นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (รุ่นอภิมหาลาภ)

เงินมีหัวเชื้อทองคำศักดิ์สิทธิ์นะครับเสกมามาก ซึ่งก็ดีตามเคล็ด "เงินเรียกเงิน"

 

ยืนยันว่าตะกรุดเงินมีหัวเชื้อทองผสมเช่นกันครับ

ตอนเสกครูบาอาจารย์ท่านจัดพลังให้แน่นอนครับ

QC ก็จัดทั้งเงินและทอง รออ่านรีวิวได้ครับ

ต้องสงสัยกันแน่ ตะกรุดทองกับเงินพลังต่างกันอย่างไร .....

 

กำหนดการจารตะกรุด .... ท่านกล่าวว่าเนื่องจากไปใช้ด้านเทา ๆ จึงต้องให้ออกพรรษาไปก่อนครับ ซึ่งอาจจารก่อนงานกฐิน 19 ตุลาคม หรือหลังกฐิน ก็แล้วแต่วาระโอกาส และนิมิตจากครูบาอาจารย์ เพราะตั้งขันธ์ไว้แล้ว...รอท่านกำหนดมา....

ด้านการเสก ท่านบอกอาจต้นพฤศจิกายน อาจยาวไปถึงช่วงลอยกระทง โดยให้เหตุผลว่า "อาศัยกำลังของพระจันทร์ในช่วงจันทร์ซ้อนจันทร์ ดับความร้อนแรงของงาพิฆาต" และเป็นเคล็ดมหาลาภแห่งกำลังเดือนเพ็ญไปด้วย...

จากการเรียกร้องหลายท่าน และตัวผมเองก็ได้กล่าวไว้ เมื่อตะกรุดมีจำกัด ก็ต้องตามนั้น.... ทีนี้ หากมาในรูปของมงคลอื่น แบบตอนชุดพลิกฟ้าที่มีพระเจ้าสัว กับตะกรุดพลิกฟ้า ซึ่งก็อานุภาพที่เสมอกันหลายท่านทราบกันดี เรียกว่า อานุภาพของพระผงเจ้าสัว กับตะกรุดแทบจะพี่น้องกันได้เลย ....

แต่นั่นละครับเมื่อใช้งานด้านเทา ๆ เราจะไม่ใช้รูปลักษณ์ของพระเครื่อง...

จึงเป็นที่มาของ "วิชาลบผงจากมรดกของครูบาข่าย...."

 

การลบผง เราอาจเห็นตามที่ลงโฆษณามาหลายที่ ก็ใช้ชอคหรือแท่งผงแล้วแต่ลบบนกระดานดำ....จากนั้นก็กวาดผง ลงถ้วยรอง ซึ่งกว่าจะได้ซักช้อนก็เหนื่อยแสนเหนื่อยแน่

แต่วิชาการลบผงที่สืบทอดครูบาข่าย โดยท่านเล่าว่า "ครูบาข่ายเสกก้อนผงไว้แล้ว วันนึงจะได้นำมาใช้"

การลบผงนี้ ก็เหมือนจารตะกรุด แต่จารบนกระดานดำ โดยแท่งผงวิเศษ จากนั้นท่านกล่าวเป็นโคลงว่า "ลบผงสู่พื้นธรณี ให้มีฤทธี....."

การกวาดผงจากการลากอักขระยันต์ ก็ต้องใช้อุปกรณ์ ซึ่งก็แล้วแต่การนำไปใช้ หากใช้ด้านเทา ๆ ด้านลาภเทา ๆ ก็ให้ ใช้ ????????กวาดผงที่ลบมารวมกัน...

ทีนี้ว่า กันสร้างของมงคล แน่นอน ไม่ใช้รูปพระ ก็ต้องกำหนดตามหลักกลวิธีแห่งการรับกระแสพลัง ให้เข้า concept เหมือนตอนสร้างเจ้าสัวพลิกฟ้านั่นละครับ HOT จนผมคนสร้างไม่เหลือแม้แต่องค์เดียว 555 ชุดถวายวัดไป ยังมีผู้ศรัทธาตามไปบูชา

ก็ต้องรอชมต่อไป การลบผงอักขระยันต์ ตามวิชา "พญาพาลีคว้าลาภทั่วพิภพ " ซึ่งได้ request ไปแล้วขอ "มหายันต์แม่ย่า" ด้วย

 

เป็นของวิเศษที่คนโบราณกล่าวถึงวิถีกำเนิดความเป็นมาอย่างน่าพิศวงสุดมหัศจรรย์ยิ่ง กล่าวกันว่างูปากเป็ดนั้นเกิดจากขนนกสาเวกซึ่งเป็นชื่อนกในเมืองไกรลาสอันเป็นดินแดนที่อยู่กึ่งกลางระหว่างโลกมนุษย์กับสวรรค์ ในเมืองมนุษย์เรียกนกชนิดนี้ว่า “นกการเวก” นั่นเอง

บูรพาจารย์ท่านเล่าว่างูปากเป็ดเกิดจากขนของนกการเวกที่หลุดและหล่นลงมายังเมืองมนุษย์ซึ่งก็จะกลายเป็นงูตัวเล็กๆมีทั้งสีดำ เหลืองทอง ยาวประมาณ7 – 10 ซ.ม. คล้ายงูเหลือมหรืองูเหลือมย่อส่วนอะไรประมาณนั้น จัดเป็นของกายสิทธิ์ชั้นยอดเยี่ยม เป็นของคู่บุญเฉพาะคนเมื่อถึงเวลาเขาจะมาหาเจ้าของๆเขาเอง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง บางคนจะพบว่ามาหาตอนยังเป็นๆอยู่ แต่บางคนก็จะได้มาจากผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าของที่แท้จริงนำมาให้อีกที ซึ่งกรณีหลังนี้อาจจะเป็นในรูปแบบซื้อขาย แลกเปลี่ยน

เป็นเรื่องที่น่าแปลกประหลาดสำหรับงูปากเป็ดนี้เมื่อเขามาหาเจ้าของๆเขาแล้วภายใน 3 – 5 นาที เขาก็จะละสังขารทิ้งร่างกายสิทธิ์ซึ่งจะค่อยๆแห้ง ไม่เน่าไม่เปื่อยไว้ให้ โบราณท่านกล่าวเปรียบเปรยเอาไว้ว่านกการเวกนั้นมีเสียงร้องไพเราะมากขนาดฤษีที่นั่งเข้าญาณสมาบัติยังต้องลืมตาขึ้นมาฟังเสียงร้องของนกการเวกเลย

อานุภาพของงูปากเป็ดนั้นเป็นเลิศทางด้านเจริญโภคทรัพย์มหาสมบัติเรียกเงิน เรียกทอง เมตตา เตือนภัย ผู้ใดได้ครอบครองเป็นเจ้าของประดุจได้ไว้ซึ่งขุมทรัพย์ของเทพเทวา ชีวิตจะไม่พบกับคำว่าตกอับยากจนเลย มีแต่จะพบกับความเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไปจนกว่าจะหมดอายุขัยเลยทีเดียว...........

ที่มา
http://www.apichokeonline.com/index.php/topic,3512.0.html

 

เรื่อง งูเหลือมปากเป็ด จริง ๆ คนใต้น่ารู้จักกันดีเลยครับ

สมัยผมเด็ก ๆ แม่ก็เล่าให้ฟังบ่อย เพื่อนของแม่ที่ร่ำรวยมาก ๆ มีหลายตัวเลย เก็บใส่ผอบบูชาไว้ และผมก็เคยเห็นของเพื่อนมาอวด แต่ก็ยังไม่รู้จักอะไรมาก

จวบจนมาทำงานนี่ละครับ คนที่ทำงานเขาเล่าให้ฟังอีกที พี่ชายเขาได้มา แล้วจุดธูปบูชา ขี้ธูปงอเป็นเลข ก็ไปซื้อหวย ถูกจริง ๆ ...

ก็ว่ากันไปตามความเชื่อ

ทีนี้ ที่ผมได้เห็นผลจริง ๆ ก็คือ.... พรรคพวกที่สนิทกันนั่นละครับที่เขาเคยทำงานเทาๆ เป็นเจ้ามือหวยรายย่อย ร่ำรวยมาก ๆ ช่วงสมัยดวงดี เรียกว่าผมขอเงินสร้างโบสถ์ โอนมาให้ทีเป็นแสนเลย

และช่วงนึงเขาโดนคนเล่นงานหนักมาก เลยพาไปรักษากับหลวงปู่ประหยัดที่วัดเดิมหลวงปู่โน ที่ อ.น้ำพอง ขอนแก่น ก็รักษาจนหาย ท่านก็เตือนเขาไปแล้วให้ระวัง เพราะทุกอย่างนั่น พลาดได้ เสื่อมได้

ผลก็เจ๊งจริง ๆ จนทุกวันนี้ แต่ก็ตรงตามหลวงปู่ประหยัดบอก ไปโกงเขาไว้มากด้วย อำนาจอะไรก็เสื่อมได้...

ประเด็น ตอนผมไป เยี่ยมเขาใหม่ๆ ก็ทราบพื้นเพดี เพราะเรียนมาด้วยกัน แล้วไปเห็นบ้านเขาล่าสุด ว่าทำไมร่ำรวย

เขาเล่าให้ฟัง ได้งูเหลือมปากเป็ดมา ...คือเลื้อยมาใสบ้านร้องเหมือนเป็ด "กี๊บ ๆ ๆๆ " ทีนี้แม่เขาก็เข้าใจเคล็ด เอาเงินไปช้อนรับ พร้อมกล่าวรับขวัญตามความเชื่อ "มาให้โชคให้ลาภนะ" แล้วงูก็ตายไป

เคล็ดสำคัญคือ แม่เขาจับยัดกล้วยให้กินเลย ..ไม่นานก็ร่ำรวย

อ่านมาตรงนี้ตกใจ ฮ๊าาาให้กินซากงูอะนะ

เขายืนยันจากนั้นมา ทำอะไรเทาๆ จากเป็นคนส่งหวย ก็ตั้งตนเป็นเจ้ามือได้เลย...

 

ความสำคัญไม่ได้ให้หางูปากเป็ดนะครับ เพราะอาจเจอไส้เดือนเอาง่ายๆ 555

ต้นกำเนิดงูปากเป็ดต่างหาก ผมเองเคยได้เห็นจากคนใกล้ชิด เขาบอกเพื่อนเขามี ก็เลยขอมาให้ดู

แล้วนำไปขอหลวงปู่เหิร ท่านดูให้ ท่านก็ว่า "ขลังๆ ๆ" เลยถามต้นกำเนิดจากหลวงปู่ว่า เขาว่าคือ ขนของนกการะเวก จริงหรือไม่ ท่านตอบว่าใช่ เป็นตามนั้น

จึงสรุปว่า หากในแง่สิ่งลี้ลับก็อาจเป็นจริงได้ ....

พ้องกับสัญลักษณ์ ที่ปรึกษาจะ กำหนดมาให้สร้างของมงคล... เพื่อให้สอดรับพลังกับ concept ชุดต่อไป "คว้าลาภทั่วพิภพ"

หลังจากหลวงปู่เหิร ตรวจไม่ต้องถาม เจ้าของหม่ำเรียบร้อย โทรมาขอบคุณ ถูกหวยหุ้น 7 หมื่นทันตา...

 

โดยสรุป ตำนานนกการะเวกมีอยู่จริง ที่ว่า ขนของนกการะเวก เป็นทองคำ รึมาเป็นงูเหลือมปากเป็ดก็ได้

โดยที่นกการะเวกบางตำนานว่าก็คือ นกวายุภักษ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกระทรวงการคลังด้วย...

ดังนั้น ต่อไป จึงรอการลบผง และมวลสารตามกำกับของครูบาอาจารย์ เพื่อสร้างสิ่งมงคลให้มีอานุภาพ เป็นน้อง ๆ ตะกรุดพญาพาลีต่อไปครับ...

จบข่าว รอออกพรรษาละครับ ค่อยว่ากันต่อไป 555

 

สาธุ..

 

QC. ได้นาคปรกแล้วครับ ชุดครูบาไชยการันตี

บอกแล้วว่าสุดยอดครับ

ปกติสายผมไม่เน้นพระกรุ

แค่พระนาคปรกนี้ ที่ปรึกษายังคิดเลี่ยมทองให้โยมพ่อเป็นของขวัญวันเกิดครับ

 

หลายท่านถามพระร่วงพอดีผมไม่ได้บูชามาครับ เลือกพระนาคปรกเพราะเกิดปีมะเส็งพอดี ท่านแนะนำมา

พระร่วงสุดยอดแน่นอนครับเพราะท่านปรมาจารย์บอกล้ำลึกมาก พอดีตอนท่านดูและอธิษฐานอยู่ในงานพอดีเลยไม่ได้สัมผัสละเอียดมาก แต่สุดยอดทุกอย่างครับ

ทุกวันนี้ที่ปรึกษายังค้นกะแสแบบละเอียดยังไม่ได้เลย ลึกล้ำเกินคาด ที่แน่ๆ ผมต้องจัดชุดประจำกายใหม่อีกแล้ว 55

 

ขณะนี้พระอาจารย์เนื่องจากทำงานหนักเกินไป จึงอาพาธ ท่านก็พักผ่อนฟื้นร่างกายต่อไปครับ

ก็รอฤกษ์ยามความพร้อมรอ ออกพรรษานั่นละครับถึงเริ่มโครงการสร้างตะกรุดต่อไป

ช่วงนี้ก็เก็บตก รอ QC รีวิวอ่านกระแสแบบละเอียดต่อไปครับ

ชุดพระนาคปรก และพระร่วงที่ทุกท่านได้บูชาจนหมดเกลี้ยงไป คราวนี้ก็จะได้ปลาบปลื้มสำหรับผู้บูชาครับ เพราะท่านการันตี "ห้อยได้เลย" แม้ท่านเองก็จะพกติดตัวครับเพื่อเสริมกำลัง

ความพิเศษคือกระแสพลังที่ออกมาทั้งทางโลก และส่งเสริมในหลายๆ ด้าน ตามที่ครูบาไชยได้พิจารณาให้ ดังกล่าวไป ช่วงนั้นอยู่ในงานจึงไม่ได้สัมผัสอะไรมากมาย คือยังไม่สะดวกในการสัมผัสแบบลึก ๆ เนื่องจากกระแสลึกล้ำมาก

 

พระเครื่องหรือวัตถุมงคลต่าง ๆ ย่อมมีอานุภาพแตกต่างเด่นในแต่ละด้านต่างกันไป ตามที่ครูบาอาจารย์ยุคก่อนได้แยกกระแสมาแล้ว

ปริศนาที่ครูบาไชยให้ไว้ การห้อยพระกรุชุดนี้ ไม่ใช่จะสัมผัสใช้ได้ทุกคน ต้อง "ใจถึงพระ พระถึงใจ" คือเข้าถึงให้ได้จึงจะดึงพลังออกมาได้


การเข้าถึงพลังวัตถุมงคล จริง ๆ จะว่ายากก็ยากจะว่าง่ายก็ง่าย แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่การสร้าง กำหนดวัตถุประสงค์ในแต่ละรุ่นนั่นละครับ

โชคดีที่ชุดพระกรุนี้ครูบาไชยแผ่พลัง ปรับกระแสให้แล้วครับ..

 

การแต่งขันธ์บูชา ก็เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งในการเข้าถึงพลังของวัตถุมงคล...

ในภาพเป็นของผู้ศรัทธาท่านนึงส่งมาให้ชมครับ...

 

QC ขอตัวไปเปลี่ยนสร้อยแล้ว จัดชุดใหม่ครับ 5555

โชคดีแบบได้เบญจภาคีได้เลย พระนี้อ่านกระแสยากที่สุด จนตีความที่ครูบาไชยบอกได้ "ใจถึงใจ ใจถึงพระ. จะดึงพลังออกมาได้"

QC. มีประสบการณ์หลังได้พระ คุยงานกับใคร เป็นมหาจังงังด้วย ลองทุกคนได้ผล

อานุภาพสมครูบาไชยบอก ป้องกันภัย 10 ทิศ

ขอตัวไปแงะสร้อยจัดพระประจำกายใหม่ก่อนครับ555 หาคีมเจอแล้ว ราตรีสวัสดิ์...

 

ท่านแชร์ความทรงจำมา ครบรอบ 2 ปีของกริชรุ่นแรกครับ

ตามภาพจะเห็นมีแต่กริช มีดหมอ ไม่ใช่เสกปะปนอย่างอื่น

พอดีละครับ ศุกร์นี้ผมไปรับกริช รอการนัดหมายอีกครั้ง....

กริชทิ้งทวนนี้จะให้ดีไม่แพ้รุ่นแรกครับ....

 

พระกรุลาวทอง Hot มาก ต้องรอนะครับถ้าอยากได้แบบงามๆ

พรรคพวกท่านที่ถวายมากำลังไปเสาะหาเพิ่มอยู่ครับ คือตอนนี้นะมีที่พรรคพวกท่านแต่ไม่สวยครับ

แน่นอนหลังได้มาต้องขอท่านปรมาจารย์ปรับกระแสให้ เผื่อว่ามีอะไรติดมา( อะไรที่ไม่อยากให้ตามมา)

 

จากการอ่านกระแสพบกว่า พระกรุพิมพ์นาคปรกนี้ มีการเข้าถึงได้เรียกว่าง่ายก็ง่ายเกินคาด จะว่ายากก็ยากสุดขีด เพราะหลักการเข้าถึงในการอ่าน และการบูชาเป็นไปในแนวทางเดียวกัน โดยปกติการอ่านกระแสในแนวทางของนักสัมผัสจิต จะเป็นการอ่านแบบดึงกระแสออก หรือพูดง่ายๆ คือการอ่านกระแสที่เปล่งออกมาจากวัตถุนั่นเอง เพราะการอ่านแบบเข้าในวัตถุถ้าเป็นเครื่องรางสายอาถรรพ์อาจเกิดปัญหาได้
แต่ทุกวิธีทางในการอ่านผมไม่สามารถใช้กับพระนาคปรกนี้ได้เลย โดยแซวจาก Admin ว่าให้ใช้ทุกตะกรุดอ่านเลยก็เถิด555 ซึ่งผมเองได้ทดสอบแล้วตอนที่รับพระมาแล้วอ่านแบบคร่าวๆ โดยอ่านผ่านตะกรุดแม่ย่า พบว่าสามารถอ่านได้เพียงกระแสภายนอกที่ปรากฏ เท่านั้น ซึ่งสิ่งที่บอกกับจิตในตอนนั้นว่า

"กระแสนี้เป็นเพียงสิ่งภายนอกเล็กน้อยเท่านั้น เทียบกับภายนในไม่ได้เลย" จึงเกิดความสงสัย ในขณะช่วงเวลานั้น คำพูดของท่านปรมาจารย์ ที่ได้กล่าวไว้ว่า "ใจถึงพระ" จึงได้น้อมนำแนวทางในการปฏิบัติกรรมฐานที่ฝึกมานานแล้ว น้อมจิตน้อมใจเข้าสู่องค์พระ ปรากฏเป็นนิมิตแห่งสภาวะเป็นว่า จิตอยู่ท่ามกลางการคุ้มกันรอบด้าน นิมิตเป็นดั่งแผ่นอักขระยันต์ต่างๆ อยู่รายล้อมรอบตัว ไม่ได้เรียงต่อกัน ไม่ได้อยู่นิ่งๆ แต่มีการเคลื่อนที่ตลอด รอบๆ ตัวเรา แน่แผ่นยันต์นั้น มีการวิ่งแบบทับซ้อน มีหน้ามีหลัง เหลือมกัน เหมือนจะมีช่องว่าง แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เหมือนค่ายกลซับซ้อนก็ว่าได้ อาจเรียกสภาวะนี้ได้ว่าบารมีป้องกันสิบทิศ ส่วนกระแสด้านอื่นๆ ผมจะไม่ลงรายละเอียดมากนัก สำคัญที่ว่าผู้บูชาท่านใดใจถึงพระได้ ก็จะเข้าใจด้วยตัวเองครับ

 

การเผยแพร่พระกรุ และเครื่องรางต่าง ๆ เป็นการชี้แนะ และเล่าสู่การฟังตามหัวข้อกะทู้ครับ คือเชิงเล่านิทาน แม้การสัมผัสกระแสพลังก็ตาม

อย่างหนึ่งสิ่งสำคัญก็เพื่อความเพลิดเพลินและแก้เบื่อให้ชีวิตมีสีสัน

ดังผมเล่าสอดแทรกหลักธรรมเสมอ อย่างน้อยก็มีงานบุญกุศลพ่วงด้วยตลอดครับ

ทุกวัตถุมงคล ก็รอผลตอบรับ ผลการนำไปใช้ของทุกท่าน เพราะเกริ่นไว้แล้วว่า "จะดีใจมากถ้ามีผู้มาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง เสมือนกำลังใจ"

หากใช้ด้านปราบ ก็มีผู้มาเล่าปราบมารได้จริง หากใช้ด้านลาภดังชุดพระสีวลี ก็มีผู้มาเล่าว่ามีลาภมาจริง ๆ หากใช้ด้านเสน่ห์ ชุดขุนแผนก็มีผู้ส่งภาพห่มจีวรมาให้ชม

หลักการใจถึงพระ ก็คุยกันกับ QC ว่าต้องมีคำถามทำอย่างไร จริง ๆ ก็ไม่ยากนะครับ ไม่ต้องถึงขนาดจับพลังตรวจสัมผัสหรอกครับแค่...

1. ศรัทธา เหมือนที่ผมโดนครูบาอาจารย์สอนมานั่นละครับ แบบเรียนหนังสือ แต่เราไม่เชื่อโรงเรียนว่าสอนดีจริง แล้วจะเกิดผลอย่างไร

หรือครั้งหนึ่งนำตะกรุดที่บูชามา ไปขอหลวงปู่ท่านนึงเสกเพิ่ม ท่านดุเลย "ของดีอยู่แล้ว ถ้าไม่เชื่อก็อย่าใช้"

2. การได้มาโดยถูกต้อง ก็บูชาจากงานบุญมา ไม่ใช่ขโมยมา และต้องสะอาดคือไม่มีอะไรแฝงติดมา เพราะได้กล่าวเล่าไปแล้วว่าพระกรุ อันตรายมาก ด้วยความยาวนาน อาจมีอาถรรพ์เช่น เขาสร้างไว้ฝากพระศาสนาเราไปเอามาก็ติดหนี้สงฆ์ ต้องมีการผาติกรรมมา และเจ้าของคนก่อน ๆ อีกอาจหวงแหนเป็นต้น

3. เมื่อเลื่อมใส ก็น้อมนำใจเข้าถึงพระ คำว่าเข้าถึงพระก็หมายถึง การน้อมนำจิตใจ เสมือนทำสมาธิ และผูกพันจิตใจไว้กับพระ ซึ่งก็คล้ายหลักการดูกระแสพลังพระ คือน้อมใจลงสู่พระ หรือทำใจให้นิ่งเอาใจเข้าไปสัมผัสกระแสก็แล้วแต่กลวิธีของแต่ละท่าน...

4. ครูบาอาจารย์ผู้ล้ำเลิศระดับท่านปรมาจารย์ย่อมชำนาญการทางจิต อภิญญาย่อมสัมผัสได้ล้ำลึกกว่าปุถุชนทั่วไป สามารถอ่านถึงประวัติพระ วัตถุมงคลได้เลย เหมือนปราชญ์ อ่านปราชญ์นั่นละครับ

สรุป อย่างเราๆ เอาใจไว้กับพระ ไม่ใช่มีแล้วมองพระเป็นเครื่องประดับหรือไว้อวดว่าได้พระดัง... ก็ดึงอำนุภาพได้แล้วละครับ...