สำนักวัดนาป่าพงคึกฤทธิ์และสาวกพลาด! สร้าง" พุทธวจน " ปลอม

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย เสขะปฎิสัมภิทา, 7 กรกฎาคม 2015.

  1. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    6/6/63 - 00.00

    บันทึก การทำสมาธิ ปรากฎ คลื่นยักษ์เมกกะสึนามิ!(mega)
     
  2. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,612
    ค่าพลัง:
    +3,015
    34498aac-5539-442f-bb73-1932f3b0bdc7-jpeg.jpg

    ถาม : ......................
    ตอบ : เหตุผลที่สำคัญสุดที่หลวงพ่อท่านลาพุทธภูมิเพราะว่า ตอนช่วงนั้นท่านเป็นพระครูปลัด ทำหน้าที่เหมือนกับเลขานุการส่วนตัวของสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดอนงคาราม

    ตอนนั้นเกิดเหตุว่า เจ้าคณะจังหวัดท่านหนึ่งเบียดเบียนพระในจังหวัด วัดไหนมีพระเก่าหรือวัตถุโบราณ ก็ใช้อำนาจไปยึดของเขามา ถ้าเขาไม่ให้ก็จับเจ้าอาวาสสึกบ้าง ถอดออกบ้าง พอหลวงพ่อทราบเรื่อง ท่านก็รายงานไปตามระดับชั้นของทางคณะสงฆ์ พอเรื่องขึ้นไปถึงข้างบนก็เงียบ รายนั้นแทนที่จะโดนถอดหรือว่าโดนลงโทษ กลายเป็นว่ารายงานไปครั้งใดเขากลับได้ตำแหน่งเพิ่มขึ้นทุกที ๆ

    หลวงพ่อสืบไปสืบมาจนในที่สุดก็เจอว่า ตัวเป้งเลยเป็นตัวหนุน ท่านก็เลยเกิดสลดใจขึ้นมา โดยวิสัยของพุทธภูมิถ้าเพื่อความสุขส่วนรวม แม้กระทั่งลงนรกก็ยอมทำ

    หลวงพ่อบอกว่า "ถ้าหากว่าไม่ลาพุทธภูมิเพื่อเป็นพระอริยเจ้า ด้วยกำลังใจแบบนั้น เดี๋ยวต้องไปฆ่าเขาแน่" นี่แหละ..สาเหตุใหญ่ที่สุด

    ถาม : ผมจำได้ว่า ถ้าใครฆ่ากันแล้วก็ต้องฆ่ากันทุก ๆ ชาติ ในเมื่อหลวงพ่อปรารถนาพุทธภูมิแล้ว คนที่ปรารถนาพุทธภูมินั้นนรกปิดประตูแล้ว ทำไม ..?
    ตอบ : ตำราไหนวะ ? พุทธภูมิปิดนรก โตไทยพราหมณ์เป็นนิยตโพธิสัตว์ ปัจจุบันนี้ยังอยู่ในอเวจีมหานรก..! พุทธภูมิต่อให้ปฏิบัติขนาดไหนก็ตาม อารมณ์จะไม่ตัดเป็นพระอริยเจ้า เป็นได้แค่เทียบเท่าเท่านั้น คือทำได้เหมือนกับพระอริยเจ้า แต่ยังไม่ใช่พระอริยเจ้า

    เนื่องจากหลวงพ่อท่านบำเพ็ญบารมีมา ด้วยการสละตัวเองเพื่อความสุขส่วนรวมอยู่เสมอ เพราะฉะนั้น..ถ้ามีอะไรบางอย่างที่จำเป็นต้องละเมิดศีลเพื่อความสุขส่วนรวม พุทธภูมิท่านก็ยอมทำ ไม่ใช่ว่าพุทธภูมิไม่ลงนรก พุทธภูมิท่านไม่กลัวนรก ถ้าเป็นสิ่งที่ทำเพื่อส่วนรวมท่านเต็มใจลงต่างหาก
    ...................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
     
  3. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,612
    ค่าพลัง:
    +3,015
    สายวัดท่าขนุน ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    คือ พระอภิญญาที่สามารถ ส่ง กายทิพย์ ไปนอนที่ แดนนิพพานได้
    ลูกศิษย์ของท่าน 7 ท่าน สามารถบรรลุเป็น พระอรหันต์ ได้
    ด้วยการ ส่งจิต ขึ้นไปอยู่ บนแดนนิพพาน ในเวลาที่ไม่ได้ทำอะไร
    ทำให้จิตที่ว่างๆนั้น เต็มไปด้วย อารมณ์ของพระอรหันต์ ไปโดยปริยาย
    จึงเป็นที่มีของ
    การฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลัง ของ ผู้ฝึกปฏิบัติจิต
     
  4. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    อีกไม่นาน การแจกมหาทาน และการสละลาภยศ เงินทอง ชื่อเสียง ในทางโลกของเราในฐานะ ผ้าขาวผู้เสขะปฎิสัมภิทา จะออกจาริกแสวงบุญฯ ในโลกเพื่อประกาศธรรมชั้นลึกอันประกอบด้วยโลกุตระธรรม ตาม คุณสมบัติธรรม ๕ ประการ ซึ่งเป็นหน้าที่บังคับของเหล่า ปฎิสัมภิทาญานต้องปฎิบัติ เพื่อประกาศความบริสุทธิธรรมอันมีอยู่จริงแห่งพระสัทธรรมเจ้า ตราบจนสิ้นชั่วอายุขัย เมื่อเป็นดาบสหรือมหามุณีทรงศีลพรตอันบริสุทธิ์ไปแล้ว

    ในภายหลังหากมีผู้ทราบโดยสติวินัยกล่าวอัญเชิญให้เข้าสู่ผ้ากาสาวพัสต์ จึงควรให้สมแก่กาล


    หนึ่งพัน ราตรี ตามคำนวนนับ


    "ท้ายนี้ ขออุทิศบุญอันตัวข้ากล่าวคำสัตย์นี้ไว้ จงบังเกิดเป็นพลวปัจจัยหนุนนำ ปวงบิดามารดาคนเคยรักญาติสนิทมิตรสหายของข้าทั้งหลายตลอดจนเหล่าสรรพสัตว์เจ้ากรรมนายเวรในทุกๆภพภูมิ อันเป็นผู้มีความสามารถได้รับผลอานิสงส์แห่งทานหรือไม่สามารถได้รับ ก็จักได้รับปัจจัยนี้นั้นไปด้วยในสากลโลก จงได้รับผลแห่งการปฎิบัติธรรมของข้า
    ด้วยกันถ้วนทั่วทุกๆท่านเทอญฯ


    "เจ้ามิอาจตามข้าได้ทันแล้ว เหล่าผู้เป็นอสัตบุรุษเอย แม้บุญนั้นข้าก็ยังคิดเผื่อแผ่เจ้าด้วย"

    บุญบารมีที่เจ้าเพียรสร้าง น้อยกว่าบาปที่เจ้าทำกับเรา แต่เราก็จักให้อภัย

    เราในอนาคตอันใกล้นี้ เป็นผู้สละในทุกสิ่ง เป็นเอก เป็นปัจเจก แม้เจ้าก็ทำตามมิได้ดอก

    การตามราวีเรา ผลที่ได้รับถ้าเจ้ารู้ ก็มิอาจไม่รับไม่ได้หรอก จะรู้ตัวอีกที เมื่อทำกาลกาละ บุญใดที่ทำกุศลจิตใดที่สร้างก็ค้ำจุนเจ้าไม่ได้หรอก!

    ตักเตือนไว้ให้แสลงใจ! อันจักเป็นตัวอย่างแก่บุคคลทั่วไป

    กลับตัวกลับใจยังไม่สาย เหล่ามาร อสุรกาย สัมภเวสีน้อยทุกภพภูมิ


    ขออนุโมทนา ฯ

    FB_IMG_1607684951421.jpg
     
  5. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    เป็นหน้าที่น่ะนะ! ตอนนี้ รอเวลาห้วงสุดท้าย

    ถ้าไม่ทำก็จะถูกตำหนิจากผู้ที่เคยปฎิบัติมาแล้วในพุทธันดรก่อนเอาได้ ชีวิตนี้ ฝากไว้ที่พระไตรปิฏกแล้ว

    ส่วนใครจะกินปูนร้อนท้องหวาดกลัวนั่นเรื่องของเขา
    เราเชื่อว่าเราทำดีก็พอ ส่วนเขาจะทรมานใจเพราะเห็นเราทำดีหรือได้ดีกว่าเป็นเรื่องธรรมดา

    ชีวิตใครชีวิตมัน อย่า ส ก ใส่ เกือก มาวอรี่เลย

    เดือดร้อนอะไรกัน น่าสมเพชเวทนาจริงๆ

    เดี๋ยวก็ตายโหงตายห่ากันแล้ว !

    เรื่องให้ใครเป็นใครตาย ตายเร็วตายช้า แค่เรื่องจิ๊บจ๊อยมาก


    กินปูนร้อนท้องกลัวกันไปทั่ว ! นี่ขนาดยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย แค่ประกาศว่าจะมีสงคราม สดุ้งกันแล้ว ขบวนทัพก็ยังไม่ได้จัด ธงก็ยังไม่ได้โบก ไปสำนึกดูสติตนให้ดีกันก่อนเถิด

    ว่าความ" บ้า " น่ะ คือใคร? หรืออะไร ?

    สิ่งที่เราจักกระทำเป็นบุญหรือว่าเป็นบาป ด้วยสติปัญญาอันน้อยนิดเพียงนี้กับขันธ์ ๕ เน่าๆ วาระจิตก็ได้อย่างนั้นเพียงเท่านั้นแหละ ตามกันไม่ทันแล้ว แหมดีไม่มีออเดอร์มา เพราะเขาก็ไม่กล้าเรียกใช้ ในประเทศราชแห่งนี้ ไม่มีใครไต่ระดับไปถึง จอมมาร ผู้เคยอยู่ขุมลึกที่สุดแห่งอเวจีมหานรกนอกจากเราหรอก มีแต่ชั้นสูงๆ ที่สร้างบาปกรรมได้แค่งูๆปลาๆ บารมีมารในการสร้างกรรมต่ำๆ บารมีธรรมในการสร้างกุศลก็น้อยนิดเพราะจิตไม่บริสุทธิ์

    คิดจะดูถูกดูแคลนผู้อื่นแต่ไม่ดูความสามารถอันต่ำต้อยน้อยนิดของตนที่ไร้สภาวะธรรมใดๆ

    ความอิจฉาและริษยา ของผู้มีอคติ ๔ นี่ช่างน่าสมเพชจริงๆ

    จะดีก็ดีก็ไม่สู้ จะเลวตอบก็พ่าย ครึ่งๆกลางๆ ปลาซิวปลาสร้อย

    สงสารและไม่เคยอิจฉาริษยา อคติ ๔ ตอบ

    สงสารจริงๆนะ โคตรเมตตาและเวทนาเลยขอบอก จนจะร้องไห้ตามอยู่แล้ว

    Sayonara

    # จงร้อนต่อไปและแผดเผาไปเถิด #
    ภาษิตเราไร้พ่ายเสมอ ทั้งทางโลกและทางธรรม


    ระหว่าง

    โจรเป็นหมื่นเป็นแสน กับ เกรียนคีย์บอร์ดที่ทำบุญเพียงหัวแต่ลงเพียงเท้า

    คนละโยชน์

    เรื่องระดับคุณค่า ต่ำกว่าโจรใต้อีก เกิดอีกทีสงสัยได้ไปเป็น จระเข้ในลุ่มแม่น้ำอเมซอน คงไปเจอลิงโพธิสัตว์ท่านอื่นกระทืบหัวเอาอีกตามเคย หลอกแดกเขา แต่ตนเองพลาดพาโล


    เฮ้อ สงสารนะแต่ก็อดขำมิได้ ขอโทษด้วย !

    ชาตินี้ทั้งชาติ เสียชาติเกิดตายเปล่าแล้วล่ะนะ เงื่อนที่ผูกไว้ไม่แก้เอง ใครจะแก้ให้ ไม่มีใครเขาอยู่คอยเฝ้าเงื่อนที่ผูกให้หรอกนะ เขาถ่ายคูถอุจจาระราดรดใส่และทิ้งหนีหายไปนานแล้ว

    หลงทางกันต่อไป เจริญพร!




    received_302471417721476.jpeg
     
  6. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    FB_IMG_1607773091518.jpg


    "แก๊งหมาเบ๊! ยังโอเคกว่านะ อย่างน้อยมันเห่าและหาจังหวะรุมกัดน่ะ "


    เห่าทามม๊าย แต่ใบตองแห้ง อย่าผวานักเลย แก๊ง หมาบ้า!! เดี๋ยวเขาวางยาเบื่อให้กินจะตายข้างถนน ตายแล้วเขาก็ยังเหยียบซ้ำให้หนอนเจาะเหม็นเน่าคละคลุ้งส่งกลิ่นรบกวนชาวบ้านชาวเมืองเขา

    อนาถใจ!!

    #ร้อนต่อไป แผดเผาใจต่อไป กูรู้มึงร้อน#

    FB_IMG_1607773047116.jpg
     
  7. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    FB_IMG_1607778451329.jpg
     
  8. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    FB_IMG_1607787623937.jpg
     
  9. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    received_752563558674691.jpeg
     
  10. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    สอนว่าอย่า เชื่อคำสอน ของสาวก
    น่าตลก ดีแท้ แม่คุณเอ๋ย
    ศาสนา ประกอบกับ สิ่งใดเอย
    จำใจเฉลย รัตนะเอย สามประการฯ
     
  11. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ข่าวแจ้งเตือน!!

    มหานิมิตปรากฎยามรุ่งสาง 0430-0625

    ข้าพเจ้าตรวจพบ พระฉัพพรรณรังสี พรรณราย ส่องสว่าง ขณะเดินทางไปทางทิศตะวันออก ในขณะที่พระอาทิตย์ขึ้น มีฉัพพรรณรังสี กระจายโดยรอบพื้นที่ หาประมาณมิได้ ในทุกๆ เส้นรอบวง และบริเวณจุดตัดโดยรอบ ไม่มีประมาณ จะปรากฎ ดอกบัวทรงกลด ๗ สี (ดอดบัวแก้ว) ย้ำว่า ดอกบัวทรงกลด กระจายอยู่เต็มพื่นที่ต่างๆ ทั้งผืนดินแผ่นฟ้า งดงามตระการตายิ่งนัก ข้าพเจ้าผู้อยู่ในมหานิมิตนี้ พอได้เห็นต้องก้มลงกราบร้องไห้ในทันที ร้องไห้อย่างสุดเสียใจปานราวกลับว่า ทั้งดีใจเหลือประมาณ เสียใจเหลือประมาณ ที่ได้พบปรากฎกาลนี้ และเสียใจที่ได้กระทำบาปอกุศลกรรมมามาก ข้าพเจ้าอยู่ในอารมณ์เสมือนท่าน อสิตดาบส เพียงแต่ต่างอารมณ์กันตรงที่จะได้พบได้อยู่ถึง

    พระฉัพพรรณรังสี ดอกบัวทรงกลดนี้ ถ้าเป็นชาวพุทธ ข้าพเจ้าเชื่อว่า เหล่าพุทธบริษัทท่านทั้งหลาย จะต้องรู้สึกอย่างข้าพเจ้าในทันที ไม่มากก็น้อย แต่ที่แน่ๆ การทรุดลงคุกเข่าร้องไห้ ดีใจหรือเสียใจ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาการที่ไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ ขันธมาร ขันธ์ ๕ สยบต่อ ดอกบัวทรงกลด ลงในทันที

    นิมิตที่ตามมาคือ เหล่าชนพวกหนึ่ง พวกแรก ปรากฎเป็นสตรีพาเดินชื่นชมบ้านและสวนที่ลอยบนฟากฟ้า เป็นสิ่งปลูกสร้างโดยใช้หลักวิศวกรรมศาสตร์ช่วยออกแบบ ให้ดูร่ำรวยสวยหรู บ้านทุกหลังทีสระว่ายน้ำในห้องที่ชั้นบนทั้บนั้น สตรีนั้นเชิญชวนให้ดูให้เพลิดเพลินพิศมัย แต่เราก็มิได้ไยดีหรือเห็นว่าอลังการอะไรนัก เมื่อมองเห็นผู้คนมากหน้าหลายตาปรากฎอยู่ในอาคารโปรงแสงนั้นๆ

    ต่อมาก็เป็นสตรีพวก2 กลุ่มมารที่มีผ้าโพกหัว มาตำหนิพระภิกษุสงฆ์ที่กล่าวตำหนิในที่นี่ บอกว่า " ไอ้พวกนั้น (สมณะโล้นทั้งหมด ) ไม่ดีอย่างนั้น อย่างนี้ แล้วมีหญิงสาววัยรุ่นปรากฎ เที่ยวปล่อยข่าวและรุมคะยั้นคะยอและเสนอตัวและจักเสนอสตรีเพื่อแต่งงานเข้ารีต แบบไม่จำกัดว่าต้องการใครหาให้ได้หมด แต่เราทำท่าทำหูทวนลมไป ในใจคิดพลางต่อให้ขนมาหมดโลกให้กูเป็นพระราชาโคตรฮาเร็ม"กูก็ไม่เอา"(ไอ้ประโยคนี้ก็เคยได้ยินมาแล้ว ในชีวิตจริงในยะลาระดับสูงเสนอมาให้ยังกับ คุณต้องการใครในพื้นที่ ผมจัดการให้ได้หมด) "โชว์เหนือจริงๆ"

    ปล.(ยารักษาใด รักษาทารกในครรภ์ ยานั้นก็รักษาโรคห่าลงปอด ไอมองคร่อ ไปวิจัยเอา สกัดเอา ทั้งนี้แค่กลิ่นฉุน ปอดก็ดีขึ้นแล้ว ไปหาอ่านดูเอาเอง)

    และก็จักบอกไว้ว่า แม้แต่ นิมิตก่อนมีโควิดที่อู่ฮั่น ในช่วงที่ถกเถียงเรื่องน้ำมูตรเน่า มีผู้ตำหนิด่าทอน้ำมูตร อันเป็น ๑ ในนิสสัย ๔ มหานิมิต อุกกาบาตเพลิงไฟประลัยกัน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10-20 กิโลเมตร พุ่งผ่านท้องฟ้าจังหวัดอุบลราชธานี ไปตกที่จีน ผ่านทางเส้นทางตะวันออกเฉียงเหนือไป มหานิมิตนี้ เราเล่าให้แต่เพียงมารดาเราฟังเท่านั้น และมารดาเรารู้ดี ว่าเรามีนิมิตหยั่งรู้จริง!
    เสมือนกับบิดาของเราผู้เสียชีวิตแล้ว เปลี่ยนภพภูมิ แล้วมากล่าวปรากฎแก่ข้าและมารดาเมื่อสิ้นลมหายใจ กำเนิดในภพที่ดี และมาด้วยความหอมแห่งทิพย์ (กลิ่นธูปเทียนทิพย์ กระจายเต็มบ้าน) สักการะแก่เราแน่นอน ปี 54 ข้าได้ปฎิบัติอย่างดี และได้แผ่บุญมหาศาล ได้อัญเชิญพระปริตร "อภยปริตร" บทสวดมนต์จากแดนทิพย์ ประกอบสังคีตอันเป็นทิพย์ในพระไตรปิฏก ข้า ผู้ที่ไม่อยากจะเป็นใคร?ทั้งนั้น ขอเป็นเพียงพยานรู้เห็นก็พอจักกล่าวยืนยันไว้ ในสถานที่แห่งนี้และเวลานี้

    ข้าคือผู้แสดงธรรมในเรื่อง การแยก" นิมิต " ออกจากความฝัน

    ลงวันที่ 26 /12 /63 เรื่อง มหานิมิตที่ดีที่สุดในชีวิต (พระฉัพพรรณรังสี อุบลบุญฑริกวัฎฎะรังสีพรรณราย (ดอกบัวทรงกลด หมุนอยู่กับที่ มีหลากหลายขนาด มากมาย ทั้งผืนดินและชั้นฟ้าคำนวนนับหาประมาณมิได้ เบื้องหน้าเรา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างประมาณ 1 เมตร สูง 1 เมตร 50 เซนติเมตร

    ข้อบ่งชี้ที่แสดงชัดเจน:
    ถ้าใครได้พบ ดอกบัวทรงกลดและพระฉัพพรรณรังสีนี้ จะมีความสำนึกผิดและละอายและเกรงกลัวต่อบาปที่ได้เคยสร้างมาในทันที แม้จะเป็นเพียงกรรมเล็กกรรมน้อยก็ตาม ไม่ต้องกล่าวถึงกรรมใหญ่เลย และจะ ไม่ปรารถนาที่จะกระทำความชั่วใดใดขึ้นอีก

    ส่วนความดีใจ ก็อยู่รวมกัน แต่ความเสียใจต่อบาปมีมากกว่า

    จงตั้งมั่นในความดีเถิด ท่านสหธรรมกัลยาณมิตร

    แม้แต่เราผู้ชั่วร้ายต่ำทรามนี้ ก็ยังปรารถนาสละโลกออกจาริกแสวงบุญฯขั้นอุกฤษเมื่อหมดภาระในการดูแลมารดาในภพโลกธาตุนี้

    ใครที่รู้จักเรา เชื่อในนิมิตหรือมหานิมิตที่เราได้เคยแสดงไว้ ท่านจงยินดีเถิด กับมหานิมิตในครานี้ที่ปรากฎแก่เรา

    __ เสขะปฎิสัมภิทา _

    received_386579585778370.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2020
  12. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,612
    ค่าพลัง:
    +3,015
    โลกธาตุ ที่อยู่รอบเราทั้ง สี่ทิศแปดทาง
    เป็น โลกธาตุที่เต็มไปด้วย ผู้ที่ชอบความยุติธรรม
    คนที่ไปเกิดในโลกธาตุนั้นๆ จะมีทุกอย่างหมด
    รูปร่าง หน้าตา อายุ อายุขัย ไม่มีคนพิกลพิการ
    ผู้คนมีอายุอย่างน้อย ห้าร้อยปี เท่ากันหมด

    มีเพียง มัชญิมาโลก หรือ โลกตรงกลาง
    ที่เป็นโลกที่เต็มไปด้วยความไม่เที่ยงแท้แน่นอน
    อายุ ก็ขึ้นๆลงๆ ได้ ตามกรรมใหม่ ที่ตัวเองกระทำ
    ผู้คน ก็มีตั้งแต่ พระราชา ไปจนถึง ขอทาน
    หน้าตา ก็มีตั้งแต่ หน้าตาดี ไปจนถึง หน้าตาพิกลพิการ
    จิต ก็มีตั้งแต่ พระอรหันต์ จนถึง พญามาร
    ทุกอย่างเป็นไปได้หมดในโลกนี้
    แต่คนส่วนมาก ร้อยละ 99.99 เปอร์เซนต์
    มักจะต้อง ตกนรก โดยส่วนเดียว
    หาโอกาสที่จะ ขึ้นสวรรค์ หรือ บรรลุธรรม แทบจะไม่มี
    เพราะฉนั้น ใครที่จะมองหา ความชอบธรรม หรือ ความเป็นธรรม
    ก็ย่อมที่จะเป็นไปไม่ได้ จะต้องไปหาที่ โลกธาตุที่อยู่ด้านข้างโน่น
    ในโลกนี้ มีแต่ ทุกคนเกิดมาด้วยกฏแห่งกรรม นำพาทั้งสิ้น
    หากตั้งจิตถือศีล ก็จะได้ ไปสู่สุขติ หรือ บรรลุธรรม
    หากไม่ตั้งใจถือศีล ก็จะได้ ไปทุกขติ หรือ อบายภูมิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2021
  13. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    " อีกไม่นาน สิ่งต่างๆที่ควรแก่ข้าและเหล่าสหธรรมกัลยาณมิตร ก็จะปรากฎขึ้นตามกาล ตามกรรมจัดสรร อีกไม่นาน "

    เกิดขึ้นมาเพื่อข้าและสหธรรมมิกโดยเฉพาะ

    ตอนนี้กำลังรอการผลิดอกออกผล ของลูกไม้ยอดอานิสงส์ชนิดนี้

    "ประคำจากลูกมะคำไก่"
    .....ตำราโบราณล้านนาบอกไว้ว่า หากได้สร้างประคำจากลูกมะคำไก่ ให้ลงพระนามพระพุทธเจ้าทั้ง 28 พระองค์ และพระอสีติมหาสาวก เข้าใส่เป็นไส้ลูกประคำ....จักมีคุณวิเศษยิ่งกว่าประคำใดๆ แม้ว่าได้ชักประคำนี้ ภาวนา หนึ่งรอบ มีอานิสงส์แสนกัปป์
    .....หากได้ทำประคำจากลูกมะคำไก่แล้ว ห้ามเอาวางต่ำบนพื้นเด็ดขาด เพราะเป็นพระนามแห่งพระพุทธอละมหาอสีติมหาสาวกผู้ทรงคุณวิเศษ จักเป็นบาปแก่ตน
    .....หากปราถนาสิ่งหนึ่งสิ่งใด ให้ ภาวนา "นะโมพุทธายะ"แล้วชักประคำให้ได้ 1 รอบ เพื่อถวายสักการะพระพุทธเจ้าในกัปป์นี้ แล้วจึงอธิษฐานเอาเถิดสำเร็จทุกประการ จักเกิดอำนาจตบะเดชะแก่ตนผู้ชักกประคำนี้ คำว่าตกต่ำไม่มีเลยแล
    .....ประคำนี้ถือว่าเป็นประคำเริ่มภัทรกัปป์นี้ เพราะ เม็ดมะคำไก่นี้ เป็นตัวแทนของพระพุทธกกุสันโท เพราะเมื่อผลแห้งจะมีลักษณะยอดเม็ดเหมือนกับอกไก่และมีจะงอยคล้ายปากไก่ ทางโบราณจึงเชื่อว่านี่คือตัวแทนของพระพุทธเจ้าผู้เป็นปฐมพุทธเจ้าแห่งภัทรกัปป์นี้
    .....ประคำนี้ทรงคุณวิเศษอย่างหาที่สุดมิได้แก่ผู้มีไว้บุชา จักใช้อย่างไรก็แล้วแต่ปัญญาญาณของแต่ละคนนะครับ ใช้ได้พันช่องแล(ใช้ได้ทุกประการ)สามารถอาราธนาทำน้ำพุทธมนต์ รักษาไข้ แก้ได้ทั้งคุณผีคุณคนท่านทำมาไม่ว่าภาษาไหนก็ตาม
    ....ตำรานี้เป็นตำราโบราณที่สืบมาจากพ่อหนานแดง เมืองลี้ ซึ่งเป็นเพื่อนกับครูบาชัยยะวงศามก่อน และท่านผู้สร้างบอกกับผมว่า ครูบาสังฆะล้านนาโบราณเพียงแค่เห็นและรู้ว่าเป็นประคำจากลูกมะคำไก่ท่านจะยกประคำใส่หัวทันที แลำตำรานี้มีผู้สืบตำราน่าจะเหลือแค่เพียงคนเดียวละครับ (ขอสงวนนามท่านครับเพราะท่านเป็นเบื้องหลังผู้ทำของต่างๆส่งครูบาทางล้านนาหลายองค์ครับ)....และกว่าจะทำได้ไม่ง่ายเลยครับเพราะต้องหาลูกมะคำไก่ที่ได้ลักษณะขนาดใกล้เคียงกัน นำมาต้มเพื่อปอกผิว นำมาตัดหัวท้าย รอตากให้แห้งสนิท(แห้งแล้วจะเเข็งมาก) แล้วจึงลงยันต์ พระนามพระพุทธเจ้าทั้ง 28 พระองค์แลพระนามพระอสีติมหาสาวก 80 พระองค์และพระนามที่ลงก็ต้องมีการเรียงลำดับห้ามสลับตำแหน่งกันเลยทีเดียวครับ ไม่ง่ายเลยนะครับ.....และก่อนที่จะทำต้องตั้งบายศรี อ่านโองการพระเจ้า 5 พระองค์ เห็นไหมครับไม่ใช่ของง่ายๆเลยในการจัดสร้าง และผู้เล่นพระเวทย์สมัยก่อนมักจะต้องการประคำชนิดนี้กันมากเพราะเชื่อว่าเมื่อมีประคำนี้ติดตัวแล้วไม่ต้องกลัวอาถรรพ์วิชาต่างๆ และไม่ต้องกลัวว่าวิชาที่ตนมีจะเสื่อม

    มีคนถามว่า ทำไมถึงใช้ลูกลานทำไม่ใม่ใช้แก่นไม้เนื้อดี
    หรือไม้อาถรรพ์เช่นไม้งิ้วดำเป็นต้น
    จึงขอตอบว่า ในคติความเชื่อเรื่องลูกประคำของคนล้านนานั้นตามที่ได้รู้จากครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า ในธรรมเทศนาพื้นเมืองเรื่อง
    ช้างป่าเลไลย์ตอนท้ายท่านได้กล่าวถึงอานิสงฆ์ธรรมทานและอานิสงส์เครื่องอามิสบูชารวมถึงกล่าวถึงลูกประคำหรือหมากนับซึ่งเป็นเครื่องมือในการภาวนา ซึ่งมีหลายแบบแต่ที่มีประวัติและความเป็นมากล่าวถึงประคำที่มีอานิสงส์ในการใช้ภาวนานั้น จะเป็นประคำลูกไม้ เช่นไม้มะองนก(หมากสะแก่) มีอานิสงส์อปริมาณาหาประมาณมิได้
    รองลงมาคือหมากนับลูกลานมีอานิสงส์แสนโกฏิกัปหมากนับหน่วยพุทธสร(เม็ดพุทธรักษา)มีอานิสงส์หมื่นโกฏิกัป หมากนับสรี๋พันต้น(ทำจากใบโพธิ์)พันต้นมีอานิสงส์แสนกัปรองลงมาคือหวายหิน เดือยหินจนลงไปถึงงาช้างมีอานิสงส์7กัปป์ซึ่งไม่นิยมนำแก่นไม้หรือไม้อาถรรพ์มาทำเพราะมีน้ำหนักมักก่อให่เกิดเวทนาในการใช้ภาวนาและคล้องติดตัว อีกทั้งลูกไม้เหล่านี้ล้วนหายากและทำได้ยากยิ่งต้องใช้ความเพียรสูงมากจึงทำได้
    แต่กระนั้นต้องรู้จักใช้คือหมั่นตกหมั่นนับภาวนาและใช้กำหนดคาบเวลาสวดมนต์หรือบริกรรมต่างๆจึงเกิดอานิสงส์หากเก็บไว้เฉยๆก็ไม่มีประโยชน์อันใดมิต่างจากลูกไม้กลมๆธรรมดา ลูกลานเป็นลูกไม้หายากซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าจะออกลูกและพออกลูกแล้วก็จะยืนต้นตาย(ลูกฆ่าแม่)ซึ่งในปัจจุบันต้นลานหายากมากและกว่าจะออกลูกผลจนแก่เต็มที่หายากโดยมากเมื่ออกลูกออกผลคนมักจะนิยมนำไปทำขนมลานเชื่อมตั้งแต่เม็ดยังอ่อนๆซึ่งถือว่าวัสดุหายากมากและใช้ความเพียรในการทำสูงมากฉะนั้นผู้ใดที่มีไว้ควรรักษาไว้ให้ดีและใช้ให้เกิดคุณค่าและนอกขากจะใช้ภาวนาแล้วหมากประคำลานยังเป็นเครื่องรางของขลังที่ใช้ได้สารพัดอีกด้วยโดยเฉพาะป้องกันภูติผีปีศาจดีชะงักนักแล

    " ว่ากันว่า ประคำไก่ มีคุณค่าและราคาสูงมากชนิดที่ว่า จะต้องเอาทองคำน้ำหนักเท่ากันมาเพื่อแลกเปลี่ยนไปบูชากันถึงเพียงนั้นกันเลยทีเดียว ถ้าหากจะกล่าวถึงคุณค่าอานิสงส์อย่างนี้แล้ว เงินทองไม่มีความหมายเทียบเท่าได้เลย "

    received_830431000840287.jpeg

    received_422788492483244.jpeg

    received_867243250782019.jpeg

    received_239040194337173.jpeg
     
  14. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ตั้งใจเรียนไว้น่ะดีแล้ว ถึงเวลาตนเองได้ขึ้นมาจะได้ไม่งง ถือว่ามีวาสนากับ ปฎิสัมภิทาญาน

    พวกท่านจะได้รู้ว่า ยากขนาดไหน กว่าที่ข้าจะได้มา เป็นผู้แรกที่อธิบายไว้เด่นชัดในกึ่งพุทธกาลนี้

    และแน่นอนเมื่อได้ตาม ท่านก็จะรู้เองเรียกเราเองเคารพเราเองโดยฐานะครูและอาจารย์ ส่วนเราก็จะตอบว่า ถ้าคิดได้แบบนั้นแล้วไปทำความเคารพอาจารย์ใหญ่ กันเถอะ ข้าก็ได้ท่านสั่งสอนมา ไม่ใช่ที่ข้าเก่งข้ารู้เอง วนแต่อาศัยความเมตตาจากเบื้องบนทั้งนั้น ต่อให้สามารถเข้าถึงได้ด้วยบุญวาสนาที่สั่งสมมาก็เถอะ

    ไปไหว้พระรัตนตรัย นั่นล่ะที่ข้าจะบอกพวกท่าน
     
  15. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ทำงานรอเพียบ ^_^

     
  16. Lord deva

    Lord deva สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +30
    ยังมีผู้ศึกษาและตั้งใจค้นคว้า อยู่อย่างนั้นหรือ ?

    ดีแล้ว!

    ขออนุโมทนาฯ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2023
  17. Lord deva

    Lord deva สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +30
    กระทู้นี้เป็นประโยชน์เพื่อสาธารณะ เป็นไปเพื่อปกป้องสถาบันชาติ สถาบันศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์

    ที่ถูกลบหลู่ ดูหมิ่น ทำลาย โดยสำนักดังกล่าวและเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดของ เหล่าสหธรรมกัลยาณมิตร จนไปถึงปุถุชนคนเขลาที่เป็นลูกวัวและกำลังจะเป็นลูกวัวที่ถูกเสือโหยหลอกไปกิน

    “ถ้าข้าไม่ลงนรกแล้วใครจะลง” A9068D9D-A8A5-415D-8EA2-4348EE73BADD.jpeg

    https://youtube.com/shorts/49BlL59l4Uw?si=mT3tqe0cTDeCNuf5

    https://youtube.com/shorts/sO97cPS0t_4?si=vkibW2tw5CVD11H1

    https://youtube.com/shorts/lMh_fPo5REc?si=LZuH7teKBwYAGmHF

    https://youtube.com/shorts/02GlFufsmaA?si=b03LClrpI4EabTCZ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2023
  18. Lord deva

    Lord deva สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +30
    8E4CD7B8-28AA-41B4-BBDB-B19AE0C7AC38.jpeg

    38A710BE-F468-4142-99CC-1E48D24138CE.jpeg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2023
  19. Lord deva

    Lord deva สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +30
     
  20. Lord deva

    Lord deva สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +30
    เมื่อผู้ต้องวิมุตติแสดงอรรถ อักษรเหล่านั้นจะถูกถ่ายทอดลงมาด้วยการเจือกระแสวิมุตติ ให้กับ ผู้มีมรรคผลเป็นที่แน่นอนเป็นพลวปัจจัยในชาติ

    ไม่ต้องแปลกใจ ว่าทำไมตนเองถึงต้องย้อนไปย้อนมา กลับไปอ่านบ่อยๆ อ่านอย่างไรก็ไม่รู้สึกเบื่อ หลายคนอ่านจนง่วงหลับไปเลยก็มี และจะรู้สึกว่าไม่พอ มีความปรารถนาจะอ่านจะทราบอีก

    ซึ่งจะไม่เหมือน ตำรา หนังสือ นิยาย ที่เคยอ่าน รู้แล้วจบ ไม่กี่ครั้งเบื่อเพราะสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ประกอบด้วยโลกุตรธรรมที่เป็นกุศลธรรม แต่เป็นโลกียธรรมอันอกุศลธรรม จึงมีความเหนื่อยหน่าย เป็นผลที่ประกอบ โมฆะบุคคลส่วนใหญ่ในโลกจึงเที่ยวแต่งภาษิต บทเพลง เรื่องราว ออกมาเพื่อให้เกิดความแปลกใหม่ อันเจือด้วย กิเลส เพื่อหลอกลวงเวไนย?ตามอำนาจมาร ๕ ชักจูงอยู่เสมอๆ

    เหตุนี้ ครั้งหลังแต่การ สังคายนาพระธรรม อยู่เนืองนิตย์ หากไม่มีผู้บรรลุธรรม มาแสดงธรรมเทศนาที่เจือวิมุตติญานทัสนะ ให้แก่สรรพสัตว์ กระแสวิมุตติก็จะเลือนหายไป

    { กว่าจะรู้ตัว ก็ต้องกระแสวิมุตติ แม้ยังไม่ต้องวิมุตติโดยตรงด้วยตนเองก็ตาม }


    คุณสมบัติพิเศษของ วิมุตติญานทัสสนะและนิรุตติญานทัสสนะ จะเผยข้อบกพร่อง ความผิด ความไม่ถูกต้อง อันผิดวิสัยของมิจฉาทิฐิให้เปิดเผยขึ้น โดยไม่รู้ตัว

    ด้วยเหตุนี้ เหล่า ปฎิสัมภิทา จึงไร้พ่าย
    ———————————
    เอ่ะอ่ะอะไรๆ ก็อ้างนิรุตติๆ?

    คืออะไรกันแน่!

    จะวิสัชนาให้แบบ ปริยัติ ปฎิบัติ ปฎิเวธ

    มันเป็นการเติมคำลงในช่องว่างให้ถูกต้อง โดยมีคำตอบเฉพาะกาลอยู่แล้วไม่ดิ้นเป็นอื่น


    นิรุตติญานทัสสนะ ของ ปฎิสัมภิทา จะรวบรวมทุกสูตร ที่แสดง อรรถที่ระบุชัดเจนว่า มีธรรมชั้นลึก ประกอบโลกุตรธรรม เช่น

    อาณิสูตร
    พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ... พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ตะโพนชื่ออานกะของพวกกษัตริย์ผู้มีพระนามว่าทสารหะได้มีแล้ว เมื่อตะโพนแตก พวกทสารหะได้ตอกลิ่มอื่นลงไป สมัยต่อมาโครงเก่าของตะโพนชื่ออานกะก็หายไป ยังเหลือแต่โครงลิ่ม แม้ฉันใด

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกภิกษุในอนาคตกาล เมื่อเขากล่าวพระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว อันลึกมีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม อยู่ จักไม่ปรารถนาฟัง
    จักไม่เข้าไปตั้งจิตเพื่อรู้ และจักไม่สำคัญธรรมเหล่านั้น ว่าควรเล่าเรียน ควรศึกษาแต่ว่าเมื่อเขากล่าวพระสูตรอันนักปราชญ์รจนาไว้ อันนักปราชญ์ร้อยกรองไว้ มีอักษรอันวิจิตร มีพยัญชนะอันวิจิตร เป็นของภายนอก เป็นสาวกภาษิต อยู่ จักปรารถนาฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักเข้าไปตั้งไว้ซึ่งจิตเพื่อรู้ และจักสำคัญธรรมเหล่านั้น ว่าควรเรียน ควรศึกษา ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระสูตรเหล่านั้น ที่ตถาคตกล่าวแล้วอันลึก มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม จักอันตรธานฉันนั้นเหมือนกัน เพราะเหตุดังนี้นั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เมื่อเขากล่าวพระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว อันลึก มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม อยู่ พวกเราจักฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักเข้าไปตั้งไว้ซึ่งจิตเพื่อรู้ และจักสำคัญธรรมเหล่านั้นว่า ควรเรียน ควรศึกษา ดังนี้

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แหละ ฯ
    จบสูตรที่ ๗

    หากไม่ใช่ปฎิสัมภิทา จะทำอย่างไร?

    ข้อนี้มีอยู่หลังจากนี้ในการสอบสวนพระธรรมคำสั่งสอน ตรวจทาน นอกจากหลักมหาปเทส4ก็จะใช้วิมุตติญานทัสสนะและนิรุตติญานทัสสนะค้นหากถาธรรม โดยพิจารณาจาก
    1. “สุตตะ” หมายถึง คำสอนประเภทร้อยแก้ว โดยมากใช้กับ พระสูตร พระวินัยปิฎก นิทเทส ซึ่งต้นด้วย “เอวัมเม สุตตัง”
    2. “เคยยะ” หมายถึง คำสอนประเภทร้อยแก้วผสมผสานกับคำสอนประเภทร้อยกรอง หรืออาจพูดว่าเป็นร้อยแก้วที่มีท่วงทำนอง ได้แก่ พระสูตรที่มีคาถาทั้งหลายนั่นเอง
    3. “เวยยากรณะ” หมายถึง คำสอนที่เน้นการจำแนกแจกแจงรายละเอียด โดยใช้หลักเกณฑ์ทางภาษา หรือ “ไวยากรณ์” อย่างเคร่งครัด “เวยยากรณะ”ใช้ร้อยแก้วในการสอน ได้แก่ พระอภิธรรมปิฎกทั้งหมด และพระสูตรที่ไม่มีคาถา
    4. “คาถา” หมายถึง คำสอนประเภทร้อยกรอง เช่น ธรรมบท เถรคาถา เถรีคาถา
    5. “อุทานะ” หมายถึง คำสอนที่เป็นการเปล่งอุทาน ได้แก่ พระคาถาพุทธอุทาน 82 สูตร
    6. “อิติวุตตกะ” หมายถึง คำสอนที่มีการอ้างอิง ขึ้นต้นด้วย “วุตตัง เหตัง” เช่น พระสูตรที่เรียกว่าอิติวุตตกะ 110 สูตร
    7. “ชาตกะ” หมายถึง คำสอนที่เป็นเรื่องราวในอดีตของพระพุทธเจ้า หรือ “ชาดก” 550 เรื่อง
    8. “อัพภูตธรรมะ” หมายถึง คำสอนที่เป็นเหตุอัศจรรย์ เรื่องอัศจรรย์ คือพระสูตรที่กล่าวถึงข้ออัศจรรย์ต่างๆ โดยมีคำว่า “อัพภูตัง ภิกขเว”
    9. “เวทัลละ” หมายถึง คำสอนที่เป็นการโต้ตอบสนทนา หรือพระสูตรแบบถาม-ตอบเพื่อให้เกิดความรู้และความเข้าใจ หากไม่เข้าใจสามารถซักถามได้อีก เช่น จูฬเวทัลลสูตร มหาเวทัลลสูตร เป็นต้น
    หัวข้อธรรมเหล่านี้ จะถูกเติมเต็ม รายละเอียด เหมือน ตัวต่อ จิ๊กซอว์ เพื่อเติมเต็มเรื่องราว ที่ขาดหายไป

    ผู้บรรลุปฎิสัมภิทา ระดับสูงสามารถปุจฉาและวิสัชนาได้ทุกอย่าง แม้จะเป็นภาษาศาสตร์ใด คัมภีร์ใด ศาสตร์ใดก็ตามล่วงเลยนับกัปป์หรืออสงไขยก็ตาม ชื่อว่า ความลับไม่มีในโลก

    {ไม่มีปฎิสัมภิทา ก็ไม่มีพระไตรปิฏก}

    ไม่มีปฎิสัมภิทา ก็ไม่มี พระสัพพัญญุตญาน

    รู้อย่างนี้ ทำไมไม่เรียน ไม่เอา

    EB3189C6-CAAC-4740-B02C-6A90AAF70151.jpeg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2023

แชร์หน้านี้

Loading...