ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

เทวดาฮักษาเพิ่นหลายแท้!

เคยได้ยินพระผู้เฒ่าเล่าให้ฟัง...อยู่กรุงเทพฯ หน่ะ ฮู้จักแม่หญิงเทพฯ บ่หล่ะ...?
ผม......... รู้จักอยู่ครับ
หลวงปู่....แม่หญิงนี่บ่ธรรมดาเด๊ เป็นแม่หญิง แต่บารมีเพิ่นหลาย มื้อเฮาไปกรุงเทพฯ พักอยู่ มีเทวดาเข้ามาหาเฮา มารายงานตัวกะเฮา ๆ ถามว่ามาแต่ไส เพิ่นรายงานให้ฟังว่า เพิ่นออกจากเวรผลัดรักษาแม่หญิงเทพฯ แม่หญิงมีเทวดาเฝ้าฮักษา จำนวน ...ผลัด ผลัดละ....องค์ แล้วท่านก็หัวเราะ ... เทวดาฮักษาเพิ่นหลายแท้ บ่ธรรมดาเด้ นี่...บ่อธรรมดา พวกเจ้าให้เคารพเพิ่นเด้ บารมีเพิ่นหลายแท้ แม่หญิงนี่.....

พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ
________________________
ปล.ไม่ได้กล่าวถึงเป็นไปในทางพิสดารอะไร แต่ลงเอาไว้เป็นที่ระลึกถึงองค์พระอาจารย์ ให้ได้ระลึกถึงเป็นสังฆานุสติแลอาจาริยบูชาเท่านั้นครับ
cr. กร อนันตกาล

 

เหรียญกฐิน ลป.จาม ปี 2555 ราคาพันกว่าบาท เรื่องพลังงานไม่ต้องพูดถึง พลังงานพระโพธิ์สัตว์แท้ กำหนดดูพลังท่านมือสะเทือนเลย ใครพบเจอหาไว้เลยครับ มีโค๊ตอยู่ปลอมยาก ของดีจริงๆ ท่านพิสดารมาก

 

"พระคุณบิดา มารดา คุณวิเศษที่เหนือเครื่องราง ทั้งปวง "

พวกไอ้เสือทั้งหลายเหล่านี้ มักจะมีความสามารถทางคงกระพันชาตรี แล้วเกิดฮึกเหิมขาดศีลธรรม ทำให้เขาต้องประพฤติตัวออกนอกลู่นอกทางไปในที่สุด แต่บางคนไม่มีพระ ไม่มีคาถาอาคม ก็ยังสามารถรอดจากภยันตรายได้ เรื่องมีว่า มีคนเหนือไปทำงานแถบปราจีนบุรี ซึ่งมีพวกเขมรมาก และเกิดไปขัดใจกับพวกนั้น พวกเขมรนั้นเก่งทางทำของ ทำคุณไสยศาสตร์ เขาก็ปล่อยมาให้เจ้าคนนี้ แต่ก็น่าแปลกใจที่ไม่สามารถทำอะไรได้ จนในที่สุดคนทำของเกิดความสงสัยจึงไปถาม

เขาตอบว่า "ไม่มีเครื่องรางของขลังอะไรเลย คาถาอาคมก็ไม่มี แต่ก่อนจะนอนทุกคืนต้องกราบหมอน ไหว้พ่อ ไหว้แม่ เป็นเช่นนี้มิได้ขาด"

คนทำของจึงบอกว่า "คืนนี้แกอย่าไหว้พ่อ ไหว้แม่นะ ข้าจะปล่อยของแล้วจะแก้ให้"

เขาก็ทำตาม ตอนนี้เป็นเพื่อนกันแล้ว คืนนั้นก็ปล่อยของเข้าตัวได้ แล้วเขาก็แก้ให้ นี่ขนาดไหว้พ่อ ไหว้แม่นะ ทำให้จริงยังสามารถป้องกันตัวได้ หลวงปู่สอนให้พวกเรามีความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ และผู้มีพระคุณทั้งหลาย

...............................
เรื่องเล่าจาก หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก

#พระคณาจารย์ อาจารย์บางท่าน ท่านมีเคล็ดแนะนำ ให้เราหาแผ่นเงิน แผ่นทอง (ที่ใช้ทำตะกรุด) บางท่านทุนน้อยก็ใช้ทองแดงก็ได้ นำมาให้พ่อ แม่ เขียนคำอวยพร สิ่งที่เป็นมงคลใส่แผ่นตะกรุด เช่น ขอให้ลูกพบแต่ความสุขความเจริญ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง เสร็จแล้วเอาเส้นผมของพ่อแม่ใส่ และให้พ่อแม่ อธิษฐานจิต

เชื่อกันว่านี้เป็นจิตที่บริสุทธิ์ ของบุพการี ผู้ให้กำเนิด พระอรหันต์ของลูก เทพยดา จะรับรู้มาช่วยคุ้มครองรักษา ไม่มีพ่อแม่ คนไหนอยากเห็นลูก ฉิบหาย วายวอด ตายโหง และถ้าจะให้ครบถ้วน ก็นำไปให้พระเกจิ ที่เรานับถือ ที่อธิษฐานจิต จึงครบถ้วน คุณพระพุทธคุณ ครูอาจารย์ คุณบิดามารดา เทพยดา

.................
#ยกตัวอย่าง ในที่นี้วงการพระ คงไม่มีใครไม่รู้จัก หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก ยอดเกจิเมืองชลฯ
วัตถุมงคลของท่าน มีประสบการณ์เหลือคณานับ เกจิแถบภาคตะวันออก หลายท่านก็ยกย่องท่าน แต่ท่านเคยกล่าวว่า

"แกอยากได้วัตถุมงคล ที่เหนือกว่า ของฉันไหม ?" ของท่านขลังขนาดไหน ใครๆ ก็รู้ ที่เหนือกว่าของท่านอีก

"แกกลับไปบ้านนะ แล้วหาแผ่นโลหะจะเป็นอะไรก็ได้นะ แล้วเอาเส้นผมของแม่วางลงบนแผ่นโลหะนั้นแล้วม้วนเข้าด้วยกันเป็นตะกรุด แล้วแกก็เอาไปให้แม่อธิษฐานให้

ตอนแม่อธิษฐานให้พรแก แกลองฟังดูซิว่าเขาจะว่าให้ แกตาย แกเสื่อมไหม ถ้าทุกคำพูดมีแต่เรื่องดีไม่มีแช่งล่ะก็ ตะกรุดนั้นไม่มีเสื่อมหรอก ดียิ่งกว่าใคร ๆ ทำให้นะ

ตะกรุดของฉัน ก็ไม่สู้ตะกรุดของแม่แกหรอก เพราะฉันรักแก ไม่เท่าแม่แก"
.......................................
หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก จ.ชลบุรี

และมีอีกเคล็ดหนึ่ง คือ ให้เรานำพระเครื่องที่เราใช้อยู่ประจำให้พ่อแม่ อธิษฐานเหมือนฝากเราไว้กับพระ " ขอให้หลวงพ่อคุ้มครอง ลูกของลูก ให้แคล้วคลาดปลอดภัย ........ " เช่นกันเราก็สามารถ อธิษฐานให้กับพระ ที่พ่อแม่ ใช้ติดตัวได้ เป็นจิตที่บริสุทธิ์ที่ บุพการีมีต่อบุตร บุตรมีต่อบุพการี จิตของพ่อแม่ และหลวงพ่อ ที่เรานับถือ แค่นี้ก็ศักสิทธิ์แล้ว

ปล. ลป.ม่นนี่พลังจิตไม่ต้องพูดถึง แรงถึงใจ เมื่อตอนอายุ 26-27 ผมผ่านไปหน้าวัด ให้คนขับรถเลี้ยวเข้าวัด เจอพระอุปัฏฐากเข็นรถนั่งให้ท่านนั่งแล้วเข็นไปเรื่อยแบบเวียนจงกรมในศาลาวัดข้างพระอุโบสถ เลยขออนุญาตขอถวายปัจจัยรักษาธาตุขันธ์ุท่านๆ หยิบเหรียญจากอังสะของท่านยื่นมาให้ผม 1 เหรียญ โดยบอกกับผมว่า เก็บให้ดีน้ะ เหรียญนี้เค้าว่ายิงไม่ออก ปัจจุบันนี้ผมยังเก็บเหรียญนี้อยู่เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงท่าน เหรียญนี้เป็นเหรียญรุ่น "ธรรมรักษา" ครับ เหรียญนี้ตามรูปผมเอามาจากลาซาด้า ไม่น่าเชื่อ ราคาผ่านมาเกือบ 30 ปี ราคา ไม่ถึง 300 บาท แต่โทดที แรงส์จริง ถ้าหารุ่นนี้ไม่ได้ แนะนำรุ่น"เมตตา" ครับ ท่านเสกยังงัยไม่รู้พลังงานสุดติ่งทีเดียว

 

หลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาส ขลังจริงๆ

หลวงพ่อเจริญเล่าให้ฟัง
หลวงพ่อเจริญอดีตเจ้าอาวาสวัดดอกไม้ ได้จัดสร้างเหรียญหลวงปู่พรหมชินสีห์และวัตถุมงคลอื่นๆ เพื่อจะจัดงานฝังลูกนิมิต ได้นินมต์พระเกจิอาจารย์มานั่งปรกเป็นจำนวนมาก หลวงพ่อเจริญเล่าว่าในการปลุกเสกครั้งนั้นพระเกจินั่งปรกแบบเต็มที่ จะนั่งปรกนานแค่ไหนก็แล้วแต่อัธยาศัย องค์ไหนปลุกเสกเสร็จแล้วจะกลับก่อนก็ได้ แต่พระเกจิส่วนใหญ่ก็จะรอนั่งปรกปลุกเสกพร้อมกัน องค์ไหนที่มาไกลก็พักค้างคืนที่วัดดอกไม้ ฉันเช้าแล้วค่อยเดินทางกลับก็มีอยู่หลายองค์ คืนนั้นพอปลุกเสกเสร็จหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม และหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่ามได้ถามหลวงพ่อเจริญว่า หลวงพ่อองค์นี้อยู่วัดไหน หลวงพ่อเจริญบอกว่า องค์นี้หลวงพ่อวงษ์ อยู่วัดปริวาสอยู่ใกล้ๆกับวัดดอกไม้นี้แหละครับ หลวงพ่อเงินกับหลวงพ่อเต๋บอกกับหลวงพ่อเจริญว่า
“ ต่อไปถ้ามีพิธีอีกนิมนต์แค่องค์นี้องค์เดียวก็พอแล้ว ไม่ต้องนิมนต์ใครให้ยุ่งยาก “
วัดปริวาสราชสงคราม ถ.พระราม3

ปล.จากผม ทุกวันนี้ ลูกศิษย์ท่านคือ ลพ.สมชายก็ขลังไม่เบา เคยเอามือสัมผัสรูปท่านดู พลังวาบมาเลย สนใจไปกราบท่านได้ เห็นว่าใจดี แต่ผมยังไม่เคยไปครับ กลัวโคมันกัดเอา ลพ.วงษ์ท่านเก่งทางด้านเสือเหมือน ลพ.ปาน แต่เสือท่านเป็นโลหะ แต่ตอนนี้ราคาแพงล่ะ รุ่นที่นิยมกันหมื่นต้นๆ เชียว เสือของ ลพ.สมชาย หลักร้อยเอง หาเก็บไว้ก่อนก็แล้วกัน

หลวงพ่อสมชาย วัดปริวาส ศิษย์ผู้ที่ได้รับการครอบครูจาก หลวงพ่อวงษ์


​

 

ร่วมบุญด้วยค่ะ

 

ผมขอร่วมบุญฝากกระแสกับ "ศ. ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร" เพื่อบริจาคเงินบำรุงโรงพยาบาลสงฆ์และโรงพยาบาลอื่นๆ เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาลภิกษุสงฆ์หรือสามเณรอาพาธ (11-05-21 โอน 300 บ.) อนุโมทนา สาธุ ครับ

 

ประมาณการ การบริจาคประจำเดือน พ.ค.64 ของ รพ.ภูมิภาคทั้ง 8 แห่ง ดังนี้

- รพ.เชียงแสน จ.เชียงราย 4,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน 4,000.-
- รพ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน 6,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย 6,000.-
- รพ.มหาราช จ.เชียงใหม่ (ผ่านมูลนิธิ รพ.สวนดอก) 4,000.-*
- รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 5,000
- รพ.50 พรรษาฯ จ.อุบล 4,000.-
- รพ.ปัตตานี จ.ปัตตานี 4,000.-

รวม 37,000.-

*ได้ทราบจาก พยาบาลประจำหอสงฆ์อาพาธ รพ.มหาราชว่า มูลนิธิ รพ.สวนดอกก็คือ มูลนิธิที่ตั้งขึ้นใหม่ของ รพ.มหาราช ตามนโยบายของ ผอ.คนใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจงนำรายได้จากการบริจาคทั้งหมดใช้ในหอสงฆ์อาพาธเช่นการรักษาพยาบาลและเครื่องมือแพทย์รวมถึงแพทย์ผู้ทำการรักษา ส่วน กองทุนนิธิสงฆ์เดิมที่เคยบริจาคไว้แต่ก่อนนั้น ตอนนี้นำรายได้เดิมทั้งหมดไปรวมกับรายได้จากการบริจาคอื่นๆ ของรพ. โดยนำรายได้เพียง 10% ตัดมาใช้เป็นค่ายา ของพระสงฆ์อาพาธเท่านั้น ดังนั้นเพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ในการตั้งทุนนิธิฯ นี้ ผมจึงขอย้ายการบริจาคจากเดิมเพื่อมาบริจาคตรงเข้าหอสงฆ์อาพาธ ในนามของมูลนิธิ รพ.สวนดอกครับ

พันวฤทธิ์
30/5/64

วันนี้ได้ดำเนินการโอนเงินบริจาคไปยัง รพ.ต่างๆ เรียบร้อยแล้วครับ

พันวฤทธิ์
8/6/64

 

หลวงปู่โต๊ะ ประลองพลังจิต หลวงปู่ทิม

หลวงปู่โต๊ะ วัดประดูฉิมพลี กับ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เป็นเกจิอาจารย์ยุคหลังสองพันห้าร้อย ที่พระเครื่องท่าน เป็นที่นิยมมาก มีสนนราคาแพงกว่าเกจิรุ่นก่อน อีกหลายองค์
เมื่อปีพ.ศ.๒๕๑๘ วัดโพธิสัมพันธ์ ชลบุรี ได้มีการสร้างพระเครื่อง เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเจ้าอาวาสองค์ก่อน ล.พ.บุญมี ในงานได้จัดสร้างพระเครื่องไว้หลายแบบ มีทั้งพระเครื่องเนื้อผง และ เหรียญ
เมื่อพระเกจิเข้าประจำที่เรียบร้อย ปรากฏว่า ครั้งนั้น ได้จัดให้หลวงปูโต๊ะ นั่งข้างกับหลวงปู่ทิม ที่ใกล้พระประธาน
ทำให้หลวงปู่โต๊ะ มีความสนใจในหลวงปู่ทิม พอพิธีเริ่ม หลวงปู่โต๊ะ จึงเดินกระแสจิตเต็มกำลัง เข้าไปที่วัตถุมงคล ถ้าเป็นธรรมดาเกจิท่านจะค่อยเดินจิตเข้าไปแบบเรื่อย เพื่อรอองค์อื่นด้วย
แต่ครั้งนี้ หลวงปู่โต๊ะ ทำเช่นนั้น เพราะอยากจะดูว่า หลวงปู่ทิม จะเดินพลังจิต เข้ามาตามได้หรือไม่ หลวงปู่ทิม ก็รู้เจตนาหลวงปู่โต๊ะ จึงเดินพลังจิตเต็มที่เช่นกัน
เกจิทั้งสององค์ ยิ่งเดินพลังจิตมาก ยิ่งสนุก คราวนี้ ทั้งสององค์อัดกันไม่ยั้ง ทำเอาเกจิองค์อื่น เดินจิตเข้ามาแทรกไม่ได้
เกจิที่มาเล่าเรื่องนี้คือ หลวงปู่เริ่ม ปรโม ท่านพูดว่า เกจิที่ท่านยอมจริง มีอยู่สององค์ ที่ฉันสู้ไม่ได้จริงๆ ลูกศิษย์เลยถามว่า องค์ไหนครับ ท่านก็ตอบว่า หลวงปู่ทิม กับ หลวงปู่โต๊ะ แล้วท่านก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อคราวปลุกเสกที่วัดโพธิสัมพันธ์ ท่านทั้งสององค์ อัดพลังกัน จนฉันพยายามจะแทรกเข้าไปตั้งหลายครั้ง แต่ไม่สามารถแทรกเข้าไปได้เลย ฉันเลยต้องยอม นั่งสมาธิเฉยๆ
ครั้งนั้น เมื่อพิธีพุทธาภิเศกจบลง หลวงปู่โต๊ะ ได้ลงจากธรรมมาส เดินไปกราบหลวงปู่ทิม พร้อมกับชมว่า "พระภูธรนี่เก่งจริงๆ" หลวงปู่ทิม ก็ตอบกลับว่า"พระเมืองกรุงก็ไม่เบานี่"

​

 

***เหตุใด !! "หลวงปู่แหวน ท่านจึงเอาแบงค์ 500 มามวนสูบบุหรี" เล่าโดย หลวงปู่มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด***
หลวงปู่วัดบ้านตาด จ.อุดรธานี
เล่าเรื่องหลวงปู่แหวน ท่านเอาแบงค์ 500 มาพันเป็นมวนบุหรีสูบดังนี้(คัดจากหนังสือชาติสุดท้าย "พระธรรมวิสุทธิมงคล" "เพรชน้ำหนึ่งในวงกรรมฐาน" )
มีเรื่องราวดังต่อไปนี้
ลูกศิษย์ : นึกถึงท่านหลวงตาฯ เทศน์ถึงเรื่องของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ที่กล่าวถึงท่านสูบบุหรี่ ที่ว่าเอาแบงค์ 500 มาพันแล้วสูบ
หลวงตา (มหาบัว): นั่น ละเห็นไหม..คือท่านวางตามหลักธรรมชาติไม่ให้สมมุติเข้าไปเกี่ยวข้องกับจิต ว่าเป็นโทษเป็นคุณอะไรเลย..ท่านทำเป็นกรณีพิเศษให้โลกทั้งหลายได้เห็น ท่านเอาธนบัตรใบละห้าร้อย อยู่ๆ ท่านก็นำมามวนบุหรี่ เสร็จแล้วท่านก็จุดไฟสูบเฉย ไม่สนใจกับใครนะ นั่นใครจะไปว่าท่านเป็นอาบัติไม่ได้นะ......คือนี้เป็นกิริยาสมมุติ ท่านใช้ให้สมมุติทั้งหลายได้เห็น ถ้าท่านไม่ทำท่านก็ไม่เห็น คือวิมุติจิตนั้นหมดแล้ว เรื่องสมมุติที่จะเข้าไปอาจเอื้อมถึงไม่มีเลย คำว่าสมมุติโดยกระการทั้งปวง เช่นโทษคุณเหล่านี้เป็นสมมุติทั้งหมด อันนั้นเลยหมดแล้ว เช่นอย่างสูบบุหรี่ ท่านสูบบุหรี่ด้วยธนบัตรใบละห้าร้อย ท่านก็สูบเฉยท่านไม่มีอะไรนะ พวกดูข้างหลังเป็นบ้าตาจ้อเลยหละ (เสียดาย) ท่านเฉย ท่านไม่สนใจ คือทำให้ดู..
แต่ก่อนใครจะรักษาพระธรรมวินัยเคร่ง ครัดยิ่งกว่าท่านบทเวลาท่านออก ที่ออกหาหลักธรรมวินัย ที่เป็นสมุตินี้ทั้งหมดอยู่ข้างบน แล้วก็มาเกี่ยวข้องกับสมมุตินี้ เอาธรบัตรใบละห้าร้อยมาสูบบุหรี่เฉย....นี่ใครจะมาว่าท่านเป็นอาบัติ ไม่ได้นะ คือธรรมชาติของท่านเลยทุกอย่างแล้ว คือเหนือสมมุติแล้ว ท่านรักษาเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ในระหว่างขันธ์ที่มีชีวิตอยู่เท่านั้นแหละ เวลาท่านจะแสดงออกมาในกรณีพิเศษท่านก็เอาใบธรบัตรใบละห้าร้อยมามวนแล้วก็สูบ เฉยสบายเลย อย่างงั้นแล้วเห็นไหมละ คืออันนั้นเลยทุกอย่างแล้วขึ้นชื่อว่าสมมุติ ไม่มีสมมุติใดแม้เม็ดหินเม็ดทรายจะไปแทรกจิตที่บริสุทธิ์เต็มที่ของท่านแล้ว นั้นได้เลย ทีนี้โลกไม่เห็นท่านจึงนำมาแสดงให้เห็นกัน...

​

 

ผมขอร่วมบุญฝากกระแสกับ "ศ. ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร" เพื่อบริจาคเงินบำรุงโรงพยาบาลสงฆ์และโรงพยาบาลอื่นๆ เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาลภิกษุสงฆ์หรือสามเณรอาพาธ (09-06-21 โอน 300 บ.) อนุโมทนา สาธุ ครับ

 

เมื่อวันก่อนทาง รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย (รพร.ด่านซ้าย) ส่งรายงานการรักษาพระสงฆ์ สามเณรและแม่ชี ตั้งแต่ต้นปีมาให้ทราบ จึงขอนำมาลงไว้เพื่อให้โมทนาบุญกัน โดยค่ารักษาพยาบาลดังกล่าวนี้ ใช้เงินจากที่ทุนนิธิฯ เราบริจาคไปล้วนๆ ครับ

พันวฤทธิ์
19/6/64

 

การบริจาคประจำเดือน มิ.ย.64 ของ รพ.ภูมิภาคทั้ง 8 แห่ง ดังนี้

- รพ.เชียงแสน จ.เชียงราย 4,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน 4,000.-
- รพ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน 6,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย 6,000.-
- รพ.มหาราช จ.เชียงใหม่ 4,000.-(ผ่านมูลนิธิ รพ.สวนดอก)
- รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 5,000 (ผ่านมูลนิธิ ลป.เทสก์)
- รพ.50 พรรษาฯ จ.อุบล 4,000.-
- รพ.ปัตตานี จ.ปัตตานี 4,000.-

รวม 37,000.-

ผมได้เบิกเงินจากบัญชีมาแล้วและจะทยอยส่งเงินบริจาคไปยัง รพ.ต่างๆ ในสัปดาห์นี้ครับ

พันวฤทธิ์
4/7/64

 

ร่วมบุญกับ "ศ. ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร" เพื่อบริจาคเงินบำรุงโรงพยาบาลสงฆ์และโรงพยาบาลอื่นๆ เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาลภิกษุสงฆ์หรือสามเณรอาพาธ (06-07-21 โอน 100 บ.) อนุโมทนา สาธุ ครับ

 

สงบ เย็น

#บางคนให้ทานได้อย่างเดียว
แต่เป็นทานขั้นสูง ให้ด้วยใจบริสุทธิ์
ให้ด้วยจิตว่างโดยไม่หวังอะไร
ตอบแทน
บางคนเจริญสติภาวนา ได้ในขั้นต้น
ทำทานไม่เป็น รักษาศีลได้บ้างไม่ได้บ้าง
คนมีหลายจำพวก หลายจริต เราไม่รู้ว่า
ใครเป็นใคร แต่เรารู้ว่าเราเป็นเรา
เราเป็นเราในที่นี้ คือ เราอยากมีความ
สงบสุข ความสงบสุข สบายใจ
ก็ไม่ได้เกิดที่ไหนได้เลย นอกจากที่ใจ
จะทำให้ใจมันเย็นได้ ก็ต้องรู้จักปล่อย
วาง ละ รู้จักให้อภัยกัน
อย่างเช่น เมื่อถูกยุงกัดแทนที่จะตบมัน
เพราะโกรธที่มาทำให้เราเจ็บ
คนที่ให้ทานเป็นก็น้อมนำว่า ยุงมันหิว
ให้มันกินเลือดนิดเดียว ยอมทนเจ็บ
อภัยให้มัน คือ รู้จักให้อภัยทาน
แบบคนทำทานเป็น
คนที่รักษาศีลเป็น เค้าก็จะรู้ว่าถ้า
ตบมันเป็นปาณาติปาต เค้าก็จะไม่ทำ
คนที่เจริญสติเป็นอาจจะให้อภัยได้
โดยการน้อมนำว่า เรามีจิตที่เจริญแล้ว
ย่อมมีความยับยั้ง มีความเมตตาต่อสัตว์
ที่ไม่มีโอกาสได้เจริญสติ อภัยทานให้
เหล่านี้เป็นการชำระความโกรธ
ด้วยธรรมข้ออภัยทาน
เมื่อเห็นคนที่ให้ทานไม่เป็น เช่น
วิทยาทาน ไม่ยอมสอนการบ้านเพื่อน
ทั้งๆ ที่ไม่ได้เสียอะไรเลย คนที่ทำทาน
เป็นก็ควรมีอภัยทานให้อภัยเค้า เพราะ
ถ้าเค้ารู้จักให้ทานเค้าคงไม่ทำแบบนี้
เราก็สอนซะเองเลย
เมื่อคนที่ทำทานเป็น พูดเรื่องศีล
แต่พูดถูกๆ ผิดๆ เพราะเขาเพิ่งจะหัด
รักษาศีล คนที่รักษาเป็นแล้ว ย่อมมี
ความเมตตาว่า เราจะไม่โต้ตอบ
ด้วยคำพูดที่ส่อเสียด เพราะเราเป็น
ผู้ที่รักษาศีลเป็นแล้ว ย่อมให้อภัย
แก่ผู้ที่รักษาศีลไม่เป็น จะช่วยเมตตา
แนะนำตามภูมิของเรา
คนที่เจริญสติเป็นแล้ว เห็นความไม่พอใจ
เกิดได้แล้ว สามารถระงับความไม่พอใจ
ที่เกิดขึ้น หากมีผู้ใดแสดงออกทาง กาย
วาจา ใจ ให้ความไม่พอใจเกิดขึ้น
เราจะระงับใจว่า เพราะเขาไม่มีสติ
เจริญสติไม่เป็น ไม่สามารถยับยั้ง
การพูด การแสดงออก ไม่สามารถดูแล
จิตใจตัวเองได้ เราย่อมให้อภัยทานแก่
ผู้ที่ปฏิบัติได้น้อยกว่าด้วยความเมตตา
ผู้มีสติปัญญามากกว่า ย่อมหาความ
สงบสุขให้แก่ใจ ด้วยอภัยทาน
ดังนั้น ผู้ที่มีปัญญาแล้ว ย่อมอย่าให้
ความโกรธ อย่าให้กิเลสควบคุมจิตใจ
หากมีการพลั้งเผลอ เราก็ให้อภัยตัวเอง
ยกโทษให้ตัวเอง เอาความผิดครั้งนี้
ไปปรับปรุง ด้วยว่ากำลังสติยังน้อย
ไม่ต่อเนื่อง รู้จักดูแลไม่ให้จิตเจือ
ด้วยความทุกข์ ด้วยกิเลส โดยอภัยทาน...
#หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป
วัดอรัญญวิเวก จ.เชียงใหม่

 

เชื่อมั้ยว่าครูอาจารย์บอกว่า ลป.ม่น กับ ลป.ทิม พลังจิตไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่ากันโดยเฉพาะขุนแผน ลป.ม่น ไม่เกิน 500 หาซื้อได้ แต่พลังงานภายในเทียบเคียงกับขุนแผนพรายกุมาร ลป.ทิม หลักแสนสบายมาก

หลวงปู่ม่น ธรรมจิณโณ (พระครูสุจิณธรรมวิมล) วัดเนินตามาก จังหวัดชลบุรี หนึ่งในพระเกจิ ผู้ที่มีจารวัตร งดงาม น่าเคารพเลื่อมใส เคร่งครัดในพระธรรมวินัยอย่างยิ่ง จิตใจสะอาดผุดผ่อง โดยส่วนตัวของท่านนั้นพูดน้อย และมักหยิบข้อคิดให้ญาติ-โยมได้ขบคิดถึงผลกาลต่างๆ อีกทั้งยังเป็นพระเถระผู้พัฒนาสังฆาราส สมณสถาน และเป็นพระเถระผู้มีเมตตาจิต ที่มีลูกศิษย์ทั่วประเทศ มักมีคนกล่าวถึงท่านในหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็นไปในทำนองอภินิหาร หรือ อิทธิฤทธิ์แทบทั้งสิ้น และเมื่อได้ศึกษาชีวประวัติของหลวงปู่จากลูกศิษย์ของท่าน จึงทราบว่าแม้ท่านจะเคยฝักใฝ่ในทางไสยศาสตร์มนต์ดำมาก่อน แต่ก็มิได้ถูกจริตกับตัวท่านเองและได้หาวิธีหลุดพ้นด้วยตัวของท่านเอง โดยการปลีกวิเวก เจริญภาวนาจิต ถึงครั้งเมื่อสำเร็จแล้วก็มองเห็นลูกศิษย์ยังไม่หลุดพ้น ท่านก็มีเมตตาจิตเพื่อช่วยเหลือ ญาติโยม ท่านก็ทำเท่าที่จำเป็นเพื่อสงเคราะห์ตามศรัทธา มิได้มุ่งหวังอามิสบูชาสิ่งใดอันก่อให้เกิดกิเลสแม้แต่น้อย
อย่างที่กล่าวในข้างตันหลวงปู่เน้นของมงคลที่เกิดการสักการะบูชา มากกว่าวัตถุอาถรรพ์ที่ค่อยเหนี่ยวรั้งหรือเบียดเบียนชีวิต อันจะเห็นได้จากส่วนผสมของวัตถุในพระขุนแผนที่เมตตาให้ศิษยานุศิษย์สายเมืองชลบุรีได้จัดสร้างถวาย พร้อมมอบผงพุทธคุณบางส่วนให้ไปเป็นส่วนผสม พระชุดนี้เรียกได้ว่าเป็นวัตถุมงคลยิ่งควรแก่การสักการะบูชาติดตัว แม้แต่คนในพื้นที่ยังแทบจะหาครอบครองได้ยาก....

ส่วนผสมมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระขุนแผน อันได้แก่
1. ผงเกสร ๙ วัดจากพระอุโบสถอันได้มาจากพระอารามหลวงต่างๆ
2. ผงข้าวสารหิน จากเมืองพระรถ พนัสนิคม
3. ผงยาจินดามณี หลวงปู่เจือวัดกลางบางแก้ว จากต้นตำรับผงยาจินดามณีอันลือชื่อ
4. ผงพุทธคุณเสาร์ ๕ จากพิธีเสาร์ห้าปี 2536 ของหลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก โดยผงส่วนใหญ่ท่านทำมาตั้งแต่ปี 33
5. ผงโภชฌค์บริพัตร จากคณาจารย์สายหลวงปู่สนธิ์
6. ผงรัตนมาลา จากคณาจารย์สายวัดประดู่ทรงธรรม จ.อยุธยา
7. ผงโสฬสมงคลพิศดาร จากหลวงปู่เฮี้ยง วัดป่าอรัญญิกาวาส จ.ชลบุรี
8. ผงพระจันทร์ครึ่งซีก ของเจ้าคุณวิเชียร วัดเครือวัลย์ จากคณาจารย์สายหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัด
9. ผงมหาพุทธคุณ ของหลวงปู่เหมือน วัดกำแพง
10. ผงมงคลวิเศษอื่นๆ จากคณาจารย์ในชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียง
11. ผงปัทมัง
12. ผงอิทธิเจ
โดยจำแนกออกได้เป็น 4 เนื้อ คือ
1. เนื้อสีขาว ส่วนใหญ่จะเริ่มจากเนื้อนี้โดยการผสมมวลสาร จะแก่ผงพุทธคุณปัทมังและอิทธิเจ
2. เนื้อสีเหลืองจะใส่ผงขมิ้นเสก และว่านสาวหลง(ว่านดอกทอง) ลงไปในส่วนผสมก่อนหน้านี้
3. เนื้อสีชมพูจะใส่เนื้อว่านสบู่เลือด ผสมปูนกินหมาก
4. เนื้อสีเทาจะใส่ผงธูปและผงใบลาน ลงไปในส่วนผสม

รูปแบบ 1. มีทั้งทาทอง ไม่ทาทอง 2.มีโรยพลอย ไม่โรยพลอย 3.มีโรยทอง ไม่โรยทอง 4.มีฝังตระกรุด ไม่ฝังตระกรุด ถ้าฝังจะมีคู่เท่านั้น จะมีตระกรุด ทองแดง เงิน ทองคำ

Cr.ข้อความเนื้อเรื่องจากบล็อค ok nation

ส่วนพระตามภาพของผมเอง ขนาดของพระขุนแผน ลป.ม่น เท่าเหรียญ 5 บาท แต่พลังงานสะใจมากจริงๆ


หากเชื่อในครูอาจารย์ของผมและตัวผมพบเจอที่ไหน หาเก็บไว้ให้ได้ อย่าปล่อยให้หลุดมือเชียว เสียดาย ของแรงนา..

 

ผมขอร่วมบุญฝากกระแสกับ "ศ. ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร" เพื่อบริจาคเงินบำรุงโรงพยาบาลสงฆ์และโรงพยาบาลอื่นๆ เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาลภิกษุสงฆ์หรือสามเณรอาพาธ (27-07-21 โอน 300 บ.) อนุโมทนา สาธุ ครับ