นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (แหวนปฐพีไร้พ่าย)

ปู่โสมพิทักษ์ทรัพย์ ผูก ปราบ เฝ้า รักษา

ถามที่ปรึกษา เคยเห็นครูบาข่ายทำไหมครับ ท่านว่าเคยเห็นทำให้ศิษย์คนนึง และทำฝังที่สวนของบ้านท่านด้วย

ครูบาข่ายเคยทำให้ศิษย์ มีสวนลำไย 2 ไร่ กลัวขโมยมาขโมยลำไย

ท่านทำเป็นตะกรุดให้ไปฝังไว้กลางที ห่อผ้าขาวผ้าแดง

จากนั้นได้ผลดีมาก เจ้าของมาเล่าที่ปรึกษาว่า มีโจรมาขโมย เหมือนมีเสียงกระซิบมาบอก ให้ขนลุกขนพอง

พอเห็นโจรมา ก็แจ้งตำรวจจับได้พร้อมของกลาง

ฝ่ายโจรเล่าว่าพอขโมยของแล้วมีเงาดำออกมา ตกใจจะหนี กลับหนีหาทางออกไม่เจอ ซึ่งที่ปรึกษาแปลกใจมาก ว่าเป็นไปไม่ได้ ที่แค่ 2 ไร่ไม่ใช่ป่าลึกจะหนีหาทางออกไม่เจอ แล้วโจรหนีไปไหนกลับเจอแต่เงาดำ ถือดาบจะมาไล่

สุดท้ายตามเจ้าของเล่า ตำรวจจับได้พร้อมของกลาง ไม่นานนักเขาเชิญที่ปรึกษาไปทำบุญเปิดสำนักงานใหม่

ได้เล่าว่า จากมีสวน 2 ไร่ไม่ต้องจ้างยาม ติดกล้องวงจรปิด กลับขายลำไยได้ราคาดี ขายทีได้เงินแสนจนขยายกิจการซื้อที่ใกล้ๆ จ้างคนมาเช่า ทำสวนแบ่งกำไรจนมีที่ทางมากมาย

ผมฟังอึ้ง เป็นมหาลาภด้วยวุ่ย ยังกะตะกรุดมหาบุรุษในตำนานที่ให้นำไปฝังที่ดินจะรุ่งเรืองกิจการใหญ่โต เรียกลาภ

เหมือนเรื่องจบแต่ไม่จบ ไม่นานนัก ฟังว่า ปู่โสมมาเข้าฝันให้ตั้งเป็นศาลให้หน่อย จนไปขุดตะกรุดขึ้นมา ผ้าขาวแดงก็เปื่อยเละ ตะกรุดก็สึกกร่อนตามวันเวลาแต่ไม่ใช่ปัญหา พอตั้งศาลได้ก็นำตะกรุดใส่ในศาลเลย....กลายเป็นศาลเฮี้ยนในตำนานต่อไปจนทุกวันนี้


ที่ปรึกษาเล่าแม้ของท่านเอง สมัยก่อนโยมพ่อท่านได้ซื้อที่ป่าช้าเก่า ซึ่งเฮี้ยนมาก มีคนเล่าไปทำไร่ทำสวนก็ป่วยหนักเป็นอัมพาตกันบ้างก็มี ทีนี้เขามาขายราคาถูก แสนกว่า ๆ

โยมพ่อท่านก็กลัวอาถรรพ์ แต่คิดได้ ครูบาข่ายท่านช่วยได้แน่ แล้วไปเล่าให้ครูบาข่ายฟัง

ท่านว่าไม่ต้องกลัวเดี๋ยวทำให้ จากนั้นก็ไปหยิบยืมญาติ ๆ ไปซื้อที่ดินป่าช้าเก่านั้น แล้วทำสวนลำไย

ครูบาข่ายก็เตรียมการ โยมพ่อท่านก็แต่งขันธ์ไปรับ แล้วท่านก็ทำตามวิธีต่างๆ ฝังตะกรุดปู่โสมให้

ที่ปรึกษาเล่า การทำสวนทำไร่ยังขุดเจอหม้อกระดูกก็มี แต่ก็ไม่มีอะไร ลำไยออกผลดี ไม่มีล้ม มีแต่หัก

เรียกว่า ผลด้านปราบ ก็ชัดเจน คือปราบอาถรรพ์ และเรียกลาภให้กิจการรุ่งเรืองด้วย


ด้านอานุภาพการนำไปใช้งาน ท่านกล่าวว่า ไม่เหมือนกุมารทองที่นำวิญญาณมาใส่แล้วให้กำเนิดใหม่ให้กลายเป็นเด็ก

ตะกรุดปู่โสมพิทักษ์ทรัพย์นี้ เป็นการผูกสร้างขึ้นมาจากเจตสิก ให้เราคิดว่าเสมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ จะไม่มาเล่นกับเราเหมือนกุมารทอง และไม่ใช่เด็ก ๆ เหมือนกุมารทอง ทำงานตามหน้าที่จริงจัง ดุดัน ตามคำสั่ง

การที่มาปรากฏร่างและขอให้เจ้าของสวนลำไยสร้างศาลให้ท่านให้ความเห็นว่า อาจเป็นสัญญาต่อกันหรือการบนบานไว้ว่าถ้ารุ่งเรืองจะตั้งศาลให้จึงมาปรากฏ ในส่วนของท่านเองที่ฝังในสวน ไม่เคยปรากฏให้เห็น และไม่มีโจรมาขโมยเลย

 

Butterfly Effect ทฤษฎีนี้คล้ายเรื่องของกรรม ทุกการกระทำจะส่งผลต่ออนาคตทั้งสิ้น

อย่างบอกข้อจำกัดของตะกรุด คือจะมีสถานการณ์ที่เราไม่รู้จะใช้ยังไง กำหนดเป้าหมายยังไงเป็นต้น

บางเหตุการณ์ เราอาจขอพรรวม ๆ ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่ได้ผล เพราะตะกรุดก็คือเครื่องมือ อันนี้จะค่อยมากล่าวถึงในภายหน้า

แต่ทีนี้ เพราะคุยเรื่องนี้กับครูบาอาจารย์ เพราะสถานการณ์ดังกล่าว เรียกว่า บนบาน ขอพระช่วยแทบไร้ผลจริง ๆ

หากจะใช้เครื่องรางของดีช่วย ท่านว่าต้องอาศัยกำลังมาก ๆ จึงเป็นที่มาของโครงการในภายหน้า ซึ่งก็ได้รวบรวมชนวนที่ล้ำค่ามาก ๆ พูดภาษาเราคือมีกำลังมาก เป็นชนวนที่ดึงกำลังของหลายๆ กระแสเป็นต้น...

แล้วหาวิธีเรียกว่าอาศัยความรู้ของผู้ชำนาญการหลอมโลหะ จัดสร้างมาให้นำมาใช้ได้ตรงจุด...

วันนี้รู้ผล....!!!!!

 

ดังได้กล่าวไป การสร้างตามหลักวิชานั้นถือว่ายาก โชคดีทำได้และได้หลอมชนวนมากมายเป็นเนื้อสัตตโลหะ...

โดยครูบาชัยได้เห็นภาพ ก็ทักมาเลย "เขามีตัวตนมาอยู่แล้ว"

เหลือแค่การไป Upgrade ครับ

หมายเหตุ ยอดจองเต็มแล้ว.... ภายใน 2 วัน..

 

ชนวนจากใบฉัตรพระธาตุเก่าแก่อีกที่นึง ตามภาพได้มานิดหน่อยพอได้เป็นเชื้อ

สรุป ได้ชนวนใบฉัตรพระธาตุเก่าแก่ 2 ที่แล้ว ...มีสำริดล้วน ๆ



รวมกับชนวนพญาหรมานเพียว ๆ ซึ่งมาจากที่ใดบ้างคงไม่ต้องบอกนะครับ แผ่นทองพระธาตุแจ่มๆ ก็เพียบ และอีกมากมายรวมชนวนทั่วประเทศในสายโหดและเสกมาเพียบแล้ว







หล่อหลอมรวมเป็นแท่ง ได้ 4 แท่ง 2 แท่งมาทำอะไรขอไม่บอกครับ เพราะจะมีคนมากวนอีก55

จบ.... สำเร็จแล้ววันนี้ เพื่อนำมาใช้ในการประกอบสรรพวิชาลับในตำนาน ตำนานที่เล่าจาก ตาของที่ปรึกษาเล่าให้ที่ปรึกษาฟัง เป็นเหตุการณ์ใหญ่ มีการยิงกันเกิดขึ้น และอีกมากมายจนใหญ่โต ซึ่งท่านไปถามครูบาข่าย

ครูบาข่ายบอกไม่รู้จำไม่ได้ แต่ก่อนท่านละสังขารเรียกที่ปรึกษามาคัดลอก บันทึกเป็นวิชาลับสุดท้าย .... ซึ่งคัดลอกในสมุดจดไว้แล้ว

วิชานี้ มีชื่อแต่ท่านยังไม่ค้นตำรา เพียงแต่ว่าจะแก้ปัญหาที่ข้อจำกัดตะกรุดฟ้าสะท้านดินสะเทือนได้เลย...

จึงต้องหาชนวนที่แรงที่สุดเท่าที่เคยสร้างมาครับ...

ส่วนมาทำเป็นอะไร ต้องติดตาม ย้ำ ยังหาตำราที่บันทึกไม่พบครับ...
Butterfly Effect

 

Butterfly Effect ยากเกิน....!!!!!???

ตำราแต่ครูบาข่ายเป็นสามเณร

 

หุ่นพยนต์ปู่โสม กับมหาชนวนสำคัญกำลังดำเนินการแพคส่งไปวัดครับ ซึ่งผู้มอบให้ได้นำเข้าปลุกเสกแล้ว 2 ยก

ก็รอ 2,3 วัน จะนำไปขอครูบาอาจารย์เสกปิดท้ายครับ เสร็จตามกำหนดที่แจ้งผู้จอง....

 

Butterfly Effect จากการดูหนังมา และสรุปจากเรื่องกรรม ก็พอเข้าใจแบบง่ายๆ (ตามสติปัญญาของผมนะ)

ทุก ๆ เรื่องทุก ๆ การกระทำมีการส่งผลต่ออนาคต จะว่าไปเหมือนเรื่องกรรมที่ว่า "ในศาสนาพุทธไม่มีคำว่าบังเอิญ"

มีผลย่อมมีเหตุ... สมมติดีกับใครวันนี้ตอนนี้ ก็จะส่งผลตามมา กวนประสาทใครก็อาจส่งผลในอนาคต

ดังผู้ทรงภูมิสอนผมว่า "ทุก ๆ สิ่งล้วนมีความเกี่ยวโยงกัน แม้ตัดต้นไม้ต้นเดียวก็จะส่งผลกระทบต่อ ๆ กันไป ถึงมีกฎห้ามพระพรากของเขียว (ตัดต้นไม้)"

แม้ข้อห้ามของพระพุทธเจ้าท่านก็เล็งเห็นผลที่ตามมาจึงมีข้อห้ามไว้ แต่เราจะรู้ผลที่ตามมากันไหม ??

หากอ่านหนังสือกฎแห่งกรรม หลายๆ คนที่เหตุการณ์ในปัจจุบันเป็นเช่นนี้พอรำลึกอดีต อาจร้องอ๋อ ว่าเกิดจากอดีตทำอะไรซักอย่างนั่นเอง

หลายๆ คนประสบความสำเร็จในชีวิต พอได้รำลึกอดีตก็อาจคิดได้ว่า "หากวันนั้นไม่ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็คงไม่เกิดเรื่องในวันนี้..."

อย่างในตำนานศาสนาพุทธยังมี ปล่อยปลาตัวเดียว ก็รอดตายได้

หรือผมเองอ่านกฎแห่งกรรมยังมีผู้เล่า บังเอิญเจอปลากระโดดหนีจากการจับของชาวบ้าน ก็สงสาร ลงไปขอซื้อไปปล่อย พอเดินทางต่อ อ้าว สะพานขาดรถไปก่อนหน้าตกสะพานเสียชีวิต

เรียกว่าผู้รอดยังเสียว หากไม่สงสารปล่อยปลาตะกี้ คนที่ตายอาจเป็นเขา

ทีนี้พูดไปพูดมาเกี่ยวอะไรกับมหาชนวนที่รวบรวมมา

เกี่ยวครับแต่ไว้ในอนาคตค่อยมาเฉลย...เพราะยังอีกหลายกระบวนการ ถือเป็นสิ่งที่ผมรอคอยมายาวนานด้วย...

อะไรที่ยังไม่เกิดขึ้น อาจเปลี่ยนแปลงได้... เหมือนผมจับหนังสือกฎแห่งกรรมเล่มแรกในห้องสมุดสมัยมัธยม ก็เลยทำให้ผมมาชื่นชอบ และเดินทางมานั่งเขียนกระทู้นี้ละครับ55

สำคัญ ทุก ๆ งานบุญสำคัญจะมีคนมากวนเราก็ต้องระวัง...

แต่หากทุกเรื่องจบงานไป จะมียิ่งกว่าซีรีย์จีนสุดมันส์เลยละครับ55

 

Butterfly Effect กรรม เป็นเรื่องอจินไตย คือเรื่องไม่ควรคิดเพราะพัวพันกันยุ่งเหยิง

คนที่สำคัญต่อชีวิตเราในปัจจุบันหากสามารถกล่าวย้อนอดีตได้ อาจร้องอ๋อ เช่น ที่เราว่าทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขันกันมา

แม้เหล่ามาร ศัตรูก็เช่นกัน ก็เกิดจากการพัวพันกรรมในอดีตแต่เราก็รำลึกกันไม่ได้จึงไม่เข้าใจ.. ก่อเกิดเป็นเวรกรรมกันไม่จบสิ้น

อย่างการให้ทานแก่สัตว์ดังผู้ทรงภูมิสอนผมไว้ สัตว์ที่เรามาจ้ะเอ๋ อาจเคยเกี่ยวข้องกันมาในอดีต แต่กรรมชักนำมาให้เขาต้องชดใช้เกิดเป็นสัตว์ ทีนี้หากเรามีจิตเมตตา กรุณาให้ทาน ช่วยเหลือ ซึ่งเราคือผู้ดำเนินการ ไม่มีใครมาสั่งเรา

ก็จะเกิดบุพกรรมเกื้อหนุนกัน พอสัตว์ตายไป ใช้กรรมหมดเกิดมาเป็นมนุษย์ ก็จะมาช่วยตอบแทนเราวันหน้า แม้รำลึกเหตุการณ์อดีตไม่ได้ แต่กรรมดีจะส่งผลให้มาพบเจอกันต่อไป..

สร้างพระพุทธรูปไว้วันนี้ เมื่อมีคน พระเทวดามากราบไหวก็เป็นดั่งธนาคารบุญถึงมีความเชื่อกันว่าได้บุญมาก เมื่อเกิดจิตพุทธานุสติสะสมไว้ในใจมาก ๆ และชักนำให้เข้าศึกษาคำสอน ก็อาจบรรลุธรรมกันวันหน้า..

ผมปูทางไว้เพราะจะเกี่ยวกับสิ่งสำคัญในโครงการมหาชนวนอนาคต.. ซึ่งต้องรอติดตามกันต่อไปครับ ว่าจะสำเร็จหรือไม่..

 

Butterfly Effect คืออะไร??

ผมก็ไม่รู้เช่นกัน55 เพราะไม่ใช่ผมสร้าง ผมแค่ประสานหาชนวน หลอม ให้แค่นั้น

ที่สำคัญ ตำราหล่นมาเอง พอท่านดูหน้าเดียวยากเกิน แล้วไม่ดูอีกเลย

ตอนนี้ยุ่งเตรียมงานกฐิน จึงไม่คุยไม่ดูต่อ ผมโทรหายังไม่คุยเลยครับ

ทีนี้ตำนาน ที่มา ยิ่งกว่านิยายกำลังภายใน ทำหนังได้เลย!!!

แต่รอ สรุปใจความและเสร็จแล้วค่อยว่ากันครับ เข็นชุดปู่โสม เบี้ยแก้สรรพกันให้จบก่อน ....

 

พร้อมนำขอครูบาชัยเสกปรับกระแส จัดพลังใหม่

ยอดจองเต็มทุกรายการ.....

ที่ปรึกษาว่า หุ่นพยนต์นั้นอาถรรพ์จริง ๆ แม้เสกมา 2 ยกโดยผู้มอบให้แล้วยังมีอาถรรพ์อยู่ แต่ใช้งานได้แล้วไปปราบก็ได้

ยินดีกับผู้จองด้วยครับ...รุ่นนี้รุ่นเดียวไม่มีสร้างอีก...

 

ทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก (The Butterfly Effect)
"เพียงผีเสื้อขยับปีกทำให้เกิดพายุ"
เมื่อผีเสื้อขยับปีก อาจทำให้โลกกลมๆใบเล็กๆ สะเทือนได้ เช่นเดียวกับ "เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว"
“ผีเสื้อขยับปีก”Butterfly effect เป็นวลีง่ายๆ ที่ใช้อ้างถึงทฤษฎีโกลาหล Chaos Theory โดยตัวทฤษฎีเองกล่าวถึง ตัวแปรเล็กน้อยที่เป็นเงื่อนไขแรกของระบบที่เชื่อมโยงกันเป็นทอดๆ อาจส่งผลต่อตัวแปรขนาดใหญ่ในพฤติกรรมระยะยาวของระบบได้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผีเสื้อขยับปีกหนึ่งครั้งอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบรรยากาศ ซึ่งสุดท้ายแล้วจะส่งผลให้เกิดพายุทอร์นาโด เท่ากับว่าการขยับของปีกผีเสื้อ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในเงื่อนไขของระบบนิเวศ แต่ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ที่นำไปสู่ปรากฏการณ์ขนาดใหญ่

ที่มา


ผมพยายามเก็บข้อมูลอยู่ครับ มีโอกาสคุยก็เก็บทีละนิด ๆ เพราะเป็นความหวังสูงสุดของผมตอนนี้...

ที่แน่ๆ มหาชนวนที่รวบรวมชั่วชีวิต ไปถึงแล้ว...

"พลังทะลุมิติ.." คือคำจำกัดความตอนนี้....ชนวนใบฉัตรพระธาตุหลายที่ แผ่นทองพระธาตุ ทองคำศักดิ์สิทธิ์ แผ่นจารเสกมาในสายโหดทั่วทุกทิศ รวบมาหมดแล้ว และที่สำคัญไม่มีเหรียญพระแม้แต่เหรียญเดียวเราไม่เอาแนวนี้...

 

"ชนวนเขาอาถรรพ์จริงๆ ดีแล้วโยมไม่เอาเข้าบ้านก่อน บางตนน่ะ หน้าตาเอาเรื่องเลย"

"อ้าว เขาเสกมา 2 ยกแล้วนะครับยังล้างปรับไม่หมดเหรอครับ"

"ดีขึ้นเยอะแล้ว แต่ต่างคนต่างลง ต้องให้ครูบาปรับอีกที"

 

งานนี้มีขนหัวตั้งกันบ้าง

 

ตอนแรกตั้งตอนหลังอาจร่วงหมดหัวครับ555 หรือเลือดอาบหัว55 !!!!

 

เข้าเสกปัจฉิมแล้ว รอเสกจนท่านพอใจครับ อาจมีเซอร์ไพรส์

การเสกของครูบาชัยจะไม่กำหนดระยะเวลา เสกจนมีตัวตน

คำถามยอดฮิต ต่างอย่างไรกับกุมารทอง

"กุมารทองยังเด็กเลี้ยงเป็นลูก ปู่โสมพิทักษ์ทรัพย์ให้คิดว่าคือญาติผู้ใหญ่ ไม่เน้นเซ่นไหว้ เน้นทำบุญให้ เขาจะอยู่กับเราจนกว่าเราจะหยุดทำบุญให้ การทำบุญเหมือนค่าจ้างนั่นเอง...."

รายละเอียดตามเรื่องราวเก่า ๆ มาให้อ่านอีกครั้งครับ...

ปู่โสมพิทักษ์ทรัพย์ 4 หน้าที่ ผูก ปราบ เฝ้า รักษา

ถามที่ปรึกษา เคยเห็นครูบาข่ายทำไหมครับ ท่านว่าเคยเห็นทำให้ศิษย์คนนึง และทำฝังที่สวนของบ้านท่านด้วย

ครูบาข่ายเคยทำให้ศิษย์ มีสวนลำไย 2 ไร่ กลัวขโมยมาขโมยลำไย

ท่านทำเป็นตะกรุดให้ไปฝังไว้กลางที ห่อผ้าขาวผ้าแดง

จากนั้นได้ผลดีมาก เจ้าของมาเล่าที่ปรึกษาว่า มีโจรมาขโมย เหมือนมีเสียงกระซิบมาบอก ให้ขนลุกขนพอง

พอเห็นโจรมา ก็แจ้งตำรวจจับได้พร้อมของกลาง

ฝ่ายโจรเล่าว่าพอขโมยของแล้วมีเงาดำออกมา ตกใจจะหนี กลับหนีหาทางออกไม่เจอ ซึ่งที่ปรึกษาแปลกใจมาก ว่าเป็นไปไม่ได้ ที่แค่ 2 ไร่ไม่ใช่ป่าลึกจะหนีหาทางออกไม่เจอ แล้วโจรหนีไปไหนกลับเจอแต่เงาดำ ถือดาบจะมาไล่

สุดท้ายตามเจ้าของเล่า ตำรวจจับได้พร้อมของกลาง ไม่นานนักเขาเชิญที่ปรึกษาไปทำบุญเปิดสำนักงานใหม่

ได้เล่าว่า จากมีสวน 2 ไร่ไม่ต้องจ้างยาม ติดกล้องวงจรปิด กลับขายลำไยได้ราคาดี ขายทีได้เงินแสนจนขยายกิจการซื้อที่ใกล้ๆ จ้างคนมาเช่า ทำสวนแบ่งกำไรจนมีที่ทางมากมาย

ผมฟังอึ้ง เป็นมหาลาภด้วยวุ่ย ยังกะตะกรุดมหาบุรุษในตำนานที่ให้นำไปฝังที่ดินจะรุ่งเรืองกิจการใหญ่โต เรียกลาภ

เหมือนเรื่องจบแต่ไม่จบ ไม่นานนัก ฟังว่า ปู่โสมมาเข้าฝันให้ตั้งเป็นศาลให้หน่อย จนไปขุดตะกรุดขึ้นมา ผ้าขาวแดงก็เปื่อยเละ ตะกรุดก็สึกกร่อนตามวันเวลาแต่ไม่ใช่ปัญหา พอตั้งศาลได้ก็นำตะกรุดใส่ในศาลเลย....กลายเป็นศาลเฮี้ยนในตำนานต่อไปจนทุกวันนี้


ที่ปรึกษาเล่าแม้ของท่านเอง สมัยก่อนโยมพ่อท่านได้ซื้อที่ป่าช้าเก่า ซึ่งเฮี้ยนมาก มีคนเล่าไปทำไร่ทำสวนก็ป่วยหนักเป็นอัมพาตกันบ้างก็มี ทีนี้เขามาขายราคาถูก แสนกว่า ๆ

โยมพ่อท่านก็กลัวอาถรรพ์ แต่คิดได้ ครูบาข่ายท่านช่วยได้แน่ แล้วไปเล่าให้ครูบาข่ายฟัง

ท่านว่าไม่ต้องกลัวเดี๋ยวทำให้ จากนั้นก็ไปหยิบยืมญาติ ๆ ไปซื้อที่ดินป่าช้าเก่านั้น แล้วทำสวนลำไย

ครูบาข่ายก็เตรียมการ โยมพ่อท่านก็แต่งขันธ์ไปรับ แล้วท่านก็ทำตามวิธีต่างๆ ฝังตะกรุดปู่โสมให้

ที่ปรึกษาเล่า การทำสวนทำไร่ยังขุดเจอหม้อกระดูกก็มี แต่ก็ไม่มีอะไร ลำไยออกผลดี ไม่มีล้ม มีแต่หัก

เรียกว่า ผลด้านปราบ ก็ชัดเจน คือปราบอาถรรพ์ และเรียกลาภให้กิจการรุ่งเรืองด้วย


ด้านอานุภาพการนำไปใช้งาน ท่านกล่าวว่า ไม่เหมือนกุมารทองที่นำวิญญาณมาใส่แล้วให้กำเนิดใหม่ให้กลายเป็นเด็ก

ตะกรุดปู่โสมพิทักษ์ทรัพย์นี้ เป็นการผูกสร้างขึ้นมาจากเจตสิก ให้เราคิดว่าเสมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ จะไม่มาเล่นกับเราเหมือนกุมารทอง และไม่ใช่เด็ก ๆ เหมือนกุมารทอง ทำงานตามหน้าที่จริงจัง ดุดัน ตามคำสั่ง

การที่มาปรากฏร่างและขอให้เจ้าของสวนลำไยสร้างศาลให้ท่านให้ความเห็นว่า อาจเป็นสัญญาต่อกันหรือการบนบานไว้ว่าถ้ารุ่งเรืองจะตั้งศาลให้จึงมาปรากฏ ในส่วนของท่านเองที่ฝังในสวน ไม่เคยปรากฏให้เห็น และไม่มีโจรมาขโมยเลย

 

ทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก (The Butterfly Effect)

จริง ๆ ชื่อวิชาทางการรอท่านค้นคว้า แต่เรื่องราวที่ว่ายิ่งกว่านิยายกำลังภายใน ซีรีย์หนังจีน ผมรอเก็บรวบรวมอีกครั้ง

แต่ด้วยความคันปากเล่าได้คร่าวๆ ...ดังนี้

ยุคสมัยก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เรียกว่าตามชนบท บ้านป่าเมืองเถื่อนปกครองโดยพวกผู้มีอิทธิพล เรียกว่าฆ่าได้ก่อนรายงาน

ทีนี้วิชานี้คิดคิดขึ้นโดยยอดยุทธผู้นึงที่บิดาโดนฆ่าสวนทวารฝังสะกดวิญญาณไว้ตั้งแต่ยังเด็ก
ฝ่ายเด็กอายุ 9 ขวบก็เติบโตด้วยความแค้น มุ่งเรียนการใช้ดาบ หมัดมวย อาวุธทุกชนิด และคาถาอาคมเพื่อรอวันล้างแค้น

สุดท้ายไม่อาจล้างแค้นด้วยการฆ่าได้เพราะ ครูบาพระโพธิสัตว์ผู้ยิ่งใหญ่ 2 ท่านมาห้าม... จึงเจ็บใจมาก จึงคิดค้นวิชานี้ขึ้น

ผีเสื้อกระพือปีก 1 ตัวอาจเป็นสาเหตุให้เกิดลมพายุได้... ตัวแปรเดียวอาจเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง...

ผลคือ ..... ค่อยๆ ตายทีละคนยันลูกหลาน จะมีคาถาอาคมของดีแค่ไหนเปล่าประโยชน์...จบ.... ฉายหนังมากเดี๋ยวหมดมุกครับ555

 

ยอดยุทธผู้นั้น ยิ่งกว่าหนังจีนกำลังภายใน "กูจะล้างแค้นพวกฆ่าพ่อกู"

ฝ่ายที่ฆ่า ก็มารังควานลูกหลานพวกนี้ก็มารังควาน "พ่อมึงฆ่าพ่อกู"

เติบโตด้วยความแค้น ร่ำเรียนวิชาหมัดมวย ดาบ คาถาอาคม ดังกล่าวฝ่ายฆ่าพ่อก็เก่งกล้าคาถาอาคม

รอกรรมสนอง เป็นสิบ ๆ ปียังไม่สนอง จึงไปร่ำเรียนคาถาอาคมกับหน่วยรบพิเศษ ฤาษี ผู้บำเพ็ญวิชาทางจิต เหาะเหินเดินอากาศหายตัวได้ เพื่อหาอาคมที่เหนือพวกนั้น

ครั้งแก่กล้าพอจะไปฆ่า ล้างแค้น 2 ครูบาพระโพธิสัตว์ใหญ่มาห้าม...

จึงคิดค้นวิชาดังกล่าวขึ้น ....นั่นละครับ ค่อยๆ ตายทีละคนแม้มีของดีคาถาอาคมแค่ไหน ลูกหลานไม่เจริญค่อยๆ ตายจนหมดเกลี้ยง....

ตายแบบตายโหงด้วยไม่ใช่ตายธรรมชาติ เช่นต้นไม้ล้มทับตาย รถชนตกน้ำจมน้ำตาย..ฯลฯ

วันเวลาผ่านมายาวนาน จนวันนึงยอดยุทธผู้นั้นหยิบให้ที่ปรึกษาดู มือบีบแตกสลายหมด... แล้ว.... ปลายปีค่อยเล่าต่อครับ55

 

เรื่องราวยุคก่อนที่ปรึกษารับฟังมาจากตาของท่าน

ตาของท่านเป็นผู้สืบทอดจากทวดของท่าน โดยเรียกว่าเป็นสหายกับครูบาข่าย

ในวันเวลาต่อมาวิชานี้เกิดขึ้นอีกครั้ง โดย...

ชาวบ้านผู้นึงถูกรุกรานโดยผู้มีอิทธิพล เรียกว่ามีคาถาอาคมของดีด้วย บอดี้การ์ดดูแลเพียบ

โดยผู้มีอิทธิพลจะยึดที่ดินชาวบ้าน จึงไปร้องเรียนทางคดีความแต่ก็เงียบ

วิชานี้จึงกำเนิดขึ้นอีกครั้ง The Butterfly Effect

ผลคือชาวบ้านชนะคดี จึงมีมือปืนออกมาลอบยิง มือปืนก็เก่งนะ โดนชาวบ้านฟันก็ไม่เข้า

ผลคือ ต่อมามือปืนกับผู้ว่าจ้างที่มีอิทธิพลทะเลาะยิงกันตายเองในเวลาไม่นาน ตายเรียบ......

วิชานี้คืออะไร ผมก็ไม่รู้ครับ ที่ปรึกษาก็ยังไม่ทันตอนนั้นแค่รับฟังจากตามาครับ...