สิ่งทั้งหลายเกิดแต่เหตุ พระพุทธองค์ทรงตรัสเหตุและความดับแห่งธรรมนั้น

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 20 เมษายน 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,389
    ค่าพลัง:
    +26,204
    15DA9C09-3569-4276-9137-1F2C7B3669FB.jpeg

    ดับตั้งแต่เหตุ

    ถาม :
    ในจิตเรามุ่งว่า ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายที่เราจะไปพระนิพพาน..ใช่ไหมครับ ? แล้วอะไรที่จะเข้ามาก็ให้จิตเรารู้ทัน ?
    ตอบ : ไม่ใช่..คือว่าอะไรเกิดขึ้นก็ตาม ต้องพยายามใช้ปัญญาดูให้รู้ถึงเหตุนั้น ๆ

    เช่น เงินนี่ถ้าเราสักแต่เห็นว่าเป็นเพียงธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม เป็นกระดาษแผ่นหนึ่ง สิ่งนี้ก็คือเงิน จะทำอันตรายเราไม่ได้ แต่เราไปคิดต่อว่า เงินนี้เอาไปซื้อของเสียหน่อยก็ดี ซื้อข้าวกิน เออ...ดี เดี๋ยวจะไปกินร้านนั้น เพราะอาหารอร่อย..มีคนชวนชิม นั่น..กิเลสเริ่มเกิดแล้ว เราเคยชวนสาวไปกินร้านโน้นนี่ เอ้า..ยิ่งหนักเข้าไปอีก

    ตัวราคะ โลภะ โทสะ โมหะ จะระดมมาเลย..ใช่ไหม ? ไปซื้อยาบ้าเสียหน่อยก็ดี ยิ่งหนักเข้าไปอีก เงินตัวเดียวถ้าคุณหยุดได้ แค่นี้ก็จบ ไม่อาจจะทำอันตรายอะไรได้

    เราต้องตัดตั้งแต่ต้นเหตุ แต่ถ้าหากว่าเราสืบสาวราวเรื่องด้วยการปรุงแต่งด้วยจิตสังขาร เรื่องก็จะกว้างออกไปเรื่อย จนกระทั่งกลายเป็นไฟไหม้ป่า ไม่สามารถที่จะดับได้ แต่ถ้าเรารู้ต้นเหตุว่า สะเก็ดไฟนิดเดียวนี้ ถ้าเราปล่อยก็จะลาม เราก็รีบดับเสีย ก็หมดปัญหาไป

    เพราะฉะนั้น..พระพุทธเจ้าท่านถึงได้ตรัสว่า "สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเกิดแต่เหตุ ตถาคตตรัสถึงเหตุและความดับแห่งธรรมนั้น" พระอัสสชิท่านว่า "เย ธัมมา เหตุปัพพวา เตสัง เหตุง ตถาคโต เตสัญจะ โย นิโรโธ จะ เอวัง วาที มหาสมโณ" ต้องดับตั้งแต่เหตุ ทุกอย่างอยู่ที่เหตุทั้งนั้น

    ถาม : เรารู้ว่าเป็นเงิน แต่เราพิจารณารู้อยู่ว่าเป็นโทษมาก แต่เราก็ต้องใช้ ?
    ตอบ : ไม่ใช่คิดอย่างนั้น ปัญญาจะเกิดรู้ตลอดเลยว่า ถ้าเราคิดจะเป็นอย่างไร จะทำให้ รัก โลภ โกรธ หลง เราก็หยุดคิด

    ถ้าเราหยุดความคิดได้ทัน กิเลสจะโดนจำกัดเขต ไม่สามารถที่จะงอกงามได้ ก็เลยกลายเป็นว่ารู้สักแต่ว่ารู้ เห็นสักแต่ว่าเห็น ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน

    แต่ถ้าหากว่าเราไปเผลอคิดเมื่อไรก็จะพาเละเลย ต้องหยุดคิดให้ได้

    ถาม : แต่ถ้าเราจะใช้ประโยชน์ เช่น เราไปซื้อข้าวกินแค่นั้นเอง ?
    ตอบ : ก็แค่ประโยชน์เฉพาะหน้าแค่นี้เอง จบแล้วจบกันไม่ต้องไปคิดอะไรต่อ จะเห็นเหตุเลยว่าถ้าเราคิดแล้วจะเป็นทุกข์อย่างไร ก็หยุดเอาไว้แค่นั้นเลย

    เหมือนกับแจกันดอกไม้ เราเอาไปไหว้พระ เอาไปบูชาครูบาอาจารย์ ก็ดี..ใช่ไหม ? กุหลาบแดงในแจกันเราเคยเอาไปให้สาว..ไปโน่นแล้ว..ใช่ไหม ? พอมองไปอีกที เราจะซื้อกุหลาบ แต่ดอกที่สวยกว่าโดนเขาซื้อตัดหน้าไป กลายเป็นโทสะไปอีกแล้ว

    ยิ่งคิดก็ยิ่งกว้างออกไปเรื่อย แต่ถ้าเรารู้ทัน หยุดความคิดได้ กิเลสก็หยุดหมด ดับหมด
    ...................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...