กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

สาธุครับพี่นพ _/\_

ผมชอบประเด็นที่คุณ @Higtmax โพสต์กล่าวระบุไว้มากๆครับ… มันชัดเจน และ โดนใจมากครับ… จะด้วย ทิฏฐิ มานะ โมหะ ความเมามัน หรือ อะไรก็ตามแต่… ในห้องอภิญญา – สมาธิ นี่มีกรณีแบบที่คุณ @Higtmax โพสต์กล่าวระบุไว้อยู่มากมายครับ… ผมเจอสมาชิกบางท่านที่ชอบโพสต์แสดงความเห็นในเชิงที่ Offensive ที่ยั่วยุ กระทบกระเทียบ Bully และ เสียดสี สมาชิกท่านอื่นๆครับ… ตรงนี้บางทีผมก็เคยโดนนะครับ ซึ่งถ้ามันไม่ถือว่าเป็นการ “ล้ำเส้น” “ละเมิดสิทธิ์” หรือ “คุกคาม” ผมมากจนเกินไป… ผมก็ยอมรับได้ครับ ผมถือว่าเป็นการ "หยอกล้อ" หรือ "ล้อเล่น" ครับ… แต่ที่ผมเคยเจอหนักจริงๆนะ และ ทุกวันนี้ผมก็ยังคงเห็นอยู่บ่อยๆคือการชอบโพสต์แสดงความเห็นในเชิงที่ไม่ค่อยเหมาะสม พาดพิงจาบจ้วง ปรามาส ครูบาอาจารย์ และ พระสงฆ์สุปฏิปันโนที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนะครับ… ที่ผมเห็นนะครับคือการโพสต์พาดพิงจาบจ้วงพระเดชพระคุณท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดํา, หลวงปู่ดู่, หลวงตาม้า, หลวงพ่อเทียน และ พระอาจารย์มหาวรพรต กิตติวโรครับ!!!

ผมเห็นด้วยตามนั้นกับคุณ @Higtmax เป็นอย่างยิ่งครับ… สาธุครับ _/\_

 

ประสบการณ์ผมเคยเห็นพวก ที่เป็น Medium แล้วมีอาการแบบนี้ครับ สุดท้าย แพ้ reminton 12 guage เข้าไป เพราะไปหลอกลวง เขา

 

ผมขออนุญาตรบกวนบังอาจสามหาวแซวพี่นพ เพื่อความบันเทิงเท่านั้น นิดนึงนะครับพี่ _/\_

“บุรุษไร้เงา” (AKA. Ghostman)? … ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่าพี่นพได้ให้เกียรติกรุณามาตอบโพสต์ของคุณ @aegmanmu ในวันนี้ตอน 04:16 am. !!!



คุณพระ !!! พี่นพนี่ช่างเป็น “บุรุษไร้เงา” (AKA. Ghostman) ที่ไร้เงาจริงๆในยามพลบค่ำ ที่นอนดึก หรือ ไม่ก็ตื่นเช้าเป็นยิ่งนัก !!! ปานประหนึ่ง “Batman” ชัดๆก็ไม่ปาน [^ ^] ตอน 04:16 am. นี่ “Robin” (AKA. “บุรุษผู้มีเงา”) อย่างผมก็ยังคงนอนหลับสนิททับเงาตนเองอยู่อย่างผ่อนคลายเป็นยิ่งนัก !!! ดูแลสุขภาพนะครับพี่ (^_^) ด้วยความปรารถนาดีครับ _/|\_

 

อ่านคร่าวๆจนเพลิน...มารู้ตัวอีกทีผ่านไปกว่าครึ่งชม.
ไว้วันนี้น่าจะช่วงบ่ายแก่ๆจะเข้ามาอ่านซ้ำและตอบเท่าที่รู้
และค้นหาหลายประเด็นที่ตนเองด้อยความรู้
หรืออาจเคยรู้มาบ้างเล็กน้อย...แต่หลงลืมไปแล้ว

เริ่มต้น...ขอขอบคุณท่านอจ.นพที่สละเวลาเข้ามาสร้างสีสัน
และองค์ความรู้ แถมพกด้วยวลีเด็ด เช่น...
"ฝากไว้เป็นภูมิต้านทานทางจิตนะครับ"
"สุดแล้วแต่จะเชื่อไม่เชื่อ เพราะไม่มีข้อพิสูจน์ที่เป็นสากล"
(ซึ่งวรรคนี้..จะขอหยิบมาใช้เรื่องฟ้าทะลายโจรที่คุณrachotpพูดถึง)
ซึ่งผมจะนำมาบอกเล่าวิธีกินฟ้าที่ได้ผลมา2-3ปี
แค่เม็ดเดียวเอาอยู่(สำหรับตัวผมนะครับ)
คงต้องเป็นท้ายสุดของวันนี้(เพราะรู้ตัวดีว่าทำอะไรช้าจนเฉื่อย)
เพราะก่อน8โมงเช้าต้องไปห้างโลซื้อสารพัดเสบียงตุน1อาทิตย์
คือไปเช้าคนน้อยมาก ห้างโล่ง อกโล่ง
ใจสบายไม่ต้องเครียด(แนะนำเพื่อนพ้องน้องพี่ครับ)

ต้องยอมรับว่าช่วงโควิตนี้ทุกคนเป็นไม่ต่างกัน...
พอใครเดินสวนมา...ต่างมีสัมมาคารวะที่ดีเยี่ยม
*หลีกทางให้กว้างที่สุดโดยอัตโนมัติ*
นี่คือข้อดีประการเดียวของโควิต19

นับเป็นความบังเอิญ(อีกครั้ง)
ที่เช้านี้คุณrechotpเบิกทางพูดถึงฟ้าทะลายโจร
เพราะเมื่อ2-3อาทิตย์ก่อน
ตั้งใจว่าจะนำฟ้ามาเล่าที่นี่"แห่งแรก"
และหลังจากนี้จะทยอยลงทางไลน์เท่าที่จะสื่อสารถึง
ซึ่งอาจเป็นทางหนึ่งช่วยบรรเทาโรคไข้หวัดชนิดต่างๆ
และอาจเป็นด่านสำคัญด่านแรก
ก่อนที่เชื้อโควิคจะลามผ่านไปยังอวัยวะสำคัญ
(รายละเอียดจะแจงให้ทราบก่อนเย็นนี้)

เช้านี้ขอปิดท้าย...สั้นๆดังนี้
"สุดแล้วแต่จะเชื่อไม่เชื่อ เพราะไม่มีข้อพิสูจน์ที่เป็นสากล"

(ขอบคุณครับอาจารย์นพ)

 

สาธุครับอ.นพ รักษาสุขภาพด้วยครับ

 

รักษาสุขภาพด้วยท่าน 9 บุญรักษาครับ

 

สำหรับ “Robin” (AKA. “บุรุษผู้มีเงา”) อย่างผม… ความ "บังเอิญ" นั้นไม่มีครับ (^ ^) ไม่มีคำว่า "บังเอิญ" ในทางพุทธศาสนา: ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นได้โดยไม่อาศัย บุญ กรรม... ทุกสิ่งทุกอย่างไม่สามารถจะเกิดขึ้นลอยๆ หรือ "บังเอิญ" โดยไม่มี “เหตุ” และ “ปัจจัย” ทำให้เกิดครับ

ผมขออนุญาตเรียนเสริมคุณ @9@Phonlee นิดนึงนะครับ _/\_ ถ้าทานเพื่อเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกันทาน 1 Capsule (ขนาดตัวยาฟ้าทะลายโจรประมาณ 390 - 400 มิลลิกรัมพิจารณาตามยี่ห้อที่เราเลือกซื้อมาบริโภค) ทาน 1 Capsule ต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 3 เดือน จากนั้นให้หยุดทานประมาณ 1 เดือนครับ

หากทานฟ้าทะลายโจรต่อเนื่องติดต่อกันโดยไม่หยุดทานเลย อาจมีผลข้างเคียง (Side Effect) เกี่ยวกับอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงครับ [ธรรมะ คือธรรมชาติ… ความดีคือความพอเหมาะ… อะไรก็ตามที่มันมากเกินไปแม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ มันก็ก่อให้เกิดโทษได้ เพราะมันผิดธรรมชาติ… ธรรมชาติคือความสมดุล (Balance) พอเหมาะ และ พอควรครับ] ผม "บังเอิญ" อ่านจากข่าวที่มีผลการวิจัยของแพทย์แผนไทย ในกระทู้ #1 นี้นะครับ (^ ^) คุณ @9@Phonlee และกัลยาณมิตรทุกๆท่านการ์ดอย่าตกนะครับ _/|\_ มันใกล้ตัวเรามากๆครับ

 

*************************************************


**เบื้องต้นค้นดูแล้ว
ได้ข้อมูลตามข้างล่างที่ส่งมา**

ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดตำนานของพระยาธรรมิกราช (อ่าน 3213 ครั้ง)
thanapanyo

• Administrator
• Hero Member
• 
• 
• กระทู้: 3631
• • 

เปิดตำนานของพระยาธรรมิกราช
« เมื่อ: มีนาคม 23, 2016, 04:05:08 AM »

ธรรมะจากพระพุทธเจ้า วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2559
ตอนที่ 193 **เปิดตำนานพระยาธรรมิกราช**

+ +
ขอก้มกราบแด่องค์พระบิดา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์หลวงพ่อสมปรารถนา ในสวนธรรมิกราช
ขอก้มกราบนอบน้อมทั้งจิต กาย และใจ นอบน้อมถวาย…

วันนี้ ลูกได้เดินทางมาถึงจุดนัดหมายขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว
วันนี้ ลูกได้เผยแผ่ธรรม ได้นำคำสั่งสอนสั่งของพระองค์ มาเผยแผ่แก่สัตว์โลก สามโลก จักรวาล
ได้มาเปิดตำนานพระยาธรรมิกราช ตามที่องค์พระบิดาทรงเมตตาส่งลูกมา

ขอกราบนอบน้อมอัญเชิญญาณบารมี ของหลวงพ่อองค์แทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ตั้งแต่องค์ปฐม จวบจนองค์ปัจจุบันนี้ ที่ได้มารวบรวมพลังพุทธบารมี อยู่ในหลวงพ่อสมปรารถนา
-- ใน **แดนธรรมิกราช แห่งที่ 2**
เป็นดินแดนที่จะรองรับเสียงธรรมจากพระองค์ เพื่อเผยแผ่ให้แก่ญาติบุญญาติธรรมได้ฟังพร้อมกัน

ขอกราบนอบน้อมอัญเชิญพลังบารมี มาเปิดตำนานพระยาธรรมิกราช --ว่าเป็นใคร มาทำอะไรในกึ่งศาสนา
มาเพื่อจะโปรดญาติโยม ญาติธรรม ด้วยความเมตตา มาช่วยสร้างสะพานนิพพานให้ดวงจิต
หรือว่ามาเพื่อสิ่งใด / เกิดมาจากที่ใด / เกิดมาทำไมในกึ่งศาสนานี้ --

เมื่อ 2600 ปี ที่ผ่านมา.. มีองค์พระพุทธเจ้าเสด็จมาในโลกใบนี้ เพื่อจะมาทำหน้าที่บอกทาง ชี้แสงสว่าง นำทางคนให้หลุด ให้พ้นจากทะเลทุกข์ / การว่ายการวนอยู่ในวัฏสงสาร
พระองค์ได้อุบัติมา แล้วเรียนรู้ความทุกข์บนโลก.. จนพบทาง

ความทุกข์นำทางพระองค์พบแสงสว่าง รู้ตามความเป็นจริงว่า ..
**สรรพสิ่งในโลกนี้ เป็นสิ่งสมมุติ**

พระองค์รู้แจ้ง จึงได้สอนสั่งจิตทั้งหลายให้เดินตาม เพื่อพบแสงสว่าง ข้ามทะเลทุกข์
แต่แล้วพระองค์มีเวลาอยู่ในโลกนี้ไม่นาน ครบ 80 ชันษา ก็ดับลาจากโลกไป ดับขันธ์ปรินิพพาน
... เหลือแต่คำสอนสั่งทิ้งไว้ในโลก ให้มนุษย์ผู้รู้ได้เดินตาม

จากนั้นมาเนิ่นนาน ถึงเวลา 568 ปี จึงได้มีความเมตตา สร้างดวงจิตของพระยาธรรมให้บังเกิดมาเป็นนกน้อย อยู่ในนิพพาน
นกน้อยคอยเฝ้ารอบกายพระองค์ เกิดมาแล้วไม่รู้สุข-ทุกข์ เกิดมาแล้วไม่รู้โลกอื่น ไม่รู้สิ่งใด
แต่ทำไมมีเทพผู้ใหญ่ พระโพธิสัตว์กวนอิม มีพ่อพระอินทร์มาเฝ้าบ่อยนัก
มาทูลถามเรื่องนั้น จะแก้ไขอย่างไร // มาทูลถามเรื่องเรื่องนี้ จะทำเช่นไร

พระยาธรรมฟังแล้วก็ข้องใจ จึงได้นอบน้อมทูลถามองค์พระพุทธเจ้าให้เมตตา
โลกอื่นยังมีอีกหรือเจ้าคะ ?
ทำไมถึงมีความทุกข์มากนัก ?

พระองค์จึงเมตตาบอกพระยาธรรม…
ลูกเอ๋ย.. โลกในจักรวาล ในวัฏสงสารนั้น มีจิตมากมาย ที่ยังจมอยู่ในการเวียนเกิดเวียนตาย เวียนทุกข์กาย ทุกข์ใจ มากมาย ลูกออกไปดูให้เข้าใจ.. ปรารถนาสิ่งใด ค่อยกลับมาเฝ้าทูลถาม

นกน้อยจึงได้บินด้วยพลังพุทธบารมี ออกมาตรวจดูวัฏสงสาร เห็นโลกนรก มีเปรต อสุรกาย
มีดวงจิตมากมายที่เป็นทุกข์...
โลกมนุษย์ก็เป็นทุกข์มากมาย ต้องเกิดแล้วตาย / ตายแล้วเกิด --ไม่รู้จบสิ้นเลย
พระยาธรรมสะเทือนใจ จึงได้กลับไปนอบน้อมแทบเท้าองค์พระบิดา องค์พระสัมมาว่า
"ลูกจะช่วยได้อย่างไรเจ้าคะ"
พระองค์จึงเมตตาส่งพระยาธรรมิกราช มาอุบัติอยู่ในเมืองสวรรค์
มาเป็นลูกเจ้าแม่กวนอิม - มาเป็นลูกพ่อพระอินทร์.. ออกมาเป็นลูกในโลกทิพย์
ได้มีการอุบัติมาเป็นเด็กน้อย เป็นโพธิสัตว์น้อยอยู่ในสวรรค์ชั้นฟ้า มีวิมานแก้วรองรับ
อยู่โลกสวรรค์ ถึง 200 กว่าปีโลกมนุษย์ ..
… แล้วก็ได้มีโอกาสดี ลงมาสู่โลกมนุษย์ เพื่อทำหน้าที่ของตน เพื่อทำหน้าที่...
/ มาช่วยคน
/ มาช่วยฉุดให้หลุดพ้นจากวัฏสงสาร
/ มาช่วยนำทางเข้าสู่พระนิพพาน

จึงได้มาอยู่ในกายเนื้อของสตรีผู้หนึ่ง ซึ่งไม่เคยรู้ศาสนาพุทธ คือ อะไร
ท่องนะโม 3 จบ ก็ยังท่องไม่ได้ เป็นคนต้อยต่ำ เป็นเด็กป่า เด็กเขา ไม่รู้สิ่งใด
แต่อยู่ๆ ก็ได้มาอยู่ในกาย จึงเกิดการเปิดโลก เปิดจักรวาล ให้ดวงจิตในกายนั้นได้เรียนรู้ศึกษาธรรม

จากนั้นมา จึงได้เดินทาง -- พระยาธรรม จึงนำกายเนื้อไปสร้างบุญสร้างบารมี เพื่อเปิดทางตน เพื่อเปิดทางของพระยาธรรม เพื่อเผยแผ่ธรรม

อยู่มาวันหนึ่งได้มีนิมิตจากเบื้องบน ให้ไปตามหาผู้คนที่จะมาสร้างบารมีร่วม ให้เดินทางไปที่อำเภอเชียงของ จะมีผู้มีบุญมีบารมี มาช่วยกลั่นช่วยกรอง ให้จิตนั้นเห็นทาง ให้เข้าใจ สว่างในพระธรรม จะได้นำไปเผยแผ่ให้แก่สัตว์โลกได้ฟัง
จึงทำตาม เดินตามไปที่เชียงของ เพื่อตามหาผู้มีบารมี ผู้ที่จะเป็นครูบาอาจารย์ ช่วยแนะนำสอนสั่งตน

เมื่อไปแล้ว ก็พบกับหลวงพ่อมานิตย์ ผู้ใจบุญ จึงได้ให้โอกาสพระยาธรรมพิสูจน์ตน มีความสามารถเก่งกล้าในคุณงามความดี พิสูจน์กายของตนนี้ -บริสุทธิ์หลุดจากกิเลสตัณหา ไปสู่สติและปัญญาในธรรมที่สั่งนำมาเผยแผ่

ก็ได้ต่อบารมี ถึง 2 ปี จึงได้มีคำสอนสั่งจากองค์พระบิดา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาเผยแผ่แก่โลกนี้
จึงได้รู้หน้าที่ตน -- การเกิดมาเป็นคนในคราวนี้ อุบัติบังเกิดมาด้วยพลังพุทธบารมีขององค์พระบิดา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เพื่อมาในกึ่งศาสนา มาเป็นผู้แทนองค์ศาสดา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า / เพื่อเผยแผ่ธรรมคำสอนสั่งในกึ่งศาสนานี้

จึงได้ทำหน้าที่ตนแต่ละวัน จึงได้น้อมเข้าเฝ้าต่อองค์พระพุทธเจ้า เพื่อนำธรรมมาเผยแผ่แก่ญาติบุญได้ฟังให้รู้แจ้ง เข้าใจตาม

**พระยาธรรม** บังเกิดขึ้นแล้ว ด้วยการพิสูจน์ตน ด้วยการวางการเกิดมาเป็นคน / ดับความทุกข์ในตน
เข้าใจในการเกิดมาเป็นคน
แล้วจึงนอบน้อมต่อธรรมของพระองค์ มาเผยแผ่แก่สัตว์โลกที่ยังเวียนวนทุกผู้ทุกคนให้ได้ฟัง

สร้างบารมีมาแล้ว ปีกว่าๆ ที่เผยแผ่ธรรม
มีแม่ยวนใจ พร้อมด้วยลูกหลานบริวารที่อธิษฐานมาเนิ่นนาน เพื่อจะมาพบกันในกึ่งศาสนานี้-- จึงได้มอบถวายผืนนาที่ทำกิน ถวายผืนแผ่นดินแห่งนี้ ให้หลวงพ่อมานิตย์ผู้เป็นครู

ท่านจึงเมตตาให้พระยาธรรมมาเผยแผ่แก่ญาติบุญในที่แห่งนี้ เป็นจุดที่ 2..
จึงได้นำธรรมคำสอนสั่งมาเผยแผ่ให้แก่ญาติบุญ ญาติธรรมได้ฟัง

จงโปรดจิตเปิดใจรับฟัง เสียงธรรมที่นำมาแสดงนั้น **เป็นเสียงจากพระพุทธองค์ทรงเมตตาส่งผ่านมา**

*พระยาธรรม* เป็นเพียงเครื่องเสียงให้ญาติบุญญาติธรรม ได้ฟังพระพุทธองค์ท่านทรงเป็นผู้สั่งสอนธรรม
พระยาธรรม แค่ทำตามคำสอนที่พระองค์ทรงเมตตา

จึงได้โอกาสดี ได้นำการก่อเกิดของพระยาธรรม นำมาชี้แจงให้ญาติบุญญาติธรรมได้เข้าใจ เพื่อจะได้เข้าถึงซึ่งพระธรรม..

-- วันนี้จึงได้นำคำขับร้องนี้มาแสดง --

สาธุ



ขอบคุณแหล่งที่มา
http://phusawan.com/

 

"Superman man of spirit"
ซูเปอร์แมนแห่งจิตวิญญาณ

หรือแปลความได้อีกว่า
ซูเปอร์แมนแห่งความมีน้ำใจ

 

ขอบคุณครับ

ขอให้บุญรักษา และมีสุขภาพที่ดีเช่นกัน

 

ได้เข้าไปอ่านรายละเอียดแล้ว
ขอบคุณครับ


ต่อไปผมจะเล่าประสบการณ์
ในการใช้ยาเม็ดฟ้าทะลายโจรพิชิตโรคหวัด
ทุกครั้งที่รู้สึกว่าโดนเชื้อหวัดเล่นงาน
มักมีอาการเตือนล่วงหน้า เช่น
เสียงไม่ใส เจ็บคอเล็กน้อย หรือนานๆจามครั้ง
นี่แสดงว่าเชื้อหวัดมาเยือนแล้ว(ไม่น่าจะเกินพรุ่งนี้)
ถ้าเกิดอาการเช่นนี้ไม่ว่าจะติดหวัดมาหรือไม่
เพื่อความไม่ประมาท
คืนนั่นผมจะอมยาฟ้าทะลายโจร1เม็ด(ตามรูป)
แล้วขึ้นนอนเลย
อมคาไว้ในปากเฉยๆตลอดคืน(ไม่ให้น้ำลายส่อ)
...ถ้าหลับง่ายๆจะดีที่สุด
ตื่นเช้าขึ้นมายาเม็ดนี้จะละลายครอบคลุมทั่วทั้งปาก
ทั้งลิ้น-เหงือก-ฟัน-รอบๆในคอทั้งหมด
ยาบางส่วนจะซึมลงไปในท้อง

ช่วงตื่นนอนลองขย้อนน้ำลายดู
จะพบว่าน้ำลาย(เสมหะ)เป็นสีเทาเข้มสีเดียวกับยาเม็ด
นั่นคือยาฟ้าทะลายโจรที่เคลือบอยู่ในลำคอ
ทำหน้าที่ปกป้องสิ่งแปลกปลอมที่แฝงเข้ามา

ส่วนตัวผมจึงไม่สงสัยเลยว่า...
ทำไมวันรุ่งขึ้นผมจึงไม่เป็นหวัด
แค่เม็ดเดียวครั้งเดียว...จริงๆ
แต่ถ้าคนที่ยังรู้สึกมีอาการคล้ายหวัด(ไม่หาย)
ช่วงหลังอาหารเที่ยงและก่อนนอนลองอมอีกครั้ง
ถ้ายังไม่หายอาจแปลได้ว่าใช้ได้ดีสำหรับบางคน

สำหรับโควิต19...
ออกไปทำธุระถ้าเจอคนไอจามเดินสวนมา
ผมคิดว่ารีบ...อมฟ้าทะลายโจรคาปาก1-2เม็ด
...ย่อมดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
หรืออย่างน้อยที่สุดก่อนเข้านอนคืนนั่น
อมซะ อมซะ สักเม็ดก้อยังดี
ทนรสขมหน่อย...อมไปเม็ดสองเม็ดจะชินเอง
ไม่อมทุกคืน...อมเท่าที่จำเป็นนะครับ



(ด้วยความปรารถนาดีจาก...9@)

 

จำได้ว่าเมื่อประมาณต้นปี2561
เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสกราบนมัสการลพ.กล้วย
ที่วัดพุทธอุทยาน สำราญธรรม อ.ปักธงชัย
ในงานร่วมสร้างองค์พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม

วันนี้ท่านได้ละสังขารไปแล้ว
ตามรายละเอียดข่าวดังนี้

หลวงพ่อกล้วย เกจิดังวัดป่าธรรมอุทยานละสังขารแล้ว
9 พ.ค. 2564
1.48K 9


เพจวัดป่าธรรมอุทยานแจ้งศิษยานุศิษย์ หลังพระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร หรือ หลวงพ่อกล้วย ละสังขารแล้ว ส่วนกำหนดการพิธีอยู่ระหว่างการประชุมหารือ เน้นจัดเรียบง่าย

9 พฤษภาคม 2564 เพจวัดป่าธรรมอุทยาน โพสต์แจ้งศิษยานุศิษย์ว่า ขอแจ้งให้ทราบว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 9 พฤษภาคม 2564 พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย) ได้ละขันธ์แล้ว สำหรับรายละเอียดกำหนดการพิธี จะแจ้งให้ทราบทางเพจต่อไป

เบื้องต้นจากการสอบถามพระวรชัย ภูริญาโณ กล่าวว่า พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร หรือ หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน ขอนแก่น ได้ละสังขารแล้ว เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2564 เวลาประมาณ 14.00 น. ตั้งสรีระสังขารไว้ที่วิหารหยก วัดป่าธรรมอุทยาน กม.11 ถ.มิตรภาพ บ้านสำราญ-บ้านเพี้ยฟาน ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น แล้ว ส่วนกำหนดการพิธีต้องรอประชุมก่อนจึงจะทราบรายละเอียด

วาทะธรรม คำหลวงพ่อกล้วย- ทำกายให้เป็นวัด ทำจิตให้เป็นพระ แล้วหมั่นเจริญสติ เข้าไปเยี่ยมพระอยู่บ่อยๆ- กิเลสตัวไหนเกิดก่อน ก็กำจัดก่อน- อย่าประมาทในบุญเล็กบุญน้อย มีโอกาสก็ให้ทำบุญ- ธรรมนั้นมีอยู่ประจำโลก จิตของเรานั้นคือองค์ธรรม


ขอบคุณแหล่งที่มา...https://www.nationtv.tv


**************************************



(เพิ่มเติม)
สิริอายุ 61 ปี 39 พรรษา โดยตั้งสรีระสังขารไว้ที่วิหารหยก วัดป่าธรรมอุทยาน กม.11 ถ.มิตรภาพ บ้านสำราญ-บ้านเพี้ยฟาน ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น

 

วันอาทิตย์เช้านี้จะนำเสนอประวัติและปฎิปทา
ลพ.กล้วยแห่งวัดป่าธรรมอุทยาน อ.เมือง จ.ขอนแก่น

(อาจแบ่งแยกย่อยเป็นหลายตอน...เพราะยาว)

************************************

ส่วนตัวเป็นความซับซ้อนที่ได้กราบลพ.โดยบังเอิญ
ในงานพิธีเบิกพระเนตรมหาโพธิสัตว์กวนอิมที่ปักธงชัย
กว่าจะไปถึงงานปาเข้าไป9.30 ทั้งที่ควรถึงก่อน7.30
ด้วยหลงทางขับรถขึ้นเขาโซ่ตามที่ชาวบ้านแนะนำ
ทางชันเรื่องเล็ก แต่ทางขรุขระที่สุดเท่าที่เคยขับรถมา
เจอหลุุมบ่อทั้งใหญ่และลึกในทุกๆ5-10ม.
ชนิดที่ว่ารถกระบะยังต้องถอย
ถามรถท้องถิ่นที่วิ่งสวนมา เขาบอก...
"เก๋งขับขึ้นมาได้ไง"
"ทางแย่มากๆมาหลายเดือนแล้ว"

ทีแรกหวังว่าจะวิ่งทางลัด20กว่ากม.
ลงจากเขาวิ่งอีก20โลถึงหน้างาน
ที่ไหนได้เสียเวลาไปร่วม 2 ชม.
ไปถึงงานผู้คนล้นหลาม
แต่งานพิธีน่าจะใกล้จบ
ทำบุญไหว้พระมหาโพธิสัตว์กวมอิมตามความตั้งใจ
เดินหาเต๊นฑ์พระครูปลัด...ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจที่มางาน
ไม่พบครับ...จึงถามจนท.ๆบอก "ท่านมีงานอื่นจึงกลับก่อน"
เอ้า...3 เด้ง จึงปลอบใจตัวเอง...
"พระครูปลัดสุริยัณ คงต้องการให้ไปที่วัดป่าฉัพพรรณรังสี"

ระหว่างนั่นเห็นเต๊นฑ์หนึ่งญาติโยมมากเป็นพิเศษ
จึงเบียดเข้าไปกราบนมัสการท่าน
บัดดลนั่นเกิดความรู้สึกศรัทธาขึ้นมาทันที
ทราบชื่อภายหลังว่าคือลพ.กล้วย
(เออ...นามนี้คุ้นๆหู...เคยได้ยินจากอาจารย์นพ)

...จำได้ว่าหลายปีก่อนเคยขับรถวนหา
วัดป่าธรรมอุทยานแถวๆสระบุรี
(เข้าใจผิดอย่างจัง...ทั้งที่ลพ.อยู่ขอนแก่น)
วันนั่นขับรถผ่านค่ายอดิศรไป3-4กม.ยังอุตส่าห์ยูเทิร์นกลับไป
ถามชาวบ้านหลายครั้งไม่มีใครรู้จักสักคน
จนงงและท้อ...ต้องล้มเลิกความตั้งใจ

 

**เช้าวันนี้ขอเกริ่นด้วยบทนำสั้นๆก่อน**
(หลังจากนั่นจะทยอยนำลงเป็นครั้งคราว)
เพื่อไม่ให้ผู้สนใจที่เบื่ออ่านยาวๆ
โดยจะพยายามให้จบภายใน10วัน


*********************************

ประวัติและปฏิปทา
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
วัดป่าธรรมอุทยาน
ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น

ประวัติและคำสอนของพระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
วัดป่าธรรมอุทยาน บ้านสำราญ ตำบลบ้านสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
คัดลอกจากหนังสือโลกทิพย์ ปีที่ 25 ประจำเดือนสิงหาคม พ.ศ.2548 ฉบับที่ 425

พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
ผู้เข้าถึงพระธรรมตั้งแต่ยังไม่ได้บวช ผู้ออกผนวชเพราะว่างแล้วจากทุกสิ่ง

อีกครั้งกับคำแนะนำจากสมาชิกผู้อ่านหนังสือโลกทิพย์ นามว่า คุณเตื้อง-รัฐนันท์ เต็มไพบูลย์ ที่ได้นำภาพของพระพุทธรูป และการบันทึกเรื่องราวของหลวงพ่อกล้วย มาให้กองบรรณาธิการโลกทิพย์ และบอกว่าผมได้ไปกราบหลวงพ่อมาแล้ว ท่านมีข้อธรรมที่น่าสนใจ และคิดว่าเป็นประโยชน์กับคนอีกมาก จึงอยากให้กองบรรณาธิการโลกทิพย์ ลองพิจารณาดูและไปหาท่าน เพราะท่านยินดีต้อนรับทุกคนในทางธรรมเสมอ

เมื่อได้รับข้อมูลจากคุณเตื้อง-รัฐนันท์แล้ว ต่อจากนั้นประมาณ 1 เดือน ก็ได้ติดต่อไปหาหลวงพ่อ และไปกราบท่านที่วัดป่าธรรมอุทยาน อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ก็ได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อเป็นอย่างสูง รวมไปถึงความเป็นกันเองของคณะศรัทธาลูกศิษย์ของหลวงพ่อกล้วยด้วย ที่อำนวยความสะดวกทุกๆ อย่างให้ ทางกองบรรณาธิการก็ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วย

ในขณะที่ได้เข้าไปกราบ หลวงพ่อท่านก็พูดขึ้นทันทีว่า ต้องการธรรมะก็อยู่ที่ตัวเราทุกสิ่งทุกอย่าง ส่วนวิธีการปฏิบัติตามพระธรรมในพระพุทธศาสนา ก็มีทั้งขั้นต่ำ ขั้นกลาง และขั้นสูง ผู้ปฏิบัติเลือกปฏิบัติได้ตามสมควรกับอุปนิสัยของตน และที่สุดแล้วหลวงพ่อท่านก็เน้นย้ำคำว่า เรื่องการปฏิบัตินั้นจะต้องมีจุดหมายปลายทาง คือ ความสะอาด ความบริสุทธิ์ และการจะได้มาซึ่งความสะอาด ความบริสุทธิ์ นี้ต้องขยันหมั่นเพียร ทั้งกลางวันและกลางคืน อยู่ทุกขณะจิต ธรรมชาติของจิตจะต้องสะอาด และการปฏิบัติธรรมต้องทำเอาเอง แล้วต้องตามดูอยู่ทุกขณะจิต พร้อมทั้งแยกแยะตามความเป็นจริง และที่น่าสนใจมากสำหรับฆราวาสอย่างเราๆ ท่านๆ คือท่านบอกว่าการทำงานก็คือการปฏิบัติธรรม เวลาทำงานก็ตาม ก็ดูจิตไปด้วย เมื่อเรารู้จิต มีสติแยกแยะได้อย่างถูกต้อง เราก็จะเป็นผู้สะอาด บริสุทธิ์ ในที่สุด ดังที่หลวงพ่อได้เทศน์ฝากถึงผู้อ่านโลกทิพย์ดังนี้



(ยังมีต่อ)

 

นู๋เคยอ่าน เมื่อวิบากกรรมเข้าแทรก เวลาภาวนาไม่ได้ให้นึกถึงบุญกุศลเข้าไว้ ยังคิดว่าจะภาวนาไม่ได้ๆยังไงแค่สวดมนต์ : ปรากฎว่าอยู่ดีๆเกิดมิจฉาฑิฏฐิไปเป็นอาทิตย์ อยากเปลี่ยนศาสนา หดหู่ ไม่อยากอยู่บนโลกนี้แล้ว ทำดีไม่ได้ดี โทษโน่นนี้ไปเรื่อย ใจนึงคิดแบบนี้อีกใจนึงก็อย่านะโว้ยตัวกุ ก็เลยพิจารณาตามความเป็นจริงไปเรื่อยๆ ก่อนนอน / พอวันวิสาขบูชา ตื่นมาปุ๊ปหายปั๊ป กำลังใจมาจากไหนไม่รู้ เหมือนคนมีไฟ แบบฟ้าถล่มดินทลายก็ไม่เป็นไร จำความรู้สึกตอนหดหู่ไม่ได้เลย ยังคิดอยู่นะว่าเวรกรรมรึเป็นไบโพล่าเนี่ย 55

 

เคลิ้มๆฝันเห็นงูสีขาวสองตัวขู่ฟ่อๆจะฉกกันครับ แต่พอลืมตาก็เหนงูสีขาวสองตัวนี้ค่อยๆเลือนหายไป อีกตัวตาสีฟ้า กับอีกตัวตาสีแดง

 

100X100-100 งู 6
2 ตัว 66

 

นู๋ฝันว่าได้พระมา 2 องค์ พระผง1 หลวงปู่ดู่รูปหล่อขนาดประมาณ 1 นิ้ว วางอยู่บนมือ ปรากฎว่าพระผงแตกหักแหลกคามือเลย ส่วนหลวงปู่ในฝันเหมือนถืออะไรไว้ ตรงที่ถือไว้ก็หักออกมา อย่างนี้จะเรียกว่าฝันดีไหมเนี่ย อุตส่าห์ฝันถึงพระทั้งที

 

ฝันคล้ายกัน หลวงปู่ดู่มาที่บ้านและให้พระผง 5 องค์ มีองค์นึงแตกไป
ท่านบอกว่าให้ไปสวดคาถาถอนของ ฝันแบบนี้ต้องคิดให้ลึกลงไป
ตอนนั้นผมไปยุ่งกับคนที่โดนของ หลวงปู่ดู่เลยมาสงเคราะห์
ส่วนเรื่องพระแตกถ้าในจิตที่แว๊บออกมาตอนคุณเล่า เหมือนที่พระผมแตก
น่าจะแปลว่า พระอยู่ในใจ วัตถุทุกอย่างเสื่อมไปตามกาลเวลา
ถ้าเรามีพระรัตนตรัยในใจ เราก็ผ่านอุปสรรคทุกอย่างได้ เหมือนมีพระอยู่ในใจ หรือถ้าให้ตีอีกแบบที่หลวงปู่เคยพูดไว้คือ ระลึกถึงหน้าหลวงปู่ไว้ แล้วหลวงปู่จะมาช่วยหรืออะไรนี้แหละครับ
มีธรรมในใจใครก็เอาไปไม่ได้ ลักขโมยไปไม่ได้หรือจะแปลได้ว่าบุญกุศลหมั่นทำ สาธุๆ