เพื่อการกุศล ปิดประมูลรอบที่ ๕๙

กุมารทรัพย์สมบูรณ์ เข็มขัดแดง

เนื้อนวโลหะล้วนๆ แบบไม่ตัดเดือย ไม่ขัดผิว

 

ทรัพย์สมบูรณ์ สามพิมพ์

๑ นว ไม่ตัดเดือย ไม่ขัดผิว

๒ นว ตัดเดือย ไม่ขัดผิว

๓ ทองแดงผสมชนวน ขัดผิว

 

ทรัพย์สมบูรณ์ เนื้อ นว ตัดเดือย ไม่ขัดผิว

กุมารทั้งสามตนนี่ ผมพยายามถ่ายรูปอยู่นาน ผลไม่น่าพอใจ อาจจะถ่ายใหม่ ถ่ายยากครับ น่าจะเพราะเป็นรูปหล่อ

 

กุมารทรัพย์สมบูรณ์เนื้อทองแดงผสมชนวน ขัดผิว

ตนนี้พอมาถ่ายรูป มีรอยรานด้านขาหลัง แต่พอส่องดู ไม่ใช่มารานทีหลัง รานมาจากพิมพ์แยก เนื้อติดเต็ม แต่พอจะเอาประมูลผมจะเปลี่ยนตนใหม่ให้สวยๆครับ

 

ประมูลรอบที่ ๔๙ ลป บุญศรี ลป เล็ก ลพ ทรง ลพ อั้บ พระครูมานิตย์

รายการที่ ๑ เหรียญบิน รูปพระพุทธ เปิดที่ราคา ๑ บาท




เหรียญพิมพ์นี้ ของเก๊จังๆผมยังไม่เคยเห็นน่ะครับ แต่อาจจะมี .....เมืองนี้เขาปลอมพวกเนื้ออัลปาก้าเก่ง เห็นแต่ เหรียญบิน รูปหลวงพ่อมีมานานแล้วครับ

เหรียญบินนี้ มีประวัติที่ผมทราบมามีหลายอย่างน่ะครับยาวเหยียด เป็นต้นตำหรับเหรียญบินของจริงที่ไม่ได้มาโฆษณาในยุคนั้น แต่คนร่ำลือกันมาเอง จัดเป็นเหรียญยอดนิยมของ คนท้องถิ่น ที่ราคาพุ่งแรงมาก ของก็หายากซ่ะอีก ของเสริมไม่มีครับ มีแต่เก็ไปเลย ของแท้ ผมเห็นมาประมาณ ๕-๖๐ เหรียญ น่าจะมีบล็อคเดียวครับ ง่าย มีจุดตายให้บังคับหลายจุด ผมดูว่าปลอมยาก เพราะมีกระหลั่ย เพิ่มมาอีก

อาจารย์ที่ปลุกเสก เอาแค่หลวงพ่อทรงองค์เดียวก็เหลือกิน เหลือใช้แล้วครับ เพราะเมตตาสูง แถมเสน่ห์ แถมโภคทรัพย์ให้อีก ส่วนคงกระพันและมหาอุด ก็มีครบตามแนวพระอ่างทองยุคเก่าๆ ตามรอยพวกอาจารย์ของท่าน

ที่นี้ยังมีหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ มาเป็นประธาน หลวงพ่อมุ่ยของสุพรรณนี้ ขอบอกว่า นอกจาก หลวงพ่อเนียมวัดน้อยแล้ว เกียรติคุณหลวงพ่อมุ่ย ท่านเกรียงไกร เป็นอย่างยิ่ง ในด้านของขลัง จัดเป็นปรมาจารย์แห่งยุค คนเคยไปเจอท่าน จะบอกว่าท่านนั่งนิ่งอย่างเดียว ไม่ค่อยพูดจา แค่เห็นหลวงพ่อกระพริบตาเท่านั้น ไม่งั้นนึกว่าท่านเป็นหุ่นนั่งอยู่ แต่พลังจิตเหลือล้น เสกของบิน ของตั้งได้ เสกแล้วสิงห์วิ่งหมุนในบาตร เสกตะกรุดคาดเอว สายตะกรุดจะบิด แล้วตั้งคอเหมือนงู ตบผากระดานที่ท่านนั่ง แต่เหรียญที่อยู่ในบาตรห่างเป็นวา กระเด็นออกจากบาตรมาจำนวนเท่าที่คนขอ โดยท่านไม่ต้องลุก โอ้โฮ แต่ละเรื่องสุดยอด เขาบันทึกไว้เป็นเล่มๆ แถวบ้านผมนนทบุรี เคยมีที่ลองยิงของ ลองยิงของท่าน เช่นตะกรุด จนคนยิงเดี้ยง เบลอคุยไม่รู้เรื่อง ( สงสัยโดนกระดอนสะท้อน ) ต้องเอาขึ้นหลังรถปิคอัพ ไปกราบขอขมา ขอหลวงพ่อรดน้ำมนต์ แต่ที่ยิงน่ะ ไม่ได้แอ้มน่ะครับ ยิงไม่ออก เล่าแล้วยาวมาก

นอกจากนั้นยังมี พระองค์อื่นเช่นหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรีและพระแถวอ่างทองใน พ.ศ.นั้นอีกหลายองค์ ผมไม่ทราบว่ามีท่านใดบ้าง ไม่อยากมั่ว ไม่อยากเดา แต่ยุคนั้นเก่งๆ เงียบหลายองค์ครับ เช่นหลวงพ่อเกรียง วัดวังน้ำเย็น แสวงหา สหธรรมมิกของท่าน แล้วอีกหลายองค์ครับ

มารวมกันเสกในโบถส์ เหรียญจึงบินออกมาจากในบาตร เพราะพลังคงล้น ผมพอสนิทกับหลวงพ่อแล้ว กราบเรียนถามท่าน ว่าเหรียญเขาบินเหรอครับหลวงพ่อ
ท่านหัวเราะหึๆ บอกว่า
แค่ขยับกรุกกริ้กเท่านั้นแหละ

เรียกว่าท่านถ่อมตัวครับ

เงินทุกบาทเข้ากองทุนต่อยอดพันบุญทุกบาท ไม่มีหักค่าใช้จ่ายครับ

 

รายการที่ ๒ รูปถ่ายขาวดำ อัดกระจกรุ่นแรก หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน(มอญ) ...เปิดที่ราคา ๑ บาท





รูปถ่ายนี้ ผมเขียนไว้น่าจะสองครั้ง คนล่ะตอนคนล่ะเหตุการณ์กัน จึงอยากนำมารวมกันไว้ในที่เดียว เพราะเป็นของรุ่นแรกๆของหลวงพ่อตอนกำลังสร้างวัด ยังหนุ่มอยู่ ได้รับพัดยศ พระครู

ในท้องที่แต่เดิม เล่นกันว่ารูปถ่ายนี้ สร้างก่อนเหรียญบิน ประมาณ ปี ๒๕๑๒ สร้างโดยโรงเรียนเจ้าเก่า และออกให้ทำบุญ หลวงพ่อท่าน ปลุกเสกให้แน่นอน รูปนี้หายากมาก ผมไม่เคยได้รูปนี้ตอนหลวงพ่อยังทรงสังขารอยู่ ผมเลยไม่เคยถามเกล็ดเกี่ยวกับรูปกับปากหลวงพ่อ เพียงแต่ผมทราบว่ามี และหาชมยากมาก ถ้าสร้างในปีนั้น หลวงพ่อจะมีอายุประมาณ ๔๖ พรรษา และได้รับพัดยศพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ( อันนี้ผมลองหาดูแล้วก็ไม่ทราบว่าปีอะไร แต่ท่านได้ชั้นโท ในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ในพระราชทินนาม พระครูสุภัทรธรรมโสภณ ตอนนั้นท่านจะมีอายุประมาณ ๖๙ พรรษา)

ต่อมาหลังจากหลวงพ่อล่ะสังขาร ผมนำเรื่องของหลวงพ่ออีกมุมหนึ่งมาเผยแพร่ ในปี ๒๕๕๐ ในเว็บสวนขลังคนก็ติดตามอ่านกันมาก รวมทั้งพวกนายทุนสร้างและขายพระ เครื่องราง ก็มาหาเรื่องด่า มาแซวผม จนผมต้องไปแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาท คดียังคาอยู่ที่โรงพัก แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็มีมิตรใหม่เพิ่มมากขึ้น และต่อมาทำให้ผมได้ครอบครองรูปถ่ายนี้ สภาพดีเยี่ยมมาอีกหลายบาน

ต่อมาเมื่อผมค้นคว้าลึกลงไป จากคนหลายคน มีท่านหนึ่งที่เป็นครูโรงเรียน วัดศาลาดินนี่ ซึ่งรู้จักหลวงพ่อมา ร่วมสามสิบกว่าปี รู้และทันเหตุการณ์หลายอย่าง ยืนยันอย่างมั่นเหมาะว่า รูปถ่ายนี้สร้างหลังเหรียญบินประมาณปีหนึ่ง น่าจะเป็นปี ๒๕๑๔ ตอนนั้นหลวงพ่อ จะมีอายุประมาณ ๔๘ พรรษา

ผมเองค่อนข้างจะเชื่อว่าสร้างหลังจากเหรียญบินในปี ๒๕๑๓ เหตุผลเพราะว่า หลวงพ่อได้เป็นเจ้าอาวาสวัดศาลาดิน ประมาณ ปี ๒๕๑๓ เมื่อได้เป็นเจ้าอาวาสก่อนแล้ว ถึงจะได้ยศพระครูชั้นตรี พระครูสังฆรักษ์ ( ทรง ) ตามหลักฐานรูปถ่ายที่มีพัดยศวางอยู่ข้างๆหลวงพ่อ ท่านคงไม่น่าจะได้พระครู ก่อนจะเป็นเจ้าอาวาส คือตอนยังเป็นพระลูกวัด ยังอยู่วัดไร่อยู่ก่อน แต่ตามเหตุผล น่าจะได้เป็นพระครูหลังจากเป็นเจ้าอาวาสแล้วน่ะครับ


และก่อนจะย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดศาลาดิน ท่านเป็นพระลูกวัดอยู่ที่วัดไร่ จากการสอบถามถึง พระที่อยู่วัดไร่เดิมที่รู้จักหลวงพ่อมา ท่านก็บอกว่าหลวงพ่อทรง ท่านชอบอยู่ของท่านเงียบๆ เฉยๆตามแบบฉบับของท่าน ตอนชาวบ้านไปนิมนต์มาอยู่วัดมอญ ซึ่งชำรุดทรุดโทรมอย่างมากในตอน พ.ศ. นั้น หลวงพ่อท่านไม่ค่อยอยากจะมาซ่ะด้วยเป็นคนรักสันโดษ รักความเงียบ ตามแบบพระกรรมฐาน และเพราะคงรู้การณ์แล้วว่าต้องเหนื่อยแน่ๆ ในการสร้างวัดขึ้นมา

และจากอุปนิสัยของหลวงพ่อที่ผมใกล้ชิด ท่านไม่ชอบวุ่นวาย ไม่ชอบการก่อสร้าง การโน่นสร้างนี่ ( อันนี้เหมือนอาจารย์ของผม ที่ท่านชอบอยู่เงียบ กุฏิ โทรม ๆ ที่ไปสร้างให้ท่านก็ลูกศิษย์หาเรื่องไปให้ท่านทั้งนั้นรวมทั้งตัวผมด้วย ในชีวิตท่านสร้างแต่กำแพงวัดไว้หน่อยเดียว การสร้างวัดอันนี้เป็นบารมี เฉพาะตัว บางองค์สร้างเก่งมาก สร้างมาหลายสิบวัด เช่น หลวงปู่ปาน หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อฤาษี แต่บางองค์ไม่ชอบสร้างเลย ชอบอยู่เงียบๆมากกว่า )


เพราะฉนั้นพอท่านมาอยู่วัดศาลาดิน ก็ดำเนินการตามแบบฉบับของการสร้างวัดตามรอยครูบาอาจารย์ในยุคสมัยวัตถุนิยม จึงเริ่มออกวัตถุมงคล เพื่อสร้างวัด ใน พ.ศ. แรกนี่เองคือ ๒๕๑๓ ชุดเหรียญบิน มีพระคณาจารย์เก่าๆ มาปลุกเสกให้เยอะ สายวิเศษฯ สุพรรรณ อ่างทอง ที่ไม่ทราบชื่ออีกหลายองค์ แบบซุ่มๆ แบบว่ามาช่วยกัน ถึงกัน หลังจากนั้นก็ออกวัตถุมงคลมาเรื่อยๆ ของที่ออกก็จะเป็นของสั่งทำซ่ะส่วนมาก พวกเหรียญ พระเนื้อผงน้ำมัน ยุคนี้เอง น่าจะเป็นยุคของรูปถ่ายอัดกระจกนี้ และน่าจะออกมาหลังจากท่านเป็นเจ้าอาวาสแล้ว ซึ่งไม่น่าจะออกก่อนนั้น และน่าจะออกหลังเหรียญบินมา จึงตกลงสรุปได้ว่า ชุดเหรียญบินคือ น่าจะเป็นชุดแรกจริงๆ

รูปถ่ายขาวดำนี้ ถ่ายรูปได้ดี ขนาดกระทัดรัด ห้อยได้ทั้งชาย หญิง และเด็ก มีขนาดประมาณ ๒.๗ x ๑.๘ ซ.ม. ขนาดอาจจะแตกต่างไปจากการตัดกระจก มีรูปหลวงพ่อนั่งยิ้มอยู่บนอาสนะ ข้างหลังมีฉากผ้าม่าน พร้อมกับพัดยศพระครู และยันต์ห้า อยู่ข้างๆหลวงพ่อ และมีเขียนชัดเจนด้วยลายมือสวยงามว่า หลวงพ่อทรงบนหลวงพ่อ และข้างล่างของท่าน มีคำว่าวัดศาลาดิน ( มอญ ) ชัดเจน รูปหลวงพ่อยังดูหนุ่มอยู่มาก ส่วนข้างหลัง เรียบว่างไม่มีอักขระหรือยันต์อะไร

รูปถ่ายนี้อย่างไรก็ตามหลวงพ่อปลุกเสกแน่นอน ตอนหนุ่มนี่วิชายังแรง ตามสไตล์พระหนุ่ม และรูปนี้ หายากมากครับ หายากมากกว่า เหรียญบินรูปพระพุทธซ่ะอีก ถ้าไปเจอหลงอยู่แถวไหนคว้าไว้ทันทีน่ะครับ พวกที่บอกว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ ถึงจะมีเหรียญบิน แต่ก็ไม่มีรูปถ่ายรุ่นแรกแบบนี้ครับ อาจจะเป็นเพราะปริมาณมีน้อย น่าจะทำแค่แค่หลักร้อยน่ะครับ จัดว่าเป็นวัตถุมงคลของหลวงพ่อที่ ไม่ค่อยได้พบเห็นกันง่ายๆชิ้นหนึ่ง

ในรูปจะเป็นรูปถ่ายอัดกระจกเรียงกันไปสามบาน อันแรกเป็นอันที่ผมใช้ติดตัวอยู่ ผมเลยเอาเส้นเกศาของหลวงพ่อ แล้วเอาชันโรงแปะไว้ เอาไปเลี่ยมกันน้ำจับขอบทอง อันกลางได้มาจากลูกศิษย์ที่นับถือหลวงพ่อ เขาได้มาได้นำไปให้หลวงพ่อจารด้วยหมึก อาจจะอ่านยากหน่อย นอกจากนั้นยังเอาเกศาของหลวงพ่อติดไว้ด้วย แล้วเอาไปเลี่ยมปลาสติกกรอบเงิน ดูสวยงามดี อันสุดท้ายเป็น รูปถ่ายเปลือยๆ เอามาวางไว้เพื่อเทียบขนาด ในรูป ตารางเขียวข่างล่างเพื่อเอาไว้เทียบ สเกล หนึ่งช่องคือ หนึ่ง เซนติเมตรครับ จะได้พอก่ะขนาดได้ถูก ว่ามีขนาดกระทัดรัด น่าใช้ติดตัวเป็นอย่างยิ่ง หายากกว่าเหรียญบินมากครับ

แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2017

เงินทุกบาทเข้ากองทุนต่อยอดพันบุญ ไม่มีการหักเด็ดขาด

 

รายการที่ ๓ ตะโพนกลึงชุดที่ ๕ หลวงพ่อทรง วัดมอญ.......เปิดที่ราคา ๑ บาท



ชุดที่ ๕ เนื้อทองแดง แต่ชุดนี้ ช่างกลึงเริ่มชำนาญมากขึ้น ก่ะแม่นขึ้น จะตัดตะโพนสั้นลง ทำให้ดูป้อม ยาวประมาณ ๑.๑ เซ็นต์กว่าๆ แต่ดูป้อมลงเยอะ ตอกโค้ด ตัว ท และ ท หยดน้ำ
ดูความยาวและความกว้างของตะโพนได้พอเป็นตัวอย่างครับ

ตะโพน แบบกลึง

ตามที่ได้เกริ่นไว้ เมื่อหลวงพ่อแสดงความต้องการตะโพน เพื่อมาโปรดญาติโยม ผมก็ได้ไปซื้อทองแดงแท่ง ( มีใช้ทองเหลืองแท่งอยู่ชุดหนึ่ง ) ที่ตลาดน้อย บริเวณร้านที่ไปซื้อ แผ่นทองแดง และทองเหลืองมาลงตะกรุด แล้วก็เลยต่อไปร้าน แถววัดสัมพันธวงศ์ เพื่อซื้อตะกั่ว และปรอทแถววัดสามปลื้ม จัดว่าเป็น trip เดียวกันเพราะอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน

ทองแดงพวกนี้เป็น ทองแดงแท่งจากนอก เนื้อแน่น ผมเคยซื้อพวกเศษทองแดงแท่งจากนอกนี้ พวกแท่งเหลี่ยม แท่งกลม แบบแผ่น ซึ่งปกติสำหรับงานกลึง เอาไปหล่อพระ ในวันวิสาขาห์ปี ๒๕๔๙ ปรากฎว่าหลอมยาก เผาข้ามวัน ทองยังไม่ละลายดี ผิวทองในเบ้ายังเป็นดอกกระหล่ำปลีอยู่ ช่างหล่อพระบ่นอุปเลยครับ.....แหะๆ

ตกลงทองแดงพวกนี้จัดว่าเป็นทองดี เนื้อแน่น เหมาะกับงานกลึง ผมให้ช่างกลึง ซึ่งช้าบางทีรอนานมาก เสร็จแล้วผมเอาไปให้ช่างเชื่อมห่วงตามที่หลวงพ่อต้องการ จำได้ว่าช่างเชื่อมห่วงนี้ มีสองคน คนแรก ทำงานดี เร็ว แต่ตอนหลังคงเพราะงานเชื่อม บัดกรีที่แกทำมานาน ทำให้แกเป็นเป็นมะเร็ง งานทำตะโพนเลยชะงักไป จนมาได้ช่างที่สองซึ่ง มีอารมณ์ศิลปินมากๆ เลยทำงานช้ามาก รับงานไปแล้ว ก็รอแล้วรออีก อันนี้เป็นสาเหตุให้รุ่นสุดท้ายไม่ทันให้หลวงพ่อเสกตอนสบายดี แต่ ไปเสกตอน ไม่สบายแล้ว แต่เป็นชุดทิ้งทวนน่ะครับ

ตามหลักฐานทางกายภาพที่ผมเก็บไว้ มี อยู่ ๘ ชุด ทำมาเรื่อยๆ ไม่มีรุ่น ไม่ได้จดไว้ ทำทีเท่าไหร่ กี่ลูก เพราะแล้วแต่ วัสดุที่ หาได้ น้อยที่สุด ที่จำได้ คือ ๕๐ ถึง ๖๐ ลูก มากที่สุดคือ ๑๐๐ กว่าลูก กว่าจะได้แต่ล่ะชุดรอนานมาก ไม่งั้นจะมีมากกว่านี้ แต่รวมๆทุกชุด ประมาณ ๑๐๐๐ ลูกนี่แหละครับ ถ้าขาดก็ไม่มาก ถ้าจะเกินก็ไม่มาก ทำมาถวายบูชาคุณหลวงพ่อ ต่อวิชา ท่านจะได้ไปโปรดคนและ ได้เงินทองมารักษาตัวท่านน่ะครับ นี่คือ เจตนาของผม

ตะโพน เมื่อตอกโค้ดแล้วถวายหลวงพ่อเสก ผมก็แบ่งของผมมาบ้างเพื่อ เอามาแบ่งพวกพระที่ สนิทกันและนายหมีและพวกเพื่อนๆที่เห็นค่าและที่เหลือเก็บเป็นตัวอย่าง ตอนนั้นจากใจทำถวายฟรี แต่พอตะโพนของทางศูนย์หมด คนต้องการ หลวงพ่อท่านเลยแบ่งไปให้พระวิโรจน์เอาวางไว้ในตู้ ครั้งล่ะไม่มากเพราะท่านหวงๆอยู่ ครั้งหนึ่งประมาณ ๑๐-๒๐ ใบ จำได้ว่าทางวัด จำหน่ายใบล่ะ ๓๐๐ บาท ก็หมดทุกที ส่วนหลวงพ่อจะแจกใครบ้างเป็นส่วนตัว ผมไม่ทราบครับ แต่คงเป็นพวกแนวศิลปิน ผมเอาตะโพนที่เก็บเป็นตัวอย่างมานั่งแยกจากการตอกโค้ด ความยาว ขนาดของห่วง รูปพรรณสันฐาน ปรากฏว่าได้ถึงแปดชุด ผมไม่เรียกรุ่นน่ะครับ เพราะไม่มีเจตนาทำเป็นรุ่นๆ เอาว่ามีรุ่นเดียว แต่ทำแปดครั้งก็แล้วกัน น่ะครับ

ส่วนจำนวน ผมบอกน่ะครับว่า ครั้งไหนทำเท่าไหร่น่ะ คือจำไม่ได้ครับ เนื่องจาก เศษทองแดง วัสดุที่หาได้มากหรือน้อย แต่มีจำนวน ๕๐-๗๐-๘๐-๙๐ ใบต่อครั้ง ไปจนถึงกว่า ๑๐๐ ใบต่อครั้ง แต่แปดครั้งรวมๆแล้ว น่าจะประมาณ ๑๐๐๐ ใบน่ะครับ ขาดหรือ เกินคงไม่มาก จัดว่ามีปริมาณ พอสมควร กระจัดกระจายไปหลายที่ ท่านที่ได้ไปจะได้ทราบประวัติน่ะครับ ว่ามีของพิเศษของหลวงพ่อวัดมอญอยู่

ชุดที่หนึ่ง ชุดแรก เนื้อทองแดง ยาวประมาณ ๑.๒ เซ็นต์กว่าๆ ที่ว่ากว่าๆนี้เพราะตัดด้วยการก่ะ บนแท่นกลึงน่ะครับ ซึ่งคงไม่ตรง เผะๆ แต่ยาวประมาณนี้ ตอกโค้ด ท พระเอก และ ท หยดน้ำ ( ท หยดน้ำอันนี้เป็นอันที่ถวายประจำตัวหลวงพ่อ )

โค้ด ตัว ท

โค้ด ตัว ท หยดน้ำ

ชุดที่ ๒ เนื้อทองแดง ยาวประมาณ ๑.๒ เซ็นต์กว่าๆเหมือนกัน ตอกโค้ด ท ตัวเดียวชัดๆ ท หยดน้ำก็ตอกหลบๆ แต่ขนาดจะยาวกว่าชุดแรกสักนิด

ชุดที่ ๓ เนื้อทองแดง ยาวประมาณ ๑.๒ เซ็นด์กว่าๆ เหมือนกัน ตอกโค้ด ท หยดน้ำ ตัวเดียว ( โค้ด ท หยดน้ำในห้องหลวงพ่อนี้ ตอนหลังหายไป )

ชุดที่ ๔ ชุดนี้แปลกกว่าเขาหน่อย คือลองเนื้อทองเหลืองดูเพราะทองแดง แพงกว่า หายากกว่า แต่มีปัญหาในการเชื่อมห่วงมาก เชื่อมไม่ค่อยติด ช่างบ่นมาก เลยเลิก ยาวประมาณเท่าเดิม คือ ๑.๒ เซ็นต์กว่าๆ ชุดนี้ตอกสองโค้ดคือ ตัว ท และ ท หยดน้ำ ครับแต่ทองเหลืองออกมาดูสวยครับ
ชุดที่ ๕ เนื้อทองแดง แต่ชุดนี้ ช่างกลึงเริ่มชำนาญมากขึ้น ก่ะแม่นขึ้น จะตัดตะโพนสั้นลง ทำให้ดูป้อม ยาวประมาณ ๑.๑ เซ็นต์กว่าๆ แต่ดูป้อมลงเยอะ ตอกโค้ด ตัว ท และ ท หยดน้ำ

ชุดที่ ๖ เนื้อทองแดง ยาวประมาณ ๑.๑ เซ็นต์กว่าๆ โค้ดก็ ตัว ท และ ท หยดน้ำ ที่จริงชุดที่ ๖กับชุดที่ ๕ แยกกันยากมาก ใกล้เคียงกันในการผลิตแล้ว แต่ผมจำได้ว่าถึงตอนนี้น่ะเปลี่ยนช่าง เพราะช่างคนเดิมป่วย ลักษณะน้ำยา และห่วงต่างกันไปบ้าง ผมเลยแยกชุดออกจากกัน

ชุดที่ ๗ เนื้อทองแดง ยาวประมาณ ๑.๑ เซ็นต์กว่าๆ แต่ห่วงใหญ่ ช่างคนใหม่บอกว่าต้องการสร้างสัญลักษณ์ใหม่ โดยใช้ห่วงใหญ่ ตกลงเอาไงก็เอา ตอกโค้ด ท ตัวเดียว

ชุดที่ ๘ เนื้อทองแดง ยาวประมาณ ๑.๑ เซ็นต์ กว่าๆ ห่วงใหญ่ ชุดนี้คือชุดสุดท้าย ได้มาเสกตอนก่อนหลวงพ่อล่ะสังขารไม่กี่วัน และไม่ได้ตอกโค้ด ผมทิ้งไว้ที่หลวงพ่อแทบทั้งถุง ดังที่เล่าไปแล้วน่ะครับก่อนหน้านี้

ตกลงจบทั้งหมดประมาณ ๘ ชุด หลังจากหลวงพ่อเสีย มีคนไปถามที่วัด ว่าต้องการตะโพนชุดกลึงนี่ กรรมการวัดรุ่นใหม่ ไปถามพระวิโรจน์ วานมาบอกถึงผมว่าทำมาให้ใหม่ได้ไหม มีคนถามหาอยู่เรื่อยๆ
พระวิโรจน์ท่านตอบไปทันทีโดยไม่ต้องโทรมาถามผมว่า
เขานับถือหลวงพ่อ
หลวงพ่อไม่อยู่แล้ว เขาไม่ทำมาหรอกโยม

เรียกว่าตอบได้ถูกใจโก๋แก่มาก แล้วผมไม่คิดเลยว่า คนที่มาวานพระวิโรจน์บอกให้ทำออกมาใหม่ จะเอามาวางขายที่วัดน่ะ เอาอะไรคิดน่ะครับ

บางคนน่ะคิดออกแต่เงินอย่างเดียว และคงคิดว่าคนอื่นคิดเหมือนเขาน่ะครับ ตกลงช่างคนไหนทำ ช่างคนไหนเชื่อม ก็อย่ารู้เลยว่าใครให้มันหายสาบสูญไป กับเวลา ส่วนโค้ด ท ก็ทำลายไปแล้ว โค้ด ท หยดน้ำ ของหลวงพ่อ ก็หายไป เอาเท่านี้ล่ะครับ ปิดตำนานตะโพนกลึงของวัดมอญน่ะครับ

แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2008

 

รายการที่ ๔ กุมารทรัพย์สมบูรณ์ ลป เล็ก วัดทำนบ เนื้อนวโลหะล้วน ไม่ตัดเดือย ไม่ขัดผิว ..............เปิดราคาที่ ๑ บาท

กุมารทรัพย์สมบูรณ์ สามเนื้อ

๑ นว ไม่ตัดเดือย ไม่ขัดผิว

๒ นว ตัดเดือย ไม่ขัดผิว

๓ ทองแดงผสมชนวน ขัดผิว

เข้าแถวเรียงเลยครับ มีแค่ ๑๑๕๙ ตน ไม่มีงอก ตอกโค็ด ทุกตน แจกจ่ายไปตามสายใครสายมัน ไม่มีจำหน่าย ไม่มีขายจากต้นทาง ( ส่วนใครเอาไปขายต่อก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลน่ะจ้ะ )







พี่ทรัพย์สมบูรณ์มีเนื้อ นวโลหะ ล้วนๆ เป็นเนื้อชนวนน่ะครับ ไม่ขัดผิว เนื้อผิวไฟเดิมๆ เจตนาไม่ได้กะจะทำเนื้อนี้ แต่จะเอาเป็นเนื้อสัมริด และ เนื้อเงิน แต่ช่างทำพลาด เอาเนื้อชนวนมาเท
สำนวน อาจารย์ อนันต์ และ พลตรี ประยูร ท่านบอกว่า งาน ผีผลัก งานแบบนี้ช่างทำ ผีผลัก หรือ เทวดาดลใจ เลยตามเลยครับ


รายได้ทุกบาทจะไปตัดค่ารักษษพยาบาล
รายได้ทุกบาทจะไปตัดค่ารักษษพยาบาล กุมารนี้ เท่าที่ถามๆ น่าจะเป็นรุ่นแรกแบบเป็นทางการ ที่ขออนุญาต และ ทำมาให้ท่านจำนวนเป็น หลักพันตน มาขอให้ หลวงปู่เล็ก ท่านเมตตาปลุกเสกให้น่ะครับ

ผมเล่าไว้ในกระทู้หาเท่าไหร่ หาไม่เจอครับ จำนวนการสร้างเดี๋ยวถามผู้สร้างอีกที แต่รวมๆกันแล้วแค่หลักพันเดียวครับ

กุมารนี้ ใช้ ต้นแบบมาจาก กุมารหลวงพ่ออั้บที่ท่านเสกให้ตามรูปครับ

ตนที่เป็นไม้ เอาไปถอดแบบ เพื่อเทหล่อด้วยโลหะ ช้ำพอสมควร ผมเอาทองมาทา เสริมสวยเขาหน่อย กุมารหลวงพ่ออั้บ ดีน่ะครับ แต่คงหายากหน่อย ท่านไปเน้นแม่พิม เพราะคนขึ้น ส่วนกุมารทอง ท่านไม่เน้น มีบ้าง แต่เทียบกับปริมาณแม่พิม แล้วน้อยมาก เพราะไม่อยากไปแข่งวัดดังวัดหนึ่งที่ท่านรู้จักกันดี เรียกว่า ท่านหลีกทางกัน ไม่ทับทางกัน มีความเคารพกัน

จำนวนการสร้างในปี ๒๕๕๘ สรุปไว้ตรงนี้

เงิน ๓๐ ตน
นวะ มีเดือย ๑๕๙ ตน
นวะ ๒๐๐ ตน
สำริด ๘๐๐ ตนขัดผิว


รายได้ทุกบาทจะไปตัดค่ารักษาพยาบาล หลวงปู่เลกวัดทำนบ ที่ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ทำ มาตั้งแต่ปี ๒๕๕๔ รวมๆกันเป็นเงินหลายแสนบาท แล้วครับ

 

รายการที่ ๕ กุมารทรัพย์สมบูรณ์ เนื้อนว ตัดเดือย ไม่ขัดผิว.........เปิดราคาที่ ๑ บาท

เอารูปนี้น่ะครับ ตัวจริงสวยกว่ารูป ใครสนใจจะให้ถ่ายใหม่ก็จะลองดูครับ เนื้อนี้นวโลหะสูตร ศิาญ์วัดเงินชนวนดีๆ เสกกันมาหลายที มีเงิน มีทองคำผสมเพียบครับ



แบบนี้เป็นเนื้อ นวโลหะ ไม่ขัดผิว เท ๒๐๐ ตนครับ เป็นเนื้อชนวนล้วนๆ ทั้งชนวนของเก่า ทอง เงิน ครับ ใครชอบแนวเนื้อในดี เสกมาเป็นสิบเสก เทในพิธี เป็นสิบๆครั้ง นี่ใช่เลยครับ เนื้อหาเทียบพระกริ่งเลยครับ
นวะจะต่างจาก สำริด ตรงที่ท้อง จะตอกเลข ๙
ถ้ามี เลข ๙ ที่ท้อง จะล้างผิวหรือไม่ล้าง คือ นวะ ทั้งหมด เป็นเนื้้อชนวนเสกมาหลายสิบครั้ง ผสม เงิน ผสม ทองมาค่อนข้างเยอะครับ

รายได้ทุกบาทจะไป สมทบค่ารักษาพยาบาล หลวงปู่เล็กที่วิชัยยุทธครับ

 

รายการที่ ๖ กุมารทรัพย์สมบูรณ์เนื้อสัมฤทธิ์ ทองแดงผสมชนวน ขัดผิว ......เปิดราคาที่ ๑ บาท



แบบนี้เทมากที่สุดครับ เป็นชนิดที่แผ่หลายออกไปหลายท่าน แต่จะมีคนเก็บมากกว่าเอามาขายครับ

การ ปลุกเสกสองครั้งโดยหลวงปู่เล็ก ครั้งแรก เสกเดี่ยว ร่วมกับชุดรูปหล่อ ๙ นิ้ว ครั้งที่สองนำมารวมกับล็อกเก็ต นิ้วเพชรรุ่นแรก ขอท่านลงวิชานิ้วเพชร ให้ด้วยครับ

ส่วนของผมเมื่อแบ่งกันแล้ว ผมนำไปขอหลวงพ่อแม้นท่าน เสกกำกับให้อีกที แนวกุมาร และ รักยม ของท่านดีครับ และ ตัวกุมารทรัพย์สมบูรณ์ น่ะ มาจากท่านนี่เองครับ

ในส่วนของผมแจก ไปตามคนรู้จักหลายคน แถวซอยที่บ้าน สำหรับคนที่เชื่อ ไปช่วยทำมาหากิน

รายหนึ่งเป็นช่างตัดเสื้อผู้หญิงกลางคน ที่ผมจ้าง นุ่งโจงกระเบน พี่ทรัพย์สมบูรณ์นี่แหละครับ เขาเห็นชอบใจเลยขอไปตน ตั้งแต่ได้ไป งานไม่ว่าง จะไปขอลัดคิวนี่ต้องไปคุม เขาเล่าให้ฟังว่า เลี้ยงขนม นมเนย ตามกำลัง งานก็เข้ามาไม่ขาด และ ฝันว่ามี เด็ก สองคน มาวิ่งเล่นกันในร้าน ฝันเห็นหลายครั้ง

อีกรายเป็น ผู้หญิงวัยกลางคนเหมือนกัน และ เป็น ช่างตัดเย็บเหมือนกัน เขาเล่าว่าตั้งแต่ได้มา เขาฝันเห็น เด็กมาเล่นกัน ประมาณ ๔ - ๕ คนในร้าน งานก็เริ่มเข้ามามาก ทำไม่ค่อยทัน

ผมเองไม่เคยเห็นพี่ทรัพย์สมบูรณ์ เลยตอบไม่ได้ แต่ ผม คิดว่า พี่ทรัพย์สมบูรณ์ที่มากับรูปหล่อ ที่ครูบาอาจารย์ ท่านอัญเชิญและ ประจุให้ นี้มีมากกว่า ๑ ตนน่ะครับ มาแบบเป็นทีมครับ และเป็นเทพ เทวดา ไม่ใช่พวก สัมภเวสี อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลน่ะครับ

รายได้ทุกบาทไปวิชัยยุทธ ค่ารักษาพยาบาล หลวงปู่เล็ก ครับ

 

รายการที่ ๗ วัวธนูพระครูมานิตย์ ...เปิดราคา ๑ บาท

เนื้อกระเบื้องเคลือบน้ำยา ทำได้สวยงาม รายการนี้ สำหรับท่านที่เอาไปป้องกันตัวน่ะครับ ไม่ใช่แนว โชคลาภ ทำมาหากินน่ะครับ แต่แนวป้องกันตัวจากสิ่งที่มองเห็น และ ที่สำคัญ มองไม่เห็น มารบกสนตอนเวลานอนหลับ แนวๆนี้ ครับ

จารและปลุกเสกโดยพระครูมานิตย์ นำไปปลุกเสกซ้ำกับหลวงพ่ออั้บ ในพรรษา ๕๓/๕๔ เล่นเป็นของท่านพระครูน่ะครับ ไม่อ้างเป็นของหลวงพ่ออั้บ

ผมมีทั้ง วัวธนู ควายธนู หลวงพ่ออั้บ ขอให้หลวงพี่ลง ให้ แล้ว เอาไปใส่ลังขอหลวงพ่ออั้บท่านเสกเพิ่มให้ตลอดพรรษาประมาร ปี ๒๕๕๓ อีกปี ก็มี ๒๕๕๔ จำไม่ได้ว่า ชุดไหนปีไหนน่ะครับ

คู่หนึ่งผมเอาไปตั้งไว้ประจำหน้าบ้าน อธิษฐานว่า คนหรือ วิญญาณร้าย มา จัดการได้เลย

ไอ้ตัวมา ปิ้ดๆ หน้าบ้านผมตอนเที่ยงคืน ตั้งแต่นั้นเงียบไป แต่กลางคืน เฉพาะบางวัน พอเที่ยงคืน เป็ะ หมาหอนทันที เพราะเป็นทางสามแพร่งครับ ตะวันออกไปตก เข้าสูตร คูณ ของ พวก เร่ร่อน สัมภเวสี เลยครับ ผมไม่มีเครื่องเซ่นทางสามแพร่งครับ คนพุทธครับ กรวดน้ำ ให้อย่างดียว กับสัมภเวสี รอบบ้าน แจกบุญ แจกกุศล เหล้าไม่แจก ของสด ของคาวไม่ให้ เหล้าให้เฉพาะ แม่พิม เพราะเขาชอบ เขามาคุ้ม ตัว คุ้มบ้านให้

ผมไปซื้อไว้ แบบ เซรามิค จำนวนหนึ่ง ถ้าคุณขอมา จะออกประมูลได้ ส่วนหนึ่งครับ แต่ของแบบนี้ไม่เหมาะแก่พวกค้าขาย เมตตาน่ะครับ โดยเฉพาะควายธนู พี่ควายเขาไม่รับแขกครับ ใส่อย่างเดียวครับ

ของหลวงพ่ออั้บมีตัว มีตน ตามหลักไสยศาสตร์ ที่มีรูป มีนาม มีจิต มีวิญญาณ มีอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ครับ







รายได้ทุกบาท เข้ากองทุนต่อยอดพันบุญครับ

 

รายการที่ ๘ วัวธนูพระครูมานิตย์ ...เปิดราคา ๑ บาท

ผมไปซื้อไว้ แบบ เซรามิค จำนวนหนึ่ง ถ้าคุณขอมา จะออกประมูลได้ ส่วนหนึ่งครับ แต่ของแบบนี้ไม่เหมาะแก่พวกค้าขาย เมตตาน่ะครับ โดยเฉพาะควายธนู พี่ควายเขาไม่รับแขกครับ ใส่อย่างเดียวครับ

ของหลวงพ่ออั้บมีตัว มีตน ตามหลักไสยศาสตร์ ที่มีรูป มีนาม มีจิต มีวิญญาณ มีอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ครับ






รายได้ทุกบาท เข้ากองทุน ต่อยอดพันบุญครับ

 

รายการที่ ๙ ปลัดขิก ไม้มะยมตายพราย และสีผึ้งพระอินทร์ ชาววัง ....เปิดราคาที่ ๑ บาท

ท่านที่เน้นแนว ทำมาค้าขาย อย่าพลาดรายการนี้น่ะครับ นานๆเอาออกมาที



ปลักขิก ตอกโค็ด แพโบสถ์น้ำ ที่ด้านท้าย ทำจำนวน ๑๐๐ ตัว ปลุกเสกหลายครั้ง

สีผึ้งตลับนี้พิเศษมีทองคำเปลว ๑๐๐ ที่ หลวงปู่พระครูบุญศรี ลง นะ หน้าทอง ปิดอยู่ให้พิเศษ แต่สีผึ้งเขาเต็มตีแหลกไปแล้ว ยังเห็น จุดๆอยู่ นานๆผมจะเอาออกมาน่ะครับ มีไม่มาก

สีผึ้งพระอินทร์ หลวงตาเล็ก วัดใหม่ฯ



สีผึ้งหลวงปู่

มาคั่นเรื่องพระกริ่งนี้หน่อยน่ะครับ เขียนเอาใจแฟนๆบ้านเหรียญบิน เพราะไม่รู้อะไร หากันจัง โทรมาถามผมหลายราย เมล์มาก็มี PM ก็มี มาเล่าเรื่องสีผึ้งกันหน่อย สีผึ้งหลวงปู่มีเรื่องเล่ามากมายหลายเรื่อง ไม่ใช่สำหรับผมคนเดียว แต่น่าจะเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ส่วนใหญ่ เพราะแน่นอนไปหาหลวงปู่บ่อยๆ ต้องเคยได้แจกจากหลวงปู่ เพราะท่านชอบแจกสีผึ้ง

เมื่อได้แจกไปย่อมมีประสบการณ์ หลายแนวและหลายเรื่อง สีผึ้งที่หลวงปู่ทำเองคงมีและคงนานมาแล้วผมมาไม่ทันหรอกครับ น่าจะยุคแรกๆ ตอนท่านมาอยู่แถวนี้ใหม่ๆ ท่านมาอยู่วัด ใต้ของวัดใหม่ฯ ถ้าผมจำไม่ผิดชื่อวัดสำโรงก่อน ก่อนจะย้ายมาที่วัดใหม่ฯนี้

ตอนผมมาท่านก็มีแจกแล้ว ท่านที่ทำแจกหลักๆที่ผมเห็นก็มี พี่จ่าทหารอากาศคนหนึ่ง ( ทราบว่าเสียชีวิตไปแล้ว ) ท่านนี้ทำสีผึ้งและผ้ายันต์มาเยอะ อีกท่านคือเสี่ย ธ คนเก่งนี่เอง ส่วนหลวงปู่ท่านทำไม่ไหวแล้ว เลยเสกและแจกอย่างเดียว

พอหลังๆ ผมเห็นเสี่ย ธ ทำมา บางทีไม่ทันแจก ของท่านหมด ผมเลยไปซื้อสีผึ้งสำเร็จมา เป็นสีผึ้งชาววัง ตำหรับแม่ละเมียด ( ถ้าจำไม่ผิด ) ขายเป็นกิโลใส่กระป๋อง กิโลล่ะ 8-900 บาทถ้าจำไม่ผิด ซื้อตลับมาแยกใส่ หนึ่งกิโลใส่ได้ประมาณ 2-300 ตลับ เป็นสีผึ้งคนรุ่นเก่าทำ สีน้ำตาล ใส หุงจนสีผึ้งสุก ไม่ขุ่น ( เขามีวิชา มีสูตรเป็นความลับ ) เหนียว แม้จะสิบกว่าปีผ่านไป ส่วนกลิ่นจะหอมแบบโบราณ คุณภาพสูงมาก หลวงปู่พอเห็นชอบอกชอบใจมาก เอาสีปากท่านทันที และเรียกของท่านเองว่า สีผึ้งชาววัง ผมซื้อมาสัก สอง สามครั้ง คนชอบมาขอหลวงปู่ หมดไปอย่างรวดเร็ว และราคาแพงมาก ซื้อมาแจกบ่อยๆสงสัย จะไม่มีค่าน้ำมันรถวิ่งมาวัด เลยไปจีบวิชาทำสีผึ้งเสี่ย ธ เขาก็ให้มา

ตั้งแต่นั้นมา ผมก็หุงเอง เอาไปหุงที่วัดบ้าง แต่ส่วนใหญ่ทำที่บ้านตอนว่างๆ เอาเป็นตลับมาถวายหลวงปู่ ทำได้ ครั้งล่ะ สองร้อย หรือ สี่ ถึง ห้าร้อยตลับ บวกกับเจ้าประจำ พอะมีแจกบ้าง หลวงปู่แจกแหลกทำมากันหลายปี น่าจะหลายพันตลับ ดีไม่ดีเป็นหมื่นๆ แต่...บัดนี้จะหาดูถ้าจะยังยาก น่าแปลกใจ

ต่อมา ผมเคยคิดจะทำตลับเอง มีรูปหลวงปู่อยู่หน้าตลับ ว่าจะ ว่าจะ ไม่ได้ทำสักที จนหลวงปู่ล่ะสังขาร หลังจากนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ใครอีก จนมาเจอหลวงพ่อทรง ทำให้สองครั้ง เพราะไม่ค่อยว่าง ( น่าเสียดาย ) และ พอมาเจอ หลวงพ่ออั้บก็ทำถวายท่านอีก ฟรีๆ เจตนาอยากให้ท่านแจกฟรี แต่ที่วัดจะไปทำอย่างไร ผมไม่ทราบ เรื่องเงินๆทองๆไม่ได้เกี่ยวกับผม หลวงพ่อท่านคงแจกไปแยะ ตอนทำ ว่าคาถาตอนกวนคาถาเดียวกับทำน้ำมันงา

น้ำมันงาของหลวงปู่เป็นอีกอันที่เด็ดขาดมาก จะเล่าทีหลัง ท่านให้คาถาผมมาหลังจากครอบครู ผมใช้คาถานี้มาจนถึง วินาทีนี้

ตกลงผมก็ทำสีผึ้งถวายท่าน ช่วยกันมีหลายสาย ที่ซื้อสำเร็จจากพยุหะมาก็มี พวก ตลับแดงๆ ฝาใสๆ มีปลาตะเพียน สาริกาใส่มา ก็มีน่ะครับ เลยจะบอกว่าดูยาก แยกยาก ไม่รู้จะดูอย่างไร ต้องดูที่มาที่ไปอย่างเดียว




สีผึ้งชาววัง จะเห็นรอยจาร นะ หน้าทองของหลวงปู่บนหน้าสีผึ้ง ท่านจารเบาๆ เพราะแก่มากแล้ว ผมเก็บอนุรักษ์ไว้ด้วยความเคารพ จะเห็นว่าน สาวหลงท่อนใหญ่ใส่ไว้เป็นเชื้อ หลวงปู่ชอบว่านสาวหลงมากครับ ฟังชื่อแล้วท่านเดาสรรพคุณเอาเองน่ะครับ





สีผึ้งเสี่ย ธ ทำมา มีนางกวักด้วย อาจารย์ ธ จารฝาตลับมาให้เสร็จ...แหะๆ





อันนี้ผมทำเอง มีว่านสาวหลง และสิงห์งาแกะจากพยุหะ สิงห์นี้เข้าพิธี บนแพโบสถ์น้ำ ผมซื้อมา สองร้อยตัว พอหลังพิธี แจกเขาไปเยอะเหมือนกัน น่าจะกว่าครึ่ง คือ ร้อยกว่าตัว นอกนั้น เอามาใส่ตลับสีผึ้งที่ทำ แจกเขาไปบ้างเหมือนกัน จำไม่ได้ว่ามีกี่คนใครบ้าง พ.ศ.นี้ เหลือน้อย เอามาโชว์เฉยๆ กรุณาอย่าขอมา...แหะๆ





อันนี้ก็เสี่ย ธ ทำมา หนักสีผึ้งหน่อย ชุดแบบนี้มีแจกเยอะ ผมทำมาบางทีก็สีเดียวกัน ไม่ได้ใส่อะไรเหมือนกัน คงแยกยาก ตลับนี้เลยยกเครดิตให้เสี่ย ธ เขา...แหะๆ





ตลับนี้ใช้น้ำมันมะพร้าว พี่จ่า ทหารอากาศจากตาคลีทำมา ท่านผู้นี้ทำของมาถวายหลวงปู่เยอะมาก เจอบ่อยๆ มาทีไรเจอทุกที ตอนเสาร์อาทิตย์

รายได้รายการนี้ทุกบาท เข้ากองทุนต่อยอดพันบุญ ทำบุญ ทาน ต่อไปเรื่อยๆ

 

รายการที่ ๑๐ วัวธนู รุ่นแรก หลวงปู่ครูบาแก้ว วัดดอยแก้วเทพเนรมิต จ.ตาก....เปิดราคาที่ ๑ บาท

หล่อวัวสัมริด ๕๐๐ ตน



ตัวต้นแบบ พี่ทองแดง แบบไม่ขัดผิว เป็นตัวต้นแบบ ช่างเดียวกัน เอาวัวธนูของหลวงปู่ คำแสนที่ผมมีไปถอดแบบ



พี่เติมทอง ตนนี้ผม ทาสีทองแยกไว้ เอาไว้ใช้เองครับ เสกมาพร้อมกันน่ะครับ ไม่มีอะไรพิเศษ นอกจากสีทอง



พี่ทองแดง แบบขัดผิว

เทมา ๕๐๐ ตัวแล้วนำไปขอความเมตตา หลวงปู่ครูบาแก้ว ท่านลงให้ ท่านหวงน่ะครับวิชานี้ บอกว่า เขาจะจำหน้าคนไม่ค่อยได้ ดุนั่นเอง สายเหนือ มีวิชาวัวธนู เด็ดขาดน่ะครับ ที่ทำแล้ว ดังมีหลายหลวงพ่อ สายเดียวกัน เช่นของ หลวงปู่ คำแสน ( เล็ก ) วัดศรีดอนมูล หลวงปู่ เมือง วัดท่าแหน ของอาจารย์เณร วิเศษณ์ สิงห์คำ อันนี้แบบที่ทำเยอะหน่อย และ ราคาแพง หลักหมื่นๆก็มี ยังมีแบบทำให้เฉพาะกัน สายนี้ น่าจะมาจากสายไทยใหญ่ เก่งทางด้านนี้ มีวิชาอาคม เป็น วิชาโอท็อบของสายเหนือครับ เหมือน อิ้น ใช้คุ้มตัว เวลาเดินป่า เดินทาง กันพวกอาถรรพ์ สัตว์ร้าย สิ่งไม่ดี ทั้งที่มองเห็นและ ไม่เห็น

ประวัติของหลวงปู่ ครูบาแก้ว ผมทราบไม่มากนัก ท่านไม่ค่อยพูด แต่ท่านเป็นพระป่า ธรรมยุต เคร่งมาก เป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อ บุญจันทร์ วัดถ้ำผาผึ้ง อ. ฝาง หลวงปู่ครูบาแก้ว สมัยยังไม่บวช มีอาชีพ ชนวัวและ เก่งทางคาถาอาคมแบบวิชาอาถรรพ์ เป็นคน แม่อาย ( ไทยใหญ่ ) พอมาบวช ท่านทิ้งทางโลกอันวุ่นวายนั้น จนมาสร้างวัดบนภูเขาได้ ที่จังหวัดตาก มีคนพื้นที่ นับถือท่านมากน่ะครับ ท่านมีบารมีสูงมากน่ะครับ

แต่ขอเอาพี่ทองแดงมารวม รุ่นที่นี่ เพราะมีกำเหนิดมาจาก แหล่งเดียวกัน แต่ทองที่เท เป็นทองใหม่น่ะครับ ผมไม่เอาทองชนวนพระ ที่เท พระพุทธ พระสงฆ์ มาเทหล่อเครื่องรางเด็ดขาด ถ้าผมทราบ ชนวนพระมา ผมไม่เอาด้วยครับ แต่ถ้าไม่ทราบก็จนใจ เพราะช่างเขา มักจะประหยัดราคาเอาทองเหลือๆมาเทให้เรา

หลวงพ่อฤาษี และ หลวงปู่ อาจารย์ผม ท่านห้ามไว้ บอกไม่ดี เป็นการปรามาส พระรัตนตรัย ไม่ดีกับตัวที่เอาเนื้อพระพุทธ พระสงฆ์ มาเท เครื่องราง แบบ กุมาร รักยม แหวน วัวธนู เสือ ปลัดขิกฯลฯ ที่ต่ำกว่าพระ แต่กลับกัน ถ้าสูงขึ้นไป เอาพวก เสือ แหวน ฯลฯ ( ปลัดขิก อีเป๋อ คงไม่เหมาะ ) ไปเทพระได้น่ะรับ ได้อานิสงค์ แก่คนสร้าง คนเสกมาก่อนด้วยครับ

วัวนี้ พอหลังจากเสก แล้ว แทบไม่แจกใครน่ะครับ ง่ายๆคือไม่แจกดะ มีเหตุผลอยู่น่ะครับ ไม่ได้ทำขาย จะได้ขลังๆ ที่หลวงปู่ ครูบาท่านเมตตา

แต่ถ้ามีพี่น้องบ้านเหรียญบินฯ คนใด มีปัญหา ร้ายแรง ต้องร้ายแรงน่ะครับ กับสิ่งที่มองไม่เห็น หรือ ถูกคนรังแก ใช้สิ่งที่มองไม่เห็นมารังแกท่านหรือคนที่ท่านรัก ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร ติดต่อ พี เสาวภามีน่ะครับ ไม่คิดตังค์ ไม่มีเงื่อนไขทางการเงิน ช่วยเอากุศลครับ

แอดไลน์มาหาน่ะครับ 083 428 2111 : santipri แต่ต้องมีสัจจะน่ะครับและ ถูกรังแกจริงๆต้องรับปาก มาขอมั่วๆ หรือ จะเอาไปขายกิน แช่งผ่านพี่ทองแดงจริงๆด้วยครับ...แหะๆ

วัวนี้เท ๕๐๐ ตน แจกจ่ายกันไปในหมู่ศิษย์ สายวัดเงิน บางพรหม น่ะครับ และมีประสบการณ์ ฉกาจฉกรรจ์หลายอย่างเรื่องของที่มองไม่เห็นน่ะครับ.... เพียบ

แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2017



รายการนี้รายได้ทุกบาท จะอุทิศให้พี่ทองแดงและครูสายวัวธนูนี้ จะส่งไปทำบุญยังวัด ดอยแก้ว เทพ เนรมิต ทุกบาท ถ้าทันกฐิน ๖๒ ก็ดี แต่ถ้าไม่ ก็จะส่งไป ถ้าไม่ทันก็ร่วมบุญรายการอื่นให้วัดนี้ครับ

 

รายการที่ ๑๑ พระอุปคุตมหาเภระ รุ่นโภควหะ ......เปิดราคาที่ ๑ บาท



รุ่นนี้เจาะสองรู อุดผงอาถรรพ์ ผงวิเศษ ผงพุทธคุณ ฯลฯ อีกรูใส่ผง ปิดด้วยเทียนชัย ผงจากสายนี้ ของดีๆเพียบ มีเป็นสิบๆร้อยชนิด ลูกศิษย์ช่วยกันหามาแล้ว คัดสรรจากท่านพระครู ของท่านเองก็มีสะสมไว้ เอาแบบยอดๆทุกชนิด ยังมีผงลบเอง ผสมอีก หลายอย่างมาก ตามแนวโบราณคณาจาร์ เคร่งครัดใน ฤกษ์ ยาม สรพพคุณให้เกิดผง ตามฤกษ์ ยาม อักขร เลข ยันต์ ไม่มีซื้อผงเป็นถุงมาเสกเอา แค่ผงอย่างเดียวก็ติดตัวได้แล้ว ไม่มีมั่ว สรรหามา หายากๆทั้งสิ้น พกแต่ผงก็พอแล้ว

ชนวนโลหะก็โลหะอาถรรพ์เพียบ ผสม เท สะสม เสกมาหลายงาน

ทั้งโลหะและผงเป็นของดีในมาแต่ต้นตามแนวพระโบราณณาจารย์แบบเคร่งครัด ไม่ใช่ของโรงงานหล่อมาแล้ว เอาเข้าพิธีเสก จำหน่าย

พระอุปคุตมหาเถระ ปางนมัสการพระเจ้า ๕ พระองค์

พระอุปคุตมหาเถระ พระครูวิธานสุตสุนทร จัดสร้างในสมัยที่ท่านยังเป็นพระครูปลัด เมื่อปี 2558

พระอุปคุตมหาเถระ ปางนมัสการพระเจ้า ๕ พระองค์ รุ่น โภควหะ เพ็ญพุธ ๕๘ เนื้อเงิน พระครูปลัดมานิตย์ วัดเงินบางพรหม พระอารามหลวง .......พระอาจารย์ที่ผมเคารพ ...ไม่ต้องสอบถามมานะครับ ไม่มีแจกและจำหน่าย.... แค่เฉพาะลูกศิษย์ลูกหาก็เกลี้ยงแล้ว ต่างคนก็ต่างหวงครับพระอุปคุตมหาเถระ ปางนมัสการพระเจ้า ๕ พระองค์ รุ่น โภควหะ เพ็ญพุธ ปี ๒๕๕๘

พระครูปลัดมานิตย์ สุทธิญาโณ วัดรัษฎาธิษฐาน (วัดเงินบางพรหม) กทม.

จำนวนสร้าง 1. เนื้อเงิน สร้าง 59 องค์
2. เนื้อนวโลหะรวมชนวน (แก่เงิน) สร้าง 108 องค์
3. เนื้อทองชนวน สร้าง 1,000 องค์

ชนวนโลหะ สร้างจากชนวนศักดิ์สิทธิ์มากมาย เช่น

1. ชนวนเหรียญทำน้ำมนต์พระไภสัชคุรุ
2. ชนวนพระกริ่ง-ชัยวัฒน์ จันทสโร ลป.เล็ก วัดทำนบ อ่างทอง
3. ชนวนพระกริ่งบางพรหม
4. ชนวนหล่อพระพุทธชินราชวิรุฬโห บางพรหม
5. ชนวนรูปหล่อโบราณ ลป.เล็ก วัดทำนบ อ่างทอง
6. ชนวนแหวนนพสิทธิ์ฤทธิชัยมงคล และแหวนสัตตภุชงค์โพชฌงคปริตร
7. แผ่นยันต์ที่ ลพ.มานิตย์ วัดเงิน จารเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
8. แผ่นพระยันต์พระคณาจารย์ต่างๆ

ซึ่งชนวนต่างๆ เหล่านี้มีเนื้อเงินผสมอยู่รวมกันกว่า 2 กก. และตอนหลอมยังใส่เงินเพิ่มไปอีกครึ่งกก. ส่วนเนื้อทองผสมหล่อมาจากชนวนเทพระชินราชวิรุฬโห เนื้อทองผสม และผสมฆ้องสำริดโบราณเพิ่มเข้าไป

มวลสารที่อุดก้น 1. เนื้อเงินกับนวะ จะอุดชันโรงผสมผงมวลสาร
2. เนื้อทองผสมจะอุดเทียนพิธีวันเพ็ญ
3. เนื้อทองผสม ที่แจกวันไหว้ครู จะอุดแป้งเจิม

พิธีเททอง เมื่อวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม 2558

พิธีอธิษฐานจิตเดี่ยว โดย

1. พระอาจารย์มานิตย์ วัดเงิน กทม. ได้อธิษฐานจิตเป็นปฐมฤกษ์ในวันเพ็ญพุธ (ลอยกระทง) 19 พฤศจิกายน 2558 (ตรงกับวันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12) และเสกเดี่ยวเรื่อยมาจนถึงครั้งสุดท้ายในพิธีไหว้ครูของท่าน เมื่อวันเสาร์ที่ 9 เมษายน 2559

2. หลวงปู่เล็ก จันทสโร วัดทำนบ อ่างทอง

3. หลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ สมุทรสงคราม

4.หลวงปู่ครูบาแก้ว วัดดอยแก้วเทพเนรมิตร จ.ตาก

...............................................


พระอุปคุตมหาเภระ ปางนมัสการพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ รุ่นโภควหะ นี้เกิดจากความตั้งใจของท่านพระครูปลัดมานิตย์ วัดรัชฏาธิฐาน(วัดเงิน พระอารามหลวง) ที่จัดสร้างขึ้นเพื่อให้สาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย ได้นำไปบูชาเพื่อระลึกถึงความดี

โดย พระอุปคุตรุ่นนี้ประกอบพิธีบวงสรวงเป็นปฐมฤกษ์และอธิษฐานจิตเดี่ยวในวันเพ็ญพุธ(เป็งปุ๊ด)เมื่อปี2558 ที่กุฏิท่านพระครูปลัดมานิตย์ วัดรัชฎาธิษฐาน(วัดเงิน บางพรม) ทั้งนี้การอธิฐานเชิญบารมีพระอุปคุตมหาเถระ ในวันเพ็ญ ปี 2558 ซึ่งเป็นวันไหว้ครูประจำปีของท่านพระครู ผนวกกับเป็นวันที่ตรงกับตำราและทางสายวิชาของท่าน เพื่อยังให้เกิดประโยชน์แก่สาธุชนทั้งหลายที่ได้รับไปบูชาให้บังเกิด ความดี สิริมงคล โชคลาภ เมตตา มหานิยม ต่างๆ ตามแต่ผู้ได้ครอบครองจะอธิฐาน

จากนั้นได้นำไปกราบขอความเมตตาอธิษฐานจิตเดี่ยวจาก
พระเดชพระคุณหลวงปู่เล็ก วัดทำนบ
พระเดชพระคุณหลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ
พระเดชพระคุณหลวงปู่ครูบาแก้ว วัดดอยแก้วเทพเนรมิตร

รูปพิธีอธิฐานจิต ตลอดจนชนวนในการจัดสร้าง



รายการนี้ทุกบาท เข้ากองทุนพันบุญ จะออกพรรษามีไหว้ครูก็จะเอาไปร่วมทำบุญไหว้ครูครับ ถ้าไม่ทันก็สำรองจ่ายไปก่อน เราจะร่วมทุกไหว้ครูและ กองบุญกับท่านพระครูน่ะครับ

คนเรียนด้านไสยศาสตร์ ควรเรียนสายพระอุปคุต และบูชาพระอุปคุตเถระน่ะครับ สายหลวงพ่อจงก็ บูชาสายนี้ครับ

 

รายการ วัวธนู สามรายการ ท่านที่ได้ไป ผมจะแนะนำเคล็ด หลังไมค์ ถึงวิธีที่ผมใช้บูชาน่ะครับ

 

ประมูลรายการที่ 1 1,000
รายการที่ 9 2,000 ครับ

 

ประมูล รายการที่ ๓ 1000 บาท

 

กราบโมทนาด้วยครับ สำหรับท่านที่ตัดริบบิ้น ผมทำตารางให้พรุ่งนี้น่ะครับ

 

รายการที่ 3 ตะโพน 1,500 ครับ