นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (แหวนปฐพีไร้พ่าย)

จากวันนั้นถึงวันนี้คงจะเห็นแล้วนะครับว่าเป็นจริงไหม การเปลี่ยนแปลง (ในทางไม่ดีเกิดขึ้นมาทีละอย่าง ๆ )

จากที่ ผู้เล่าประสบการณ์ชุดพลิกฟ้า อาจด้วยอานุภาพการจุดเทียนด้วย ก็ส่งผลดีแบบคาดไม่ถึง แต่ก็ช่วยได้เฉพาะผู้บูชาและในครอบครัวเท่านั้นครับ ตามแต่รัศมีพระจะกระจายไปถึง

 

การเบิกเนตรเปิดทิพย์จักษุญาณ

โดยปกติเราได้พระพุทธรูป หากไม่ใช่เอามาจากวัด หรือไม่ผ่านพิธีใด ๆ ก็เชื่อกันว่าต้องไปขอให้พระหรือครูบาอาจารย์เบิกเนตรให้

จริงๆ เรื่องนี้หากเป็นในทางพุทธแท้ อย่างหลวงปู่เหิร ยิ่งเทศน์สอนเลยว่าไม่มีใครเบิกเนตรพระพุทธได้ ท่านตรัสรู้แล้ว แต่หากมองลึก ๆ ท่านจะสอนอีก นั่นไม่ใช่พระพุทธเจ้าเป็นแค่ตัวแทนของพระพุทธเจ้า

ตัวผมเอง เห็นการเบิกเนตรครั้งแรก ก็ตอนหาพระพุทธรูปร้านสังฆภัณฑ์นั่นละครับไปถวายหลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน อยุธยา ซึ่งท่านก็เมตตาเบิกเนตรให้ด้วยการนำนิ้วมือท่านละครับไปปิดตรงดวงตาพระพุทธรูปแล้วอธิษฐานเปิดให้ แล้วยกพระพุทธรูปที่ผมถวายมอบให้ผมกลับมา ผมก็นำไปถวายวัดต่อ

ต่อมาตอนผมบวชเป็นพระภิกษุ ที่วัดอาจารย์ผม ก็ได้เห็นการเบิกเนตรอีก ก็เป็นการเจิมพระนั่นละครับ

ทีนี้ต่อมาได้มีโอกาสไปสร้างไม้ขนุนถวายวัดหมูเปิ้ง และได้มอบถวายตามวัดวาอารม ครูบาอาจารย์หลายท่าน ก็ได้รับความเชื่อ หลักการในการถวายพระพุทธรูปมากขึ้น

ทีนี้เราไม่พูดถึงหลักการพุทธแท้นะครับ เพราะอ้างอิงแบบหลวงปู่เหิรสอนเลยว่า สมัยพุทธกาลไม่มีสร้างพระพุทธรูป

มาพูดถึงหลักความเชื่อกันดีกว่า พระพุทธรูป เชื่อกันว่าถ้าได้ร่วมสร้างหรือสร้างถวายได้อานิสงส์มาก เรียกว่าสะเดาะเคราะห์กันได้เลย นี่คือความเชื่อ แต่ในทางความจริงจากที่ผมสัมผัสมา ก็สามารถบรรเทากรรมได้จริง ๆ เรียกว่าคนป่วยได้ถวายอาการมักดีขึ้น แบบทันตา เห็นได้จากตอนพ่อผมป่วย ผมก็รีบจัดแบบปิดทองสวย ๆ ใหญ่ ๆ ให้พ่ออธิษฐานแล้วยกมาถวายหลวงปู่เหิรท่าน ให้ท่านส่งให้เจ้ากรรมนายเวร ก็อาการดีขึ้นแบบทันตาจริง ๆ แต่ไม่หายหรอกครับ ปัจจุบันเสียไปหลายปีแล้ว เพราะเป็นวาระกรรมหนักจริง ๆ หลวงปู่ท่านบอกแล้ว

ทีนี้ มาพูดถึงการเบิกเนตรพระแบบทางเหนือ ซึ่งผมได้เห็นก็เป็นประเพณีที่แปลกจึงจะนำมาเล่ากันฟัง เพราะผมต้องไปเกี่ยวข้องเร็ว ๆ นี้ 55

 

วัตถุมงคลทุกรุ่นไม่กลัวหรอกครับว่าขลังไม่จริงหรือขลังน้อย กลัวแต่บูชาไม่ถูกหลักกันมากกว่าและนำไปเก็บใส่ถุงใส่กล่อง

เมื่อศรัทธานำไปอาราธนาบูชาย่อมเกิดผลแน่นอนแล้วจะมาร่วมกุศลกันเอง

 

สาธุ

 

วันนี้ได้มีโอกาสสนทนากับที่ปรึกษา เพื่อเตรียมงานเบิกเนตรหรือเปิดทิพยจักษุญาณในวันพรุ่งนี้

ช่วงนึงท่านเล่าให้ฟัง ชุดพลิกฟ้าท่านหวงมาก ๆ ชุดที่ถวายให้ท่านมอบให้โยมน้องท่านเท่านั้นนอกนั้นไม่แจกใครเลย

และโยมพ่อท่านได้ตะกรุดไป แน่นอนถูกหวยติดกันเลยครับ

สิ่งสำคัญมิได้มาโฆษณาอะไรเพราะหมดเกลี้ยงแล้วชุดนี้ เรื่องกระแสพลังท่านยอมรับว่าลึกล้ำสุด ๆ กว่าจะมีโอกาสเวลาดูสัมผัสก็นานมาก

ได้สนทนาถึงครูบาไชย ท่านเล่าให้ฟังตลก ๆ

ไม่นานนี้ท่านได้ไปช่วยงานครูบาไชยและได้สนทนากัน 2 ต่อ 2 ในระหว่างนั้นมีข้อความมาแซวครูบาไชยว่า ตอนนี้อากาศร้อนมาก ๆ เก่งอาคมไม่ใช่เหรอทำให้ฝนตกหน่อยสิ

ครูบาไชย พูดกับที่ปรึกษา "กลัวจะไปตกงานเขานะสิ"

โดยเจ้าของข้อความเป็นพรรคพวกที่ปกติไม่ถูกกะครูบาไชยอยู่แล้ว

วันต่อมา ปรากฎว่าฝนตกถล่มแบบไม่มีเค้ามาก่อน ถล่มสถานที่ในงานของเจ้าของข้อความแบบ เละเลย

ที่ปรึกษาไปถามครูบา ท่านตอบ "เป็นเรื่องของดินฟ้าอากาศ "

สุดท้ายเจ้าของข้อความแซวครูบาไชย ก็ลบข้อความเลย 555 แบบจ๋อยไปอีกนาน

เป็นข้อความอะไรขอไม่บอกครับเดี๋ยวหัวหน้าเซลแมนหูกะดิกอีก 55

555 ตามนั้นครับ สถานที่ครูบาอยู่ก็ป่าจริง ๆ ยุงป่าเพียบไม่ได้ป่าแบบหัวหน้าเซลแมนชอบมาโว พระในป่า ที่ปรึกษาเคยไปนอนค้าง 2 คืนปรากฎว่า เสียงเดิน เสียงอะไรต่าง ๆ เพียบ แทบไม่ได้นอนเลย

ว่ากันว่ามีคนมาขโมยระฆัง สุดท้ายไม่กี่วันต้องรีบเอาระฆังมาคืน เพราะครูบาบอกไว้ "สถานที่นี้ ถ้าไม่อนุญาตใครก็ขโมยของไปไม่ได้"


ผงในภาพ ครูบาได้มอบให้ผมไว้ เพราะกำชับ "อย่าให้คนไม่ดีได้ไป"

ซึ่งก็นำมาผสมในชุดพลิกฟ้าเหลืออยู่ไม่มากตามที่เห็นครับ....และผ่านพิธีมาแล้ว (จริง ๆ ก็เยอะกว่านี้นะแต่ผมใส่ถ่ายรูปให้สวย ๆ ตามภาพ 55)

 

ได้สนทนาไปมาสุดท้ายคุยถึงเรื่องวัตถุมงคลที่สร้างได้ยากที่สุดและปวดหัวมากที่สุดคือ..... มีดหมอ




ปัจจุบันผมเหลือติดกายเล่มเดียวตามภาพ และได้นำมาใช้งานบ่อยในหลาย ๆ งาน

สมัยก่อนผมพลาดท่าให้หัวหน้าเซลแมนไปก่อนเจอฤทธิ์เซลแมนจนเสียดายมาจนทุกวันนี้ ทุกวันนี้พยายามแก้นิสัยนี้อยู่ครับ 55

กริชในภาพใช้มาหลายสถานการณ์มาก ๆ เรียกว่าแกว่งทำน้ำมนต์ให้ตัวเองกินก็หลายยก อาบมาก็หลายกะละมังแล้ว 55

การสร้างมีดหมอกริช หากย้อนกะทู้ไปคงจะได้ทราบหลาย ๆ ปัญหาจากประสบการณ์ที่เสียท่าเช่าหามามาก สุดท้ายพอใช้งานจริงก็ต้องมาเจ็บใจเสียดายเงินเช่ามา

กริชในภาพหลายท่านเคยบูชาจากผมไปก็คงทราบราคาดี ขนาดราคาทุนล้วน ๆ ก็จัดว่าแพงกว่าพระผงหลายเท่านัก เพราะต้นทุนสูงจริง ๆ

สมัยก่อนเล่าง่ายๆ ผมเคยซื้อสังขวานร ขนาดข้อนิ้วก้อยนี่ละครับ แต่เป็นของพระธาตุเก่าแก่ มาผสมหล่อพระกริ่งปรากฎว่า ราคาหลักพันเลย เรียกว่าน้ำตาแทบเล็ด

แต่ ..... นำไปให้หลวงปู่เหิรตรวจ โคตรคุ้มเลยครับท่านบอกแรงมาก ๆ พร้อมอธิษฐานกำชับให้ผม...ไปใส่เบ้าหลอมด้วยตนเอง

ต่อมาเคยซื้อ สังขวานรเก่า ที่นักค้นหาของเก่าใช้เครื่องตรวจจับโลหะ ก็เหล็กประมาณนิ้วชี้นี่ละครับ 3-4 อัน ปรากฎว่าเล่นเอาเกือบหมื่น แพงแต่คุ้มมาก หลวงปู่เหิรตรวจสอบแล้วแรงจริง ขลัง และนำมาใช้ในการตีมีดกริชรุ่นดังกล่าวแบบเพียวๆ

หลายที่ผมเห็น โชว์มวลสารตีมีดไม่กี่อัน ชนวนนะไม่กี่ชิ้นแต่ตีมีดให้บูชาเป็น 100 เล่ม ยังสงสัยไปผสมกันยังไงหว่า

เพราะถ้าเคยเห็นช่างตีมีดทำงานจริงๆ จะทราบครับ หากช่างไม่มาหลอกต้มเรา ว่า เหล็กนะไม่เหมือนทองเหลืองทองแดงนะ ที่จะใส่เบ้าหลอมเป็นน้ำผสมได้เหมือนหล่อพระ

เหล็กก็คือเหล็ก มาตีแต่ละทีไม่ใช่ที 2 ทีจบ กว่าจะตีผสานได้ ที่สำคัญ เหล็กน้ำพี้ ผสมกับเหล็กปกติยาก เพราะคนละชนิด มันต้องมีสูตรลับเฉพาะ สัดส่วนต่าง ๆ ดังกล่าวไปแล้วในภาคมีดหมอ....

ยิ่งปัจจุบันเหล็กน้ำพี้แท้ ๆ หากยาก มีปลอมครับ หรือผสม ในช่วงที่ผมหาดาบน้ำพี้ตามหลวงปู่ประหยัดท่านชี้แนะให้สร้างดาบประจำตัวมา... ดังจะเล่าในบทต่อ ๆ ไป...

 

การสั่งซื้อโลหะอาถรรพ์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย มีทั้งย้อมแมวขายและกว่าจะตัดสินใจเอาแต่ละอย่างเรียกว่า ส่งภาพให้ผู้ชำนาญการตรวจพลังกันตาแทบหลุด 55

เหล็กสนิมเขรอะ แล้วมาฝอยว่าสังขวานรเก่าแก่ อย่าคิดว่าแท้ดีเสมอไปนะครับ ดูยากกว่าพระเครื่องอีก

การดูภาพขนาดระดับครูบาอาจารย์ยังว่าดูยาก ต้องสมาธิจิตดี ๆ พลาดท่าไปจะมาบอกไม่ขลังขอคืนคงไม่ได้แล้ว

โลหะอาถรรพ์แต่ละอย่าง ไม่นับผีสิง วิญญาณตาม ที่ปวดหัวสุดคือของเก๊นี่ละครับ กับขลังไม่จริง

โลหะบางอย่างเก่าจริงแต่อย่าคิดว่าพลังจะดีเสมอไป...

อย่างเรื่องเหล็กน้ำพี้ ที่สมัยก่อนหามาตีดาบตามหลวงปู่ประหยัดท่านสั่ง ก็นับว่าเป็นเรื่องราวยาวนานพอสมควรครับ ไว้ผมจะเล่าให้ฟังสนุก ๆ

 

มีดหมอกรีซแบบด้ามไม้ครับ ของส่วนตัวไว้ทำน้ำมนต์เช่นกันครับ

 

สุดจัดปลัดบอก มีไม่กี่ด้ามในโลก 55 หนักจนพกพาใช้งานยาก

 

ในสายหลวงปู่โน ซึ่งหลายคนอาจเคยโดนดาบแทงมาแล้ว 55

การรักษาโรคประหลาด หรือพูดแบบชาวบ้าน ๆ ก็คุณไสยละครับ ต้องทำคายเต็มสูตรแบบนั้น ผู้ทำคือหมอธรรม

คาย ... เป็นภาษาอีสานหมายถึงเครื่องบูชาครู

หมอธรรม... เป็นภาษาอีสานหมายถึงผู้รักษาคนแบบใช้วิชาอาคมรึ สมุนไพร

แน่นอน พิธีใหญ่ต้องตามภาพครับ ในภาพมีดาบเก่าแก่ที่หลวงปู่โน เคยใช้สมัยเป็นฆราวาสด้วย

ในบรรดา ดาบทำพิธีทั้งหมด หลวงปู่ประหยัดจะมีดาบประจำกายท่านที่สั่งทำสมัยเป็นฆราวาส แล้วท่านผ่านไปแถวอุตรดิตถ์ เลยสั่งช่างตีขึ้นมา คือ ดาบเหล็กน้ำพี้แท้

ปัจจุบันอย่าคิดว่าของแท้หาง่ายนะครับ สมัยก่อน เสี่ย ว. เคยเล่า หัวหน้าเซลแมนทำคึกจะสั่งช่างตีมีดน้ำพี้ประจำสำนักเซลแมนของเขา ทำมาโม้ได้ช่างดีชื่อเสียงดัง เสี่ย ว. ก็แสบใช่ย่อยสมเป็นอดีตหน่วยข่าวกรอง ก็ดันรู้มากว่าช่างที่หัวหน้าเซลแมนจะไปจ้างว่าช่างดัง ดันมีประวัติไม่สะอาด 555 เอาเหล็กผสมพูดง่ายๆ ย้อมแมวละครับ

เหล็กน้ำพี้แท้ๆ ปัจจุบันหายากแล้วสมัยก่อน หลายคนนำดาบน้ำพี้มาให้หลวงปู่ประหยัดดู ท่านลูบปุ๊ปรู้เลย แท้ รึผสม ...

หลักการเรื่องเหล็กน้ำพี้ขอไม่เปิดเผยครับ เดี๋ยวหัวหน้าเซลแมนซึ่งแสนรู้สุด ๆ จะมาจับหลักเอา

โดยสรุป การตีดาบของผม ย่อมไม่ใช่อยากเท่รึไปรบกะใคร แต่ไว้ใช้งานในสถานการณ์จริง

 

โดยส่วนตัวผมเคยทำพิธีใหญ่มาไม่กี่ครั้ง ตามเล่าทีปรึกษาฟังในวันนี้

ครั้งล่าสุดตอนไปดูบ้านให้เพื่อนละครับ ตอนหาปัจจัยเทคาน ทำพื้นพระธาตุ ได้ยอด 150,000 บาทภายใน 5 วันในกระทู้หน้าก่อน ๆบอกไว้ ซึ่งไม่อยากทำเพราะหลายๆ สาเหตุ

ในการทำพิธี ดาบในภาพหลังผ่านการเชิญครูบาอาจารย์หากนำไปจี้ร่างกายผู้ถูกคุณไสยจะร้อนเหมือนไฟ เหมือนเอาไฟจี้ละครับ ผมรู้ดีเพราะโดนมาแล้วหลายยก 55

ท่านกล่าวไว้เอง หากให้มีประสิทธิภาพสูงสุดต้อง สร้างจากเหล็กน้ำพี้ ผ่านพิธีโดยถูกต้อง เรียกว่าแรงกว่าเดิมหลายเท่านัก

 

การกำหนดขนาด ต่างๆ ก็ตามตำราที่กำหนดเช่นกันผมจำไม่ได้แล้วเท่าไร

...ในภาพเป็นดาบที่สั่งทำและผ่านพิธี และผ่านการรักษาคนมาโดยถูกต้อง

จารอักขระเป็นตัวธรรม (ภาษาขอมลาว) ครบถ้วน...

โดยสรุป แม้เราถือหลักแบบหนังจีน

กิ่งไม้หากอยู่ในมือปรมาจารย์กระบี่ย่อมฆ่าคนได้

รึกระบี่อยู่ที่ใจ แต่พวกเรายังไม่ใช่ปรมาจารย์ย่อมต้องหามวลสารที่ดีที่สุดอยู่ดี...

 

วันนี้อารมณ์ดี เพราะได้คุยกับที่ปรึกษาในศาสตร์ขาวดำ หรือเทา ๆ หลายๆ ศาสตร์ 555 ที่ปรึกษาบอกอย่าเรียกว่าศาสตร์มืด หรือสายมืดให้เรียกขาวดำ 55

สมัยก่อนผมเคยเปิดตัว เรื่องราวหลวงปู่โน หลวงปู่ประหยัดจนสร้างพระกริ่งรุ่นแรกไป 3 วันหมดได้ยอดปัจจัย 3 แสน แต่ผมได้ลบกระทู้ไปเพราะบางคนมันทำฤทธิ์ จึงลบเรื่องราวความรู้สายเทา ๆ หรือขาวดำ ไปจนเกลี้ยง

ความรู้แบบนี้เหมือนดาบ 2 คมละครับ ผมฟังจากหัวหน้าเซลแมนอยากหัวเราะก๊าก ซึ่งก็ทำได้แค่ฟังมันโม้ไปสนุก ๆ อย่าไปโม้ข่มเชียว เดี๋ยวเราเสียความรู้ดี ๆ แท้ ๆ ออกไป

โดยสรุป การตีมีดหมอ ที่เคยสร้างไปนับว่าปวดหัวสุด ๆ เพราะเราไม่ต้องการผสมแค่ชนวนทำ 100 เล่มเพื่อขายจนรวย เราจะเอาชนวนเพียว ๆ 90 % เป็นอย่างน้อย

ชนวนแต่ละอย่างย่อมมีสรรพคุณแตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญคือ ของเก่า ๆ มักมีอาถรรพ์ ไม่นับของเก๊นะครับ และมักไม่ค่อยหลุดมามาก ๆ ให้พอทำมีดเยอะหรอกครับ

ล่าสุด พรรคพวกที่ปรึกษา ก็ศิษย์ท่านละครับที่ติดทหารจนสึกไป สมัยก่อนก็ได้พบสังขวานรเก่าแก่ ก็หลายร้อยปี เลยนำมาใช้ไล่ผี รักษาคน แบบใช้เพียว ๆ ไม่ยอมเอาไปตีเป็นมีด ก็ได้ผลจนน่าตกใจ...


วันนี้อารมณ์ดี เพราะพรุ่งนี้มีงานสำคัญขอเล่าแค่นี้ละครับ อีกซักเดือนค่อยมาโพสต่อ 55

 

อุปกรณ์เปิดทิพยจักษุญาณ เทียน 12 เล่ม สั่งตรงจากลำพูนครับ

 

วันนี้คุยกับที่ปรึกษา หลวงปู่ประหยัดท่านละสังขารเร็วไป ปัจจุบันหาผู้ที่เจนจัดแบบท่านไม่ได้แล้ว

กลายเป็นยุคทองของหัวหน้าเซลแมนไปแล้วครับ ให้มันกร่างอหังการไป ถ้าคนเคยเห็นหน้าดูคนเป็นต้องร้องเลยว่าหน้าตาบอกยี่ห้อจริง ๆ ท่าน QC ได้ยินแค่เสียงยังเอือระอาเลยครับ ขนาดเสี่ย ว. บอกให้โทหาเซลแมนทำท่ายังกะจะให้ไปตาย บอกไม่เอาอะ เจ็บหู 55

หลายๆ เคส หลายๆ แบบ ที่ปรึกษาเล่า วิชาของครูบาข่ายและหลวงปู่โน มีความคล้ายคลึงกันหลายอย่าง

ซึ่งเรื่องแนวนี้จะไม่ลงลึกครับ แต่สาระสำคัญผู้ติดตามมาคงทราบ เราสร้างตามศาสตร์จริง ๆ เรียกว่าเราเองยังต้องห้อย พกพาของที่เราสร้าง เพราะใช้ได้จริงในสถานการณ์ต่าง ๆ

 

สาธุ

 

เรียบร้อยแล้วครับการเปิดทิพยจักษุญาณ พระโพธิสัตว์ (ในภาพเจ้าชายสิทธัตถะ ขณะปลงผม ออกผนวช)

จึงถือว่าเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ขณะนั้น

 

เรื่องเล่า ตำนานพระอุปคุต....

จากการสันนิษฐานตามตำนาน พระเถระอุปคุต น่าจะเป็นชาวเมืองปาตลีบุตร เมื่อบวชแล้วบำเพ็ญเพียร จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ขีณาสพ สำเร็จอภิญญาต่างๆ จนสามารถแสดงอภินิหาร เป็นที่เล่าลือมาจนทุกวันนี้ มีปฏิปทาดำเนินไปในทางสันโดษ มักน้อย นัยว่าท่านเนรมิตเรือนแก้ว (กุฏิแก้ว) ขึ้นในท้องทะเลหลวง (สะดือทะเล) แล้วก็ลงไปอยู่ประจำ ที่กุฏิแก้วตลอดเวลา เมื่อมีเหตุเภทภัยเกิดขึ้นในพระศาสนา หรือเมื่อมีพิธีกรรมใหญ่ๆ หรือมีผู้นิมนต์ ท่านก็จะขึ้นมาช่วยเหลือ ด้วยความเต็มใจเสมอ

สรุปรวมความได้ว่า ท่านเป็นพระเถระสำคัญองค์หนึ่ง ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช (ผู้นำกองทัพธรรมแผ่กระจายไปทั่วโลก) เป็นพระเถระผู้เปี่ยมด้วยพุทธานุภาพ และฤทธิ์เดชเกรียงไกร สามารถปราบพญามารและกำจัดสิ่งชั่วร้าย ที่จะมาทำลายพิธีกรรมใหญ่ ๆ มาแต่ครั้งโบราณ

อ้างอิง
https://phuketindex.com/travel/photo-stories/other/buddha-oppakut/



เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักพระอุปคุตกันดี ตามตำนานที่ท่านปราบพญามารที่มารังควานในยุคพระเจ้าอโศกมหาราช

ปัจจุบันมีการสร้างพระเครื่องพระอุปคุตกันมาหลายที่ ผมเองก็เคยเช่ามาหลายที่ครับ อยากได้พลังฤทธิ์ หรือโชคลาภตามตำนานที่เขาว่ามา พระบัวเข็มก็เคยเช่าหามาครับ 55

พระบัวเข็มตอนแรกเข้าใจว่าคือพระอุปคุต แต่มาทราบทีหลังว่าไม่ใช่ ก็งง เคยถามที่ปรึกษาก็ว่าแล้วแต่ตำนานกันอีก

ทีนี้ ในสายหลวงปู่โน อาจารย์ของผมท่านเกี่ยวข้องด้วยในคาถาที่ได้สอนมา มีคาถาอยู่บทหนึ่ง ใช้คาถาพระอุปคุตผูกผี แล้วมีอีกคาถาใช้ปล่อย...

ปัญหาคาถาของหลวงปู่โน ย่อมไม่เหมือนใคร ไม่มีในตำราไหน ช่วงสมัยผมได้ศึกษากับหลวงปู่ประหยัดลูกชายหลวงปู่โน ก็ได้คาถาพระอุปคุตมาอีกหลายบท ที่ไม่มีในตำรา....

ต่อมา ได้ฟังจากที่ปรึกษา ในการจัดงานของวัดหมูเปิ้งแต่ละครั้งจะมีการตั้งหอพระอุปคุต... คืออัญเชิญญาณพระอุปคุตมาคุมงาน ขออำนาจของท่านให้ราบรื่น ไม่มีมารมาผจญ (อย่างมารผจญที่เคยเล่าก็แพ้ภัยไปแล้ว55)

หลังเสร็จงานก็ทำพิธีส่งพระอุปคุต (ส่งท่านกลับสะดือทะเล) ที่ปรึกษาเล่า หลังส่งท่านกลับนั่นละ อุปสรรคมาเลยเช่นฝนตก 555 ก่อนหน้านั้นไม่ตก...

 

มีบางท่านอาจสงสัยจะมีโครงการอะไรต่อไป สไตล์ผมก็เกริ่น ๆ ไว้ก่อนครับ มีครับมีแน่แต่คงอีกนาน เป็นเดือน 2 เดือนละครับ... เป็นโครงการใหญ่ เตรียมงบไว้ได้เลยครับ เพราะใช้งบมหาศาล (สำหรับผม) ตอนนี้ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างอะไรเลยครับ แค่ดูลู่ทางไว้...

แต่อุบไว้ก่อนครับ เพราะกลัวมารผจญ 55 สิ่งสำคัญผมไม่ชอบกดดันตัวเอง เช่นมาเปิดจองนี่ก็กดดันพอแล้ว และสำคัญผมไม่เคยเก็บเงินค่าจองค่าอะไร เพราะจะได้เป็นตัวของตัวเองมาก ๆ จะเสร็จเมื่อไรก็แล้วแต่เวลาและโอกาส....

เราไม่รู้อนาคต นั่นคือสิ่งสำคัญ และผมอยากเก็บข้อมูล ให้งานทุกงานออกมาดีที่สุด และสิ่งสำคัญได้บุญที่ดีที่สุด สำคัญที่สุด

ล่าสุดผมมีกรรมที่ พบมาหลาย ๆ ปีจากมารผจญและสุขภาพ ผมก็ปรึกษาครูบาอาจารย์ และพยายามสร้างบุญกุศลสำคัญ ๆ มากมาย เช่นไถ่ชีวิตสัตว์จะถูกฆ่าทุกเดือน มีงานบุญแนวนี้ที่ไหนก็ฝากผู้อื่นทำ ร่วมทำ

สำคัญบุญค่ารักษาพยาบาล บุญโรงพยาบาล ซื้อยาหม่องแจก ถวายพระมาหลายปีมาก ๆ โรคกรรม โรคเรื้อรังก็บรรเทาพบผู้รักษาให้ 3 รอบก็เลยดีขึ้นมาก ๆ ไปไหนแทบไม่ปวดทรมาณแล้ว...

ส่วนมารผจญ ก็เจอการจัดหนักแพ้ภัยไป ก็ใช้ตะกรุดที่สร้างมาละครับ เจอปิดฉากแพ้ภัยไปเลย

เหล่านี้คือหลักบรรเทากรรม.... ไม่ใช่แก้กรรมนะครับ ศาสนาพุทธยึดถือว่า มงคลพุทธอยู่ที่การกระทำ มงคลพราหมณ์อยู่ที่พิธีกรรม เราก็เอาทุกทางครับ