นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (รุ่นอภิมหาลาภ)

ตอนที่ 7 มารยังรังควาญ อีก !!!

กลับมาไปหาหลวงปู่เหิร ถามหน้าตาผมเป็นไง

“ดีขึ้นมากนี่ ทำอะไรมา”

ก็เล่าให้ท่านฟัง ท่านบอก “มันเป็นกรรมนะ ไปรักษาทำไม”

“ถ้ากรรมแล้วทำไมผมหายละครับ”

“บางทีก็หายได้เหมือนกัน แต่ทำแบบนี้เราจะไม่หลุดพ้นนะ”

(คำตอบนี้จะรู้ในเวลาต่อมา)

หลังกลับจากนั้นก็เริ่มทบทวนวิชา การป้องกันอีกครั้ง ก็อยู่ในหลายเดือน ก็เริ่มมีอาการปวดนู่นี่ อะไรอีก ก็คิดว่าเพราะทำงานใช้ร่างกายหนักไป ไปรักษาแผนปัจจุบัน นวดแผนโบราณก็ดี ๆ หายๆ เป็นพัก ๆ

จนเริ่มเกิดอาการหงุดหงิด กิจการงาน การเงินติดขัดไปมาก

จึงเดินทางไปถามหลวงปู่ประหยัดอีกครั้ง

“มันเปลี่ยนคนทำอีก !!!!” เราก็ แก้กันไป

“แบบนี้เมื่อไรจะจบครับ ถ้าผมเอาคืนบ้างละ”

“สายเราห้าม ผิดครู ห้ามทำโต้ตอบต่อ รักษาอย่างเดียว”

“ถ้าผมจะเล่นงานมันบ้างละครับ ต้องทำยังไงให้ใครช่วย”

“ต้องไปที่ภาคเหนือ ที่เราเคยรู้จัก มีคนเก่งที่เขาเชี่ยวชาญเรื่องนี้ !!!!????”

 

ตอนที่ 8 การเลือกเส้นทาง...กลับไปอีกครั้ง


หลังหลวงปู่เหิร หลวงปู่ประหยัดละสังขาร จึงได้ทำตามที่ท่านชี้แนะ กลับไปหาที่ปรึกษาอีกครั้ง


โดยครั้งแรกขอท่านพาไปอาบน้ำมนต์ ซึ่งท่านพาไปครูบาท่านนึง โดยท่านให้ไปอาบน้ำมนต์นอกวัดเลย ท่านเล่าให้ฟังภายหลัง

“ครูบา...บอกให้ไปนอกวัดเลย เดี๋ยวตกในวัดคนมาโดนยุ่งเลย”


จำได้ขณะอาบ ที่ปรึกษา ชี้บอกครูบา...ตรงจุดที่ปวดที่สุด

“ครูบาเขี่ยตรงนี้ด้วย”

ยังอึ้งจนทุกวันนี้ เราไม่ได้บอกเราปวดตรงไหน ที่ปรึกษามองเห็น และรู้ได้ !!!!

หลังขึ้นรถออกจากวัด

“เป็นห่วงเราจริง ๆ คงต้องพาไปหา ....ท่านปรมาจารย์ใหญ่”

“ใครครับ”

“ท่านปรมาจารย์ใหญ่ ท่านชำนาญเรื่องดำ ๆ ”

ท่านก็พาไปหา ในป่าแห่งนึง....

ท่านปรมาจารย์ใหญ่ ในสายตาของเขา ดูแบบธรรมดา ไม่น่าจะเก่ง

ท่านให้ไปต้มไข่ โดยให้ไปบอกร้านค้าแถวนั้นต้มไข่ไก่มาทันที

ก็อุตส่าห์ขับรถไป เอาไข่ต้มมาจนได้

ท่านบิไข่ต้มออกครึ่งนึง เอาเหรียญเงิน ใส่ในไข่ แล้วประกบไข่ เอาผ้ามาห่อ แล้วให้นั่งยืดขา แขน เอาไข่ต้มว่าคาถาไล่ตามร่างกาย แล้วแกะออกมา หยิบเหรียญเงิน

“เหรียญดำ โดนพิษคาถา !!!!!” ตอนนั้นที่เห็นเหรียญก็ดำจริงๆ จากที่เห็นก่อนเอาใส่ไข่ต้ม เหรียญยังขาววิบวับ

จึงหยิบเทียนออกไปในป่าด้านหลัง เอาวางทับไข่ต้มแล้วจุดเทียน

จากนั้นท่านปรมาจารย์บอกให้กลับ เดี๋ยวตรวจให้


คืนนั้นที่ปรึกษาโทรมา “ท่านบอก เขาต้องการอะไรจากเราซักอย่าง ขนาดอาบน้ำมนต์แล้วนะ เหมือนมันวนเวียนรอบตัวเราตลอดเลย”

 

ตอนที่ 9 เริ่มตอบโต้ด้วยความยากเย็น

การตอบโต้เหล่ามาร เริ่มต้น ที่ปรึกษาเล่าว่า

“ตอนแรกท่านปรมาจารย์บอกจะไม่รับงานนี้แล้ว มันยาก เขาเตรียมตัวมาก่อนเรามากแล้ว”

“ก็ผมเชื่อหลวงปู่เหิร บอกเป็นกรรมให้แผ่เมตตา แล้วก็สวดคาถาตลอด ทำไมมันยังตามเล่นงานผมได้ ไปรักษากับหลวงปู่ประหยัดหลายรอบ มันก็เข้ามาได้ งงจริง ๆ”

“ขนาดตอนโดนเล่นงานมีของดีเพียบ ....ฯลฯ ยังไม่เตือน”

“เขามีวิธีสกัด ตอนที่ไปกินอาหารกับเขา เผลอ ๆเขาเริ่มดาขันแล้ว ให้ของเหล่านั้นไม่เตือน...!!!!” (ความรู้ใหม่)

“พวกพระ เราก็รู้อยู่แล้ว พระจะมาช่วยไหมถ้าวาระกรรมมา !!!!!”

ภายหลังท่านส่งข่าว “ท่านบอกมันไม่ตรงสาย ตอนแรก ก็ไม่บอกท่านว่าโยมโดนของสายแขกมาเลย์ แต่ท่านก็บอกไม่ตรงสายแสดงว่าท่านรู้จริง ๆ”

“มีใครเก่งกว่าท่านปรมาจารย์ใหญ่อีกไหมครับ”

“ที่รู้มา ไม่มีแล้ว ทุกคนมาที่นี่กันหมด...!!!”


หลังใช้เวลาไปหาท่านหลายปี แรก ๆ ท่านบอกมันมีคนช่วย มันไปลงทองตามจุดร่างกายมาเต็มที่ ป้องกันทุกทาง

“ลงทองทำไมหน้ามันดำ ไม่ขาวแบบผม เพราะผมลงทองมาเป็นร้อย ๆ แผ่น”

“นั่นเป็นของถ่อย เป็นของสายดำ แต่ใช้ได้ดีจริง ๆ ไม่มีข้อห้ามแบบสายพระ”

จึงได้แต่อึ้ง ทึ่งเสียวกับสายวิชานี้จริง ๆ

“มิน่าหลวงปู่ประหยัด ยังต้องเรียกศิษย์มา 2 คน รวมท่านมาลงมือเองปิดท้าย เป็น 3 รักษาตั้งแต่ 2 ทุ่มยันเที่ยงคืนถึงขับออกหมด ปกติเห็นรักษาไม่นาน ....คืนนั้นฟ้าร้องเปรี้ยงปร้าง ฝนตกหนักด้วย ผมนิตัวสั่นกลัวเลย!!!!”


“ก็นั่นละ ท่านปรมาจารย์ใหญ่ยังจะไม่รับงานนี้เลย ”

 

ตอนที่ 10 กำเนิดมีดหมอกริช รุ่นอภินิหารปราบไตรจักร

เนื่องจากห่างไกล เดินทางลำบากในการไปรักษาหากโดนเล่นงาน จึงร่วมมือกับที่ปรึกษาสร้างมีดหมอขึ้นมา เพื่อใช้รักษาตัวเองได้ ได้รวบรวมชนวนโลหะกายสิทธิ์มากมาย ตั้งแต่ครั้งหลวงปู่เหิร ตรวจสอบ ลงปลุกเสกให้ และอีกมากมายตามหลักวิชาสร้างมหาศาสตราคม

จนสร้างมีดหมอรุ่นนี้สำเร็จ และนำมาใช้ทำน้ำมนต์ขับรักษาคุณไสยมาจนทุกวันนี้

ยังจำได้หลักปลุกเสกโดยครูบาทองเสร็จ ก็ทำพิธีเสี่ยงทายฟันกิ่งไม้ตายพราย ดูอนาคต ที่ปรึกษาทำนายว่า “มันจะโดนของมันย้อนกลับหาตัวเอง” (ภายหลังจากนั้นหลายปีก็เป็นจริง)

 

ตอนที่ 11 ได้พบผู้ทรงภูมิเรื่องธาตุ


หลังพยายามสร้างบุญกุศลมาเรื่อยๆ ได้มีโอกาสพบ ผู้ชำนาญเรื่องไสยศาสตร์ ตามที่ปรึกษาให้คำชมว่า “เขาคือนักวิชาการไสยศาสตร์”

ซึ่งท่านได้ตรวจสอบชี้แนะเขาว่า “ร่างกายโดนคุณไสยจนธาตุเสื่อมไปมาก พอใช้ของดีคาถาอาคมจึงไม่เกิดผล ธาตุเกิดช่องว่าง ”

ก็ลองนึกย้อนตอนพบท่านปรมาจารย์ใหญ่ครั้งแรก ท่านตรวจชะตาบอกว่า “ธาตุ...เสื่อม” (กรรมของตรู ห้อยพระของดีเพียบยังโดน)

จึงเริ่มขอเข้ารับการรักษา ฟื้นฟูธาตุ และรับแนวคำสอนข้อห้ามต่างๆ ดังเช่น

1.การที่เราโดนคุณไสย ก็คือมาจากกรรม ของเหล่านี้มาด้วยกรรม โดยจะค่อย ๆทำลายธาตุในร่างกาย แม้เก่งกล้าคาถาอาคม ก็เสร็จได้หากร่างกายเสื่อมไปแล้ว และจะทำให้การเงินติดขัดจิตใจหงุดหงิด ต้องแก้ไขให้ตรงจุด

2. เมื่อมันมาเพราะกรรม การที่ผู้ทรงอาคม อภิญญาใช้พลังรักษาให้โดยตรง ก็เสมือนเบี่ยงกรรม ย่อมต้องได้รับผลนั้น เพราะเจ้ากรรมนายเวรจะไม่ยอม แม้รักษาหาย ก็หายไม่นาน มันจะกลับมาอีก มารอที่บ้าน หรือรอจังหวะ ผู้รักษาให้ย่อมได้รับผลด้วย ทางหลักศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าจึงห้ามทำน้ำมนต์ ไล่ผี รักษาคุณไสย (ตรงตามหลวงปู่เหิรสอน)

 

ตอนที่ 12 กำเนิดตะกรุดพญาจักรวรรติราช ปราบพิภพทั้ง ๔


เมื่อการแผ่เมตตา ทำบุญกรวดน้ำให้มันไม่เป็นผล มารยังจองเวร ตามที่ท่านปรมาจารย์ใหญ่ได้ตรวจบอกไว้ “มันทำกรรมกันไว้อย่ารู้เลย มันยาว”

จึงต้องเริ่มตอบโต้ ด้วยการสร้างของต่อสู้มัน ไม่ต้องถามว่าพระจะช่วยไหม คำตอบรู้กันดี จากที่เห็นผู้โดนคุณไสยมากมาย ห้องพระเต็มคอ สักเต็มตัวมารักษากับหลวงปู่ประหยัด....


จึงได้ขอที่ปรึกษารื้อฟื้นวิชาของหน่วยรบพิเศษสร้างตะกรุดนี้ขึ้นมา เพื่อเพิ่มอำนาจบารมีตัวเอง สะกดข่มเหล่ามารร้าย

ท่านปรมาจารย์ใหญ่เสกให้หลายวัน......

 

ตอนที่ 13 กำเนิดตะกรุดฟ้าสะท้านดินสะเทือน


จากข่าวที่แจ้งมาท่านปรมาจารย์ได้ใช้วิชาไล่เก็บผู้ช่วยเหล่ามารมาเรื่อยๆ แต่มันก็แสบจัด หาคนมาช่วยเรื่อยๆ ดังท่านบอกมันป้องกันทุกทาง จึงต้องใช้วิธี “ไม่เข้าถ้ำเสือ ย่อมไม่ได้ลูกเสือ”

ที่ปรึกษาจึงรื้อฟื้นวิชาสุดยอดของหน่วยรบพิเศษ เป็นวิชาบันทึกของไทใหญ่ ตามตำนานล้มเจ้ามืองทรงอาคมได้สำเร็จ

เราคิด “มันคงไม่เก่งกว่าเจ้าเมือง...แน่”

เมื่อสร้างเสกตะกรุดนี้สำเร็จ ที่ปรึกษาจึงแจ้งท่านปรมาจารย์ใหญ่

“เขาจะเดินทางไปใกล้ตัวมันขอท่านปรมาจารย์เปิดทางให้ด้วย”

“ท่านว่าได้เลย รับทราบแล้ว ไปได้เลย”

จึงขึ้นเครื่องบินเดินทาง ไปใกล้ตัวมัน

คืนนั้นเครียด กังวลจนนอนไม่หลับแต่ฝืนใจ ไปจนเจอหน้าทักทาย แปลกตอนที่มันมา หัวใจเริ่มเต้นแรง เต้นแรงมากจนได้ยินเสียงหัวใจ

“กลั้นใจภาวนาคาถาเต็มที่ ตายเป็นตาย ไม่มึงตายกรูตาย ...!!! ”

ตุ๊บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆๆ จนหัวใจสงบลง

แจ้งที่ปรึกษา ส่งภาพไป


“สำเร็จแล้ว ลุ้นมาก ไปสอนหนังสือยังกังวลจะไหวหรือเปล่า แม้ตะกรุดเราดี แต่มันก็ไม่ตรงสาย แต่ก็สำเร็จ ท่านปรมาจารย์บอกว่า เปิดทวารมันได้แล้ว ของจะค่อย ๆเข้า”

หมายเหตุ ใช้ 2 ตะกรุดคู่กันนะครับ คือ ใช้ปราบพิภพ กับฟ้าสะท้าน ...

ปราบพิภพ เพิ่มบารมีตัวเรา

ฟ้าสะท้าน ทำลายล้างอริเหล่ามาร...

 

ตอนที่ 14 ทีใครทีมัน ...!!!!


หลังจากนั้นสายข่าวรายงาน กิจการมันเริ่มทรุดลง ชีวิตมันมีแต่เรื่องบัดซบเรื่อย ๆ หน้าตามันเริ่มโทรม แต่มันก็อึด


“ท่านบอกมันพยายามดิ้นรนหาคนช่วยเรื่อย ๆ มันไม่ได้มีแต่สายเรา มีสายอื่นเล่นงานมันด้วย ”

“ท่านบอก คนจ้องเล่นงานมันมาก คนช่วยมันก็เก่ง บางทีท่านบอก รบกับสาย.... บางทีก็มันดี บางทีท่านก็เครียด บางทีท่านก็ยิ้ม ตอนท่านจะท้อเลิกรับงาน ดีเราไปใช้ตะกรุดปราบพิภพ ฟ้าสะท้านเปิดของมันสำเร็จ ทองที่มันลงกันหลุดลุ่ยไปแล้วแต่มันก็รีบหาคนช่วย แต่สายไปแล้ว ของคนที่เล่นงานมันค่อย ๆ ซึมเข้า”

“ผมเคยถามหลวงปู่ประหยัด ท่านก็บอกมีคนเล่นงานมันอยู่ ยังบอกอาการมันได้ถูก ผมเคยไปถามมันมันมีอาการแบบนั้นจริง ๆ ....” ผมย้อนอดีตเล่า

“ไม่นานนี้ท่านติดต่อกับพวกคนเล่นงานมัน ร้าย ๆ ทั้งนั้น ”

“ไลน์กลุ่มเลยหรือครับ 5555” ผมฟังหัวเราะตาม

“ใช่ ถ้าเปรียบสมัยนี้คือไลน์กลุ่ม พวก VIP”

จนเวลาผ่านมา นับ2-3 ปี จากสายข่าวมันก็เริ่มทรุด หน้าตาทรุดโทรม มีแต่เรื่องแย่ ๆ ลามปามถึงคนรอบตัวมัน ก็พลอยเจ็บ ทรมาณไปด้วย

"พวกนี้เหมือนพาหะนำโรค ใครอยู่ใกล้มีแต่ติดโรค " ผู้ทรงภูมินักวิชาการไสยศาสตร์เคยกล่าวไว้...

“ทำไมมันอึดจัง ไม่เก็บมันซะเลยละครับ”

“ท่านพาไปดูกองขี้เถ้า แล้วตีความ... บุญเก่ามันยังมี มันเลยเล่นเรามาได้ยาวนาน แต่การทำแบบนี้เหมือนเราไปชกมวย ถ้าเราไม่พร้อมเราจะหงายหลังเอง ”

“ต้องรอบุญเก่ามันหมด กรรมตามมาทัน....”

กรรมสนองกรรมButterfly Effect

 

ตอนแรกผมกะ เขียนวันละ ตอน 2 ตอนแต่เห็นคนอ่านเยอะ เลยฝืนใจเขียนครับ

ปัจจุบันแก่แล้ว ร่างกายโทรม นั่งจิ้มคอมนาน ๆ ไม่ไหว จึงจัดซะให้ม้วนเดียวจบ...

ทีนี้ หลังอ่านนิยายนี้แล้ว มองได้ 2 แง่

1. หากไม่เชื่อ หัวข้อกระทู้บอกอยู่ นิทานสนุก ถือว่าอ่านเพลิน ๆ หรือไม่ต้องอ่านครับ

2. หากเชื่อ ก็พิสูจน์อะไรไม่ได้ 555 แต่ผู้ติดตามมาย่อมทราบ...

ผมมีแต่ความจริงใจ ... อะไรว่าดีก็บอกดี อะไรไม่ดี ก็บอก แล้วแต่ความเชื่อ

ตัวละครทั้งหมดเป็นเรื่องสมมติขึ้นครับ อาจไม่มีอยู่ในโลกความเป็นจริง

ที่ปรึกษาในซีรีย์นิยายคือใคร ผมก็บอกไม่ได้ 55

ท่านปรมาจารย์ใหญ่หน่วยรบพิเศษคือใคร อันนี้ยิ่งไม่ได้ใหญ่...


แต่ดังผู้ใหญ่ท่านนึงที่ รับเป็นเจ้าภาพงานบุญใหญ่เร็ว ๆ นี้บอกที่ปรึกษามา

"ใช้ของมามาก แต่ไม่เคยได้ดั่งใจเหมือนของสายเรา ..."

จึงนับว่าความจริงใจของผมนับว่าได้ผล ไม่ได้เจาะจงว่าสายเราโดดเด่นในยุทธภพ แต่ต้องการความสงบสุข เบื่อก็เที่ยว ขับรถเล่น กินอาหารอร่อย ๆ ใช้ชีวิตอิสระเสรี

 

เก็บตก แห่งนวนิยาย...

วันเวลาผ่านมา จึงได้หลักว่าเราได้พัฒนาตัวเองครับ และเข้าใจความจริงมากขึ้น

ทีนี้ ผู้ทรงภูมินักวิชาการไสยศาสตร์ที่มีหลักธรรมลึกซึ้งได้กล่าวความจริงไว้ว่า

"ผู้ถูกคุณไสยถือว่ามี DNA ซึ่งถูกลิขิตด้วยกรรมต่างจากผู้อื่น ต้องอยู่ในวงการนี้ไปจนตาย จะทำคุณคนไม่ขึ้น ดีกับใครมักเนรคุณตอบ ต้องทำใจ..."

"ให้ทำบุญกับผู้มีคุณธรรมสูงจะดีที่สุดและช่วยเหลือสุนัขจะดีที่สุด เพราะสุนัขจะไม่เนรคุณหักหลังเจ้าของ และจดจำผู้ช่วยหลือมันได้"

ดังนั้น คนนั้นจึงพยายามช่วยเหลือหมาแมวให้มากที่สุดจนวันนี้

หลังวันเวลาผ่านมาได้คุยกับที่ปรึกษา

"ทุกวันนี้ผวาเลย 2 หลวงปู่ ไม่อยู่แล้ว พยายามไหว้ครูตลอด ทบทวนหลักความรู้ตลอด ต้องพึ่งตัวเองกันแล้ว"

 

เก็บตกนวนิยาย ตอนที่ 2 คำสาปแห่งชีวิตเป็นจริง...!!!!

ตอนสร้างมีดหมอรุ่นอภินิหารปราบไตรจักรสำเร็จ ได้เปิดเพจเพื่อเผยแพร่หลักวิชาการสร้างมีดหมอจริง ๆ ก็มีคนมาบูชาหลายคน

1 ในนั้นเริ่มมาตีสนิท ขอแอดไลน์ ขอบูชา โทรมาคุยไลน์ครั้งแรกที่คุยเริ่มโม้เลย ดูพลังพระ พลังวัตถุมงคลเป็นจึงติดใจมาก

เรื่องพลังวัตถุมงคล คนสร้างนั้นรู้ยิ่งกว่ารู้ดี แต่ก็ถือว่าแก้เหงา ฟัง ๆ คนโม้ไปเพลินดี

พอนานไปเขาโทรมาโม้บ่อย จนเหมือนสนิท ก็เลยเริ่มส่งของดีไปให้จับพลังดู

สุดท้าย เขาก็มาไล่อ่านกระทู้ อยากได้เหรียญปู่โน เราก็ถือหลักจบงานบุญแล้วไม่ขายอาจารย์กิน ก็เลยให้ๆ ไป ก็ติดใจใหญ่

เขาอ้างตัวว่าติดต่อพ่อปู่ได้ (เราก็สงสัยพ่อปู่ไร55)

เรื่องดูพลังนี้ หากว่าไปถือว่าผ่านมาเยอะมาก ก็เลยให้มาช่วยรีวิวกระแสพลัง

พอทดสอบกับที่ปรึกษา ก็เลยเข้าใจ เอ้าไม่ว่ากัน

นานไปเขาก็ขอเรียนคาถา ก็เลยสอน ๆ ไปบ้าง ไม่สอนมาก เพราะเดี๋ยวเจอเนรคุณตอบ

ภายหลังก็จริง เอาของสายเราซึ่งดีจริงไปหลอกต้มคนอื่น หลอกเอาเงินคนอื่นซะนี่

คุยกะที่ปรึกษา
"เหมือนผู้ทรงภูมิบอกเลย ผมดีกับใครมักเนรคุณตอบ ยังกะคำสาป 555"

สุดท้ายก็เลยเข้าล็อคตามคนถาม

"หากเอาของสายเราไปใช้ในทางไม่ดีจะทำอย่างไร ???"

คำตอบออกมาแล้ว ก็คือ เรียกกลับ เชิญกลับ....

ส่วนคาถาสายหลวงปู่โน ก็เชิญกลับแค่นั้น...

แล้วก็เผาเก็บต่อ อย่าถามว่าเขามีของดีไหม พระเต็มบ้าน พลังดี ๆ ทั้งนั้นแต่ก็นั่นละครับ

พระไม่ช่วยคนผิด ของสายเราที่สรรพคุณว่าสายปราบ ผู้ขาย ผู้ผลิตก็ได้ลองเองละครับ QC เองเลย



มันยังอุตส่าห์ส่งข่าวผ่านคนอื่นมาบอก

 

ท้ายที่สุดแห่งนวนิยาย จุดจบเป็นเช่นไร ก็ต้องว่าไปตามวิถีแห่งกรรม...

ศาสนาพุทธเป็นคำสอนแห่งปรัชญา ว่าด้วยเรื่องจิตใจ และการฝึกจิตใจ

แน่นอน ผ่านมา 2,563 ปีย่อมมีบิดเบือนไปมาก ดังพุทธทำนายว่า ยุคแห่งกลียุค

เราเกิดไม่ทัน อะไรที่ว่าจริงไม่จริงย่อมต้องฟังจากพระอริยเจ้า

ทีนี้ พระอริยเจ้าอยู่ที่ไหน ท่านใด อันนี้ ผู้ได้แล้วย่อมไม่มีอวดกัน เพราะอวดอุตริส

หากหาในเน็ตมีแต่บรรดาศิษย์บอกละครับ ว่าองค์นี้พระอรหันต์ พระอริย

ผมจะไม่ขอบรรยายตรงนี้ กรรมใครกรรมมัน...

แต่เคส ของผู้อ้างตัวว่าติดต่อพ่อปู่... เป็นกรณีศึกษา

ว่าการมีพระเครื่องมาก พลังแรงมาก อย่าประมาท เพราะเราดีพอกับพระหรือไม่

นั่งอยู่หน้าพระประธาน บรรจุพระธาตุก็ไม่ใช่จะไม่ทุกข์ จริงไหม??

ขอให้นวนิยายนี้ได้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการดำเนินชีวิตก็ถือว่าผู้เขียนถ่อสังขารจิ้มคอมคุ้มแล้วครับ...

 

เก็บตกนวนิยายปิดท้าย

มโนแห่งจิต

ในเส้นทางยุทธภพ นั่งรถตู้ทัวร์สายพระ พบผู้มโนมากมาย หลังได้พบหลวงปู่เหิรจึงเข้าใจ มีสิ่งนึงที่นักมโนเจอกันมาก

"นิมิตลวง"...!!!!

สังเกตุครูบาอาจารย์ระดับสูงส่ง อัฐิธาตุเป็นพระธาตุ ละปล่อยวางจะไม่มานิมิต เพ้อว่าพระพุทธเจ้ามาหานะ ครูบาอาจารย์ที่ละสังขารไปแล้วมาหานะ มาบอกหวย

มีแต่ตรงข้ามกับระดับสูงละครับชอบมาพูดดังว่า เพราะกฎบอกอยู่ ห้ามอวดอุตริ

ทีนี้ หลังเจอผู้อ้างพบพ่อปู่ ได้แต่อุทานกับที่ปรึกษา "เจออีกแล้ว"

จนมันเพ้อหนัก เจอหลวงปู่เหิร สอนนู่นี่ทางนิมิต (ทำไมสอนตรงข้ามกับเราวะ สงสัยคนละหลวงปู่55)

นิมิตลวง ทำให้หลายตัว เพ้อขนาดเป็นผู้วิเศษ

ยืนยันกับที่ปรึกษา ขนาดท่านเองยังร้อยวันพันปี ครูบาข่ายมานิมิตบอก

แต่บรรดาผู้ใช้ของสายเราเจอครูบาบ่อยกว่าท่านอีกวุ่ย พอให้มาบอกหวย ซื้อหวยมันกลับผิด

สุดท้ายพวกเหล่านี้ก็ค่อย ๆ เพ้อบ้า แพ้ภัยไป ....

โปรดระวัง นิมิตจริงต้องบอกหวย 6 ตัวตรงได้นะครับ ไม่ใช่หวยออกมาแล้วโดนกิน คราวนี้มาละ เลขนู่นี่ ๆ ๆ (แต่ไม่ซื้อหรือซื้อไม่ถูก)

 

จากหลายท่านแจ้งผลมา ยืนยันแล้วว่าที่สุดแห่งปีจริงๆ

การจัดกระแสมาทำให้มีผลลาภ และชัดเจนด้านภาวนา แปรใจให้เป็น. กลางด้วย

ตัวผมเองก็ปล่อยวางใจได้มากขึ้น รอภาระงานอีกชิ้นจากผงที่ครูบาชัยมอบให้มา ก็คงเว้นระยะอีกนาน จะแค่ประชาสัมพันธ์พอครับ....

 

หลังจากได้ครอบครองตะกรุดหลายวัน ผมคุยกะท่านว่า พลังทำให้จิตใจเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

ท่านก็ว่า ภาวนาดีขึ้น และตะกรุดจะเปลี่ยนแปลงจิตใจเราทำให้ใจเราเป็นกลาง ๆ

ด้านกระแสพลัง พอค้นไปมาก ๆ เกิดอาการมึน โดยเปรียบเทียบว่า

"เหมือนเรามองท้องฟ้าแล้วเราหมุนตัวไปเรื่อย ๆ วน ๆ เราก็มึนหัวเอง"

โดยหลักการ ตะกรุดเป็นพลังหมุนอยู่แล้วแต่การเสกทำให้หมุนเร็วขึ้น ยากแก่การอ่านกระแสเป็นอย่างยิ่ง



ผมแซว ๆ การวาดอักขระยังคล้ายแมลงปอ หรือผีเสื้อเลยสมชื่อ Butterfly

ท่านเล่าว่า "สมัยก่อนครูบาข่ายเล่าให้ฟัง ปกติหากชาวบ้านมาขอให้ทำให้ จะนำแผ่นหนัง บางทีแผ่นใบลาน กระดาษสามาขอให้ท่านลงให้เป็นตะกรุด พอใช้ได้ผลเกิดหลงระเริง ตะกรุดก็จะทำลายตัวเอง"

"อย่างครูบา พอจุดนึงก็แบบไม่มีเหตุอะไรให้ใช้แล้วจึงเอามือบีบจนแตก ของแบบนี้เป็นเหมือนใช้เฉพาะตน"

"หากเป็นพวกระดับผู้มีบุญบารมี ก็จะนำแผ่นทองคำมาขอให้ลงให้ ซึ่งก็ใช้ได้ผล เพราะได้อุปถัมภ์วัดมาในสมัยก่อน"

ทีนี้ ในเหตุที่คาดไม่ถึงคือทำให้มีมหาลาภด้วย ผมให้เหตุผลว่าคงเพราะหาชนวนมวลสารมาหลอมรีดจึงได้พลัง option นี้เสริมมา บวกกับการสร้างทานบารมีถล่มทลาย เพราะลาภ เป็นเรื่องของวาสนาบารมี ให้กันไปไม่ได้



"ก็คงใช่ เพราะต้องคิดสมัยก่อนเดินทางลำบาก คงไม่อาจหาชนวนมวลสารทั่วทุกทิศมาหลอมรีดได้ขนาดนี้" ท่านให้ความเห็น

การใช้งานตะกรุด เบี้ยยกตัวอย่างง่าย ๆ "สมมติมีคนมาด่าเรา ถ้าเราด่าตอบ ตะกรุดจะไม่ทำงาน ถ้าเรานิ่งเฉย นั่นละตะกรุดจะทำงานเอง "

 

งานต่อไป มาจากการหาเรื่องของผมเองละครับ 55

ดันไปขอผงอิทธิเจไชยปฐพีของครูบาชัย ซึ่งกว่าจะได้มาก็นานโข ต้องหาดินสอพองไปแลก

โดยท่านลบผงเองด้วยวิชาอาคมที่ร่ำเรียนมาทั้งหมด ผมกะที่ปรึกษาก็ไม่ได้เห็นตอนลบผงว่าทะลุกระดานตามคำร่ำลือตำนานหรือไม่

แต่มีผสมผงเก่าของครูบาอาจารย์ที่ท่านไปเรียนวิชามาด้วยมากมาย

ผงนี้ตอนได้ก็แรงมากอยู่แล้วที่ปรึกษาการันตี

พอได้นำเข้าเสกปิดท้าย 3 วัน 2 คืนด้วยยิ่งไปกันใหญ่

ที่ปรึกษายังสั่งว่า "ไปหาผะอบดี ๆ ใส่ไว้นะ เวลาใช้อย่าใส่มาก ใส่น้อย ๆ พอ"

ปัญหาคือ เบื่อไม่คิดทำอะไร พอได้มาแบบนี้ต้องทำตามรับปากไว้อีก แต่ก็ตามวาระโอกาสครับ

เพราะจะนำมาทำอะไรต้องให้เกิดความแตกต่าง หากเป็นแนวสายปราบเดิมก็ไม่รู้จะทำทำไม...


และแนวการเสกต้องให้เกิดความแตกต่างด้วย... เพราะท่านฝากที่ปรึกษามาบอกตอนมอบผงให้ว่า

"จะเอาผงไปทำอะไรไม่ต้องมาให้เสกแล้ว ผงดีอยู่แล้ว.."

 

สาธุ

 

หลังลอยกระทง สิ้นตุลา พบกับตำนาน อิ่นแก้ว อิ่นคำ จากตำนานวิชาเล่าถึงคู่รักที่รักเดียวใจเดียว สั่งสมบุญกุศลมากมาย ตายก็ตายด้วยกัน ตามตำนานวิชาเล่าว่า "มีชั้นพรหมเป็นที่บังเกิด"

ไม่ได้มุ่งทางเจ้าชู้นะครับ .

เปลี่ยนแนวจากสายปราบเป็นแนวเมตตา บารมี ลาภสักการะ!!!!

มีการใช้น้ำมันหยดละแสนด้วย!!!

 

การปลุกเสกอิ่นฟังว่า.....

เสกโดยฆราวาสทรงอาคม ที่สำเร็จวิชาสูงสุด ด้านเสน่ห์แต่รักเดียวใจเดียว... ลูกหลานดี อายุ 100 ปี ขณะนี้มาลงให้เป็นระยะๆๆ

และไม่พลาด หลวงบุญลงด้วย แต่ให้เสกเรื่อยๆ จนถึงฤกษ์ ลอยกระทง ให้ชุ่มเย็น จึงไม่รับจองใดๆก่อนครับ...อาจมีแกะจากไม้รักตายพรายด้วย

อีกเดือนกว่าๆๆ. .

 

อิ่นในโถ เป็นงาช้างนะครับ คือ งาพิฆาต และงากำจัดจากการแกะพระพุทธรูปงาและพญาสุบรรณ

โดยแต่ละชิ้นขนาดต่างกันตามชิ้นงา บางชิ้นขนาดเท่าข้อนิ้วก้อยก็มี ส่วนจะชิ้นใดมาจากงาพิฆาต ชิ้นใดมาจากงากำจัดก็วัดดวงกันไปครับ จำนวนก็ไม่ได้นับ

อิ่น โดยหลักการพื้นฐานเป็นรูปชาย ญ กอดกันแสดงความรัก แน่นอนสมัยก่อนผมชอบมาก เช่ามาหลายที่ในสายเหนือ อีสาน

และปัจจุบันโละหมดครับไม่เก็บไว้เลย ออกตอนทำบุญสร้างพระธาตุไปนานแล้ว เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้แล้ว (ถามว่าาเคยใช้ไหม ใช้ครับแจ่มจริง)

ซึ่งแต่ละที่เช่ามาก็มีตำนานเรื่องราวต่างกัน

ในส่วนของสายเรา มาจากตำนานที่เล่าไป รักกันจนวันตายและสั่งสมบุญบารมีด้วยกัน พอตายไปก็มีชั้นพรหมเป็นที่บังเกิด (แสดงว่าจิตดีไม่ธรรมดา บุญบารมีดี)

โดยแจ้งท่านไป เดี๋ยวไม่พอ ให้แกะจากไม้รักตายพรายที่พลีมาด้วย (จะได้ทั่วถึงกัน) และเป็นเคล็ดรักกันจนตาย (ไม้รักตายพลายตกมัน)