วิญญูชนจอมปลอม /กระบี่เย้ยยุทธจักร ( นิยายสะท้อนชีวิตจริง ชีวิตจริงสะท้อนสัจธรรม )

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 29 กรกฎาคม 2021.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,433
    กระบี่เย้ยยุทธจักร
    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี



    ไปยังการนำทางไปยังการค้นหา

    บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง คุณสามารถพัฒนาบทความนี้ได้โดยเพิ่มแหล่งอ้างอิงตามสมควร เนื้อหาที่ขาดแหล่งอ้างอิงอาจถูกลบออก
    กระบี่เย้ยยุทธจักร
    (เดชคัมภีร์เทวดา)
    (ผู้กล้าหาญคะนอง)

    %B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%8D%E0%B8%84%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%87.jpg
    ภาพหน้าปก "ผู้กล้าหาญคะนอง" โดย ท่านมือปีศาจ
    ผู้ประพันธ์ กิมย้ง
    ชื่อเรื่องต้นฉบับ 笑傲江湖
    (xiào ào jiāng hú)

    ผู้แปล น.นพรัตน์
    ฉบับอื่นๆ ไม่ทราบแน่ชัด
    ประเทศ จีน
    ภาษา จีน
    ประเภท นิยายกำลังภายใน
    สำนักพิมพ์ สร้างสรรค์, SIC
    ชนิดสื่อ นิยาย
    หน้า 4 เล่ม
    กระบี่เย้ยยุทธจักร (จีน: 笑傲江湖; พินอิน: xiào ào jiāng hú) เฉี่ยเหงากังโอ๊ว หรือ เซี่ยวเอ้าเจียงหู ผลงานของกิมย้ง (金庸) เรื่องนี้ น.นพรัตน์ แปลครั้งแรกชื่อเรื่อง ผู้กล้าหาญคะนอง ในปี ค.ศ. 1960 มีทั้งหมด 8 เล่ม แต่พอต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็น เดชคัมภีร์เทวดา ต่อมาจึงเปลี่ยนตามภาพยนตร์โทรทัศน์ว่า กระบี่เย้ยยุทธจักร และเรียบเรียงใหม่ลดลงเหลือ 4 เล่ม

    เฉี่ย แปลว่า ยิ้ม หัวเราะ, เหงา แปลว่า ผยอง หยิ่ง, กังโอ๊ว แปลว่า ยุทธจักร รวมแล้วพอจะแปลเอาความได้ว่า 'ยิ้มผยอง (ใน) ยุทธจักร' หรือ 'ยิ้มผยอง หยันยุทธจักร' ในความหมายของไทย "กระบี่เย้ยยุทธจักร" หมายความว่า "มือกระบี่มือหนึ่งแห่งแผ่นดินเยาะเย้ยความเป็นไปของยุทธจักร และ กฎเกณฑ์อันหลอกลวงของยุทธจักร" อันเป็นผลงานชิ้นใหญ่ชิ้นหนึ่งของกิมย้ง และ เรื่องนี้ "กิมย้ง" ยังไม่คล้ายคลึงประวัติศาสตร์ของจีนอย่างตายตัว นิยายเรื่องนี้กิมย้งได้เขียนในเชิงเสียดสีกับการเมืองในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม (Cultural Revolution, ปี ค.ศ. 1966-1976) ของจีน ซึ่งเป็นการต่อสู้ภายในเพื่อแย่งชิงอำนาจของพรรคคอมมิวนิสต์ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากโครงเรื่องของ The Count of Monte Cristo ของ Alexandre Dumas เช่นเดียวกับกระบี่ใจพิสุทธิ์ ซึ่งเขียนก่อนหน้านี้ (แต่ไม่ได้เสียดสีการเมือง)

    เนื้อหา
    การวางโครงเรื่อง[แก้]
    "ธรรมะ อธรรม และวิญญูชนจอมปลอม" หมายความว่า ความแบ่งชนชั้นทางสังคมของธรรมะ และ อธรรม คนไหนนิสัยไม่ดี หรือ คบหาคนไม่ดีก็แบ่งเป็นฝ่ายอธรรม ทั้งที่ฝ่ายธรรมะใช่ว่าจะมีแต่คนดี และ คนของฝ่ายอธรรมใช่ว่าต้องเลวร้ายเสมอไป คนฝ่ายธรรมะที่เลวร้ายก็มี คนที่ดีในฝ่ายอธรรมมันก็มี

    "วิญญูชน" หรือ "วีรบุรุษ" ตามความหมายของพจนานุกรมไทยฉบับบัณฑิตราชสถาน หมายความว่า คนที่ได้รับยกย่องจากผู้คนในทางที่ดี

    ส่วนวิญญูชนจอมปลอม คือ คนที่ไม่ใช่วีรบุรุษอันแท้จริง มักมีจุดประสงค์ร้ายเคลือบแฝงอย่างแน่นอน อย่างงักปุ๊กคุ้งอาจารย์ของตัวเอกของเรื่อง คนอื่นมองภายนอกว่าเป็นคนดี เที่ยงธรรม ยุติธรรม แต่แท้จริงแล้วโกหกปลิ้นปล้อนหลอกลวงเพื่อให้ตัวเองเป็นใหญ่ในยุทธจักร คาดว่าหลายประเทศก็มีเหมือนกัน

    แต่นักการเมืองคนหนึ่งของเวียดนาม ได้นำเอาคำว่า งักปุกคุ้ง อันเป็นวิญญูชนจอมปลอมไปกล่าวหานักการเมืองอีกคนหนึ่งเหมือนกัน[ต้องการอ้างอิง]

    กระบี่เย้ยยุทธจักร เป็นเรื่องราวการแย่งชิงความเป็นหนึ่งในยุทธจักร ระหว่าง ธรรมะ และ อธรรม ท่ามกลางความขัดแย้งและการแย่งชิงอันรุนแรง เหล้งฮู้ชง จอมยุทธฝ่ายธรรมะ ศิษย์เอกของสำนักหัวซาน เป็นคนเปิดเผย ไม่ยึดติดกฎเกณฑ์ คบหาคนด้วยใจ ไม่สนว่าจะเป็นคนฝ่ายธรรมะหรือฝ่ายอธรรม จนถูกขับออกจากสำนัก แต่ยังไม่พ้นเข้าไปพัวพันเหตุความขัดแย้งต่างๆ ทั้งการชิงความเป็นใหญ่ภายในของฝ่ายธรรมะ และการชิงความเป็นใหญ่ภายในของฝ่ายอธรรม จนสับสนวุ่นวายว่าใครกันแน่ที่เป็นมาร ใครกันที่เป็นฝ่ายอธรรม และใครที่เป็นฝ่ายธรรมะ เพียงต้องการที่จะเป็นที่หนึ่ง ไม่เลือกวิธีการ งักปุ๊กคุ้ง เจ้าสำนักหัวซาน ผู้ได้ฉายาว่ากระบี่ผู้ดี ถึงกับทรยศครอบครัว และศิษย์ของตัวเอง จ้อแหน้เซี้ยง เจ้าสำนักซงซาน กำจัดทุกคนที่ไม่คล้อยตามตนเอง ก็เพียงต้องการได้ชื่อว่า เป็นอันดับหนึ่งในยุทธภพ

    นวนิยายเรื่องนี้ เป็นนวนิยายที่ล้วนแฝงไว้ด้วย แนวคิดปรัชญาการดำรงชีวิต อีกทั้งยังมีการเสียดสีสังคมอยู่ตลอด แต่ก็หาได้ขาดอรรถรสของนวนิยายกำลังภายในไปแต่อย่างใด ในขณะที่เรื่องดำเนินไป จะเกิดคำถามขึ้นตลอดเวลา ถึงเรื่องของความถูกผิดในพฤติกรรมของตัวละครแต่ละตัว ตัวละครฝ่ายธรรมะ หรือตัวละครฝ่ายอธรรม ต่างมีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง โดยมีตัวละคร เหล้งฮู้ชง เป็นตัวดำเนินเรื่อง และเป็นตัวเปรียบเทียบ ว่าความสุขของชีวิตที่แท้จริงนั้น อยู่ที่ไหนกันแน่

    ตัวละครในเรื่อง[แก้]
    1. เหล้งฮู้ชง (令狐沖 - หลิงหูชง) ศิษย์เอกแห่งสำนักหัวซาน (華山派) เป็นคนไม่ยึดติดกฎเกณฑ์ มีนิสัยเปิดเผย ชอบช่วยเหลือคน วันหนึ่งได้มีวาสนาพบเจอกับ ฮวงเช็งเอี๊ยง (風清揚) ปรมาจารย์สายกระบี่สำนักหัวซาน สำเร็จวิชา เก้ากระบี่เดียวดาย (獨孤九劍) และได้พบรักกับ ยิ่มเอี่ยงเอี้ยง ธิดาเทพแห่งพรรคตะวันจันทรา และยังเป็นผู้สืบทอดมหาเวทย์ดูดดาวของ ยิ่มอั้วเกี่ย โดยบังเอิญ หลังจากสิ้นสุดความวุ่นวาย ได้ปลีกตัวไปอยู่สันโดษกับ ยิ่มเอี่ยงเอี้ยง
    2. ยิ่มเอี่ยงเอี้ยง (任盈盈 - เยิ่นอิ๋งอิ๋ง) ธิดาเทพแห่งพรรคตะวันจันทรา (日月神教聖姑) ลูกสาวเพียงคนเดียวของอดีตประมุขพรรคตะวันจันทรา ยิ่มอั้วเกี่ย ภายหลังได้พบรักกับ เหล้งฮู้ชง
    3. ยิ่มอั้วเกี่ย (任我行 - เยิ่นหว่อสิง) อดีตประมุขพรรคตะวันจันทราถูก ตงฟางปุ๊ป้าย ได้ชิงตำแหน่งประมุขไป และถูกจับขังอยู่ในคุกใต้ทะเลสาบ 12 ปี ภายหลังออกมาได้โดยการช่วยเหลือของ เหล้งฮู้ชง กับเฮี้ยงหมึ่งที หลังจากออกมาได้แล้ว ก็ชิงตำแหน่งประมุขคืนจาก ตงฟางปุ๊ป้าย
    4. เฮี้ยงหมึ่งที (向問天 - เซี่ยงเหวินเทียน) ทูตขวาแห่งพรรคตะวันจันทรา คนสนิทของ ยิ่มอั้วเกี่ย เป็นผู้วางแผนการให้ เหล้งฮู้ชง ช่วย ยิ่มอั้วเกี่ย ออกจากคุกใต้ทะเลสาบ
    5. งักปุ๊กคุ้ง (岳不群 - เยวี่ยปุ๊ฉวิน) ฉายา กระบี่วิญญูชน (君子劍) เจ้าสำนักหัวซานสายลมปราณ (華山派氣宗) และเป็นอาจารย์ผู้ชุบเลี้ยง เหล้งฮู้ชง มาตั้งแต่เด็ก ภายหลังเพียงเพื่อชิง เพลงกระบี่พิชิตมาร (辟邪劍法) จึงได้ใส่ร้าย เหล้งฮู้ชง และขับ เหล้งฮู้ชง ออกจากสำนัก ภายหลังสำเร็จ เพลงกระบี่พิชิตมาร และได้ขึ้นเป็นประมุขพรรค 5 ขุนเขากระบี่
    6. ตังฮึงปุกป่าย (東方不敗 - ตงฟางปุ๊ป้าย) หรือ บูรพาไร้พ่าย (บูรพาไม่แพ้) ผู้สำเร็จ วิชาทานตะวัน แต่เพียงผู้เดียว ประมุขพรรคตะวันจันทรา ฝีมือไร้เทียมทาน แม้ ยิ่มอั้วเกี่ย เหล้งฮู้ชง เฮี้ยงหมึ่งที และยิ่มเอี่ยงเอี้ยง 4 คน จะร่วมมือกัน ก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้ หากแต่ ตงฟางปุ๊ป้าย มัวห่วงคนรัก หยางเหลียนถิง (楊蓮亭) จึงได้พลาดพลั้งถูกกระบี่ของ เหล้งฮู้ชง และตายอยู่เคียงข้าง หยางเหลียนถิง ตงฟางปุ๊ป้าย หลังจากได้ตำแหน่งประมุขพรรคตะวันจันทรา ก็ได้ใช้ชีวิตสันโดษอยู่บนผาไม้ดำ เย็บปักถักร้อย เล่นดนตรี โดยให้คนรัก หยางเหลียนถิง เป็นคนคอยดูแลพรรค
    7. ฮวงเช็งเอี๊ยง (風清揚 - ฟงชิงหยาง) ปรมาจารย์สายกระบี่แห่งสำนักหัวซาน (華山派劍宗) สืบทอดวิชา กระบี่เก้าเดียวดาย (獨孤九劍) จากปรมาจารย์ต๊กโกวคิ้วป้าย (独孤求败 - ตู๋กูฉิ่วป้าย) เจ้าของฉายาอสูรกระบี่ (剑魔) หลังจากศึกนองเลือดระหว่างสายลมปราณและสายกระบี่ ก็ได้เร้นกายอยู่บนผาสำนึกตน จนได้พบกับ เหล้งฮู้ชง จึงได้ถ่ายทอด เก้ากระบี่เดียวดาย ให้
    8. ลิ้มเพ้งจือ (林平之 - หลินผิงจือ) ผู้สืบทอดสำนักคุ้มภัย ฟุ้เวย (福威鏢局) เจ้าของที่แท้จริงของ เพลงกระบี่ปราบมาร แต่ก็เพราะเพลงกระบี่ชุดนี้ ทำให้ต้องบ้านแตก ถูก อื้อชางไห่ (余滄海) ฆ่าล้างสำนักเพื่อหวังจะชิง เพลงกระบี่ปราบมาร แต่ได้รับความช่วยเหลือจาก เหล้งฮู้ชง จึงได้รอดชีวิต ต่อมา งักปุ๊กคุ้ง รับเป็นศิษย์สำนักหัวซาน ได้แต่งงานกับงักเล้งซัง งักปุ๊กคุ้ง ใช้เล่ห์กลชิง เพลงกระบี่ปราบมารไปและคิดฆ่าตนปิดปาก นับว่ายังโชคดีรอดชีวิตมาได้ และยังพบ เพลงกระบี่พิชิตมาร จากใต้ผาสำนึกตน หลังจากสำเร็จวิชา จึงได้เริ่มการแก้แค้น ผู้ที่ทำร้ายตนและครอบครัว
    9. งี้นิ้ม หรือ อี้หลิน (儀琳) แม่ชีน้อย ศิษย์สำนักหานซาน (恆山派) วันหนึ่งถูก เถียนป๋อกวง จับตัวไว้หมายจะทำมิดีมิร้าย เหล้งฮู้ชง ได้เข้าช่วยเหลือ จึงได้แอบหลงรัก เหล้งฮู้ชง แต่เพราะตนเป็นผู้ออกบวช จึงได้แต่เก็บเอาไว้ในใจ ภายหลังได้รับสืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักหานซานต่อจาก เหล้งฮู้ชง
    10. เถียนป๋อกวง (田伯光) โจรปล้นสวาท ฉายา ฉายเดี่ยวหมื่นลี้ (萬里獨行) เพราะ อี้ลิ้ม จึงได้รู้จักกับ เหล้งฮู้ชง หลังจากแพ้ให้ เหล้งฮู้ชง จึงต้องรับ อี้ลิ้ม เป็นอาจารย์ และได้คบหาเป็นเพื่อนกับ เหล้งฮู้ชง
    11. จ้อแหน้เซี้ยง (左冷禪 - จั๋วเหลิ่งซาน) เจ้าสำนักซงซาน (嵩山派掌門) ผู้นำ 5 ขุนเขากระบี่ (五嶽劍派盟主) เป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง คิดเป็นเจ้ายุทธจักร โดยเริ่มต้นจากการรวม 5 ขุนเขากระบี่เป็นหนึ่งเดียว สุดท้ายต้องฝันสลาย ถูกงักปุ๊กคุ้งฆ่าตาย ในการประลองคัดเลือกประมุขพรรค 5 ขุนเขากระบี่
    12. งักเล้งซัง (岳靈珊 - เยวี่ยหลิงซาน) ลูกสาวเพียงคนเดียวของ งักปุ๊กคุ้ง สนิทสนมและฝึกวิชากับ เหล้งฮู้ชง มาตั้งแต่เด็ก ทั้งคู่ต่างชอบพอกัน จนกระทั่ง ลิ้มเพ้งจือ เข้าสำนัก ด้วยความใกล้ชิดจึงได้เปลี่ยนใจไปรัก ลิ้มเพ้งจือ และแต่งงานเป็นสะใภ้ตระกูลลิ้ม แต่สุดท้ายก็ต้องตายด้วยมือของสามีนางเอง
    13. ม่อต้า ผู้อาวุโสแห่งสำนักเหิงซาน มีฉายาว่า พิรุณราตรี เป็นศิษย์พี่ของเจ้าสำนักเหิงซาน หลิวเจิ้นฟง เพลงกระบี่ว่องไว เมื่อชักออกจากฝัก จะถูกเก็บอย่างรวดเร็ว ศัตรูไม่ทันได้ชักกระบี่ ก็ต้องลงไปนอนจมกองเลือดซะแล้ว ภายหลังรับตำแหน่งเจ้าสำนักเหิงซานต่อจาก หลิวเจิ้นฟง
    14. ไต้ซือฟางเจิ้น (方證大師) เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินคนปัจจุบัน เป็นหลวงจีนที่ทุกคนให้ความยำเกรง มีกำลังภายในสูง เป็นผู้ที่ช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บของ เหล้งฮู้ชง จากลมปราณ 8 สายที่อยู่ในตัว ภายหลังยังมอบคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น สลายผลร้ายที่เกิดจาก มหาเวทย์ดูดดาว อีกด้วย
    15. นักพรตชงซี เจ้าสำนักบู๊ตึ๊งคนปัจจุบัน เป็นอีกผู้หนึ่งที่ทุกคนล้วนให้ความยำเกรง เป็นสหายของไต้ซือฟางเจิ้น และเป็นอีกคนที่คอยให้ความช่วยเหลือแก่ เหล้งฮู้ชง
    16. งักฮูหยิน (寧中則) เป็นอาจารย์หญิงของ เหล้งฮู้ชง (เล่งฮู้ชง) และเป็นผู้ที่ เหล้งฮู้ชง ให้ความเคารพดั่งแม่แท้ ๆ เป็นจอมยุทธหญิงที่มีชื่อเสียง ภายหลังได้ฆ่าตัวตาย เพราะทนความเลวทรามของ งักปุ๊กคุ้ง ผู้เป็นสามีไม่ได้

    ---------------------------

    อ่านเนื้อหาเต็ม ได้ที่ https://th.wikipedia.org/wiki/กระบี่เย้ยยุทธจักร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,433
    ยุทธจักร สิ่งใด จีรัง
    มิตรรัก ศัตรูชัง ยากแยก
    ปฏิธาน ตุ้มถ่วง ราวแอก
    บ่าแบก ความแค้น นานา

    ธรรมมะ อธรรม อันใด
    ขีดไว้ อัตตา แน่นหนา
    ยกอ้าง คุณธรรม ลวงตา
    เข่นฆ่า ช่วงชิง วุ่นวาย


    บุญคุณ ความแค้น ฉุดรั้ง
    แต่ยัง หวังลี้ หนีหาย
    ยุทธภพ ถอนตัว เร้นกาย
    เริงร่าย เมรัย เพลงกลอน

    ร่ายกลอน ยอกย้อน ยิ้มเย้ย
    วางเฉย ยุทธจักร ทิ้งถอน
    ไม่เหลือ สิ่งใด อาวรณ์
    ขับกลอน เคล้าเพลง พิณมา


    https://pantip.com/topic/32492396
     
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,433
     
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,433
    มีเพียงพุทธธรรมเท่านั้น ที่จะสะสางปมอันยุ่งเหยิงของชีวิตที่พัวพันมากมาย ให้ชีวิตแต่ละชีวิต หลุดพ้นพันธนาการ ปมแห่งปัญหาออกมาเห็นความจริงได้

    อำนาจ กฏเกณฑ์ที่สร้างมาจากปัญญากิเลสเพียงประการเดียว อาจทำให้สถานการณ์ดูสงบเพียงภายนอก

    แต่ ธรรม จะสะสางให้พ้นได้ จากภายใน
     
  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,433
    ภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนี้


    สังขารทั้งหลายมีอวิชชาเป็นที่อาศัย
    วิญญาณมีสังขารเป็นที่อาศัย
    นามรูปมีวิญญาณเป็นที่อาศัย
    สฬายตนะมีนามรูปเป็นที่อาศัย
    ผัสสะมีสฬายตนะเป็นที่อาศัย
    เวทนามีผัสสะเป็นที่อาศัย
    ตัณหามีเวทนาเป็นที่อาศัย
    อุปาทานมีตัณหาเป็นที่อาศัย
    ภพมีอุปาทานเป็นที่อาศัย
    ชาติมีภพเป็นที่อาศัย
    ทุกข์มีชาติเป็นที่อาศัย



    ศรัทธา มีทุกข์เป็นที่อาศัย
    ปราโมทย์ มีศรัทธาเป็นที่อาศัย
    ปีติ มีปราโมทย์เป็นที่อาศัย
    ปัสสัทธิ มีปีติเป็นที่อาศัย
    สุข มีปัสสัทธิเป็นที่อาศัย
    สมาธิ มีสุขเป็นที่อาศัย
    ยถาภูตญาณทัสสนะ มีสมาธิเป็นที่อาศัย
    นิพพิทา มียถาภูตญาณทัสสนะเป็นที่อาศัย
    วิราคะ มีนิพพิทาเป็นที่อาศัย
    วิมุตติ มีวิราคะเป็นที่อาศัย
    ขยญาณ มีวิมุตติเป็นที่อาศัย

    ……………
    ข้อความบางตอนใน อุปนิสสูตร สังยุตตนิกาย นิทานวรรค พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๖
    http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=16&siri=19
    ก็ความบังเกิดในเรือนแห่งตระกูลของพระตถาคตนั้น ชื่อว่าชาติ ที่มีการกระทำต่างๆ ร่วมกัน เพราะมีกรรมภพเป็นปัจจัย. บุคคลอาศัยความพร้อมหน้าของพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ หรือพระพุทธสาวก ฟังธรรมกถาที่นำมาโดยลักษณะอันแสดงถึงโทษของวัฏฏะ ย่อมเป็นอันถูกเบียดเบียนด้วยอำนาจวัฏฏะ. ชาติย่อมเป็นปัจจัยแก่วัฏทุกข์. ขันธ์ทั้งหลายที่มีการกระทำต่างๆ ย่อมมีแก่บุคคลนั้นด้วยอาการอย่างนี้. ชาติเป็นปัจจัยแก่วัฏทุกข์ บุคคลนั้นถูกวัฏทุกข์เบียดเบียน ทำศรัทธาให้เกิดในภพต่อๆ ไป ก็ออกจากเรือนบวชไม่มีเรือน. วัฏทุกข์เป็นปัจจัยแก่ศรัทธาในภพต่อๆ ไป ของบุคคลนั้นด้วยประการฉะนี้.
    บุคคลนั้นไม่สันโดษด้วยเหตุเพียงบรรพชาเท่านั้น ยังถือนิสัยในเวลาพรรษาไม่ครบ ๕ บำเพ็ญวัตรปฏิบัติ ทำมาติกาทั้งสองให้คล่องแคล่วแล้ว เรียนกรรมและมิใช่กรรม สะสางให้หายรกจนถึงพระอรหัต ถือกัมมัฏฐานไปอยู่ป่า เริ่มการงานในปฐวีกสิณเป็นต้น. บุคคลนั้นอาศัยกัมมัฏฐานก็เกิดปีติที่มีกำลังอ่อนๆ เขาอาศัยปีตินั้นก็เกิดปราโมทย์ ปราโมทย์นั้นก็เป็นปัจจัยแก่ปีติที่มีกำลัง. ปีติที่มีกำลังก็เป็นปัจจัยแก่ปัสสัทธิ ระงับความกระวนกระวาย. ปัสสัทธินั้นก็เป็นปัจจัยแก่สุขส่วนเบื้องต้นแห่งอัปปนาสมาธิ สุขนั้นก็เป็นปัจจัยแก่สมาธิที่มีฌานเป็นบาท.
    บุคคลนั้นทำสุขนั้นที่พรั่งพร้อมให้เกิดด้วยสมาธิ ก็ทำการงานด้วยวิปัสสนาอย่างอ่อน. สมาธิที่มีฌานเป็นบาทของเขา ก็เป็นปัจจัยแก่วิปัสนนาที่มีกำลังอ่อน. วิปัสสนาที่มีกำลังอ่อน ก็เป็นปัจจัยแก่วิปัสสนาที่มีกำลัง. วิปัสสนาที่มีกำลัง ก็เป็นปัจจัยแก่มรรค. มรรคก็เป็นปัจจัยแก่ผลวิมุตติ. ผลวิมุตติก็เป็นปัจจัยแก่ปัจจเวกขณญาณ. พึงทราบว่า เวลาที่พระขีณาสพ ทำสาครคือวิมุตติให้เต็มแล้วดำรงอยู่ ก็เหมือนเวลาที่ฝนทำสาครให้เต็มโดยลำดับ ตั้งอยู่ด้วยประการฉะนี้.
    ..........
    ข้อความบางตอนในอรรถกถาอุปนิสสูตร http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=16&i=68
    _oc=AQlda9_gOYOPowuGgYoHkjecbO8RSWTsxwW1v8veGZidFLSgMW0jAIlgu_KHjLulG90&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,433



    สักวัน .... ยิ้มเย้ย วัฏฏะสงสาร และ นายช่างผู้สร้างเรือน
     
  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,433
    กระบี่ชั้นต่ำ ตวัดไปทางใด มีเลือดสาดกระเซ็น มีน้ำตา มีความเคียดแค้น ชิงชัง อาฆาต พยาบาท เวรกรรมติดตาม
    อัตตาก่อเกิดพอกพูนแน่นหนา

    กระบี่แห่งฟ้า ตวัดไปทางใด สรรพชีวิตมีสติปัญญาตระหนักในตน รู้ว่าไหนสัจจะ ไหนอสัจจะ สิ่งใดปรุง สิ่งใดจริง
    ไร้รูป- เหนือนาม แต่สามารถใช้รูปใช้นาม
     
  8. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +29,754
    วิญญูชนจอมปลอม

    1. งักปุ๊กคุ้ง (岳不群 - เยวี่ยปุ๊ฉวิน) ฉายา กระบี่วิญญูชน (君子劍) เจ้าสำนักหัวซานสายลมปราณ (華山派氣宗) และเป็นอาจารย์ผู้ชุบเลี้ยง เหล้งฮู้ชง มาตั้งแต่เด็ก ภายหลังเพียงเพื่อชิง เพลงกระบี่พิชิตมาร (辟邪劍法) จึงได้ใส่ร้าย เหล้งฮู้ชง และขับ เหล้งฮู้ชง ออกจากสำนัก ภายหลังสำเร็จ เพลงกระบี่พิชิตมาร และได้ขึ้นเป็นประมุขพรรค 5 ขุนเขากระบี่
     
  9. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +29,754
    สามสุดยอดวิญญูชนจอมปลอม
    Posted on สิงหาคม 1, 2017by tornop
    e0b980e0b8a2e0b989e0b8a2e0b8a2e0b8b8e0b897e0b898e0b888e0b8b1e0b881e0b8a3e0b8abe0b899e0b989e0b8b2.jpg
    “กระบี่เย้ยยุทธจักร” เป็นนิยายจีนกำลังภายในที่สะท้อนภาพทางการเมืองได้อย่างชัดเจน และไม่เคยล้าสมัย

    e0b980e0b8a2e0b989e0b8a2e0b8a2e0b8b8e0b897e0b898e0b888e0b8b1e0b881e0b8a3e0b89be0b881e0b88be0b8b5.jpg

    สำหรับผมแล้ว “กระบี่เย้ยยุทธจักร” เป็นนิยายจีนกำลังภายในที่ครบเครื่อง ทั้งในแง่มุมของความสนุกสนานแนว “บู๊และเฮียบ” นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยปรัชญาความคิดสอนใจที่สะท้อนภาพสังคมมนุษย์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สะท้อนตัวตนของมนุษย์ในเรื่องการยึดติดซึ่ง “อำนาจ ลาภ ยศ ชื่อเสียง เงินทอง”

    เด่นชัดในการสร้างสรรค์รูปแบบของตัวละครที่มีภาพลักษณ์ “วิญญูชนจอมปลอม”

    ในแวดวงบู๊ลิ้มยุทธภพ ตัวแบบของ “ผู้ร้าย” ที่ผมชอบมีอยู่สองประเภทด้วยกัน ประเภทแรกเป็นพวกชั่วร้ายแบบเห็นจะจะ ประมาณว่าเป็นหัวหน้าพรรคมารผู้คิดยึดครองบู๊ลิ้ม ซึ่งผู้ร้ายแนวนี้ก็มีระดับความเลวร้ายต่างๆ กันไป ไล่ตั้งแต่เลวร้ายอันมีองค์ประกอบมาตรฐาน เป็นประเภทที่ว่า ฝึกวิทยายุทธชั่วร้ายสุดขีด สร้างกองกำลังพรรคมาร ในขณะเดียวกันก็หาทางล้มล้างค่ายสำนักธรรมมะให้สิ้นซาก

    ยกตัวอย่าง “มารร้าย” ที่มีองค์ประกอบมาตรฐานก็อย่าง “ต๊กโกวบ้อเต็ก” ในนิยายจีนกำลังภายใน “กระบี่ไร้เทียมทาน” เป็นต้น

    หรือหากมีพัฒนาการมากกว่าขั้นมาตรฐานมารร้ายประเภท “ต๊กโกวบ้อเต็ก” ไปหน่อย ก็อย่าง “เซียงกัวกิมฮ้ง” ใน “มีดบินไม่พลาดเป้า” เรื่องราวของ “ลี้คิมฮวง” หรือ “ตังฮึงปุกป่าย” ใน “กระบี่เย้ยยุทธจักร” ซึ่งตัวละครเหล่านี้ผมเคยเขียนไปแล้วในคอลัมน์ “บู๊ลิ้ม” ตอนก่อนๆ หน้า

    อย่างไรก็ดี “ตัวร้าย” หรือ “มารร้าย” ในนิยายจีนกำลังภายในประเภทแรก ยังไม่ชั่วช้าเท่ากับผู้ร้ายที่แฝงตัวอยู่ในคราบธรรมมะ อย่างที่เราเรียกกันอย่างคุ้นเคยว่า “วิญญูชนจอมปลอม”

    พวก “วิญญูชนจอมปลอม” เหล่านี้จะแฝงตัวอยู่ในคราบนักบุญ สร้างภาพลักษณ์น่ายกย่องเลื่อมใส แต่ภายใต้บุคลิกภาพที่น่าเคารพนับถือ แท้จริงแล้วคือ “มารร้าย” ที่ร้ายยิ่งกว่าร้าย



    หากจะทำการศึกษาทำความเข้าใจกับเหล่า “มารร้าย” ในคราบ “วิญญูชนจอมปลอม” บรรดานี้ อาจแบ่งลักษณะและวิเคราะห์คุณสมบัติออกเป็นข้อๆ เพื่อเข้าใจง่ายดังนี้

    หนึ่ง ต้องมาดดี มีความชอบธรรม ทำอะไรรักษาหน้า รักษาภาพลักษณ์เป็นชีวิตจิตใจ

    สอง ไม่ไปเกลือกกลั้วกับเรื่องไม่ดีงามหรือไร้สาระเล็กน้อย คิดแต่การใหญ่ๆ คุณธรรมค้ำฟ้า

    สาม หากมีจังหวะหาโอกาสปรักปรำและโยนความไม่ดีให้คนอื่น โดยเฉพาะไอ้พวกจอมยุทธทื่อด้านไร้ลีลา ประมาณ “เหล็งฮู้ชง” หรือ “ฮุ้นปวยเอี้ยง” หรือไม่ก็พวกจิตใจดีงามอย่าง “ซิมลั้ง”

    สี่ อย่าคิดอะไรชั้นเดียว ให้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนเข้าไว้

    ห้า รักแต่ตัวเอง ไม่ต้องไปคำนึงถึงลูกเมียตลอดจนญาติสนิทมิตรสหายให้มากเรื่อง ชีวิตคนอื่นเป็นมดปลวก ชีวิตตนเองสำคัญเทียมฟ้า

    หก ต้องรู้จักแจกเศษกระดูกให้คนอื่น ส่วนน้ำแกงตุ๋นซุปไก่ดำต้มโสมพันปี เก็บไว้กินเองในครัวที่บ้าน

    เจ็ด เรียนรู้ที่จะเจรจาหวานปานน้ำผึ้ง เชี่ยวชาญในการตีสองหน้า และหาโอกาสแทงข้างหลังได้ทุกรูปแบบและวิธีการ

    ผมได้จัดอันดับ “วิญญูชนจอมปลอม” จากนิยายจีนกำลังภายในที่ผมชื่นชอบไว้เป็นโดยคัดเลือก “มารร้าย” ที่เข้าข่าย “วิญญูชนจอมปลอม” ในรอบสุดท้ายจำนวนห้ารายด้วยกัน จากนั้นจึงพิจารณาตัดสิน สามรายที่ยกให้เป็น “สามสุดยอดวิญญูชนจอมปลอม” ไว้ดังนี้

    รายแรกที่สามารถเข้ารอบห้าคนสุดท้ายมาได้ แน่นอนย่อมต้องเป็น “งักปุกคุ้ง” ผู้ที่อ้างตนว่าเป็น “สายธรรมมะ” ผู้ที่ดำเนินกระบวนการในการก้าวขึ้นสู่อำนาจอย่างมีลีลา โดยสร้างฉากร่วมกำจัดมาร ผ่านทาง “จ้อแนเซี้ยง” แล้วตลบหลังกินรวบ

    “งักปุกคุ้ง” ชำนาญเชี่ยวชาญมากก็คือเรื่องของการใช้หน้าตาและภาพลักษณ์ภูมิฐานสง่างาม ดูดีมีชาติตระกูล แถมยังเปี่ยมลีลาของการเสแสร้งเป็นใจกว้าง อ่อนน้อมถ่อมตน ซื่อสัตย์ไม่คดโกง นอกจากนั้นยังมีความรักตัวเองสูงส่ง ยอมสละทิ้งลูกเมีย วางตัวลูกสาวให้แต่งงานเพื่อหวังฮุบคัมภีร์ยุทธจากลูกเขย แล้วก็ยอมสูญสิ้นความเป็นผู้ชายตอนตัวเองโดยไม่คำนึงถึงเมียเพราะต้องการฝึกคัมภีร์ยุทธนั้น

    นอกจากนี้ “งักปุกคุ้ง” ยังมีความสามารถในการโยนความไม่ดีให้กับผู้อื่น โดยตัวเองรับแต่ความดีความชอบไว้แต่ผู้เดียว การกระทำทั้งหมดทั้งปวงข้างต้นทำให้ “งักปุกคุ้ง” สามารถเข้ารอบสุดท้าย “วิญญูชนจอมปลอม” ได้อย่างไม่มีข้อกังขา แถมยังถือเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งอีกต่างหาก

    รายที่สองได้แก่ “บักเต้าหยิน” นักพรตผู้น่าเคารพยกย่องแห่งสำนักบู๊ตึ้ง ที่อีกฉากหนึ่งเฝ้าซุ่มซ่อนคิดการร้ายในบทบาทของ “เจ้าพ่อดาบเก่า” แห่ง “หมู่ตึกภูตพราย” ถือเป็นสุดยอดในการตีสองหน้าอย่างไม่มีใครเทียบ

    “บักเต้าหยิน” นี้ถือว่าสร้างภาพลักษณ์ “วิญญูชนจอมปลอม” ได้แนบเนียนสูสีกับ “งักปุกคุ้ง” ตัวเต็งอันดับหนึ่ง รวมทั้งจัดพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อก้าวขึ้นเป็นเจ้าสำนักบู๊ตึ้งได้อย่างซับซ้อนซ่อนเงื่อนและแยบยล แถมยังโยนความผิดไปให้คนอื่นอีกต่างหาก โดยเฉพาะ “เล็กเซียวหงส์” ถึงกับหัวหมุนตกหลุมพรางอันแยบยลนี้

    นอกจากนี้ “บักเต้าหยิน” นั้นเพื่อครองความเป็นใหญ่ในยุทธภพ ก็ยอมสละลูกเมียทิ้งไว้ในโลกใบเก่า ครองตนเป็น “เต้าหยินนักพรต” อย่างไม่อายฟ้าดิน



    รายที่สามต่อมาคือ “โป่วเง็กจือ” ที่เข้ารอบสุดท้ายมาแบบฉิวเฉียด ด้วยลีลาการใช้เล่ห์เหลี่ยมเพทุบายหลอกล่อให้สำนักบู๊ตึ้งรับเป็นศิษย์ แล้วทยอยจัดการซือเฮียซือตี๋ตลอดจนซือแป๋ซือเจ็กร่วมสำนัก เพื่อต้องการครอบครองเป็นเจ้าสำนักบู๊ตึ้งนั้น จัดว่าเป็นการสร้างภาพ “วิญญูชนจอมปลอม” ใช้ได้เลยทีเดียว

    “โป่วเง็กจือ” ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดแห่งการจัดฉากสร้างภาพดีงามแต่เบื้องหลังร้ายกาจ ละทิ้งความรักเพื่อเป้าหมายล่อลวงวิชาฝีมือ นอกจากนี้ ยังตีสองหน้าหลอกลวงแม้กระทั่งบุคคลที่ตนเองเรียกว่าเป็น “ซือแป๋” และยังชอบโยนความผิดให้กับ “ฮุ้นปวยเอี้ยง” อยู่เป็นประจำ

    รายที่สี่ ได้แก่ “เลี่ยงเซียะเปียะ” ตัวละครในเรื่อง “จับอิดนึ้ง” ที่โดดเด่นที่สุดใน “หกวิญญูชน” ตามท้องเรื่อง ที่เป็นกลุ่มคนหนุ่มชาติตระกูลดี ฐานะดี ภาพลักษณ์ดี และเยี่ยมวรยุทธ

    “เลี่ยงเซี๊ยะเปียะ” เมื่ออายุเพียงหกขวบก็ได้ฉายาเป็นทารกอัจฉริยะ สิบขวบเรียนรู้วิชากระบี่ เพียงสิบเอ็ดปีก็สามารถประมือสามร้อยกระบวนท่าโดยไม่พ่ายแพ้กับปรมาจารย์กระบี่เจ้าสำนักจากแดนอาทิตย์อุทัย (ญี่ปุ่น) มีบุคลิกหล่อเหลา นุ่มนวล สุภาพเรียบร้อย อ่อนโยน เปี่ยมด้วยการวางตัว จัดเป็นสุภาพบุรุษจอมยุทธทุกกระเบียดนิ้ว ถือเป็นสุดยอดแห่ง “จอมยุทธภาพดี”

    แต่เบื้องหลังของ “เลี่ยงเซี๊ยะเปียะ” ไม่ใช่ดีงามตามหน้าตา เอาแต่ห่วงภาพรักษาหน้า จิตใจแท้จริงมิได้หล่อเลิศประเสริฐเหมือนใครอื่นคาดคิด แถมยังรายล้อมด้วยคนชั่วรอบตัวเต็มไปหมด

    นอกจากนี้ “เลี่ยงเซี๊ยะเปียะ” ยังลีลาเนียนในการโยนความผิดให้กับ “จับอิดนึ้ง” เข้าข่าย “วิญญูชนจอมปลอม” ที่เชี่ยวชาญ “เอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่คนอื่น” เป็นยิ่งนัก

    รายที่ห้ารายสุดท้ายที่เข้ารอบก็คือ “ฉ้าเง็กกวน” ผู้มีฉายาว่า “วีรบุรุษใจธรรม” จากนิยายจีนกำลังภายในเรื่อง “ราชายุทธจักร” เขาผู้นี้หลอกจอมยุทธทั่วยุทธภพให้ไปเข่นฆ่าล้างโคตรกันที่ยอดเขากระเรียนวนบรรพตฮ่วงซัว โดยออกอุบายโฆษณาชวนเชื่อว่ามี “ตำราไร้เทียมทาน” ปรากฏขึ้น ณ.ที่แห่งนั้น

    จอมยุทธทั้งฝ่ายธรรมมะและอธรรมร่วมสองร้อยคน แบ่งกลุ่มเป็นยี่สิบเจ็ดหน่วยเปิดฉากเข่นฆ่าล้างผลาญกันเป็นระยะเวลา 19 วัน เลือดนองฮ่วงซัว

    “ฉ้าเง็กกวน” ทำตัวดีมีธรรมมะ คอยช่วยเหลือบุคคลผู้บาดเจ็บล้มตาย จากนั้นหอบเอาคัมภีร์ยุทธและทรัพย์สมบัติของผู้เสียหาย ปลิวเข้ากลีบเมฆไปราวกับสายลม

    จากนั้น “ฉ้าเง็กกวน” จึงปรากฏตัวในอีกสิบกว่าปีต่อมา โดยกลายร่างเป็น “เทพเจ้าสำราญ” ผู้มากด้วยสมบัติบริวารและเปี่ยมยอดวิทยายุทธ มุ่งหมายที่จะยึดครองยุทธภพ

    ในกรณีที่ผมต้องเลือก “สามสุดยอดวิญญูชนจอมปลอม” แค่เพียงสามคนเท่านั้น ผมตัดสินใจคัด “โป่วเง็กจือ” ตกรอบไปก่อน เนื่องจาก “โป่วเง็กจือ” แม้ว่าจะเข้าข่ายหลายอย่าง แต่ “โป่วเง็กจือ” นั้นทำไปเพราะความอาฆาตแค้นที่มาจากคนรุ่นก่อน โดยที่เขาเองก็ไม่ได้จัดเป็นหัวโจกใหญ่ในขบวนการ และ “โป่วเง็กจือ” เองก็ไม่ได้มีลีลาซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรมากเท่ากับผู้เข้ารอบคนอื่นๆ นอกจากนี้ก็ไม่ได้สร้างภาพได้เนียนอะไรมากนัก

    ผู้ที่ตกรอบคนต่อไปได้แก่ “เลี่ยงเซี๊ยะเปียะ” ทั้งนี้หลักใหญ่หัวใจอีกสำคัญก็เหมือนกันกรณีของ “โป่วเง็กจือ” ที่ “เลี่ยงเซี๊ยะเปียะ” เองก็ไม่ใช่หัวโจกใหญ่ แต่ความเลวร้ายของ “วิญญูชนจอมปลอม” ผู้นี้ ดำเนินไปภายใต้ขบวนการที่ควบคุมโดยมารร้ายผู้อื่น พูดง่ายๆ คือ “เลี่ยงเซี๊ยะเปี๊ยะ” ไม่ได้เป็นหัวหน้ารัฐบาลผู้มีอำนาจตัดสินใจสูงสุด

    สำหรับอีก สามคนที่เหลือก็คือ “งักปุกคุ้ง-บักเต้าหยิน-ฉ้าเง็กกวน” ในความเห็นของผม ทั้งสามคนนี้ถือเป็น “สามสุดยอดวิญญูชนจอมปลอม” ในระดับพอๆ กัน ส่วนใครจะเป็นอันดับหนึ่งนั้น ผมไม่อาจจะตัดสินใจได้ระหว่าง “งักปุกคุ้ง” กับ “บักเต้าหยิน” ส่วน “ฉ้าเง็กกวน” นั้น คะแนนน้อยกว่าตรงที่ต้องใช้เวลาหายหน้าไปสิบกว่าปี อันนี้ถือว่ายังไม่เก่งด้านสร้างภาพแบบฉับพลันทันที คะแนนของ “ฉ้าเง็กกวน” จึงไม่อาจเทียบกับ “งักปุกคุ้ง” กับ “บักเต้าหยิน” ที่สร้างภาพ “คนดีมีคุณธรรม” ไปพร้อมๆ กับการ “ดำเนินแผนร้ายยึดครองยุทธภพ” ในเวลาเดียวกัน



    อย่างไรก็ดี ถึงตอนท้ายนี้ ไม่ว่าอย่างไร ไม่ว่าจะเป็น “วิญญูชนจอมปลอม” ที่เก่งกาจสร้างภาพหรือเยี่ยมวรยุทธสักเพียงไหน ล้วนแต่มีบทสรุปเฉกเช่นเดียวกันทุกคน

    ล้วนแต่ล้มหายตายจากอย่างน่าอนาถทุกรายไป



    เขียนโดย : พชร สมุทวณิช

    แหล่งที่มา : http://www.manager.co.th/Weekend/ViewNews.aspx?NewsID=9540000005546

    ********************************************
    https://kowleng.wordpress.com/2017/08/01/สามสุดยอดวิญญูชนจอมปลอ/
     
  10. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +29,754
     
  11. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +29,754
    คุณธรรมอันดับหนึ่ง พลังฝีมืออันดับสอง
     
  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,433
    .
    พาลชน พาลจิต
    มีวิธีที่จะทำลายกัลยาณชน ผู้มีปกติทำดี มีเมตตากรุณา ด้วยเล่ห์หลากหลาย
    การรู้เท่าทัน ระมัดระวังไว้ เป็นการดี
    เพื่อไม่ตกเป็นเครื่องมือทุรชน ผู้มากเล่ห์เพทุบายเหล่านั้น


    ----------------

    รักทุกคน ไว้ใจบางคน ไม่เกลียดใครสักคน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2023
  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,433
    upload_2024-5-21_22-23-13.png
     
  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,433
  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,433
    ขอส่งกิมย้งสู่ปรภพด้วยเนื้อเพลง ยิ้มเย้ยยุทธจักร ประกอบภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายเรื่องดังของเขา แม้เพลงนี้กิมย้งจะไม่ได้แต่ง แต่กลับสะท้อนจิตวิญญาณของจอมยุทธ์ที่ไร้พันธะในขนบจอมปลอม แต่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรมแท้จริงในนิยายของกิมย้งได้เป็นอย่างดี



    ท้องทะเลครั่นครืน สายน้ำรื่นเลาะฝั่ง

    เกลียวคลื่นคงดำรงหวัง ยั้งในกาลบัดดล

    ฟ้าหัวเราะเยาะยั่ว โลกข้องกลัวกังวล

    เพียงฟ้าดินจึ่งทราบผล แพ้ชนะชั่วดี

    ภูสรวลเสเฮฮา ฝนคล้อยมารางราง

    ยามคลื่นใหม่ไล่เก่าลาร้าง โลกก็ยังอยู่ดี

    สายลมโปรยโชยอ่อน ยิ้มอาวรณ์วังเวง

    ลืมทุกข์โศกโลกร่ำบรรเลง มิเกรงความโดดเดี่ยว

    โลกหัวเราะเริงร่าย สิ้นเดียวดายกังวล

    ใจข้ายังยั่งยืนยง ยิ้มทะนงคงมั่น.
     
  16. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +29,754
    ?temp_hash=0be998282011ef2b0afa157b516cc0e1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,433
  18. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,433
  19. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,433
    ยอดวิชาในเรื่อง วิชากระบี่ปราบมาร

    มาจากคัมภีร์ทานตะวัน

    คัมภีร์ทานตะวัน มาจาก ขันทีที่ไม่มีอารมณ์ทางเพศมาแทรกในการฝึกปราณ บัญญัติขึ้นมา
    (ผู้บัญญัติคัมภีรทานตะวันต้นฉบับจริงเทียบได้กับ ผู้ทรงอารมณ์พรหม สามารถกดข่มไฟราคะได้ ชนะไฟโทสะได้ เหลือเพียงไฟโมหะอันน้อยนิดกว่าสัตว์โลกอื่น )

    ผูู้ฝึกสำเร็จขั้นสุดจริงๆ น่าจะมีสองคนคือ ขันทีเจ้าวิชาและพระอีกท่านหนึ่ง ด้วยเหตุผลข้างต้น คือ กิเลสเบาบางกว่าคนอื่นๆ

    คนอื่นๆ ตีความตามกิเลส ก็เลยพากันไปไกลมาก....ไกลจากตัววิชาตัวจริง

    วิชากระบี่ปราบมาร ก็เพียงส่วนเดียวจากคัมภีร์ทานตะวันเท่านั้นเอง
    เพราะ ผู้บัญญัติเพลงกระบี่ คิดแต่จะปราบมารภายนอก ด้วยกิเลสตนเอง


    ส่วนตงฟางปุ๊ป้าย (บูรพาไม่แพ้) ก็สำเร็จแค่ส่วนหนึ่งของคัมภีร์ทานตะวัน ต้นฉบับ
    แล้วเขียนใหม่ด้วยกิเลสตนเอง ยังมีความหลงอยู่มาก แพ้ตนเอง
    จนเป็นมารร้ายในยุทธภพ


    จบข่าว
     
  20. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,433
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...