ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทำไมธนาคารกลางจึงต้องให้ความช่วยเหลือตลาดการเงิน

    วิกฤต COVID-19 กำลังสร้างแรงกระเพื่อมขนาดใหญ่ต่อเศรษฐกิจและตลาดการเงินทั่วโลก มาตรการที่เกือบทุกประเทศนำมาใช้เพื่อชะลอการแพร่กระจายของเชื้อ ทั้งการปิดเมือง ปิดห้างร้านต่างๆ การห้ามเดินทาง ได้สร้างภาวะหยุดชะงักให้กับธุรกิจ การจ้างงาน รายได้ และการหมุนของเศรษฐกิจไปทั่วโลก จนคาดว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยที่ลึก กว้าง และมีความไม่แน่นอน (เพราะไม่รู้ว่าจบเมื่อไร) อย่างที่โลกไม่เคยเจอมาก่อน

    แน่นอนว่าเมื่อธุรกิจและครัวเรือนมีปัญหา ย่อมถูกส่งผ่านไปยังภาคการเงินที่เป็นฟันเฟืองสำคัญของระบบเศรษฐกิจที่ทำหน้าที่ รวบรวม จัดสรร และติดตาม การใช้ทรัพยากรทุน และสนับสนุนการหมุนของเศรษฐกิจ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    แต่น่าสนใจว่าลักษณะของปัญหาในรอบนี้ ต่างจากประสบการณ์ที่หลายประเทศเคยเจอในการจัดการกับปัญหาภาคการเงิน

    ในอดีต ภาคการเงินโดยเฉพาะภาคธนาคารเป็นแหล่งสะสมความเปราะบางของระบบผ่านการสร้างหนี้ เมื่อปัญหาเกิดขึ้น ภาคธนาคารมักเจอปัญหาก่อนใคร จนไม่สามารถทำหน้าที่จัดสรรทุนได้ และเป็นตัวส่งปัญหาไปยังภาคส่วนอื่นๆ ของระบบเศรษฐกิจทำให้ธุรกิจต่างๆ ไม่สามารถเข้าถึงทรัพยากรทุนจนเกิดปัญหาเศรษฐกิจตามมา

    การเข้าไปจัดการปัญหาในอดีต จึงเน้นการแก้ไขปัญหาในระบบธนาคาร สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ฝากเงิน แยกของดีออกจากของเสีย จัดการสินทรัพย์ที่มีปัญหาในงบดุล ลดทุนเดิม และเพิ่มทุนใหม่ ให้ธนาคารกลับมาทำงานได้เหมือนเดิม และส่งผ่านทุนกลับไปยังภาคเศรษฐกิจให้ได้

    แต่ในครั้งนี้ ปัญหาไม่ได้เริ่มจากภาคธนาคาร ระบบธนาคารส่วนใหญ่ทั่วโลก รวมถึงระบบธนาคารไทย ต่างมีฐานะแข็งแกร่ง เนื่องมาจากการเตรียมพร้อมด้านเงินทุน และกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นมากหลังวิกฤตภาคการเงินเมื่อสิบปีที่แล้ว

    แต่ปัญหากำลังเกิดกับธุรกิจในภาคเศรษฐกิจจริง และกำลังลามกลับมาที่ภาคการเงิน

    และปัจจุบันระบบเศรษฐกิจและตลาดการเงิน โดยเฉพาะตลาดตราสารหนี้ ได้พัฒนาไปมาก และได้กลายเป็นแหล่งระดมทุนที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจ และเริ่มมาแทนที่บทบาทของธนาคารพาณิชย์บางส่วน มูลค่าของตลาดตราสารหนี้ของไทยในปัจจุบันมีมากกว่า 3 ล้านล้านบาท หรือประมาณเกือบหนึ่งในสามของระบบธนาคารพาณิชย์ และใหญ่พอๆ กับขนาดของสินเชื่อที่ระบบธนาคารพาณิชย์ปล่อยให้กับบริษัทขนาดใหญ่ทั้งหมด

    ในทุกๆ เดือนมีหุ้นกู้ภาคเอกชนกว่า 6 หมื่นล้าน ถึง 1 แสนล้าน ที่ต้องการการระดมทุนใหม่เพื่อจ่ายคืนหุ้นกู้ก้อนเดิม หากนักลงทุนขาดความมั่นใจในตลาดการเงิน อาจจะมีผู้ออกตราสารที่มีคุณภาพดีแต่ขาดสภาพคล่องอาจต้องผิดนัดชำระหนี้ และปัญหาอาจจะลามไปสู่ส่วนอื่นๆ ของภาคการเงิน รวมถึงภาคธนาคาร จนอาจกลายวิกฤตภาคการเงินได้

    และในภาวะเช่นนั้น แม้แต่ระบบธนาคารพาณิชย์ก็อาจจะไม่สามารถรับภาระจัดหาทุนให้บริษัทเหล่านี้ได้ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากธนาคารกลาง

    เพราะหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งของธนาคารกลางคือการดูแลเสถียรภาพของเศรษฐกิจและการเงิน (นอกเหนือจากเสถียรภาพด้านราคา) การเปลี่ยนไปของระบบการเงินที่ตลาดการเงินเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้บทบาทและหน้าที่ของธนาคารกลางต้องปรับตัวไปด้วย

    หากธนาคารกลางยังยึดติดกับรูปแบบและเครื่องมือแบบเดิมๆ เช่น การดำเนินนโยบายแทรกแซงผ่านระบบธนาคาร หรือเฉพาะตลาดพันธบัตรรัฐบาลเท่านั้น อาจจะทำให้ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที และทำให้ปัญหาลุกลามไปโดยไม่จำเป็น

    การเข้ามาเป็น “ที่พึ่ง” ในการเป็นผู้จัดหาสภาพคล่องแหล่งสุดท้ายให้กับทั้งตลาดการเงินและภาคธนาคาร จึงเป็นหน้าที่ที่สำคัญของของธนาคารกลาง แม้ต้องทำในสิ่งที่ธนาคารกลางไม่เคยทำมาก่อนหรืออาจจะทำไม่ได้ในอดีต แต่ในสถานการณ์ที่ฉุกเฉินและใหญ่หลวง อาจจะมีสาเหตุให้เราคิดให้รอบคอบและเตรียมการเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลามออกไปจนกระทบระบบการเงินและเศรษฐกิจ

    ในสถานการณ์ฉุกเฉินและไม่ปกติ การแทรกแซงควรมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะสร้างความมั่นใจให้กับระบบ และหวังว่าเมื่อตลาดมีความมั่นใจ ความจำเป็นที่จะต้องใช้การแทรกแซงจากธนาคารกลางอาจจะลดลงไป

    เราเห็นว่าช่วงที่ผ่านมาธนาคารกลางในประเทศต่างๆ ก็นำเครื่องมือใหม่ๆ ออกมาใช้อย่างต่อเนื่อง มีการตั้งโครงการใหม่ๆ จำนวนมาก โดยเฉพาะการเข้าไปรับประกันหรือซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชน หรือแม้แต่ปล่อยกู้ตรงให้กับภาคเอกชน นอกเหนือจากการซื้อพันธบัตรรัฐบาลหรือการจัดหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับภาคธนาคาร เพื่ออัดฉีดสภาพคล่องให้กับระบบการเงิน และทำให้สภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง

    เช่น Federal Reserve ซึ่งเป็นธนาคารกลางของสหรัฐฯ ได้จัดตั้ง Primary Market Corporate Credit Facility เพื่อซื้อหุ้นกู้เอกชนมูลค่าถึงห้าแสนล้านเหรียญสหรัฐ และตั้ง Commercial Paper Funding Facility เพื่อช่วยซื้อตราสารหนี้ระยะสั้นที่ออกโดยภาคเอกชนผ่านกองทุนที่มีเงินของรัฐเป็นทุนประเดิม ธนาคารกลางยุโรปมี Corporate Sector Purchase Programme เพื่อซื้อตราสารหนี้ภาคเอกชน ธนาคารกลางญี่ปุ่นก็มีการขยายการซื้อสินทรัพย์ให้รวมหุ้นกู้และตราสารหนี้ระยะสั้นของเอกชน หรือ ธนาคารกลางอังกฤษก็มี Covid Corporate Financing Facility เพื่อจัดหาสภาพคล่องผ่านหุ้นกู้เอกชนระยะสั้นเช่นกัน

    การออกกองทุน Corporate Bond Stabilization Fund ของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เข้าซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชน ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าช่วยเหลือด้านสภาพคล่องกับตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้ออกตราสารที่มีคุณภาพดี ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ตลาดการเงินขาดความมั่นใจ และหากปล่อยไว้อาจเกิดปัญหาขนาดใหญ่จนลามเป็นวิกฤตทางการเงินได้

    จริงอยู่ว่า การเข้าไปช่วยเหลือเพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบคงมีต้นทุนที่เกิดขึ้นจากความเสียหายของเงินลงทุน ซึ่งเป็น “ราคา” ที่อาจต้องจ่ายเพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบในเวลาฉุกเฉิน และรัฐคงเป็นผู้ต้องเข้าไปรับภาระความเสียหายนั้น แต่ต้นทุนนี้น่าจะน้อยกว่าการปล่อยให้ระบบการเงินเกิดปัญหาจนลุกลามใหญ่โตกระทบแม้กระทั่งภาคส่วนที่ไม่ควรได้รับผลกระทบไปด้วย

    อย่างไรก็ดี การออกแบบเกณฑ์และรายละเอียดของโครงการคงต้องคำนึงถึงความเสี่ยงดังกล่าว และพยายามให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด และทำให้แน่ใจว่ามีการคานอำนาจ ตรวจสอบให้การใช้เงินเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการโดยสุจริตและเป็นธรรม

    และอาจจะจำเป็นต้องออกแบบเงื่อนไขต่างๆ เพื่อลดแรงจูงใจในการใช้ประโยชน์จากระบบโดยไม่จำเป็น (เช่น ตั้งอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าระดับปกติ) มีการประเมินความเสี่ยงของสถานการณ์และคุณภาพของผู้ออกตราสาร ป้องกันการเอาเปรียบและการก่อความเสียหายให้ระบบโดยเจตนา นอกจากนี้ อาจพิจารณาเพิ่มเติมว่า ในฐานะที่รับความช่วยเหลือจากรัฐ บริษัทเหล่านี้ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เช่น การงดเว้นการลดจำนวนลูกจ้าง หรือห้ามจ่ายเงินปันผล หรือห้ามจ่ายคืนเงินกู้กรรมการก่อนจ่ายคืนเงินช่วยเหลือจากรัฐ หรืออาจะต้องกำหนดว่าถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้น ผู้ถือหุ้นต้องร่วมรับผิดชอบด้วยการลดทุนก่อนที่กองทุนจะรับความเสียหาย

    ในภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ การสร้างเชื่อมั่นให้กับระบบต้องมาก่อน เพื่อรักษาระบบการเงินไว้ ก่อนจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจที่แท้จริง ด้วยโครงสร้างของระบบการเงินและรูปแบบของปัญหาที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ธนาคารกลางต้องยื่นมือให้ไกลกว่าเดิม ต้องใช้เครื่องมือใหม่ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความมั่นใจกับทุกฝ่ายว่า ‘เอาอยู่’

    เพราะศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก...

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คนญี่ปุ่นจำนวนมากยังออกมาทำงาน แม้รัฐบาลขอความร่วมมืออยู่บ้าน

    เจแปนไทม์ส สื่อญี่ปุ่นรายงาน เช้าวันจันทร์นี้ (13 เม.ย.) ชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก ยังออกจากบ้านไปทำงาน แม้จะมีรัฐบาลจะขอความร่วมมือให้อยู่บ้านเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสบทความประวัติความเป็นมาของบทความ

    รายงานข่าวกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ได้เรียกร้องให้ชาวญี่ปุ่นลดการเดินทางลงร้อยละ 70 เพื่อควบคุมการติดเชื้อ COVID-19 แต่ในวันนี้คนยังคงเดินทางออกมาทำงาน บางคนแสดงความยากลำบากในการทำตามคำร้องขอความร่วมือของรัฐบาล เนื่องจากลักษณะงานของพวกเขา ในขณะที่คนอื่นบอกว่าพวกเขาไม่สามารถทำทุกอย่างที่บ้าน แม้ว่าพวกเขาจะเริ่มทำงานผ่านทางออนไลน์กับสำนักงาน

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #โตเกียว ส่อวิกฤตเหมือน #นิวยอร์ก ผู้ติดเชื้อทุบสถิติทุกวัน ทั่ว #ญี่ปุ่น ติด #โควิด แล้วกว่า 7,400 คน
    .
    ศาสตราจารย์โรเบิร์ต ยานางิซาวะ แห่งมหาวิทยาลัยแพทย์ไอคาห์น ในนครนิวยอร์ก เตือนว่า โตเกียวอาจกำลังเดินตามรอยนครนิวยอร์ก ที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ท่วมท้นจนระบบรักษาพยาบาลรับไม่ไหว
    .
    คุณหมอยานางิซาวะ กล่าวว่า สถาบันด้านการแพทย์ในนิวยอร์ก แทบจะไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับวางเตียงผู้ป่วยแล้ว จนต้องเลื่อนกำหนดผ่าตัดที่ไม่เร่งด่วนออก หลังจากผู้ปวยไวรัสโคโรนาพุ่งพรวด จนทำให้ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคอื่น ไม่สามารถรักษาตัวในโรงพยาบาลได้อีก
    .
    นายแพทย์ยานางิซาวะ กล่าวด้วยว่า แพทย์และพยาบาลในนิวยอร์ก ใกล้จะพยุงระบบการรักษาพยาบาลไม่ได้อีกต่อไป
    ‼️
    นายแพทย์ยานางิซาวะเตือนว่า วิกฤตที่เกิดขึ้นในนิวยอร์กอาจเกิดขึ้นในโตเกียว เนื่องจากเมืองใหญ่ 2 แห่งนี้มีความคล้ายคลึงกันในแง่พฤติกรรมของผู้คนและความหนาแน่นของประชากร
    .
    ทางการกรุงโตเกียวได้เริ่มย้ายผู้ป่วยไวรัสโคโรนาที่มีอาการเบาหรือไม่มีอาการไปยังโรงแรมแห่งหนึ่ง เพื่อทำให้เตียงตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ว่าง
    .
    นายแพทย์ยานางิซาวะกล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องจัดเตรียมคู่มือปฏิบัติให้แก่พนักงานโรงแรมเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาติดเชื้อไวรัส รวมทั้งนำระบบวีดิทัศน์มาใช้ในการตรวจผู้ป่วยทางออนไลน์
    .
    กรุงโตเกียว มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารวมทั้งหมดมากกว่า 1,902 คนแล้ว ส่วนทั้งประเทศญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 7,404 คน

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #เกาหลี สยบ #โควิด แทกู ผู้ติดเชื้อใหม่เป็น 0️⃣แล้ว
    .
    ประธานาธิบดีมุนแจอิน ประกาศว่า "ในที่สุด ยอดผู้ป่วยรายใหม่ที่ได้รับการยืนยันในแทกูนั้นเหลือแค่ '0' นับเป็นครั้งแรกในรอบ 52 วันนับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกในแทกู
    .
    เป็นความสำเร็จครั้งแรกหลังจากผ่านมากว่า 42 วันนับตั้งแต่วันที่จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเพิ่มสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 741 ราย
    .
    จำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันใหม่ทั้งหมดในเกาหลีวันนี้อยู่ที่ 27 ราย
    .
    มุนแจอิน ระบุว่า หลังจากนี้ เราอาจจะได้เปลี่ยนจากการ เว้นระยะห่างทางสังคม มาเป็นการดูแลป้องกันชีวิตประจำวัน แต่เราก็ยังจะต้องเฝ้าระวังอยู่

    "เราขอบใจผู้ที่เสียสละในการทำงานอย่างหนัก รวมทั้งประชาชนชาวแทกูเองด้วยที่ร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง นี่จะเป็นการให้กำลังใจและแสดงความขอบคุณจากใจจริงของเรา"

    "พี่น้องและประชาชนชาวแทกูทั้งหลาย เราขอขอบคุณทุกท่านสำหรับการทำงานอย่างหนัก มาร่วมแรงร่วมใจไปด้วยกันอีกสักหน่อยเถิด"

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หนี้ !

    ภาวะเศรษฐกิจที่ผ่าน พูดได้ว่าค่อนข้างเหนื่อยกันอยู่แล้ว เคราะห์ซ้ำกรรมซัดยังเกิดโรคระบาดโควิด-19 ทำให้กิจการ ร้านจำนวนมาก ต้องทยอยปิดตัวหรือปิดกิจการชั่วคราว และกระทบมาถึงพนักงาน ลูกจ้าง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขาดรายได้ประจำ แต่ค่าใช้จ่ายกลับมีอยู่ทุกวันทุกเดือน

    แม้ภาครัฐ แบงค์ จะมีนโยบายช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ แต่ทว่ามาตรการเหล่านั้น อาจดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบไม่ได้ทั้งหมด

    เรื่องเล่าในคราวนี้ เจตนาเพื่อให้จะผู้ที่เป็นทุกข์ กลัดกลุ้ม นั่งนอนไม่เป็นสุข คิดไม่ตกในเรื่อง ”หนี้” เมื่ออ่านจบ อาจจะช่วยคลายความกังวลได้บ้าง หรือหาทางออกให้กับตนเองได้

    1.เป็นหนี้ไม่ติดคุก
    หนี้เป็นเรื่องคดีแพ่ง ไม่ว่าจะเป็นหนี้กู้ยืม ค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน บัตรเครติด หนี้ค่าสินค้า ฯลฯ

    สิ่งที่เจ้าหนี้ทำได้ หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ ก็คือ เจ้าหนี้จะนำคดีขึ้นสู่ศาล โดยฟ้องคดีแพ่ง หากศาลได้มีคำพิพากษาให้ลูกหนี้ชำระหนี้ และลูกหนี้ไม่จ่าย เจ้าหนี้ก็จะทำการบังคับคดี คือ “ยึดหรืออายัด” ทรัพย์สินของลูกหนี้ เพียงเท่านั้นจริงๆ ไม่มีโทษให้ติดคุก

    2.การเจรจาหนี้
    การเจรจาหนี้ ทำได้ทุกขั้นตอนไม่ว่า ก่อนฟ้อง หลังฟ้อง และหลังจากที่ศาลพิพากษาแล้ว

    ในกรณีประสงค์จะเจรจาขอลดหนี้ (จ่ายบางส่วน ส่วนที่เหลือเจ้าหนี้ยกให้ ไม่ต้องจ่าย) จากประสบการณ์ส่วนตัวผม หากลูกหนี้มีเจ้าหนี้หลายราย ธุรกิจมีปัญหา รายได้น้อย ไม่มีรายได้ ไม่มีทรัพย์สิน ไม่มีหลักประกันการชำระหนี้หรือมีแต่มีมูลค่าน้อยกว่าหนี้ที่ค้าง มักจะได้รับการลดหนี้ หลักการนี้จะตรงกันข้ามกับการขอสินเชื่อ

    3.กฎหมายทวงหนี้
    พระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 ได้ออกมาคุ้มครองลูกหนี้ ในโอกาสนี้ผมจะหยิบยกมาเพียงบางส่วน ดังนี้

    1.การทวงหนี้ ให้ติดต่อในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-20.00 น. และในวันหยุดราชการ เวลา 8.00-18.00 น. ไม่เกิน 1 ครั้ง ต่อวัน หากฝ่าฝืนจะถูกสั่งระงับการดำเนินการ และหากยังฝ่าฝืนซ้ำจะถูกโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท

    2.ห้ามตำรวจ ทหาร หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นๆ ไปช่วยคนอื่นทวงหนี้ เว้นแต่เป็นหนี้ของสามีภรรยา พ่อแม่ หรือลูก หรือเป็นในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ฝ่าฝืนมีโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

    3.ห้ามข่มขู่ ใช้ความรุนแรง ทำให้เกิดความเสียหายต่อร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ ผู้ฝ่าฝืนจําคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

    4.การใช้วาจาหรือภาษาที่เป็นการดูหมิ่นลูกหนี้ หรือการแจ้งหรือเปิดเผยความเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้คนอื่นได้รู้ ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

    5.ห้ามผู้ทวงหนี้ กระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะที่ไม่เป็นธรรม โดยการเสนอหรือจูงใจให้ลูกหนี้ออกเช็คทั้งที่รู้อยู่ว่าลูกหนี้อยู่ในฐานะที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

    เรื่องที่ผมนำมาเล่า ไม่ได้ส่งเสริมให้เบี้ยวหนี้ หนีหนี้ เพียงแต่ต้องการให้ลูกหนี้รู้ถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ซึ่งท้ายที่สุด “มีหนี้ก็ต้องจ่าย”

    โดยนายนิคม จอมหงษ์ ทนายความ 0862645817
    หากเห็นว่าเรื่องที่นำมาเล่า พอจะมีประโยชน์กับผู้อ่านและคนรอบข้างอยู่บ้าง โปรดกดไลน์ กดแชร์ กดติดตาม ให้กำลังใจกันได้นะครับ

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Paper ฉบับนี้ / คุณหมอ ท่านนี้ / น่า จะ ให้ ข้อสรุป บางประการ ได้ ว่า

    1. อาการคล้ายเป็น หวัด
    2. มีไข้
    3. สูญเสีย การรับรู้ กลิ่น/รส

    มั่นใจ 70% ว่า / ใช่ -COVID 19
    ครับ
    FB_IMG_1586786018792.jpg
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หน้ากากที่อยู่ในระดับเดียวกับ N95 ของ NIOSH (US) ใช้ในผู้ป่วย COVID-19

    • N95 (United States NIOSH-42CFR84)
    • FFP2 (Europe EN 149-2001)
    • KN95 (China GB2626-2006)
    • P2 (Australia/New Zealand AS/NZA 1716:2012)
    • Korea 1st class (Korea KMOEL - 2017-64)
    • DS (Japan JMHLW-Notification 214, 2018)
    #3M #เตรียมบริจาคโรงพยาบาล

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินเดียปฏิบัติการ ‘โค่น’ ศูนย์ดะวะห์ใหญ่ ‘จับผู้นำ-ปิด’ยึด’สเปนโมเดล’สลายมุสลิม
    12 เมษายน 2020

    www.mtoday.co.th-saad-55-696x365.jpg
    รัฐบาล นเรนทรา โมดี จากพรรคBharatiya Janata Party ได้โอกาสวิกฤติโควิด-19 สลาย’ศูนย์ดะวะห์ใหญ่’ ในอินเดีย โดยการติดตามจับกุมแกนนำ อาจถึงขั้นรื้อมัสยิด ออกกฎห้ามออกดะวะห์ และตัดแขนขา ตัดขาดการเชื่อมโยงกับกลุ่มดะวะห์ทั่วโลก

    ตำรวจอินเดีย โดยบัญชาการของนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี จากพรรคBharatiya Janata Party (BJP) ของกลุ่มฮินดูหัวรุนแรง ได้ออกมายจับเมาลานา มูฮัมหมัด ซาอัด กันด์ลาวี (Maulana Muhammad Saad Kandhlawi)ผู้นำดะวะห์ตับลีกในอินเดีย ในข้อหาละเมิดคำสั่งของทางราชการ ในการจัดกิจกรรมโยรที่นิซัมมุดดีน และสอนบรรดาลูกศิษย์ให้ละเมิดคำสั่งของทางราชการ ในการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่เขาได้หลบหนีการจับกุม

    ตำรวจอินเดีย ได้กูไฟล์ ของเมาลานาซาอัด ที่บรรยายให้ลูกศิษย์ต่อต้านนโยบายการปิดมัสยิดของรัฐบาลอินเดียว ด้วยคำพูดที่ระบุว่า

    ‘ไม่มีสถานที่ใดจะดีไปกว่าการตายในมัสยิด อัลเลาะฮ์จะลงโทษเราเพราะเราไม่ละหมาดในมัสยิด แต่เขา(รัฐบาลอินเดีย)ไม่ให้เราละหมาดในมัสยิด ซึ่งอัลเลาะฮ์จะลงโทษเราเพราะเราทิ้งมัสยิด ไม่ต้องไปสนใจ แม้ว่าหมอจะแนะนำไม่ให้ละหมาดในมัสยิด ไม่ต้องสนใจหากพวกเขา(รัฐบาลอินเดีย) บอกให้ปิดมัสยิด เพราะเป็นทฤษฎีสมคบคิด เพื่อไม่ให้พวกเรา(มุสลิม)รวมตัวกัน’

    คลิปคำบรรยายของเมาลานามูฮัมหมัด ซาอัด มีการดาวน์โหลดลงยูทูบ ต่อมามีการลบ แต่ตำรวจอินเดีย ได้กู้คืนกลับมาได้ เป็นหลักฐานมัดตัวเขา
    www.mtoday.co.th-saad-2.jpg

    ไม่เพียง มูฮัมหมัด ซาอัด ตำรวจอินเดีย ยังติดตามไล่จับกุมแกนนำระดับรองๆ ลงมาอีกหลายคน ขณะเดียวกัน ได้มีคำสั่งปิดศูนย์บัญชาการใหญ่ที่นิซัมมุดดีน หลังการจัดกิจกรรมโยรครั้งสุดท้าย ระหว่าง 17-19 มีนาคม ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรง มีนักดะวะห์ตับลีฆ จากหลายประเทศ รวมทั้งไทย เดินทางไปร่วมกิจกรรมโยรในครั้งด้วย ซึ่งต่อมาจากกิจกรรมที่นิซัมมุดดีน ได้ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสระหว่างผู้เข้าร่วมกิจกรรมและผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดมากกว่า 400 คน

    มีการจับกุมนักดะวะห์จากไทย และอีกหลายประเทศมากกว่า 60 คน ในข้อหาเข้าเมืองเกินกว่ากฎหมายกำหนด และเข้าเมืองผิดวัตถุประสงค์ โดยทั้งหมดขอวีซ่าท่องเที่ยวไปอินเดีย แต่เขาร่วมกิจกรรมดะวะห์ที่ถือเป็นกิจกรรมเผยแพร่ศาสนา ที่จะต้องขอวีซ่าต่างหาก

    การจับกุมดะวะห์ต่างชาติ เป็นการตัดสายสัมพันธ์ระหว่างดะวะห์อินเดียกับดะวะห์ในต่างประเทศ

    ตำรวจอินเดีย เข้าปิดศูนย์บัญชาการใหญ่ของดะวะห์ตับลีฆที่นิซัมมุดดีน และอาจจะรื้อมัสยิดขนาดใหญ่ที่ก่อสร้างเมื่อ 1992 โดยมีการระบุว่า มีการก่อสร้างโดยผิดกฎหมาย และมีการตรวจสอบบัญชีรายรับย้อนหลังเพื่อดูการเข้าออกของเงินด้วย

    ขณะเดียว ฝ่ายความมั่นคง จะเฝ้าจับตา การตระเวณออกดะวะห์ 3 วัน และ 40 วัน อย่างใกล้ชิด ในทุกตำบล อำเภอ และจังหวัด ซึ่งจะทำให้การดะวะห์ไม่เสรีเหมือนเดิมอีกต่อไป และคาดว่า จะมีการควบคุมการขับเคลื่อน หลังวิกฤตนี้ อย่างแน่นอน
    www.mtoday.co.th-nizamuddin.jpg

    มัรกัสนิซัมมุดดีน ก่อตั้งโดยเมาลานาอินยาซ ซึ่งมีต้นตระกูลจากอบูบัก(รด.) คอลีฟะห์คนแรก ปู่ของเมาลานาซาอัด ผู้นำคนปัจจุบัน เป้าหมายเพื่อรวมคนมุสลิมเข้าสู่อิบาดะห์ ขณะเดียวกัน มีแผนในระดับเบื้องบนที่จะรื้อฟื้นระบบคอลีฟะห์ขึ้นมาก นับเป็นขุมกำลังที่ใหญ่มากในอินเดีย จากพลเมืองมุสลิมในอินเดีย 201 ล้านคน คาดว่า มีสายดะวะห์ ประมาณ 20-30% แต่หลังจากเมาลานาฮาซัน ผู้นำคนที่ 2 ลูกของผู้ก่อตั้งเสียชีวิต ได้มีการตั้งสภาซูรอ 6 คน มาสืบสานการทำงาน จนต่อมา 5 คนเสียชีวิต เหลือเมาลานาซาอัด เพียงคนเดียว จึงขึ้นครองความเป็นผู้นำเพียงเดียว ทำให้กลุ่มที่ไม่พอใจออกไปก่อตั้ง กลุ่มใหม่ ชื่อว่าอลามี่ ทำให้กลุ่มดะวะห์แตกออกเป็น 2 สาย ซึ่งทั้ง 2 สายเข้ามาประเทศไทย ในนามมัรกัสมีนบุรี (สายอลามี) และมัรกัสยะลา (สายนิซัมมุดดีน)

    นักวิเคราะห์การเมือง ให้ข้อมูลว่า CIAของอเมริกา และมอสสาด หน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล ได้เข้ามาจับตาและเก็บข้อมูลกลุ่มดะวะห์อินเดีย ตั้งแต่กว่า 20 ปีที่แล้ว แต่ไม่มีโอกาสดำเนินการอะไร จนมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลจากพรรคคองเกรส เป็นBJP และสอดรับกับสถานการณ์โควิด-19 จึงมีปฏิบัติการสลายกลุ่มดะวะห์อินเดีย

    ทั้งนี้ ยังมีข้อมูลว่า การย่อยสลายมุสลิมในอินเดีย นเรนทรโมดี ยึดโมเดลสเปน ที่ขับไล่มุสลิมออกจากยุโรป หลังจากครองอำนาจอยู่นาน 800 ปีได้สำเร็จ เมื่อประมาณ 500 ปีก่อย เนื่องจากในอินเดีย ในสภาพใกล้เคียงกับสเปน ที่มุสลิมเข้าไปใหม่ เข้าปกครองอินเดีย 800 ปี โดยฐานเดิมเป็นฮินดู

    https://l.facebook.com/l.php?u=https://www.deccanherald.com/opinion/main-article/secularism-in-the-age-of-coronavirus-823464.html?fbclid=IwAR2nv9CQ3L3kZhcPEqxrxUlUNkvu14nXY1OSesLclx0A-ULirsYAB25jKXY&h=AT3G26Xdmqv2TbCodwcfu-Tk6ZfPjh0eP0xp8ZD_8nbpy-0udD-tm5oqEiQUDQUqSzRXtjn2-YSrAHCAq4-mtB9R6daOD9-j9P0CSBSCPIoqSdYsdnSKKZQof9IkoBR2jVU

    https://www.mtoday.co.th/50419
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ ด่วนนน ⚠️ ทรัมป์ทวีตดันราคาน้ำมันอีกแล้ว บอกว่าการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกนั้นอาจจะมีมากถึง 20 ล้านบาร์เรลต่อวัน ! ไม่ใช่แค่ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันอย่างที่เราได้ยิน (ทวีตเต็มๆแนบในคอมเม้นท์)

    คราวก่อนที่ทวีตออกมาบอกว่าจะทำให้เกิดการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกให้ได้ ตลาดก็ดีดขึ้นถึง 40% โดยทันที ! แต่สุดท้ายทางทรัมป์ก็ทำได้สำเร็จจริงๆนะครับ สามารถเจรจาให้ทุกฝ่ายหันมาคุยกันได้จนเกิดการลดกำลังการผลิตไปอย่างที่เราได้รายงานไปเมื่อคืนนี้ จนสงครามราคาได้ยุติลง

    วันนี้ตลาดยังไม่ได้รับรู้การทวีตของทรัมป์มากนัก ตลาดดีดขึ้นมาเพียง 2-3% หลังจากการทวีตเพราะฟังดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เพราะตลาดก็เพิ่งได้ตกลงกันไปเมื่อคืนนี้เอง ที่ฝั่งโอเปกและพันธมิตรจะลด 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ยังไม่รวมส่วนของทางกลุ่ม G20 อย่าง สหรัฐ + แคนาดา + บราซิล ...

    ส่วนทางทรัมป์ได้กล่าวทิ้งทายไว้ในข้อความว่า "หากวิกฤตไวรัสนี้จบลง ด้วยการลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่นี้ จะทำให้ธุรกิจการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐนั้นฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง ! โดยต้องขอบคุณทาง ซาอุและ รัสเซียเป็นอย่างมาก"

    #การทวีตของทรัมป์ในครั้งนี้นั้นจะเป็นจริงหรือไม่ ?

    เพราะถ้าในอนาคตเกิดเป็นจริงขึ้นมาราคาน้ำมันดิบ Brent ได้ดีดขึ้นไปถึง 40 เหรียญแน่ๆครับ...

    ต้องลองติดตามดูกันต่อไป แต่ขอแย้มไว้นิดนึงว่า... ทางซาอุเพิ่งได้ออกมากล่าวว่าพร้อมจะลดกำลังการผลิตมากกว่านี้หากมีความจำเป็นจริงๆเมื่อเย็นนี้...

    หากเชื่อมข่าวทั้งสองเข้าด้วยกัน... ประกอบกับทรัมป์เพิ่งต่อสายไปคุยกับ เจ้าชายซาอุและ ปูตินไปเมื่อคืนนี้... ก็มีความเป็นไปได้นะครับ

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดแบบทันท่วงที แนะนำให้กดไลค์ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆ ที่อาจออกมาก่อนสื่ออื่นๆครับ ⛔️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ล่าสุด น้ำมันขึ้นมานิดหน่อย เนื่องจาก (ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว) ทรัมป์ทวีตว่า จริงๆแล้ว โอเปควางแผนจะลดกำลังการผลิตที่ 20 ล้านบาร์เรล ไม่ใช่10 ล้านบาร์เรล. .

    พูดตรงๆ ทุกคนน่าจะงงกับทรัมป์พอสมควร ทำตลาดเหวี่ยงตั้งแต่ปีที่แล้วเรื่องสงครามการค้ากับจีน. .

    ปีนี้ทรัมป์ก็มาป่วนตลาดน้ำมัน. .

    โดยส่วนตัวคิดว่าการลดกำลังการผลิตน้ำมัน อาจจะเป็นไปได้ ถ้าความต้องการใช้น้ำมันยังลดลงเรื่อยๆ แต่ยังคงไม่ใช่เร็วๆ นี้ อย่างน้อยต้องอีก 1-2 เดือน (เรามีแปะไว้โพสต์ล่างๆ ว่า consensus ทำ demand น้ำมันลงประมาณ 12-30 ล้านบาร์เรล)

    ล่าสุดวันนี้. . ตอน 5โมงเย็น ตามเวลาประเทศไทย ซาอุดิอาระเบียเองได้ประกาศราคาขาย (official selling price) ที่ discount อธิบายง่ายๆ คือ ซาอุ ทุ่มลดราคาขายมาฝั่งเอเชียบ้านเรา (ตลาดเอเชียเป็นตลาดลูกค้าใหญ่ของฝั่งซาอุ)

    การลดราคาขายของน้ำมัน ทั้งๆ ที่พึ่งประกาศลดกำลังการผลิตของกลุ่มไป9.7 ล้านบาร์เรล อาจจะตีความได้หลายอย่าง

    1)ความต้องการน้ำมันทั่วโลกแย่มาก ซาอุดิอาระเบียต้องลดกำลังเพื่อแย่งชิงตลาด/ออเดอร์

    2)ซาอุดิอาระเบียเอง ยังคงต้องการทำสงครามราคาต่อไป เพราะต้นทุนการผลิตของตัวเองถูกกว่าคู่แข่ง ในระยะยาวน่าจะมีคนทนไม่ได้ และอาจจะออกจาก industry ไปเลย (ฝั่งอเมริกามีการปิดแท่นเจาะไป10% ภายในอาทิตย์เดียว)

    ดังนั้น. . เลยตัดราคาไปเลย. . เป็นการตอบโต้ประเทศอื่นๆ (ไหนๆ ก็มีคนไม่ยอมลดกำลังการผลิตบ้าง ไม่ยอมลดเท่าโควต้าโดยเฉลี่ยบ้าง)

    เราน่าจะเห็นตลาดน้ำมัน น่าจะเหวี่ยงต่อไปยาวๆ เลยล่ะทีนี้. .

    #ชอบกดไลก์กดแชร์
    #เดอะสมาร์ทอินเวสเตอร์
    #รู้ครบทุกเรื่องทั้งโลกไม่พลาดข่าวสำคัญ

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สงครามการผลิตน้ำมันจบแล้ว ! แต่สงครามราคายังไม่จบ ! ซาอุดิอาระเบียยังลดราคา #OSP ขายมาทางเอเชียลงต่อเนื่อง... ถือเป็น #ข่าวดีสำหรับโรงกลั่นทางบ้านเรา อย่างน้อยก็ด้านต้นทุนน้ำมันดิบในเดือนหน้านี้ แต่ทางซาอุนั้นปรับขึ้น OSP ขายไปทางสหรัฐ

    แม้สงครามการผลิตจะจบแล้วแต่ดูเหมือนว่าซาอุพยายามจะตัดราคาทุกคนต่อเพื่อให้มั่นใจว่าน้ำมันทุกหยดในโควตาที่ปรับลดลงมาแล้วที่ 8.5 ล้านบาร์เรลต่อวันนี้ ยังจะขายออกตลาดไปได้แน่ๆ... #เพราะความต้องการใช้ดูจะลดลงไปอีก...

    ทางซาอุได้ออกมาประกาศราคา OSP หรือส่วนต่างราคาของน้ำมันดิบที่ซาอุขายให้ลูกค้า เทียบกับน้ำมันดิบเกรดพื้นฐานอื่นๆในภูมิภาค ซึ่งโดยปกติแล้วหากคุณไม่ได้เป็นโรงกลั่นที่ต้องซื้อน้ำมันดิบมาใช้จริงๆ ค่า OSP นี้จะไม่ได้มีความหมายอะไรกับคุณมาก หากว่าคุณแค่ลงทุนในตลาดน้ำมัน

    อย่างไรก็ตามเราได้เขียนไปเมื่อเดือนก่อนว่า ทางซาอุได้ใช้การประกาศราคา OSP นี้ในเดือนที่แล้วเป็นการ #ประกาศสงครามราคากับผู้ผลิตทั้งโลก โดยทางซาอุได้ปรับส่วนต่างของราคาน้ำมันตัวเองลงให้ถูกลงมากๆ เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันดิบเกรดพื้นฐานอื่นๆในภูมิภาค เพื่อพยายามดึงให้ทุกคนหันมาซื้อน้ำมันจากซาอุแทนและพยายามแย่งส่วนแบ่งตลาดกลับมาให้มากที่สุด

    โดยปกตินั้นเวลาเราซื้อน้ำมันดิบ ส่วนประกอบที่สำคัญของราคาจะมีอยู่ 2 ส่วน

    1) ราคาของน้ำมันดิบที่กำลังจะประกาศออกมาในอนาคต นี่คือราคาตลาดที่พวกเราเฝ้าติดตามกันทุกวันไม่ว่าจะเป็นราคา Brent WTI หรือน้ำมันดิบดูไบ

    2) ราคาส่วนต่างของผู้ซื้อผู้ขายที่ตกลงกันตอนซื้อขายหรือที่รู้จักว่าราคา Premium

    เมื่อนำราคาสองส่วนนี้มารวมกันเราก็จะได้ราคาที่เราซื้อขายน้ำมันดิบ (ไม่รวมพวกต้นทุนขนส่งหรือต้นทุนการเงิน) แต่หากเราซื้อน้ำมันจากซาอุเขาจะเป็นฝ่ายกำหนดราคา Premium นี้เองโดยเรียกว่า Official Selling Price หรือ (OSP) ที่ประกาศออกมาทุกๆเดือน ทั้งนี้ก็เพื่อที่ทางซาอุจะได้มีอำนาจในการควบคุมราคาขายน้ำมันดิบของตัวเองเมื่อเทียบกับราคาน้ำมันดิบที่ขายในตลาด

    โดยปกตินั้นทางซาอุจะปรับราคา OSP ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด หากมีความต้องการน้ำมันดิบของตัวเองเยอะก็จะปรับราคาขึ้นจะได้ขายได้แพงๆและชะลอการขาย ในทางกลับกันซาอุจะปรับค่า OSP ลง เมื่อไหร่ก็ตามที่ความต้องการน้ำมันนั้นน้อยลง เพื่อจะได้สามารถขายออกได้

    แต่ใน #เดือนที่แล้วนั้นเกิดเหตุการณ์พิเศษ ทางซาอุนั้นไม่ได้ปรับราคา OSP ลงเพียงเพราะความต้องการน้ำมันเกรดซาอุลดน้อยลง แต่ปรบลดลงเพื่อที่จะประกาศสงครามราคา พร้อมที่จะผลิตของออกมาให้ล้นตลาดและต้องการลดราคาให้ถูกเพื่อถึงส่วนแบ่งตลาดให้มากที่สุด

    แล้วในเดือนนี้เกิดอะไรขึ้น ?

    ตอนแรกก่อนที่ทางกลุ่มโอเปกจะตกลงกันได้นั้น ทางซาอุได้เลื่อนกำหนดการประกาศ OSP ออกมาเรื่อยๆ เพื่อเป็นหลักประกันว่าถ้าทางกลุ่มผู้ผลิตยังไม่สมารถตกลงกันได้ หากมีใครที่คิดจะไม่ช่วยลดกำลังการผลิต ทางซาอุจะได้ประกาศค่า OSP นี้ให้ต่ำเข้าไปอีกเพื่อที่จะได้แย่งส่วนแบ่งตลาดให้มากขึ้นและทำให้สงครามยิ่งทวีความรุนแรง

    แต่วันนี้ทางซาอุได้ลดราคา OSP ลง !

    เมื่อเย็นวันจันทร์นี้ในที่สุดทางซาอุก็ได้ประกาศราคา OSP ของน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพฤษภาคมออกมา โดยทางซาอุยังได้ลดราคา OSP ลงมาจากเดือนที่แล้วอีกเล็กน้อย โดยลดให้ลูกค้าในเอเชียสามารถซื้อน้ำมันได้ด้วย OSP ที่ถูกลงอีก 4.2 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลงมาเป็นค่า OSP ที่ -7.3 เหรียญเมื่อเทียบกับน้ำมันดิบพื้นฐานอื่นๆในภูมิภาคนี้ (Middle East Benchmark)

    การลดราคา OSP ครั้งนี้เป็นผลดีกับ #โรงกลั่น

    เพราะจะทำให้ทางโรงกลั่นสามารถซื้อน้ำมันดิบเข้ามากลั่นได้ถูกขึ้นเล็กน้อย ไม่ใช่เพียงกับน้ำมันที่ซื้อจากแค่ซาอุอย่างเดียว แต่เดี๋ยวราคาน้ำมันใน Premium ที่อื่นๆก็ต้องรีบปรับลงตามๆกัน ถ้ายังอยากจขายของออกอยู่

    โดยตอนแรกทางเรากังวลว่าหากสงครามราคายุติแล้วทางราคา Premium น้ำมันดิบนี้ขึ้นสูงจะยิ่งเป็นภาระทางราคาวัตถุดิบของโรงกลั่นเข้าไปอีก แต่ทางซาอุยังใจดีไม่ขึ้นราคาในเดือนนี้

    การลดราคา OSP ลงนั้นมีผลบวกหรือลบต่อราคาน้ำมันดิบในตลาด ?

    มีผลเป็นลบอย่างแน่นอน โดยกระทบใน 2 สองแง่มุมด้วยกัน

    1) การที่ทางซาอุลดราคาน้ำมันแบบนี้ ทำให้ราคาน้ำมันดิบในเกรดอื่นๆต้องลดราคาลงด้วย หากยังจะต้องการแข่งในส่วนแบ่งของตลาดต่อไป ยกตัวอย่างเช่นราคาน้ำมันดิบ Brent จะต้องถูกลดลงมาเล็กน้อยตามกันไป เพราะว่าหากโรงกลั่นในเอเชียเลือกที่จะซื้อน้ำมันซาอุมากขึ้นเพราะราคาถูกลง การซื้อน้ำมันดิบที่อ้างอิง Brent ก็จะน้อยลง ราคาของทาง Brent ก็จะต้องลดราคาลงเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันไว้ให้ได้

    2) ทางซาอุนั้นคงมองว่าการใช้น้ำมันอาจจะหายไปรุนแรงอย่างต่อเนื่องได้ในเดือนพฤษภาคมนี้แน่เลย ถ้าการใช้น้ำมันหายไปอีกมาก การซื้อน้ำมันดิบก็จะลดน้อยลงไปตามกัน ถึงแม้ทางซาอุจะได้ตกลงที่จะลดกำลังการผลิตมาอยู่ที่ 8.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ก็อยากจะลดราคาน้ำมันดิบตัวเองลงเพื่อให้มั่นใจว่า 8.5 ล้านบาร์เรลนี้จะขายออกตลาดได้หมด

    ผลกระทบต่อแนวโน้มราคาน้ำมันโดยรวม ?

    ยังไม่เยอะมากเท่าไหร่เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันดิบที่จะหายไปจริงๆจากตลาด กรอบราคา 30-35 เหรียญที่เราให้ไว้ก่อนประชุมน่าจะยังคงได้อยู่ในช่วงสั้นก่อนที่จะมีความเปลี่ยนแปลงในตลาดต่อไป

    ต้องจับตาดูเดือนพฤษภาคมอย่างยิ่งว่าการใช้น้ำมันทั่วโลกจะกลับตัวเพิ่มขึ้นมาได้หรือไม่ หรือว่าทางกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตอื่นๆจะสามารถลดกำลังการผลิตได้จริงอย่างที่สัญญาหรือไม่

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฝันร้าย มหาวิทยาลัย ที่รับนักเรียนต่างชาติ /โดย ลงทุนแมน
    ปีการศึกษาปัจจุบัน จะไม่กระทบมากนัก
    ปีการศึกษาถัดไป จะกระทบมหาศาล
    2 ประโยคนี้เป็นการสรุปง่ายๆ ของผลกระทบที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้น
    กับมหาวิทยาลัยที่มีจำนวนนักเรียนต่างชาติสูง

    คงปฏิเสธไม่ได้ว่าวิกฤติโรคระบาดส่งผลกระทบมหาศาล
    ต่อเจ้าของธุรกิจสายการบิน โรงแรม รวมถึงร้านอาหาร

    แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีอีกธุรกิจที่ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน
    นั่นก็คือ มหาวิทยาลัยที่รองรับนักศึกษาจากทั่วทุกมุมโลก

    แล้วมหาวิทยาลัยเหล่านี้ได้รับผลกระทบอะไรบ้าง?
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
    เจาะลึกแบบ deep content
    ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
    Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ค่าเทอม
    ค่าธรรมเนียมการเรียนการสอน
    ค่าธรรมเนียมการใช้สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องสมุด ห้องแล็บ

    ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ถูกเก็บไปก่อนแล้วล่วงหน้าจึงเท่ากับว่าปีนี้มหาวิทยาลัยแทบจะไม่กระทบอะไรเลย

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้ากลับตรงกันข้าม

    ซึ่งเราก็อาจจะเรียกได้ว่าปีหน้าที่จะถึงนี้ อาจเป็น “หายนะ”
    สำหรับมหาวิทยาลัยทั่วโลกในแบบที่เราไม่เคยเจอมาก่อนในประวัติศาสตร์
    นั่นก็คือ จำนวนนักเรียนต่างชาติที่สมัครเรียนปีการศึกษาใหม่ อาจมีค่าเข้าใกล้ 0 คน..

    ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าสถานการณ์โรคระบาด
    ที่เรายังคาดการณ์ได้ยากว่าจะจบเมื่อไหร่
    และกินระยะเวลายาวนานกว่าที่คาดการณ์

    เรื่องนี้ส่งผลโดยตรงต่อการเดินทางระหว่างประเทศที่กลายมาเป็นความเสี่ยงที่ทุกคนหลีกเลี่ยง

    แน่นอนว่าหากเดินทางต่างประเทศไม่ได้
    นอกจากการท่องเที่ยวแล้ว การศึกษาต่อต่างประเทศ
    ก็จะได้รับผลกระทบแทบจะในทันที เช่นกัน

    ที่ต่างกันก็คือ การท่องเที่ยวนับเป็นครั้ง ครั้งละไม่กี่วัน
    ในขณะที่การศึกษา นับเป็นเทอม เทอมละหลายเดือน ครึ่งปี ถึงหนึ่งปี

    แสดงให้เห็นว่าการขาดหายไปของนักท่องเที่ยว 1 คนกับนักเรียนต่างชาติ 1 คน มีมูลค่าต่างกันมหาศาล

    เมื่อรวมกับสภาวะการตกงานที่พุ่งสูงขึ้นทั่วโลก

    ก็อาจจะส่งผลให้ผู้ปกครองหลายครอบครัวชะลอการศึกษาของลูกหลาน
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาต่อต่างประเทศที่มีค่าใช้จ่ายสูง

    ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าวิกฤติรอบนี้ส่งผลให้
    ยิ่งมหาวิทยาลัยมีนักเรียนต่างชาติมากเท่าไร
    ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ก็จะยิ่งมากขึ้นเป็นทวีคูณเท่านั้น

    แล้วทำไมผลกระทบถึงเป็นแบบทวีคูณ?
    เราลองมาดูตัวอย่างสัดส่วนนักเรียนท้องถิ่นกับนักเรียนต่างชาติ
    ของมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศอังกฤษ

    London School of Economics (LSE)
    University College London (UCL)
    Imperial College

    สถาบันเหล่านี้มีนักเรียนท้องถิ่น 50% นักเรียนต่างชาติ 50%

    นั่นเท่ากับว่าปีหน้า สถาบันเหล่านี้อาจมีรายได้หายไปเกินกว่าครึ่ง

    ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างครู อาจารย์ ค่าบำรุงสถานที่ห้องสมุด อุปกรณ์การเรียนการสอนไม่ได้ลดลงระดับเดียวกัน

    เรื่องนี้จึงอาจส่งผลไปถึงมหาวิทยาลัยที่ยังมีภาระค่าใช้จ่ายสูง หนี้เยอะ ขาดสภาพคล่องในทันที

    แล้วการศึกษาต่อต่างประเทศที่ผ่านมามีมูลค่ามหาศาลขนาดไหน?

    เราก็อาจลองมาดูการเติบโต และมูลค่าการศึกษาของนักเรียนจีนที่ออกไปศึกษาต่อต่างประเทศเพราะเป็นกลุ่มนักเรียนต่างชาติใหญ่สุดในโลก

    ปี 2008 จำนวน 179,800 คน
    ปี 2018 จำนวน 662,100 คน

    คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 14% ต่อปี

    ในขณะที่ ค่าเทอมที่มหาวิทยาลัยทั่วโลกได้รับจากนักเรียนจีนมีมูลค่ากว่า 984,000 ล้านบาท
    สะท้อนให้เห็นว่าเฉลี่ยแล้วนักเรียนชาวจีน 1 คน เสียค่าเทอมราว 1,490,000 บาท ต่อปี..

    ซึ่งแน่นอนว่ามูลค่าดังกล่าวยังไม่รวมค่าที่พัก ที่อยู่อาศัย ค่าอาหาร
    ตลอดระยะเวลาที่นักเรียนต่างชาติไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ

    ซึ่งนอกจากนักเรียนจีนแล้ว ก็ยังมีนักเรียนจากประเทศที่กำลังพัฒนาอื่นๆ ที่มีแนวโน้มไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศเพิ่มขึ้น เช่น นักเรียนอินเดีย รวมถึงนักเรียนไทย

    ทั้งหมดนี้ทำให้เราสรุปได้ว่ามหาวิทยาลัยที่มีสัดส่วนนักเรียนจากต่างประเทศ
    กำลังจะได้รับผลกระทบในแบบฉบับที่ไม่เคยเจอมาก่อนในประวัติศาสตร์
    ซึ่งมันอาจจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว แต่ก็ไม่แน่ว่าหลังจากโรคระบาดแล้ว
    เราก็อาจจะมีมุมมองต่อการศึกษาที่เปลี่ยนไปก็เป็นได้

    ซึ่งการเปลี่ยนไปในที่นี้ก็คือ ผู้ปกครองและนักเรียนในแต่ละประเทศทั่วโลก
    หันกลับมาดู “การศึกษาในประเทศบ้านเกิด” มากขึ้น ที่อย่างน้อยก็เป็นที่
    ที่เรารู้สึกปลอดภัย และอุ่นใจได้มากกว่า

    หากเรากลับมาชั่งน้ำหนัก
    ระหว่างการเรียนในประเทศกับต่างประเทศ
    แล้วรู้สึกว่าข้อดีไม่คุ้มความเสี่ยง
    ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นความท้าทายของมหาวิทยาลัยที่รับนักเรียนต่างชาติ

    อนาคต
    เราก็อาจได้เห็นคนจีน
    ชอบที่จะจบการศึกษาสูงสุดในประเทศจีนมากกว่า

    รวมถึงคนไทย ที่ไม่เอาแล้ว
    เรียนต่อเมืองนอก อันตราย
    เรียนที่ไทยก็ได้ ปลอดภัยกว่า ก็เป็นได้..
    ╔═══════════╗
    Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
    เจาะลึกแบบ deep content
    ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
    Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - facebook.com/longtunman
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    References
    -https://www.theguardian.com/education/2020/jan/16/third-of-non-eu-university-students-in-uk-come-from-china
    -https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-04-06/universities-forced-to-face-addiction-to-foreign-students-money

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ครูจีนกลับไปสอนแล้ว...ในห้องเรียนที่ว่างเปล่า
    .
    การระบาดของโควิดในจีนยังไม่จบแต่อยู่ในภาวะที่หลายๆคนบอกว่า"ควบคุม"ได้แล้ว แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังต่อไปดังนั้นเด็กๆจึงต้องเรียนที่บ้าน ส่วนครูนั้นก็สอนที่ รร ในห้องที่ว่างเปล่าแต่ถ่ายทอดออนไลน์ไปยังนักเรียนตามบ้านอย่างที่เห็น

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวซิกข์ในมาเลย์ฉลองปีใหม่ Online
    .
    เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเวลาระบาดของโควิด19และมาเลเซียถือว่ามีการระบาดรุนแรงที่สุดในอาเซี่ยนทำให้การชุมนุมทางศาสนาถูกสั่งห้าม ปีใหม่ของชาวซิกข์เช่นเดียวกันพวกเขาถึงเฉลิมฉลองผ่านออนไลน์แล้วเรียกมันว่า e-Vaisakhi โดยมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่อง 48 ชั่วโมงถ่ายทอดทาง FB เพื่อให้ทุกคนร่วมผ่านออนไลน์แทนการมาร่วมกิจกรรมที่วัด

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    PM 2.5 พุ่ง กทม.อากาศแย่เป็นอันดับ 5 ของโลก ค่าเฉลี่ย 75.5 มคก./ลบ.ม.
    กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กทม.รายงาน พบว่า เช้าวันที่ 14 เม.ย.63 กรุงเทพมหานคร ตรวจวัดฝุ่นละออง PM2.5 พบว่าเกินค่ามาตรฐานที่ เขตวังทองหลาง ด้าน แอร์วิชวล ยก เป็นเมืองอากาศแย่อันดับที่ 5
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #เพราะเมตตาเลยต้องไล่ออกทั้งบริษัท – บริษัทเช่ารถลีมูซีนในโตเกียวไล่พนักงานออกทั้งหมด จะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลซึ่งเยอะกว่ารายได้ตอนนี้
    -
    พนักงานขับรถลีมูซีนในโตเกียวรายได้ลดลงเรื่อยๆ บริษัทเลยไล่ออกทั้งบริษัท บอกว่าไปรับเงินช่วยเหลือคนตกงาน ยังได้เงินมากกว่ามาทำงานซะอีก
    .
    โควิด-19 นอกจากจะทำให้มีผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต แล้วยังทำให้มีคนตกงานทั่วโลกจำนวนมหาศาล ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่แทบจะหยุดนิ่งแบบนี้ ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าได้เลยว่าจะตกงานกันเมื่อไร อย่างที่โตเกียว บริษัท Royal Limousine ที่ให้บริการเช่ารถลีมูซีนพร้อมคนขับ ตัดสินใจไล่คนขับรถออกทั้งหมดแบบสายฟ้าแลบ ซึ่งสาเหตุก็มาจากผู้โดยสารที่หายไปจากสถานการณ์โควิด นักท่องเที่ยวก็ไม่มี ส่วนคนญี่ปุ่นก็ไม่ออกจากบ้านไปไหนกัน
    .
    ทางบริษัทชี้แจงว่าการไล่พนักงานขับรถออกทั้งหมด ถือว่าเป็นการช่วยพนักงาน เพราะทุกวันนี้คนขับรถแต่ละคนก็แทบไม่มีรายได้ในแต่ละวัน เพราะไม่มีผู้โดยสารเลย การไล่ออกจะทำให้พนักงานกลายเป็นคนตกงาน และไปลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลได้ ซึ่งเงินช่วยเหลือที่จะได้รับ ยังมากกว่าการมาทำงานในช่วงนี้เสียอีก
    .
    การไล่ออกในลักษณะนี้ ในญี่ปุ่นเรียกว่า ‘ไล่ออกด้วยความเมตตา’ โดยในช่วงที่ธุรกิจกำลังมีปัญหา บริษัทก็ไล่พนักงานออกก่อน เพื่อให้ไปรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล และเมื่อธุรกิจเริ่มกลับมาดีเหมือนเดิม ทางบริษัทสัญญาว่าจะรับทุกคนกลับมาทำงานใหม่เหมือนเดิม
    .
    แต่โดยทางเทคนิคแล้ว การไล่ออกลักษณะนี้ถือว่าผิดกฎหมายญี่ปุ่น เพราะเหมือนเป็นการใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่ก็เป็นวิธีที่บริษัทญี่ปุ่นใช้กันบ่อยๆ เวลาธุรกิจเจอปัญหาขาดทุน และต้องการลดค่าใช้จ่าย
    .
    อย่างไรก็ตาม พนักงานขับรถที่ถูกไล่ออกก็ไม่ไว้ใจว่าบริษัทจะจ้างพวกเขากลับมาทำงานเหมือนเดิมจริงหรือเปล่า แต่ก็เข้าใจการตัดสินใจของทางบริษัทที่กำลังเจอความลำบากเหมือนกันในช่วงเวลาแบบนี้ ซึ่งในตอนแรกทางบริษัทคาดหวังว่าช่วงเวลานี้จะมีผู้โดยสารรถลีมูซีนจำนวนมาก จากนักท่องเที่ยวและบุคลากรด้านกีฬาที่จะเดินทางมาญี่ปุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงใกล้แข่งขันโอลิมปิก แต่เมื่อเกิดโรคระบาดและการแข่งโอลิมปิกถูกเลื่อน จึงทำให้บริษัทไม่มีรายได้ตามที่หวังไว้
    -
    #aomLIFE #LIVESMART #CULTUREHACK #JAPAN #TOKYO #MERCY #UNEMPLOY #COVID #COVID19 #ญี่ปุ่น #โควิด #โควิด19 #ไวรัส #ตกงาน #ไล่ออก #คนขับรถ #ลีมูซีน

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ซ้ำเติมวิกฤติโควิด-19 ทอร์นาโดถล่มภาคใต้มะกัน
    พายุทอร์นาโดรุนแรงหลายลูกพัดถล่มทางภาคใต้สุดของสหรัฐฯในวันอีสเตอร์เมื่อ 12 เม.ย. ขณะที่สหรัฐฯ กำลังต่อสู้การแพร่ระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสโควิด-19
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ขสมก.ชี้แจงกรณี พนักงานขับรถโดยสาร ปอ.140 ติดเชื้อโรคโควิด 19 เสียชีวิต

    วันที่ 13 เม.ย.63 นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าว กรณีพนักงานขับรถโดยสารปรับอากาศ สาย 140 ติดเชื้อโรคโควิด – 19 ซึ่งต่อมาพนักงานคนดังกล่าว ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2563 นั้น ขสมก.ขอเรียนชี้แจงตามช่วงเวลา ดังนี้

    1. ขสมก.รับพนักงานขับรถโดยสารคนดังกล่าว กลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2563

    2. ขสมก.ได้มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของพนักงาน ก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร ดังนี้

    2.1 เมื่อวันที่ 16 – 22, 24 – 25, 27 – 31 มีนาคม 2563 และวันที่ 1 เมษายน 2563 พนักงานมีอุณหภูมิร่างกาย ไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส จึงอนุญาตให้พนักงานปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

    2.2 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563 พนักงานขอลาป่วย เพื่อไปพบแพทย์

    2.3 วันที่ 26 มีนาคม 2563 และวันที่ 2 เมษายน 2563 เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ของพนักงาน

    2.4 เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 ตรวจพบพนักงานมีอุณหภูมิร่างกาย 38 องศาเซลเซียส จึงไม่อนุญาตให้พนักงานปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งให้พนักงานรีบไปพบแพทย์ทันที

    2.5 พนักงานเข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2563 เป็นต้นมา โดยเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2563 ขสมก.ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลว่า แพทย์ได้วินิจฉัยแล้ว พบว่าพนักงานมีอาการปอดอักเสบจากการติดเชื้อโรคโควิด – 19

    2.6 ขสมก.ได้สั่งการให้พนักงาน จำนวน 9 คน ที่อยู่ใกล้ชิด พนักงานที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 ดังกล่าว กักตัวอยู่ที่บ้านเพื่อดูอาการเป็นเวลา 14 วัน พร้อมทั้งให้ผู้บริหารเขตการเดินรถที่ 5 ติดตามพนักงานและรายงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่อมาพบว่าพนักงานทั้ง 9 คน มีสภาพร่างกายเป็นปกติ ไม่ได้ติดเชื้อโรคโควิด-19 แต่อย่างใด

    2.7 ขสมก.พักการใช้งานรถโดยสารปรับอากาศ สาย 140 คันที่พนักงานขับรถคนดังกล่าว ขึ้นปฏิบัติหน้าที่ เพื่อดำเนินการฉีดพ่น ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรค และทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถโดยสารรวมทั้ง ฉีดพ่นผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคบริเวณท่าปล่อยรถ สำนักงาน โรงอาหาร ห้องสุขา ของเขตการเดินรถที่ 5 อย่างสม่ำเสมอ

    2.8 เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2563 พนักงาน ได้เสียได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล

    2.9 ในวันที่ 13 เมษายน 2563 ขสมก.ได้แจ้งกรมควบคุมโรค และสื่อมวลชนรับทราบว่า “ ขสมก.ตรวจพบพนักงานขับรถโดยสารปรับอากาศ สาย 140 ได้รับการติดเชื้อโรคโควิด – 19 หากประชาชนใช้บริการรถโดยสารประจำทางสาย 140 หมายเลขต่อไปนี้ มีอาการ ไอ จาม เป็นไข้ อ่อนเพลีย หายใจลำบาก หรือ สงสัยว่าตนเองจะได้รับเชื้อโควิด – 19 โปรดติดต่อกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข”

    วันที่ 27 มีนาคม 2563 หมายเลขรถ 5 – 90023 ระหว่างเวลา 08.40 – 14.00 น.

    วันที่ 28 มีนาคม 2563 หมายเลขรถ 5 – 90011 ระหว่างเวลา 08.15 – 13.20 น.

    วันที่ 29 มีนาคม 2563 หมายเลขรถ 5 – 90037 ระหว่างเวลา 06.10 – 11.45 น.

    วันที่ 30 มีนาคม 2563 หมายเลขรถ 5 – 90039 ระหว่างเวลา 11.05 – 15.30 น.

    วันที่ 31 มีนาคม 2563 หมายเลขรถ 5 – 90035 ระหว่างเวลา 10.00 – 12.15 น.

    วันที่ 1 เมษายน 2563 หมายเลขรถ 5 – 90019 ระหว่างเวลา 07.00 – 10.00 น.

    ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการ สอบถามเส้นทางรถเมล์ หรือ แนะนำบริการได้ที่ www.bmta.co.th , facebook bmta@bmta.co.th หรือ ศูนย์ Call Center 1348 ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 19.00 น. เป็นต้นไป



    The post ขสมก.ชี้แจงกรณี พนักงานขับรถโดยสาร ปอ.140 ติดเชื้อโรคโควิด 19 เสียชีวิต appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘กองทัพอียิปต์’ เดินหน้าแจกหน้ากากอนามัยให้ ปชช. ฟรีสู้โควิด 19

    เมื่ออาทิตย์ (12 เม.ย.) เจ้าหน้าที่รัฐของอียิปต์เผยแพร่แถลงการณ์ซึ่งระบุว่ากองทัพอียิปต์เริ่มแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้พลเมืองตามสถานที่สาธารณะโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

    ตาเมอร์ อัล-เรไฟ (Tamer al-Refai) โฆษกกองทัพอียิปต์ระบุว่ากองทัพปฏิบัติตามคำสั่งของ อับเดล-ฟัตตาห์ อัล-ซีซี ประธานาธิบดีอียิปต์ซึ่งระบุให้กองทัพ “ดำเนินมาตรการเฝ้าระวังที่จำเป็นทั้งหมด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19”

    อัล-เรไฟระบุว่าเมื่อเร็วๆ นี้ กองทัพอียิปต์เปิดสายการผลิตใหม่ 5 สายเพื่อผลิตหน้ากากอนามัยตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยสามารถผลิตหน้ากากได้ 100,000 ชิ้นต่อวัน

    ตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดในอียิปต์ กองทัพอียิปต์ได้ช่วยหน่วยงานและสถาบันของภาครัฐในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อสถานที่สาธารณะหลายแห่ง

    อียิปต์ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายแรกช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ และสถิติล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. ของวันจันทร์ (13 เม.ย.) ตามเวลาประเทศไทย จากศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ของสหรัฐฯ ระบุว่ามีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในอียิปต์ 2,065 ราย เสียชีวิตแล้ว 159 ราย

    ปัจจุบันอียิปต์ดำเนินมาตรการหลากหลายเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาทิ ระงับการเรียนการสอนของโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทุกแห่ง ยกเลิกเที่ยวบินและกิจกรรมกีฬา สั่งปิดสถานบันเทิงและห้างสรรพสินค้า ห้ามประชาชนหมู่มากประกอบกิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน รวมถึงสั่งปิดพิพิธภัณฑ์ และสถานที่ทางโบราณคดี

    อนึ่ง อียิปต์บังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว 10 ชั่วโมงช่วงกลางคืนทั่วประเทศเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 23 เม.ย.

    Cr : ซินหัว

    #โควิด19 #Covid_19 #COVID19 #ข่าวจริง #สปริงนิวส์ #Springnews #COVID2019 #coronavirus #ไวรัสโคโรนา #โควิท19

    The post ‘กองทัพอียิปต์’ เดินหน้าแจกหน้ากากอนามัยให้ ปชช. ฟรีสู้โควิด 19 appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กปภ.พนมสารคาม หยุดจ่ายน้ำชั่วคราว 15 เม.ย. ตั้งแต่ 9 โมงเช้า-4 โมงเย็น
    การประปาส่วนภูมิภาค สาขาพนมสารคาม แจ้งหยุดจ่ายน้ำชั่วคราว 15 เม.ย. ตั้งแต่ 9 โมงเช้า-4 โมงเย็น กระทบตั้งแต่แยกวัดหนองเค็ด ถึงอำเภอศรีมโหสถ
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     

แชร์หน้านี้

Loading...