นี่มันก็ยากจังแฮะ แค่รู้เฉย ๆ ก็ยังทำได้ยากเลย