ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด่วน! ปิด “ด่านสะเดา” 7 วัน หลังพบจนท.ติดเชื้อโควิด 19

    ปิดด่านสะเดา วันที่ 22 เม.ย. 63 นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกหนังสือด่วนที่สุดแจ้งขอเปลี่ยนจุดผ่านแดนในพื้นที่จังหวัดสงขลา สำหรับคนไทยเดินทางกลับสู่ราชอาณาจักร จากเดิมใช้จุดผ่านแดนด่านสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เปิดรับคนไทยตกค้างที่มาเลเซีย แต่เนื่องจากตรวจพบเจ้าหน้าที่สังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประจำจุดผ่านแดนสะเดาติดเชื้อโควิด-19 รวม 6 คน

    – ปิดแล้ว!! ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา

    ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ซึ่งอาจจะมีการแพร่ระบาดในบริเวณจุดผ่านแดนถาวรสะเดา ประกอบกับต้องปิดพื้นที่บางส่วน เพื่อดำเนินการทำความสะอาดและฆ่าเชื่อ จึงขอนุญาติเปลี่ยนจุดผ่านแดนที่อนุญาตให้คนไทยกลับเข้ามาจากจุดผ่านแดนสะเดา เป็นจุดผ่านแดนปาดังเบซาร์ อำภอสะเดา จังหวัดสงขลา ชั่วคราวเป็นเวลา 7 วัน

    The post ด่วน! ปิด “ด่านสะเดา” 7 วัน หลังพบจนท.ติดเชื้อโควิด 19 appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้เชี่ยวชาญจีนชี้ผู้ป่วยโควิด เจอผลเป็นบวกซ้ำ มักไม่แสดงอาการโรค
    ผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่อจีน เผย ผู้ป่วยโรคโควิดได้รับอนุญาตออกจาก รพ. แต่ตรวจเจอผลเป็นบวกซ้ำ มักไม่แสดงอาการโรค จะต้องเข้ารับการกักกันตัว เพราะอาจแพร่เชื้อได้อีก
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    HEALTH: ทำความรู้จักบรรดาแคนดิเดท “ยารักษา” COVID-19
    .
    เราอยู่กับ COVID-19 มาพักใหญ่แล้ว และข่าวพวก “ยารักษา” ก็โผล่มาเต็มไปหมด ซึ่งสิ่งที่เราต้องเข้าใจก็คือ “ยารักษา” ในที่นี้ในทางเทคนิคของโรคที่เป็นไวรัสอย่าง COVID-19 มันหมายถึง “ยาต้านไวรัส” ซึ่งหน้าที่ของมันไม่ใช่การ “ฆ่า” ไวรัส แบบที่พวก “ยาปฏิชีวนะ” ใช้ “ฆ่า” แบคทีเรีย แต่ “ยาต้านไวรัส” จะทำหน้าที่ไปชะลอหรือหยุดการแบ่งตัวของไวรัส และถ้ามันแบ่งตัวช้าลง ร่างกายเราก็จะจัดการกับมันได้เอง
    .
    เนื่องจาก COVID-19 เป็นโรคใหม่ การคิดค้นยาขึ้นมาตอนนี้ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ หมอและนักวิจัยทั่วโลกก็ได้เอายาต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วมาทดลอง ซึ่งยาพวกนี้ ไม่มียาตัวไหนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสู้กับ COVID-19 โดยตรง แต่จุดร่วมของมันทั้งหมดคือ มันถูกสร้างขึ้นมาสู้กับโรคอื่น และได้ผ่านการทดลองในมนุษย์เรียบร้อยแล้วว่าปลอดภัย
    .
    พูดง่าย ๆ ก็คือ ตอนนี้หมอทั่วโลกก็ลองเอายาที่ “กินแล้วไม่ตาย” มาลองกับผู้ป่วย COVID-19 เพราะนี่คือยาที่มีความหวังสุด เพราะถ้ามีการพัฒนายาใหม่ อีกนานแน่กว่าจะได้ใช้ เพราะแค่จะทำการทดลองว่ามนุษย์กินได้อย่างปลอดภัยก็ยาวนานแล้ว เผลอ ๆ ป่านนั้นวัคซีนก็เสร็จแล้วด้วยซ้ำ ในตอนนี้เราจึงต้องใช้ยาที่ผ่านการทดสอบว่ากินแล้วไม่ตายชัวร์ ๆ กันไปก่อน
    .
    จริง ๆ ยาพวกนี้ที่ถูกเอามา “ทดลองรักษา” ผู้ป่วย COVID-19 มีมาก แต่ ณ ตอนนี้ตัวแคนดิเดทใหญ่ ๆ ที่เขาจะเอามาทดลองจริง ๆ จัง ๆ ว่ารักษาได้จริงมั้ย มันมีแค่ 4 ตัวหลัก ๆ (ต้องเน้นว่าเขาต้องทดลองจริงจังแบบคุมตัวแปรถึงจะบอกว่า “รักษาได้จริง” นะครับ เพราะยาหลายตัว กินไปแล้วหายก็จริง แต่พอทดสอบจริงจัง แบบแยกคนไข้เป็นกลุ่มที่รับยากับไม่รับยา ก็กลับพบว่า จริง ๆ ผลของการรับยาและไม่รับยาไม่ต่างกันเลย กล่าวคือ คนไข้หายจากปัจจัยอื่น ไม่ใช่กินยา และยาที่ถูกพิสูจน์พอสมควรแล้วว่า “ไม่ช่วย” เท่าไร คือยาต้านเชื้อ HIV)
    .
    ตัวแรกคือ Remesivir ของบริษัทยามหาอำนาจ Gilead Sciences ยาตัวนี้เป็นยาฉีด ตอนแรกทำมาเพื่อต้านเชื้ออีโบล่า แต่ใช้ไม่ได้ อย่างไรก็ดี พอ COVID-19 เข้ามา บริษัทก็เริ่มทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง และพบว่าได้ผล ซึ่งบริษัทก็ประกาศเรื่องนี้มาในช่วงต้นเดือนเมษายน 2020 อย่างไรก็ดี ยาตัวนี้ก็ยังไม่ผ่านการทดลองจริงจังว่าจะช่วยรักษาได้จริงมั้ย โดยตามกำหนดการ การทดลองจะสิ้นสุดสมบูรณ์ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งตอนนี้ก็คงได้รู้ว่าจะใช้ได้จริงมั้ย (แต่ตอนนี้หุ้นบริษัท Gilead Sciences ขึ้นไปรอเรียบร้อยแล้วครับ)
    .
    ตัวที่สองคือ Hydroxychloroquine เป็นยากินรักษามาลาเรียที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว ทุกวันนี้เป็นยาสามัญที่มีขายทั่วไปในโลก ยาตัวนี้ดังขึ้นมาหลังจากประธานาธิบดี Donald Trump ออกมาประกาศว่ายาตัวนี้ใช้ได้ช่วงต้นเดือนเมษายน 2020 ทำให้หลายโรงพยาบาลแห่ไปตุน และทำให้คนจำนวนไม่น้อยที่คิดว่าตัวเองเป็น COVID-19 หามากินเอง ซึ่งหลายคนก็บอกว่ากินแล้วหาย อย่างไรก็ดี จริง ๆ มันก็ไม่ใช่ยาที่ผ่านการทดลองว่ากินแล้วได้ผลจริง ๆ ซึ่งกินเท่าไรได้ผลก็ยังไม่รู้ชัดเจน และทางฝรั่งเศสก็รายงานว่าใช้ยาตัวนี้ในผู้ป่วย COVID-19 ก็อาจเกิดอาการทางหัวใจได้
    .
    ตัวที่สาม Favipiravir เป็นยากินรักษาไข้หวัดใหญ่ซึ่งพัฒนามาโดยบริษัท Toyama Chemicial อยู่อยู่ใต้บริษัท FujiFilm Holding ของญี่ปุ่นและยาตัวใช้ชื่อทางการค้าว่า Avigan ซึ่งยาตัวนี้ก็ยังไม่มีการทดลองชัดเจนนัก แต่ในช่วงเดือนมีนาคม ก็ได้มีการทดลองและพบว่าผู้ป่วย COVID-19 ที่กินยาตัวนี้หายจากอาการป่วยเร็วกว่าผู้ที่กินยาต้าน HIV ดังนั้นมันเลยถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีกว่านับแต่ตอนนั้น แม้ว่าจะยังไม่มีการทดลองเพิ่มเติม
    .
    ตัวที่สี่ คือพลาสมาจากเลือดของผู้ป่วยที่หายแล้ว วิธีการรักษานี้อธิบายง่าย ๆ ก็คือการเอาภูมิคุ้มกันจากคนที่มีไปฉีดใส่คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกันเลยเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่ง “ยา” สร้างภูมิคุ้มกันดังกล่าวก็คือพลาสมาจากเลือดของผู้ที่หายป่วยไปแล้ว นี่เป็นวิธีการรักษาที่เบสิกมาก และได้ผลมานานกับหลายโรค แต่ปัญหาก็คือตัว “วัตถุดิบ” คือมันต้องการ “เลือด” จากผู้หายป่วย ไปสกัดเอาพลาสมาออกแล้วมาฉีดให้ผู้ป่วย ดังนั้นวิธีการรักษานี้ มันจึงไม่สามารถจะผลิต “ยา” จำนวนมากออกมาได้ เพราะวัตถุดิบมันต้องเป็นเลือดของผู้หายป่วยเท่านั้น วิธีการแบบนี้จึงไม่ใช่แนวทางที่บริษัทยาเน้นพัฒนาเท่าไร เพราะถึงรักษาได้จริง ยังไงมันก็ยากมากที่จะผลิตยาจำนวนมาก ๆ ออกมาขาย (พร้อมทั้งได้กำไรมหาศาล) แต่วีธีการนี้ก็เป็น “ความหวัง” ที่จะใช้กับผู้ป่วยโดยเฉพาะในกลุ่มที่อ่อนแอมาก ๆ อย่างเร่งด่วน เพราะมันเป็นแนวทางหนึ่งที่ดูเป็นไปได้สุดแล้วตอนนี้ที่จะช่วย “รักษา”
    .
    และก็นี่แหละครับ ยาหลัก ๆ ที่โลกใช้สู้กับ COVID-19 ตอนนี้ ซึ่งก็ยังไม่มีความชัดว่ายาตัวไหนจะดีที่สุด ทางฝั่งอเมริกาอาจหนุน Hydroxychloroquine หรือกระทั่ง Remesivir ส่วนทางฝั่งจีนกับญี่ปุ่นก็อาจหนุน Favipiravir ด้วยเหตุผลที่ชาติตัวเองถือสิทธิบัตรยาดังกล่าวอยู่ แต่ในความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นตัวไหน ก็ยังมีผลการทดลองที่ไม่ชัดเจนทั้งนั้นว่าใช้ได้จริง และที่ให้ ๆ คนไข้ไปแล้วหายนั้น เอาจริง ๆ คนไข้อาจจะหายด้วยภูมิคุ้มกันตัวเองก็ได้ พอดีบังเอิญกินยาไปเท่านั้นเอง
    .
    ทั้งนี้นี่ก็ว่ากันด้วยยาที่จะสู้กับ COVID-19 โดยตรงนะครับ ในความเป็นจริงยังมียาอีกหลายตัวที่ใช้ในการ “บำบัด” ผู้ป่วยไปตามอาการ เช่นยาที่ลดอาการอักเสบ (ไม่ใช่ “ยาแก้อักเสบ” ที่เราพูดกันในภาษาไทยที่หมายถึงยาปฏิชีวนะนะครับ) ตรงปอด ที่จะช่วยให้ผู้ป่วย COVID-19 ที่ไวรัสลงไปปอดแล้วเกิดอาการอักเสบพอหายใจออก
    .
    นอกจากนี้เราก็ต้องไม่ลืมว่า ณ ตอนนี้มีวัคซีนสู้ COVID-19 พัฒนาอยู่ทั่วโลกกว่า 70 ตัว และมันก็คงมีอย่างน้อย ๆ สัก 2-3 ตัวที่จะสำเร็จมาเป็นวัคซีนจริง ๆ ในที่สุด ปกติในการพัฒนาวัคซีนทุกวันนี้ วัคซีนไวรัสพัฒนายากสุด และวัคซีนที่ผ่านทุกกระบวนการทดสอบจนมาฉีดในคนได้จริง ๆ ก็มีไม่ถึง 20% ของวัคซีนไวรัสที่พัฒนากันมา ซึ่งนั่นคือภาวะปกติ ถ้าในกรณี COVID-19 ที่ทุกฝ่ายแข่งกันพัฒนาวัคซีน อัตราสำเร็จอาจต่ำกว่านั้นไปอีก
    .
    แต่ก็อย่างที่บอกครับ มันก็คงจะต้องมีวัคซีนจำนวนหนึ่งทำมาสำเร็จแหละ ซึ่งนั่นก็คงต้องไปว่ากันปีหน้าน่ะครับกว่าเราจะได้วัคซีนมาฉีด ตอนนี้ก็ Social Distancing กันไปก่อน
    .
    อ้างอิง: https://bloom.bg/3bsLdHN
    .
    #Covid19 #Thailand #BrandThink
    #ส่งต่อความคิดสู้Covid19
    #แชร์สิ่งเล็กๆให้ยิ่งใหญ่
    #sharingIsEmpowering
    อัปเดตและติดตามข่าวสารได้ที่
    Line: @brandthink (มี @ ด้วยนะครับ)
    Instagram: instagram.com/brandthink.me
    Website: www.brandthink.me
    Twitter: twitter.com/BrandThinkme

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อัตราการว่างงานในฮ่องกงพุ่งสูง 6 เดือนติดต่อกันแล้ว

    อัตราการว่างงานของฮ่องกงพุ่งสูงขึ้นในเดือนมีนาคมซึ่งเป็นเดือนที่หกติดต่อกัน และทำสถิติใหม่สูงสุดที่ 4.2% ในรอบกว่า 9 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการระบาดของโรคโคโรนาไวรัสซึ่งทำลายเศรษฐกิจในทุกด้าน

    ตัวเลขอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าอัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้นอีก 0.5% ในเดือนมีนาคมเป็น 4.2% จากเดิมในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ที่มีเพียง 3.7%

    ส่วนอัตราการว่างงานแฝง (underemployment rate) ก็เพิ่มขึ้นอีก 2.1% ซึ่งสูงที่สุดในรอบเกือบทศวรรษจากเดิมที่ 1.5% ในช่วงสามเดือนก่อนหน้านี้

    กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเป็นกลุ่มได้รับผลกระทบมากที่สุดที่ 8.6% ตามด้วยภาคการก่อสร้างที่ 8.5% อัตราการว่างงานยังเพิ่มขึ้นอย่างมากในภาคการบริโภคและการท่องเที่ยวที่ 6.8% ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2009 ซึ่งเป็นช่วงวิกฤติการเงินโลก

    ***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


    Source : https://www.scmp.com/news/hong-kong...-kong-unemployment-rate-rises-sixth-straight?

    #ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เปิดร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณสู้ “โควิด-19”
    กองทุนบัตรทองถูกตัดงบ 2,400 ล้าน
    กระทรวงสาธารณสุขโดนด้วย 1,200 ล้าน
    .
    .
    เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีเพิ่งให้ความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ... ซึ่งจะเป็นสาระสำคัญ ในการโอนงบประมาณของแต่ละกระทรวง รวมมูลค่าแล้วกว่า 100,395 ล้านบาท เข้าไปอยู่ใน “งบกลาง” เพื่อสำรองจ่ายในกรณีจำเป็น ฉุกเฉิน เร่งด่วน ในการช่วยเหลือ เยียวยา ผลกระทบจากโควิด – 19 ต่อประชาชน
    .
    แน่นอน เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะหลังจากนี้อีก 1 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิม ภาคธุรกิจ ภาคบริการ ภาคการท่องเที่ยว จะไม่สามารถเดินหน้าได้ตามปกติ GDP ไทย จากที่ปีที่แล้วโตต่ำอยู่แล้วที่ 2.4% ปี 2563 มีการประเมินว่าจะติดลบ 5-7% เพราะ “เครื่องยนต์” หลักอย่างการท่องเที่ยวนิ่งสนิท
    .
    เมื่อหาแหล่งรายได้อื่น หาเงินเข้าประเทศไม่ได้ และปีนี้ จะเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้าอย่างไม่ต้องสงสัย ก็ต้องนำมาซึ่งการโอนงบประมาณ กลับมาไว้ที่ นายกฯ เพื่อให้เบิกจ่ายง่าย และคล่องที่สุด เป็นส่วนเสริมของ พ.ร.ก.กู้เงิน 1.1 ล้านล้านบาท ซึ่งผ่าน ครม.ไปก่อนหน้านี้
    .
    แน่นอน อำนาจจัดซื้อ – จัดจ้าง ของรัฐมนตรี ก็จะหายไป และหลายกระทรวง อาจต้องอยู่กันอย่าง “อดอยากปากแห้ง” ในอีก 1 ปีข้างหน้า บางกระทรวงที่รัฐมนตรีหวังจะโยกเงิน ไปจ่ายค่า “งูเห่า” หรือไปจ่ายเงินทำพรรค ก็อาจได้รับผลกระทบ..
    .
    สำหรับงบประมาณที่โดนตัดเยอะที่สุด อยู่ที่กระทรวงกลาโหม หายไป 1.8 หมื่นล้านบาท หนึ่งในนั้นก็คือ “รถหุ้มเกราะล้อยาง” สไตรเกอร์ ที่สั่งจากสหรัฐอเมริกา วงเงิน 4,515 ล้านบาท หรือ แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศ ของกองทัพเรือนั้น งบจะหายไปราว 4,130 ล้านบาท ทำให้การจัดซื้ออาวุธที่ทำกันอย่างต่อเนื่อง หายไป ไม่เหมือนเดิมและงบที่ใช้ในการ “ดูงานต่างประเทศ” การจัดซื้อจัดจ้างหลายอย่างที่ไม่จำเป็น ก็จะหายไปเช่นกัน
    .
    ปัญหาก็คือ หากเป็นงบประมาณที่ไม่จำเป็นจริง ก็พอทำเนา แต่สำนักงบประมาณ ตัดไปตัดมา กลับไปตัดเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือกองทุนบัตรทอง ปี 2563 ด้วย โดยที่แม้แต่ อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข และประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ก็ไม่รู้เรื่อง ปลัดกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานหลักที่รับเงินจากกองทุนก็ไม่รู้เรื่อง และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ก็ไม่รู้เรื่อง
    .
    โดยปกติ การ “โอนกลับ” มักจะมีรายละเอียดว่าจะโอนงบประมาณส่วนไหน โครงการอะไร แต่ในส่วนของงบสำนักงานหลักประกันสุขภาพนั้นใช้วิธีเทียบบัญญัติไตรยางค์เอาโต้งๆ ว่าจะตัดจากงบกองทุนบัตรทอง 1.25% จนเคาะมาได้ที่ตัวเลข 2,400 ล้านบาท
    .
    ทีนี้คนในสปสช. ในบอร์ดสปสช. และในกระทรวงสาธารณสุข ก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก เพราะเงินในกองทุนบัตรทองนั้น ไม่ใช่งบสำหรับบริหารสปสช.เพียงอย่างเดียว แต่คืองบประมาณค่ารักษาพยาบาลสำหรับคนไทยที่อยู่ภายใต้ระบบบัตรทองมากกว่า 49 ล้านคน ซึ่งปัจจุบัน งบเหมาจ่ายรายหัวอยู่ที่ราว 3,600 บาท ต่อคนต่อปี
    .
    และในที่นี้ ก็รวมถึงการรักษาผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โรคค่าใช้จ่ายสูงราคาแพง การรักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ฯลฯ หรือแม้แต่กรณีป่วยด้วยโรคโควิด – 19 กรณีการจัดซื้อเวชภัณฑ์เพื่อต่อสู้กับโควิด การระดมตรวจโรคเชิงลึก ก็สามารถเบิกจากกองทุนบัตรทองได้
    .
    เพราะฉะนั้น เงินที่ลงไปยังโรงพยาบาล ซึ่งถือเป็นหน่วยบริการของกระทรวงสาธารณสุข ก็จะหายไปทันทีกว่า 2,400 ล้านบาท เพื่อกันไปเป็นงบฉุกเฉินส่วนอื่น ซึ่งจนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีรายละเอียดว่าจะเอาไปใช้อย่างไร เยียวยาอย่างไร ขอเพียงกันไว้เป็นงบกลางไว้ก่อน
    .
    ไม่ใช่เพียงกองทุนบัตรทองอย่างเดียว ที่ถูกโอนคืน กระทรวงสาธารณสุข หน่วยงาน “แนวหน้า” ในการจัดการก็โดนด้วย 1,200 ล้านบาท
    .
    ที่โดนหนักสุด คือสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ปีงบประมาณนี้ เงินจะหายไปมากกว่า 895 ล้านบาท โดยไปกองอยู่ใน “แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างให้คนมีสุขภาวะที่ดี” กว่า 707 ล้านบาท
    .
    หากตัดเฉพาะงบประมาณการไปราชการต่างประเทศก็คงไม่มีใครว่าอะไร แต่ส่วนใหญ่ งบของสำนักงานปลัดฯ ที่ถูกตัดออก กลับไปกองอยู่ที่งบการปรับปรุงอาคารโรงพยาบาล อาคารผู้ป่วยนอก - ผู้ป่วยใน ไปจนถึงอาคารผู้ป่วยฉุกเฉินของโรงพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่งน่าแปลกใจที่สำนักงบประมาณ เห็นว่า “ไม่มีความจำเป็น”
    .
    ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ที่หวังกันว่าปีงบประมาณ 2563 จะมีการปรับปรุง “บ้านพัก” แพทย์ - พยาบาล และข้าราชการนั้น ขอให้สบายใจได้เลยว่าไม่ได้ปรับปรุงแน่นอน เพราะงบส่วนสร้างและปรับปรุงอาคารบ้านพักของหลายโรงพยาบาลทั่วประเทศนั้น ถูกโยกไปเป็นงบกลาง ภายใต้นายกฯ ประยุทธ์ เรียบร้อยเช่นกัน
    .
    เมื่อโยกไปแล้ว การจะของบกลางกลับมาใช้ในหน่วยงานให้เหมือนเดิม โดยอ้างความ “จำเป็น” นั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ายากแค่ไหน
    .
    การตัดงบประมาณช่วงการต่อสู้กับโรคระบาด ทั้งของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และของกระทรวงสาธารณสุข จึงเป็นข้อเสนอที่แปลกประหลาด ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากการเสนอของหน่วยงานอย่างสำนักงบประมาณ และก็ไม่น่าเชื่อว่าคณะรัฐมนตรี จะ “เห็นชอบ” โดยไม่มีการทักท้วงถึงไส้ในเลย
    .
    อย่างไรก็ตาม ข้อดีของระบอบประชาธิปไตยก็คือ พ.ร.บ.โอนงบประมาณ จะยังคงมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็น จะต้องผ่านการพิจารณาของสส. - สว. และยังปรับแก้ในรายละเอียดได้หลังจากนี้
    .
    ว่ากันว่างบประมาณในช่วง “ภัยพิบัติ” ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นงบส่วนที่ “ชุบมือเปิบ” ง่ายที่สุด และหอมหวานที่สุด เพราะการตรวจสอบจะไม่เข้มข้นมากนัก เพราะเหตุเรื่องความจำเป็นเร่งด่วน
    .
    หากตอบคำถามไม่ได้ว่างบประมาณที่หายไป จะนำไปใช้อะไร และปรับลดโดยไม่มีสาเหตุจนกระทบกับการรักษาพยาบาล กระทบกับทีมแพทย์ - พยาบาล ที่อยู่แนวหน้า จนต้องทำหน้าที่กันอย่างยากลำบากนั้น
    .
    รัฐบาลก็เตรียมรับแรงกระแทกได้เลย...

    #ดึงงบบัตรทองคืน #โควิด19 #งบกลาง #ครม #กองทุนบัตรทอง #กระทรวงสาธารณสุข #ตัดงบสาธารณสุข

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไต้หวันจริงจังเรื่องโดนสับสนกับจีนสุด ล่าสุดคือมีการจะเปลี่ยนปกพาสปอร์ตไม่ให้มีคำว่า China แล้ว

    มีชาวเน็ตลองดีไซน์ลายชานมไข่มุกแล้วคนชอบกันมากจนสส.พรรครัฐบาล จงจยาปิน เสนอดีไซน์ใหม่ 3 แบบ ให้กระทรวงต่างประเทศก็ใส่ลายชานมไข่มุกเข้าไปด้วย
    พาสปอร์ตแบบเดิมที่มีปัญหา ซึ่งแบบแรกที่สส.เสนอก็เหมือนกันนี้แต่ตัดภาษาอังกฤษออกให้มีแต่ตัวอักษรจีน

    แบบที่ 2 ให้คำว่า TAIWAN PASSPORT ตัวใหญ่ๆ REPUBLIC OF CHINA ตัวเล็กๆ แล้วใช้รูปแผนที่ไต้หวันแทนตราพระอาทิตย์

    แบบที่ 3 ลายชานมไข่มุก แล้วมีแค่คำว่า TAIWAN PASSPORT ไปเลย
    จริงๆ มีหลายคนยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดหลายครั้งแล้วเรื่องชื่อทางการของไต้หวัน Republic of China ที่ทำให้ต่างชาติสับสน เพราะส่วนใหญ่โลกก็เรียกว่า "ไต้หวัน" เรื่องสายการบินหรือพาสปอร์ตก็เหมือนกัน พอมีเรื่อง COVID-19 ก็เหมือนเป็นตัวเร่งให้เขาหยิบเรื่องนี้มาปัดฝุ่น
    CR TW #PraeHsu

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินโดฯจับคนหนีกักตัว ขังในบ้านผีสิงแทน
    .
    Kusdinar Untung Yuni Sukowati ผู้สำเร็จราชการจังหวัด Sragen กล่าวว่า หากพบคนในท้องถิ่นที่กลับเข้าหมู่บ้านแต่ไม่ยอมเข้ามาตรการกักตัว 14 วัน ให้แต่ละท้องถิ่นมาขออนุญาตเธอ โดยเธอจะออกคำสั่งลงโทษให้เจ้าหน้าที่พาคนเหล่านี้ไปกักตัวไว้ในบ้านร้าง หรือตามโรงเรียนร้างแทน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลนำอาหารไปให้ในแต่ละวัน และตรวจสอบความเป็นอยู่ไม่ต่างจากการกักตัวโดยทั่วไป

    คำกล่าวของผู้ว่าฯSragenไม่ได้พูดเล่นๆ มีรายงานว่าชาวบ้าน 2 รายจากหมู่บ้าน Plupuh ถูกพบว่าละเมิดกฎกักตัว และถูกคุมตัวไปกักยังบ้านร้างกลางทุ่งนาแทนแล้ว ซึ่งบ้านดังเป็นที่ร่้ำลือของชาวบ้านหลายคนว่าผีดุ

    อย่างไรก็ดี เธอไม่ได้ให้รายละเอียดว่า ผู้ที่ละเมิดมาตรการกักตัวนี้จะถูกขังในบ้านร้างนานกี่วัน แต่ทางการท้องถิ่นSragen ได้ใช้อาคารที่ถูกทิ้งร้างหลายแห่งเป็นที่กักตัวคนที่ไม่สามารถแยกกักตัวเองที่บ้านได้ เนื่องจากท้องถิ่นไม่มีทรัพยากรเพียงพอในการรองรับคนจากต่างถิ่นที่กลับเข้าพื้นที่ โดยในจังหวัด Sragen มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิดแล้ว 5 ราย เสียชีวิต 1 ราย
    https://www.arabnews.com/node/1662641/world

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หละหลวม

    First U.S. Coronavirus Death Happened Weeks Earlier Than Originally Believed

    • สำนักงานสาธารณสุขเทศมณฑลซานตาคลารา (Santa Clara County) แถลงว่า 'เจ้าหน้าที่ได้ชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตที่บ้าน 2 ราย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ และ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 และได้รับการยืนยันจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา หรือ CDC ว่าตัวอย่างเนื้อเยื่อของผู้เสียชีวิตทั้งสองรายมีเชื้อไวรัสโคโรนาตัวใหม่ (SARS-CoV-2)

    • นอกจากนี้ยังพบว่า 'ผู้เสียชีวิตที่บ้านอีกรายเมื่อต้นเดือนมีนาคมก็มีเชื้อนี้เช่นกัน'

    • การเสียชีวิตเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงที่การตรวจหาเชื้อยังจำกัดมาก เพราะ CDC กำหนดให้ตรวจเฉพาะผู้มีประวัติเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง...และผู้มาพบแพทย์ที่มีอาการเข้าข่ายเท่านั้น คาดว่าจะมีการยืนยันเพิ่มเติมว่าผู้เสียชีวิตหลายรายมีสาเหตุมาจากโรคนี้

    • ข่าวการพบผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 รายแรกในสหรัฐอเมริกาว่า 'เริ่มมาตั้งแต่ต้นเดือน 'กุมภาพันธ์' ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา'...จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าใจการระบาดในสหรัฐอเมริกาได้ดีขึ้น เพราะเดิมเชื่อว่า 'ผู้เสียชีวิตรายแรกเป็นชายวัย 50 ปีเศษใน 'รัฐวอชิงตัน' ทางตะวันตกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020'

    • จนถึงขณะนี้สหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วย 826,240 คน เสียชีวิต 45,373 คน มากที่สุดจากทั้งโลกที่มีผู้ป่วย 2,565,059 คน เสียชีวิต 177,496 คน

    • บรรณานุกรม :

    Credit : https://www.businessinsider.com/san...ms-february-coronavirus-death-first-us-2020-4

    Credit : https://www.cnbc.com/2020/04/22/cor...w-cases-white-house-warns-of-more-deaths.html

    Credit : https://www.nbcnews.com/science/sci...ed-weeks-earlier-originally-believed-n1189286

    Credit : https://www.sccgov.org/sites/covid19/Pages/press-release-04-21-20-early.aspx

    Credit : https://sanjosespotlight.com/corona...-positive-closures-and-cancellations-ramp-up/

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สวิตเซอร์แลนด์ขอเป็นหนึ่งเดียวกับประชาชนจีน ในการต่อสู้กับไวรัสโควิค-19
    .
    1/ การท่องเที่ยวเมืองแซร์มัตต์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ฉายภาพธงชาติจีนบนยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น ในเทือกเขาแอลป์ เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา
    .
    2/ สวิตเซอร์แลนด์เต็มใจสื่อว่า สวิตเซอร์แลนด์มีความสามัคคีและเป็นหนึ่งเดียวกับประชาชนจีนในการต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิค-19
    .
    3/ สถานการณ์ไวรัสในสวิตเซอร์แลนด์นั้น รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองและควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนนี้เป็นต้นไป หลังบังคับใช้มาตั้งแต่เดือนมีนาคม
    .
    4/ การผ่อนคลายมาตรการ อาทิ อนุญาตให้โรงพยาบาลดำเนินงานได้ทุกแผนก การศัลยกรรมเสริมความงาม ร้านเสริมสวย ร้านนวดสามารถกลับมาเปิดได้ตามปกติ
    .
    5/ สำหรับร้านค้าและตลาด จะให้เปิดทำการตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคมเป็นต้นไป ส่วนภาคการศึกษา โรงเรียนและมหาวิทยาลัยจะเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน
    .
    6/ แม้มาตรการจะผ่อนคลายลง แต่ยังคงห้ามจัดการชุมนุม หรือจัดกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 5 คน และประชาชนทุกคนต้องยึดถือมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมและสุขอนามัยที่รัฐบาลประกาศไว้
    .
    7/ ประธานาธิบดีซีโมเน็ตตา ซอมมารูกา แห่งสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มดีขึ้นแล้ว ขณะที่โรงพยาบาลยังสามารถรองรับผู้ป่วยได้
    .
    8/ แต่สิ่งที่สำคัญในเวลานี้คือ ต้องแน่ใจว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก เพราะสวิตเซอร์แลนด์ไม่ต้องการกลับไปเริ่มต้นใหม่
    .
    9/ สวิตเซอร์แลนด์มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 แล้วมากกว่า 1,000 ราย มีผู้ติดเชื้อเกือบ 27,000 คน แต่อัตราการติดเชื้อชะลอตัวลงไม่กี่วันมานี้
    .
    10/ เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา สายการบิน Swissair โพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ว่า ได้ขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์จากจีนสู่สวิตเซอร์แลนด์รวมกว่า 35 ล้านชิ้น เพื่อช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดและสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในสวิตเซอร์แลนด์
    .
    11/ Swissair ขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ทางเครื่องบินราว 10 เที่ยว และโหลดอุปกรณ์ทางการแพทย์เหล่านั้นทั้งใต้ท้องเครื่องและในห้องโดยสาร
    .
    12/ เที่ยวบินขนอุปกรณ์ทางการแพทย์จากจีน 2 เที่ยวแรกนั้น เป็นอุปกรณ์ที่ต้องการใช้อย่างเร่งด่วน และเมื่อลงจอดที่เมืองซูริกและเมืองเจนีวาแล้ว อุปกรณ์ทุกชิ้นถูกกระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆอย่างเร่งด่วนเช่นกัน
    .

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พายุฤดูร้อนวันนี้ บ้านเรือนเสียหายจังหวัดอำนาจเจริญ ลูกเห็บตกที่ภูทับเบิกจังหวัดเพชรบูรณ์ ฟ้าผ่าที่อำเภอบัวใหญ่จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร !!!

    ขอบคุณเจ้าของภาพด้วยครับ

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด้วยได้เกิดเหตุวาตภัยขี้นในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 เวลา 14.30 น. ต่อเนื่องถึงเวลา 18.30 น. ได้รับรายงานความเสียหายเบื้องต้น ดังนี้
    1. อ.เมืองอำนาจเจริญ
    (1) เขตเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ (ชุมชนแสนสวาท 2) จำนวน 8 ครัวเรือน เสาไฟฟ้าแรงสูงล้ม จำนวน 9 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง การไฟฟ้า จ.อำนาจฯ กำลังดำเนินการแก้ไข
    (2) ตำบลบุ่ง ม.3 จำนวน 15 ครัวเรือน
    2. อ.ลืออำนาจ
    ม.7,16 ต.ดงบัง จำนวน 22 ครัวเรือน
    3. อ.พนา
    ม.10 ต.พระเหลา จำนวน 13 ครัวเรือน
    รวม 3 อำเภอ 3 ตำบล 1 เทศบาลเมืองฯ 4 หมู่บ้าน 2 ชุมชน 58 ครัวเรือน
    ขณะนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอำเภอ กำลังเร่งให้การช่วยเหลือ/ ปภ อำนาจเจริญ

    #ขอขอบคุณข้อมูลจาก LINE 61 ปภ.

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันที่ 22 เมษายน 2563
    ได้รับรายงานฝนตก ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก
    ในตัวเมืองเพชรบูรณ์ หน้าศูนย์ราชการ ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์
    #ขอขอบคุณข้อมูลจากห้องLine 61 สาธารณภัย ปภ/1

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันนี้ 22 เมษายน 2563 เวลา 14.30 น จังหวัดมุกดาหาร
    ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน มีลูกเห็บตก และฟ้าผ่า ในเบื้องต้นดังนี้
    (1) อ. เมืองมุกดาหาร บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย (จำนวนความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ)
    (2) อ. นิคมคำสร้อย มีลูกเห็บตก บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย (จำนวนความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ) และมีราษฎรเพศหญิง อายุ 66 ปี ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิต
    1 ราย
    โดยจังหวัดมุกดาหาร ได้แจ้งให้อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกสำรวจความเสียหาย และช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นแล้ว จักได้รายงานความเสียหายให้ทราบอีกครั้ง/ ปภ มุกดาหาร

    #ขอขอบคุณข้อมูลจาก ห้องLine 61 ข่าวสาธารณภัย ปภ./1

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กราฟิกพยากรณ์อากาศรายภาคพร้อมแผนที่เสี่ยงภัยพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ⚡⚡

    ประจำวันที่ 22 เมษายน 2563
    ออกข่าวเวลา 17.00 น. ค่ะ

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'เซอร์เบีย' อนุญาตให้ผู้สูงอายุออกนอกบ้านได้

    The Latest : Serbia's Elderly Finally Allowed Outside

    • รัฐบาล 'เซอร์เบีย' ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน (State of Emergency) ต่อมาได้มีการห้ามประชาชนออกจากเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือ Curfew จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ล่าสุดเริ่มผ่อนคลายความเข้มงวด โดยอนุญาตให้ผู้สูงวัยที่อายุเกินกว่า 65 ปี สามารถออกนอกบ้านไปเดินออกกำลังได้สัปดาห์ละ 3 วัน และออกไปซื้อข้าวของได้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่คนกลุ่มอื่นยังต้องอยู่ในบ้านต่อไป

    • ทางการระบุว่า 'มาตรการผ่อนคลายนี้ป้องกันผู้สูงอายุล้มป่วย หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาตรการ Lockdown ของรัฐบาลว่า 'การกักตัวผู้สูงอายุเอาไว้ในบ้านนานเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้'...ล่าสุดเซอร์เบียมีผู้ติดเชื้อสะสมราว 6,900 คน และมีผู้เสียชีวิต 130 คน

    • บรรณานุกรม :

    Credit : https://www.kusi.com/i/the-latest-serbias-elderly-finally-allowed-outside/
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #เรือสำราญอีกแล้ว พบผู้ติดเชื้อ 33 คนจากเรือลำนี้และบางคนได้ออกจากตัวเรือตอนนี้เร่งสืบไปที่ไหนมาบ้าง!

    เรือลำนี้คือเรือสำราญสัญชาติอิตาลีชื่อว่า "Costa Atlantica" โดยเรือลำนี้จอดในอู่ซ่อมเรือที่ มิซุบิชิในจ.นางาซากิ เพื่อที่จะซ่อมแซม

    ซึ่งครั้งแรกเลยเรือลำนี้ตัดสินใจจะจอดที่จีนแต่เนื่องจากไวรัสโคโรน่าจึงจำเป็นต้องย้ายมาจอดที่ญี่ปุ่น โดยเรือลำนี้ไม่มีลูกค้าแต่มีลูกเรือรวมทั้งหมด 623 คน แต่ภายหลังได้ตรวจพบเชื้อไวรัส Covid-19 พบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 33 คน

    โดยลูกเรือบางคนได้ออกจากตัวเรือไปโรงพยาบาลและสถานที่ต่างๆแล้ว ตอนนี้ทางญี่ปุ่นกำลังเร่งสืบว่าไปที่ไหนมาบ้างที่เป็นจุดเสี่ยงและอาจทำให้ไวรัสระบาดได้ และล่าสุดญี่ปุ่นได้สั่งให้ลูกเรือทุกคนกักตัวอยู่ในเรือห้ามออกไปไหนแล้ว

    กดติดตามเพจนี้ "คนไทยในญี่ปุ่น" และกดเห็นโพสต์ก่อน เราจะคัดข่าวและคอนเท้นต์ที่มีคุณภาพสู่มือถือของคุณในทุกๆวัน!

    อ้างอิง : https://www.asahi.com/articles/ASN4...uf0aqwE_B-vD43s27NE3GIc2r_a5WckNUxO0bFu6AiWnc

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘เป็นเรื่องไร้สาระ’ เพราะปราศจากมูลความจริง
    .
    1/ นายไมค์ พาร์สัน ผู้ว่าการรัฐมิสซูรี่ สังกัดพรรครีพับลิกัน (พรรคเดียวกันกับโดนัลด์ ทรัมป์) ยื่นฟ้องคดีไวรัสโควิด-19 เรียกค่าเสียหายจากผู้นำรัฐบาลจีน
    .
    2/ คำร้องนั้นถูกยื่นต่อศาลรัฐบาลกลาง เรียกค่าเสียหายไม่ระบุจำนวนเงินจากรัฐบาลจีน ด้วยข้อหาหลอกลวงโดยเจตนา และดำเนินการไม่เพียงพอในการยับยั้งไม่ให้ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลก
    .
    3/ สำนวนฟ้องระบุไว้หลายประเด็น อาทิ รัฐบาลจีนไม่ได้เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส และไม่กระทำการที่เพียงพอต่อการยับยั้งการระบาด
    .
    4/ การปกปิดข่าวการระบาดในช่วงแรกที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย รวมถึงการที่ทางการจีนระบุว่า ไม่มีหลักฐานการแพร่เชื้อจากคนสู่คน กำลังสร้างความเสียหายในปัจจุบัน คิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
    .
    5/ ผู้ว่าการรัฐมิสซูรี่ยังต้องการให้ศาลมีคำสั่ง ให้รัฐบาลจีนหยุดกระทำการมิชอบที่ยังดำเนินอยู่ เช่น กักตุนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE)
    .
    6/ หลังข่าวเผยแพร่ออกไป นายเกิง ซวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวถึงประเด็นนี้ในระหว่างการแถลงข่าวประจำวันพุธที่ 22 เม.ย.ว่า...
    .
    7/ ข้อกล่าวหาของรัฐมิสซูรี่เป็นเรื่องไร้สาระ เพราะปราศจากมูลความจริงและรากฐานทางกฎหมาย
    .
    8/ รัฐบาลจีนยืนยันว่า นับตั้งแต่เริ่มเกิดการระบาดเมื่อปลายปีที่แล้ว จีนได้ดำเนินการทุกอย่างอย่างเปิดเผย โปร่งใส และรับผิดชอบโดยเสมอมา
    .
    9/ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศระบุ การฟ้องศาลของรัฐมิสซูรี่อาจเป็นแค่เชิงสัญลักษณ์
    .
    10/ เพราะในความเป็นจริง หากหวังความสำเร็จเป็นเรื่องที่ยากมาก เนื่องจากกฎหมายสหรัฐฯ ภายใต้หลักการความคุ้มกันอำนาจอธิปไตย มีระบุไว้ชัดเจนว่า ‘ห้ามฟ้องศาล เพื่อดำเนินคดีต่อรัฐบาลต่างชาติ’
    .
    ที่มา: Coronavirus: Missouri sues Chinese government over virus handling

    .

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "#จุดสีฟ้าจางๆ" ภาพของ "โลก" ถ่ายบนยานอวกาศ จากขอบระบบสุริยะ ห่างไกลออกไป 6 พันล้านกิโลเมตร

    ภาพนี้ดูผ่านๆคงเห็นเป็นเพียงภาพจุดธรรมดา แต่มันคือภาพของโลก ที่ถูกถ่ายจากยานอวกาศ Voyager 1 ห่างไกลออกไป 6 พันล้านกิโลเมตร กลางอวกาศกว้างใหญ่ อยู่กึ่งกลางแถบแสงอาทิตย์ที่ถูกกระเจิงเนื่องจากเลนส์กล้อง โลกมีขนาดปรากฏต่ำกว่าหนึ่งพิกเซล

    โดยระหว่าง Voyager 1 กำลังจะออกจากระบบสุริยะ นอกดาวเนปจูน ระยะห่างประมาณ 6 พันล้านกิโลเมตร ได้หันกล้องกลับมาถ่ายโลกของเรา ณ วันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ ปี 1990

    ภาพนี้มีชื่อว่า Pale Blue Dot หรือจุดสีฟ้าจางๆแสดงให้เห็นว่าโลกเรา เล็กแค่ไหนในจักรวาลอันกว้างใหญ่

    มันคือบ้านของเรา ที่มีสิ่งมีชีวิตพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน

    22 เมษายน วันคุ้มครองโลก

    อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

    https://solarsystem.nasa.gov/resources/536/voyager-1s-pale-blue-dot/

    https://www.nasa.gov/feature/jpl/pale-blue-dot-revisited

    https://www.jpl.nasa.gov/spaceimages/details.php?id=PIA23645

    https://www.jpl.nasa.gov/spaceimages/details.php?id=PIA00452

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    500 บริษัทน้ำมันสหรัฐเข้าคิว “ล้มละลาย” หลังราคาน้ำมันดิบโลก “ติดลบ”

    ราคาน้ำมันดิบซื้อขายล่วงหน้า “ติดลบ” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เหตุจากมาตรการล็อกดาวน์ “โควิด-19” ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกลดฮวบ ขณะที่ซัพพลายล้นทะลักกระทั่งจะไม่มีคลังจัดเก็บ

    ดีมานด์น้ำมันดิ่ง สต๊อกท่วม
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลดลงสู่ระดับติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (สัญญาฟิวเจอร์ส) น้ำมันดิบ WTI ที่ส่งมอบเดือน พ.ค. เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2563 ลดลงกว่า 300% จากวันก่อนหน้า โดยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ -40.32 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และปิดตัวที่ระดับ -37.63 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เกิดจากความกังวลทางดีมานด์ทั่วโลกที่หายไปกว่า 30 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้เกิดซัพพลายส่วนเกินจำนวนหลายล้านบาร์เรล/วัน ทำให้สต๊อกท่วมคลังน้ำมันดิบทั่วโลก

    บิสซิเนส อินไซเดอร์ระบุว่า สหรัฐเป็นประเทศที่เผชิญกับสถาณการณ์น้ำมันสต๊อกล้นคลังที่รุนแรงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐ (อีไอเอ) ระบุว่า แหล่งเก็บน้ำมันที่สำคัญของประเทศที่รัฐโอคลาโฮมา มีประมาณสต๊อกเพิ่มขึ้นถึง 48% จากช่วงปลายเดือน ก.พ. 2563 โดยปัจจุบันมีน้ำมันดิบในคลังที่ 55 ล้านบาร์เรล จากปริมาณซัพพลายน้ำมันส่วนเกินของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก S&P Global Platts Analytics ชี้ว่า คลังเก็บน้ำมันสำรองของสหรัฐจะเต็มความจุภายในเวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์ ขณะที่บทวิเคราะห์บางแห่งชี้ว่าจะเต็มภายในไม่กี่วันนี้

    เทขายสัญญาก่อนหมดอายุ
    เนื่องจากสัญญาฟิวเจอร์สจะหมดอายุลงในวันที่ 21 เม.ย. 2563 ทำให้มีวอลุ่มการซื้อขายที่เบาบาง และในช่วงเวลาก่อนปิดตลาดซื้อขายเมื่อ 20 เม.ย. เกิดแรงเทขายสัญญาซื้อ (long position) ออกมา เนื่องจากไม่ต้องการรับการส่งมอบน้ำมันดิบจากความกังวลที่คลังเก็บน้ำมันกำลังจะเต็ม รวมถึงไม่ต้องการต่ออายุสัญญา (roll over) เนื่องจากเกรงว่าราคาน้ำมันอาจลดลงอีกในอนาคต ส่งผลให้เกิดแรงเทขายสัญญาฟิวเจอร์ส ภายในช่วงสุดท้ายก่อนการหมดอายุที่มีวอลุ่มการซื้อขายเบาบาง ทำให้ราคาร่วงลงอย่างรุนแรงสู่ระดับติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

    ยักษ์น้ำมันสิงคโปร์ขาดทุนหนัก
    บลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาฟิวเจอร์สน้ำมันร่วงลงอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อขายสัญญาในตลาด โดยล่าสุดบริษัท Hin Leong ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของสิงคโปร์กำลังประสบปัญหาขาดทุนจากการซื้อขายสัญญาน้ำมันล่วงหน้ากว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกิดจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงอย่างรุนแรงนับตั้งแต่ต้นปี ส่งผลให้บริษัทแห่งนี้ได้ยื่นขอล้มละลายเพื่อพิทักษ์สินทรัพย์ จากกรณีการติดค้างชำระหนี้ธนาคารมากกว่า 20 แห่ง มูลค่ารวม 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    น้ำมันสหรัฐเข้าคิวล้มละลาย
    ขณะที่ปัจจุบันราคาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบสหรัฐ ประจำเดือน มิ.ย.อยู่ที่ระดับราว 20 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง หากสถานการณ์ทั้งดีมานด์ลดลง รวมถึงสถานที่การจัดเก็บยังไม่ดีขึ้น ซึ่งงานวิจัยจาก Dallas Federal Energy Survey ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบที่เป็นจุดคุ้มทุนของบริษัทน้ำมันสหรัฐ เฉลี่ยอยู่ที่ 48-54 เหรียญ/บาร์เรล

    ดังนั้น ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงย่อมส่งผลต่อบริษัทน้ำมันสหรัฐซึ่งมีภาระหนี้ที่สูงมาก โดยซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างอิงบทวิจัยจาก Rystad Energy ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบที่ 20 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จะส่งผลให้บริษัทน้ำมันในสหรัฐ 533 แห่ง ถูกยื่นฟ้องล้มละลาย โดยบริษัทเหล่านี้มีหนี้สินรวมราว 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 และอีก 177,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2564 ที่จะถูกเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้

    ขณะที่หากราคาลดลงถึง 10 เหรียญ/บาร์เรล จะส่งผลให้บริษัทน้ำมันในสหรัฐกว่า 1,100 แห่ง ต้องยื่นล้มละลาย โดยเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัท Whiting Petroleum ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่โคโลราโด สหรัฐอเมริกา ได้ยื่นขอล้มละลายไปแล้ว

    สามารถติดตามอ่านได้ในเวปไซต์ประชาชาติธุรกิจ

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,773
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⛽️ตลาดราคาน้ำมันเมื่อคืน ที่ติดลบว่าน่ากลัวแล้ว...แต่คืนนี้ยังมีที่น่ากลัวกว่า☠️

    WTI (NYSE:WTI) ส่งมอบเดือน June (หมดสัญญา 21 พ.ค.) เทรดต่ำสุดติดลบ -60% ลงไปต่ำสุดที่ 6.5 เหรียญต่อบาร์เรล และปิดตลาดที่ประมาณ 11.5 เหรียญ ลบลงไป -8.7 เหรียญ (-40%)

    Brent (NYSE:BNO) ส่งมอบเดือน June (หมดสัญญา 30 เม.ย.) เทรดต่ำสุดติดลบ -30% ลงไปต่ำสุดที่ 17.5 เหรียญต่อบาร์เรล และปิดตลาดที่ประมาณ 19.06 เหรียญ ลบลงไป -6.5 เหรียญ (-23%)

    โดยในคืนนี้นั้นทั้งราคา WTI ส่งมอบเดือน June (หมดสัญญา 21 พ.ค.) และ Brent ส่งมอบเดือน June (หมดสัญญา 30 เม.ย.) นั้นยังไม่ได้ใกล้หมดสัญญาเลยและสภาพคล่องยังสูงอยู่ แปลว่าผลกระทบของการลงของน้ำมันในวันนี้นั้นจะมีผลระทบต่อราคาน้ำมันในที่ต่างๆของโลกมากกว่าเมื่อวานนี้ (รวมถึงไทยด้วย)

    และสรุปได้ว่า โลกกำลังกลัวการล้นของถังน้ำมันทั่วโลกอยู่จริงๆ

    เหตุผลที่ราคาน้ำมันดิบโดนเทขาย

    1.แรงเทขายทางเทคนิค - หลังจากราคา Brent หลุดแนวรับระดับต่ที่สุดของปีที่ 24 เหรียญในวันนี้ ทำให้มีแรงเทขายเข้ามามากเพราะใน 18 ปีที่ผ่านมาราคา Brent ไม่เคยเทรดอยู่ในระดับนี้มาก่อน ตลาดจึงไม่แน่ใจว่าแนวรับใหม่ที่เหมาะสมจะอยู่ที่ไหน

    2. ตลาดกังวลว่าด้วยการใช้น้ำมันที่โดนกระทบโดยไวรัสทั่วโลกยังไม่กลับมาเป็นปกติ ถังเก็บน้ำมันทั่วโลกอาจจะล้นในเร็วๆนี้ โดยปริมาณถังทั่วโลกนั้นถึงจะตามดูได้ยาก แต่ในคืนวันพุธนี้ทาง EIA จะรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐให้ได้เห็นกันและเราสามารถนำมาเป็นตัวเลขเปรียบเทียบได้

    3.มีรายงานว่า Floating Storage ทั่วโลกขึ้นสูงถึง 250 ล้านบาร์เรลแล้ว ทำให้ค่าขนส่งทางเรือแพงขึ้น เมื่อค่าขนส่งแพงขึ้นราคาน้ำมันดิบก็ต้องลดลงมาเพื่อที่ผู้ซื้อจะได้รับซื้อได้

    4. มีข่าวลือในตลาดว่าซาอุอาจจะเริ่มลดการผลิตช้าลงกว่าที่กำหนดไว้ด้วยซ้ำ ตรงกันข้ามกับข่าวที่เราได้รับจาก Wall Street Journal เมื่อคืนนี้ ที่กล่าวว่าทางซาอุอาจจะเร่งการลดกำลังการผลิต

    5. กลุ่มโอเปกอาจจัดประชุมพิเศษขึ้นอีกรอบในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ เพื่อถกเรื่องการลดกำลังการผลิตน้ำมันอีกรอบ แต่ตลาดอาจมองว่ายังอีกนานไปหน่อย และทางซาอุก็จะไม่เข้าร่วมการต่อสาย Conference Call ด่วนของกลุ่มรัฐมนตรีพลังงานจากประเทศในโอเปกในวันที่ 28 เมษายน นี้จึงทำให้ตลาดกังวลได้

    6. ทรัมป์ออกมาประกาศว่าอาจจะเปิดถังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ของประเทศเพิ่มเป็นปริมาณ 75 ล้านบาร์เรล ให้ช่วยดึงน้ำมันจากผู้ผลิตในประเทศเก็บเข้าถังเพื่อบรรเทาภาวะน้ำมันล้นตลาด และจะทำการช่วยอุ้มบริษัทน้ำมันในประเทศไม่ให้ล้มละลาย แต่ก็ยังไม่มีผลบวกต่อตลาด

    ถังน้ำมันล้นแล้วทำไมถึงไม่สร้างเพิ่ม ?

    มีหลายท่าน Inbox เข้ามาถามคำถามนี้นะครับ โดยตอบสั้นๆก็คือโดยปกติแล้วน้ำมันนั้นมี Convenience Yield หรือประโยชน์ในการเก็บไว้ในมือ ทำให้ราคาในปัจจุบันจะแพงกว่าอนาคตเป็นส่วนใหญ่ (Backwardation) ซึ่งจะทำให้การจัดเก็บน้ำมันนั้นมีต้นทุนที่สูง และหากต้องการรักษามูลค่าของน้ำมันในถังโดยการป้องกันความเสี่ยงต่อราคาน้ำมันขาลง ก็ต้องทำการ Hedging และอาจทำให้เกิดการสูญเสียมูลค่าออกไปได้ทุกเดือนจากการ Roll สัญญา ทำให้ไม่มีใครอยากจะเก็บน้ำมันเกินความจำเป็นในยามปกติอยากจะเก็บให้น้อยที่สุด จึงไม่มีความต้องการสร้างถังเพิ่มเว้นแต่ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นถังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์

    แต่เนื่องจากสภาพตลาดตอนนี้ไม่ปกติ พอมีอุปทานสูงกว่าอุปสงค์เยอะก็ทำให้ราคาในปัจจุบันปรับตัวลงไปถูกกว่าอนาคต (Contango) ราคาต้องปรับรูปเป็นเช่นนี้เพื่อที่จะทำให้ผู้ซื้อมีแรงจูงใจเพียงพอในการเก็บน้ำมัน โดยความ Contango ของ Brent นั้นตอนนี้สูงสุดในรอบเกือบ 20 ปี

    ใครอยากเข้าใจรายละเอียดคงต้องเข้าไปอ่านบทความ "พลังของเวลา" ที่แนบไว้ให้ในคอมเม้นท์นะครับ

    เพราะฉะนั้นหากถังน้ำมันมีแนวโน้มจะเต็มไปอีกนานก็อาจจะมี การลงทุนในถังทั่วโลกเพิ่มขึ้นแน่นอนครับ แต่วันนี้นั้นคงสร้างไม่ทันเก็บน้ำมันที่ล้นแล้ว...

    บทวิเคราะห์โดย
    กิติพน กิตติอำพน

     

แชร์หน้านี้

Loading...