สรุปภัยที่เกิดจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เกิดดินถล่มในจีน ทางการสั่งอพยพประชาชน 200 คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 21-04-2551 | 13:42:37 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ปักกิ่ง 21 เม.ย. – สื่อทางการจีนและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเปิดเผยวันนี้ว่า เกิดเหตุดินถล่ม เนื่องจากฝนตกหนักใกล้กับเขื่อนซานเสีย ต้าป้า ทางภาคกลาง ของประเทศจีน ทำให้ทางการสั่งอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงราว 200 คน ออกจากพื้นที่
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า เกิดเหตุดินถล่มในมณฑลหูเป่ย์เมื่อวานนี้ ทำให้ดินโคลน และหินไหลถล่มบ้านเรือนประชาชน 37 หลัง และโรงเรียนประถมท้องถิ่น โดยไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต เนื่องจากทางการสั่งอพยพประชาชน ไปยังที่พักชั่วคราว ก่อนจะเกิดเหตุ
ด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า เหตุดินถล่มเริ่มขึ้น เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา เนื่องจากฝนตกหนัก ซึ่งฝนที่ตกกระหน่ำลงมาตั้งแต่วันศุกร์นั้น ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัย ในมณฑลหูเป่ย์เกือบ 830,000 คน และเกิดน้ำป่าไหลหลาก จนมีผู้เสียชีวิต 2 คน สำนักข่าวซินหัวระบุ ฝนจะตกอย่างต่อเนื่องอีกราว 2 ถึง 3 วัน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ไต้ฝุ่นถล่มจีน เสียชีวิต 3 คน สูญหาย 40 คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 21-04-2551 | 14:09:12 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ปักกิ่ง 21 เม.ย. – สื่อทางการจีนรายงานวันนี้ว่า พายุไต้ฝุ่นนีโอกูรีที่พัดถล่มตอนใต้ของจีน เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และสูญหายอีก 40 คน
หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ ของทางการจีน รายงานอ้างคำให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่า พายุไต้ฝุ่นนีโอกูรี ทำให้ประชาชนที่อาศัยในเมืองเสิ่นเจิ้น และเมืองจูไห่ในมณฑลกวางตุ้ง เสียชีวิต 3 คน ขณะที่หน่วยกู้ภัยเร่งออกค้นหาชาวประมง 40 คน ที่สูญหายไปในทะเลจีนใต้ ในจำนวนนั้นเป็นชาวจีน 18 คน และชาวเวียดนาม 22 คน ทำให้สถานทูตเวียดนาม ในกรุงปักกิ่ง ต้องขอให้ทางการจีนช่วยเหลือลูกเรือชาวเวียดนามทั้ง 22 คน แต่เมื่อหน่วยกู้ภัยไปถึงกลับพบเรือประมงพลิกคว่ำอยู่ในทะเล
ตามปกติจีนมักเกิดพายุไต้ฝุ่นในช่วงปลายเดือนมิถุนายน แต่ไต้ฝุ่นนีโอกูรี ซึ่งได้อ่อนกำลังกลายเป็นพายุโซนร้อน ถือเป็นไต้ฝุ่นลูกแรกที่พัดถล่มจีนเร็วกว่าปกติ นักอุตุนิยมวิทยาระบุว่า พายุไต้ฝุ่นที่เกิดขึ้นเร็วกว่าปกตินั้น สะท้อนให้เห็นถึงปรากฏการณ์ลานินญา ซึ่งเคยทำให้เกิดฤดูหนาวรุนแรงที่สุด ในรอบหลายสิบปี ของประเทศจีนมาแล้วเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เกาหลีใต้ฆ่าสัตว์ปีกครั้งใหญ่กว่า 5 ล้านตัว สกัดหวัดนก

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 21-04-2551 | 16:54:01 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">โซล 21 เม.ย. - ทางการเกาหลีใต้เตรียมฆ่าสัตว์ปีกอย่างน้อย 5.32 ล้านตัว เพื่อควบคุมการระบาดของโรคไข้หวัดนก ครั้งล่าสุด นับเป็นการฆ่ากำจัดสัตว์ปีก จำนวนมากที่สุดในเกาหลีใต้ เพื่อสกัดไข้หวัดนก
เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรเกาหลีใต้ กล่าวว่า เกาหลีใต้ฆ่าสัตว์ปีก 4.85 ล้านตัว นับตั้งแต่ที่เชื้อไวรัสเอช 5 เอ็น 1 ระบาดเมื่อต้นเดือนนี้ เป็นครั้งแรกในรอบปีกว่า นอกจากนี้ไก่อีก 477,000 ตัว ในพื้นที่ระบาดจะถูกฆ่าในวันอังคารนี้ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรเกาหลีใต้ ประกาศมาตรการเฝ้าระวังทั่วประเทศ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ไข้หวัดนกระบาดมากขึ้น ทางการเกาหลีใต้ฆ่าสัตว์ปีก 5.29 ล้านตัว เมื่อปี 2546 เพื่อสกัดไข้หวัดนก ขณะที่ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนก อย่างน้อย 239 คน นับตั้งแต่ปี 2546
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• จับตาปริมาณฝุ่นละออง 10 ไมครอน ที่นครราชสีมา

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 21-04-2551 | 15:29:34 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">กรมควบคุมมลพิษ 21 เม.ย. - สำนักจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์หมอกควันของไทย จากการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ จากสถานีตรวจวัดฯ ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. ของทุกสถานี ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ที่สถานีบ้านพักทหารมณฑลทหารบกที่ 21 จ.นครราชสีมา มีปริมาณฝุ่นละอองสูงขึ้นในวันนี้ เป็น 120 ไมครอน และค่า AQI หรือดัชนีคุณภาพอากาศ ก็สูงขึ้นถึง 100 ซึ่งอาจเกิดจากการเผาเศษวัสดุ จึงได้แจ้งเตือน ให้เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัด เข้าไปตรวจสอบสาเหตุแล้ว โดยหากพบว่าปริมาณฝุ่นละออง ยังสูงติดต่อกัน 3 วัน ก็จะแจ้งเตือนประชาชน
ทั้งนี้ เนื่องจากค่ามาตรฐานปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก ไม่ควรเกิน 120 ไมครอน ส่วนค่า AQI หากสูงถึง 101-200 จะถือว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หนองบัวลำภูเร่งแก้ปัญหาทุ่งโคลนลามนา

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 21-04-2551 | 16:59:54 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">หนองบัวลำภู 21 เม.ย.- ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู รุดตรวจทุ่งโคลนขยายวงกว้างพื้นที่การเกษตร อาจต้องประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อเร่งช่วยเหลือ และแก้ปัญหา พบบางจุดอันตรายมีความลึกกว่าเมตร
นายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมปลัดจังหวัด และผู้เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบทุ่งโคลน บริเวณท้ายหมู่บ้านสิบเก้าโปร่ง ต.โนนม่วง อ.ศรีบุญเรือง ช่วงบ่ายที่ผ่านมา (21 เม.ย.) เนื่องจากชาวบ้านไม่สามารถเพาะปลูก หรือทำการเกษตรได้ เพราะพื้นที่เป็นทุ่งโคลน บางจุดลึกกว่า 1 เมตร ขณะที่ สภาพหน้าดินดูผิวเผินเหมือนพื้นที่แห้งปนทราย และมีหย่อมหญ้าขึ้นเป็นบางส่วน ต้องใช้ไม้ปักหรือเดินย่ำลงไปหน้าดินดังกล่าวจะยุบเป็นโคลน
นายประมวล ฤกษ์ยาม ผู้ใหญ่บ้านบ้านสิบเก้าโปร่ง กล่าวว่า หลายสิบปีก่อน ทุ่งโคลน ยังไม่เป็นบริเวณกว้างเท่าขณะนี้ คาดว่ากินเนื้อที่แล้วเกือบ 200 ไร่ ชาวบ้านที่มีนาอยู่ 70 ไร่ สามารถปลูกข้าวได้เพียง 5 ไร่ โดยมีพื้นที่นาของชาวบ้านอยู่ในเขตทุ่งโคลน กว่า 10 ครัวเรือน
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า จะเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจพื้นดินดังกล่าว เพื่อหาทางแก้ไข และอาจต้องประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย หลังจากให้ อบต.สำรวจพื้นที่แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับชาวบ้าน โดยจังหวัดจะเร่งให้การช่วยเหลือด้านอื่นๆ อย่างเต็มที่
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุพัดถล่มบ้านมท.1 ที่ปากช่อง

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 22-04-2551 | 02:12 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ไม้ทับบ้าน และมีสิ่งของเสียหาย จำนวนมาก ภายในโบนันซ่ารีสอร์ทเขาใหญ่ ต.แขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ภายในที่เกิดเหตุพบว่า บ้านเลขที่ 331 ม.11 หมู่บ้านโบนันซ่า ซึ่งเป็นของ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นศาลา 8 เหลี่ยม เพื่อไว้รับประทานอาหาร พักผ่อน และประชุม กระจกบานใหญ่ ทั้งหมดทุกด้าน และประตูถูกลมพัดแตกเสียหายหมด เครื่องใช้ภายในบ้านตกมาแตกกระจายเสียหาย รวมทั้งต้นไม้ภายในบ้านที่หักโค่น นอกจากนี้ ภายในโบนันซ่ารีสอร์ทเขาใหญ่ ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้มีชื่อเสียงอีกจำนวนมาก ได้รับความเสียหาย ซึ่งแต่ละหลังไม่มีคนอยู่ เนื่องจากเจ้าของบ้านจะเดินทางมาพักผ่อน ในวันหยุดราชการ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เตือนจีนอากาศหนาว, น้ำท่วม

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 21-04-2551 | 17:00 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">สภาพอากาศแปปรวนยังคงเกิดขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของประเทศจีน โดยเจ้าหน้าที่ ฝ่ายอุตุนิยมวิทยาของมณฑล "ชิงไห่" แถลงเตือนว่าจะเกิดอากาศจะหนาวจัด ในวันจันทร์ ขณะที่มีรายงานว่าเกิดอุทกภัยอย่างรุนแรงในภาคตะวันตกของประเทศ
ข่าวรายงานว่า วันนี้เมือง "ซีหนี" เมืองหลวงของมณฑล"ซิงไห่" มีหิมะตกไปทั่ว เช่นเดียวกับที่เมือง"อะลาชัน" ในมองโกเลียใน ซึ่งอุณหภูมิลดลงทันที 10 องศาเซลเซียส
ส่วนที่เมือง"ยี่หยาง"ในมณฑล"หูหนาน" เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก โดยมีพายุโหมกระหน่ำและลูกเห็บตก ซึ่งทำให้ชาวไร่ชาวนาได้รับความเดือดร้อน
ในภาคตะวันตกของจีนที่เมือง "ฉงจิ้ง" ก็มีฝนตกลงมาอย่างหนักเช่นกัน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• แผ่นดินไหว 3.9 ริกเตอร์ ที่เชียงใหม่ ไม่มีรายงานความเสียหาย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 22-04-2551 | 08:49 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า เมื่อเวลา 02.31 น.ที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหว ที่จังหวัดเชียงใหม่ ขนาด 3.9 ริกเตอร์ โดยมีจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ที่ อ.แม่ริม เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เตือนพายุฤดูร้อนและลูกเห็บตกตลอดสัปดาห์นี้

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 22-04-2551 | 05:30 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ทั้งนี้เป็นเพราะอิทธิพลจากมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่ ที่ปกคลุมทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย มาปะทะกับสภาพอากาศ ที่ร้อนอบอ้าว ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยพบว่าพื้นที่ภาคอีสาน ในจังหวัดเลย สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ นครราชสีมา และบุรีรัมย์ จะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้
ส่วนพื้นที่อื่นๆ จะเกิดในวันถัดไป จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตราย จากพายุฤดูร้อน พายุฝนฟ้าคะนอง ขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่ง และ หลีกเลี่ยงการสวมเครื่องประดับที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า และงดใช้เครื่องมือสื่อสารในที่โล่งด้วย
สำหรับเกษตรกรขอให้ระวังผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย จากลมกระโชกแรง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หลายจังหวัดในประเทศไทยเผชิญพายุฤดูร้อน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 22-04-2551 | 12:09 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">มวลอากาศเย็นจากจีนที่แผ่มาปกคลุมวันนี้ปะทะกับอากาศร้อน ทำให้หลายพื้นที่ในประเทศ มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคกลาง ประมาณ 30 จังหวัด จะมีลักษณะเป็นพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 25 เมษายน โดยภาคอีสานและภาคตะวันออก มีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ ส่วนภาคเหนือมีอากาศร้อนจัดที่ จ.แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน และตาก ภาคใต้ก็มีฝนฟ้าคะนอง โดยฝั่งอันดามันมีฝนกระจายร้อยละ 60 ส่วนฝั่งอ่าวไทยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หน่วยกู้ภัยจีนพบชาวประมง 18 คนรอดชีวิตจากไต้ฝุ่น

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 22-04-2551 | 11:15:10 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">กวางโจว 22 เม.ย. - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า หน่วยกู้ภัยพบกลุ่มชาวประมง 18 คน รอดชีวิต จากไต้ฝุ่นนีโอกูรีพัดกระหน่ำจีน ช่วงสุดสัปดาห์ ด้วยการหนีไปหลบภัยอยู่ในประภาคารแห่งหนึ่ง
กลุ่มชายดังกล่าวได้กลับไปที่เกาะไหหลำเมื่อวานนี้ หลังไปหลบภัยพายุที่ประภาคารบริเวณทะเลจีนใต้เมื่อวันศุกร์ ท่ามกลางพายุกระหน่ำ ซึ่งอาจทำให้เรือของพวกเขาอับปางลงได้ ก่อนหน้านี้สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 3 คน จากลมแรงและดินถล่ม เนื่องจากอิทธิพลของไต้ฝุ่น
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• อาร์เจนตินาเร่งดับไฟป่าทางตอนใต้ - ใช้ ฮ.ขึ้นโปรยน้ำ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 22-04-2551 | 14:27 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ทางการอาร์เจนตินาเร่งดับไฟป่าทางตอนเหนือ ของกรุงบูเอโนสไอเรส โดยใช้ทั้ง เครื่องบิน และเฮลิคอปเตอร์บินขึ้นโปรยน้ำดับไฟ ขณะที่หมอกควันจากไฟป่า ที่แผ่ปกคลุมท้องฟ้า ในกรุงบูเอโนสไอเรสนานเกือบสัปดาห์ เบาบางลงเป็นวันที่ 2 แต่เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศเตือนว่า ควันไฟ อาจแผ่เข้าปกคลุมอีกครั้งวันพรุ่งนี้ เนื่องจากกระแสลมเปลี่ยนทิศ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ผู้เชี่ยวชาญชี้แผ่นดินไหวภาคเหนือเป็นเรื่องปกติ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 22-04-2551 | 12:10 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เมื่อเวลา 02.31 น.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดเล็ก 3.9 ริกเตอร์ ที่บริเวณ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กอีก 1 ครั้ง ขนาด 1.3 ริกเตอร์ สามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย
นายเป็นหนึ่ง วาณิชชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ระบุว่า การเกิดแผ่นดินไหวทางภาคเหนือเป็นเรื่องปกติ เพราะมีรอยเลื่อนขนาดใหญ่ที่มีพลังอยู่ใต้เปลือกโลก เช่น รอยเลื่อนเถิน จ.ลำปาง รอยเลื่อนแม่จัน จ.เชียงราย และรอยเลื่อนขนาดเล็กกระจายตัวอยู่มาก โดยแต่ละปีภาคเหนือจะมีแผ่นดินไหวขนาดเล็ก 5 ครั้งขึ้น ส่วนมากบริเวณ จ.เชียงใหม่ เชียงราย และ จ.แม่ฮ่องสอน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุถล่มแม่สอดเสาไฟ้ 20 ต้นล้มทับบ้านพัง

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ทีมข่าว INN News [ 22-04-2551 | 16:33:32 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">พายุฝนฤดูร้อนถล่มแม่สอด เสาฟ้าล้ม เกือบ 20 ต้น ไฟดับทั้งเมือง บ้านพัง 2 หลัง ปิดถนนอินทรคีรี
ได้เกิดเหตุพายุฝนฤดูร้อนพัดถล่มเขตเทศบาลเมืองแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก อย่างหนักและรุนแรง เป็นเหตุให้มีเสาไฟฟ้าข้างถนนสายอินทรคีรี แม่สอด-ริมเมย ล้มเกือบ 20 ต้น และเสาไฟฟ้าได้ล้มทับบ้านของนางจำลอง อ้ายขอ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 836 ถนนอินทรคีรี และบ้านของนางสุวรรณา นะสุขใจ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 836/1 ถนนอินทรคีรี โดยบ้านทั้ง 2 หลังพังเสียหาย แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับอันตราย นอกจากนี้เสาไฟฟ้า ยังได้ล้มทับรถยนต์กระบะ เสียหายอีก 1 คัน และจากการที่เสาไฟฟ้าหักล้มนั้น เป็นเหตุให้ไฟฟ้าทั่วเมือง แม่สอดดับ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอแม่สอด ต้องเร่งระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการแก้ไข และซ่อมแซมเป็นการด่วน นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ใหญ่ ถูกลมพายุพัดล้มทับเส้นทาง แม่สอด-ริมเมย ทั้ง เส้นทางสายเอเชีย และเส้นทางในตัวเมือง เชื่อมระหว่างเทศบาลเมืองแม่สอด กับเทศบาลตำบลท่าสายลวด เจ้าหน้าที่หน่วยก็ชีพและกู้ภัย รวมทั้ง อปพร.ต้องเข้าเคลียร์เส้นทาง นำต้นไม้ใหญ่ออกให้พ้นบนท้องถนน เพื่อเปิดเส้นทางการจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด ต้องปิดเส้นทางถนนอินทรคีรี จุดที่มีเสาไฟฟ้าล้มและมีต้นไม้ใหญ่ทับเส้นทาง
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับเขตนอกเมือง ในหลายหมู่บ้าน และหลายตำบล ได้ถูกพายุฝนฤดูร้อนพัดกระหน่ำอย่างหนักฝ่ายปกครองจังหวัดตาก ได้สั่งการให้ทุกอำเภอ เร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นจากวาตภัย และพายุฤดูร้อนในครั้งนี้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เกษตรกรบุรีรัมย์เดือดร้อนจากปัญหาเพลี้ยไฟระบาด

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 22-04-2551 | 12:32:02 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">บุรีรัมย์ 22 เม.ย. - เกษตรกรในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหา เพลี้ยไฟระบาด ทำให้ผลผลิตแคนตาลูปเสียหาย จนก่อให้เกิดหนี้สินรายละนับแสนบาท
เกษตรกรผู้ปลูกแคนตาลูป ที่บ้านหนองสรวง ตำบลแสลงพัน อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ กำลังประสบปัญหา การระบาดของเพลี้ยไฟที่กัดกินใบ ยอด และลำต้น ของแคนตาลูป ที่เกษตรกรปลูกไว้จำหน่าย จนทำให้ทำให้ผลผลิตแคระแกร็น คุณภาพ และน้ำหนัก ไม่ตรงตามความต้องการของตลาด สร้างความเสียหายกว่า 30 ไร่ กระทั่งประสบปัญหาขาดทุนนอกจากนั้น ผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ยังทำให้ลำต้นเหี่ยวเฉา แห้งตาย จนเกษตรกรบางราย ต้องปล่อยให้สัตว์เลี้ยงเข้าไปกินเป็นอาหารสัตว์แทน
จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือ ก่อนที่เกษตรกรจะชะลอ หรือยกเลิกการปลูกทั้งหมด.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุถล่มแม่สอดเสาไฟ้ 20 ต้นล้มทับบ้านพัง

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ทีมข่าว INN News [ 22-04-2551 | 16:33:32 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">พายุฝนฤดูร้อนถล่มแม่สอด เสาฟ้าล้ม เกือบ 20 ต้น ไฟดับทั้งเมือง บ้านพัง 2 หลัง ปิดถนนอินทรคีรี
ได้เกิดเหตุพายุฝนฤดูร้อนพัดถล่มเขตเทศบาลเมืองแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก อย่างหนักและรุนแรง เป็นเหตุให้มีเสาไฟฟ้าข้างถนนสายอินทรคีรี แม่สอด-ริมเมย ล้มเกือบ 20 ต้น และเสาไฟฟ้าได้ล้มทับบ้านของนางจำลอง อ้ายขอ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 836 ถนนอินทรคีรี และบ้านของนางสุวรรณา นะสุขใจ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 836/1 ถนนอินทรคีรี โดยบ้านทั้ง 2 หลังพังเสียหาย แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับอันตราย นอกจากนี้เสาไฟฟ้า ยังได้ล้มทับรถยนต์กระบะ เสียหายอีก 1 คัน และจากการที่เสาไฟฟ้าหักล้มนั้น เป็นเหตุให้ไฟฟ้าทั่วเมือง แม่สอดดับ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอแม่สอด ต้องเร่งระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการแก้ไข และซ่อมแซมเป็นการด่วน นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ใหญ่ ถูกลมพายุพัดล้มทับเส้นทาง แม่สอด-ริมเมย ทั้ง เส้นทางสายเอเชีย และเส้นทางในตัวเมือง เชื่อมระหว่างเทศบาลเมืองแม่สอด กับเทศบาลตำบลท่าสายลวด เจ้าหน้าที่หน่วยก็ชีพและกู้ภัย รวมทั้ง อปพร.ต้องเข้าเคลียร์เส้นทาง นำต้นไม้ใหญ่ออกให้พ้นบนท้องถนน เพื่อเปิดเส้นทางการจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด ต้องปิดเส้นทางถนนอินทรคีรี จุดที่มีเสาไฟฟ้าล้มและมีต้นไม้ใหญ่ทับเส้นทาง
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับเขตนอกเมือง ในหลายหมู่บ้าน และหลายตำบล ได้ถูกพายุฝนฤดูร้อนพัดกระหน่ำอย่างหนัก ฝ่ายปกครองจังหวัดตาก ได้สั่งการให้ทุกอำเภอ เร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นจากวาตภัย และพายุฤดูร้อนในครั้งนี้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• อาร์เจนตินาเร่งดับไฟป่าทางตอนใต้ - ใช้ ฮ.ขึ้นโปรยน้ำ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 22-04-2551 | 14:27 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ทางการอาร์เจนตินาเร่งดับไฟป่าทางตอนเหนือ ของกรุงบูเอโนสไอเรส โดยใช้ทั้ง เครื่องบิน และเฮลิคอปเตอร์บินขึ้นโปรยน้ำดับไฟ ขณะที่หมอกควันจากไฟป่า ที่แผ่ปกคลุมท้องฟ้า ในกรุงบูเอโนสไอเรสนานเกือบสัปดาห์ เบาบางลงเป็นวันที่ 2 แต่เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศเตือนว่า ควันไฟ อาจแผ่เข้าปกคลุมอีกครั้งวันพรุ่งนี้ เนื่องจากกระแสลมเปลี่ยนทิศ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• มัลดีฟส์วอนชาวโลกโลกร้อนทำชาติจมนํ้า

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย โพสต์ทูเดย์ [ 23-04-2551 | 06:04 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">โพสต์ทูเดย์

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ที่ประชุมอาหารโลกเปรียบอาหารแพงเป็นภัยเงียบคล้ายสึนามิ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 23-04-2551 | 08:49:47 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ลอนดอน 23 เม.ย. - บรรดาผู้เชี่ยวชาญที่มาร่วมการประชุมพิเศษของ โครงการอาหารโลก แห่งสหประชาชาติ หรือ WFP ที่กรุงลอนดอนของอังกฤษ กล่าวว่า โลกกำลังเผชิญกับภาวะอาหารขึ้นราคา ซึ่งเป็นภัยเงียบคล้ายคลื่นยักษ์สึนามิ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรีบดำเนินการ เพื่อรับประกันการสำรองอาหารให้เพียงพอในอนาคต
โครงการอาหารโลกแถลงว่า ประชาชนอีก 100 ล้านคนซึ่งไม่เคยเดือดร้อนมาก่อน จะต้องประสบปัญหา ไม่สามารถซื้อหาอาหารที่มีราคาแพงขึ้นได้ การทะยานขึ้นของราคาอาหาร ยังส่งผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาความยากจน และการปรับปรุงด้านสาธารณสุข ในกลุ่มประเทศที่จัดว่ายากจนที่สุดในโลก ทั้งนี้ราคาอาหารแพงขึ้นนับตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว โดยโทษกันว่า เป็นเพราะจำนวนประชากรเพิ่มขึ้น การใช้พื้นที่ปลูกพืชชีวภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาโลกร้อน ความต้องการในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนามีมากขึ้น ภัยธรรมชาติ และราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น ขณะที่ราคาสินค้าหลัก เช่น ข้าว มีราคา เกือบตันละ 1,000 ดอลลาร์ (32,000 บาท) มากกว่าสองเท่าตัวของราคา เมื่อต้นเดือนมีนาคม ก่อให้เกิดเหตุจลาจล และการประท้วงในกลุ่มประเทศ กำลังพัฒนา เช่น ล่าสุดที่อัฟกานิสถาน และกาบอง เมื่อวานนี้
ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือเอดีบี ระบุว่า การขึ้นราคาอาหารนี้เป็นสัญญาณ ชี้ให้เห็นว่า ยุคอาหารราคาถูกสิ้นสุดลงแล้ว ในขณะที่ไทยกล่าวโจมตีธนาคารโลก และสหประชาชาติที่วิจารณ์ว่า ประเทศที่ปลูกพืชเชื้อเพลิงชีวภาพ ทำให้ราคาอาหารแพงขึ้น แต่กลับไม่ตำหนิกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปกที่ทำให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้นเลย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พ่อเมืองพิจิตร สำรวจพายุฤดูร้อนพัดถล่ม

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ทีมข่าว INN News [ 23-04-2551 | 10:03:40 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ผู้ว่าราชการพิจิตร ลงพื้นที่สำรวจบ้านเรือนราษฎร 4 อำเภอ หลังถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มได้รับความเสียหาย 4 อำเภอ เมื่อกลางดึกผ่านมา
ป้องกันและสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร ได้รับรายงานว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตร ได้เกิดฝนตกและพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำ ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนประชาชน สวนไม้ผล ฟาร์มปศุสัตว์ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอตะพานหิน อำเภอวังทรายพูน อำเภอสากเหล็ก บ้านเรือนหลายร้อยหลังคาเรือนถูกพายุฤดูร้อน พัดถล่มหลังคา และฝาบ้านหายไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ เสารับ -ส่ง สัญญาณโทรทัศน์ และรับส่งสัญญาณวิทยุของทางราชการหลายแห่ง ก็เสียหายด้วยเช่นกัน โดยขณะนี้ ดร.ปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กำลังเร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อหาทางเยียวยากับผู้ประสบภัยพิบัติจากพายุฤดูร้อนครั้งนี้ อย่างเร่งด่วนแล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• คืบหน้า พายุถล่ม 3 จังหวัดภาคเหนือ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 23-04-2551 | 10:28 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">จ.แม่ฮ่องสอน เช้านี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งไปสำรวจ และให้ความช่วยเหลือราษฏร ที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อน และลูกเห็บพัดถล่ม เมื่อกลางดึก ใน 2 ตำบลของอำเภอเมือง บ้านเรือนราษฏรได้รับความเสียหายจำนวนมาก รวมทั้งยุ้งฉางเก็บข้าวเปลือก ต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่น กระแสไฟฟ้าในหมู่บ้านดับ ถนนอุทยานท่ามกลางต้นไม้หักโค่น ขวางถนนเป็นระยะๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเคลียร์เส้นทางแล้ว
จ.น่าน พายุฝนฟ้าคะนองที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.เมืองน่าน นาหมื่น และเวียงสา ทำให้ต้นไม้หักโค่น ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างพังเสียหาย บ้านเรือนถูกแรงลมพัดพังเสียหาย ต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นขวางถนน เช้านี้เจ้าหน้าที่ได้ออกไปสำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือ มีกำแพงพังทับบ้านได้รับความเสียหาย 1 หลังคาเรือน สายไฟฟ้าถูกต้นไม้หักโค่นทับขาด ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้านผาตูบ เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปแก้ไขแล้ว
ส่วนที่ จ.พิษณุโลก เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่ ม.2 บ้านบางขวัญ ต.วังโพรง อ.เมืองมะปราง ทำให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายไปกว่า 30 หลังคาเรือน ชาวบ้านที่บ้านเรือนเสียหาย เพราะลมพัดหลังคาสังกะสี และหลังคากระเบื้อง ปลิวหายไปต้องไปอาศัยบ้านญาตินอนชั่วคราว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• อุตุฯ เตือนอีสานระวังภัยพายุฤดูร้อน 23 - 26 เม.ย.นี้

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 23-04-2551 | 11:04 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนภัยจากพายุฤดูร้อน โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันที่ 23 -26 เมษายนนี้ ว่า จะมีพายุฝนฟ้าคะนองฝนตกหนัก และมีลูกเห็บตก ในขณะที่เกิดพายุไม่ควรอยู่ใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง และไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้งด้วย รวมไปถึงคำเตือนว่า ไม่ควรจะใช้สื่อไฟฟ้าที่จะเป็นสาเหตุของการเกิดฟ้าผ่า
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ลำพูนประกาศอีก 2 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 23-04-2551 | 10:48 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">อ.ลี้ และ บ้านธิ เป็น 2 อำเภอ ล่าสุดของ จ.ลำพูน ที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบ ภัยพิบัติฉุกเฉิน หลังสถานการณ์ภัยแล้งคุกคามอย่างหนัก ทำให้ขณะนี้ทุกอำเภอของ จ.ลำพูน เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติครบหมดแล้ว และสถานการณ์ยังมีทีท่าลุกลาม ขยายวงกว้างออกไปอีก และสร้างความเสียหายให้กับชาวนา เพราะขาดน้ำอย่างหนัก จังหวัดจึงเร่งหาวิธีช่วยเหลือโดยเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น แต่ยังพบว่าเกษตรกรจำนวนไม่น้อย ปลูกข้าวนาปรังอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สนใจกับสภาพอากาศ เนื่องจากข้าวสามารถขายได้ราคาดี
ส่วนที่ จ.อุตรดิตถ์ ยังต้องเผชิญกับพายุฤดูร้อนล่าสุด เกิดพายุพัดกระหน่ำที่ ต.ผักขวง อ.ทองแสนขัน บ้านเรือนพังเสียหายกว่า 50 หลัง ความรุนแรงของพายุยังทำให้เสาไฟฟ้าเชื่อมระหว่างหมู่บ้านหักโค่นกว่า 30 ต้น ทางจังหวัดได้ประกาศให้ อ.ทองแสนขัน เป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉินวาตภัย พร้อมออกประกาศเตือนให้ระวังพายุฤดูร้อนต่อเนื่องไปอีก 2 - 3 วัน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• วิกฤติอาหารโลกทวีความรุนแรง เพราะราคาข้าวและข้าวโพดพุ่งทะยาน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 23-04-2551 | 11:10:14 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">วอชิงตัน 23 เม.ย.- วิกฤติปริมาณอาหารโลกทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อราคาข้าวและข้าวโพด ซึ่งเป็นอาหารหลักขยับเพิ่มขึ้น เพราะมีความต้องการเพิ่มขึ้น และมีความวิตกเรื่องสหรัฐชะลอการเพาะปลูกครั้งใหม่
ราคาข้าวขาวเกรดบี 100 เปอร์เซ็นต์ของไทยปรับขึ้นมากกว่า 2 เท่าจากตันละ 383 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อต้นปีนี้เป็น 950 ดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้ ขณะที่ราคาข้าวโพดงวดส่งมอบเดือน พ.ค.ขยับขึ้นร้อยละ 14 เป็น 5.94 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 8 แกลลอน เพราะเกษตรกรอเมริกัน ชะลอการเพาะปลูกครั้งใหม่ เนื่องจากฝนตก และคาดว่าจะตกต่อเนื่องในไปอีก คอสโก บรรษัทค้าส่งรายใหญ่ในสหรัฐเผยว่า ข้าวและแป้ง กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก ของลูกค้ารายย่อยและร้านค้า ทางบรรษัทอาจต้องจำกัดปริมาณการซื้อ แต่ก็ไม่ต้องการทำให้ผู้คนแตกตื่น ด้านสมาคมผู้ผลิตขนมปังอเมริกันเผยว่า สหรัฐไม่มีแป้งไรย์ผลิตขนมปังแล้ว ผู้ผลิตต้องซื้อจากเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์
ขณะเดียวกันธนาคารพัฒนาเอเชียวิจารณ์มาตรการห้ามส่งออกข้าวว่า ไม่ต่างจากการกักตุนข้าวในประเทศ รัฐบาลที่ดำเนินมาตรการนี้ ควรเปลี่ยนไปช่วยเหลือคนจน ด้วยมาตรการการคลังจะดีกว่า ส่วนธนาคารพัฒนาระหว่างอเมริกา ที่สนับสนุนการพัฒนาในลาตินอเมริกา และแคริบเบียนเผยว่า จะไม่สนับสนุนโครงการผลิตเอทานอลจากข้าวโพด แต่จะสนับสนุนโครงการผลิตเอทานอลจากพืชรับประทานไม่ได้ เช่น สบู่ดำ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุฤดูร้อนถล่มเหนือ-อีสาน บ้านเรือน-พืชผลการเกษตรเสียหายยับ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 23-04-2551 | 11:32 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ รวม 6 อำเภอ ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎร จำนวน 326 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหาย ประกอบด้วย อ.ศิลาลาด ต.โจดม่วง อ.น้ำเกลี้ยง อ.กันทรารมย์ อ.ขุขันธ์ อ.กันทรลักษ์ และ อ.โนนคูณ ทั้งนี้มีผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่า จำนวน 2 ราย
ส่วนที่ จ.น่าน พายุฤดูร้อนได้พัดถล่มเมื่อคืนที่ผ่านมา พืชผลการเกษตร ลำไย ลิ้นจี้ เสียหาย 20 กว่าไร่ นอกจากนี้ที่ จ.อุดรธานี เกิดเหตุพายุฤดูร้อนถล่มบ้านเรือนประชาชนและยุ้งข้าว เสียหายกว่า 1 ล้านบาท
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุถล่ม หลายจังหวัด

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 23-04-2551 | 11:25 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">พายุฤดูร้อนทำให้ต้นยางขนาดใหญ่ 4 คนโอน อายุ 200 ปี หักโค่นทับอาคารเมรุเผาศพพังทั้งหลัง บ้านเรือนประชาชน 6 อำเภอ ของจ.สิงห์บุรี ถูกแรงลมพัดเสียหายกว่า 50 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่เป็นหลังคาสังกะสี และหลังคากระเบื้องถูกลมพัดหายไป เสาไฟฟ้าล้มหลายต้น ทำให้ไฟฟ้าดับบางพื้นที่
จ.ลพบุรี พายุฝนที่พัดกระหน่ำในเขต อ.เมืองลพบุรี ทำให้บ้านเรือนประชาชน โรงเรียน และวัดได้รับความเสียหาย เสาไฟฟ้ากว่า 50 ต้นโค่นล้ม บางต้นทับรถยนต์ และบ้านเรือนราษฎร และทำให้ไฟฟ้าดับ ปั๊มน้ำมัน และโกดังเก็บพืชผลทางการเกษตร และเมล็ดพันธุ์ ได้รับความเสียหาย
จ.พิจิตร พายุฤดูร้อน เมื่อคืนนื้ ได้สร้างความเสียหายให้กับหลายพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ถูกแรงลมพัดโค่น โรงเรียนอย่างน้อย 3 แห่ง ถูกแรงลมพัดหลังคาพังเสียหาย เช้านี้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรได้ สั่งให้เจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจให้ความช่วยเหลือ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุถล่มเสาช่อง 3 กลางทุ่งนาโคราช สูญกว่า 20 ล้าน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย เนชั่นทันข่าว [ 23-04-2551 | 12:57 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 22 เม.ย.51 ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงในพื้นที่เขตตัวจ.นครราชสีมา ส่งผลให้เสาอากาศเครื่องส่งขนาด 20 กิโลวัตต์ ระบบ (UHF) ของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ซึ่งตั้งอยู่ที่ทุ่งนา ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมาโค่นล้มถล่มลงมาพังเสียหายเป็นระยะทางยาวกว่า 100 เมตรวัวของชาวบ้านใกล้เคียงถูกเสาอากาศขนาดใหญ่ทับตายจำนวน 2 ตัวโชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ซึ่งจากการที่เสาอากาศเครื่องส่งโค่นล้มพังเสียหายครั้งนี้ ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และบางพื้นที่ของ จ.บุรีรัมย์ และจ.ชัยภูมิ ไม่สามารถรับชมภาพ ของช่อง 3 ได้ตามปกติ แต่ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว สามารถปรับสัญญาณโทรทัศน์ ไปที่ระบบโลว์แบนความถี่ VHF ช่อง2 เพื่อรับชมภาพของทางช่อง 3 ได้เป็นการชั่วคราวสำหรับค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณกว่า 20 ล้านบาท
นายศุภชัย จารมสุริยา ช่างเครื่องส่งประจำสถานีเครื่องส่งจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่าเสาอากาศเครื่องส่งของสถานีฯ ได้ถูกพายุฝนและลมกระโชกแรง พัดกระหน่ำอย่างหนัก จนทำให้โค่นล้มพังลงมา จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เสาอากาศส่งสัญญาณทั้งต้นพังเสียหาย มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• แม่น้ำปราจีนบุรีสาหร่ายสีเขียวแกรมน้ำเงินเจริญเติบโต

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ทีมข่าว INN News [ 23-04-2551 | 15:35:25 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">แม่น้ำปราจีนบุรีสาหร่ายสีเขียวแกรมน้ำเงินเจริญเติบโตเต็มแม่น้ำ ภาวะน้ำเค็มน้ำนิ่ง ปริมาณโปรแตสเซียม ไนเตรตพอเหมาะ หนุนหวั่นคุณภาพน้ำ – การผลิตประปา
น้ำเค็มหนุนแม่น้ำปราจีนบุรีเกิดภาวะสาหร่ายสีเขียวแกรมน้ำเงินเต็มลำน้ำ นักวิชาการกรมควบคุมมลพิษชี้กลางคืน - ค่อนรุ่ง เกิดภาวะออกซิเจนในแม่น้ำลดต่ำ ให้แจ้งประมงพื้นบ้านเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำ/ปลาเลี้ยงกระชัง และระบบการผลิต น้ำประปาที่มีผลต่อระบบบำบัด - กลิ่นสารอินทรีย์ คณะกรรมการลุ่มน้ำขี้เคย เกิดปัญหาลักษณะเดียวกันนี้หลังทดลองปิดเขื่อนทดน้ำบางปะกงในอดีต แต่เป็นสาหร่ายพิษน้ำตาลแกมแดง ชี้ควรนำตัวอย่างตรวจสอบ ในกระบวนการวิทยาศาสตร์
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ 23 เม.ย. 51 นายวิชัย มุกดาหารประธานสภาองค์การบริหาร ส่วนตำบลท่างาม ( อบต.) อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า “ได้เกิดภาวะน้ำ ในแม่น้ำปราจีนขุ่นข้น และมีภาวะเป็นผืนฝ้าแขวนลอยเหนือผิวน้ำ เป็นสีเขียวกระจายทั้งลำน้ำ เมื่อเกิดน้ำหนุน และเป็นทางยาวสีเขียวเป็นสาย เมื่อน้ำลงเกิดการไหลสู่อ่าวไทย โดยลักษณะดังกล่าวนี้เกิดมาตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. – ปัจจุบันนี้ตั้งแต่ ต.ท่างาม อ.เมือง – เขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ที่เป็นช่วงภาวะน้ำเค็มหนุน โดยเบื้องต้นทราบหนุนขึ้นมาถึงแถบ ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรีแล้ว”
“ลักษณะดังกล่าวต้องการให้มีการเก็บตัวอย่างน้ำสีเขียวที่เป็นเม็ดเล็ก ๆ มองเห็นด้วยสายตามีมากสุดช่วงเช้า และลดปริมาณลงหลังช่วงกลางวัน เนื่องจากเกรงผลกระทบคุณภาพน้ำ ในการผลิตประปาหมู่บ้านที่น้ำขุ่น และน้ำสีเขียวดังกล่าวที่ชาวบ้านนำไปอุปโภค – บริโภค” นายวิชัยกล่าว
ด้านนางเบญจา จันติ้ว อายุ 55 ปีเลขที่ 30/1 หมู่ 10 ต.ท่างาม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรีประธานกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง ต.ท่างาม กล่าวว่า “ในช่วงน้ำเค็มหนุนจะเกิดภาวะน้ำสีเขียวในแม่น้ำปราจีนบุรีทุกปีแต่ไม่มาก แต่พบปีนี้มากเต็มแม่น้ำมองเห็นเป็นเม็ดเล้ก ๆ สีเขียวเหมือนสารเคมี ในส่วนหมู่ที่ 10 ต.ท่างาม นี้เป็นช่วงที่น้ำไหลเร็วเกิดภาวะดังกล่าว 3 – 4 วัน ก็กลับปกติยกเว้นในพื้นที่ใต้ลงมาในพื้นที่ตั้งแต่หน้า รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ลงไปในเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ที่น้ำเค็มหนุนขึ้นมา น้ำไหลเอ่อนิ่งช้าจะเห็นเต็มลำน้ำ และเห็นปรากฏการณ์ต่อเนื่องนาน”
“หลังเกิดเหตุการณ์ภาวะน้ำแม่น้ำเป็นฝ้าเขียวผิวน้ำมองดูคล้ายสี ประมง จ.ปราจีนบุรี ได้ประสานสอบถามผลกระทบปลากระชัง ที่รวมกลุ่มเลี้ยงกว่า 20 กระชัง พบว่าไม่ผิดปกติใด ๆ” นางเบญจากล่าว
ขณะที่ ดร.เชาว์ นกอยู่ นักวิชาการสิ่งแวดล้อม รักษาการผู้อำนวยการแหล่งน้ำจืดกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า “ ได้รับทราบข้อมูลที่เกิดขึ้นในแม่น้ำปราจีนบุรี และลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า เป็นสาหร่ายสีเขียวแกรมน้ำเงินขนาดเล็ก จำนวนมากที่รวมตัวกัน โดยปกติจะไม่เกิดในแม่น้ำ เกิดแหล่งน้ำนิ่ง โดยไหลมาจากคลองประจันตคามที่มีการปลูกผักกระเฉดจำนวนมาก โดยแปลงกระเฉดจะมีสาหร่ายดังกล่าวมาก เมื่อฝนตกชะล้างลงมาตามคลองประจันตคาม ลงแม่น้ำปราจีนบุรี จึงปรากฏให้เห็นลอยบนผิวน้ำคล้ายคราบน้ำมัน หากได้ปริมาณอาหารที่เป็นปุ๋ยธาตโปรแตสเซียม หรือไนเตรต ประกอบน้ำนิ่ง แสงแดด – อุฯหภูมิเหมาะสมจะเจริญเติบโตได้ดี”
“ซึ่งสาหร่ายสีเขียวแกรมน้ำเงินนี้ไม่เป็นอันตรายต่อปู ปลา สัตว์น้ำ แต่ขอแจ้งเตือนให้เกตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง ให้ระวังภาวะภาวะออกซิเจน ในแม่น้ำปราจีนบุรี ที่จะลดต่ำได้จากที่กลางคืนถึงค่อนรุ่งสาหร่ายสีเขียว จะคายก๊าสคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา จะทำให้ปลากระชังเกิดลอยหัวไม่กินอาหาร หรือตายได้ และในตอนกลางวันที่มีการสังเคราะห์แสง จะคายก๊าสออกซิเจนออกมา ในช่วงค่อนรุ่งให้ผู้เลี้ยงปลาเติมก๊าสออกซิเจนเพิ่มอากาศให้ปลากระชังด้วย”
“พร้อมกันนั้นในส่วนการผลิตน้ำประปา จะเสียค่าบำบัดน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากสาหร่ายเหมือนสารแขวนลอย เป็นสารอินทรีเมื่อปริมาณมากดังกล่าว จะเน่าเหม็นเหมือนตะกอนเลนสีเขียว ที่การผลิตประปาต้องบำบัดเพิ่มขึ้น”ดร.เชาว์ กล่าว
ด้าน จ.ส.อ.ศักดา ทองประสิทธิ์ รักษาการคณะอนุกรรมการลุ่มน้ำบางปะกง และโตนเลสาป กล่าวว่า “ ภาวะนำเค็มหนุน เกิดปัญหาสาหร่ายพิษ เคยเกิดในแม่น้ำบางปะกง ลุ่มน้ำเดียวกับแม่น้ำปราจีนบุรีครั้งแรก หลังมีการทดลองปิดประตูเขื่อนทดน้ำบางปะกง กั้นน้ำเค็มหนุน ครั้งแรกที่พบระหว่างวันที่ 31 ม.ค. – 3 ก.พ. 43 หน้าวัดโสธรวรารามวรวิหาร องเมือง จ.ฉะเชิงเทราลักษณะน้ำเปลี่ยนจากสีเขียวใสเป็นน้ำตาลแดงขุ่นปริมาณสัตว์น้ำ ปู้ปลากุ้งลดจำนวนลง และครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 15 – 18 ก.พ. 43 พบในแม่น้ำบางปะกงในชุมชนบ้านใหม่ – เขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา”
“สำนักงานสาธารณสุข จ.ฉะเชิงเทราโดย นพ.ธวัธชัย วาณิชกร อดีตนายแพทย์สาธารณสุข จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีการนำตัวอย่างน้ำไปวิเคราะห์พบสาหร่ายน้ำตาลแกรมแดงเพิ่มขึ้นผิดปกติ เนื่องจากน้ำนิ่งไม่ไหลเวียนมีปริมาณธาตุอาหารจากขี้หมู – น้ำทิ้งชุมชนสูง พบแพลงตรอนพืช 18 ชนิดไม่เป็นพิษ แพลงตรอนสัตว์อีกจำนวนหนึ่งและพบสาหร่ายพิษจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มากนักที่ปกติจะพบบริเวณอ่าวไทยไม่พบในแม่น้ำสายหลัก”
“ปรากฏการณ์แม่น้ำปราจีนบุรีเปลี่ยนสีนี้ ควรมีการเก๋บตัวอย่างส่งพิสูจน์ และระบุผลการตรวจสอบ ในการกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ต่อไป” จ.ส.อ.ศักดา กล่าวในที่สุด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เกิดการประท้วงน้ำขาดแคลนในบังกลาเทศ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 23-04-2551 | 15:35:55 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ธากา 23 เม.ย. - ประชาชนหลายร้อยคนออกมาชุมนุมประท้วงในกรุงธากา นครหลวงของบังกลาเทศ วันนี้ เพื่อประท้วงภาวะขาดแคลนน้ำดื่ม แม้จะฝ่าฝืนกฎห้ามประท้วงก็ตาม
เจ้าหน้าที่บังกลาเทศระบุว่า ระดับน้ำบาดาลที่ลดต่ำลง และการขาดแคลนไฟฟ้า ในการเดินเครื่องสูบน้ำ เป็นสาเหตุให้ เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มอย่างหนัก ในกรุงธากา ซึ่งมีประชากรมากถึง 11 ล้านคน ทำให้วันนี้ประชาชน ออกมาชุมนุมกันตามท้องถนน เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาขาดแคลนกระแสไฟฟ้า และน้ำดื่ม ขณะที่ทางการต้องขอให้กองทัพมาช่วยดูแลการแจกจ่ายน้ำวันละ 1,500 ล้านลิตร แม้ความต้องการจริงจะมีมากถึงวันละ 2,250 ล้านลิตร เนื่องจากเกิดไฟฟ้าดับบ่อยครั้ง และระดับน้ำบาดาลลดต่ำลง ชาวบังกลาเทศคนหนึ่งระบุว่า สถานการณ์ขาดแคลนน้ำเลวร้ายลงทุกวัน ประชาชนต้องเข้าคิวขอรับน้ำเป็นเวลาหลายชั่วโมง
ทั้งนี้ น้ำที่ใช้ในกรุงธากามาจากแหล่งน้ำบาดาล มากถึงร้อยละ 86 ระดับน้ำที่มีเพียง ปีละ 3 เมตร ทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าระบุว่า การขาดแคลนไฟฟ้านั้นเป็นเพราะไม่มีก๊าซธรรมชาติเพียงพอ สำหรับเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า สร้างความเดือดร้อน ให้ประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในชนบทที่มีไฟฟ้าใช้เพียงวันละไม่กี่ชั่วโมง เหตุที่เกิดขึ้นทำให้เกรงว่า อาจเกิดการประท้วงขึ้นในบังกลาเทศ เหมือนเมื่อปี 2549 ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 20
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>