เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 16 กันยายน 2014.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    118
    ค่าพลัง:
    +225,734
     
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    118
    ค่าพลัง:
    +225,734



     
  3. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    118
    ค่าพลัง:
    +225,734
    ถูกต้อง.jpg









     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2020
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    118
    ค่าพลัง:
    +225,734
    เล่าสู่กันฟัง, ด้วยอำนาจน้ำมันชาตรีและชานหมากครึ่งคำของหลวงพ่อ


    เล่่าสู่กันฟัง 1.jpg เล่าสู่กันฟัง 2.jpg เล่าสู่กันฟัง 3.jpg

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 138 สิงหาคม 2535 หน้า 90-92)



    ชานหมาก.jpg
     
  5. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    118
    ค่าพลัง:
    +225,734
    ใช้สมาธิเล็กน้อยก็ขอหวยได้

    ขอ 1.jpg ขอ 2.jpg


    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 138 สิงหาคม 2535 หน้า 89-90)
     
  6. Yimnile

    Yimnile สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2020
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +38
    สวัสดีค่ะพี่วรรณและกัลยาณมิตรทุกท่าน วันนี้มีประสบการเหรียญทำน้ำมนต์เนื้อว่านมาเล่าสู่กันฟัง นายห้อยรุ่นนี้อยู่ และทำการอาราธนาปลุกพระทุกวัน
    เหรียญทำน้ำมนต์เนื้อว่าน

    รูปด้านหน้าหลวงพ่อฤาษีลิงดำนั่งรับทรัพย์ ถือเป็นรุ่นมหาลาภรุ่นนึง

    ลาภด้วย รักษาโรคทำน้ำมนต์ได้ บรรเทากรรมได้ ป้องภัยได้ ด้านหลังเป็นรูปยันต์พระสารีบุตร เป็นยันต์ทำน้ำมนต์มี 7 วัตร แก้ และบรรเทากรรมได้ เพราะงั้นแก้ชงได้ ทำน้ำมนต์รักษาโรคได้ ลาภก็มี กันภัยก็ได้ ผสมดินสอพองหลวงพ่อเสก 3 เดือน ผสมน้ำมันชาตรีด้วย ลาภมาก เพราะงั้น เป็นเหมือนสาลิกาลิ้นทองด้วย เมตตามหานิยมด้วยเหมือนพระหางหมากค่ะ พอนายปลุกพระทุกวัน ทำให้การค้าขาย ฟองน้ำ mrs wow ของเราดีขึ้นๆ ขายได้ทุกวัน นายสามารถเลื่อนถึงขั้นตำแหน่งสูงสุดได้ ภายในระยะเวลา เพียง 1 เดือน สาธุๆๆ พุทธคุณ วัตถุมงคลของหลวงพ่อที่เมตตา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    118
    ค่าพลัง:
    +225,734

    83576719_134575464694484_2155054764809781248_n.jpg
    ว่าน 2.jpg ว่าน 3.jpg ว่าน 1.jpg
    138557.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2020
  8. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    118
    ค่าพลัง:
    +225,734
    crop.jpg

    อย่าคิดว่าเราดีกว่าหมา

    ว่ายังไงโยม เห็นไหม คนเลวกว่าหมาไม่โกรธ ว่าเลวกว่าหมาไม่โกรธแล้ว แต่ก่อนแหมทำเบ่งนึกว่าดีกว่าหมา ใช่ไหม สู้หมาไม่ได้ หมาเดินแก้ผ้ากลางถนน เราเดินไม่ได้ หมาขี้กลางถนนได้ เราขี้กลางถนนไม่ได้ เราสู้หมาไม่ได้ (หัวเราะ) หมาทำอะไรไม่ต้องเสียภาษี นี่เราต้องเสียภาษีอากรใช่ไหม สู้ไม่ได้หลายอย่าง (หัวเราะ) กลับไปบ้านคุยฟุ้งเลยโยม บอก แหม ข้าเพิ่งรู้ว่าข้าก็สู้หมาไม่ได้ แหม นึกว่าเก่ง

    แต่ความจริงพวกสัตว์ประเภทนี้นะเวลาตายจริงๆ มันก็ได้เปรียบเราเหมือนกันโยม ถ้าเป็นสุนัขที่คนเลี้ยงแล้วคนสงเคราะห์นี่ บาปเก่ามันเริ่มหมด พวกนี้ตายปุ๊บลงไปก็มี 2 ทาง ถ้าไม่ไปเป็นเทวดาหรือพรหมก็เป็นมนุษย์ มันไม่ลงล่าง ได้เปรียบมากกว่าเรา เรามาถึงขั้นเป็นมนุษย์แล้ว ถ้าไม่ดีมันตีตั๋วลงนรกใหม่ ใช่ไหม พวกนี้มันชำระหนี้มาเพื่อหมด นี่เราเสียท่ามันอีกนะ ถ้าไม่ปฏิบัติดียิ่งเสียท่าหนัก หมาดันไปสวรรค์เป็นเทวดา เราปาไปเป็นสัตว์นรกอีก แหม (หัวเราะ)

    เอ้า นี่พูดตามความเป็นจริงนะ คือว่าคนเหยียดหยามสุนัข บางทีก็รู้สึกสลดใจนะโยม คนนี่มันไม่แน่ ตายแล้วอาจจะลงนรกได้ พวกหมานี่ไม่ลงแน่ ถ้าเขาใช้หนี้กรรมของเขายัง
    ไม่หมด เกิดเป็นหมาชาตินี้ ชาติหน้าเป็นหมาใหม่ก็ได้ ใช่ไหม แต่ว่าหมาตัวไหนถ้าชาวบ้านเลี้ยง เลี้ยงก็แบบเราเลี้ยงธรรมดานี่ละ มีการให้กินข้าว ใช่ไหมล่ะ ถ้าคนสงเคราะห์ แสดงว่ากรรมเก่าเริ่มหมด ถ้าไอ้ตัวไหนยังต้องเดินอดเดินอยากอยู่ อันนี้ก็ยังต้องเกิดต่อไปอีก เขาจะอยู่กับคนจนหรืออยู่กับคนรวยไม่สำคัญ คือว่าเจ้าของมีโอกาสให้ข้าวกิน นั่นแสดงว่าทานบารมีเดิมกับเมตตาบารมีเดิมของเขาเริ่มให้ผล ใช่ไหม

    ฉันสังเกตดูหลายตัว ถ้าหมาในวัดตายทีไร ไม่เป็นเทวดาก็พรหม เพราะมันชอบใจ
    ในพระ พระสงเคราะห์ พระให้อาหารหมา อาหารแค่ไหนไม่สำคัญ ให้มันผูกจิตใจกับ
    พระ อย่างโฆสกเทพบุตร ท่านไม่ได้ทำอะไรมาก ท่านรักพระปัจเจกพุทธเจ้า ตายแล้วก็
    เป็นเทวดา เป็นโฆสกเทพบุตร ตอนนั้นเป็นหมาใช่ไหม นี่หมาอยู่กับวัดได้เปรียบ

    แต่ว่าตัวไหนถ้าอยู่ที่บ้าน ชาวบ้านเขาสงเคราะห์ ก็สงเคราะห์อย่างเราให้กินน้ำข้าวบ้าง กินข้าวบ้าง อาหารเหลือบ้าง อันนี้นะเมตตาบารมีกับทานบารมีเดิมของเขาเริ่มสนองแล้ว ทีนี้
    ถ้าตายแล้วไปสวรรค์หมด ถ้าไม่ไปสวรรค์ก็ไปเป็นคน ถามว่าไปสวรรค์ชั้นไหน อันนี้ก็
    ต้องบอกแล้วแต่บุญเดิม บุญเดิมที่ทำไว้ของเขาทำอะไรไว้ ใช่ไหม

    นั่นก็หมายความว่าก่อนที่เขาตายจากความเป็นคน บาปทำให้เขาเกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน ถ้าถึงที่สุดแล้วชำระหนี้บาปหมดก็เหลือแต่บุญ ซึ่งตรงกันข้ามกับคน คนสร้างบาปอกุศลไว้ในตอนต้น แล้วมาตอนหลังสร้างบุญบารมีดี ตายจากความเป็นคนเป็นเทวดาหรือพรหม ถ้าหมดบุญวาสนาบารมี พุ่งหลาวเลย ลงนรกไปเลย มันก็ต้องสนองกันแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเราเกิดเป็นคนแล้วต้องเกิดเป็นคนต่อไป มันหวังยากเหลือเกิน

    โยมตายแล้วเป็นอะไร ? เอ ต่างจากฉัน ฉันตายจากคนแล้วเป็นผี (หัวเราะ)


    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 173 เดือนสิงหาคม 2538 หน้า 11-12)


    กองพันสัตว์.jpg หลวงพ่อเลี้ยงสุนัข.jpg


    74707.jpg
     
  9. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    118
    ค่าพลัง:
    +225,734
    พระคุณของแม่คุ้มครองลูก

    พระคุณของแม่ใหญ่มากแค่ไหน นึกดู ที่เรียกว่าพระแม่ธรณี พระแม่คงคา แม่โพสพ
    สำคัญอย่างไร แม่ก็แบบนั้นสำหรับลูก ม่ายงั้นจะมีบุญที่ว่าเกิดจากที่ลูกบวชพระ พ่อแม่อยู่ไหนก็ตาม ขนาดอยู่ในนรก ยังมีนายบัญชีเก็บหรือจดบุญไว้ให้เลย ที่ว่าลูกบวชพ่อแม่มีอานิสงส์บุญ 30 กัปอย่างน้อย จะรู้หรือไม่รู้ว่าลูกบวชพระมีสิทธิ์รับบุญทั้งนั้น อันนี้ส่วนมากรู้

    ข้าพเจ้าเพิ่งรู้เมื่อเร็วๆนี้ พวกฆราวาสที่บวชใจ เมื่อได้มรรคผลเป็นพระอริยบุคคล เช่น
    พระโสดาบันขึ้นไป พ่อแม่ก็มีสิทธิ์ได้บุญเหมือนกัน มากน้อยตามที่ลูกปฏิบัติธรรมสำเร็จมรรคผลนั่นแหละ

    คิดว่ารู้ไม่ผิด คือเมื่อ 2-3 เดือนก่อนไปเยี่ยมคุณแม่กับพี่ชอ ซึ่งอยู่ต่างจังหวัด อายุ 93 ปีแล้ว ไม่มีโรคประจำตัว เช่นเบาหวาน มะเร็ง หัวใจ ไม่เป็น เป็นอย่างเดียวคือโรคแก่ซึ่งใครๆ ก็หนีไม่พัน ทีนี้น้องสะใภ้คุณประเสริฐศรี นิรมล เป็นผู้ที่ดูแลและอยู่ด้วย ได้คุยกับข้าพเจ้าว่าคุณแม่ไม่ค่อยป่วยเป็นอะไร ถ้าเป็นเช่นท้องเสียหรือเป็นหวัดให้กินยา เม็ด 2 เม็ดก็หาย หายง่ายดีจริง จนแปลกใจ

    ข้าพเจ้านึกถามพระในใจว่าทำไมเป็นเช่นนั้น ท่านบอกว่าบุญที่ลูกๆได้ทำ ได้บวชใจได้มรรคผล แม่ได้รับด้วยเช่นกันกับผู้ชายที่โกนผมบวชพระห่มผ้าเหลือง คุณแม่ข้าพเจ้ามีลูกที่ปฏิบัติธรรมหลายคน ย่อมได้มากอีกหลายเท่า ทำบุญก็ขอให้คุณแม่อยู่สบาย ไม่ป่วยไข้ ถ้ายังไม่หมดอายุก็ให้อยู่แบบสบายๆ (ตามอัตภาพ) ถ้าหมดอายุก็ให้ป่วยปุ๊บปั๊บตายเร็วๆไปเลย อย่าให้ทรมานมากและนาน คุณแม่ไปพระนิพพานได้อยู่แล้ว บ่นอยากตายให้ได้ยินหลายครั้งแล้ว

    ที่อยากเขียนก็อันนี้แหละคือ

    ฆราวาสที่บวชใจทั้งหญิงชายได้มรรคผล พ่อแม่ได้บุญเหมือนพระบวชห่มผ้าเหลืองเหมือนกัน

    ที่ว่านกไม่รู้จักฟ้า ปลาไม่รู้จักน้ำ ผู้ที่มีบุญไม่รู้จักบุญ ติดตาข่ายถึงจะรู้สึก คนทำ
    กรรมฐานแบบพวกเราลูกศิษย์หลวงพ่อท่านพระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อท่านฤๅษี วัดท่าซุง ตอนนี้ท่านพระครูปลัดอนันต์ เจ้าอาวาสองค์ใหม่ จะไม่ได้มรรคผลเชียวหรือ คนทำกรรมฐานบุญไม่ต้องบอก ทำเอง ศรัทธาแก่กล้าขึ้นเองไม่ต้องบอก ดูจากทำที่บ้านซอยสายลมกับวัดท่าซุงยามมีงาน ไม่ใช่สร้างกุศลด้วยเพียงแค่ทำทาน มันไม่เพียงพอสำหรับพวกเรา จะต้องทำให้เลยบุญเลยทานขึ้นไปอีก

    ระวังเพียรแก่กล้าเกินไปเกิดฟุ้งซ่าน หย่อนไปขี้เกียจ ต้องพอดีๆ ให้มีสติติดต่อได้เรื่อยยิ่งดี ขาดสติก็เสียอีก สมาธิพอดีๆ สติจะทรงตัว ที่ง่วงนอนอาจทำมากไปหรือหย่อนเกินไป ไม่พอดี ต้องพอดีพอดี ดีมากก็ไม่ดี ดีน้อยก็ไม่ดี ต้องกลางๆ

    ปฏิบัติธรรมไม่ได้ผล เพี้ยนรู้ได้ไม่จริงอวดปัญญาเกินสติ หารู้ไม่ว่าปัญญาเกินสติ ไม่
    มีความเฉลียวแบบพวกปัญญาชน ชนหรือขวิดกันเหมือนวัวเหมือนควาย เข้าวัด ในวัดยังทะเลาะกันยังมี

    ศรัทธาต้องคู่กับปัญญา ศรัทธาอย่างเดียวโง่ พวกทำบุญต้องมีปัญญาว่าควรทำบุญกุศลแบบไหน ไม่ใช่บอกบุญกันเรื่อยๆ ทำบุญเกินตัวเกินฐานะ เบียดเบียนตัวเองจนฟุ้งซ่าน จิตไม่สงบ

    คนส่วนมากมีทุกข์มากๆ จึงจะเห็นทุกข์ ถึงธรรม(เข้าหาความพันทุกข์) สุขมากๆ ลืมทุกข์อีก ภพที่สั้นที่สุดคือถึงจุดไม่อยากเกิด เบื่อโลก ไม่ทุกข์ไม่เห็นธรรม รู้ทุกอย่างว่าไม่เที่ยงเป็นทุกข์

    เหมือนคนยืนอยู่บนหน้าผาสูงชัน คนโง่โดดลงไปตาย คนฉลาดรู้จักพิจารณาให้พ้นจากหน้าผาสูงชันนั้นได้พ้น คือไม่เกิดอีก จึงจะเรียกว่าเห็นธรรมแล้ว ไม่ใช่ตายสูญแบบหลับสนิทไม่ฝัน ไม่ใช่ มันยังมีอทิสมานกายหรือผี มีวิญญาณลงนรกขึ้นสวรรค์ ขึ้นพรหมหรือถึงพระนิพพานได้อีก

    (จากหนังสือบันทึกของชาโดว์ เล่ม 6 หน้า 10-12)

    1380051_763610440319513_676782025_n.jpg

    ซ้ายมือคือท่านป้าชาโดว์หรือป้าอัญเชิญ มณีจักร ผู้เขียนหนังสือบันทึกของชาโดว์ ขวามือคือท่านป้านิภา คงสุข
     
  10. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    118
    ค่าพลัง:
    +225,734
    11781808_545715032245727_4363460142353112536_n_zpsoopcqfch.jpg



    หลวงพ่อเทศน์วันมาฆบูชา
     
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    118
    ค่าพลัง:
    +225,734
    ป้าเชิญ.jpg
    (ป้าอัญเชิญผู้เขียนหนังสือบันทึกของชาโดว์ใส่เสื้อสีแดงร่วมแบกเสลี่ยงหลวงพ่อ)

    วิญญาณเข้าสิงร่าง


    เมื่อเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อท่านใหม่ๆ ท่านเคยคุยให้ฟังว่าคนที่ตายใหม่ๆ วิญญาณออกจากร่างมีหรือวิญญาณอื่นเข้าสิงแทน ร่างกายนั้นก็จะอยู่ต่อไปได้ไม่ตายฟื้นเป็นปกติ
    แต่นิสัยจะเปลี่ยนจากเดิม

    คุณนิภาคุยให้ฟังว่าเมื่อเร็วๆนี้มีคนพาลูกอายุเดือนกว่าๆไปหาที่จุฬามณี กาญจนบุรี สร้างไว้อยู่สงเคราะห์ดูหมอดู สอนมโนมยิทธิบ้างสอนธรรมะบ้าง เด็กร้องกลางคืนไม่นอนมีคนแนะนำให้ไปหาคุณนิภา เขาก็พาไปยกให้เป็นลูก

    เมื่อเข้าเขตศาลาเด็กร้องไห้หนักขึ้น คุณภาอุ้มไว้บนตักยิ่งร้องใหญ่ เอาขี้ธูปที่บูชาหน้ารูปหลวงปู่ปานแตะหัวร้องหนักอีก ท่าชอบกลคุณภาบอกขนลุกเลยกำหนดจิตดู

    เด็กน้อยนั้นจะแอบชำเลืองดูคุณภา เมื่อสบตากันก็จะหลบ ร้องไปเดี๋ยวๆก็ชำเลืองดูอีกสบตาก็จะหลบ ร้องต่อ 2-3 ครั้งจึงกำหนดจิตดูรู้ว่าเด็กน้อยนั้นตอนคลอดออกจากท้องแม่ก็สลบ วิญญาณสัมภเวสีคอยจ้องอยู่แล้วคงรู้ว่าเด็กจะตายเข้าสิงเลย

    นิสัยยังเป็นผีกลางวันนอนหลับตลอด กลางคืนร้องตลอดไม่หลับ คุณภาเลยพูดกับเด็กว่า เป็นลูกฉันแล้วนะ พ่อแม่ยกให้ผูกข้อมือรับแล้ว ทีนี้อย่าเลี้ยงยาก กลางวันให้กินอยู่ดีๆ กลางคืนอย่าร้องไห้ ให้ทำเหมือนเด็กดีๆทั่วไป โตขึ้นค่อยเอามาคืน คือจะให้ผีสิงอุ่นใจว่าใครทำอะไรไม่ได้แล้ว(ไม่มีใครไล่ออก) เด็กเงียบ ไม่บอกให้พ่อแม่รู้ด้วย ไม่มีใครทำอันตรายได้ ให้คุณพ่อแม่ที่เลี้ยงด้วย เด็กหยุดร้อง

    อีกเดือนกว่าๆ พบกันบอกคุณภาว่าตั้งแต่พาให้ผูกข้อมือเป็นลูกเลี้ยงสบายไม่ร้องไห้ ระหว่างที่คุยกัน 2 คน ข้าพเจ้ากำหนตจิตดูด้วย เห็นเป็นเด็กชาย ก็ชายจริงๆ รูปร่างถูกต้อง จึงคิดว่าคงไม่ผิดที่ว่าสัมภเวสีสวมรอยเข้าแทนเด็กจริงๆ

    (จากหนังสือบันทึกของชาโดว์ เล่ม 6 หน้า 170)
     
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    118
    ค่าพลัง:
    +225,734
    0.00.jpg

    ทดแทนพระคุณหลวงพ่อ


    คุณโยมเหลี่ยม (หรือ สาวน้อยเมืองนนท์) มีปัญหาถามว่า "การจะทดแทนพระคุณหลวงพ่อ ควรจะทำอย่างไร จะทำแบบไหน จึงจะทำให้ท่านชื่นใจเจ้าคะ ?"

    ดร.ปริญญา ตอบให้อย่างรวดเร็วว่า "ไปนิพพานให้ได้ชาตินี้ อย่างอื่นใช้ไม่ได้ ใช้ไม่
    หมด มีทางเดียวที่ใช้ให้ได้หมด คือตามท่านไปนิพพานให้ได้ชาตินี้ ละชั่วเสียให้หมด"

    แต่ท่านเจ้าคุณฯ ตอบว่า "ทำได้ ถ้าเป็นความกตัญญู เหมือนปฏิบัติบูชานี่ เหมือนเราเป็นพ่อเป็นแม่คนนี่ ถ้าลูกเราปฏิบัติตามคำสั่งสอนของเรา เราก็สบายใจนี่ ท่านถือว่าเป็นพ่อเป็นแม่เรานี่

    เราปฏิบัติตามท่าน ตามที่ท่านสอนมาแล้วบอกให้เราเป็นคนดีนี่ ท่านก็มีความสบายใจว่า ท่านไม่เหนื่อยเปล่าที่ทรมานร่างกาย ป่วยก็ดี เจ็บไข้กินข้าวไม่ได้ กินอะไรไม่ได้ ทรมานร่างกายอยู่ เพราะใครล่ะ

    ถ้าไม่ทนอยู่เพราะเรา ท่านไปตั้งนานแล้ว ไปตั้งแต่ 13 นั่นแล้ว นี่อยู่เพราะพวกเรา ใช่ไหม เราอยู่เรานึกถึงคุณท่านอย่างนี้แหละถึงทำ

    ที่ ดร.ปริญญา ตอบเมื่อกี้นี้ถือว่าถูกต้องมากที่สุด จะให้อะไร ให้เงินให้ทองทุกอย่างก็
    ยังไม่คุ้มเท่า

    แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังบอกว่า "อัญญาสิ วะตะ โภ โกณฑัญโญ" พอท่านโกณฑัญญะเห็นธรรมเท่านั้นเอง (พระพุทธเจ้า) ดีใจ ท่านโกณฑัญญะเห็นธรรมแล้วหนอ ท่านเปล่งออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจเลย เพราะว่าท่านดีใจ นี่การแสวงหาธรรมหาคนพ้นทุกข์นี่มีผลแล้ว คำพูดของท่านมีผลแล้ว

    หลวงพ่อท่านอยู่มาตั้งนานนี่ จะมรณภาพตั้งแต่ ปี 13-14 แล้วนี่ แต่ต้องกลับมา กลับมาก็เพราะพวกเรา มารอพวกเราอยู่ตรงนี้(วัดท่าซุง) ที่ว่าทรมานร่างกายทุกอย่างอยู่

    ฉะนั้น ที่จะตอบแทนท่านได้ดีที่สุดก็คือ ปฏิบัติธรรมให้เป็นพระอริยะเบื้องต้น เบื้องกลาง เบื้องปลาย เบื้องสูงสุด แล้วแต่เราจะทำได้ อย่างน้อยก็ต้องลดความชั่วทุกอย่างถึงจะชื่อว่าเป็นลูกศิษย์ที่ท่านชื่นใจหน่อย"

    ท่านเจ้าคุณฯ สรุปว่า "อันนี้แหละที่ทดแทนได้ ที่ท่านพอใจ"


    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 461 เดือนสิงหาคม 2562 หน้า 18)



    54360.jpg
    IMG_20190210_110739.jpg
    IMG_20190210_111008.jpg
    IMG_20190210_110555.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2023
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    118
    ค่าพลัง:
    +225,734
    55759909_101571.jpg

    ปลาเลี้ยงพระ

    "ที่หลวงพ่อท่านว่า ลูกหลานฉันมีศรัทธาเป็นอจลศรัทธาแล้ว มีความดีพอสมควรแล้ว
    นี่ท่านรู้ของท่าน ทีนี้ หลวงพี่เจ้าอาวาสนี่มีลูกหลานบริวารตามมาเท่าไรไม่ทราบครับ"

    (หัวเราะ) ฉันไม่มีลูกหลาน มีแต่พี่เเต่น้องเท่านั้นเอง (หัวเราะ) มันเหมือนพี่น้องเพื่อนฝูงกัน พี่น้องกัน เพราะว่าทำงานทุกอย่าง แม้แต่เป็นพระในวัดก็จริง ถือว่าเป็นพี่เป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกัน การอยู่ร่วมกันก็จริง ถือว่าอยู่เหมือนพี่เหมือนน้องเหมือนเพื่อนฝูง ไม่
    ได้อยู่อย่างเป็นหัวหน้าอะไร แต่ทำงานแบ่งงานกัน คนนี้ถนัดทางนี้ได้ทำงานนี้

    ธรรมวิโมกข์ท่านอาจินต์เขาทำ ก็มีกลุ่มของเขาทำ อย่างเรื่องวัตถุมงคลท่านวิรัชถนัดเรื่องนี้ก็ไปคุมงานด้านนี้ อย่างพระสุรจิต พระสมพงษ์ ก็ไปคุมเรื่องโรงเรียน ก็แบ่งงานกันไป พระที่มีความถนัดเรื่องป่าก็ไปอยู่ป่า ชำนาญเรื่องก่อสร้างไปคุมงานก่อสร้าง

    เป็นช่างตอนนี้ทำแพอยู่หลังสวยนี่ พระท่านออกแบบเองทำเอง ใช้ลูกบวบเหล็กทำ ไปดูสิแพเริ่มออกแล้ว เริ่มสวย จะทำอย่างนี้สามหลังนี่ เพราะว่าได้เงินที่เลี้ยงปลามาประมาณล้านหนึ่งแสนบาท สำหรับปลาเลี้ยงพระ พระเลี้ยงปลา อะไรอย่างนี้ ถ้อยที
    ถ้อยอาศัยกัน

    "แค่ปลาเลี้ยงพระเป็นระดับล้านเลยหรือ"

    ล้านกับหนึ่งแสนกว่าบาท ในตอนนี้นะ

    "ปลาเขาเลี้ยงวิธีไหนถึงได้มีเงินมากมายขนาดนั้น อยากได้ยุทธวิธีไว้ครับ"

    หลวงพ่อท่านไม่อยากให้พระนี่เป็นผู้ที่ว่าสำอางค์ สำอางค์มันก็ทำงานอะไรก็ทำไม่ได้
    กินข้าวแม้แต่ล้างชามก็ล้างไม่ได้ ท่านไม่ให้ฝึกอย่างนั้น ถ้าฉันหมดให้เก็บไปเลย ให้ไปล้างเองอะไรเอง เช็ดเก็บให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะพระอาวุโสไม่อาวุโสก็ช่างเถอะ ช่วยกันทำทั้งนั้น

    พอเราล้างพวกเศษอาหารก็เป็นอาหารของปลา เลี้ยงหมาก็เป็นบุญ เลี้ยงปลาก็เป็นบุญ ทีนี้ก็เกิดปลามันมามากใช่ไหม ชาวบ้านเขาก็ให้เด็กขายข้างบน ทีนี้หลวงพ่อก็บอกว่า เออ...ให้ใครไปขายข้างล่างนะ ถ้าได้กำไรมาบ้าง ก็เอามาเลี้ยงพระ

    ทีนี้ก็เอาเศษอาหารพวกอาหารปลา ก็รับเลี้ยงมาสักสองปีกว่า ร่วมสามปีก็แล้วกัน ได้
    เงินมาประมาณล้านกับหนึ่งแสนกว่าบาท เขาบอกว่าสำหรับค่าอาหารพระ

    ทีนี้ก็มีอยู่คราวหนึ่ง เกิดคนเขาไปฝึกกรรมฐานกันนี่นะ ฝึกไปฝึกมาเขาเลี้ยงปลาอยู่
    บอกหลวงพี่ฉันจะเอาปลามาปล่อยวัด บอก เออเอามาได้ ตอนฉันเพล เอ๊..ใครมันโยงเรืออะไรมาวะ ที่แท้มันไปอยู่ตรงโป๊ะที่เขาเลี้ยงปลา เลยเอามาปล่อยทั้งโป๊ะเลย (หัวเราะ)

    "โอ้โฮ้...เอาอย่างนั้นเลย"

    เอามาโป๊ะหนึ่งเลย เป็นพันๆตัว เอากระชังมาปล่อยทั้งกระชังเลย กระชังที่เขาเลี้ยงที่
    เมืองอุทัยน่ะนะ ก็เอาเรือดึงมา มาปล่อย ปล่อยเต็มที่เลย ทีนี้ ก็บอกกับปลาว่า วันอาทิตย์นะมึงก็กินกันจนไม่ค่อยขึ้นมาผุดเลยนะ พอวันจันทร์ก็อดเหมือนกูเลย (หัวเราะ)

    เสาร์อาทิตย์คนไปวัดใช่ไหม ก็ไปเลี้ยงเสาร์อาทิตย์ ตรงกันพระก็กินกันไม่หมดใช่
    ไหม พอวันจันทร์คนเขากลับกันหมดแล้ว ก็อดเหมือนเรา

    "จริงๆนะ พระจะอุดมสมบูรน์ก็วันเสาร์อาทิตย์นี่นะ วันเทศกาล ชีวิตอันเดียวกันนะ"

    ชีวิตเดียวกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน

    "ฉะนั้นปลาต้องช่วยพระต่อไปนี้"

    ก็ยังไม่ได้เบิกเงินมาใช้เรื่องอาหารเท่าไร

    "อืม.. อัศจรรย์จริงๆนะ ขนาดปลาเลี้ยงพระได้ระดับล้านนี่ สองปีหรือครับ"

    ประมาณสองปีครึ่งนี่แหละ สองปีครึ่ง ทีนี้คนมาวัดก็ไปหาปลาก่อน เพราะว่าเด็กนี่ไป
    แล้วมันอดไม่ได้ พอเห็นปลาขึ้นละก็เรียกแม่เจี้ยวแล้ว ต้องซื้อให้ เพราะปลามันเชื่องนี่
    อ้าปากลูบหัวลูบอะไรได้

    "แล้วไม่มีใครมากวนเหรอครับ"

    ก็มี มีคนมาลักเหมือนกัน ทีนี้ธรรมดาเอาข่ายลงนี่ ทหารก็ลงไปลากด้วย ก็ให้ลงข่าย
    ละ ทีนี้เอาหม้อแบตฯใส่เรือมา ช๊อตตักเลย

    ตานี้ตรงวัดข้างๆกัน คือวัดยาง เขาก็มีกรมประมง เขามาลอกโคลนแม่น้ำสะแกกรัง
    ลอกไปลอกมามันก็เอาโป๊ะมาจอดใกล้ๆตรงวัดยาง คงกินปลาวัดไปหลายตัวเหมือนกัน
    พอกินปลาวัดก็ต้องกินเหล้าสิ ทำแป๊ะซะกันกินเหล้า กินเหล้าพอเมาก็คลานลงน้ำเลย ลงน้ำก็ไปลอยเอาเช้า (หัวเราะ)

    "ตายเลยหรือ"

    ตาย เขาก็ลือกัน เนี่ย...มันกินปลาวัดท่าซุงมันถึงตาย รุ่งขึ้นอีกวันมันย้ายแพไปไหนเลย ตายโหงไปแล้ว จะตายจริงหรือเปล่ามันผสมโรงอยู่แล้วคนเรา



    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 160 เดือนมิถุนายน 2537 หน้า 71-72)

    37982.jpg
    37983.jpg 38004.jpg
    37990.jpg 37993.jpg
    38006.jpg 38007.jpg 38010.jpg 38015.jpg 38017.jpg
     
  14. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    118
    ค่าพลัง:
    +225,734
    พระสยามฯ.jpg

    พระสยามเทวาธิราช

    ยกทรง ถามเรื่องพระสยามเทวาธิราชว่า

    "หลวงพ่อครับ อยากเรียนถามว่าพระสยามเทวาธิราช ท่านให้คุณให้โทษทางไหนแก่ผู้บูชาหรือถวายสักการะแบบไหน ท่านจึงจะชอบใจและถูกใจขอรับ ?"

    พระสยามเทวาธิราชนี่นะเริ่มมีเมื่อสมัยก่อนรัชกาลที่ 4 มีนะ แต่ก่อนพระเจ้าแผ่นดินสมัยนั้นก็บูชาเทวาชื่อนั้นชื่อนี้ที่เป็นญาติผู้ใหญ่เป็นคนสำคัญ ขออย่างนั้นอย่างนี้

    ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 4 ท่านเป็นนักปราชญ์ เป็นนักบาลี ก็มาตั้งชื่อใหม่ว่า "พระสยามเทวาธิราช" หมายถึงว่า เทวดาทั้งหมดที่รักษาประเทศสยาม

    ทีนี้ที่ถามว่าให้คุณให้โทษทางไหน ให้โทษนี้ก็ไม่ทราบ ให้คุณนี่ก็ไม่รู้ แต่ท่านเป็นเทวดาเอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ

    เมื่อปี 2518 ปีนั้นพระเจ้าอยู่หัวนิมนต์เข้าไป ที่ไปพระที่นั่งไพศาลทักษิณ พอเข้าไปทำบุญวันจักรี พอเข้าไปนั่งปั๊บไม่ต้องคุยกับใครละ บรรดาพระสยามเทวาธิราชมากันเยอะแยะเลย
    โอ้โฮ้ไม่ใช่องค์เดียว 2 องค์นะ ไม่ทราบว่าจะมากเท่าใดในบริเวณเต็มไปหมด ไม่ใช่เฉพาะในวังนะ เราก็ชักสงสัยว่าองค์ไหนชื่อ พระสยามเทวาธิราช

    พอถามว่าองค์ไหนชื่อ พระสยามเทวาธิราช ให้บอก ชี้องค์นั้นก็ไม่ใช่ ชี้องค์นี้ก็ไม่ใช่ ต่างคนต่างบอกชื่อของตัวหมด ก็เลยนึกขึ้นมาว่า เออ ยังไงเทวดานี่ เลยบอกว่าถ้าไม่ใช่พระสยามเทวาธราช แล้วมาทำไมล่ะ พระเจ้าอยู่หัวก็ดี พระราชินีก็ดี ท่านทำบุญเพื่อพระสยามเทวาธิราช
    ท่านก็บอกว่า เขาอยากเรียกผมอย่างนั้นทำไมล่ะ ผมไม่ได้ชื่อนั้นนี่

    ก็รวมความว่าพระสยามเทวาธิราชจริงก็เป็นเทวดาที่รักษาประเทศไทยทั้งหมด สมัยก่อนเรียกประเทศสยาม ใช่ไหม

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 204 เดือนมีนาคม 2541 หน้า 23)

    พระสยามเทวา.jpg พระสยามเทวาธิราช.jpg
     
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    118
    ค่าพลัง:
    +225,734
    IMG_20170426_160439.jpg
    ตามอาฆาต

    ผู้ถาม : กราบเท้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกมีเรื่องกลุ้มที่ขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานจนกระทั่งเขาลาออกจากราชการแล้วยังไม่พอ แกได้ผูกอาฆาตพยาบาทลูกไว้ว่า ฉันจะไม่ยอมออกฟรีๆ ฉันจะต้องเล่นงานแกแน่ๆ ความจริงลูกไม่กลัวหรอก แต่กลุ้มใจว่าถ้าโดนไม้นี้จริงๆ แล้วจะแก้ไขอย่างไร ก็ขอพึ่งหลวงพ่อเพื่อขอให้หลวงพ่อช่วยแก้ไข เพราะมีเหตุการณ์เริ่มเกิดขึ้นแล้วดังต่อไปนี้...

    ในขณะพอลูกนอนเคลิ้มๆ จะเห็นเงาดำๆเพียงแค่ซีกเดียวมาปรากฎ ลูกก็เลยยิ่งกลัวใหญ่ ปากก็ร้องว่าหลวงพ่อช่วยด้วยๆๆ แต่มองดูรูปหลวงพ่อแล้ว รูปภาพหลวงพ่อก็เฉยไม่ช่วยเลย ลูกเลยมาขอกราบบารมีองค์จริงดีกว่า เพื่อจะมีการแนะนำให้หายกลัวจากเรื่องนี้

    หลวงพ่อ : มันไม่จำเป็นต้องช่วย เพราะมาครึ่งเดียว โธ่เอ๊ย ! มาขาเดียวแขนเดียวนี่ ก็ปล่อยมัน ไม่เป็นไรหรอก รับยันต์เกราะเพชรหรือเปล่าล่ะ

    แล้วก็ถ้าเห็นภาพนะภาวนา "สัมปจิตฉามิ" ขับมันเลย

    ถ้าป้องกัน ป้องกันก่อนก็ภาวนา "สัมปติฉามิ" สัก 3 ครั้ง อย่างนี้กันนะ

    ถ้าเห็นภาพก็ "สัมปจิตฉามิ"


    ผู้ถาม : ถ้าหากว่ากัน "สัมปติฉามิ" ถ้าหากว่าขับก็ "สัมปจิตฉามิ"

    อย่างนี้ต่อไปก็ไม่ต้องกลัวซิ ได้คาถาสองบทแล้ว


    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 124 เดือนมิถุนายน 2534 หน้า 34-35)
     
  16. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,381
    ค่าพลัง:
    +13,256
    เรียนถามคุณวรรณครับ พระหลวงพ่อรุ่นไหนบ้างที่ป้องกันโรคระบาดได้ครับ ขอบคุณครับ
     
  17. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    118
    ค่าพลัง:
    +225,734

    ได้ทุกรุ่นครับคุณกิตติศักดิ์

    ถ้าดูจากหนังสือเอกสารของทางวัดก็จะมีระบุเพียงเหรียญในรุ่นผูกพัทธสีมา ปี 2520 , เหรียญของขวัญวันเกิด, เข็มกลัดมงกุฏเพชร

    พระพุทธคุณด้านในด้านหนึ่งในพระเครื่องและวัตถุมงคลวัดท่าซุงเราถ้าเริ่มมีในรุ่นไหนแล้วรุ่นต่อๆไปก็จะมีอยู่ด้วย ไม่มีลดลงจากรุ่นก่อนหน้า

    และเวลาหลวงพ่อทำพิธีปลุกเสกท่านจะคลุมทั้งวัด รุ่นเดิมก่อนหน้าที่ยังไม่มีพุทธคุณด้านนั้นๆก็ได้เติมเข้าไปด้วย เพราะงั้นรุ่นเก่าๆจะมีพุทธคุณที่พระท่านทำให้เพิ่มเข้าไปด้วยครบ

    เวลาหลวงพ่อเล่าถึงพิธีปลุกเสก ท่านมักพูดอยู่เสมอๆว่า เวลาพระท่านทำท่านทำให้ทุกอย่าง

    คำที่หลวงพ่อพูดตรงนี้บอกให้ทราบชัดอยู่แล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2020
  18. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    118
    ค่าพลัง:
    +225,734
    aป.JPG
    วันปลุกเสกพระคำข้าว (รุ่น 2)


    ผู้ถาม : กราบเท้ามนัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ปลุกเสกพระคำข้าวมหาลาภนั้น ลูกไม่มีโอกาสไปร่วมพิธี แต่ก็ฝากเงินทำบุญร่วมโมทนาด้วย แต่ที่จะกราบเรียนถามก็คือว่าอย่างนี้ ส่วนใหญ่ 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้เข้าไปร่วมพิธี ก็อยากเรียนถามหลวงพ่อว่าวันนั้นมีอะไรพิเศษที่พอจะเล่าให้ลูกหลานฟังได้ บ้างหรือไม่ เช่นหมาหอน ไฟดับ เป็นต้นเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : เขารู้แล้ว เขาถามหมาหอน ไฟดับที่ไม่รู้มีอยู่อย่าง ขาฉัน 1 ข้างขยับไม่ได้ คือว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน 1. มีฉัน 2. มียกทรง 3. ฉัน 4. ยกทรง (หัวเราะ)

    มียังนี้นะ ตามธรรมดาปลุกพระ ตามปกติที่ปลุกมาแล้วนะ ที่ผ่านมาก็มี พระโมคัลลาน์ พระสารีบุตร คุมฉัน คอยคุมอารมณ์ สูงไป เครียดไป ต่ำไป ให้พอดี

    แต่ว่าตั้งแต่ปลุกพระคำข้าวรุนก่อนก็ดี พระหางหมากก็ดี คำข้าวรุ่นนี้ก็ดี องค์ปัจจุบันคุมฉันเอง และวิธีคุมท่านไม่พูด ท่านใช้แสงออกจากกายท่านนะ แสงสว่างมาก พุ่งมาที่กายฉัน และสั่งห้ามขยับเขยื้นใจ ให้ทรงตัวนิ่งๆ ให้ใจนิ่งสัก 10 นาที แล้วก็อนุญาตดูได้

    พอดูได้ ก็เห็นสมเด็จองค์ปฐม นั่งขัดสมาธิองค์ใหญ่เบ่อเร่อเต็มวิหาร เหนือที่ปลุกเสกนะ และรอบๆนั้นก็พระพุทธเจ้าเต็มหมด แสงสว่างจ้า พระอรหันต์เต็ม

    ฉันไม่เห็นของที่ปลุกเสกเลย แสงหนามาก และแสงน่ะเปลี่ยน เป็นสีๆ อันดับแรก ท่านบอกคุณว่า อิติปิโส ไปครึ่งชั่วโมง ครึ่งชั่วโมงนี่ห้ามขยับเขยื้อน จิตใจขยับไหนไม่ได้เลยนะ

    ตอนถึงครึ่งท่านบอกว่าช่วงนี้ทำรอบตัวทุกอย่าง ทำทุกอย่างนะ

    ต่อไปหลังจากครึ่งชั่วโมงแล้วก็เปลี่ยน เปลี่ยนไปแต่ละอย่าง อย่างลาภบ้าง ป้องกันบ้าง อะไรบ้างว่าไป

    ในตอนลาภนี่สีแปลก แทนที่จะเป็นสีใส เป็นสีทองขึ้นท่วมเลย และกระจายพรืดไปทั่วคนทุกคนที่นั่ง

    ผู้ถาม : กระจายเฉพาะเขตในหรือรอบนอกด้วยรึเปล่าครับ

    หลวงพ่อ : ทั้งหมดน่ะ บริเวณวัดนะ แต่อีตอนไฟดับนั่น ตอนคาถาที่ข้าศึกไม่เห็นตัว พอถึงคาถาข้าศึกไม่เห็นตัว ไปดับปั๊บพอดีเลย ไอ้ที่ไปดับเพราะอะไรรู้ไหม ท่อน้ำแตก ท่อน้ำเขาซื้อใหม่ๆน่ะ มันมีหลายเครื่องที่วัดนะ เขาต้องติดอีกเครื่องหนึ่งเลย อันนั้นท่อน้ำใหม่มาก เพิ่งซื้อใหม่ๆ เป็นเหตุน่าอัศจรรย์นะ
    ไม่งั้นไฟก็ไม่ดับ

    ผู้ถาม : ตรงคาถาว่าอะไรครับ

    หลวงพ่อ : ข้าศึกไม่เห็นตัว ถ้ามีความจำเป็นนึกถึงพระ ข้าศึกกวดมาจะไม่เห็นตัว

    ผู้ถาม : อย่างสมมุติว่าจะฝ่าไฟแดงนี่ เราก็..

    หลวงพ่อ : ถ้าฝ่าไฟแดงนะ เราก็ให้เราไม่เห็นตำรวจ (หัวเราะ) อ้าว ! หลับตาเสียซิ ไอ้นั่นนะข้าศึก ไฟแดงไม่ใช่ข้าศึก นั่นเขาตามกฎหมายตามระเบียบเขา

    นี่หมายความว่าถ้าหนีเขาใช่ไหม เขามามากสู้ไม่ได้ นึกถึงพระ นั่งอยู่แต่มองไม่เห็น เว้นไว้แต่ว่าหนีเมียหนีเที่ยวไม่แน่นอนนักนะ ไปพ้นได้แต่กลับมาถูกสากกระเบือ (หัวเราะ)

    ผู้ถาม : ช่วยได้ตอนขาไป

    หลวงพ่อ : ใช่ๆๆ

    ผู้ถาม : เรื่องไฟดับน่าอัศจรรย์ ! แล้วเรื่องหมาหอนนั่นล่ะครับ ?

    หลวงพ่อ : หมาหอนนั่น เขามาประชุมกันพร้อม มันจวนเวลาที่ท่านจะสั่งการ พอเสร็จเรียบร้อยแล้ว สมเด็จองค์ปฐม ท่านเรียก พระอินทร์ กับ สหัมบดีพรหม เข้ามาบอกว่า

    "พระของฉันและทุกอย่างที่ปลุกวันนี้ ไม่ใช่พระอย่างเดียวนะ แก้วก็มีเสร็จนะ ทุกอย่างถ้าอยู่กับใครก็ดี ให้สั่งให้เทวดาสักองค์หนึ่งตามอารักขาตลอดเวลา..."

    ผู้ถาม : เรียกว่าทุกชิ้นมีเทวดา..

    หลวงพ่อ : ใช่ๆๆ เว้นไว้แต่เวลาไม่บอกท่าน ระวังให้ดีนะ เทวดาน่ะต้องบอกนะ !


    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ กันยายน 2543)
     
  19. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    118
    ค่าพลัง:
    +225,734
    ผ้ายันต์พิชัยสงคราม.jpg


    อานุภาพผ้ายันต์ฯ


    ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ เมื่อตอนแข่งกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ที่ประเทศจีน ฟุตบอลไทยเจอกับจีนเจ้าภาพ เจ้าภาพจีนแพ้ไทยเพราะเตะเข้าประตูไทยไม่ได้ ทีวีเขาไปสัมภาษณ์ว่าเป็นเพราะเหตุไร จีนจึงเตะไทยไม่เข้า ประตูไทยชื่อ ชัยยงค์ บอกว่าเป็นเพราะมีผ้ายันต์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านช่วยปัดไม่ให้ลูกเข้าโกล์

    ทีวีเลยซักต่อไปว่า เออ...หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อยู่ที่ไหน โกล์คนนั้นบอกว่าอยู่ที่จังหวัดอุทัยธานี ซักถามว่าวัดอะไร เขาจำไม่ได้บอกว่าคงจะเป็นอุทัยธานี

    หลวงพ่อ : (หัวเราะ) ก็ไม่ผิดๆ ไงๆป้ายนั้นก็ต้องลงอุทัยธานี วัดจันทาราม วงเล็บ (ท่าซุง) ต.น้ำซึม อ.เมือง จ. อุทัยธานี เขาเขียนแบบนั้นไม่ผิด

    ผู้ถาม : ขอต่ออีกหน่อยนะครับ ลูกปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก ก็เลยจะมาขอบารมีอย่างนี้ว่า ต่อไปลูกจะเอาผ้ายันต์หลวงพ่อไปช่วยปัดหนี้ปัดสินอย่าให้มา ให้สะกด จะช่วยได้เหมือนอย่างที่ของโกล์ประตูหรือไม่ครับ ?

    หลวงพ่อ : (หัวเราะ) ไม่เป็นไร ! สำคัญจะไปปัดหนี้ซิ

    ถ้าบูชาผ้ายันต์นะ แล้วก็ใช้ "คาถาเงินล้าน" ร่วม

    เพราะว่าผ้ายันต์นี่ใช้ได้ทุกอย่างนะ

    ผู้ถาม : ไม่รู้ว่าผืนแดงหรือว่าผืนขาวครับ ?

    หลวงพ่อ : ผืนแดง "ผ้ายันต์มหาพิชัยสงคราม" เพราะว่าผ้ายันต์นี่เคยรบที่ โนนหมากมุ่น นะ คืนนั้นปรากฏว่าทหารทุกฐานถูกตีหมด เว้นฐานทหารช่างฐานเดียวนะ แกก็คุยว่า "โอ้ย ! ข้าศึกไม่เห็นฐานอั๊วหรอกว่ะ ! ไม่เห็นเข้ามาตี"
    แต่ที่ไหนได้ ไปดูรอยเท้าเกลื่อนหมด มันมาเหมือนกันแต่มันไม่เห็นฐาน

    ถ้าหากว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้นน่ะ ติดธงชาติตั้งไว้ในบ้านที่บูชา...ปลอดภัย !


    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ ตุลาคม 2543)
     
  20. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,381
    ค่าพลัง:
    +13,256
    ขอบคุณมากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...