สุกขวิปัสสโก

เคยเจอแบบฝึกๆ จะเริ่มเฉยๆ กับโน่นนี่นั่นในชีวิตประจำวันมะ... แต่ไม่ใช่ใจดำ ดูดายแบบนั้นนะ... มันเฉยปล่อยวางแบบไม่ยึดแปลกๆ ..ต้องคอยรู้ต่อที่มันเรื่อยๆ ...แบบนี้คล้ายๆ วิปัสสนูที่ไม่พิจารณาไตรลักษณ์มะ

 

ถ้ายังคิดจะมีผัวไม่ต้องกลัววิปัสนูหลอก55

 

เป็นเหมือนกันค่ะ ชีวิตมันราบเรียบเกินไป จนเหมือนจะติดสุข หลังๆมาเลยคิดว่ามันไม่ใช่ละ เลยต้องหาความทุกข์มาพิจารณากระตุ้นตัวเองเรื่อยๆ เป็นไปได้ว่าอาจจะติดอยุ่วิปัสสนูค่ะ ....รอฟังผู้รู้

 

ของหวีมันไม่ติดสุขนะ ...แต่มันพาไปกล้าทำโน่นนี่นั่นแทน ..รู้สึกมันไม่ยึดแบบแปลกๆ ...แต่ยังนึกออกว่าต้องรู้ที่ตัวนี้ต่อไปอีก ...

 

วิปัสนูกิเลส เป้นเพียงการเข้าใจผิด ว่า

อุปกิเลสทั้ง 10 เป้น วิปัสนา

เช่น ตู้ม โอภาส สว่างแจงแวง โอ้ววว จ๊อด นี่เป็น วิปัสนา

นี่ถ้าอย่างนี่ เรียกว่า โดนวิปัสนูกิเลส แล้วก้จะหลง
ว่า บรรลุได้ตั้ง สามมรรคเป้นต้น

ต้อง !!!!






แต่
หากยังมีการกำหนดรู้ ต่อไปเรื่อยๆ

นิ่งรู้นิ่ง
เฉยรู้เฉยๆ
ว่างรู้ว่าง
สงสัยรู้สงสัย
ก็เรียกว่า ยัง มีการพิจารณาลงสู่ไตรลักษณ์โดยไม่ต้องออกปากพูด

ยังมีแวว

 

ต้องออกกำลังกายช่วยให้มีเหงื่อครับ
อาการฮึนๆงงๆกะหายไป
ทำให้มีกำลังใจเป็นแรงงานต่อไป

 

เอาไว้ตรวจสอบอารมตัวเอง

 

คิดว่ามันคล้ายๆ อรูปนิดๆ นะ แต่หวีไม่ได้ฝึกเพ่ง ...และยังนึกไตรลักษณ์ออก

..ถ้าอรูปน่าจะประมาณมันจะค่อยๆ ปล่อยวางไปเรื่อยๆ จนตัวจิตก็ไม่มี

 

ลำพัง
การกำหนดรุ้อารมณ์จิต

ก็เป็นเข้า การฝึก อรูปไปในตัว มันเป็น นามธรรม

ตามใด ที่กำหนดรุู้ อารมณ์ จิตได้ ตลอดเนืองๆ
เรียกว่า พิจารณาไตรลักษณ์เนืองๆ

เพราะสภาวะ มันเป็นไตรลักษณ์ในตัวของมัน

แต่หากไปนึกว่า นี่เป้นไตรลักษณ์ อันนี้เรียกว่า คลาดไป

ต้องหยุดเพียงแค่กำหนดรู้ อาการไหว อาการเคลื่อน อาการตรึก อาการนึก

 

ธรรมะที่พระพุทธเจ้าสอนหากปฏิบัติถูกทาง
กิเลสจะระงับจนดับไม่เหลือเชื้อ
เช่นอรหันต์สุกขวิปัสสโกแท้
จะไม่มีอยากมาฝึกอภิญญา
เป็นอรหันต์สุกขวิปัสสโกแล้วยังอยากมีอภิญญา๕
เรียกว่าหันต์จนหลงทางคับ

 

จริงๆ หวีฝึกมูลกรรมฐาน5 ด้วย น่าจะมีฤทธิ์ในตัวนะ
ก็ไม่ได้สนใจฤทธิ์อะไรหรอก แต่ ตจฯ มันคุณสมบัติใช้ได้อยู่เรื่องคลายความยึดในร่างกาย ส่วนมากเขาเอามาฝึกกับวิปัสสนา

....หวีฝึกคล้ายๆ แนวของ ลป.สรวงเทวดาเดินดิน เพียงแต่ไม่แยกสมถะวิปัสสนาออก..

 

ตัวชี้วัดคือโดนกระทบแบบหนักๆ
แล้วดูที่ใจตัวเองหากยังมีความยินร้ายยินดีมีอารมณ์โกรธ ให้รู้ทันทีว่าเรามีกำลังน้อยกว่ากิเลส
หากเรามีกำลังมากกว่ากิเลส
การกระทบกระทั่งจะไม่มีผลกับใจเราเลย

 

มันต้องสำรวจธรรมที่ปฎิบัติ

 

โลกที่เราอยู่ หรือวัฏสงสารนี้คือโลกธาตุ ที่หมุมวนไปหรือเรียกว่า วัฏสงสาร วัฏสงสาร
ไม่ได้เปลี่ยนแค่ ภพที่เคลื่อนไปจุติ แต่หมายถึงสภาพอารมณ์ ด้วยที่มีการหมุมเข้าหมุมออก
ทุกอย่างในโลกธาตุ ย่อมหมุมวนไป แบบบนั้นซ้ำ ๆ ส่วนนิพพานไม่ใช่โลก และไม่ได้อยู่
ไม่ได้ไปไหน จึงไม่นับรวมกับโลกธาตุ ต่อให้โลกธาตุแตกดับกี่ครั้ง นิพพานก็ยังมี
อยากรู้นิพพานเป็นไง ต้องทำให้แจ้งเอง หากเอาโลกียะ มาพรรณาถึงนิพพาน ย่อมเป็นไปไม่ได้
เหมือนปลาว่ายในน้ำ จะอยู่ได้ไงว่าดาวอังคารมี

 

ไปมาแล้วงัยไม่ต้องรอใครมาสอน

 

ไม่เคยคิดจะสอนร่อน นานแล้ว ตรงโน้นข้างบนก็ไม่มีชื่อร่อนนะ

 

โทษๆเข้าใจผิดรับไม่ได้เลยมีคนสอนนี้
อยากมีคนทำงานให้มากกว่า
พูดเฉยใครกะพูดได้

 

ร่อนอย่ามาคุยกับกูเลยนะ

 

กุไม่ได้โพสอะไรเกี่ยวกับมึงเลย กระทู้นี้โพสเขาคุยติดต่อกันมา

 

กูไม่มีเพื่อนคุย55
ไปทำงานละ55